ยิ่งอากาศร้อนมากขึ้นเท่าไร เครื่องปรับอากาศก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทุกบ้านต้องเปิดใช้กันแทบทุกวันเลยใช่ไหมครับ แต่พอใช้งานทุกวันๆ ก็ย่อมจะมีอาการผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเจอกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะแอร์ไม่เย็น น้ำหยด หรือกลิ่นเหม็นเวลาเปิดใช้งานก็เล่นเอาหงุดหงิดเสียจนอยากปิดแอร์ แต่ก็ทำไม่ได้ ซึ่งก็มีหลากหลายสาเหตุกับวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ได้ยากเลยครับ
ความชื้นคือตัวการครับ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนแบบนี้ก็ยิ่งเปียกชื้นกันไปใหญ่ นี่คือสาเหตุหลักๆ เลยที่ทำให้เกิด เชื้อรา ตามมาด้วยเชื้อโรคสะสม ไม่ว่าจะจากถาดรองน้ำทิ้ง ท่อน้ำทิ้ง แผ่นกรองอากาศเป็นต้น ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ล่ะก็ จะส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านเราอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการก่อให้เกิดภูมิแพ้
สิ่งสกปรก พวกสิ่งสกปรกอย่างฝุ่น ขนสัตว์ หรือน้ำขังนี่แหละครับที่สะสมมากๆ เข้าก็จะทำให้เกิดท่อน้ำทิ้งแอร์อุดตัน สิ่งที่จะตามมานอกจากเรื่องกลิ่นที่ตีย้อนเข้ามาแล้ว ยังทำให้แอร์ไม่เย็น และน้ำแอร์หยดตามไปด้วยครับ
กลิ่นอาหารและกลิ่นบุหรี่ เวลาเราทำอาหารอย่าเปิดแอร์ไปด้วยค่ะ หรือแม้แต่ในคอนโดมิเนียม เวลาทำอาหารแล้วไม่ได้เปิดแอร์ก็ตาม แต่แอร์ก็จะยังดูดกลิ่นอาหารเข้าไปในเครื่อง เช่นเดียวกันกับกลิ่นบุหรี่ แม้ไม่ได้ดูดในห้อง แต่กลิ่นที่ติดตัวมาก็มักจะฝังติดอยู่ตรงฟิลเตอร์ด้วย
แมลงหรือสัตว์เล็ก ลองสำรวจให้ทั่วครับว่ามีพวกหนู จิ้งจก แมลงสาบ ฯลฯ เข้าไปทำรัง มีร่องรอยไปอึ ฉี่ หรือตายบ้างหรือเปล่า ถ้ามีก็เป็นสาเหตุอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ถอดตัวแผ่นกรองอากาศหรือที่เรียกกันว่าฟิลเตอร์ออกมาล้างเป็นประจำ แต่อย่าลืมนะครับว่า เมื่อล้างเสร็จเรียบร้อย แล้วผึ่งให้แห้งก่อนจะนำกลับเข้าที่เดิม มิเช่นนั้นกลิ่นอับก็จะยังคงอยู่จากฟิตเตอร์ที่ยังชื้นอยู่นั่นแหละครับ แต่ถ้าสิ่งสกปรกจับตัวหนามากเกินไปแล้วจะเปลี่ยนฟิลเตอร์ใหม่เลยก็ได้ครับ
สเปรย์โฟมล้างแอร์ ถอดฟิลเตอร์ออกมาล้างแล้วก็ทำความสะอาดตรงแผงคอยล์เย็นด้วยซะเลย เพียงแค่ฉีดพ่นสเปรย์โฟมล้างแอร์ให้ทั่ว รอฟองยุบแล้วจึงใช้น้ำเปล่าฉีดล้างตามให้สะอาดอีกที
ถาดน้ำทิ้งแอร์ให้ถอดออกมาล้างเช่นกันครับ โดยล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดให้เมือกหายไป ก่อนนำไปใส่ไว้ที่เดิม ก็ควรเช็ดให้แห้งสนิทก่อน
เมื่อเริ่มเปิดแอร์ให้ตั้งโหมดพัดลม (Fan) เอาไว้ที่เบอร์แรงสุด ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ทำแบบนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จนกว่ากลิ่นเหม็นอับจะลดลงจนหายไป
เอาให้ชัวร์ๆ กันไปเลยครับ เรียกช่างแอร์มาตรวจเช็ค ล้างทุกๆ 6 เดือนอย่างสม่ำเสมอ
จะเห็นได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญของวันที่อากาศร้อนในบ้านเรา นั่นคือการหมั่นดูแลรักษาความสะอาดนั่นเองครับ ไม่ใช่แค่เพียงขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แต่ยังช่วยยืดอายุ การใช้งานของเครื่องปรับอากาศได้ด้วย