ลงทะเบียน

PITI EKKAMAI ใช้ชีวิตให้มีความสุขบนความเรียบง่าย : รีวิวคอนโด

การเดินทาง
อ่านรีวิวอื่นที่เกี่ยวกับ

ชื่อโครงการ  PITI EKKAMAI (ปีติ เอกมัย)

เจ้าของโครงการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

ที่ตั้งโครงการ  ถ.เอกมัย เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

พื้นที่โครงการ  4-2-75 ไร่

ลักษณะโครงการ High Rise

จำนวนอาคาร 1 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A และ B

จำนวนชั้น 37 ชั้น

จำนวนยูนิต 897 ยูนิต 3 ร้านค้า

ขนาดห้อง 1 Bedroom 29.00-31.00 ตร.ม. 35.00, 40.00 ตร.ม.

2 Bedroom 50.00 ตร.ม. 57.00-58.00 ตร.ม. 60.00-64.00 ตร.ม.  

เฟอร์นิเจอร์ Fully Furnished

ที่จอดรถ 70% แบ่งเป็นที่จอดรถปรกติกับ Intelligent Parking System

สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง THIRD PLACE / CO-WORKING SPACE / INFINITED EDGE POOL 50 Meters / HEATED JACUZZI / SUNSET DECK / AMPHITHEATRE / TREE HOUSE / LOBBY / SKY FITNESS / SKY LOUNGE / GOFT SIMULATOR / BIKE SIMULATOR / LIBRARY / SPA ROOM / YOGA ROOM / BOXING ROOM /IKIGAI ROOM

ปีที่สร้างเสร็จ Q1 2564

ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท

ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม.

ค่าส่วนกลาง 59 บาท/ตร.ม.

ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.

จุดเด่นโครงการ ทำเลใจกลางเมือง ไม่ว่าจะอยู่เองก็สะดวกสบาย หรือจะปล่อยเช่าก็ได้ราคาอยู่เสมอ, ได้บริการรอบด้านระดับโรงแรม, ส่วนกลางแนวคิดอิคิไกแบบญี่ปุ่นที่ชั้นบนสุดของอาคาร ทำให้ได้วิวเมืองสวยๆ ไปพร้อมกับความผ่อนคลาย   

ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง BTS สถานีเอกมัย

สถานที่ใกล้เคียง บิ๊กซี เอกมัย, ท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต, เมเจอร์ สุขุมวิท, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, เกตเวย์ เอกมัย, ดิ เอ็มควอเทียร์, ดิ เอ็มโพเรียม

 

ติดต่อโครงการ

ถ.เอกมัย เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110


PITI EKKAMAI ใช้ชีวิตให้มีความสุขบนความเรียบง่าย : รีวิวคอนโด

คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมในความคิดของคุณคืออะไรคะ? จะต้องเป็นคอนโดที่ดูหรูหราราคาแพง ต้องใช้วัสดุนำเข้าเท่านั้นหรือเปล่า แต่ SENA คิดต่างออกไปค่ะ เพราะคอนโดมิเนียม PITI EKKAMAI โครงการระดับพรีเมี่ยม แบรนด์ใหม่ล่าสุดนั้นคำนึงถึง “ความสุข” เป็นหลักค่ะ ความสุขที่ได้อยู่อาศัยในโครงการที่ดี อยู่แล้วสะดวกสบายด้วยเซอร์วิสระดับ Exclusive  เรียบง่ายได้ความสงบเป็นส่วนตัว บนทำเลที่เนื้อหอมที่สุดตลอดกาล    

 

 

ทำเล

 

ในบรรดาคอนโดมิเนียมนั้นไม่มีทำเลไหนที่จะได้รับความนิยมสูงสุดต่อเนื่องมาโดยตลอดเท่าแนวถนนสุขุมวิทช่วงต้น-ช่วงกลางอีกแล้วค่ะ ซึ่งแต่ละช่วงก็มีคาแรคเตอร์แตกต่างกันอย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น เพลินจิต-ชิดลม จะเป็นแหล่งที่ตั้งของคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury และ Office Building เกรด A เต็มไปด้วยเหล่านักธุรกิจ คนทำงาน ถัดมาที่อโศก-พร้อมพงษ์ ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่ระดับกลางๆ ไปจนถึงระดับหรู คึกคักในช่วงกลางวันด้วยกลุ่มมนุษย์ออฟฟิศ และช่วงทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในรีวิวฉบับนี้

 

ย่านทองหล่อ-เอกมัย มีคาแรคเตอร์โดดเด่นชัดเจนในตัวเองมากอย่างที่หากเอ่ยชื่อแล้ว หลายคนคงจะเห็นภาพได้ทันที ด้วยความที่เป็นย่านแห่งไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของคนรุ่นใหม่ สามารถรองรับได้ทุกความต้องการของชีวิตรอบด้านกันแบบ All Day All Night เลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันที่มีคนทำงานละแวกนี้ หรือคนรุ่นใหม่เหล่าฟรีแลนซ์ที่นิยมมานั่งจิบชา ดื่มกาแฟตามร้านคาเฟ่สุดเก๋ไม่เหมือนใคร เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในบรรยากาศดีๆ หรือช่วงกลางคืนก็เต็มไปด้วยสีสันคึกคัก ทั้งร้านอาหารระดับคุณภาพหลากหลายสัญชาติที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนนอกจากทองหล่อ-เอกมัย และยังเป็นแหล่งรวมร้านแฮงค์เอาท์สุดฮิตไว้มากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น บิ๊กซี เอกมัย, ท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต ทองหล่อ, เมเจอร์ สุขุมวิท, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ฯลฯ รวมถึงห้างสรรพสินค้าอย่าง เกตเวย์ เอกมัย, ดิ เอ็มควอเทียร์, ดิ เอ็มโพเรียม ที่ห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร 

 

 

ในแง่ของการเดินทางไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือระบบขนส่งสาธารณะก็สะดวกสบายค่ะ เพราะถนนเอกมัยนั้นมีเส้นทางเชื่อมต่อเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง นอกจากถนนสุขุมวิทที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ได้เดินทางเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วเพียง 10 นาทีถึงสถานีสยามแล้ว ปลายถนนเอกมัยก็เชื่อมต่อกับถนนเพชรบุรี โดยตามซอยเอกมัยก็ยังสามารถทะลุไปถึงทองหล่อ และสุขุมวิทซอย 71 (ปรีดี พนมยงค์) ได้ ทำให้การเดินทางสะดวกคล่องตัว

 

Floor Plan

Master Plan เริ่มจากอาคาร 3 ชั้นด้านหน้า มี Drop Off ด้านหน้าก่อนถึงอาคาร B และเชื่อมต่อกับอาคาร A ด้านในสุด ซึ่งหน้าโครงการที่ติดกับถนนนั้นคือทิศตะวันตก ลักษณะที่ดินยาวลึกเข้าไปทางทิศตะวันออกด้านในสุดของโครงการ

 

Floor Plan ชั้น 2 พื้นที่จอดรถแบบปรกติ

 

 

Floor Plan ชั้น 4-7 เป็นที่จอดรถแบบอัตโนมัติ

Floor Plan ชั้น 9 อาคาร A ด้านในสุดของโครงการ ซึ่งเป็นอาคารที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน สำหรับอาคาร B ด้านหน้า คาดว่าจะเปิดขายประมาณช่วงปลายปีนี้ค่ะ โดยชั้น 9 นี้เป็นชั้นเริ่มต้นของยูนิตพักอาศัยค่ะ ซึ่งจะมีห้องพักหันออกทางทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก

Floor Plan ชั้น 10-24 อาคาร A

Floor Plan ชั้น 37 Roof Top ของโครงการ ที่เป็น Facility หลัก สามารถใช้งานได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น  INFINITED EDGE POOL, HEATED JACUZZI, TREE HOUSE, LOBBY, SKY FITNESS, SKY LOUNGE, GOLF SIMULATOR, BIKE SIMULATOR, LIBRARY, SPA ROOM IKIGAI ROOM ฯลฯ

 

 

Unit Plan

1 Bedroom 29 ตร.ม. ได้ห้องแบ่งเป็นสัดส่วน แม้จะเป็นยูนิตขนาดเริ่มต้นของโครงการ โดยจุดเด่นคือได้เฟอร์นิเจอร์ครบครันตาม Plan ที่เห็น และห้องน้ำแบบ Triple Function แยกสัดส่วนตามการใช้งาน

 

1 Bedroom 31.5 ตร.ม. ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิด แต่จะได้พื้นที่ Living Room และห้องนอนเพิ่มมากขึ้น แม้จะอยู่อาศัยกัน 2 คนก็ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ 

 

 

 

1 Bedroom 40 ตร.ม. แปลนห้องยอดฮิตของโครงการเลยค่ะ เพราะจะได้ห้องทำงานเพิ่มขึ้น หรือจะดัดแปลงเป็นห้องนอนอีก 1 ห้องก็ได้นะคะ และยังได้ระเบียงห้องยาวๆ สำหรับไว้วางเก้าอี้นั่งพักผ่อนได้

 

2 Bedroom 57 ตร.ม. สำหรับห้องหน้ากว้างแบบนี้เหมาะสำหรับการอยู่ร่วมกับเป็นครอบครัวมากยิ่งขึ้นค่ะ โดยจะแบ่ง Common Area และ Private Zone จากกันชัดเจน และยังได้ห้องครัวปิดที่มาพร้อมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และเตาอบครบครัน 

 

2 Bedroom 64 ตร.ม. ห้องหน้ากว้างขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการค่ะ ได้ Space ทุกส่วนมาเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวปิด ระเบียงกว้างขวาง Common Area ที่สามารถชวนเพื่อนมาปาร์ตี้กันได้สบายๆ และส่วนของห้องนอนอีก 2 ห้อง 

 

 

 

 

 

PITI EKKAMAI วางแนวคิดตาม IKIGAI ปรัชญาการค้นหาความหมายของชีวิต จากชาวโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น

 

 

ภาพรวมโครงการ

 

PITI EKKAMAI คอนโดมิเนียม Flagship ระดับพรีเมี่ยม จากเสนา ที่ร่วมทุนกับบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของวงการอสังหาริมทัพย์ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมาในรูปแบบของ High Rise สูง 37 ชั้น 1 อาคาร โดยแบ่งออกเป็นอาคาร A และ B ทั้งหมด 879 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิตหน้าโครงการ ที่จอดรถมากถึง 70% มีทั้งที่จอดรถเข้าซองปรกติบนชั้น 1-3 และที่จอดรถแบบ Intelligent Parking System ชั้น 4-8 ส่วนยูนิตพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9-36 รวมพื้นที่โครงการทั้งหมด 4–2-75 ไร่

 

แนวคิด IKIGAI (อิคิไก) ปรัชญาแบบฉบับญี่ปุ่นในการหาความหมายของการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในทุกๆ วันที่ตื่นขึ้นมา ด้วยสิ่งเล็กๆ รอบตัว ไม่ต้องขวนขวายจากที่ไหน แค่มองไปรอบตัวก็พบเจอได้ เช่น การตื่นขึ้นมาสัมผัสกับแสงแดดอ่อนยามเช้า, ได้นั่งดื่มกาแฟชั่นเลิศ, ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวภายในบ้านของเราเอง, ได้ออกกำลังกายให้เหงื่อชุ่มตัว ฯลฯ โดยอิคิไกของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และไม่จำเป็นต้องมีเพียงอย่างเดียว โครงการนี้จึงเกิดขึ้นมาโดยนำมาประยุกต์ใช้ ให้เข้ากับวิถีชีวิตอันหลากหลายได้อย่างลงตัว จนเกิดเป็นความสุขทุก Moment ของการใช้ชีวิต ใน PITI EKKAMAI 

 

เติมเต็มความพรีเมี่ยม ด้วย Elite Services

 

ความโดดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่มีบริการระดับพรีเมี่ยม สำหรับคอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านแบบที่ไม่เคยมีในคอนโดมิเนียมไหนมาก่อน มาพร้อมกับบริการหลังการขายบน Application เดียว โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

Elite Service

 

Midnight Reception and Butler Service พนักงานบริการตั้งแต่ 7.00-24.00 น. ไม่ว่าจะบริการแจ้งข่าวสารทั่วไป เรียกแท็กซี่ รับฝากบ้าน ขึ้นห้องพักอาศัยไปกับช่างซ่อม ส่งอาหาร ส่งดอกไม้ เป็นต้น

Bellman พนักงานบริการช่วยยกกระเป๋าสัมภาระ เปิดประตู และช่วยเหลือบริเวณลิฟท์

Laundry Service Shop มีร้านบริกการซัก รีด

Parking Guidance Systems มีหน้าจอโชว์ช่องจอดรถยนต์ที่ว่าง

Access Control การผ่านเข้ามาในโครงการ และการเข้าใช้ Facility ต่างๆ จะต้องผ่านระบบ Access Control ไม่ว่าจะด้วยคีย์การ์ด สแกนนิ้ว หรือรหัสผ่าน

Shuttle Car Service บริการรถรับ-ส่ง จากโครงการ-บีทีเอส-ทองหล่อ ตลอด 24 ชม. โดยสามารถเช็ครอบเวลาการเดินรถ หรือหลังเที่ยงคืนไปแล้วก็สามารถกดเรียกได้จาก Application และยังมีบริการคนขับรถเป็นผู้หญิง เพื่อความอุ่นใจของลูกบ้านอีกด้วย

 

SENA 360 Service Application

 

บริการหลังการขายแบบครบวงจร ดูแลลูกบ้านตลอด 24 ชม. เช่น ติดต่อนิติบุคคล แจ้งเตือนพัสดุ แจ้งซ่อมได้ตลอด 24 ชม. เปิดดู CCTV ได้ทุกเวลา ดูการทำงานของโซลาร์เซล เรียกรถรับ-ส่ง ได้ตลอด 24 ชม. พร้อมกับดูสถานะการมาถึงของรถได้ และบริการฝากขาย-เช่า โดย Acute Realty เอง

 

Facility เน้นความเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ออกแบบให้สอดคล้องและเกื้อหนุนกับการใช้ชีวิตในแบบ IKIGAI เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้ได้มากที่สุด โดยจะแบ่งออกเป็น 2 จุดใหญ่ๆ นั่นคือชั้นล่างสุด ตั้งแต่หน้าโครงการจนถึงใต้อาคาร และที่ Roof Top ชั้น 37 ที่ให้ทั้งความ Active และ Passive ควบคู่กันไป อย่างโซน Active ก็จะมีทั้งสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร ฟิตเนสที่มีโซน Boxing Room Active, Bike Simulator และ Golf Simulator สำหรับโซน Passive เช่น Heated Pool & Jacuzzi,Spa Room, Yoga room, Ikigai room ให้ได้นั่งสงบจิตใจท่ามกลางบรรยากาศความเงียบสงบล้อมรอบไปด้วยเสียงของสายน้ำ ซึ่ง Facility รวมพื้นที่แล้วกว่า 1,900 ตร.ม. ถือเป็นว่าเป็นส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดในเอกมัย

 

The Third Place หน้าโครงการ เป็นอาคาร 3 ชั้น ที่จะมีทั้งร้านกาแฟคุณภาพ CASA Lapin ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และชั้นบนสุดจะเป็น Co-Working Space ส่วนตัวสำหรับลูกบ้านเท่านั้น

 

Lobby ยังคงกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ดูเรียบง่าย อบอุ่น ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาตินอกอาคารด้วยกระจก High Ceiling 

 

ฟิตเนสชั้น 37 แบ่งโซน For His และ For Her ล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling เห็นวิวเมืองได้รอบด้าน โดยกลางฟิตเนสจะปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้ สูงขึ้นไปถึง Roof Top ด้านบน  

 

Sky Lounge ที่เป็น Co-Kitchen Space พร้อมอุปกรณ์ ไปด้วยในตัว ให้ได้ขึ้นมามีตติ้งกับเพื่อน หรือครอบครัวได้ในวันสบายๆ

 

Golf Simulator เอาใจคนรักกอล์ฟ แม้จะไม่มีเวลาออกรอบก็มาฝึกซ้อมก่อนได้

 

 

ชมห้องตัวอย่าง

 

เราเดินทางมาถึง Sale Gallery อยู่ระหว่างซอยเอกมัย 26 กับ 28 เยื้องกับปั๊มน้ำมันบางจากค่ะ ซึ่ง Sale Gallery ที่เห็นนี้ในอนาคตด้านในจะถูกปรับ Layout ใหม่ให้เป็น The Third Place มีทั้งร้านกาแฟฝีมือคนไทยระดับคุณภาพอย่าง Casa Lapin ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และ Co-Working Space ชั้นบนสุดที่สงวนไว้ให้เฉพาะลูกบ้าน 

 

ตั้งแต่เริ่มทางเข้าก็ถูกตกแต่งให้มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ตามแนวคิดของโครงการที่วางเอาไว้ค่ะ

 

 

ภายใน Sale Gallery จะมีโมเดลของโครงการตั้งอยู่ค่ะ ซึ่งจะเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าโครงการนี้ติดถนนเอกมัย ลักษณะที่ดินลึกเข้าไป มี The Third Place อยู่ด้านหน้า และตัวอาคารถูกแยกออกเป็นอาคาร A ด้านในสุดของพื้นที่โครงการ และอาคาร B ทางด้านหน้าโครงการ ส่วน Facility จะถูกยกขึ้นไปไว้บน Roof Top ชั้น 37 โดยหน้าโครงการจะหันไปทางทิศตะวันตก ส่วนยูนิตพักอาศัยจะหันออกทางทิศใต้ (ได้วิวถนนสุขุมวิท) และทิศเหนือ (ได้วิวถนนเพชรบุรี) เป็นหลักค่ะ

 

เรามาดูกันที่โมเดลเฉพาะส่วน Facility ชั้น 37 กันค่ะ

 

เริ่มจากห้องฟิตเนสฝั่งด้านหน้าโครงการ จะถูกล้อมรอบไปด้วยกระจก High Ceiling โดยจะแบ่งฟิตเนสออกเป็นโซน For His กับ For Her ด้านบนฟิตเนสเป็นสวนสีเขียวสำหรับพักผ่อนค่ะ 

 

มองจากด้านนี้จะเห็นโซน Boxing ที่เชื่อมต่อจากภายในฟิตเนสค่ะ ส่วนบันไดทางขึ้นที่เชื่อมระหว่างชั้น 37 กับ Roof Top จะมีไฮไลท์คือ Tree House

 

ด้านบนฟิตเนสจะมีที่นั่งไล่ระดับ Amphitheatre และลานอเนกประสงค์ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และพื้นที่สีเขียว

 

 

ถัดมาจะพบกับสระว่ายน้ำ หันไปทางทิศใต้ค่ะ โดยจะมีการแยกสระเด็กเอาไว้ที่มุมใกล้กับที่นั่งพักผ่อน สำหรับผู้ปกครองคอยดูแลบุตรหลานเวลาเล่นน้ำค่ะ โดยสระว่ายน้ำจะเป็น Infinited Edge Pool ยาว 50 เมตร

 

ด้านในจะเป็นสระน้ำอุ่นพร้อม Jacuzzi ค่ะ ส่วนด้านบนสระว่ายน้ำจะเป็น Sky Lounge ซึ่งเป็น Co-Kitchen Space ไปด้วยในตัวให้ได้มาสังสรรค์ เปลี่ยนบรรยากาศทำอาหารร่วมกันกับเพื่อนหรือรอบครัว พร้อมชมวิวเมืองผ่านกระจก High Ceiling รอบด้าน 

 

มาดูทางทิศใต้กันบ้างค่ะ ตรงนี้จะเป็น Ikigai Room มีพื้นที่ตรงกลางให้ได้นั่งฟังเสียงน้ำไหลที่ล้อมรอบตัวอยู่ เป็นความสุขง่ายๆ ในความสงบนิ่งอยู่รอบตัว

 

ช่วงกลางของ Facility จะเป็น Library ตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ได้วิวทั้งสองฝั่ง

 

ตามสไตล์ของโครงการจาก SENA ค่ะ ไม่ลืมที่จะติดตั้งโซลาร์เซล สำหรับดึงพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในส่วนกลาง ช่วยประหยัดค่าไฟลงไปอีกเยอะเลยค่ะ

 

Type 1 Bedroom 31.50 ตร.ม. 

 

เรามาเริ่มเปิดห้องตัวอย่างดูกันทีละห้องค่ะ โดยห้องตัวอย่างจะมีทั้งหมด 4 ห้อง เริ่มจากขนาด 31.50 ตร.ม. เมื่อผ่านประตูห้องที่ติดตั้ง Digital Door Lock จากแบรนด์ Yale เอาไว้ทุกยูนิตแล้ว ก็จะพบกับห้องครัวปิดก่อนค่ะ โดยจะกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ภายในห้องใช้ไฟ Downlight 

 

 

หันไปดูทางซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ สีขาว ใต้ตู้ด้านบนติดตั้งไฟ LED เพิ่มแสงสว่างเวลาทำครัวค่ะ แต่เครื่องซักผ้าที่เห็นจะไม่ได้มาด้วยนะคะ

 

มีการเก็บบัวผนัง พร้อมกับกรุกระเบื้องลายหินอ่อนเอาไว้ตลอดแนวเคาน์เตอร์ค่ะ นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังทำให้เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่ายขึ้นด้วย

 

ฟังก์ชั่นเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้องค์ความรู้มาจากญี่ปุ่นแบบนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของ SENA ในโครงการรุ่นใหม่ๆ ทีเดียวค่ะ โดยตรงนี้สามารถดึงลงมาตามภาพสำหรับเป็นที่วางแก้ว

 

ซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ จากแบรนด์ MEX มาพร้อมกับแผ่นหินสังเคราะห์สีขาว วางไว้เข้าล็อคกันกับตัวซิงค์ สำหรับเป็นที่พักจานเวลาล้างเสร็จใหม่ๆ หรือจะใช้เป็นเขียงก็ได้ค่ะ

 

ตู้เก็บของด้านบนค่ะ จะมีชั้นสำหรับเก็บจานเอาไว้ให้ด้วย

 

 

หันหลังกลับไปทางฝั่งขวามือจากประตูห้องค่ะ จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน จากแบรนด์ MEX พร้อมช่องวางไมโครเวฟด้านล่าง และช่องสำหรับวางตู้เย็นทางขวามือ

 

ตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านข้าง Built In มาให้ตามนี้เลยค่ะ

 

ถัดเข้ามาด้านในห้องกันบ้างค่ะ พื้นห้องทุกยูนิตจะใช้วัสดุ Hybrid Engineering ขนาด 24X200 ซม. มีคุณสมบัติให้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริงมาก น้ำไม่ซึมทำให้ไม่มีปัญหาพื้นบวมภายหลัง

 

Living Room มีขนาดกว้างขวางกำลังดีค่ะ ไม่รู้สึกอึดอัดมาก Floor To Ceiling 2.7 ผนังกับเพดานห้องจริงจะเป็นพื้นขาวฉาบเรียบค่ะ  

 

เคาน์เตอร์ทีวีจะได้ Built In ไม้ติดผนังตามแบบที่เห็นค่ะ แต่จะไม่ได้ลิ้นชักสีขาวมาด้วยนะคะ

 

โซฟาหุ้มด้วยผ้าสีเทาขนาด 2 ที่นั่ง มาพร้อมกับโต๊ะกลางทำจากอลูมิเนียมสีทองแดง Top ด้วยหินอ่อนสีขาว ทางโครงการให้มาแบบนี้เลยค่ะ

 

ด้านในสุดของ Living Room จะมีโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้บุนวมหุ้มด้วยผ้าสีเทา ซึ่งใกล้เคียงกันกับสีของโซฟา ให้มาครบเซตค่ะ 

 

โต๊ะทานข้าว Top ด้วยหินอ่อน สีดำลายสีขาว ทำให้ห้องดูหรูหรามากขึ้น

 

หน้าต่างของห้องใช้แบบบานกระทุ้ง ขอบอลูมิเนียมสีดำค่ะ

 

 

หลังโต๊ะทานข้าวจะมีประตูบานสวิงเปิดออกไประเบียงได้

 

เครื่องปรับอากาศจากแบรนด์ Daikin จะติดตั้งเอาไว้ให้เหนือประตูกระจกที่กั้นห้องครัวค่ะ สำหรับห้องนอนด้านหลังโซฟาจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม 3 ตอน ซึ่งเป็นกระจกสูงชิดเพดานห้อง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

 

มีระยะห่างระหว่างประตูกั้นห้องนอนกับเตียงอยู่พอสมควรค่ะ ไม่ได้แน่นเต็มพื้นที่จนเกินไป

 

เตียงนอนขนาด 5 ฟุตก็ได้มาด้วยนะคะ แต่จะไม่ได้ฟูกกับผ้าม่าน ซึ่งตามห้องตัวอย่างที่เห็นนี้มีการตกแต่งผนังด้านหัวเตียง ทำให้เตียงขยับออกมากเล็กน้อย ซึ่งห้องจริงนั้นจะได้พื้นที่ปลายเตียงมากกว่านี้ค่ะ

 

เครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนจะถูกติดตั้งด้านข้างเตียง เหนือประตูกระจกบานเลื่อนที่กั้นส่วนระเบียงค่ะ

 

ระเบียงจะมีธรณีประตูกั้นสูงขึ้นมาเล็กน้อยค่ะ โดยพื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ

 

 

ทางขวามือของระเบียงจะพบกับประตูบานสวิงที่เชื่อมต่อกับ Living Room หลังโต๊ะทานข้าวเมื่อสักครู่ค่ะ มีข้อดี เช่น เวลาอยู่อาศัยจริงหากคุณผู้หญิงนอนหลับแล้ว แต่ผู้ชายยังดูทีวีหรือทำงานก็สามารถเดินออกนอกระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ถือเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกคิดขึ้นมาเพื่อลูกบ้านได้ดีค่ะ

 

Condensing Unit ถูกแขวนไว้เหนือศีรษะ หันออกนอกอาคารพร้อมติดตั้งกริลมาให้ด้วยค่ะ  

 

ด้านข้างอีกฝั่งของเตียงจะมี Built In ตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ตู้แยกกันค่ะ โดยฝั่งด้านซ้ายจะมีหน้าบานไม้ ส่วนตู้ขวาหน้าบานเป็นกระจกสีดำ ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำค่ะ

 

 

ภายในตู้เสื้อผ้าด้านซ้ายมือจะมีชั้นวางของเอาไว้ให้ถึงครึ่งตู้ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่มีของใช้จุกจิกค่ะ

 

 

บานตู้ด้านในติดตั้งกระจกยาวเต็มตัวมาให้ด้วยค่ะ

 

ส่วนตู้ทางขวามือก็เหมาะกับผู้ชายที่เน้นการแขวนเสื้อผ้าเป็นหลัก

 

ภายในตู้มีสวิทช์ไฟมาให้ด้วยค่ะ ซึ่งหากเปิดไฟแล้วมองจากภายนอกก็จะสามารถเห็นด้านในตู้ทั้งหมด แต่ถ้าไม่เปิดไฟก็จะกลายเป็นตู้ทึบค่ะ

 

ห้องน้ำในทุกยูนิตจะถูกแบ่งเป็น Triple Function แยกสัดส่วนกันอย่างชัดเจนค่ะ 

 

กลางห้องน้ำเป็นส่วนแห้งที่มีอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง ส่วนด้านบนเป็นตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงา สามารถเปิดออกได้ 2 บาน

 

สำหรับตู้กระจกด้านบนของจริงที่ได้มาจะมีขนาดเล็กและสั้นลงกว่าตามห้องตัวอย่างที่เห็นนะคะ เวลาใช้งานจริง เมื่อก้มลงจะได้ไม่ชนกับศีรษะ

 

ขวามือเป็นห้องสุขภัณฑ์ค่ะ จะถูกกั้นโดยกระจกขุ่นบานสวิง ด้านในมีการเจาะผนังสำหรับเป็นที่วางของได้ด้วย

 

ส่วนฝั่งซ้ายเป็นส่วนเปียกจะกั้นด้วยประตูกระจกขุ่นบานสวิง มีธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อย

 

ภายในมีทั้งฝักบัว กับ Rain Shower มาให้ทั้งสองอย่างค่ะ 

 

มีการติดตั้งท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น มาให้เรียบร้อยเลยค่ะ ลูกบ้านไม่ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเองก็สามารถใช้งานได้เลย

 

Type 1 Bedroom 35 ตร.ม. 

 

 

ห้องตัวอย่างถัดมา มีขนาดเพิ่มขึ้นมานิดค่ะ โดยส่วนแรกจะเป็นห้องครัวปิดเช่นกัน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค กั้นส่วนครัวด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม สีดำ เคาน์เตอร์ครัวได้มาแบบ Double Wall Kitchen 

 

เคาน์เตอร์ครัวทางขวามือ Top หินสังเคราะห์ สีขาว ผนังด้านในกรุกระเบื้องลายหินอ่อน เพื่อความสวยงามและทำความสะอาดง่าย

 

นอกจากฟังก์ชั่นที่วางแก้วแบบนี้แล้ว ยังมีราวสำหรับแขวนอุปกรณ์และที่วาง Ipad สำหรับใครที่ชอบเปิดคลิปสอนทำอาหารไปด้วย ทำตามไปด้วยก็สะดวกสบายยิ่งขึ้นค่ะ

 

บานตู้และลิ้นชักทั้งหมดจะติดตั้งระบบ Soft Close ค่ะ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น 

 

ซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์จะดูเรียบร้อยสวยงามมากกว่า และยังป้องกันน้ำกระเด็นออกมาเวลาใช้งานด้วยค่ะ

 

ลิ้นชัก และตู้ใต้ซิงค์ล้างจานจะมีฟังก์ชั่นให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บมีด ที่วางช้อน-ส้อม ถังขยะที่ติดตั้งมากับบานตู้ และที่วางจานก็สามารถดึงออกแยกออกมาได้ทั้ง 2 ชิ้นค่ะ

 

เคาน์เตอร์ฝั่งซ้ายมือจะมีช่องสำหรับวางตู้เย็น ช่องสำหรับวางไมโครเวฟด้านล่างเคาน์เตอร์ มาพร้อมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควัน ส่วนผนังด้านในยังคงกรุกระเบื้องลายหินอ่อนให้เช่นกันค่ะ

 

 

ลึกเข้ามาที่ห้อง Living Room ค่ะ พื้นปูด้วย Hybrid Engineering ขนาด 24X200 ซม. ห้องจริงจะเป็นผนังและเพดานแบบฉาบเรียบสีขาวนะคะ 

 

โต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้บุนวมหุ้มด้วยผ้า 2 ตัว ทางโครงการให้มาด้วยนะคะ

 

Top โต๊ะเป็นหินอ่อนสีดำลายสีขาวค่ะ ถือว่าให้เฟอร์นิเจอร์มาครบครันแล้วยังเป็นวัสดุที่ดีด้วยนะคะ

 

เคาน์เตอร์ทีวีเป็นไม้ลักษณะยาวมีช่องให้เก็บของ Built In ติดผนัง ได้มาแบบนี้เลยค่ะ

 

โซฟาหุ้มด้วยผ้าสีเทา วางอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ทีวีค่ะ โดยด้านหลังโซฟาจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

 

เข้ามาด้านในสุดของห้องติดริมหน้าต่างก็จะได้โต๊ะทำงานยาวๆ พร้อมเก้าอี้บุนวมหุ้มด้วยผ้าแบบนี้มาด้วยนะคะ

 

Top โต๊ะทำงานยังคงใช้หินอ่อนแบบเดียวกันกับโต๊ะทานข้าวค่ะ มีพื้นที่สำหรับวางของได้เยอะทีเดียว ส่วนหน้าต่างจะใช้แบบบานกระทุ้งอยู่ทางซ้ายมือของโต๊ะค่ะ

 

หน้าต่างจะได้กระจกเข้ามุมค่ะ เพิ่มมุมมองให้เห็นทิวทัศน์ด้านนอกกว้างมากขึ้น

 

ด้านข้างมีประตูบานสวิงเปิดออกไปที่ระเบียงได้ค่ะ เป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนมากขึ้น เพราะไม่ต้องเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนที่จะออกไปที่ระเบียง

 

ห้องนี้ก็ยังคงได้โต๊ะกลางที่ทำจากอลูมิเนียมสีทองแดงกับ Top ลายหินอ่อนค่ะ

 

ภายในห้องนอนมีพื้นที่กว้างทีเดียวค่ะ โดยในห้องตัวอย่างจะ Built In หัวเตียงให้มีช่องเก็บของด้านข้าง แต่สำหรับห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบ ก็จะทำให้ปลายเตียงมีพื้นที่เพิ่มอีก ซึ่งหากวางเตียงขนาด 5 ฟุตแบบนี้ไว้ก็ยังคงมีทางเดินได้รอบเตียงค่ะ

 

เหนือประตูกระจกจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบรนด์ Daikin ไว้ให้ค่ะ

 

 

ออกมาดูที่ระเบียงซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ

 

 

Condensing Unit แขวนไว้ด้านบน หันหน้าออกนอกอาคาร 

 

ด้านข้างเตียงอีกฝั่งจะ Built In ตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ตู้ค่ะ โดยซ้ายมือหน้าบานเป็นกระจกสีดำ ส่วนขวามือหน้าบานไม้เช่นเดียวกันทุกยูนิตค่ะ

 

ตู้เสื้อผ้าทางขวามือยังคงติดตั้งกระจกเงาแบบเต็มตัวมาให้แบบนี้ทุกยูนิตค่ะ

 

ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ทางโครงการก็ไม่ลืมเพิ่มเติมมาให้ค่ะ อย่างที่แขวน 2 ชิ้นนี้ที่ติดตั้งอยู่ข้างตู้เสื้อผ้าก็สามารถแขวนผ้าเช็ดตัว หรือหมวกได้

 

ห้องน้ำอยู่ระหว่างตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ แบ่งเป็น Triple Function โดยใช้กระจกขุ่นบานสวิงกั้นทั้ง 3 โซน

 

ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง ซึ่งห้องจริงจะมีการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ในตู้เก็บของนี้ด้วยค่ะ ส่วนตู้หน้าบานกระจกเงาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน สามารถเปิดเก็บของได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

 

ฝั่งซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระ และแกนใส่ทิชชู่

 

เหนือโถสุขภัณฑ์จะมีการเจาะช่องสำหรับวางของเอาไว้ด้วยค่ะ

 

ส่วนขวามือเป็นส่วนเปียกที่มีทั้งฝักบัวกับ Rain Shower พร้อมระบบน้ำร้อนมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ 

 

 

Type 1 Bedroom 40 ตร.ม. 

 

มาถึงห้องที่ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าดีที่สุด จนเรียกได้ว่าเปิดจองปุ๊บห้องแปลนนี้ก็หมดปั๊บเลยค่ะ กับ Type 1 Bedroom 40 ตร.ม. โดยจะเริ่มจากห้องครัวปิดเช่นเคยค่ะ แล้วกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนก่อนจะเข้าสู่ Living Room 

 

มาดูเคาน์เตอร์ครัวทางซ้ายกันก่อนค่ะ ใช้วัสดุ Top หินสังเคราะห์ สีขาว เพื่อความทนทานในการใช้งาน และยังทนต่อความชื้นมากกว่าด้วยค่ะ ผนังด้านในกรุ  กระเบื้องลายหินอ่อน นอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้วยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายมากกว่าที่จะปล่อยให้เป็นผนังปรกติ

 

ตู้ด้านบน และที่วางแก้ว ได้ฟังก์ชั่นแบบเดียวกันทุกยูนิตค่ะ

 

ซิงค์ล้างจานจากแบรนด์ MEX พร้อมแผ่นพลาสติกหนา ให้ได้ใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะวางจานหลังล้างเสร็จแล้ว หรือใช้เป็นเขียงก็ได้ค่ะ

 

สวิทช์เปิด-ปิด ไฟใต้ตู้ด้านบนค่ะ นอกจากจะช่วยเพิ่มแสงสว่างแล้ว ยังทำให้การทำครัวปลอดภัยยิ่งขึ้นค่ะ

 

ลิ้นชักแบ่งฟังก์ชั่นสำหรับเก็บอุปกรณ์ ถังขยะที่ติดมากับบานตู้ใต้ซิงค์ล้างจาน และที่วางจานสามารถเลื่อนออกมาจากในตู้ได้ และสามารถยกออกมาใช้งานได้

 

 

เคาน์เตอร์ครัวฝั่งตรงข้ามกัน จะมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควันจากแบรนด์ MEX และมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟไว้ด้านล่าง และวางตู้เย็นด้านข้าง

 

 

มีตู้สำหรับเก็บของทั้งด้านบนและด้านข้าง ซึ่งตู้ทรงสูงด้านข้างนั้น สามารถใช้เก็บร่มหรือโต๊ะรีดผ้าได้ค่ะ

 

เข้ามาใน Living Room กันค่ะ จะวางโซฟาด้านซ้าย ตรงข้ามกันจะได้เคาน์เตอร์ทีวีมาด้วยค่ะ โดยมีระยะห่างจากทีวีพอสมควรไม่ชิดให้เสียสายตาจนเกินไปค่ะ 

 

โต๊ะทานข้าวมาพร้อมกับเก้าอี้บุนวมหุ้มด้วยผ้า วางไว้ที่มุมข้างเคาน์เตอร์ทีวีค่ะ

 

Top โต๊ะใช้หินอ่อนสีดำ ลายสีขาวค่ะ ช่วยเพิ่มให้ห้องดูหรูหราสวยงามมากขึ้น

 

เคาน์เตอร์วางทีวีเป็นไม้ยาวเกือบจะตลอดแนวผนัง

 

โครงการจะให้มาทั้งโต๊ะกลางอลูมิเนียมสีทองแดง Top หินอ่อน และโซฟาหุ้มด้วยผ้าขนาด 2 ที่นั่ง ถัดจากโซฟาเข้าไปด้านในสุดของห้องจะเป็นห้องทำงานค่ะ โดยกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำอีกชั้นหนึ่ง

 

ภายในห้องทำงานนี้มีพื้นที่พอดีๆ ไม่คับแคบจนเกินไปค่ะ ใครที่ทำงานจากที่บ้านจะต้องชอบห้องนี้แน่นอนค่ะ เพราะเป็นส่วนตัวมากทีเดียว

 

ภายในห้องทำงานนี้จะได้ทั้งโซฟา และโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้แบบนี้มาให้ค่ะ

 

โต๊ะทำงานมีลักษณะแคบยาว Top หินอ่อนสีดำ ดูเป็นห้องทำงานที่หรูหราทีเดียวค่ะ

 

ภายในห้องทำงานก็มีเครื่องปรับอากาศติดตั้งมาให้แยกจาก Living Room ด้วยนะคะ โดยจะติดตั้งเหนือประตูกระจกบานเลื่อนด้านข้างโต๊ะทำงาน ซึ่งกั้นระเบียงเอาไว้ค่ะ 

 

ระเบียงของห้องนี้จะมีลักษณะเป็นตัว L ค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ

 

 

มองจากมุมระเบียงจะเห็นชัดขึ้นค่ะว่าสามารถออกมาที่ระเบียงได้จากทั้งห้องทำงานทางซ้ายมือ และห้องนอนตรงกลางค่ะ

 

 

Condensing Unit แขวนเอาไว้ด้านบนพร้อมติดตั้งกริลเพื่อความสวยงามของอาคาร และยังช่วยผลักลมร้อนออกนอกอาคารด้วยค่ะ 

 

กลับเข้ามาภายในห้องนอนกันต่อค่ะ โดยจะมีเตียงขนาด 5 ฟุตให้ แต่จะไม่มีฟูกกับผ้าม่านมาให้นะคะ เครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนจะติดตั้งเอาไว้เหนือประตูกระจกบานเลื่อนที่กั้นส่วนระเบียงเอาไว้ค่ะ

 

ด้านข้างเตียงจะได้ตู้เสื้อผ้า Built In 2 ตู้ค่ะ โดยตู้ด้านขวามือหน้าบานกระจกสีดำ มีไฟภายในตู้มาให้ และตู้ทางซ้ายมือหน้าบานไม้ ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำค่ะ

 

ห้องน้ำแยกเป็น 3 ส่วน โดยใช้กระจกบานสวิงกั้นค่ะ ตรงกลางนี้เป็นอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง และตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงาด้านบน

 

 

ทางขวาเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระ และแกนใส่ทิชชู่

 

เหนือโถสุขภัณฑ์จะเจาะช่องสำหรับวางของเอาไว้ค่ะ

 

ส่วนเปียกมีทั้งฝักบัว และ Rain Shower เพิ่มความสดชื่นเวลาอาบน้ำค่ะ 

 

 

Type 2 Bedroom 57 ตร.ม. 

 

มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายกันแล้วนะคะ ซึ่งเป็นห้องแบบ 2 Bedroom 57 ตร.ม. พื้นใช้วัสดุ Hybrid Engineering ผิวสัมผัสคล้ายกับไม้จริงมากกว่าไม้ Engineering ปรกติค่ะ โดยส่วนแรกของห้องจะเป็น Common Area ขวามือเป็นห้องครัวปิด และซ้ายมือเป็น Living Room ค่ะ 

 

ซ้ายมือจากประตูห้องเป็นห้องครัวปิดค่ะ โดยจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำ

 

มีตู้ทรงสูงอยู่ด้านข้างประตูครัวค่ะ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกเยอะ

 

ภายในห้องครัวจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค เคาน์เตอร์ครัววางแบบ U Shape ซึ่ง Top ครัว ใช้วัสดุหินสังเคราะห์ค่ะ  

 

สำหรับห้อง 2 Bedroom จะได้เตาอบด้านล่างจากแบรนด์ MEX แบบนี้มาให้ด้วยนะคะ

 

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ซึ่งทุกยูนิตจะเป็นการดูดควันแบบต่อท่อออกนอกอาคารค่ะ หมดปัญหาเรื่องกลิ่นและควันแน่นอน

 

ซิงค์ล้างจานแบรนด์ MEX

 

สวิทช์เปิด-ปิดไฟ ที่ติดตั้งเอาไว้ใต้ตู้ด้านบน มีที่วาง Ipad มาพร้อมฟังก์ชั่นวางแก้วเช่นเคยค่ะ

 

ในครัวสามารถมองออกไปเห็น Living Room ทำให้แสงสว่างจากด้านนอกผ่านระเบียงส่องถึงด้านในครัวได้ ไม่ทำให้ดูอับทึบจนเกินไปค่ะ 

 

ใกล้กับประตูครัวจะมีช่องวางตู้เย็นขนาด 2 ประตูได้พอดีเลยค่ะ เหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว

 

ออกมาจากห้องครัวมาดูที่ Living Room กันต่อค่ะ กลางห้องจะวางโต๊ะทานข้าวขนาด 3-4 ที่นั่งเอาไว้ 

 

ข้างโต๊ะทานข้าวจะมีหน้าต่างกระจกใส แต่จะไม่สามารถเปิดออกได้นะคะ ซึ่งห้องจริงมุมนี้ก็จะได้วิวเมืองโล่งๆ ให้ได้นั่งพักสายตา

 

โต๊ะที่ได้มาสำหรับห้องนี้จะเป็น Top กระจกค่ะ มาพร้อมเก้าอี้ทั้ง 3 ตัว ซึ่งจะมีทั้งแบบบุนวมหุ้มด้วยผ้า 2 ตัว และบุนวมหุ้มด้วยหนังอีก 1 ตัว ค่ะ

 

ถัดมาเป็น Living Room จะได้โซฟา L shape หุ้มด้วยผ้า เก้าอี้สตูลพร้อมโต๊ะกลาง Top กระจกขนาดเล็กค่ะ ด้านข้างโซฟาจะเชื่อมต่อกับระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำ 

 

เคาน์เตอร์ทีวีจะ Built In ชั้นวางไม้มาให้ยาวตามแนวผนัง

 

จาก Living Room ด้านข้างโซฟาจะมีธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะถึงระเบียง ช่วยป้องกันฝุ่นจากด้านนอกไม่ให้เข้ามาในห้อง

 

ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเหล็กโปร่งสีดำ โดยจะมีประตูเหล็กบานสวิงกั้นโซนเอาไว้สำหรับเป็นพื้นที่วาง Condensing Unit 

 

กลับเข้ามาในห้องจะเห็นภาพรวมของ Common Area ทั้งหมดค่ะ ซึ่งห้องขนาด 2 Bedroom จะใช้เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้า ให้ความเย็นได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ โดยถัดจากเคาน์เตอร์ทีวีทางซ้ายมือจะเป็น Private Zone 

 

ทางด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำและห้องนอนแรก ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็น Master Bedroom ค่ะ 

 

เรามาดูห้องทางขวามือกันก่อนค่ะ

 

ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งก่อนส่วนเปียกด้านใน

 

ส่วนแห้งจะได้อ่างล้างหน้า ตู้เก็บของใต้อ่าง ตู้บานกระจกเงาเหนืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ สายชำระ และแกนใส่ทิชชู่ ครบเซตค่ะ

 

ส่วนเปียกกั้นด้วยกระจกขุ่นบานสวิง ด้านในมีพื้นที่วางของหรือจะใช้สำหรับนั่งขัดตัวก็ได้ค่ะ

 

มีการเจาะผนังทำชั้นวางของ สำหรับห้องน้ำห้องนี้จะไม่ได้ Rain Shower มาด้วยนะคะ 

 

ถัดมาที่ห้องนอนแรกจะได้เตียงขนาด 5 ฟุตค่ะ หากต้องการทางเดินได้รอบเตียงก็สามารถเลื่อนเตียงมาวางไว้กลางห้องก็ได้ค่ะ แต่หากต้องการพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงหรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ก็สามารถเลื่อนเตียงไว้ชิดหน้าต่างก็ได้ค่ะ

 

ปลายเตียงมี Built In ตู้เสื้อผ้าหน้าบานไม้ ด้านในติดกระจกเงาแบบเต็มตัวให้ด้วยค่ะ

 

หน้าต่างใช้บานกระทุ้ง เปิดออกได้ 1 บานค่ะ ข้อดีคือมีความแน่นหนามากกว่าแบบกระจกบานเลื่อน หากใครที่อยู่ชั้นสูงๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนลมพัดจนเกิดเสียงค่ะ

 

เครื่องปรับอากาศติดตั้งเอาไว้ให้ด้านข้างเตียงค่ะ

 

สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนแรกค่ะ 

 

สำหรับ Master Bedroom จะได้เตียงขนาด 6 ฟุตค่ะ 

 

 

ได้ Built In ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ ซึ่งเป็นหน้าบานกระจกสีดำทั้ง 2 ตู้ค่ะ ด้านในมีสวิทช์ไฟติดตั้งมาให้เช่นกันค่ะ

 

ข้างเตียงใช้หน้าต่างบานกระทุ้งเปิดออกได้ 1 บาน

 

ปลายเตียงมีตู้เก็บของให้ด้วยนะคะ โดยเฉพาะใครที่ชอบกีฬากอล์ฟก็สามารถเก็บอุปกรณ์เอาไว้ในนี้ได้อย่างสะดวก ส่วนเครื่องปรับอากาศจะถูกติดตั้งเอาไว้เหนือประตูห้องน้ำค่ะ

 

ห้องน้ำ Triple Function แบบนี้มีข้อดีตรงที่สามารถใช้ห้องน้ำได้พร้อมๆ กัน 2-3 คนค่ะ เช่น หากอีกคนกำลังแปรงฟันอยู่ แต่อีกคนปวดท้องเข้าห้องน้ำก็สามารถใช้ห้องน้ำได้พร้อมกันค่ะ 

 

ด้านขวาเป็นส่วนเปียก มีที่วางของเอาไว้ให้ทั้งตรงผนังที่เจาะช่องเอาไว้ให้ และผนังด้านล่างที่สามารถใช้เป็นที่นั่งสำหรับขัดตัวได้ค่ะ

 

ได้ทั้งฝักบัวและ Rain Shower มาคู่กันเลยค่ะ 

 

และซ้ายมือของห้องน้ำจะเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมช่องสำหรับวางของค่ะ

 

 

ความพรีเมี่ยม ในแบบฉบับ PITI EKKAMAI ไม่ใช่เพียงเน้นความหรูหราเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความสุขในการดำเนินชีวิตในทุกๆ วันของลูกบ้าน พร้อมกับบริการระดับ Exclusive ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น มาในราคาเริ่มต้น 4.45 ล้านบาท ที่ไม่ได้แพงเลยสำหรับโครงการระดับนี้ บนทำเลกลางเมืองอย่างเอกมัย 

 

ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษกว่า 400,000 บาท* >>> PITI EKKAMAI 

 

โปรโมชั่นพิเศษของโครงการ

Promotion:

“ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท*”

บทความ รีวิวคอนโด ล่าสุด