Tag : คอนโด แนวรถไฟฟ้า MRT

2 ผลลัพธ์
a space I.D. Asoke-Ratchada คอนโดแนวคิดใหม่ ที่ให้คุณเป็นตัวเองได้มากกว่า : รีวิวคอนโด

a space I.D. Asoke-Ratchada คอนโดแนวคิดใหม่ ที่ให้คุณเป็นตัวเองได้มากกว่า : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปอัพเดทความคืบหน้าล่าสุดของคอนโดมิเนียมใกล้เขต New CBD ของกรุงเทพ ซึ่งเคยเปิดตัวกันไปอย่างฮือฮามากๆ กับระบบจอดรถอัจฉริยะที่ล้ำที่สุดแห่งยุค บอกแค่นี้หลายคนก็คงจะจำกันได้กับโครงการ a space I.D. อโศก-รัชดา คอนโดคุณภาพในเครือ Areeya Property นั่นเองครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,690,000 บาท เจ้าของโครงการ    Areeya Property PLC. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    2 - 1 - 83.7 ไร่ จำนวนห้อง     543 ยูนิต และ ร้านค้า 4 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 218 คัน หรือคิดเป็น 40% ที่ตั้งโครงการ    ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2559 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    450 บาท/ตารางเมตร   เรื่องทำเลที่ตั้งหลายคนคงจะรู้จัก และทราบกันดีอยู่แล้วว่า a space I.D. อโศก-รัชดา ตั้งอยู่ริมถนนอโศก-ดินแดงเลย ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 ไม่มากครับ ซึ่งพื้นที่บริเวณแยกพระราม 9 นี้เป็นทำเลที่มีศักยภาพน่าจับตามากแห่งหนึ่งในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ครับ เพราะเป็นทั้งแหล่งรวมธุรกิจที่สำคัญมากๆ ทั้งสำนักงานใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ (SET), AIA Capital Center, G Land Tower, True Tower, Cyber World Tower รวมถึงหน้าสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Central Plaza พระราม9, Fortune Town, Esplanade, ตลาดนัดรถไฟ,สถานฑูตจีน, ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานศึกษา และโรงพยาบาลอีกมากมายเลยทีเดียว แผนที่โครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ ในส่วนของทำเลที่ตั้งนั้นเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ a space I.D. ได้รับความสนใจและถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ในขณะที่คอนเซปต์การออกแบบของตัวโครงการเองก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยความที่นิยามให้เป็นคอนโดมินเนียมเจเนอเรชั่นใหม่ มีความล้ำนำสมัยและให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่แตกต่าง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน กับสเปซส่วนตัว เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อให้คุณเป็นตัวเองได้มากกว่า มากกว่าในด้านไหนบ้าง นี่เลยครับ พูดแค่นี้อาจจะยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนเท่าไหร่ใช่มั้ยครับ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปดูห้องจริง บรรยากาศจริงในโครงการ ซึ่งสร้างเสร็จเตรียมพร้อมเปิดรับลูกบ้านกันแล้ว เริ่มจากด้านหน้าอาคาร จะเป็น Facility หลักอย่างสระว่ายน้ำ พร้อมพื้นที่สีเขียวล้อมรอบ และเทอเรซพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ ส่วนภายในอาคารที่ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby และที่ทางเข้าที่จอดรถอัตโนมัติ Mechanical Parking ที่อยู่ด้านหลังอาคาร สระว่ายน้ำแบบ Freeform และ Jacuzzi ตั้งอยู่หน้าโครงการ Pool Seat และ Pool Bed บนเทอเรซพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ ระบบจอดรถอัตโนมัติ Mechanical Parking นำเข้าจากบริษัท IHI Transport Machinery ผู้นำนวัตกรรมด้านนี้ในประเทศญี่ปุ่น Exclusive Volume Space Lobby สูงถึง 7.65 เมตร ชั้นลอย A จะเป็นพื้นที่ของฟิตเนส พร้อมห้องน้ำ และห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้นลอย B จะเป็นพื้นที่ของห้องซักรีด พร้อมกับห้อง Stream และ Sauna แยกชาย-หญิง ส่วนพื้นที่ว่างๆ ที่เห็นด้านขวามือจะเป็นพื้นที่จอดรถอัตโนมัติ ภาพ Perspective แสดงให้เห็นพื้นที่บนชั้นลอย A-B ภาพฟิตเนสบนชั้นลอย A ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป แต่ชั้น 2 ของโครงการนี้น่าจะสูงประมาณชั้น 11 ถ้าเทียบกับโครงการทั่วๆ ไป เนื่องจากโครงการนับพื้นที่จอดรถอัตโนมัติตั้งแต่ด้านล่างขึ้นมาถึงประมาณชั้น 10 ให้เป็นชั้น 1 นอกจากด้านล่างแล้ว ยังมีพื้นที่สีเขียวด้านบนอาคารด้วยนะครับ ภายนอกอาคารนี่เรียกว่าเกือบจะสมบูรณ์ 100% แล้ว เหลือในส่วนของการเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อยเองครับ เช่นเดียวกับในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งสระว่ายน้ำแบบ Freeform สวนริมสระกับกรีนซ้อมพัตต์กอล์ฟ ห้องฟิสเนส ห้องสมุด ฯลฯ ในขณะที่ห้องชุดของคุณลูกค้าก็กำลังเก็บรายละเอียดเตรียมทยอยส่งมอบแล้วเช่นกันครับ ครั้งนี้เราจึงได้เห็นบรรยากาศจริงภายในอาคาร และห้องพักไปพร้อมๆ กันแบบไม่ต้องลุ้นไม่ต้องเดาอีกให้เสียเวลา ขึ้นมาถึงในโซนห้องพักของ a space I.D. ก็สะดุดกับบรรยากาศบริเวณโถงทางเดินหน้าห้องก่อนเลยครับ ผมเชื่อว่าแทบจะไม่มีคอนโดมิเนียมเจ้าไหนเลยมั้งที่ตั้งใจออกแบบให้โถงทางเดินมีบรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในสวนแบบนี้ หน้าห้องแต่ละห้องตกแต่งด้วยสวนแนวตั้ง ให้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันตา (ถึงแม้จะตกแต่งด้วยต้นไม้ประดิษฐ์แทนต้นไม้จริงเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลของนิติฯ ก็ตาม) ชานหน้าห้องก็เพิ่มประตูรั้วเล็กๆ แทรกด้วยกล่องรับจดหมาย ต่างจากโครงการอื่นๆ ที่จะรวมตู้จดหมายไว้ในห้องด้านล่างนะครับ ตรงจุดนี้จะให้บรรยากาศในการอยู่อาศัยเหมือนอยู่บ้านมาขึ้นด้วย อีกเรื่องหนึ่งที่เราสัมผัสได้เมื่อมาได้มาดูบนอาคารจริงก็คือ ตัวอาคารออกแบบมาให้อากาศถ่ายเทได้ดีมากๆ มีช่องลมเพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านได้สะดวก บริเวณโถงทางเดินหน้าห้องนี้ลมพัดดีจริงๆ ครับ ทั้งๆ ที่เรายืนอยู่ที่ชั้น 4 เอง ยังไม่ต้องขึ้นไปชั้นสูงๆ เลย ทีนี้มาดูภายในห้องจริงดีกว่าครับ ซึ่งทางโครงการได้ตกแต่งเอาไว้สวยงาม เพื่อที่ลูกบ้านจะได้มีไอเดียในการตกแต่งห้องตัวเอง หรือจะได้เห็นฟังก์ชั่นการใช้งานภายในห้องชัดเจนขึ้นด้วย เพราะห้องที่โครงการขายจริงจะเป็นแบบ Fully Fitted คือลูกค้าจะได้ Built in ตู้เสื้อผ้า ส่วนครัว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศ ห้องที่เราเลือกมาให้ชมกันมี 2 ห้องนะครับ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. ทั้ง 2 ห้องเลยครับ แต่มี Layout ที่ต่างกัน เพื่อความต่างของไลฟ์สไตล์แตกต่าง ห้องแรกมีชื่อว่า Idealist ตกแต่งมาในสไตล์หวานๆ ฟังก์ชั่นของห้องนี้ โดดเด่นด้วยการเลือกว่าตำแหน่งของห้องน้ำไว้ระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน เพิ่มความเป็นสัดส่วนในการใช้งาน เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ก็อาจจะมีเพื่อนๆ มาเยี่ยมที่ห้องบ่อย ห้องนี้จะช่วยแบ่งพื้นที่ห้องนอนให้เป็นสัดส่วนชัดเจนแยกออกจากห้องรับแขก ประตูห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง จากทั้งห้องนอนด้านใน และห้องรับแขกด้านหน้า เวลาต้อนรับแขกประตูกั้นบริเวณห้องน้ำนี่ช่วยได้เยอะเลยนะครับ ห้องน้ำก็เป็นสัดส่วน เข้าจากทางห้องรับแขกได้เลยด้วย อีกส่วนที่เป็นจุดเด่นของห้องนี้ก็คือ Pantry ครัวเปิดบริเวณโซนหน้าห้องครับ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเพิ่มมาให้ ช่วยทั้งเรื่องระบายกลิ่นจากการทำครัว และเพิ่มความโปร่งสบายตามากขึ้นอีกด้วย ไอเดียในห้องตัวอย่างนี้ช่วยให้เราเข้าใจฟังก์ชั่นของห้องได้ชัดเจนขึ้นเหมือนกันนะครับ ถึงจะไม่ได้แต่งห้องให้มุ้งมิ้งเท่าห้องตัวอย่าง แต่ก็สามารถนำไอเดียไปดัดแปลงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวได้ครับ แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร แปลนห้องแบบ 3 มิติ ช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นอีกหน่อย เริ่มจากตรงชานหน้าห้องกันเลยนะครับ มีตู้เล็กๆ สำหรับเก็บรองเท้าและเป็นที่นั่งใส่รองเท้าในตัว อีกด้านเป็นหน้าต่างจากห้องครัวออกมาด้านนอก เพื่อช่วยให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น ตรงนี้จะเป็นช่องลมสำหรับระบายอากาศอยู่หน้าหน้าต่าง ประตูที่ได้จะเป็นแบบ Digital Door Lock ของ Samsung เปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วจะเจอ Living Area อยู่ตรงหน้าเลยนะครับ แต่เราจะไปดูส่วนครัวที่อยู่ด้านขวามือกันก่อน ส่วนครัวจะเป็นแบบเปิดตั้งอยู่หน้าห้อง แต่มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศออกด้านนอก และมีช่องลมรับช่วงต่ออีกที สำหรับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นท็อปสีขาวของ Lixil แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น ด้านซ้ายมีเตาไฟฟ้า พร้อมฮูดควันของ Teka ด้านล่างเป็นที่วางเครื่องซักผ้า ส่วนด้านขวาที่ติดกับประตูห้องจะเป็นซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยม ของ American Standard คราวนี้หันกลับมาดูที่ Living Area โครงการตกแต่งเป็นโซฟา Built in ขนาด 3 ที่นั่ง ส่วนฝั่งชั้นวางทีวีก็ Built in มาอย่างสวยงาม ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาประมาณ 3.5 ม. ถือว่าห่างกันพอสมควรเลยนะครับ สามารถเลือกวางทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ ตู้เย็นๆ จะอยู่ฝั่งเดียวกับชั้นวางทีวี อยู่ติดกันเลยครับ ถัดจาก Living Area จะเป็นห้องน้ำที่ตั้งอยู่ก่อนถึงส่วนของห้องนอน สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard อย่างอ่างล้างหน้าทรงสีเหลี่ยมอันนี้ มีที่วางของรอบๆ อ่างให้ด้วย วัสดุ waterproof ครับ มาพร้อมกับกระจกเงาขนาดพอดีตัว โถสุขภัณฑ์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างหน้า ตรงกลางจะเป็น Shower Box ที่สามารถเข้าออกจากทางห้องนอนได้ด้วย สังเกตด้านบนจะมี Rain Shower แบบฝังฝ้าให้ด้วย คราวนี้เรามาดูที่ห้องนอนกันบ้าง อย่างที่บอกนะครับห้องนอนจะอยู่ด้านในสุด แยกออกมาอย่างเป็นสัดส่วน และมีความเป็นส่วนตัวทีเดียว ในห้องนอนโครงการวางเตียง 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งขนาด 5 ฟุตน่าจะเหมาะกับห้องนี้ที่สุด เพราะจะได้มีพื้นที่ข้างๆ เตียงเหลืออยู่นิดหน่อย ไม่ดูอึดอัดจนเกินไป ปลายเตียงตกแต่งเป็นเคาน์เตอร์ยาวสีชมพูหวานแหวว พร้อมตู้เก็บของกระจุกกระจิก ให้ดูเป็นไอเดีย เหมาะกับคุณผู้หญิงสุดๆ ทางเดินจากห้องนอนออกไปที่ Living Area จะเห็นตู้เสื้อผ้า Built in ของ Lixil วางอยู่หน้าห้องนอน ขนาดสูงจากพื้นจรดเพดาน หน้าบานเป็นแบบ Hi-gross ทางโครงการจัดมาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยนะครับ ข้างเตียงอีกด้านเป็นระเบียง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน คอมเพรสเซอร์แอร์จะตั้งอยู่ด้านนอกระเบียง วิวด้านถนนดินแดง ซึ่งก็คือฝั่งทิศใต้ของอาคาร มองออกไปเห็นสถานี Airport Link มักกะสัน ด้านล่างมองลงมาเป็นพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำ Free from ของโครงการ ทีนี้เรามาดูห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันบ้าง ห้องนี้มีชื่อว่า Identity ดีไซน์ตกแต่งแบบแมนๆ เข้มขรึมต่างจากห้องแรกไปโดยสิ้นเชิง อย่าลืมว่าขนาดห้องเท่ากันกับห้องก่อนหน้าเป๊ะเลยนะครับ แต่จะต่างกันที่ Layout ห้อง ซึ่งปรับเปลี่ยนตำแหน่งห้องน้ำให้มาอยู่ในโซนหน้าห้องใกล้ๆ กับ Pantry ครัว จัดให้โซนกลางห้องเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน และกั้นพื้นที่ห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ บรรยากาศของห้องนี้โดยรวมจะดูเชื่อมต่อถึงกันได้ดีนะครับ มีความโล่งโปร่งไปอีกแบบ เพราะถ้าเปิดประตูกระจกออกหมด เราก็จะรู้สึกว่าพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนกว้างมากขึ้น โดยภาพรวมแล้ว Layout ของห้องนี้อาจจะไม่ได้แปลกใหม่มาก และน่าจะเป็นแบบห้องที่เราเห็นกันมาจนชินตามากที่สุดแบบหนึ่งเลยทีเดียว  แต่โดยส่วนตัวเรากลับชอบไอเดียในการตกแต่งของห้องนี้มากนะครับ มีการเพิ่มลูกเล่นลงไปในเฟอร์นิเจอร์ Built-in ในหลายๆ ส่วน ทำให้สามารถใช้งานได้หลายประโยชน์ และมีพื้นที่ในการเก็บของให้เป็นระเบียบไปพร้อมๆ กัน แปลนห้อง แปลนห้องแบบ 3 มิติ เข้ามาในห้องแล้วจะแยกออกเป็น 2 ฝั่งนะครับ มุมนี้เราถ่ายย้อนกลับไปหน้าห้อง ซึ่งส่วนนี้มีการปูกระเบื้องไว้ด้วย ด้านซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวแนวยาว เคาน์เตอร์ครัวจะเหมือนกับห้องแรกเลยนะครับ ต่างกันตรงที่จะมีชั้นลอยเก็บของเพิ่มขึ้นมา ซิงค์ล้างจานของ American Standard เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka พร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ฝั่งขวามือจะเป็นห้องน้ำ โครงการตกแต่งเป็นกระจกบานเลื่อนสีชา พร้อมชั้นวางขอเก๋ๆ ให้ดูเป็นไอเดีย เราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องแรกเลยนะครับ แต่การจัดวาง Layout จะต่างกันอย่างที่เห็น ห้องนี้จะได้กระจกเงาบานใหญ่ ยาวตั้งแต่อ่างล้างหน้าไปจนถึงโถสุขภัณฑ์ อีกด้านจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นให้เรียบร้อย บริเวณกำแพงในส่วนของที่อาบน้ำเพิ่มลูกเล่นตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคจากพื้นจรดเพดาน มุมมองจาก Living Area ย้อนกลับไปที่หน้าห้อง Living Area โครงการตกแต่งด้วยโซฟาหนังสีน้ำตาล 2 ที่นั่ง แต่จริงๆ แล้วด้วยพื้นที่ตรงนี้สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งก็ได้นะครับ แต่ที่โครงการเลือกใช้โซฟา 2 ที่นั่งเพราะต้องการพื้นที่เพื่อ Built in โต๊ะทำงานไว้ข้างๆ โซฟาแบบนี้ โต๊ะทำงานเล็กๆ ที่โครงการ Built in ไว้ข้างโซฟา ให้ดูเป็นอีกหนึ่งไอเดีย ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาก็ถือว่าห่างอีกเหมือนกันนะครับ ดูจากระยะแล้ววางทีวีจอใหญ่ซะใจได้เลย พร้อมลูกเล่น Built in บานเลื่อนที่เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ครีเอทีฟไปอีกแบบ ต่อจาก Living Area จะเป็นห้องนอนที่อยู่ด้านในสุด ระหว่างห้องนอนกับ Living Area จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น ในห้องนอนโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ด้านปลายเตียงโครงการ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าบานสูงถึงเพดาน ข้างเตียงอีกด้านเป็นระเบียงห้อง ประตูเป็นกระบานเลื่อน 3 ตอนเหมือนห้องแรก คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนไว้ที่ด้านนอกระเบียง มุมมองจากห้องนอนย้อนออกไปที่หน้าห้อง จะว่าไปแล้วพื้นที่ห้องไซส์เริ่มต้นของ a space I.D. ที่เปิดมาที่ขนาดห้อง 33 ตร.ม. แบบนี้ จัดว่ากว้างพอสมควรเลย เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนได้อย่างสบายๆ ทางด้านคอนเซปต์ดีไซน์ก็โดนเด่นด้วยการจัดให้มี Exclusive Foyer อยู่หน้าห้อง พร้อมสวน Vertical garden และตู้จดหมายส่วนตัว ที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ได้ความเป็นส่วนตัว แถมยังมี Facility ในโครงการเตรียมไว้อีกเพียบ พร้อมนวัตกรรมที่จอดรถอัตโนมัติจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเราเชื่อว่าลูกบ้านโครงการนี้น่าจะได้รับความสะดวกสบายครบถ้วนที่สุดอย่างแน่นอน ยิ่งตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แบบนี้ด้วยแล้ว ใครที่กำลังเล็งห้องในทำเลย่านนี้อยู่ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยเอง หรือเพื่อการลงทุน ขอกระซิบว่าต้องรีบเลยนะครับ ปัจจุบันห้องแบบ one bedroom ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้าน เท่ากับว่าสนนราคาเริ่มเพียง 111,xxx บาทต่อ ตร.ม. เท่านั้น ห้องไซส์นี้ ทำเลกลาง New CBD ขนาดนี้ หาไม่ง่ายแล้วนะครับ.... รีบๆ กันหน่อย โดยในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ โครงการเตรียมจัดปาร์ตี้ Be “MORE” YOU ที่คุณจะเป็นตัวเองได้มากกว่า ที่ เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา เปิดโครงการให้ลูกค้าได้สัมผัสห้องจริง บรรยากาศจริงในโครงการ และที่สำคัญ ทางโครงการมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ในราคาโดนๆ รออยู่ สำหรับผู้ที่จองในงาน ฟรี! เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนฯ พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษและลุ้นรับของรางวัลตลอดงาน และพลาดไม่ได้!! กับศิลปินเสียงคุณภาพ วง The Parkinson และ อิมเมจ The Voice ที่จะมาร่วมแสดงพลังเสียงกันให้คุณสนุกอย่างเต็มที่ สำหรับลูกค้าที่สนใจ ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ http://www.areeya.co.th/aspaceid รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 100,000 บาท* ทันที หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางโครงการได้ที่ 1797 ครับ
Noble Revolve Ratchada 2 อัพเดทห้องดีไซน์ใหม่กับโปรฯแรงๆ : รีวิวคอนโด

Noble Revolve Ratchada 2 อัพเดทห้องดีไซน์ใหม่กับโปรฯแรงๆ : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เราจะมาพูดถึงโครงการ Noble Revolve รัชดา 2 กันอีกครั้ง ซึ่งมีความคืบหน้าในเรื่อง EIA ที่ผ่าน Approved เรียบร้อย รวมถึงได้เริ่มก่อสร้างกันไปพอสมควรแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้เราเคยเขียนรีวิวถึง Noble Revolve รัชดา 2 ไปแล้วตั้งแต่เพิ่งเริ่มเปิดโครงการเลยก็ว่าได้  ดังนั้นเรื่องทำเลที่ตั้งและการเดินทางคงไม่ขออธิบายอะไรให้มากความ ขอพูดกันแค่คร่าวๆ นะครับ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    3,800,000 บาท เจ้าของโครงการ    Noble Development PLC. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 42 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ    3 - 1 - 66 ไร่ จำนวนห้อง     755 ยูนิต ที่จอดรถ    ประมาณ 40% ที่ตั้งโครงการ    รัชดา ซอย 6 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เริ่มก่อสร้าง    ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนสิงหาคม ปี 2561 ค่าส่วนกลาง    55 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    600 บาท/ตารางเมตร   ทำเลที่ตั้ง และการเดินทาง จุดเด่นหลักๆ ของ Noble Revolve รัชดา 2 คืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมมากๆ นับจากหน้าโครงการไปก็เพียง 80 เมตรเท่านั้น บวกระยะเดินเข้าตึกอีกนิดหน่อย บวกลบแล้วก็ไม่น่าเกิน 100 เมตร การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงสะดวกมากถึงมากที่สุดครับ ส่วนเรื่องรถส่วนตัวก็สะดวกไม่แพ้กันถ้ารถไม่ติด จะเข้าออกเมืองก็สามารถเลือกได้หลายเส้นทาง ด่านทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลด้วย คนที่คุ้นเคยเส้นทางในย่านนี้คงจะนึกภาพตามได้ไม่ยาก แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ ซูมลงมาดูกันใกล้ๆ อีกหน่อย จะเห็นว่าโครงการ Noble Revolve รัชดา 2 จะอยู่ติดกับโครงการ Noble Revolve รัชดา 1 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในซอยรัชดา ซอย 6 การเดินทางวันนี้เราเลือกใช้เส้นทางถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่แยกประชานุกูลยาวไปเรื่อยๆ เลยนะครับ ขึ้นสะพานข้ามถนนวิภาวดีไปฝั่งรัชโยธิน ตามป้าย ลงจากสะพานมาแล้ว จะเห็น สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB Park อยู่ด้านขวามือ เลยจาก SCB Park มาจะเจออีกหนึ่งสะพานข้ามถนนพหลโยธิน จะเห็นเมเจอร์ รัชโยธิน อยู่ทางซ้ายมือ ตึกช้างอยู่ฝั่งขวามือ ลงจากสะพานมาแล้วเราตรงอย่างเดียวเลยนะครับ ตรงนี้จะเห็นศาลาอาญา รัชดา อยู่ทางขวามือ ตรงมาอีกหน่อยจะเจออีกหนึ่งสะพานตรงนี้จะข้ามถนนลาดพร้าว ขึ้นสะพานไปเลยครับ ข้ามสะพานมาเยอะแล้ว มาลงอุโมงค์กันบ้าง ตรงนี้เราลงอุโมงค์ลอดใต้แยกสุทธิสาร ขึ้นมาจากอุโมงค์ก็ใกล้ถึงแล้วหล่ะครับ เลยจากอุโมงค์มานิดหน่อยจะเจอแยกเทียใร่วมมิตร ด้านซ้ายมือจะเป็นอาคาร Cyber World Tower ส่วนด้านขวาจะเป็น The Street รัชดา เราตรงผ่านแยกไปเลยนะครับ ด้านขวามือจะเห็นบิ๊กซี รัชดา เลยจากแยกเทียมร่วมมิตรมาให้ชิดซ้ายเตรียมตัวเลี้ยวเข้าโครงการได้เลยนะครับ ถึงแล้วครับที่ตั้งโครงการในซอยรัชดา ซอย 6 เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยยย หน้าทางเข้าซอยมีป้ายบอกชัดเจน เลี้ยวเข้ามาแล้วจะเห็นโครงการที่กำลังสร้างอยู่เป็นโครงการ Noble Revolve รัชดา 1 นะครับ ส่วนโครงการ 2 ก็กำลังก่อสร้างอยู่ข้างๆ กัน จอดรถหน้าสำนักงานขายได้เลยครับ ความได้เปรียบต่อมาของ Noble Revolve รัชดา 2 เห็นจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลาง New CBD ของกรุงเทพฯ ใกล้ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ที่แฮงค์เอ้าท์ และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ๆ อีกเพียบ ลองยกตัวอย่างกันคร่าวๆ ก็มีตั้งแต่ The Esplanade, Central พระราม 9, Fortune Town เป็นต้น ในขณะที่ตึก Grand G ก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว อีกหน่อยสำนักงานต่างๆ ก็คงจะเปิดกันเต็มพื้นที่ บรรยากาศก็จะยิ่งคึกคักมากขึ้นไปอีกแน่นอน จากที่ตั้งโครงการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาแค่สถานีเดียว แหล่งบันเทิง ช็อปปิ้งก็พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ ตัวโครงการ และห้องตัวอย่าง ตัวอาคารของ Noble Revolve 2 อยู่ถัดจาก Noble Revolve 1 เข้ามาอีกเล็กน้อย แต่ใช้ทางเข้าออกจากซอยรัชดา 6 เหมือนกัน ตัวอาคารมีความแตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น แค่เรื่องลักษณะการวางตัวอาคาร โทนสี แต่ภาพรวมแล้วก็แทบจะเป็นตึกคู่แฝดกันเลย เรื่อง Facility หลักๆ แล้วจะรวมอยู่ที่ชั้น 6 นะครับ จะมีเพิ่มเติมขึ้นมาก็เป็นสวนบนชั้นดาดฟ้า สามารถรับวิวมุมสูงบนยอดตึกได้ดีอีกมุมนึงเลยทีเดียว โมเดลจำลองของโครงการตั้งอยู่ติดกับโครงการ Noble Revolve รัชดา 1 บริเวณทางเข้าด้านหน้าโครงการ สระว่ายน้ำจะอยู่ด้านหลังโครงการ สระว่ายน้ำบนชั้น 6 ของโครงการ คราวนี้มาดูแปลนของโครงการกันบ้างนะครับ โดยเริ่มที่ชั้น G กันเลย ที่ชั้น G จะมี Lobby และเป็นที่จอดรถรอบๆ อาคาร ขึ้นไปจนถึงชั้น 5 ลิฟท์จะมีทั้งหมด 4 ตัวเป็นแบบล็อกชั้น พร้อมลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ที่ชั้น 6 จะเป็นชั้นที่เริ่มที่ห้องพักอาศัย และ Facility หลักของโครงการอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส ก็จะอยู่ที่ชั้น 6 เช่นกัน ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยแล้วมีชั้นละ 21 ยูนิต สวนสีเขียวบนชั้น 6 ของโครงการ ฟิตเนสวิวสระว่ายน้ำบนชั้น 6 บรรยากาศสวนสีเขียวบนชั้นดาดฟ้าของโครงการ แต่ประเด็นหลักๆ ที่เราจะพามาอัพเดทกันครั้งนี้คือ ห้องตัวอย่างที่มีการตกแต่งใหม่หมด แถมเปิดมาพร้อมโปรโมชั่น Fully Furnished ได้ทุกอย่างตามที่เห็นในห้องกันไปเลย เรียกได้ว่าจัดเต็มสุดๆ เดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าหน้าตาห้องดีไซน์ใหม่จะสวยงามน่าอยู่ขนาดไหน ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนดีกว่านะครับว่ามีอะไรที่โครงการเค้าจัดมาให้บ้าง จะได้เห็นภาพชัดๆ กันไปเลย ส่วนครัว เคาน์เตอร์ครัว Built in เตาไฟฟ้า 2 หัว ฮูดดูดควัน ตู้เย็น 8.5 คิว ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าฝาหน้าแบบอบได้ โต๊ะทานอาหาร+เก้าอี้ Living Area ชั้นวางทีวี LED TV ขนาด 40 นิ้ว โซฟา โต๊ะกลาง แอร์ ห้องนอน เตียงนอน 5 ฟุต+ฟูก โต๊ะข้างเตียง โต๊ะทำงาน Built in ตู้เสื้อผ้า Built in แอร์ ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 25.24 ตร.ม. ห้องนี้มีการออกแบบตกแต่งภายในใหม่ทั้งหมด เน้นโทนสีเข้มขรึมขึ้นมาอีกหน่อย มีการจัดวาง Layout ภายในห้องให้ดูโอ่โถงสบายตามากขึ้น ในห้องตัวอย่างเลือกแต่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแทนผนังทึบที่ใช้กั้นพื้นที่ห้องนอน ทำให้ภายในห้องดูโล่งมากกว่าเดิม แถมยังให้ความรู้สึกว่าพื้นที่ใช้สอยเชื่อมต่อถึงกันได้ดีขึ้นอีกด้วยครับ ในส่วนของพื้นที่ครัว ยังคงเป็นครัวแบบเปิดอยู่บริเวณประตูทางเข้าแบ่งเคาน์เตอร์ Pantry ไว้สองฝั่งเหมือนเดิมนะครับ แล้วแทรกด้วยโต๊ะกินข้าวเล็กๆ ไว้อย่างลงตัวมากๆ พื้นที่ห้องนั่งเล่นอยู่ในมุมติดระเบียงเหมือนเดิม เลยเปิดรับแสงสว่างได้ดี ยิ่งผนังกั้นห้องนอนที่เปลี่ยนมาเป็นกระจกใสด้วยแล้ว พื้นที่นั่งเล่นเลยสามารถเปิดกว้างให้ต่อกับห้องนอนได้เลย แบบนี้ก็สามารถเลือกใช้ทีวีแขวนผนังในขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้นะครับ ผมว่าไอเดียที่เลือกกระจกบานเลื่อนมากั้นห้องนี่ดีนะครับ ทั้งในแง่การเพิ่มพื้นที่ห้องและประหยัดกว่าด้วย ไม่ต้องซื้อทีวีสองตัว แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 25.24 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านหน้าเลยนะครับ ครัวจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหาร แล้วซิงค์ล้างจาน ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ และเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า พร้อมอบแห้งในตัว ที่โครงการให้มาด้วย ด้านบนเป็นตู้เก็บของ และช่องวางไมโครเวฟ ส่วนด้านซ็ายมือเป็นจุดวางตู้เย็น 8.5 คิว วางติดกับเคาน์เตอร์ครัว มีเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex ด้านบนเป็นฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ติดกันมีโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านวางมาให้ด้วย เลยจากส่วนครัวเข้ามาเป็นส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาอาจจะดูไม่กว้างมาก แต่ก็ถือว่าอยู่ในระยะที่กำลังดีเลยครับ โครงการ Built in ชั้นวางทีวีมาให้ตามแบบที่เห็นนี่เลยนะครับ พร้อมกับทีวี LED ขนาด 40 นิ้ว โซฟาจะได้ขนาด 3 ที่นั่ง ระเบียงจะอยู่ต่อจากส่วน Living Area นะครับ ผ้านม่านที่ระเบียงตรงนี้โครงการก็ติดมาให้ด้วยนะครับ ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงจะกว้างประมาณนี้นะครับ ตามสไตล์ของโนเบิล ห้องนอนจะอยู่ต่อจาก Living Area เข้าไปด้านใน ในห้องตัวอย่างจะกั้นด้วยประจกใส อย่างที่เห็นนะครับ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังทึบทาสีขาว มีประตูปิดกั้นระหว่างห้องนอนกับ Living Area ภายในห้องนอนโครงการวางเตียง 5 ฟุต พร้อมฟูกไว้ให้เรียบร้อย เตรียมมาแค่หมอนกับผ้าห่มก็อยู่ได้เลย ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่างโครงการ Built in โต๊ะทำงานแนวยาวมาให้ด้วย นั่งทำงานพร้อมชมวิวที่หน้าต่างข้างเตียงได้เลย โต๊ะทำงานริมหน้าต่าง หน้าต่างจะมีบานกระทุ้งบานเล็ก 1 บาน ที่เหลือจะเป็นบาน Fix ทั้งหมด ผ้านม่านที่หน้าต่างโครงการก็ติดมาให้ด้วยเรียบร้อย ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นจุดวางตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ วางอยู่หน้าห้องน้ำ การจัดวางสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Grohe มีเคาน์เตอร์วางของข้างๆ และตู้เก็บของด้านล่าง โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดกับอ่างล้างหน้า กระจกเงาจะได้บานใหญ่เต็มบานเลยนะครับ จะมีช่องวางของกระจุกกระจิกอยู่เหนือโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดเป็น Shower Box มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ชุดฝักบัวของ Grohe ปกติแล้วห้องของโครงการ Noble Revolve รัชดา 2 จะขายกันมาแบบห้องเปล่านะครับ มีให้แค่ชุดครัวและสุขภัณฑ์เท่านั้น แต่อย่างที่บอกว่าช่วงนี้ทางโครงการจัดโปรโมชั่นพิเศษ เปิดข้อเสนอกันมาแบบจัดเต็ม ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะได้มาพร้อมกับห้อง และส่วนลดเพิ่มเติม ซึ่งหาข้อเสนอที่ดึงดูดในแบบนี้ได้ยากมากในราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาทเท่านั้น แต่ถ้าใครคิดว่าห้องแบบ 1 Bedroom นี้ออกจะกระทัดรัดเกินไป และอยากได้ห้องใหญ่ขึ้น ทางโครงการก็ยังคงมีห้องแบบ 2 Bedroom ให้เลือกอยู่เหมือนเดิมนะครับ ซึ่งหน้าตาห้องยังคงน่าสนใจเหมือนเดิม แต่ในส่วนของข้อเสนอเพิ่มเติมอันนี้แนะนำให้ลองนัดเวลาเข้าไปคุยกับเซลที่สำนักงานขายดูครับ แถมยังได้เห็นต้องตัวอย่างด้วยตาตัวเองด้วย ปัจจุบันโครงการ Noble Revolve รัชดา 2 เปิดขายไปได้มากกว่า 75% แล้วนะครับ ห้องในบางตำแหน่งก็ถูกจับจองกันไปเกือบหมดแล้ว ก็อย่างที่รู้ๆ กันดีว่า ด้วยศักยภาพของทำเลที่อยู่ใจกลาง New CBD ขนาดนี้ แถมยังเปิดมาด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ แล้วยังกระตุ้นด้วยโปรโมชั่นเด็ดเพิ่มขึ้นไปอีก งานนี้ใครที่ยังลังเลคงต้องรีบตัดสินใจแล้วล่ะครับ ไม่งั้นจะพลาดห้องดีๆ ไปซะก่อนนะครับ สำหรับโปรโมชั่นในงาน Noble D:Day ในวันที่ 18-30 มิถุนายนนี้ ที่สำนักงานขาย มีอะไรพิเศษบ้าง มาดูกันครับ คอนโดใหม่ แต่งครบ 80 เมตร จาก MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ เริ่ม 3.8 ล้านบาท* ส่วนลดเงินสดวันโอนกรรมสิทธิ์* ส่วนลดลงทะเบียนออนไลน์ 10,000 บาท* ฟรี ค่ากองทุนและค่าส่วนกลาง 2 ปี* ผ่อน 0% นาน 3 เดือน*