U Delight Residence Riverfront พระราม 3 (รีวิวคอนโด)
U Delight Residence Riverfront พระราม 3 : รีวิวคอนโด

เพิ่งจะเปิดให้จองกันได้ไม่นานสำหรับ U Delight Residence Riverfront พระราม3 คอนโด High Rise ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจในเครือ Grand U ถ้าใครที่พอจะรู้จัก Developer รายนี้อยู่บ้าง ก็คงพอจะทราบว่า ภายใต้แบรนด์ U Delight Residence แต่ละโครงการจะมีการจัดสรรบรรยากาศภายในไว้น่าอยู่ดีทีเดียวครับ พอมาถึงโครงการล่าสุดในทำเลทองย่านพระราม 3 ที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้ จึงมีการออกแบบห้องให้พิเศษกว่าปกติ และทำราคาห้องไว้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในเครือ

การเดินทาง

ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนพระราม 3 ช่วงระหว่างสะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล (สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม) การเดินทางไปมาบริเวณนี้มีเส้นทางหลีกเลี่ยงได้หลายเส้นทาง เริ่มจากถนนฝั่งหน้าโครงการซึ่งมีหัวถนนอยู่ที่แยกคลองเตย ขนานมากับแม่น้ำเจ้าพระยามุ่งหน้าไปทางแยกถนนตก (แยกเข้าถนนเจริญกรุงก่อนข้ามสะพานกรุงเทพ) โดยระหว่างเส้นทางนี้ก็จะต้องผ่านตั้งแต่แยกนางลิ้นจี่ แยกถนนนราธิวาสฯ และแยกทางขึ้นสะพานภูมิพล โดยก่อนจะไปถึงแยกสาธุประดิษฐ์เราจะเห็นโครงการ U Delight Residence Riverfront อยู่ทางซ้ายมือ ถัดจากวัดปริวาสไปแค่ที่ดิน 1 แปลงกั้นเท่านั้น ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนใหญ่จึงหาได้ไม่ยากครับ หรือถ้ามาจากอีกฝั่งของถนน หัวถนนเริ่มที่แยกถนนตก (ถนนเจริญกรุง) มุ่งหน้ากลับมาทางคลองเตย เราจะผ่านแยกถนนเจริญราษฏร์ แยกถนนรัชดาภิเษก (ใต้สะพานพระราม9) และแยกถนนสาธุประดิษฐ์ ผ่านมาตามเส้นทางนี้แล้วเราจะต้องเลยไปกลับรถที่ใต้สะพานข้ามแยกสะพานภูมิพลแล้วกลับมาที่โครงการอีกครั้ง ตลอดเส้นทางถนนสายพระราม 3 นี้ การจราจรคล่องตัวดีตลอดวัน เพราะมีสะพานข้ามแยกทุกๆ แยก จึงไม่มีเรื่องรถติดให้กังวลมากนัก

นอกจากเส้นทางหลักบนถนนพระราม 3 แล้ว ห่างจากตัวโครงการไปไม่ไกล ยังมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ห่างออกไปแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น รวมถึงเส้นทางสะพานภูมิพล หรือสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมที่สามารถข้ามไปยังแถบสุขสวัสดิ์ พระประแดง ปู่เจ้าสมิงพรายได้โดยง่าย จึงเรียกได้ว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนที่อาศัยการเดินทางโดยรถยนต์เป็นหลัก อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีเส้นทางเข้า-ออกเมืองให้เลือกหลายเส้นทาง แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่หลายๆ คนเร่งรีบไปทำงานก็ต้องเลือกเส้นทางกันให้ดีๆ นะครับ โดยเฉพาะเส้นทางลัดเข้าใจกลางเมืองอย่างถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนนราธิวาสฯ และคลองเตย ที่การจราจรหนาแน่นเกือบตลอดวัน

และอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการเดินทางของคนที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็คือ รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ หรือ BRT นั่นเอง ซึ่งสถานี BRT ที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีวัดปริวาส โดยอยู่ห่างจากทางเข้าโครงการไม่เกิน 150 เมตรเท่านั้น แต่อย่าคาดหวังกับ BRTไว้สูงนะครับ เพราะในบางช่วงของถนน รถ BRT ก็ใช้เส้นทางร่วมกับรถปกติ ถ้ารถติดก็ติดยาวตามกันไปด้วย รวมถึงในช่วงกลางวัน หรือนอกช่วงเวลาเร่งด่วนจำนวนรถที่ให้บริการก็มีน้อยจนต้องรอกันนานกว่าจะมีผ่านมาซักคัน ถ้าคิดว่าไม่ต้องเร่งรีบเดินทางไปไหน BRT ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่ใช้ได้แหละครับ

วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ

U Delight Residence Riverfront พระราม 3 เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น ตั้งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาบนเนื้อที่ 6 ไร่กว่าๆ บริเวณใกล้เคียงโดยรอบยังไม่มีอาคารสูง หรือคอนโดโครงการอื่นๆ ให้รบกวนสายตา แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่ เพราะที่ดินที่อยู่ติดกันยังเป็นที่ว่างอีกหลายแปลง โอกาสที่จะมีตึกสูงขึ้นขนาบข้างจึงยังพอมีอยู่ ตัวอาคารถูกออกแบบให้อยู่ในแนวยาวลึกเข้าไปจนเกือบติดริมแม่น้ำตามลักษณะของที่ดิน ด้านหนึ่งหันไปทางวัดปริวาส ถัดจากวัดไปจะเป็นโครงการ Bangkok Square (ชื่อเดิมคือ จตุจักรพระราม 3) วิวจากห้องด้านนี้มองเลยไปจะเห็นสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมด้วย ส่วนอีกด้านซึ่ง ณ ปัจจุบันยังเป็นที่ดินว่าง ดังนั้นจึงสามารถมองเห็นวิวได้ไกลไปถึงสะพานพระราม 9 เลยทีเดียว แต่ถ้าเกิดมีโครงการตึกสูงขึ้น ก็จะบังวิวกันไปเต็มๆ เลยครับ สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปแล้วยังถือว่าเงียบสงบดี เนื่องจากถนนพระราม 3 เป็นถนนใหญ่ขนาด 8 เลน (นับรวมช่อง BRT) และมีคลองระบายน้ำคั่นกลาง รวมถึงบริเวณรอบๆ ไม่มีชุมชน ร้านค้า แผงลอย จึงไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่ เท่าที่เห็นก็จะมีเพียงโครงการ Bangkok Square เท่านั้นที่อยู่ในระยะเดินถึงและพอจะพึ่งพาฝากท้องไว้กับร้านอาหารในโครงการได้บ้าง นอกเหนือจากนี้ก็ต้องเลยไปถึงถนนสาธุประดิษฐ์ ซึ่งมีทั้งตลาดสด ร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัล และโลตัสให้จับจ่ายใช้สอยได้สบาย หรือถ้าย้อนกลับมาอีกทางก็ยังมี Community Mall อย่าง Int ที่มีร้านอาหารให้เลือกอีกหลายร้าน รวมถึงตลาดนัดครูหวีที่อยู่ติดกับธนาคารกรุงศรีสำนักงานใหญ่ ซึ่งมีร้านค้าแผงลอยตั้งขายเป็นจำนวนมากในช่วงกลางวันของวันทำงาน จึงไม่ต้องกลัวอดอยากเลยครับถ้าไม่ขี้เกียจเดินทางออกจากโครงการกันซะก่อน

การออกแบบตัวอาคารดูเผินๆ จากด้านข้างออกจะทึบและน่าอึดอัดอยู่ไม่น้อย เพราะด้วยจำนวนห้องที่มากถึง 1,094 ยูนิต ซึ่งเรียงเป็นแพทเทิร์นต่อกันตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นมา จะมีก็แค่โซนด้านหน้าและด้านหลังตึกเท่านั้นที่เพิ่มลูกเล่นบริเวณระเบียงห้องที่มีการเล่นระดับให้คล้ายกับว่าตัวห้องยื่นออกมานอกอาคาร จึงช่วยให้ตัวตึกดูไม่น่าเบื่อเกินไป พื้นที่บริเวณชั้น G ไปจนถึงชั้น 5 เป็นพื้นที่ของที่จอดรถซึ่งมีอยู่ค่อนข้างจำกัดเพียง 40% เท่านั้น แถมยังนับรวมการจอดแบบซ้อนคันแล้วด้วย เรื่องจำนวนที่จอดรถจึงจัดว่าน่าเป็นห่วงมากๆ ถ้าลูกบ้านจำนวนเกินครึ่งมีรถยนต์ส่วนตัว เพราะนับยังไงก็มีที่จอดไม่พออยู่ดี และถึงทางโครงการจะพยายามชูประเด็นว่าลูกบ้านสามารถเดินทางได้โดยง่ายด้วยบริการขนส่งมวลชนอย่าง BRT ซึ่งมีสถานีอยู่ใกล้ๆ อีกทั้งยังมีบริการ Shuttle Bus รับส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมายังโครงการยังสะดวกกว่ามากหลายเท่า นอกจากนี้อัตราส่วนของลิฟท์โดยสารภายในอาคารที่มีเพียง 4 ตัว (ไม่มีลิฟท์ขนของ) ต่อจำนวนห้องที่มากกว่า 1,000 ยูนิต นับว่าหนาแน่นมากเลยนะครับ เวลาที่ทุกคนต้องใช้ขึ้นลงอาคารจริงๆ ไม่รู้ว่าจะต้องรอลิฟท์กันนานแค่ไหน

ในส่วนของ Facility ในโครงการ ถูกจัดสรรไว้ที่บริเวณริมแม่น้ำเกือบทั้งหมด ทั้งสระว่ายน้ำ ห้อง Fitness และสวนหย่อมริมน้ำ ให้บรรยากาศสบายๆ เปิดรับวิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ที่บริเวณชั้น G ยังมีห้องสมุด และร้านสะดวกซื้อไว้คอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านอีกด้วย ซึ่งดูจาก Facility ต่างๆ ที่เตรียมไว้แล้ว ก็พอจะเห็นว่าทางโครงการพยายามจัดสรรสาธารณูปโภคต่างๆ มาให้เต็มที่นะครับ แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานจริงเท่าไหร่ จากที่คิดว่าสวนริมน้ำจะถูกใช้เป็นที่นั่งเล่นรับลมชมวิวได้ชิวๆ ตอนวันหยุด ก็อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการถ้าเพื่อนร่วมอาคารกว่าครึ่งเกิดใจตรงกัน และลงมาใช้สิทธิ์ในพื้นที่ส่วนกลางพร้อมๆ กัน บรรยากาศริมน้ำก็คงไม่ต่างจากงานมหกรรมย่อมๆ แน่นอน

พาชมห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้นั้นมีด้วยกัน 2 แบบ เราเริ่มกันด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งเป็นแบบที่มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ โดยมีขนาดเล็กสุดอยู่ที่ 34 ตร.ม. จุดเด่นที่แปลกตาของห้องแบบนี้คือ ห้องครัว ที่ถูกจัดไว้แนวเดียวกับระเบียง การเข้า-ออกห้องครัวจะต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน ถึงจะดูว่าการจัดพื้นที่ทำได้เป็นสัดส่วนดี แต่ก็แอบแปลกใจกับแนวคิดการออกแบบของโครงการไม่น้อยเลย ห้องครัวทำเป็นครัวปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนเล็กๆ ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นเข้ามารบกวนในห้องนอนได้บ้าง หน้าต่างบานใหญ่ในห้องครัวสามารถเปิดออกเพื่อช่วยในการระบายกลิ่นได้อีกทาง เคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ และซิงค์ล้างจานมีติดตั้งมาให้พร้อมห้องเรียบร้อยแล้ว ส่วนเตาไฟฟ้าทางโครงการเลือกแบบลอยตัวมาให้สำหรับห้องขนาดเล็ก จะขาดก็แค่เครื่องดูดควันเท่านั้นเอง อีกมุมที่น่าสนใจของห้องนี้ก็คือ ระเบียง ที่ถูกออกแบบให้เป็นแบบ Sunken Balcony ระเบียงเล่นระดับขนาดกว้าง ที่สามารถใช้เป็นมุมพักผ่อน นั่งเล่นชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจะใช้เป็นที่นั่งกินข้าวก็ยังไหวเพราะประตูระเบียงเชื่อมต่อกับห้องครัวอยู่แล้ว นอกจากนี้แล้วส่วนอื่นๆ ในห้องก็ถูกจัดสรรไว้เรียบร้อย กว้างขวางดีพอสมควร ทั้งห้องนอนที่มีประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่ช่วยแบ่งพื้นที่ออกจากห้องนั่งเล่นได้ชัดเจนขึ้น แถมมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวมาให้เสร็จสรรพ เกือบจะไม่ต้องหาซื้ออะไรมาเพิ่มเติมก็หิ้วกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลย

ส่วนอีกห้องเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งมีขนาด 55-56 ตร.ม. เด่นด้วยระเบียงห้องขนาดกว้างที่ยื่นออกไปด้านนอกห้องทำให้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มตา Layout ห้องในส่วนกลางห้องจัดเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อถึงบริเวณระเบียงด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ พอเปิดม่านออกแล้วจึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น สำหรับห้องครัวแยกออกไว้เป็นอีกส่วน เป็นครัวแบบปิด พร้อมด้วยเครื่องครัวที่จัดมาให้แบบครบชุดทั้ง เตาไฟฟ้า พร้อมเครื่องดูดควัน ซิงค์ล้างจาน เคาน์เตอร์ครัว และตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง นอกจากนี้ยังมีระเบียงเล็กๆ ติดกับห้องครัว ใช้เป็นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ และวางเครื่องซักผ้า ซึ่งพอมีพื้นที่เหลือให้ตากผ้าได้อีกเล็กน้อย ถือว่าใช้สอยประโยชน์ได้ดีทีเดียว ส่วนห้องนอนใหญ่ถูกจัดไว้อย่างง่ายๆ แต่เด่นด้วยกระจกห้องแบบเข้ามุม ซึ่งช่วยเปิดมุมรับวิวแม่น้ำได้กว้างมากขึ้น ในขณะที่ห้องนอนเล็กอาจจะมีขนาดเล็กไปซักหน่อยสำหรับการใช้งานจริง ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้เป็นห้องนอน แนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้กลายเป็นห้องทำงาน หรือห้องแต่งตัวก็น่าจะดีกว่า

โดยภาพรวมแล้ว เรื่องขนาดและฟังก์ชั่นของห้องที่ทางโครงการจัดไว้นั้นถือว่ากว้างขวางดีทีเดียว ทั้งฝ้าเพดานที่สูง 2.6 เมตร ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่ช่วยทำให้ห้องโปร่งสบายตามายิ่งขึ้น และส่วนสำคัญที่ทางโครงการเพิ่มเติมขึ้นมาเป็นพิเศษก็คือ ช่องลม เหนือประตูทางเข้าห้องทุกห้อง ที่เราสามารถยกคันโยกเปิดช่องให้ลมไหลผ่าน ซึ่งช่วยให้อากาศในห้องถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยประหยัดค่าไฟในห้องได้อีก เพราะเมื่อเปิดช่องลมและประตูระเบียงไว้ก็สามารถรับลมแม่น้ำได้เต็มๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ทั้งวันให้เปลืองไฟ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของตำแหน่งห้องแล้วล่ะครับว่าจะชอบห้องทางทิศไหน และคาดหวังกับวิวแบบใดมากกว่ากัน

ความคุ้มค่าการลงทุน

สำหรับ U Delight Residence Riverfront พระราม 3 ถือว่า เรียกความน่าสนใจได้ไม่น้อยเลย ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะไม่ได้เกาะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าเลยก็ตาม แต่เพราะด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการซึ่งติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ช่วยเสริมให้บรรยากาศของโครงการพิเศษมากกว่าโครงการอื่นๆ ในเครือ โดยเฉพาะแบบห้องที่เป็น Riverfront ราคาจึงกระโดดสูงทะลุเพดานไปเลย รวมถึงห้องขนาด 1 ห้องนอน ที่น่าจะจับต้องได้ง่ายที่สุดก็มีราคาเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ซึ่งราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นของห้องเปล่าๆ ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์มาให้ด้วย นะครับ ถึงจะต้องเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าห้องเองก็ต้องคิดกันนิดนึง เพราะด้วยขนาดห้องของ U Delight ที่หาเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปมาจัดให้ลงตัวได้ยาก ดังนั้นถ้าเลือกซื้อแบบพร้อมเฟอร์นิเจอร์ได้ก็จะสะดวกกว่า

สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวอาจจะต้องคิดเยอะกันพอสมควร เพราะระบบขนส่งมวลชนก็มีแค่ BRT เท่านั้นที่จะเป็นหนทางไปต่อรถไฟฟ้าในเมืองได้ประหยัดที่สุด หรือถ้าจะพึ่งพารถเมล์และรถสองแถวก็อาจจะต้องนั่งรถกันหลายต่อเลยทีเดียว รวมถึงเรื่องอาหารการกินที่ในระยะที่สามารถเดินได้สบายๆ ก็มีเพียงร้านอาหารในโครงการ Bangkok Square เท่านั้น ซึ่งมีแต่ร้านอาหารดังเจ้าใหญ่ๆ ทั้งนั้น ถ้าจะฝากท้องไว้ทุกวันมีหวังกระเป๋าแห้งแน่ๆ ดังนั้นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า ร้านอาหารรอบๆ โครงการจึงแทบจะเรียกว่าติดลบ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเป็นคนที่รักการทำครัว ชอบไปจับจ่ายในตลาดแล้วหาซื้อของมาตุนไว้ทำกับข้าวกินเอง อันนี้อีกเรื่องนึงครับ

ถ้าใครกำลังคิดจะจับจองห้องของ U Delight Residence Riverfrontไว้เกร็งกำไรในรูปแบบการปล่อยเช่า คงต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย เพราะทำเลไม่ได้อยู่ในย่านชุมชน หรือย่านธุรกิจที่คนพลุกพล่านเลย อีกทั้งยังไม่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าอีก จึงอาจจะทำให้การปล่อยเช่าเป็นไปได้ยาก แต่สำหรับคนที่มองหาที่พักอาศัยริมน้ำ บรรยากาศดีๆ ทำเลไม่ห่างจากเมืองมากนักไว้อยู่อาศัยเอง และไม่ได้หวังว่าจะทำกำไรจากการขายหรือปล่อยเช่า โครงการนี้ก็น่าจะลงตัวดีนะครับ ถึงราคาต่อตารางเมตรจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้จากโครงการก็ตาม

บทความ รีวิวคอนโด ล่าสุด