เอสซี แอสเสท เดินหน้าลุยตลาดแนวราบ ปั้น 8 โปรเจ็กต์ใหม่ 9,000 ล้าน สู่ผู้นำเบอร์ 1 บ้านเดี่ยว ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมเปิดตัว 2 บ้านฟังก์ชั่นใหม่ เอาใจคนโสด และเจนวาย ปูทางสร้างรายได้ 19,000 ล้านบาท
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2564-2565 ว่า ได้วางแผนรุกตลาดแนวราบอย่างหนัก ด้วยการทุมเม็ดเงินลงทุน 25,000 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายสู่การเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ภายใต้ความพร้อมใน 3 ด้าน ได้แก่ ความพร้อมด้านที่ดิน ด้านสภาพคล่อง และสินค้า
โดยกลยุทธ์สำคัญทั้ง 3 ประการ ภายใต้ความพร้อมของ SC ในแบบ Fully-Loaded ประกอบด้วย
ทุ่มเงินลงทุน 25,000 ล้านบาท ใน 2 ปีนี้ (2564-2565) เพื่อโอนที่ดินจำนวนมากกว่า 30 แปลง และรุกพัฒนาโครงการแนวราบแบบจัดหนัก ครอบคลุมทุกระดับราคาทั่วกรุงเทพ-ปริมณฑล
มีสภาพคล่องแข็งแกร่ง มีเงินสดและวงเงินพร้อมเบิกมากกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมกับมีระดับหนี้ลดเหลือ D/E 1.38 จาก D/E 1.58 ในปี 2562 ถือว่าปัจจุบันมีระดับหนี้ต่ำสุดในรอบ 5 ปี
โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าตามปรัชญาแบรนด์ ‘For Good Mornings’ สร้างทุกเช้าที่ดีให้ลูกค้าทุกคน ใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ Design, Technology และ Living Solutions เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุค new normal พร้อมรองรับกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นภายในบ้าน
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 20,000 ล้านบาท และรายได้ 19,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากโครงการเพื่อขายทั้งหมดในปีนี้จำนวน 69 โครงการ มูลค่า รวม 57,500 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 8 โครงการ มูลค่า 9,000 ล้านบาท และแนวสูง 3 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท
ในส่วนบ้านแนวราบปีนี้ จะมีการเปิดตัวบ้านซีรี่ส์ใหม่ ได้แก่ บ้านคนโสด และ บ้าน SoU-21 ภายใต้แนวคิด ‘One Size doesn’t Fit All’ บ้านที่ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ จะเปิดตัวครั้งแรกที่โครงการเวนิว พระราม 9 การเปิดตัวบ้านซีรี่ยส์ใหม่ดังกล่าว เนื่องจาก SC มีนโยบายในการพัฒนาบ้านเพื่อตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม ในทุกระดับราคา
สำหรับผลการดำเนินงานในรอบปี 2563 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งความท้าทายของบริษัท เนื่องจากมีปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทสามารถสร้างผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ด้วยยอดขายรวม 16,602 ล้านบาท และสามารถทำยอดขายแนวราบสูงสุดเติบโตสวนกระแสตลาด คิดเป็นยอดขายแนวราบ 14,757 ล้านบาท เติบโต 37% จากช่วงปีก่อนหน้า ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของบ้านเดี่ยวในกลุ่มราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาด 26% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีส่วนแบ่งการตลาด 19%