Terra

เทอร์ร่า เผยเทรนด์การอยู่อาศัยในปี 65 ต้องตอบโจทย์ Well-Being & ความปลอดภัย

เทอร์ร่า เผยเทรนด์การอยู่อาศัยในปี 65 คนอยากมีบ้านใหม่ ที่ตอบโจทย์เรื่อง Well-Being ที่ครบทั้งระบบรักษาความปลอดภัยเยี่ยม เพิ่มนวัตกรรม Smart Home – EV Charger  เพิ่มพื้นที่สีเขียว  ด้าน “SC ASSET” มาแรงแซงโค้งคว้ารางวัล “The Most Powerful Real Estate Brand 2022” เป็นปีแรก สะท้อนการปรับแผนธุรกิจให้สอดรับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

 

นางสาวสุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด เปิดเผยถึงผลวิจัย The Most Powerful Real Estate Brand 2022 และผลวิจัยเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคตามแนวคิด “GOOD HEALTH AND WELL-BEING”  จาการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง 1,000 ตัวอย่างทางออนไลน์​ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ 84% มีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัย โดยกว่า 44% คาดว่าจะซื้อบ้านเดี่ยว และ 29% คาดว่าจะซื้อคอนโดมิเนียม  ภายใต้งบที่วางไว้ว่าจะซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคา 3-5 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมาจาก 3 ปัจจัย คือ ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการ, บริการหลังการขาย และสังคมเพื่อนบ้านที่ดี

 

สำหรับที่อยู่อาศัยระดับราคา 3-7 ล้านบาท ในกลุ่มบ้านแนวราบทำเลที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก คือ รังสิต-ลำลูกกา, บางใหญ่-บางบัวทอง, และบางพลี ขณะที่ทำเลอยู่อาศัย ที่ได้รับความนิยม​ในกลุ่มคอนโด 3 อันดับแรก คือ จตุจักร-ประชาชื่น, อ่อนนุช-บางนา และพญาไท-อารีย์ โดยปัจจัยสำคัญในการซื้อบ้านหรือคอนโด ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัย, บริการหลังการขายที่ดี, สังคมเพื่อนบ้านดี, วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง และราคา

 

เมื่อเจาะลึกลงถึงความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มบ้านแนวราบ พบว่า   คนส่วนใหญ่ต้องการบ้านที่มีฟังก์ชั่นครอบคลุม อาทิ Smart Home เพื่อความปลอดภัย, นวัตกรรมจัดการคุณภาพอากาศ, การออกแบบเพื่อสูงอายุ, ที่ชาร์จรถ EV และDouble Volume  ขณะที่กลุ่มคอนโด จะให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นที่เพิ่มความเป็นส่วนตัว อาทิ ประตู-ฉากกั้นห้องนอน, หน้าต่างบานใหญ่, ครัวปิด, ห้องนอนที่สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้

Terra Well

เทอร์ร่า เผยลูกค้าต้องการ Well-being  

สำหรับเทรนด์ของผู้บริโภคในปี 2565 จะเห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถาม จะให้ความสำคัญ กับโครงการอสังหาฯ ​ที่ช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) มากกว่าการเปรียบเทียบราคาหรือทำเล เหมือนที่ผ่านมา ​โดยมีความต้องการหรือคาดหวังบ้านในอุดมคติ จะต้องช่วยสร้างความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และต้องสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล  ผู้อยู่อาศัยในแต่ละช่วงวัย

 

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจ จากผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่ม Gen Y อายุ 27-40 ปี มีแผนที่จะซื้อที่อยู่อาศัยถึง 88% โดยตัวเลขที่น่าสนใจคือ 38% ของ Gen Y เป็นการซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 29% เป็นการซื้อบ้านหลังแรก  ซึ่งส่วนใหญ่มีความต้องการซื้อบ้านเดี่ยวในระดับราคา 3-7 ล้านบาท และให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมและทันสมัย รวมถึงการออกแบบ Universal Design รองรับทุกเพศ ทุกวัย และพื้นที่ส่วนกลาง 24 ชั่วโมง

 

ขณะที่กลุ่ม Gen Z อายุ 18-26 ปี ก็เป็นอีกกลุ่มที่กว่า 87% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีแผนที่จะซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่ง 72% เป็นการซื้อบ้านหลังแรกของ Gen Z และ 17% เป็นการซื้อบ้านหลังที่ 2 โดยสนใจซื้อคอนโดและบ้านเดี่ยว ในระดับราคา 2-5 ล้านบาท โดยปัจจัยสำคัญมาจาก ความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง, ต้องการสังคมที่ดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น และต้องการซื้อไว้พักอาศัยในวันทำงาน

 

ในขณะที่เรื่องการจัดการระบบสาธารณูปโภคที่ดี เช่น สายไฟลงดิน, ระบบระบายน้ำ, ระบบจัดการขยะ นวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น Smart Home, EV Charger, การก่อสร้างที่ไม่ก่อมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังเป็นเทรนด์สำคัญที่คนกลุ่ม Gen Z มีความต้องการเป็นอันดับต้นๆ

 

ด้านแนวโน้มความเชื่อมั่นผู้บริโภคปี 2565 พบว่ามีสัญญาณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากดัชนีความเชื่อมั่น  ผู้บริโภคปี 2565 อยู่ที่ 79.3 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ 45.4 ซึ่งจากข้อมูลพบว่ากลุ่มเจ้าของกิจการมีความเชื่อมั่น มากขึ้น โดยส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าปี 2565 สถานะทางการเงินดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าในอีก 1 ปีข้างหน้าภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น อสังหาฯหรือรถยนต์ เป็นต้น

Terra Well Feature

เอสซีฯ คว้ารางวัลปีแรก

สำหรับการประกาศผลรางวัล The Most Powerful Real Estate Brand ประจำปี 2565 ผู้ที่คว้ารางวัลในปีนี้ ได้แก่ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นับเป็นปีแรกที่ SC ASSET คว้ารางวัล The Most Powerful Real Estate Brand โดยเป็นแบรนด์ที่มีการปรับตัวเติบโตต่อเนื่อง ทั้งการรับรู้ ภาพลักษณ์และความพึงพอใจ ก่อให้เกิดการสร้างฐานลูกค้าผู้ภักดี ครองตำแหน่งอันดับ 1 ในปีนี้

 

ขณะที่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล Eternal Award สำหรับแบรนด์ที่ครองใจลูกค้าได้  ต่อเนื่องเป็นอันดับหนึ่ง 5 ปี ติดกัน  เปรียบเสมือนแบรนด์ดาวค้างฟ้าเป็นตำนานในแวดวงอสังหาฯ  และ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ในปีนี้สามารถคว้ารางวัล Credence Award แบรนด์ผู้กำหนดบรรทัดฐานคุณภาพและสร้างฝันของลูกค้าได้เป็นจริงสูงที่สุด และประกาศเกียรติคุณพิเศษให้กับบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ด้าน Excellence in Cater to Economy Group (แบรนด์ตอบโจทย์คนชั้นกลาง) และบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ด้าน Excellence in Green Development (แบรนด์ที่พัฒนามุ่งคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม) 

Terra Well Being

การเข้าสู่ Metaverse นั้นพบว่าผู้คนมีประสบการณ์การใช้งานสัดส่วนเพียง 17% และ มีความคิดเห็นต่อโลกเสมือนจริงว่าน่าจะมาแทนที่โลกจริงได้ 62% ในขณะที่คนกลุ่ม Gen Z นั้นมีความคิดเห็นว่าโลกเสมือน Metaverse น่าจะเข้ามาแทนที่โลกแห่งความจริงได้สูงถึง 80% มากกว่ากลุ่มคนอื่นๆ โดยการเข้าสู่ Metaverse นั้นเป็นไปเพื่อความบันเทิง (เล่นเกมส์ ดูคอนเสิร์ต) เพื่อการทำงาน (ประชุมออนไลน์) และเพื่อการลงทุน (NFT, Cryptocurrency) และประสบการณ์ต่อบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่เข้าสู่ Metaverse นั้นการรับรู้ยังอยู่ในระดับต่ำ

 

สำหรับการรองรับผู้บริโภคยุคใหม่นี้ ผู้พัฒนาอสังหาฯ ​ต้องกำหนดจุดยืน จุดขายของตนเองใหม่ เนื่องด้วยผู้บริโภคในวันนี้ไม่ได้มองหาบ้านเพื่อการอยู่อาศัยเพียงเท่านั้น แต่ต้องการหาพื้นที่ที่จะช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) ให้เกิดขึ้น โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการนั้นคือ เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบายด้วยร้านค้า สิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเวลา 15 นาที  สังคมเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร และสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย ซึ่งโครงการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทศวรรษนี้ นั่นคือ การวางแผนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน หรือ มิกซ์ยูส (Mix-used Project) นั่นเอง

การทำอสังหาฯ ต้องคิดใหม่ทำใหม่ เพราะลูกค้าซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัยในคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

Terra Research 65

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทอร์ร่าบีเคเค เผย โควิด-19 กระทบความเชื่อมั่น​  ลูกค้าเลื่อน-พับแผนซื้อบ้าน หวั่นสถานการณ์รุนแรง

บทความ ข่าวโปรโมชั่น ล่าสุด