Chateau in Town สุขุมวิท 62/1
Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 : รีวิวคอนโด

Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 เป็นอีกหนึ่งโครงการภายใต้แบรนด์ CMC ซึ่งเกาะแนวรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ในซอยเดียวกันนี้มีโครงการ Chateau in Town อยู่ก่อนแล้วที่บริเวณท้ายซอย ซึ่งขณะนี้ทำการก่อสร้างเกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการที่เราจะพาไปดูในคราวนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการในชื่อเดียวกันแต่ต่างกันที่คอนเซ็ปต์การตกแต่งอาคาร รวมถึงทำเลที่ตั้งที่อยู่ค่อนมาทางปากซอยมากกว่า เราไปดูกันดีกว่าว่าโครงการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง

การเดินทาง

เนื่องจากเป็นคอนโดในแนวรถไฟฟ้า BTS ดังนั้นการเดินทางไปยัง Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 ถ้าไม่พูดถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ก็คงจะผิดขึ้นมาทันที สถานีรถไฟฟ้า BTS ที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีบางจาก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 62 พอดี เมื่อลงจากสถานีแล้วให้เดินจากปากซอยสุขุมวิท 62 ไปยังซอยสุขุมวิท 62/1 เป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร สังเกตุหน้าปากซอยมีเต้นท์ขายรถ เข้าซอยมาอีกประมาณ 50 เมตรจะเห็นโครงการ Chateau in Town ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังตัวโครงการถึงแม้จะเป็นระยะทางที่ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ทางเท้าที่ต้องเดินผ่านในช่วงค่ำๆ ถือว่าเปลี่ยวพอสมควรเหมือนกัน เพราะตลอดทางเป็นมีร้านค้าบ้างประปราย รวมถึงอาคารสำนักงานที่พอหมดเวลางานก็จะเงียบเหงาไปทันตาเหมือนกัน ดังนั้นถ้าคุณสาวๆ ต้องเดินกลับบ้านคนเดียวในช่วงค่ำๆ อาจจะอันตรายไปซักหน่อย แนะนำให้เลือกลงที่สถานีปุณณวิถีแล้วต่อรถเข้าไปอีกทีจะดีกว่าครับ

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีเส้นทางหลักๆ คือถนนสุขุมวิท ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรถติดอยู่แล้ว ดังนั้นในชั่วโมงเร่งด่วนจึงเป็นช่วงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โชคดีหน่อยที่ท้ายซอยเชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิท 62 ได้ จึงสามารถเลี่ยงไปใช้ทางด่วนเป็นเส้นทางเข้าเมืองได้อีกทาง กลับกันถ้าต้องการออกนอกเมืองถนนบางนา-ตราดและเส้นทางบูรพาวิถีก็เป็นอีกเส้นทางที่ใช้ได้ดีทีเดียว นอกจากนี้การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ทั้งรถเมล์ แท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็มีให้เลือกมากมายตลอดทั้งวัน การเดินทางเข้า-ออกโครงการจึงถือว่าสะดวกสบายดีทีเดียวครับ

 

วิเคราะห์ตัวโครงการ

ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Chateau in Town สุขุมวิท 62/1 ซึ่งอยู่บนถนนสุขุมวิท ถนนสายที่ขึ้นชื่อว่าราคาที่ดินสูงลิบ และยิ่งเกาะแนวรถไฟฟ้า BTS ในทำเลไม่ไกลจากใจกลางย่านธุรกิจมากนักแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้โครงการคอนโดต่างๆ ได้รับความสนใจไม่น้อยเลย เช่นเดียวกับ Chateau in Town Beach Sense แห่งนี้ ที่นับเป็นโครงการที่ 2 แล้วที่สร้างอยู่ในซยอเดียวกันกับโครงการแรกซึ่งกำลังจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในอีกไม่ช้านี้แล้ว สำหรับโครงการ Chateau in Town Beach Sense นั้นมีความแตกต่างจากโครงการอยู่พอสมควร ทั้งในเรื่องการออกแบบ และการจัดวางตำแหน่งห้อง ด้วยรูปทรงตึกที่ต่างออกไป มีการจัดวางสระว่ายน้ำไว้ที่บริเวณชั้น 2 ในโซนด้านหน้าของโครงการ ส่วนตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว U เน้นบรรยากาศแบบบ้านพักริมชายหาดตามคอนเซปต์ของโครงการนั่นเอง
บริเวณใกล้ๆ ซอยสุขุมวิท 62/1 ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยในแนวราบ สังเกตุได้จากในซอยยังมีบ้านเดี่ยวที่อาศัยกันอยู่ก่อนแล้ว เรื่องอาคารสูงๆ ที่จะขึ้นมาบังวิวกันในระยะประชิดจึงยังไม่มีปัญหาให้เห็น เรื่องอาหารการกินก็มีร้านอาหารกึ่งผับในซอยให้พอฝากท้องได้ หรือถ้าอยากได้อาหารตามสั่งธรรมดาอาจจะต้องเดินออกไปบริเวณปั๊มน้ำมันที่ปากซอยนั่นแหละครับ ถึงจะพอมีร้านอาหารแผงลอยให้พึ่งพาได้บ้าง รวมถึงร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และร้านกาแฟก็มีให้บริการอยู่ในปั๊มน้ำมันเช่นครับ นอกเหนือจากนี้แล้วก็เห็นจะมีแต่ต้องอาศัยนั่งรถไฟฟ้า BTS เข้าเมืองลงตามแหล่งช็อปปิ้ง และห้างสรรพสินค้าในเมืองอย่าง เอ็มโพเรียม, เทอมินัล 21, สยามพารากอน, เซ็นทรัลชิดลม ฯลฯ นั่นแหละครับ รวมถึงโรงพยาบาล โรงเรียน สถาบันกวดวิชาต่างๆ ที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าก็มีให้เลือกอีกหลายแห่งเช่นกัน แค่ต้องขยันเดินไปกับระหว่างสถานีรถไฟฟ้ากับตัวโครงการซักหน่อยเท่านั้นเอง
ด้วยความที่เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้นเท่านั้น เรื่องวิวสวยๆ จากในห้องจึงไม่ถือเป็นจุดขายเท่าไหร่ ทางโครงการมีการจัดวางสระว่ายน้ำไว้ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งจัดเป็นศูนย์รวมของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ ทั้งฟิตเนส ห้องสตรีม รวมถึงสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนหย่อนใจก็อาศัยพื้นที่ในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน ห้องส่วนหนึ่งจึงอาศัยวิวสระว่ายน้ำนี่แหละที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศแบบริมชายหาดได้บ้าง ในส่วนของที่พักอาศัยก็เริ่มกันตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป ใครที่เลือกห้องในชั้นนี้ก็ต้องแลกกับการขาดความเป็นส่วนตัวกันหน่อย เพราะเพื่อนร่วมบ้านคงเดินขึ้นลง เข้าออกที่ชั้นนี้เป็นว่าเล่นแน่ๆ แต่ก็ใช่ว่าห้องที่หันหน้าเข้าสระว่ายน้ำในชั้นที่สูงขึ้นจะไม่เจอปัญหาเรื่องเสียงรบกวนนะครับ พิจารณาทิศทางในการเลือกกันให้ดีๆ ส่วนที่น่าจะเป็นกังวลกันหน่อยก็เห็นจะเป็นเรื่องจำนวนที่จอดรถที่นับรวมซ้อนคันแล้วก็จอดได้เพียง 95 คันเท่านั้น ในขณะที่มีจำนวนยูนิตรวมเกือบๆ 200 ยูนิตเข้าไปแล้ว ถ้าใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวและต้องอาศัยการเดินทางด้วยการขับรถก็คงต้องคำนึงถึงปัญหานี้ไว้ด้วยนะครับ เพราะทางโครงการเค้าเน้นกลุ่มลูกค้าที่อาศัยรถไฟฟ้าเป็นหลักอยู่แล้ว เรื่องที่จอดรถเลยไม่เน้นเท่าไหร่ นอกจากนี้เรื่องจำนวนลิฟท์โดยสารก็มีให้เพียง 2 ตัว ในโซนปีกขวาของตึก ใครที่อยู่ไปทางปีกซ้ายก็เดินกันไกลหน่อยนะครับ

พาชมห้องตัวอย่าง

ในช่วงที่เราเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ ยังไม่มีห้องตัวอย่างของโครงการ Chateau in Town Beach Sense ให้ชมนะครับ ต้องอาศัยดูตามแบบแปลนในกระดาษ อย่างดีก็เข้าไปเดินชมห้องตัวอย่างของโครงการก่อนหน้าที่อยู่ในซอยเดียวกันได้ แต่ก็ต้องบอกว่าได้แค่ความคล้าย แต่ไม่ได้ใกล้เคียงความเป็นจริงเลยซักนิด ทั้งเรื่องขนาดห้อง และการจัดวาง Lay out ห้อง ทำให้ไม่ค่อยเห็นภาพห้องที่ชัดเจนเท่าที่ควร งานนี้ก็เกิดอาการลังเลสิครับ ฟันธงได้ไม่เคลียร์ว่าของจริงจะเป็นอย่างไรกันแน่ จากที่ดูตามแบบแปลนซึ่งมี Type ห้องเยอะเหลือเกิน เพราะการจัดวางกลับซ้าย กลับขวา หลบเหลี่ยมมุมของตึกอีก เราจึงแบ่งเป็น Type หลักๆ คือ แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนครับ เปิดประตูห้องเข้ามากเจอพื้นที่ในส่วนห้องนั่งเล่นก่อนเลย ซึ่งอารมณ์แรกต้องบอกว่าไม่ค่อยสบายตาเท่าที่ควร เนื่องจากการกำแพงกั้นห้องนอนค่อนข้างทึบ บริเวณห้องนั่งเล่นจึงไม่ค่อยให้ความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ถัดจากห้องนั่งเล่นเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ส่วนห้องน้ำและห้องครัวจะแยกออกไปอยู่อีกด้านของห้องทำให้ได้ห้องครัวแบบปิด ในขณะที่จะเข้าห้องน้ำทีก็ต้องเดินผ่านเข้าออกทางห้องครัวด้วยเช่นกัน พื้นที่ใช้สอยของห้องค่อนข้างกระทัดรัดเลยทีเดียว เพราะห้องแบบ 1 ห้องนอน มีขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 28-34 ตร.ม. โดยที่แต่ละห้องจะมีขนาดต่างกันเพราะ Lay out ของตำแหน่งห้อง บางห้องมีระเบียงกว้าง บางห้องระเบียงแคบนิดเดียว ในขณะที่บางห้องก็มีพื้นที่ห้องนอนกว้างเพราะเป็นส่วนของอาคารที่ยื่นออกไป ดังนั้นการเลือกตำแหน่ง และเลือกแบบห้องให้โดนใจในหลายๆ ด้านจึงเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกันครับ ห้องทั้งหมดขายมาให้แบบห้องเปล่าๆ โล่งๆ มีเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาพร้อมกับห้องก็แค่ ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ด้วยราคาห้องที่เริ่มต้นอยู่ที่ 2 ล้านต้นๆ ในย่านสุขุมวิทใกล้รถไฟฟ้าด้วย จึงหวังของแถมมากไม่ได้ครับ

ความคุ้มค่าน่าลงทุน

ในเรื่องความน่าลงทุน โครงการ Chateau in Town จะได้เปรียบในเรื่องราคาของห้องที่อยู่ในทำเลใกล้ย่านธุรกิจสำคัญของเมือง หากใครที่มีที่ทำงานเกาะอยู่ในแนวรถไฟฟ้า และกำลังมองหาที่พักอาศัยที่เดินทางไปมาสะดวก ที่นี่ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเหมือนกัน จะติดก็แต่ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัว ไม่ว่าจะต้องใช้งานทุกวัน หรือจอดทิ้งไว้เป็นส่วนใหญ่ เรื่องที่จอดรถคงเป็นปัญหาได้เหมือนกันนะครับ เพราะดูยังไงแล้วก็ไม่พอจอดจริงแน่ๆ ในเรื่องสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ก็จัดว่าครับครันดีตามมาตรฐาน มีแค่พอใช้งานได้ ถ้าไม่ได้หวังกับ Facility อลังการงานสร้าง ก็มองผ่านเรื่องนี้ไปได้อีกเรื่อง จะติดขัดอีกทีก็เรื่อง Lay out ห้องนี่แหละครับที่ต้องอาศัยจินตนาการกันให้ดีๆ เวลาเลือกห้อง ให้คิดเผื่อการตกแต่งห้องไว้ด้วย เพราะห้องบางแบบดูจะตกแต่งให้ลงตัวได้ยาก อาจจะต้องอาศัยการ Built-in ซึ่งก็ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย
หากใครคิดจะลงทุนไว้ปล่อยเช่า อาจจะเหนื่อยหน่อย ถึงจะมีบริษัทห้างร้านในระแวกใกล้ๆ แต่ก็ไม่ได้มีจำนวนพนักงานพลุกพล่านเหมือนในย่านธุรกิจกลางเมือง การทำการบ้าน ลงประกาศให้เช่าให้ดีๆ บวกกับราคาและการตกแต่งห้องที่ดึงดูดในน่าจะพอช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ ในโซนรถไฟฟ้าปลายๆ สายสุขุมวิทยังคงมีตัวเลือกอีกมากให้เปรียบเทียบ ถ้าต้องนั่งรถไฟ้ฟ้าไกลออกไปอีก 2-3 สถานีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ยังไงก็ต้องศึกษาปัจจัยต่างๆ ให้รอบครอบไว้ก่อนก็ดีครับ (คลิกดูบทวิเคราะห์การลงทุน)

บทความ รีวิวคอนโด ล่าสุด