แสนสิริโชว์ผลงานครึ่งปี 64 กวาดยอดขาย – ยอดโอน เกินเป้า สร้างยอดขายทะลุ 17,600 ล้าน และ ยอดโอน 16,400 ล้าน ครึ่งปีหลังลุยเปิด 20 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 19,400 ล้าน รับสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จากัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกว่า บริษัทสร้างยอดขายรวมมูลค่า 17,600 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 57% จากเป้าหมายยอดขาย 31,000 ล้านบาท จำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 12,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 5,600 ล้านบาท ส่วนผลงานในไตรมาสที่ 2 บริษัทมียอดขาย 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 32% จากไตรมาสแรกที่มียอดขาย 7,600 ล้านบาท
โดยยอดขายในครึ่งปีแรก มาจากการปิดการขายโครงการ 5 โครงการหลัก อาทิ โครงการเศรษฐสิริ พัฒนาการ โครงการคณาสิริ ชัยพฤกษ์ – วงแหวน โครงการ “BuGaan เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์” ระดับราคา 35.9 – 80 ล้านบาท ที่ทำยอดขายไปถึง 75% ของมูลค่าโครงการ โครงการทาวน์โฮมแบรนด์ สิริ เพลส ซีรีย์ใหม่ “Dream Destination” ทั้ง สิริ เพลส บางนา-เทพารักษ์ และสิริ เพลส วงแหวน – ลำลูกกา ที่ทำยอดขายไปแล้วกว่า 80% จากจำนวนยูนิตที่เปิดขายในระยะเวลาเพียง 2 วันพรีเซลล์ และคอนโดแบรนด์ “THE MUVE” (เดอะมูฟ)
ยอดขายของแสนสิริ เป็นผลมาจากการมองตลาดเร็ว และพร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์ ตลอดเวลา นอกจากนี้ ในครึ่งปีแรก บริษัทยังมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จ และส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วถึง 16,400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 53% จากเป้าหมายยอดโอนปีนี้จำนวน 31,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดโอนในไตรมาส 2 อยู่ที่ 8,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 14% จากไตรมาสแรกที่มียอดโอน 7,700 ล้านบาท และแบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบ 55% และคอนโด 45%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการปิดแคมป์ก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด– 19 แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการโอนและรับรู้รายได้ในไตรมาส 2 ของบริษัท เนื่องจากที่อยู่อาศัยที่ต้องส่งมอบได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งแสนสิริได้เตรียมทำแผน catch up งานก่อสร้างหลังกลับมาเริ่มก่อสร้างได้ไว้เรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าได้ตรงเวลา รวมทั้งยังมีที่อยู่อาศัยพร้อมเข้าอยู่ – พร้อมโอน รองรับความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย
นายอุทัย กล่าวอีกว่า โดยในครึ่งปีหลัง บริษัทยังเตรียมโอนคอนโด เอดจ์ เซ็นทรัล – พัทยา ในวันที่ 21 – 22 สิงหาคม และ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ – รังสิต ในวันที่ 28 – 29 สิงหาคมนี้ เพื่อรองรับการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังอีกด้วย และบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 20 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและมิกซ์โปรดักส์แบรนด์อณาสิริ 8 โครงการ มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท ทาวน์โฮมแบรนด์สิริเพลสและแบรนด์ใหม่ล่าสุด 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,300 ล้านบาท และโครงการคอนโด 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท
แสนสิริยังมองแง่บวกถึงทิศทางข้างหน้าที่ต้องปรับตัวให้เร็ว รองรับความต้องการลูกค้าและการกลับมาของตลาด ก่อนการเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้น
ทั้งนี้ แสนสิริยังมองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี จากยอดขายในตลาดต่างจังหวัดที่เริ่มมียอดขายที่ดีขึ้น รวมถึงยอดโอนในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยล่าสุด แสนสิริได้เริ่มรุกตลาดเชียงใหม่ ด้วยการเปิดตัว “1517 NIMMAN” (1517 นิมมาน) Co – Business I Living Space พื้นที่ที่รวมธุรกิจ และการอยู่อาศัยเป็นหนึ่งเดียว ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต
ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ต มีทิศทางที่ดี จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ภายใต้โครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์” ที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาคึกคัก ยังรวมถึงสัญญาณที่ดีในตลาดต่างชาติ จากยอดโอน XT ห้วยขวาง ซึ่งกลุ่มลูกค้าต่างชาติให้ความเชื่อมั่นแสนสิริ และตอบรับโอนไปแล้วกว่า 60%