Lo Feature Image Homebuilder

ตลาดรับสร้างบ้านครึ่งหลังปี 62 ยังมีโอกาสบนความเสี่ยง

ตลาดรับสร้างบ้าน อีกหนึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าจะไม่ได้มีขนาดตลาดใหญ่ เท่ากับการพัฒนาโครงการออกขายในลักษณะโครงการบ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียม แต่ต้องยอมรับว่าผู้บริโภคส่วนหนึ่งก็ยังคงใช้บริการ และมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปลูกบ้านบนที่ดินเดิม ซึ่งได้พักอาศัยอยู่ในทำเลเดิม และยังได้บ้านในแบบที่ตรงความต้องการของตนเองมากที่สุด

 

สมาคมไทยรับสร้างบ้าน หนึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ออกมารายงานสถานการณ์ของตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พร้อมกับประเมินทิศทางต่อไปในช่วงครึ่งปีหลังว่าจะไปในทิศทางใด

 

รับสร้างบ้านครึ่งหลังเจอทั้งโอกาส-ความเสี่ยง

 

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association) ได้ประเมินแนวโน้มและทิศทางตลาดรับสร้างบ้านในครึ่งปีหลัง ว่ามีทั้งโอกาสสร้างการเติบโต แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ที่ต้องลุ้นและติดตามว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะเป็นไปในทิศทางใด ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรติดตามและเฝ้าระวัง พร้อมเร่งหาทางปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

President Thba

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคยังมีมากพอ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเลือกสร้างบ้าน กับผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ  สามารถให้บริการและตอบสนองได้ตรงตามความต้องการ ทั้งการให้บริการสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัด ที่สำคัญคือ ราคาสมเหตุสมผลหรือราคากับคุณภาพสอดคล้องกัน

 

ส่วนการแข่งขันของตลาดรับสร้างบ้านประเมินว่าจะกลับมาแข่งขันกันดุเดือดอีกครั้ง โดยมีกลุ่มผู้นำตลาดที่สร้างบ้านด้วยระบบสำเร็จรูป ได้แก่ กลุ่มซีคอนโฮม เอสซีจีไฮม์ พีดีเฮ้าส์ ฯลฯ ซึ่งยังต้องการขยายกำลังการผลิตและแชร์ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนี้สามารถสร้างบ้านได้รวดเร็ว ควบคุมคุณภาพได้แม่นยำกว่า และใช้แรงงานคนจำนวนน้อย จึงมีความได้เปรียบผู้ประกอบการทั่ว ๆ ไป ที่ประสบปัญหาแรงงานขาดแคลนและมีข้อจำกัดอื่น ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาดของตัวเอง

 

ทั้งนี้ ทางสมาคมได้ปรับลดมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านบ้านลงเล็กน้อย จากเดิม 16,000-17,000 ล้านบาท มาอยู่ที่ 14,000-16,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทย  และกำลังซื้อเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีแรก  ประกอบกับในครึ่งปีหลังภาคธุรกิจมีแนวโน้มชะลอการลงทุน และผู้ประกอบการรายเดิมหลายรายเลิกกิจการ ส่วนช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมาสมาคมฯ ประเมินว่ากลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านมูลค่าตลาดประมาณ 7,000 ล้านบาท

 

บทสรุปครึ่งปีแรกตลาดชะลอตัว

 

ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562  ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทย แนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินไว้ โดยการส่งออกสินค้าขยายตัวชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้มาก ตามภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าและปริมาณการค้าโลกที่ชะลอลง จากสภาวะการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้นของสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในส่วนของภาคธุรกิจท่องเที่ยวไทย พบว่าขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้เช่นกัน รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนแนวโน้มขยายตัวชะลอลง รายได้และการจ้างงานที่มีสัญญาณชะลอลงในภาคการผลิตเพื่อส่งออก และหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับที่สูง

Homebuilder 1

สำหรับภาพรวมธุรกิจสร้างบ้านเริ่มชะลอตัวลง  เป็นไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 พบว่า การลงทุนเรื่องบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่ของผู้บริโภคชะลอตัวชัดเจน หากเปรียบเทียบกับสองไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวลดลง ตามทิศทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน  และแม้ว่าความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคมีแนวโน้มชะลอตัว  ภาวะการแข่งขันของผู้ประกอบการ กลับแข่งขันกันไม่รุนแรงเหมือนเช่นก่อนหน้านี้  โดยสมาคมฯ ประเมินว่าเป็นผลมาจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่

1.จำนวนผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านลดลง

2.ปัญหาขาดแคลนแรงงานและต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้นตลอดเวลา

3.แรงกดดันจากผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าและบริการคุณภาพสูง ซึ่งจำนวนผู้ประกอบการที่ลดลงหรือหายออกไปจากธุรกิจนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เรื่องขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นปัญหาอมตะที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ต้องแบกรับความเสี่ยงสูงมาก ขณะเดียวกันการตอบสนองความต้องการผู้บริโภคก็มีแรงกดดันสูง หากคุณภาพสินค้าและบริการไม่เป็นที่พึงพอใจ ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น ในยุคสังคมออนไลน์ปัจจุบัน

 

แต่แม้ว่าภาวะการแข่งขันจะไม่รุนแรง แต่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำ ยังคงมีการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยหันมาเลือกใช้การตลาดในรูปแบบของอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้ง เช่น การออกบูธงานแสดงสินค้า ออกบูธตามห้างสรรพสินค้าชานเมือง และใช้สื่อโซเชียลมีเดียควบคู่กัน ในขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก โดยเฉพาะที่แข่งขันอยู่ในต่างจังหวัดจะใช้สื่อโซเชียลมีเดียทำตลาดเป็นหลัก เพราะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าและเลือกสื่อสารเฉพาะกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ให้บริการได้

Homebuilder Loand

นอกจากนี้  ทางสมาคมยังได้รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค ในช่วงปี 2561 และช่วงครึ่งแรกปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่า  ผู้บริโภคที่ใช้บริการสร้างบ้านกับสมาชิกสมาคม ต้องการกู้เงินหรือขอสินเชื่อปลูกสร้างบ้าน มีสัดส่วนสูงถึง 44% และ 41% ตามลำดับ จากปกติมีสัดส่วนขอสินเชื่อปลูกสร้างบ้านไม่เกิน 30-36% ถือเป็นสัดส่วนการขอสินเชื่อปลูกสร้างบ้านที่สูงที่สุดในรอบ 6 ปีของกลุ่มสมาชิกสมาคม และจากจำนวนผู้ขอสินเชื่อทั้งหมด 82% เลือกจะปลูกสร้างบ้านในต่างจังหวัด ที่เหลืออีก 18% ปลูกสร้างในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวอาจมีนัยสำคัญ ในแง่การปรับตัวของผู้ประกอบการและธุรกิจรับสร้างบ้าน ในการขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจและตลาดรับสร้างบ้านในครึ่งปีหลัง มีความเสี่ยงและโอกาสพอ ๆ กัน

 

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด