Hishie

อสังหาฯ ไทยยังเนื้อหอม ทุนจีนไม่หวั่นตลาดขาลง-LTV คุมเข้ม

นักธุรกิจจีนมั่นใจศักยภาพตลาดอสังหาฯ เมืองไทย ยังมีดีมานด์อีกจำนวนมาก จากคนย้ายเข้ามาหางานในเมือง เศรษฐกิจมีแนวโน้มขาขึ้น  พร้อมลงทุนกว่า 22,500 ล้าน ผุดคอนโดฯ 4 โปรเจ็กต์  เตรียมที่ดินอีก 100 ไร่ ปั้นมิกซ์ยูส

 

นายเฉิน ซู่เฟิง ประธานกรรมการประจำภูมิภาค บริษัท ไฮไชน์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า  ได้ร่วมทุนกับนักธุรกิจคนไทยพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นศักยภาพตลาดอสังหาฯ ที่เชื่อว่ายังมีความต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก จากการขยายตัวของเมือง ซึ่งทำให้มีแรงงานจากต่างจังหวัดเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล  ที่ถือว่าเป็นความต้องการที่แท้จริง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโต

 

แม้ว่าปัจจุบันตลาดอสังหาฯ จะอยู่ในช่วงขาลง จากปริมาณห้องชุดคอนโดฯ ที่มีออกมาจำนวนมาก จนส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) ต้องออกมาตรการ LTV มาควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ตลาดอสังหาฯ ยังแข่งขันกันรุนแรงด้วย  แต่เชื่อว่าในระยะเวลาประมาณ 2 ปี ภาวะตลาดจะกลับมาฟื้นตัว ภาวะเศรษฐกิจก็จะเติบโตเพิ่มมากขึ้น จึงเชื่อว่าในอนาคตตลาดอสังหาฯ จะกลับมาเติบโตเป็นปกติ

 

Regal Sukhumvit76.1

“แม้ว่าการกู้เงินซื้อคอนโดฯ จะมีมาตรการควบคุมเข้มงวด แต่เชื่อว่าอสังหาฯ ไทยยังเติบโตต่อไปได้ เพราะไทยมีประชากรเยอะกว่า 70 ล้านคน เป็นตลาดที่มีความต้องการสูง ตลาดกรุงเทพฯ เหมือนกับประเทศจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ประชากรที่อยู่ในปริมณฑลแล้วย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง”   

สำหรับกลุ่มไฮไชน์ได้ศึกษาตลาดในประเทศไทยมาตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา และได้ลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดฯ 4 โครงการ รวมมูลค่า 22,500 ล้านบาท ได้แก่ โครงการรีเกิล สาทร-นราธิวาส ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 40% ครงการรีเกิล บางนา มียอดขายแล้ว 20%

 

โดยในเดือนพฤศจิกายน บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการรีเกิล ศรีนครินทร์ 40 คอนโดฯ ขนาดความสูง  8 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยศรีนครินทร์ 40 และใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ห่างจากจากซีคอนสแควร์ 400 เมตร และห้างสรรพสินค้าพาราไดซ์ พาร์ค 700 เมตร

 

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการรีเกิล สุขุมวิท 76 เป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย อาคารที่พักอาศัย 8 อาคาร จำนวน 4,931 ยูนิตราคาเริ่มต้นที่ 1.79-10  ล้านบาท และพื้นที่ศูนย์การค้า 15,000 ตารางเมตร  มูลค่าโครงการกว่า 16,000 ล้านบาท  ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีแบริ่งและสถานีสำโรง

 

นายเฉิน กล่าวว่า บริษัทวางแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย  โดยนอกจาก 4 โครงการดังกล่าวแล้ว ยังเตรียมพัฒนาที่ดิน 100 ไร่ ใกล้สนาบินสุวรรณภูมิ เป็นโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งประกอบด้วยโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ พื้นที่เชิงพาณิชย์ อาทิ ห้างสรรพสินค้า โดยจะแบ่งการพัฒนาออกเป็นเฟส  ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและวางแผนโครงการ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงปลายปีนี้

 

Regal Sukhumvit76.2

 

“กลยุทธ์การแข่งขันในตลาดประเทศไทย บริษัทจะชู 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การออกแบบให้ตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนไทย 2.เลือกพัฒนาโครงการในทำเลศักยภาพ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหรือเอ็มอาร์ที และ 3.วางกลยุทธ์ราคาให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถซื้อได้ โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 4,500 ล้านบาทในปี 2563”

 

สำหรับ กลุ่มบริษัท ไฮไชน์ กรุ๊ป เป็นกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์จากฮ่องกงและจีน ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนากว่า 138 โครงการ ในหลายประเทศ ทั้งจีน ฮ่องกง เป็นต้น เฉพาะตลาดในประเทศจีนมียอดขายกว่า 100,000 ล้านบาท  ปัจจุบันบริษัทได้เข้าไปลงทุนในหลายประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ทั้งประเทศมาเลเซีย ไทย  และอยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อเข้าลงทุนในเวียดนามและเมียนมา ขณะที่ประเทศมาเลเซีย ยังมีแผนพัฒนาต่อเนื่อง เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาทด้วย

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด