Noble Revolve รัชดา 2 : รีวิวคอนโด

การเดินทาง
อ่านรีวิวอื่นที่เกี่ยวกับ
ติดต่อโครงการ


Noble Revolve รัชดา 2 (รีวิวคอนโด)
Noble Revolve รัชดา 2 : รีวิวคอนโด

Noble Revolve รัชดา 2 คอนโด High Rise ในซอยรัชดา 6 ติดทางขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีศูนย์วัฒนธรรม แค่บอกทำเลที่ตั้งก็ดึงดูดความสนใจได้ไม่ยาก ซึ่งก็ไม่ได้เกินจริงเลยเพราะขึ้นจากรถไฟฟ้าใต้ดินมา เดินเลี้ยวเข้าซอยรัชดา 6 ด้วยระยะทางไม่ถึง 100 เมตรดีก็เข้าตึกแล้ว สำหรับคนที่อาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นหลักจึงจัดว่าสะดวกมากๆ ส่วนระบบขนส่งมวลชนในรูปแบบอื่นๆ ก็มีให้พึ่งพาเยอะ ทั้งรถแท็กซี่ และรถเมล์อีกหลายสาย ซึ่งป้ายรถเมล์ก็อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินนั่นแหละ ทั้งกลางวัน กลางคืนมีรถราวิ่งขวักไขว่เกือบ 24 ชั่วโมง เพราะถัดขึ้นไปอีกซอยเป็นแหล่งรวมสถานบันเทิงยามราตรีที่ขึ้นชื่อ ช่วงกลางวันนอกจากพวกสำนักงานออฟฟิศใหญ่อย่างทรูคอร์ปฯ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และตึก AIA ที่จะเปิดในอนาคตแล้ว บริเวณโดยรอบยังแวดล้อมไปด้วยตึกสำนักงานยิบย่อย รวมถึงห้างสรรพสินค้าอย่าง Central พระราม 9, Big C, Lotus, Home Pro, Fortune Tower และEsplanade ที่อยู่ในระยะเดินถึงทั้งหมด ย่านนี้จึงอุดมสมบูรณ์มากตามแบบฉบับคนเมือง ซึ่งการที่มีคนเยอะ สำนักงานแยะ ก็มาพร้อมกับการจารจรที่ติดขัดขึ้นเหมือนเงา การเดินทางด้วยรถส่วนตัวจากโครงการจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับปัญหารถติดอย่างหนักในช่วงเช้าและเย็น เพราะต้องผ่านแยกพระราม 9 เท่านั้นถึงจะต่อไปยังโซนอื่นๆ ของกรุงเทพได้

 

ใช้ทางด่วนมุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ สังเกตทางลงถนนรัชดาภิเษก (สี่แยกพระราม 9)

ใช้ทางลงถนนรัชดาภิเษก

เมื่อลงจากทางด่วน จะบังคับเลี้ยวซ้ายเพื่อไปยังสี่แยกพระราม 9

ตรงไปยังสี่แยกพระราม 9

ตรงผ่านสี่แยกพระราม 9 ไป

เมื่อผ่านสี่แยกมาแล้ว จะพบห้างฟอร์จูน ทาวน์อยู่ทางซ้าย และห้าง Central พระราม 9 ทางด้านขวา หากมองตรงไปจะเป็น Lotus พระราม 9

ให้ชิดขวากลับรถ สังเกตจุดกลับรถอยู่ก่อนถึงห้าง Esplanade

ตรงไปจะผ่านสถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรม

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดา 6 เพื่อเข้าไปยังโครงการ

 

ถึงตัวอาคารของ Noble Revolve 2 จะตั้งอยู่คู่กับโครงการแรกเลย แต่ทางเข้าออกของโครงการไม่ใช้ร่วมกัน Facility ต่างๆ รวมถึงพื้นที่ของโครงการก็แยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง จะคล้ายคลึงกันก็แต่ Lay out การออกแบบห้อง และสถาปัตยกรรมภายนอกของตัวอาคารที่เกือบจะเป็นคู่แฝด แต่คนละฝา ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 22.37 ตร.ม. เป็นห้องเล็กสุดตามราคาเริ่มต้น ซึ่งมีอยู่เพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น ส่วนห้องที่มีให้เลือกมากที่สุดคือห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม. โดยที่แปลนห้องแต่ละตำแหน่งก็มีพื้นที่บวก-ลบต่างกันนิดหน่อย ขยับไปอีกทีก็เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ที่ 38.6 ตร.ม. ไปจนถึงขนาดเกือบ 53 ตร.ม.

 

ที่สำนักงานขายวันที่เข้าไป ยังเปิดให้ชมได้แค่ห้องแบบ 2 ห้องนอน ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอนกำลังปรับตกแต่งใหม่ จึงมีภาพมาให้ชมแค่ห้องแบบ 2 ห้องนอนเท่านั้น ห้องจริงๆ ที่ทางโครงการขายให้จะเป็นห้องเปล่าๆ มีแค่สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเคาน์เตอร์ครัวเท่านั้น ที่เหลือในห้องตัวอย่างเป็นการตกแต่งเพื่อล่อตาล่อใจล้วนๆ ทั้งกำแพงกั้นห้องนอนเล็กที่เอาออกเปิดพื้นที่ให้โล่ง และปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งเล่นแทน ตามด้วยเฟอร์นิเจอร์อะคริลิคใสๆ ที่เลื่อนสลับตำแหน่ง ปรับพื้นที่ห้องได้ ก็เป็นไปเพื่อการขายล้วนๆ ถ้าอยากจะตกแต่งให้เหมือนห้องตัวอย่างคงต้องเตรียมเงินไว้อีกเยอะ การที่ขายมาแบบเป็นห้องเปล่าๆ อาจจะมีข้อดีตรงที่ลูกบ้านไม่ถูกจำกัดไอเดียเรื่องการตกแต่ง ใครที่คิดจะซื้อจึงต้องคิดถึงเรื่องเงินค่าตกแต่งห้องเผื่อไว้ด้วย

 

ประตูห้องเป็นคันโยก และล็อคธรรมดา ไม่ใช่ระบบดิจิตอลล็อค

เปิดเข้าห้องมาขวามือจะเป็น Pantry ครัว และตรงหน้าคือพื้นที่กินข้าวติดระเบียง

เคาน์เตอร์ครัว Built มาเรียบร้อย พร้อม top หินแกรนิต ด้านล่างเว้นช่องวางเครื่องซักผ้าไว้ให้ด้วย

เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ยี่ห้อ MEX

เครื่องดูดควันเข้าชุดยี่ห้อเดียวกัน

ซิงค์ล้างจานเป็นแบบฝัง

โต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่งติดระเบียง

ประตูกระจกบานเลื่อนที่ระเบียง

รางเลื่อนประตูกระจก สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงได้ แต่พื้นที่ระเบียงของห้องก็แคบจะใช้ประโยชน์แทบไม่ได้เลย

พื้นที่นั่งเล่นมุมนี้ ใช้พื้นที่ของห้องนอนเล็กจัดวางชุดโซฟา จึงทำให้พื้นที่ห้องดูกว้างขึ้น

ในห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน มีการเอาผนังห้องนอนเล็กออก ทำให้พื้นที่ห้องดูเชื่อมต่อถึงกันให้ความรู้สึกโปร่งกว่าเดิม

ห้องน้ำเล็กใช้กระเบื้องโทนสีเทา

โถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเล็ก

ก๊อกอ่างล้างหน้าของ GROHE

ห้องอาบน้ำกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์

ชุดก๊อกฝักบัว

ชุดฝักบัวอาบน้ำ

สวิตช์ไฟมาตรฐานยี่ห้อ panasonic

โถงทางเดินในห้อง

บริเวณห้องนั่งเล่น ซึ่งให้พื้นที่ของห้องนอนเล็กมาจัดแต่งใหม่

พอทุบกำแพงของห้องนอนเล็กออกไป ก็จะทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้

พอไม่มีกำแพงห้องนอนเล็ก ภายให้ห้องจึงดูโปร่งสบายตามากขึ้น

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

master bedroom

ปลายเตียงวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งไว้สำหรับนั่งดูทีวีได้

ผนังห้องนอน bulit ตู้เก็บของ และทำเป็นชั้นวางทีวีด้วย

มองไปทางประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่จะเห็นมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำ

ภาพรวมห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

วัสดุ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเป็นไปตามมาตรฐาน

ภายในห้องน้ำกั้นพื้นที่ห้องอาบน้ำมาให้แล้ว

ชุดก๊อกของฝักบัวในห้องน้ำใหญ่

ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower

พื้นห้องอาบน้ำดร๊อปลงไปเล็กน้อย

ธรณีห้องน้ำเป็นหินเทียมสีดำ ก่อไว้ไม่สูงนัก

จากที่ได้ดูห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอนแล้ว ลองจินตนาการห้องโล่งๆ และมีกำแพงกั้นห้องนอนเล็กเข้าไปอีก ต้องบอกว่า Lay out ห้องไม่ได้ดูกว้างขวางลงตัวเท่าไร ออกจะดูอึดอัดไปเสียด้วยซ้ำ วัสดุที่มากับห้องก็เป็นไปตามมาตรฐานปกติ ในโครงการระดับนี้ถือว่าจัดของแถมมาได้ไม่สมราคานัก เรื่อง Facility ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ก็ดูครบครันดี ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวน ห้องซักรีด และร้านค้า แต่เมื่อเทียบกับจำนวน 755 ยูนิตแล้ว เลยกลายเป็นมี Facility ไม่พอต่อจำนวนคนไปเลย และยังเรื่องที่จอดรถที่จอดได้เพียง 305 คัน รวมจอดซ้อนคันแล้วด้วย เรื่องนี้จึงเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ ถ้าลูกบ้านเกินครึ่งโครงการมีรถส่วนตัว อีกประเด็นที่ลืมไม่ได้เลยคือเรื่องตำแหน่งห้อง ซึ่งจะต้องเลือกทิศ เลือกมุมกันดีๆ หน่อย เพราะรอบโครงการมีอาคารใกล้เคียงบังวิวเกือบรอบทุกทิศ ดังนั้นจึงต้องมองทิศกันให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจ บางห้องอาจจะอยู่สูงพ้นแนวตึกรอบๆ แต่ก็อาจจะแลกมากับทิศทางของแสงแดดยามบ่ายที่จะทำให้ห้องร้อน หรือบางห้องถูกบังมุม วิวไม่สวย ไม่ค่อยเป็นส่วนตัว แต่ไม่ต้องกลัวแดดร้อน อันนี้ก็แล้วแต่จะเลือกเอาตามสะดวกใจนะครับ

สำหรับ Noble Revolve รัชดา 2 อยู่ในทำเลที่ถือว่าเป็นไข่แดงของรัชดา ซึ่งทำเลในแถบนี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาไปสู่ความเป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางเมือง ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เปิดอีกหลายตึก ซึ่งกลุ่มคนทำงานจะเยอะขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นในแง่ของศักยภาพด้านการเติบโตของพื้นที่ในแถบนี้จึงมีสูง แต่ก็อย่าลืมพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ประกอบควบคู่กันไปด้วย เพราะ Noble Revolve รัชดา 2 เปิดตัวไว้ในราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในระแวกใกล้เคียง การจะทำกำไรในระยะสั้นจึงเป็นเรื่องยาก หรือถ้าจะหวังซื้อไว้เก็งกำไรในระยะยาว ก็ยังต้องรอดูกันต่อไปอีกระยะว่าราคาจะขึ้นไปถึงระดับไหน

บทความ รีวิวคอนโด ล่าสุด