เตรียมตัวกู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุยเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย

เตรียมตัวกู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย

Categories : Life+Style
Tags : , ,

หนึ่งในความใฝ่ฝันของชีวิตใครหลายคนก็คงจะอยากมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เพราะที่อยู่อาศัยคือหนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์ที่จำเป็นจะต้องมี ซึ่งทุกวันนี้เรามีตัวเลือกมากมายในหลายทำเล หลายระดับราคา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ หรือคอนโดมิเนียม โดยเมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องเลือกซื้อที่อยู่อาศัยก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก คิดเยอะ คิดให้รอบด้าน เพราะการถือเงินก้อนใหญ่พร้อมยื่นกู้ธนาคาร บางคนอาจเก็บหอมรอมริบมากว่าครึ่งชีวิต แต่ถ้ากู้ไม่ผ่านก็เสียเวลารอทำเรื่องทุกอย่างใหม่ บ้านหลังที่มองไว้ก็อาจจะหลุดมือไป เราลองมาดูเทคนิคการเตรียมตัวก่อนยื่นกู้สินเชื่อบ้านให้ผ่านฉลุยกันค่ะ

สำรวจสุขภาพทางการเงินของตัวเองก่อน

สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการชำระหนี้ได้ ก่อนอื่นเราต้องดูที่รายได้หลักของเราก่อน ยิ่งเป็นมนุษย์เงินเดือนมีรายได้แน่นอนประจำทุกเดือนยิ่งดี แต่บัญชีรายรับของเราทุกเดือนควรจะมีเงินเหลือเก็บ หรือจะเปิดบัญชีเงินฝากประจำเอาไว้ประมาณ 1-2 ปี ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แต่ถ้าไม่ได้ทำงานประจำก็พยายามเก็บหลักฐานทางการเงิน และนำเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอเอาไว้

ในปีที่ผ่านมามียอดการปฏิเสธสินเชื่อสูงกว่า 50% เพราะหนี้ครัวเรือนเป็นสิ่งที่ทำให้ธนาคารปฏิเสธสินเชื่อมากที่สุด ซึ่งหนี้ครัวเรือนหมายถึงภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของเรา เช่น บัตรเครดิต, ผ่อนรถยนต์ ฯลฯ เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแต่ละเดือนแล้วไม่ควรเกิน 50-80% ของรายได้ทั้งหมด และถ้าหากจะยื่นกู้ควรจะจัดการภาระเหล่านี้ให้หมดเสียก่อน หรือไม่ก็พยายามลดให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ตัวเราเองมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ เพราะหากธนาคารปล่อยกู้ไปทั้งที่ผู้กู้ไม่พร้อมจริงๆ แล้วเกิดไม่มีการชำระติดต่อกัน 3 งวด ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะมองเป็นหนี้เสีย หรือที่เรียกกันว่า NPL (Non Performing Loan) ทันที

ข้อควรระวัง คือ อย่าชำระบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถยนต์ ฯลฯ ช้าเกินไปจากวันที่กำหนดในแต่ละเดือน เพราะหากเราชำระล่าช้าก็จะส่งผลต่อการพิจารณาของธนาคารทันทีว่าเราไม่มีวินัยทางการเงิน แต่ในทางกลับกันสำหรับผู้ที่ไม่เคยมีบัตรเครดิตเลยก็อาจจะยื่นกู้ไม่ผ่านนะคะ เพราะทางธนาคารจะไม่มีประวัติทางการเงินของเราเพื่อนำมาพิจารณาเลย ในกรณีนี้อาจจะต้องไปสมัครใช้บัตรเครดิต และทำการจ่ายบัตรเครดิตให้ดี ตรงเวลาสม่ำเสมออย่างต่ำประมาณ 6 เดือน ก่อนจะยื่นกู้

เตรียมตัวกู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย 1

อายุก็มีผล

ในการยื่นกู้นั้นนอกจากธนาคารจะมองที่หนี้ครัวเรือนกับความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลักแล้ว ทางธนาคารก็ยังมองที่ความมั่นคงของบริษัทที่เราทำงาน, อายุงาน(ต้องทำงานที่ปัจจุบัน 6 เดือนขึ้นไป หรือบางแห่งก็พิจารณาที่ 1-2 ปี) และอายุจริงของเราว่าเหลืออีกกี่ปีถึงจะเกษียณ เหล่านี้ก็มีผลต่อการยื่นกู้ทั้งสิ้น เพราะในการยื่นกู้สินเชื่อบ้านนั้นเป็นการผ่อนในระยะยาว 25-30 ปี ยิ่งเราเหลือปีที่ทำงานมากเท่าไหร่ก็จะได้เปรียบมากกว่า ฉะนั้นเราควรวางแผนอนาคตเอาไว้ให้รอบคอบที่สุดนะคะ

ชื่อเสียงของเจ้าของโครงการ

ก่อนจะตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เชื่อว่าหลายคนต้องดูเอาไว้หลายโครงการก่อนจะตัดสินใจซื้อโครงการที่ลงตัวกับเราเองมากที่สุด ซึ่งการเลือกโครงการก็สำคัญมากเช่นกัน นอกจากเราจะได้คุณภาพแล้ว ก็ยังจะได้ความไว้วางใจจากทางธนาคาร ส่งผลถึงยอดเงินที่ให้กู้ด้วย เพราะในบางโครงการธนาคารจะให้วงเงินในการกู้สูงมากกว่า 100% เลยทีเดียว

การยื่นกู้

แม้ว่าเราจะมีสิทธิ์ยื่นกู้ได้ 100% เต็มของราคาบ้านที่เราจะกู้ แต่เราแนะนำว่าไม่ควรจะกู้ 100% ค่ะ เพราะภาระผ่อนจ่ายในแต่ละเดือนจะสูงจนเกินไปจนอาจทำให้เราขาดสภาพคล่องทางการเงินได้ อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้ธนาคารเห็นด้วยว่าเรามีสภาพคล่องมากพอ สามารถวางเงินดาวน์ได้ และสุดท้ายคือเตรียมเอกสารทุกอย่างไปให้พร้อม ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล(ถ้ามี), สลิปเงินเดือนหรือใบรับรองเงินเดือน, เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) 6 เดือนย้อนหลัง, ใบสัญญาที่เราได้ทำการจองกับโครงการ สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีเงินเดือนประจำให้ยื่นสำเนาทะเบียนการค้า, รูปถ่ายกิจการ เพิ่มเติมไปด้วย

เตรียมตัวกู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย 2

ขั้นตอนการเตรียมตัวที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เพียงแต่เราต้องมีวินัยทางการเงิน รวมถึงต้องมีระยะเวลาการวางแผนเตรียมตัวก่อนจะยื่นกู้ให้ดี เพื่อให้เมื่อถึงเวลายื่นกู้จริงจะได้รับการอนุมัติอย่างง่ายดาย ไม่เสียเวลา หากทำตามวิธีเหล่านี้ก็จะสามารถยื่นกู้สินเชื่อบ้านได้อย่างแน่นอนค่ะ

 

บทความ Life+Style ล่าสุด