Homepro New Store Rangsit

2 กลยุทธ์ “โฮมโปร” รับไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุค New Normal

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป เข้าสู่ความปกติใหม่ หรือ New Normal ไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น ที่ต้องปรับเปลี่ยนไป แต่การทำงานหรือแม้แต่การดำเนินธุรกิจก็ต้องปรับเปลี่ยนเช่นกัน พนักงานจำนวนมากต้องทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) เจ้าของธุรกิจก็ต้องปรับโมเดลการทำธุรกิจใหม่ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าเช่นกัน

 

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน นับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 คือ การช้อปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น เพราะนับตั้งแต่มีการล็อกดาวน์เมือง ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการ แต่หันมาจำหน่ายสินค้าผ่านระบบเดลิเวอรี่และออนไลน์แทน แม้ว่าภายหลังจากสถานการณ์ทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น แต่พฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์และระบบเดลิเวอรี่ก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นพฤติกรรมปกติใหม่ของคนในยุคปัจจุบันไปแล้ว

 

สินค้าที่ที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ปัจจุบัน ลูกค้าไม่ได้สั่งซื้อเฉพาะกินของใช้จิปาถะ หรืออาหารการกิน หรือสินค้าแฟชั่นเท่านั้น แต่สินค้าชิ้นใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาทิ แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ก็ได้รับความนิยมในการสั่งซื้อผ่านช่องทางด้วยเช่นกัน เพราะปัจจุบันระบบการสั่งซื้อและการจัดส่ง สะดวก รวดเร็ว และได้รับสินค้าเหมือนกับการไปซื้อด้วยตนเองที่ห้างสรรพสินค้า

ล็อกดาวน์ดันยอดขายออนไลน์โต

“โฮมโปร” ศูนย์จำหน่ายสินค้าวัสดุ ของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ปรับตัวเองกับการเปิดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการล็อกดาวน์เมือง ไม่ได้เปิดให้บริการจำหน่ายสินค้าในร้าน แต่ปรับตัวด้วยการเปิดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ ไลน์ เฟสบุ๊ค และล่าสุด เปิดตัวแอปพลิเคชั่น โฮมโปร

Homepro New Store Rangsit Saowanit

นางสาวเสาวณีย์  สิราริยกุล  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร”  เปิดเผยว่า ช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โฮมโปรมีสัดส่วนยอดขายผ่านช่องออนไลน์ 3-4% แต่หลังจากที่โฮมโปรหันมาเพิ่มช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้มียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ขึ้นเป็น 8%

 

นอกจากนี้  โฮมโปรยังมองเห็นปัญหาสำคัญของการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ที่ลูกค้ามักจะไม่ได้รับสินค้าตรงกับที่สั่ง ด้วยการเปิดบริการ Click & Collect  เป็นการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ที่เมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แล้วสามารถมารับสินค้าได้ที่สาขาใกล้บ้าน

2 กลยุทธ์รับไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุค New Normal

โฮมโปร ไม่ได้ปรับตัวเฉพาะในเรื่องการตลาดออนไลน์เท่านั้น แต่ในช่องทางออฟไลน์ โฮมโปรก็ได้ปรับตัวรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย โดย 2 สิ่งที่โฮมโปรปรับกลยุทธ์การทำตลาด รับกับวิถีชีวิต New Normal ของผู้บริโภคยุคหลังโควิด-19 คือ

1.เพิ่มสินค้าใหม่รับไลฟ์สไตล์ New Normal

Homepro New Store Rangsit 1

ปัจจุบันสินค้าที่วางจำหน่ายในโฮมโปร เป็นแบรนด์สินค้าทั่วไปของซัพพลายเออร์ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็มีสินค้าที่โฮมโปรสั่งผลิตภายใต้แบรนด์ของตนเอง หรือจัดหามาจำหน่ายเอง (Sourcing) เพราะต้องการพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าของโฮมโปร ปัจจุบันมีสัดส่วนสินค้าของโฮมโปรอยู่ 22% โดยจะพัฒนาและคัดเลือกสินค้ามาจำหน่ายให้ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการในสัดส่วน 25%

 

ล่าสุด การเปิดให้บริการโฮมโปรในสาขา ศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ รังสิต โฮมโปรเพิ่มสินค้าแบรนด์ใหม่ของตนเองมากถึง 10-15% กระจายไปในหลายกลุ่มสินค้า ที่สำคัญสินค้าได้ถูกพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ New Normal อาทิ เครื่องบรรจุอาหารสุญญากาศ จากพฤติกรรมของลูกค้าที่มักจะประกอบอาหารกินเองที่บ้าน หรือทำขนมขายและต้องการจัดเก็บอาหารไว้ให้ได้นาน หรือการแพ็คอาหารขาย การจำหน่ายอุปกรณ์ปลูกผักที่เป็นระบบอัตโนมัติ รองรับกับพฤติกรรมการปลูกพักของคนที่ใช้เวลาอยู่บ้าน เป็นต้น

2.การจัดดิสเพลย์สินค้า ตอบโจทย์ Home Solution

Homepro New Store Rangsit 2

โฮมโปร สาขาศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ รังสิต ถือเป็นสาขาใหม่ล่าสุดของปีนี้ สาขาที่ 85 ที่มีรูปแบบการจัดเลย์เอาท์ของจำหน่ายสินค้าด้วยรูปแบบใหม่ ที่รองรับกับวิถีชีวิต New Normal  ด้วยการจัดกลุ่มสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกันมาไว้ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน พร้อมกับการจัดดิสเพลย์สินค้าให้เห็นถึงการใช้งานที่ร่วมกัน อาทิ การจัดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ไว้ใกล้กับจาน ชาม อุปกรณ์ครัว อุปกรณ์ประกอบอาหาร เพราะโฮมโปรพบว่า ในช่วงล็อกดาวน์  ลูกค้าซื้อเตาอบขนมไปทำขนมขาย ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นมากถึง 3-4 เท่าตัว ทำให้สาขาใหม่จึงจัดสินค้าที่ต้องใช้ในการทำขนมมาไว้ในพื้นที่ใกล้กัน

 

แนวคิดของการปรับเลย์เอาท์แสดงสินค้า จะถูกนำไปใช้กับสาขาเดิมของโฮมโปรด้วย เพื่อทำให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าภายในโฮมโปร สามารถได้สินค้าครบตามความต้องการ ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของ Total Home Solution ของโฮมโปรที่ต้องการขายสินค้าให้กับลูกค้าแบบครบจบในที่เดียว ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดยอดขายต่อบิลที่สูงขึ้น โดยโฮมโปรสาขาศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ รังสิต คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้เดือนละ 100 ล้านบาท ใกล้เคียงกับสาขาขนาดใหญ่อื่น ๆ ของโฮมโปร

 

สำหรับศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ รังสิต บริษัทได้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 5 สาขา โดยมีคอนเซ็ปต์การพัฒนาให้เป็น  Life Style Mall  ซึ่งสาขาดังกล่าวตั้งอยู่บนถนนรังสิต-ธัญญบุรี พื้นที่กว่า 25 ไร่ รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 35,000 ตร.ม.  ภายในโครงการของศูนย์การค้าประกอบไปด้วย ร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำ  Homepro และTop Super Market และร้านค้าปลีกชื่อดังกว่า 100 ร้านค้า ศูนย์อาหาร Street Food Market ศูนย์รวมความบันเทิง และพักผ่อน The Fitness Society และ Play Tory (PlayLand)

Homepro New Store Rangsit 3

ส่วนโฮมโปร สาขาศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ  ถือเป็นสาขาแห่งที่ 85  มีพื้นที่กว่า 9,000 ตรม. ตั้งอยู่ชั้น 2 ของศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ ซึ่งในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ จะเปิดสาขาที่ 86 ที่ย่านสุขสวัสดิ์ เพื่อผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้

 

 

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด