Lo Feature Image One Bangkok

“วัน แบงค็อก” เผยโฉมมาสเตอร์แพลน บิ๊กโปรเจ็กต์ 120,000 ล้าน

วัน แบงค็อก (One Bangkok) ของตระกูล “สิริวัฒนภักดี” โปรเจ็กต์อสังหาริมทรัพย์ของเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย  ด้วยมูลค่าการลงทุนถึง 120,000 ล้านบาท  บนถนนพระราม 4 ที่มีนายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด เป็นผู้บริหาร ได้ฤกษ์เปิดตัวมาสเตอร์แพลนของโครงการครั้งแรกอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะชนแล้ว จากก่อนหน้าที่ได้เปิดตัวโครงการ (ข่าวเปิดตัวโครงการ)  และเปิดตัวเชนโรงแรมลักชัวรี่อย่าง “เดอะ ริทซ์คาร์ลตัน”  ที่จะเข้ามาเปิดภายในโครงการ

 

นายปณต กล่าวว่า  วัน แบงค็อก จะสร้างนิยามใหม่และพลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ในฐานะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ความมุ่งมั่นของเราคือการเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยึดหลักความยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และผสานเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างสมบูรณ์

One Bangkok Masterplan Unveil (5) Panote Sirivadhanabhakdi

“เราเชื่อมั่นว่า วัน แบงค็อกจะมอบสิ่งที่คู่ควรกับกรุงเทพฯ พร้อมชูให้ประเทศไทยโดดเด่นเป็นสง่าในเวทีโลก และเติบโตในฐานะศูนย์กลางของประเทศอาเซียนต่อไป”

 

สำหรับโฉมหน้ามาสเตอร์แพลนของโครงการ วัน แบงค็อก ล้วนแต่ผสานความเป็นที่สุดไว้ด้วยกันมากมาย  

One Bangkok Master Plan 1

-การเชื่อมต่อของ 4 บริเวณถึงกัน โดยมีใจกลางของโครงการอยู่ที่ Civic Plaza พื้นที่สันทนาการขนาด 10,000 ตารางเมตร รอบล้อมด้วยพื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์บริเวณส่วนล่างของตึก ส่วนพื้นที่สำนักงานและพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยจะอยู่ส่วนบนของตึก

 

-ทางเข้าออกโครงการมี 6 จุด อยู่รอบโครงการ ไม่ว่าจะมาจากฝั่งถนนวิทยุ หรือถนนพระราม 4 รวมถึง
ทางเชื่อมโดยตรงกับทางด่วนซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการอนุมัติ ที่สำคัญทางเข้าออกเชื่อมต่อโดยตรงกับชั้นใต้ดินซึ่งทำให้ถนนหลักภายในโครงการปลอดโปร่ง และปลอดภัยสำหรับคนเดินเท้า มีการออกแบบให้ถนทุกสายและทุกซอยเชื่อมต่อกัน

 

-ภายในโครงการ ประกอบด้วย อาคารสำนักงานเกรดเอ จำนวน 5 อาคาร มีพื้นที่รวมกันกว่า 500,000 ตารางเมตร รองรับพนักงานบุคลากรขององค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ได้มากกว่า 50,000 คน ออกแบบตามมาตรฐาน LEED และ WELL ติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

 

-มีพื้นที่รีเทล 4 โซน ที่มีความแตกต่างกันและเชื่อมต่อถึงกัน พร้อมด้วยร้านค้าและร้านอาหารรวมกันกว่า 450 ร้าน บนพื้นที่ 180,000 ตารางเมตร รังสรรค์ประสบการณ์รีเทลที่แปลกใหม่และแตกต่าง ภายในที่แห่งเดียว ถือเป็นครั้งแรกของกรุงเทพฯ

 

One Bangkok Perspective 01

 

-พื้นที่ในโครงการยังมีโรงแรม 5 แห่งภายใน วัน แบงค็อก ทั้งหมดจะเป็นแบรนด์ใหม่สำหรับกรุงเทพฯ  ครอบคลุมตั้งแต่ระดับบูทีคโฮเทล โรงแรมเพื่อธุรกิจ ไปจนถึงระดับซูเปอร์ลักชัวรี่  รวมกว่า 1,100 ห้อง  โดยโรงแรมลักชัวรี่แห่งแรกคือ The Ritz-Carlton, Bangkok ที่จะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566

 

-มีพื้นที่ส่วนพักอาศัยระดับลักชัวรี่ 3 อาคาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของโครงการ เพื่อความสงบและความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย เปิดรับวิวทั้งจากฝั่งถนนวิทยุและฝั่งสวนลุมพินี สามารถมองเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติของสวนลุมพินี และวิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามาไร้สิ่งบดบัง ซึ่งที่พักอาศัยโครงการแรกจะตั้งอยู่เหนือโรงแรม The Ritz-Carlton, Bangkok  ประกอบด้วยห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราขนาด 2-4 ห้องนอน จำนวน 110 ห้อง พื้นที่เริ่มต้นที่ 130 ตารางเมตร พร้อมเปิดตัวช่วงต้นปี 2563

 

-มีอาคารสูงสุดในประเทศไทย “Signature Tower” สูงกว่า 430 เมตร ซึ่งจะเป็น 1 ใน 10 ตึกที่สูงที่สุดของอาเซียน โดดเด่นเป็นสง่าเติมเต็มเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ภายในประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและโรงแรมหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ พร้อมมอบที่สุดแห่งประสบการณ์การชมวิวแบบพาโนราม่า สวยงามแบบ
ไร้ขอบเขตจากยอดตึก

 

-พื้นที่สีเขียวมากถึง 50 ไร่ จากพื้นที่โครงการรวม 104 ไร่ ซึ่งได้รับการจัดสรรให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อให้ผู้คนได้มาใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ซึ่งรวมถึง Civic Plaza ที่มีพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร สามารถเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงระดับนานาชาติและงานเทศกาลต่างๆ ของไทยได้ และสวนรอบโครงการทั้งทางฝั่งถนนวิทยุและถนนพระราม 4 ที่กว้างกว่า 40 เมตร ร่มรื่นด้วยต้นไม้ เปรียบเป็นส่วนต่อขยายของสวนลุมพินี

 

-มีระบบโครงสร้างพื้นฐานส่วนกลางสุดล้ำสมัย ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของประเทศไทยสำหรับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเอกชน ประกอบด้วยระบบทำความเย็น ระบบรักษาความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ ระบบการจัดการน้ำและพลังงาน ควบคุมดูแลโดยศูนย์ข้อมูล (District Command Centre) และเซ็นเซอร์อันชาญฉลาดมากกว่า 250,000 ตัว ที่คอยบริหารจัดการทุกระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

-โครงการให้ความสำคัญกับงานศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดในโครงการจะเชื่อมต่อถึงกันด้วยงานศิลปะตามแนวคิดพหุประสาทสัมผัส เพื่อให้ผู้มาเยือนสัมผัสกับศิลปะรอบตัว นอกจากนี้ ยังมีฮอลล์เอนกประสงค์สำหรับจัดการแสดง พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกิจกรรมศิลปะวัฒนธรรมตลอดทั้งปี

One Bangkok

สำหรับควาบคืบหน้าของการก่อสร้าง  ได้มีการลงงานเสาเข็มของโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยโครงการพร้อมเปิดเฟสแรกในปี 2566 และก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2569

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด