Seacon Business Plan 2020

“ซีคอน” รีแบรนด์ครั้งที่ 4 จับตลาดคนรุ่นใหม่ สร้างยอดขาย 1,480 ล้าน

ซีคอน รีแบรนด์ครั้งที่ 4 รอบ 59 ปี หวังเข้าถึงฐานกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ วาง 2 กลยุทธ์สร้างยอดขาย 1,480 ล้าน เท่ากับปี 62 หลังภาพรวมตลาดเจอปัจจัยลบต่อเนื่อง มั่นใจได้ยอดตามเป้าหมาย แค่ 2 เดือนโกยยอดขายแล้ว 140 ล้าน

 

นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2563 ว่า ได้รีแบรนด์บริษัทหม่อีกครั้ง เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมกับปรับรูปแบบของโลโก้ใหม่ ให้เหลือแค่คำว่า ซีคอน (SEACON) จากเดิมที่ใช้ชื่อแบรนด์ ซีคอน โฮม (SEACON Home) ซึ่งถือว่าเป็นการรีแบรนด์ครั้งที่ 4 ในรอบ 59 ปีที่ผ่านมา จากปี 2562 ได้ยกเลิก 2 แบรนด์ที่อยู่ในเครือออกไป คือ คอมแพค (Compact) และบัดเจ็ท (Budget) เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่รู้จักแบรนด์ซีคอนมากกว่า และเป็นการบริหารงานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

Logo Seacon

เดิมบริษัทใช้แบรนด์ เอสซี คอนสตัคชั่น ย่อมาจาก เซาท์อีสเอเชีย คอนสตรัคชั่น  ต่อมาเป็นแบรนด์ซีคอน แล้วมาเป็นแบรนด์ซีคอนโฮม พร้อมกับมีอีก 2 แบรนด์ลูก ส่วนปีที่ผ่านมาได้ยกเลิก 2 แบรนด์ เหลือแค่ซีคอน โฮม เพราะคนรู้จักมากกว่า แม้จะสร้างบ้านในแบรนด์บัดเจ็ท

นอกจากการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ในปีนี้ บริษัทยังวาง 2 แนวทางเพื่อทำตลาดสร้างการเติบโตในปีนี้ คือ

1.การใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และทำตลาดแบบครบวงจร หรือ Above the line   

2.การจัดกิจกรรมการตลาด ด้วยการออกงานอีเวนต์ หรือ Below the line จำนวน 6 ครั้งแต่ปี ซึ่งสามารถช่ววยสร้างยอดขายกลับมาได้ 500-600 ล้านบาท อาทิ งานรับสร้างบ้าน งานบ้นและสวน และงานสถาปนิก เป็นต้น

Seacon 2020

นายมนู กล่าวว่า จากแนวทางการทำตลาดในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ 1,480 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขาย 1,480 ล้านบาท เติบโตจากปี 2561 ในอัตรา 14% เนื่องจาก ปีนี้มีปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการเติบโตของสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ซึ่งยอดขายปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นการรับสร้างบ้านกลุ่มราคา 3-6 ล้านบาท สัดส่วน 61.25% กลุ่มราคา 6-10 ล้านบาท สัดส่วน  13.75%  และกลุ่มราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปสัดส่วน  25%

 

ปีนี้เดิมจะตั้งเป้ายอดขาย 1,600 ล้านบาท แต่เจอสถานการณ์ไขหวัด เลยตั้งเป้าเท่ากับปีที่ผ่านมา

สำหรับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 2562 ที่ผ่านมามีมูลค่า 12,500 ล้านบาท  เติบโต 5% จากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่า 12,000 ล้านบาท ตลาดบ้านที่ได้รับความนิยมในการสร้างมากที่สุดจะเป็นกลุ่มระดับรา 2-5 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ภาพรวมตลาดสร้างบ้านยังประเมินตลาดได้ยาก เนื่องจากมีปัจจัยลบมาก โดยเฉพาะไวรัสโคโรนาซึ่งยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้เมื่อไร

ปีที่ผ่านมาบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 1,600 ล้านบาท แต่ทำได้ 1,480 ล้านบาท แม้ว่าจะพลาดเป้าหมายแต่ยังเติบโต 14% และมีส่วนแบ่งตลาด 12%

ส่วนแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทลงทุน 20 ล้านบาท ในการย้ายสาขาแจ้งวัฒนะเข้ามายังพื้นที่แถวงามวงศ์วาน พร้อมกับสร้างบ้านตัวอย่าง โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขารวม 4 แห่ง ซึ่งแผนการขยายสาขาในปีนี้ จะดูสภาพตลาดและความเหมาะสม ปัจจุบันมีลูกค้าต่างจังหวัดใช้บริการรับสร้างบ้านของบริษัท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% โดยฐานลูกค้าหลักเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ระยอง เป็นต้น

Seacon 1

นายมนู กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทยังได้จัดทำหมายเลขโทรศัพท์ 4 ตัว เพื่อให้ลูกค้าจดจำและเข้าถึงบริษัทได้ง่ายขณะเดียวกันยังได้จัดทำกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM ด้วยการจัดทำ SEACON Privileges เพื่อให้สิทธิประโยชน์กับลูกค้าของบริษัทซึ่งมีอยู่กว่า 10,000 ราย ในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ในราคาพิเศษ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพันธมิตรเข้าร่วมแล้วกว่า 10 ราย อาทิ เอสบี เฟอร์นิเจอร์ บุญถาวร แกรนด์โฮม เป็นต้น

 

แม้ปีนี้จะมีปัจจัยลบ แต่ช่วง 2 เดือนแรก มียอดสั่งรับสร้างบ้าน 140 ล้านบาทแล้ว มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย และยังมียอดขายรอรับรู้รายได้อีก 700 ล้านบาท   

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด