คนต่างด้าวโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ปี 2562 มูลค่ารวมกว่า 16% ของตลาดรวม ชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด 55.4%
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า นอกจากกลุ่มลูกค้าคนไทยซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักแล้ว ชาวต่างชาติก็เป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญ ที่ได้เข้ามามีส่วนทำให้ตลาดอสังหาฯ เมืองไทยเจริญเติบโต โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม เพราะกฎหมายไทยสามารถให้ลูกค้าชาวต่างชาติ ถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้มากถึง 49% แต่ช่วงปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่าตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ เริ่มชะลอตัวลงจากมาตรการ LTV ส่งผลให้ยอดขายใหม่ในตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติต่อตลาดคอนโดฯ ลงลงตามไปด้วย
ส่วนการซื้อคอนโดฯ ไปก่อนหน้านี้ ปีที่ผ่านมาก็ถึงเวลาที่จะต้องโอนกรรมสิทธิ์ เพราะโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเข้าอยู่ ซึ่งปีที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าต่างชาติ มีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ มากน้อยแค่ไหนนั้น ทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้จัดทำรายงานมานำเสนอ เพื่อให้เห็นว่ามาตรการที่ออกมา ได้ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ มากน้อยแค่ไหน และบรรดาลูกค้าต่างชาติมีความเชื่อมั่นอย่างไรบ้าง
สำหรับภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของลูกค้าต่างชาติในปี 2562 พบว่า ตลอดปีที่ผ่านมามีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างด้าวทั่วประเทศ จำนวน 13,232 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 10.5% เมื่อเทียบกับจำนวนห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 52,070 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16.4% และมีจำนวนพื้นที่ห้องชุด 521,725 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 12.0%
หากเปรียบเทียบกับปี 2561 พบว่า ปี 2562 ต่างชาติมีจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดลดลง 9.9% มูลค่าลดลง 12.0% พื้นที่ห้องชุดลดลง 13.4% โดยห้องชุดที่ชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 มีมูลค่าเฉลี่ยต่อยูนิต 3.94 ล้านบาท และพื้นที่เฉลี่ยต่อยูนิต 39.4 ตารางเมตร
จังหวัดที่คนต่างชาติซื้อห้องชุดมากที่สุด จะอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศมากที่สุดในปี 2562 โดยมีสัดส่วนถึง 55.4% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั้งหมดทั่วประเทศ มีมูลค่า 52,070 ล้านบาท รองลงมาเป็นรัสเซีย มีสัดส่วน 4.6% สหราชอาณาจักร มีสัดส่วน 3.1% ญี่ปุ่นมีสัดส่วน 3.0% และฝรั่งเศส มีสัดส่วน 2%
1.กรุงเทพฯ จำนวน 5,481 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 41.4% ของยูนิตทั้งหมด
2.ชลบุรี จำนวน 4,740 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 35.8%
3.สมุทรปราการ จำนวน 1,104 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 8.3%
4.เชียงใหม่ จำนวน 729 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 5.5%
5.ภูเก็ต จำนวน 519 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 3.9%
เมื่อเทียบกับปี 2561 จังหวัดที่มีจำนวนยูนิตที่คนต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ลดลง ได้แก่ กรุงเทพฯ โดยลดลง 22.6% ชลบุรี ลดลง 2.1% และเชียงใหม่ ลดลง 37.3% ตามลำดับ ส่วนในจังหวัดสมุทรปราการและภูเก็ต มีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้น 83.4% และ 7.5% ตามลำดับ
1.กรุงเทพฯ มีมูลค่า 31,628 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.7% ของจำนวนมูลค่าทั้งหมด
2.ชลบุรี มีมูลค่า 12,202 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.4%
3.ภูเก็ต มีมูลค่า 2,596 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.0%
4.สมุทรปราการ มีมูลค่า 2,489 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.8%
5.เชียงใหม่ มีมูลค่า 1,683 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.2%
เมื่อเทียบกับปี 2561 จังหวัดที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ลดลง ได้แก่ กรุงเทพฯ ลดลง 19.4% ชลบุรี ลดลง 0.9% และเชียงใหม่ ลดลง 43.9% ตามลำดับ ส่วนในจังหวัดภูเก็ตและสมุทรปราการ มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 8.2% และ 113.5% ตามลำดับ
1.กรุงเทพฯ มีพื้นที่ 224,280 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 43.0% ของจำนวนพื้นที่ทั้งหมด
2.ชลบุรี มีพื้นที่ 178,515 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 34.2%
3.เชียงใหม่ มีพื้นที่ 33,117 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 6.3%
4.สมุทรปราการ มีพื้นที่ 32,900 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 6.3%
5.ภูเก็ต มีพื้นที่ 27,287 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 5.2%
เมื่อเทียบกับปี 2561 จังหวัดที่มีพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติลดลง ได้แก่ กรุงเทพฯ ลดลง 25.6% ชลบุรี ลดลง 3.5% และเชียงใหม่ ลดลง 35.5% ตามลำดับ ส่วนในจังหวัดสมุทรปราการ และภูเก็ต มีจำนวนพื้นที่เพิ่มขึ้น 78.0% และ 7.4% ตามลำดับ
-กรุงเทพฯ มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุดในเขตห้วยขวาง วัฒนา คลองเตย พระโขนง และคลองสาน ตามลำดับ
-ชลบุรี มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุดในอำเภอบางละมุง สัตหีบ และศรีราชา ตามลำดับ โดยกว่า 88.5% จะอยู่ในอำเภอบางละมุง
-ภูเก็ต มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุดในอำเภอถลาง กะทู้ และเมืองภูเก็ต ตามลำดับ
-สมุทรปราการ มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุดในอำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนสูงถึง 96.6%
-เชียงใหม่ มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุดในอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนสูงถึง 92.0% รองลงมาคือ แม่ริม สัดส่วน 5.0%
ในปี 2562 จีน เป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด ทั้งจำนวนยูนิต มูลค่า และพื้นที่ห้องชุด โดยมีการโอนมากถึง 7,506 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 56.7% ของห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์โดยชาวต่างชาติทั้งหมด มีมูลค่า 28,860 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 55.4% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์โดยชาวต่างชาติทั้งหมด และพื้นที่ห้องชุด 254,546 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 48.8% ของพื้นที่การโอนห้องชุดโดยชาวต่างชาติทั้งหมด
ชาวต่างชาติที่มีการรับโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดรองลงมา ได้แก่ สัญชาติรัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ตามลำดับ
ในกลุ่มสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ซึ่งมีพื้นที่เฉลี่ยต่อยูนิตมากที่สุด 5 อันดับแรกในปี 2562 ได้แก่ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น โดยเฉพาะชาวสหราชอาณาจักร มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดขนาดพื้นที่เฉลี่ยต่อยูนิตใหญ่ที่สุด 51.1 ตารางเมตร ส่วนจีนมีขนาดพื้นที่เฉลี่ยต่อยูนิตต่ำสุดคือ 33.9 ตารางเมตร แสดงให้เห็นว่าแม้ชาวจีนจะซื้อห้องชุดมากที่สุด แต่เป็นการซื้อห้องขนาดเล็ก
ญี่ปุ่นมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในราคาเฉลี่ยต่อยูนิตสูงสุดคือ 4.2 ล้านบาท ในขณะที่รัสเซียมีราคาเฉลี่ยต่อยูนิตต่ำสุดคือ 3.0 ล้านบาท ซึ่งการที่ชาวญี่ปุ่นซื้อห้องชุดในราคาเฉลี่ยต่อยูนิตแพงที่สุด มีความเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะ ชาวญี่ปุ่นมักจะเลือกพักอาศัยอยู่ในทำเลสุขุมวิทตอนต้น เช่น นานา ซึ่งเป็นย่านใจกลางธุรกิจซึ่งราคาคอนโดฯ จะแพงกว่าในทำเลอื่นๆ
เมื่อพิจารณาสัญชาติที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสูงสุด แยกตามจังหวัด ในปี 2562 พบว่า
กรุงเทพฯ
ชาวจีนเป็นสัญชาติที่โอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด จำนวน 19,784 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 62.6% ของมูลค่าการโอนในจังหวัด แต่มูลค่าลดลงจากปี 2561 5.0% รองลงมาเป็น มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และไต้หวันซึ่ง 4 สัญชาตินี้มีสัดส่วนการโอนรวมกันเพียง 11.6% และมีเพียงมาเลเซียที่มีมูลค่าการโอนเพิ่มขึ้นจากปี 2561 แต่อีก 3 สัญชาติมีมูลค่าการโอนลดลง
ชลบุรี
ชาวจีน ยังเป็นสัญชาติที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดถึง 5,255 ล้านบาท สัดส่วน 43.1% เพิ่มขึ้นจากปี 2561 5.0% รองลงมาคือ รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น โดย 4 สัญชาตินี้มีสัดส่วนรวมกัน 25.2% และรัสเซียเป็นสัญชาติเดียวที่มีมูลค่าการโอนลดลงจากปี 2561
ภูเก็ต
รัสเซียเป็นสัญชาติที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด 831 ล้านบาท (สัดส่วน 32.0%) เพิ่มขึ้นจากปี 2561 27.7% รองลงมาคือ จีน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ซึ่ง 4 สัญชาตินี้มีสัดส่วนรวมกัน 30.3% โดยสหรัฐอเมริกาเป็นสัญชาติเดียวที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเพิ่มขึ้นจากปี 2561
สมุทรปราการ
ชาวจีนมากที่สุด จำนวน 1,980 ล้านบาท (สัดส่วน 79.6%) เพิ่มขึ้นจากปี 2561 130.4% รองลงมาเป็น ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหราชอาณาจักร ซึ่งทั้ง 4 สัญชาติ มีสัดส่วนรวมกันเพียง 14.0% โดยทั้ง 4 สัญชาติมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเพิ่มขึ้นจากปี 2561
เชียงใหม่
ชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีมูลค่าการโอนมากที่สุด 1,111 ล้านบาท (สัดส่วน 66.0%) ลดลงจากปี 2561 46.4% รองลงมาเป็น เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้ง 4 สัญชาติ มีสัดส่วนรวมกัน 17.9% โดยฝรั่งเศส เป็นสัญชาติเดียวที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเพิ่มขึ้นจากปี 2561
ในปี 2562 จำนวนยูนิตห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างด้าวมากที่สุด จะอยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท มีจำนวน 3,657 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 27.6% ของจำนวนยูนิตที่โอนทั้งหมด 13,232 ยูนิต โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2561 20.8% ซึ่งเป็นระดับราคาเดียวที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนในระดับราคาอื่น ๆ มีการปรับตัวลดลงทั้งหมด ระดับราคาที่มีจำนวนยูนิตโอนรองลงมาคือ 3.01 – 5.00 ล้านบาท มีจำนวน 3,162 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 23.9% ส่วนระดับราคาที่มีจำนวนหน่วยน้อยที่สุดคือ 7.51 – 10.00 ล้านบาท มีจำนวน 499 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 3.8%
มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างด้าว ในปี 2562 มีสัดส่วนสูงสุดอยู่ในระดับราคา มากกว่า 10 ล้านบาท โดยมีมูลค่า 13,424 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25.8% ของมูลค่าที่โอนทั้งหมด 52,070 ล้านบาท รองลงมาคือระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มีมูลค่า 12,128 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 23.3% ส่วนระดับราคาที่มีสัดส่วนมูลค่าน้อยที่สุดคือไม่เกิน1 ล้านบาท มีมูลค่า 701 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.3% ทั้งนี้ ในทุกระดับราคามีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปี 2561 ยกเว้นระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.2%