Ocean Second Home Pattaya 1

พัทยา โอกาสทางตลาด “บ้านหลังที่ 2” แหล่งหลบภัยสังคมไฮเอนด์

ในบรรดาเมืองชายทะเล สำหรับเป็นสถานที่พักตากอากาศของไทยยอดนิยม หนึ่งในนั้นต้องมี “เมืองพัทยา” ติดอยู่ในลำดับต้น ๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวของคนที่อยู่ในจังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญเมืองพัทยามีความครบถ้วนของสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดยาวผู้คนจำนวนมากจึงเดินทางมาพักผ่อนและท่องเที่ยว

 

เมืองพัทยาไม่ได้มีความสำคัญเฉพาะด้านการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในการเป็นที่อยู่อาศัยระยะยาว ทั้งกลุ่มผู้เกษียณอายุ หรือผู้ที่ต้องการที่พักผ่อน  แม้แต่เป็นสถานที่หลบภัยชั่วคราว อย่ากรณีน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ​ ช่วงปี 2554 ซึ่งมีหลายครอบครัวเลือกจะมาพักอาศัยหนีน้ำท่วม  เรียกได้ว่า เมืองพัทยากลายเป็นบ้านหลังที่ 2 ของหลายครอบครัวไปแล้ว

 

นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ปี 2554 พบว่ามีกลุ่มลูกค้าของบริษัท ได้อพยพมาพักอาศัยที่โครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา เป็นจำนวนมาก เพราะไม่มีปัญหาน้ำท่วม ขณะที่ปัจจุบันเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวไปในต่างประเทศได้ กลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์จึงเลือกที่จะมาพักอาศัยอยู่ที่พัทยาแทน ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมลักชัวรี่มีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้น และถูกใช้เป็นบ้านหลังที่ 2 มากขึ้นด้วย

Ocean Second Home Pattaya 5

โดยโครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ สูง 37 ชั้น มีจำนวน 268 ยูนิต บนเนื้อที่กว่า 120 ไร่ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือขายประมาณ 30 ยูนิต ซึ่งช่วงหลังจากมาตรการล็อคดาวน์ พบว่ากลุ่มลูกค้าให้ความสนใจในการซื้อคอนโดไว้สำหรับเป็นบ้านที่ 2 กันมากขึ้น เฉพาะเดือนที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายได้ถึง 120 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น  เนื่องจากกลุ่มลูกค้าต้องการซื้อเพื่อใช้เป็นบ้านหลังที่ 2 เพราะส่วนใหญ่จะซื้อห้องที่มีขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 2 ห้องนอนขึ้นไป จากปกติมียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 1-2 ห้องเท่านั้น

 

ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และไวรัสโควิด-19 ทำให้คนทั่วไปมีการวางแผนสำรอง รับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น จึงหาซื้อบ้านหลังที่สองไว้พัก อสังหาฯ ทั่วไปไม่ค่อยดี แต่กลุ่มไฮเอนด์ยังเติบโตได้ดี

นายณพงศ์  กล่าวอีกว่า  ไม่เพียงแต่กลุ่มลูกค้าชาวไทยเท่านั้น ที่วางแผนมีบ้านหลังที่สอง เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน แต่ชาวต่างชาติยังวางแผนสำรองลักษณะเดียวกันด้วย โดยมองว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านความปลอดภัยสูง โดยเห็นได้จากการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  จึงมองว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการเข้ามาพักระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน และยุโรป  ซึ่งเห็นได้จากโครงการโอเชียนฯ มีลูกค้าที่พักอาศัยแบบระยะยาวมากถึง 20 ห้อง ทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ

Ocean Second Home Pattaya 2

ปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้เมืองพัทยา เป็นสถานที่การท่องเที่ยวและพักอาศัยในระยะยาวนั้น

1.การเดินทางสะดวกและรวดเร็ว

ปัจจุบันการเดินทางมาเมืองพัทยา สามารถเดินทางได้โดยรถโดยสาร รถไฟ และรถส่วนตัว ซึ่งมีความสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางปกติหรือทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) ขณะที่ในอนาคตยังจะมีการพัฒนาเส้นทางทั้งถนน เส้นทางรถไฟ และการเปิดใช้สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ของกรุงเทพฯ ซึ่งยังจะมีการพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วสูง เชื่อมทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองด้วย ทำให้การเดินทางมาเมืองพัทยาทั้งสะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม

2.พื้นที่เมืองเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม

เมืองพัทยามีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ และยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจของเมืองพัทยาเติบโตมาโดยตลอด จึงทำให้ราคาของที่อยู่อาศัยและอสังหาฯ เติบโตตามด้วย กลุ่มผู้ซื้ออสังหาฯ ส่วนหนึ่งจึงมองเรื่องโอกาสการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาฯ ในอนาคต ประกอบการพิจารณาเลือกซื้อด้วย

3.ที่ดินขึ้นโครงการใหม่มีจำกัด

แม้ว่าที่ผ่ามาเมืองพัทยาจะมีการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ออกมาจำนวนมาก แต่ปัจจุบันจะพบว่าตลาดเริ่มมีซัพพลายออกมาน้อย เนื่องจากที่ดินมีจำกัด โดยเฉพาะที่ดินบริเวณริมชายหาด ซึ่งปัจจุบันถูกจับจองจากผู้ประกอบการรายใหญ่ไว้หมดแล้ว โอกาสการพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพจึงมีน้อยลงด้วย  การพัฒนาโครงการส่วนใหญ่ในระยะหลัง จึงขยายออกไปไกลกว่าบริเวณชายหาด

 

ข้อมูลจากคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 2563 มีโครงการคอนโดเปิดขายใหม่ในพื้นที่พัทยาเพียง 1 โครงการ จำนวน 319 ยูนิตเท่านั้น เพราะภาพรวมของตลาดคอนโดในพัทยายังคงมีจำนวนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนหน้านี้เหลือขายอยู่ในตลาดพอสมควร บวกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดการชะลอตัว

 

ขณะที่ขนาดของคอนโดที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่พัทยาทั้งหมด  พบว่ามีห้องชุดขนาดต่ำกว่า 50 ตร.ม.พัฒนาออกมามากสุดสัดส่วน 84.2% และขายไปแล้ว 66.3% ส่วนห้องชุดขนาดมากกว่า 100 ตร.ม.ขึ้นไปเหลือจำนวนแค่ 1% เท่านั้น ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์จะเลือกซื้อห้องขนาดใหญ่ มากกว่าห้องขนาดเล็ก เพราะพักอาศัยแบบครอบครัว

Ocean Second Home Pattaya 3

“โอเชี่ยน” เล็งปั้นโปรเจ็กต์พื้นที่ 100 ไร่

สำหรับพื้นที่บริเวณโครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา ยังมีที่ดินเหลืออีกกว่า 100 ไร่ ​ ที่บริษัทสามารถนำมาพัฒนาโครงการใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ​ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้ระยะเวลาพัฒนาประมาณ 2-3 ปี หลังจากคาดว่าโครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา จะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้

 

โดยโครงการใหม่ยังคงจับตลาดกลุ่มลักชัวรี่ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นกลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านหลังที่ 2 และไม่มีผลกระทบกับสภาพเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดระดับกลางลงล่าง ในราคา 1-3 ล้านบาท จะอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ และทำตลาดได้ยาก ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมักเป็นลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังแรก โดยส่วนใหญ่จะต้องขอวงเงินกู้จากสถาบันเป็นหลัก แต่หากเป็นกลุ่มลักชัวรี่ส่วนใหญ่จะซื้อด้วยเงินสด และไม่มีปัญหาด้านการกู้เงิน

 

มองจากปัจจัยต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง สถานกาณ์ของโลกที่ไม่แน่นอน ทำให้เทรนด์การมีบ้านหลังที่สอง จะกลายเป็น New Normal หรือความปกติใหม่ของการปรับตัวของผู้คนในยุคปัจจุบัน ยุคที่ทุกคนต้องเจอกับความเสี่ยงที่มีมากขึ้น และจะกลายเป็นเทรนด์ที่เติบดตขึ้นในตลาดอสังหาฯ นับจากนี้

 

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด