สามย่านมิตรทาวน์ วาง 4 กลยุทธ์หลัก ลุยธุรกิจในปีที่ 2 หลังครบรอบ 1 ปีแรกเจอพิษโควิด-19 ทำรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แม้ตัวเลขผู้ใช้พุ่งสูงถึง 60,000 คนต่อวัน เดินหน้าบริหารพื้นที่ว่างสร้างรายได้เพิ่ม
วันที่ 20 กันยายน 2563 นี้ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ จะมีอายุครบ 1 ปีของการเปิดให้บริการ ซึ่งช่วงปีแรกของการดำเนินธุรกิจ ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่ท้าทายและต้องเผชิญกับปัจจัยลบสำคัญอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะเพียงแค่เปิดให้บริการมาเพียง 5-6 เดือน ศูนย์การค้าแห่งแรกภายใต้การบริหารงานของบริษัท แผ่นดินทองพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ ก็ต้องเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ปิดศูนย์การค้าไปร่วม 2 เดือน
แม้ว่าทางศูนย์การค้า จะมีพื้นที่บางส่วนที่เปิดให้บริการได้ ภายหลังจากมาตรการล็อกดาวน์เริ่มคลายลง อย่างเช่น บิ๊กซีซูเปอร์มาร์เก็ต หรือการเปิดพื้นที่ให้บริการเดลิเวอรี่ สำหรับบางร้านค้า แต่ผลการดำเนินงานในปีแรก ต้องยอมรับว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายด้านรายได้ เพราะต้นทุนคงที่ของการบริหารศูนย์การค้าไม่ได้หยุดลงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า หรือค่าบริหารจัดการต่าง ๆ ภายใน รวมถึง ทางศูนย์การค้ายังต้องช่วยเหลือผู้เช่าภายในศูนย์ ที่ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกัน คือ ไม่สามารถเปิดให้บริการได้เป็นปกติ ด้วยการลดอัตราค่าเช่าพื้นที่ลง ยิ่งทำให้ตัวเลขรายได้ของศูนย์การค้าห่างไกลจากเป้าหมายมากขึ้น
นางธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปีแรก รายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สิ่งที่ต้องทำในปีนี้ คือ การบริหารค่าน้ำ ค่าไฟ ให้ดีที่สุด ต้องทำให้ขาดทุนน้อยที่สุด ซึ่งแม้รายได้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ตัวเลขผู้เข้าใช้บริการ ปัจจุบันมีมากถึง 60,000 คนต่อวัน สูงกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้ตั้งแต่แรกว่าจะมีผู้ใช้บริการ 37,000 คนต่อวัน รวมถึงจำนวนร้านค้าที่เข้ามาเช่าพื้นที่ ซึ่งมีมากถึง 97% คิดเป็นจำนวน 240 ร้านค้า
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ ในปีที่ 2 ทางศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยการมุ่งเน้น ใน 3 เรื่องหลัก คือ
1.การพัฒนาพื้นที่ว่างให้เกิดรายได้มากขึ้น
2.การทำตลาดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยร่วมมือกันในลักษณะ Collaboration มากกว่าเป็นเพียงสปอนเซอร์
3.การให้บริการกับผู้เช่าพื้นที่ให้มากขึ้น
ส่วนกลยุทธ์สำหรับปีหน้า ของศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลัก
1.Destination for Food Lover การเป็นแหล่งร้านอาหาร และความหลากหลายของประเภทอาหาร
2.Signature Events การจัดอีเวนต์ที่มีลักษณะเฉพาะของสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งปีที่ผ่านมามีการจัดอีเวนต์ต่าง ๆมากถึง 130 อีเวนต์
3.Trust การสร้างความไว้วางใจกับพันธมิตรและร้านค้าผู้เช่า ในรูปแบบต่าง ๆ
4.Mitr Community การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบต่าง ๆ
ในปีที่ 2 ภายใต้เงื่อนไขว่าไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 รายได้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
แม้ว่าศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ จะต้องปิดการให้บริการไปในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ แต่ภายหลังมีการประกาศยกเลิกมาตราการล็อกดาวน์ในเดือนมิถุนายน ปรากฏว่า ช่วงเวลาเพียง 2 เดือนเศษๆ ตัวเลขผู้ใช้บริการของสามย่านมิตรทาวน์พลิกกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว อยู่ที่ 60,000 คนต่อวัน หรือ 80% ของช่วงสถานการณ์ปกติ
โดยผู้เข้ามาใช้บริการ จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน (Adult) มีสัดส่วนมากสุด 63% กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา (University Student & Pre-University) 27% กลุ่มผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และครอบครัว (Active Aging & Household with Kids) 6% ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติมีเพียง 4% ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่ 47% มาเพื่อหาอาหารที่มีหลากประเภท ตอบโจทย์ทุกความชอบทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นโจทย์ที่ทางศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์วางโพสิชั่นนิ่งของตัวเองให้เป็น “คลังอาหารและการเรียนรู้” ขณะที่ 29% มาพบปะสังสรรค์ แฮงก์เอาท์กับกลุ่มเพื่อน ส่วน 15% มาเรียนรู้ในพื้นที่โคเลิร์นนิ่ง อีก 9% เป็นกลุ่มใช้บริการประจำ ต้องการจับจ่ายในร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และสนใจกิจกรรมอีเว้นต์ต่างๆ