Tag : CHARN ISSARA

รีวิวคอนโดย่านสาทร วิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา THE ISSARA SATHORN

รีวิวคอนโดย่านสาทร วิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา THE ISSARA SATHORN

THE ISSARA SATHORN (ดิ อิสสระ สาทร) คอนโดที่ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่าคำว่าคอนโดมิเนียม โดยนำเอาทำเลรอบๆ ที่มีความเป็นเมือง metropolitan กับธรรมชาติ suburban มาผสมผสานอัตลักษณ์ของ 2 บริบทนี้เข้าด้วยกัน   รอบโครงการได้กระจายพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวไว้ตามส่วนต่างๆของอาคารตั้งแต่ทางเข้าของโครงการจนไปถึงชั้นต่างๆ ของตึกจนถึงบริเวณสูงสุดของอาคาร โดยลักษณะพื้นที่ในสวนในรูปแบบของ pattern ที่เป็นเส้นตรง มีการสลับกันระหว่างพื้นที่สีเขียว ทางเดิน และน้ำ ในส่วนของ facilities หลักของโครงการชั้น 30 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ Wellness pool ที่ยาวกว่า 28 เมตร เป็นตัวเชื่อมวิวระหว่างฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าหาเมืองกรุงเทพมหานคร ส่วนชั้น 38 และ Rooftop ถูกออกแบบอย่างมี Character และกิจกรรมต่างๆ ดึงดูดให้มาใช้งาน อาทิ พื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัวและสมุนไพร โดยมีพื้นที่และอุปกรณ์สำหรับการทำสวนและปลูกผัก ส่งไปถึงการออกกำลังกายบนชั้น Rooftop ใช้สีสันฉูดฉาดชวน Active บนวิวเมืองสวยๆ และยังมีที่นั่งที่เป็น Net Hammock ดูยื่นออกไปนอกอาคารอีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองวิวได้อย่างครบ 360 องศา   ภายในสร้างบรรยากาศการตกแต่งแบบร่วมสมัย คือ MODERN แต่ก็ผสมผสาน ART CULTURE แบบ RETRO ในรูปแบบ MODERN RETRO ที่สะท้อนการใช้งานศิลปะเข้ามาผสมผสานในทุกๆพื้นที่ ในส่วนของห้องพักมีความโล่งกว้างสามารถใช้อยู่อาศัยได้จริงทั้งส่วนบุคคลหรืออยู่เป็นครอบครัว มีการแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน ถ่ายเทของอากาศได้ดี จากการออกแบบแปลนของอาคารทำให้ทุกห้องได้รับวิวทัศนียภาพที่สวยงามของสถานที่โดยรอบได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิวเมืองหรือวิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า และมีการประหยัดพลังงานด้วยการออกแบบให้มีครีบที่ช่วยกันแดดแนวตั้งที่สามารถช่วยลดความร้อนและแสงที่จะเข้ามาภายในอาคารได้ในบางส่วน โดยที่ไม่บดบังทัศนียภาพนอกอาคาร ชื่อโครงการ THE ISSARA SATHORN (ดิ อิสสระ สาทร) เจ้าของโครงการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด มหาชน ที่ตั้งโครงการ ถ.จันทน์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร จ.กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ  1-2-60 ไร่ ลักษณะโครงการ High Rise  จำนวนอาคาร 1 อาคาร  จำนวนชั้น  37 ชั้น จำนวนยูนิต 270 ยูนิต  ขนาดห้อง  1 BEDROOM 32.66 – 47.21 ตร.ม. 1 BEDROOM PLUS 37.21 ตร.ม. 2 BEDROOM 58.96 – 90.32 ตร.ม. 2 BEDROOM  PLUS 88.14 – 88.17 ตร.ม.  3 BEDROOM 93.44 – 110.74 ตร.ม. PENTHOUSE 134.88- 188.76 ตร.ม. เฟอร์นิเจอร์ Fully Fitted  ที่จอดรถ Auto Parking 270 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง  ปีที่สร้างเสร็จ ประมาณปลายปี 2565 ราคาเริ่มต้น 4.88 ล้านบาท  จุดเด่นโครงการ  ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีช่องนนทรี  จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทางด่วนเฉลิมมหานคร สถานที่ใกล้เคียง Makro, Market Place นางลิ้นจี่, Central rama 3, The Up rama 3, Silom Complex,สวนลุมพินี, โรงพยาบาล กรุงเทพคริสเตียน, โรงพยาบาล BNH, โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ภาพ Facilities ภาพ Interior   ข้อมูลโครงการเพิ่มเติม  THE ISSARA SATHORN โครงการอื่นๆ จากชาญอิสสระ THEW TALAY ESTATE Blu ชะอำ-หัวหิน BaBa Beach Club Phuket
รีวิวคอนโด พักผ่อนแบบคลูๆ ที่ “Blu ชะอำ-หัวหิน”

รีวิวคอนโด พักผ่อนแบบคลูๆ ที่ “Blu ชะอำ-หัวหิน”

พอเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ หรืออยู่ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะนึกถึง “ทะเล” เป็นจุดหมายแรกๆ ในใจ โชคดีที่ทะเลและชายหาดสวยๆ ในบ้านเราก็มีให้เลือกมากมายเลยทีเดียว ทำให้ปลายทางของการเดินทางมีให้เลือกมากขึ้น และยิ่งถ้าเป็นคนที่หลงรักทะเลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เชื่อว่าความฝันที่จะได้มีบ้านพักตากอากาศหรือคอนโดมิเนียมริมทะเล คงอยากจะทำให้เป็นจริงกับเค้าบ้าง   คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทะเลในโซน “ชะอำ-หัวหิน” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แทบจะทุกสุดสัปดาห์ที่อัตราการจองห้องพักของโรงแรมต่างๆ เต็ม (หรือเกือบเต็ม) จนไม่ต้องแคร์ว่าจะเป็นช่วง High Season หรือไม่ ก็เพราะว่า “ชะอำ-หัวหิน” ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ถนนหนทางก็สะดวก มีแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารต่างๆ รองรับมากมาย หลายคนจึงกลายเป็นนักท่องเที่ยวขาประจำของชะอำและหัวหินกันไปเลย     พอมาเที่ยวบ่อยๆ เสียเงินพักโรงแรมมากบ้างน้อยบ้าง (หรือแพงมาก) เชื่อว่าหลายคนคงคิดอยากจะเป็นเจ้าของห้องพักในคอนโดมิเนียมริมทะเลกับเค้าบ้าง ดีไม่ดีนอกจากจะได้มาใช้พักผ่อนเองแล้ว ยังอาจจะได้ช่องทางในการลงทุนเพิ่มด้วย เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาอาศัยเป็นระยะเวลานานๆ ก็มีไม่น้อย ถ้าเกิดมีโอกาสได้ผู้เช่าครั้งละ 3 เดือน 6 เดือน ก็ยิ่งจะช่วยทุ่นภาระที่ต้องผ่อนลงไปอีกทาง .... พอคิดมาถึงตรงนี้ มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็อยากจะมองหาคอนโดมิเนียมดีๆ ในราคาที่พอจะเอื้อมถึงโดยที่ไม่เหนื่อยจนเกินไป ในเมืองตากอากาศอย่างชะอำ-หัวหิน จะได้จับจองเป็นเจ้าของกับเค้าบ้าง   เมื่อไม่นานมานี้ เราแอบหนีไปพักผ่อนที่หัวหินมาค่ะ ซึ่งมีเพื่อนใจดีให้ยืมห้องในคอนโดมิเนียมที่มีชื่อว่า “Blu” ที่เป็นหนึ่งในหลายๆ โครงการภายในอาณาจักร “ทิวทะเลเอสเตท” จากบริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด พอได้ไปลองเข้าพักและสัมผัสกับบรรยากาศจริง เราแอบชอบอยู่พอสมควรจนต้องเก็บมาเล่าสู่กันฟังค่ะ     โครงการ “Blu ชะอำ-หัวหิน” เป็นคอนโดมิเนียมสูง 21 ชั้น มีโทนสีฟ้าสดใส และสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว (แน่ล่ะไม่งั้นจะได้ไปพักได้ไงล่ะ) พื้นที่ของโครงการมีขนาดใหญ่ถึง 7 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 110 ไร่ ที่แบ่งพัฒนาเป็นหลากหลายโครงการจากเครืออิสสระ... การออกแบบของที่นี่ไม่ได้หวือหวามาก เพราะตกแต่งด้วยดีไซน์โมเดิร์น เรียบหรูตามสไตล์ Luxury Coastal Living ในโทนสีฟ้าสดใส ถึงแม้ว่าคอนโดของ Blu จะไม่ได้อยู่ชิดติดริมชายหาด แต่ทุกห้องก็สามารถเปิดรับวิวทะเลได้ในหลายๆ มุมค่ะ แบบห้องหลักๆ จะมีให้เลือกเป็น 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ซึ่งก็ตอบโจทย์การพักผ่อนตากอากาศค่ะ ถ้าคิดว่าส่วนใหญ่มาเดี่ยวๆ หรือมาเป็นคู่ ห้องแบบ 1 ห้องนอนก็ขนาดกำลังดี (30-34 ตร.ม.) ดูแลรักษาง่าย แต่ถ้าคิดว่าชอบห้องกว้างหน่อย มีโอกาสมาเป็นแบบครอบครัวเล็กๆ หรือมีเพื่อนมาเที่ยวด้วย เลือกห้องแบบ 2 ห้องนอนไปเลยค่ะ (60-65 ตร.ม.) แถมห้อง Type นี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในตำแหน่งมุมตึกด้วย เปิดรับวิวได้หลายทาง ในขณะที่ห้องชั้นล่างริมสระว่ายน้ำ ก็ทำให้เราแบบว้าวไม่น้อยเลย เพราะเป็น Pool Access ในบางห้องอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างส่วนตัว เลยออกจะคล้ายห้อง Pool Villa ในโรงแรมหรูกันเลยทีเดียว     บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นดีมากๆ เลย ต้นไม้ใหญ่เยอะดีค่ะ แค่เดินเข้ามาที่ล็อบบี้ก็ได้รับลมเย็นๆ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ Free-Form ใหญ่อลังการมากๆ คงเป็นเพราะแนวคิดการออกแบบภูมิทัศน์ ที่ตั้งใจให้ภาพรวมภายในโครงการเหมือนได้ใช้ชีวิตบนชายหาดทะเลเขตร้อน คล้ายได้อยู่บนเกาะ (Atoll) ด้วยสระว่ายน้ำทั้ง 2 ด้านของตัวอาคาร เลยเหมือนถูกโอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าๆ รอบตัว บริเวณชั้นล่างยังมีห้องฟิตเนส ห้องโยคะ รวมถึงห้องอาบน้ำและห้องอบไอน้ำแยกชายหญิงไว้ให้เรียบร้อย     อย่างที่บอกไปแล้วว่า โครงการ Blu ชะอำ-หัวหิน ตั้งอยู่ในอาณาจักรทิวทะเลเอสเตท ที่เป็นโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ ซึ่งจะพัฒนาเป็นพื้นที่พักผ่อนสไตล์รีสอร์ทแบบครบวงจร และเป็น The Ultimate Luxury Beachfront Community ที่จะมาตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ภายในจึงเพียบพร้อมไปแล้วสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย ปัจจุบันนอกจากคอนโดมิเนียมทั้ง 4 โครงการแล้ว ยังมี Music Lovers Hotel อย่าง “Baba Beach Club Hotel & Residences Hua Hin” ที่บริหารงานโดย ศรีพันวา และ “บ้านโชค” บ้านพักตากอากาศริมทะเลของตระกูลโชควัฒนาในสไตล์โคโลเนียล โดยถูกรีโนเวทจากอาคารไม้หลังเดิมให้เป็นร้านอาหาร คาเฟ่สุดเก๋ ที่มีวิวสวยจนอดถ่ายรูปเช็คอินไม่ได้เลย ซึ่งทั้งหมดนี้ ลูกบ้านของ Blu สามารถมาใช้บริการได้ตั้งแต่มื้อเช้า จิบชากาแฟตอนบ่ายๆ ไปจนถึงแฮงค์เอ้าท์ฟังเพลงชิวๆ ตอนค่ำ     ระหว่างที่เราได้พักผ่อนอยู่ในโครงการ Blu ชะอำ-หัวหิน ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความสะดวกสบาย และได้ใช้พื้นที่ส่วนต่างๆ อย่างจริงจัง ได้ว่ายน้ำเล่นในสระว่ายน้ำ ได้ใช้ห้องออกกำลังกายตามประสาคนดูแลสุขภาพ (บ้าง) ได้เดินเล่นไปตาม Jogging Track รอบคอนโด รับลมชมวิวที่ระเบียงห้อง รวมถึงการแวะเวียนไปรับประทานอาหารที่ห้องอาหารต่างๆ ในบริเวณเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น "บ้านโชค" และ "Baba Beach Club Restaurant" ซึ่งทุกรายการอาหารก็มีทีเด็ดการันตีด้วยทีมงานมืออาชีพจากศรีพันวาเลยทีเดียว เตรียมจัดสรรพื้นที่ในกระเพาะอาหารไว้ดีๆ ค่ะ รายการอาหารและเครื่องดื่มมีให้เลือกเพียบ!!  และไม่ว่าจะเดินไปตรงส่วนไหนก็จะมีพนักงานยิ้มแย้มพร้อมจะทักทาย พร้อมจะบริการตลอดเวลา มีรถกอล์ฟรับส่งทั่วถึงทุกจุด จนเราแทบจะไม่ต้องออกไปเที่ยวที่อื่นเลย ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็คงไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้ใช้ชีวิตเรียบๆ สบายๆ ริมทะเลในวันหยุดพักผ่อนแบบนี้     ได้เห็นบรรยากาศจริงแบบนี้แล้ว ก็ต้องเริ่มอยากจับจองเป็นเจ้าของกับเค้าบ้างแล้วล่ะ ที่โครงการ Blu ชะอำ-หัวหิน ยังมีห้องให้เลือกอีกหลายตำแหน่ง ซึ่งราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.89 ล้านบาท ก็พอจะอยู่ในเรทที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราสามารถเป็นเจ้าของคอนโดตากอากาศกับเค้าได้บ้าง แล้วชื่อเสียงของเครืออิสสระเอง ก็มั่นใจได้ว่าเราจะได้รับการดูแลหลังการขายที่ดี มีนิติบุคคลที่สามารถดูแลอาคารให้เรียบร้อยสวยงามอยู่ตลอดเวลา แถมภายในอาณาจักรทิวทะเลเอสเตทนี้ก็กำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะมี Community Mall เพิ่มขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็จะตามมาอีกแบบครบวงจร ดูยังไงก็น่าซื้อ น่าจับจอง น่าลงทุนเป็นเจ้าของซะจริงๆ   ** ทางโครงการกำลังจัดงาน  BIG ESCAPE SUPER SUMMER SALE พร้อมส่งโปรโมชั่นเด็ดโดนใจ “โปรหมูหมู @ Blu Condo” ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 ตั้งแต่เวลา 14.00-20.00 น. ณ ศิวิไล ซิตี้ คลับ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี อย่าลืม!!....แวะไปดูข้อเสนอพิเศษและจับจองห้องกันค่ะ งานนี้มีทั้งส่วนลดมากมายและแพคเกจเจ๋งๆ อีกเพียบ!!! คลิกลงทะเบียน Blu ชะอำ-หัวหิน โครงการอื่นๆใน THEW TALAY ESTATE Blue Sapphire Aqua Marine BaBa Beach Club Residence Hua Hin blu Cha Am-Hua Hin  
BaBa Beach Club Phuket – บาบา บีช คลับ ภูเก็ต : รีวิวบ้าน

BaBa Beach Club Phuket – บาบา บีช คลับ ภูเก็ต : รีวิวบ้าน

“บาบา บีช คลับ ภูเก็ต” เป็นโรงแรม และเรสซิเดนส์ ในสไตล์บีชคลับสุดหรู ที่มาในคอนเซ็ปต์ Music Lovers Hotel มีความเป็นธรรมชาติ Entertainment Pool ติดชายหาด และ Beach Club สุดเอกซ์คลูซีฟ ที่จะมีกิจกรรม Entertainment ทุกเดือน โดยเน้นให้แขกที่เข้าพักได้พักผ่อนริมทะเลไปพร้อมกับเสียงเพลงและสนุกสนาน นอกจากนี้ในแต่ละโลเคชั่น ยังมีการนำเอกลักษณ์การออกแบบดั้งเดิมของท้องถิ่นมาใช้ในงานดีไซน์     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น 29.90 ล้านบาท เจ้าของโครงการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ บ้านพักตากอากาศ จำนวน 6 ยูนิต พื้นที่โครงการ ประมาณ 42 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   Blue Canyon Golf Course Mission Hills Golf Course Katathong golf course Yacht Haven Marina Ao Po Grand Marina Khao Lak National Park Similan Islands James Bond Island Tesco Lotus Turtle Village Spalish Jungle Water Park     แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   1 Bedroom Baba Suite ขนาด 110 ตารางเมตร จำนวน 37 ยูนิต 1 Bedroom Pool Suite ขนาด 140 ตารางเมตร 2 Bedroom Penthouse ขนาด 220 ตารางเมตร 2 Bedroom Pool Villa ขนาด 230 ตารางเมตร จำนวน 18 หลัง 5 Bedroom Beachfront Villa ขนาด 1,100 ตารางเมตร จำนวน 6 หลัง     สิ่งอำนวยความสะดวก   Beach Club Restaurant & Bar Spa & Fitness Baba Boutique Tropical Lagoon Water Garden Swimming pool Kids swimming Pool Housekeeping & Maintenance Service 24-hour Reception & Security Service Car parking spaces off-site activities   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 076-429-388 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.bababeachclub.com
BaBa Beach Club Residence Hua Hin – บาบา บีช คลับ เรสซิเดนส์ หัวหิน : รีวิวบ้าน

BaBa Beach Club Residence Hua Hin – บาบา บีช คลับ เรสซิเดนส์ หัวหิน : รีวิวบ้าน

“บาบา บีช คลับ หัวหิน” โรงแรมและเรสซิเดนส์สไตล์บีชคลับสุดหรูในคอนเซ็ปต์ Music Lovers Hotel ริมทะเลชะอำ-หัวหิน บริหารโดย ศรีพันวา โดดเด่นด้วย Entertainment Pool ติดชายหาด และ บีช คลับ สุดเอกซ์คลูซีฟ ที่มีกิจกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ทุกเดือน เน้นให้แขกได้พักผ่อนริมทะเลไปพร้อมกับเสียงเพลงและสนุกสนาน และการออกแบบยังได้นำเอกลักษณ์การออกแบบของหัวหินและท้องถิ่นมาใช้ในงานดีไซน์อีกด้วย รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    43 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     บ้านเดี่ยว จำนวน 11 ยูนิต พื้นที่โครงการ     2 - 0 - 64 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนเพชรเกษม กม. 196 อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ปีที่สร้างเสร็จ     ปลายปี 2560 สถานที่สำคัญใกล้เคียง สนามบินหัวหิน ย่านชุมชนหลักของหัวหิน พระราชวังไกลกังวล พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน วนอุทยานปรานบุรี เดอะ เวเนเซีย สวนน้ำ แบล็คเมาน์เท่น ฟาร์แกะชะอำ สวิสชีพฟาร์ม อุทยานราชภักดิ์ ชิเคด้า มาร์เก็ต หัวหิน ตลาดเพลินวาน ร้านสังเวียนซีฟู๊ด โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน บลูพอร์ต หัวหิน แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย วิลล่า 3 ห้องนอน จำนวน 10 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 43 ล้านบาท วิลล่า 5 ห้องนอน จำนวน 1 ยูนิต ราคา 83 ล้านบาท สิ่งอำนวยความสะดวก   สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก ถนนหลักกว้าง 10ม. และถนนภายในกว้าง 6 ม.   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  032-899-130 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.bababeachclub.com
Issara Residence Rama9 : รีวิวบ้าน

Issara Residence Rama9 : รีวิวบ้าน

Issara Residence Rama9 (อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9) บ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ใจกลางเมือง ถ่ายทอดแนวคิดผ่านความเป็น Modern Tropical ออกแบบโดย บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ ย่านพระราม 9 โครงการใหม่ล่าสุดจาก ชาญ อิสสระ   รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น   80 - 120 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 20 หลัง พื้นที่โครงการ    9 - 2 - 34 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    พระราม 9 ซอย 13 ถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ ค่าส่วนกลาง    160 บาท/ตารางวา ค่ากองทุน    2,500 บาท/ตารางวา   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   KPN Tower เซ็นทรัล พระราม 9 MRT พระราม 9 ฟอร์จูนทาวน์ โรงพยาบาลกรุงเทพ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เอสพลานาด True Tower บิ๊กซี รัชดา The Street รัชดา   แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย    TYPE A เนื้อที่ใช้สอย 764 ตารางเมตร 5 ห้องนอน  5 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ครัวไทย ครัว pantry ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง พร้อมลิฟท์และสระว่ายน้ำ TYPE B เนื้อที่ใช้สอย 726 ตารางเมตร 5 ห้องนอน  5 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น  ครัวไทย ครัว pantry ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง พร้อมลิฟท์และสระว่ายน้ำ TYPE C เนื้อที่ใช้สอย 700 ตารางเมตร 4 ห้องนอน  4 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ครัวไทย ครัว pantry ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง พร้อมลิฟท์ สิ่งอำนวยความสะดวก   Clubhouse Fitness Swimming Pool Steam room Meeting Room Private Linear Garden Access control 24 - Hours Security สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  095-207-9277, 095-207-9278, 095-207-9279 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.charnissara.co.th/IssaraResidenceRama9/
Baan Issara Bangna : รีวิวบ้าน

Baan Issara Bangna : รีวิวบ้าน

Baan Issara Bangna (บ้านอิสสระ บางนา) บ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury บนพื้นที่กว่า 24 ไร่ บริเวณถนนบางนา กม.8 ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งคลับเฮาส์ ฟิตเนส Amphitheater สระว่ายน้ำระบบเกลือ โอบล้อมด้วยความเขียวขจีของสวน ออกแบบโดย บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) โครงการใหม่ล่าสุดจาก ชาญ อิสสระ   รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น   46 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    C.I.N. Estate Co., Ltd (ในเครือบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)) ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น จำนวน 43 หลัง พื้นที่โครงการ    24 - 3 - 74 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนกาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ค่าส่วนกลาง    100 บาท/ตารางวา ค่ากองทุน    2,000 บาท/ตารางวา   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   IKEA บางนา MEGA บางนา Tesco Lotus สนามบินสุวรรณภูมิ Central City บางนา Big C บางนา BITEC บางนา   แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   TYPE A บ้านgเดี่ยว 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 633 ตารางเมตร 6 ห้องนอน  5 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น  ครัวไทย ครัวpantry ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง พร้อมลิฟท์ TYPE B บ้านเดี่ยว 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 504 ตารางเมตร 4 ห้องนอน  4 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น  ครัวไทย ครัวpantry ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง พร้อมลิฟท์ TYPE C บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 425 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น  ครัวไทย ครัวpantry ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง สิ่งอำนวยความสะดวก   Clubhouse Fitness Swimming Pool Steam room Amphitheater Meeting Room Jocking Track Private Garden Access control 24-Hours Securit สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  095-207-9235, 095-207-9236, 095-207-9237 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.charnissara.co.th/BaanIssaraBangna/
บ้านสีตวัน ปากช่อง-เขาใหญ่ : รีวิวบ้าน

บ้านสีตวัน ปากช่อง-เขาใหญ่ : รีวิวบ้าน

บ้านสีตวัน ปากช่อง-เขาใหญ่ โครงการบ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ทจาก ชาญอิสสระ กับสุดยอดนวัตกรรมการสร้างบ้านจากประเทศญี่ปุ่นทันสมัยด้วยเทคโนโลยีของ SCG HEIM ผสานการดีไซน์จากบริษัทสถาปนิก แฮบบิตา ผู้ออกแบบโครงการศรีพันวา     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    14,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    Charn Issara Development PLC. ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 52 หลัง พื้นที่โครงการ    27 - 1 - 87 ไร่ ที่ตั้งโครงการ     บ้านหนองมะค่า ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   MIDWINTER GREEN บ้านไม้ชายน้ำ ครัวเขาใหญ่ พาลิโอ ชีพแลนด์   แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   บ้าน 2 ห้องนอน ขนาดที่ดิน 100-116 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท บ้าน 3 ห้องนอน ขนาดที่ดิน 117-242 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 296 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท   สำหรับการก่อสร้างบ้านสีตวัน จะใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างระบบ Modular ในโรงงานที่ทันสมัยและมีความแม่นยำระดับมิลลิเมตรจากญี่ปุ่นทำให้ได้บ้านที่มีคุณภาพ พร้อมเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงในทุกองค์ประกอบ พูดอย่างเดียวอาจไม่เห็นภาพ เรามีขั้นตอนการก่อสร้างบ้านสีตวันจาก SCG Heim มาให้ชมด้วยครับ   1. สำรวจที่ดินโดยละเอียด ก่อนสร้างบ้านต้องทำการสำรวจที่ดินโดยละเอียด เพื่อให้ออกแบบบ้านตามดีไซน์ที่ต้องการได้อย่างเหมาะสมปราศจากปัญหาภายหลัง เช่น ขนาดและระดับที่ดินจริง ท่อประปา ระบบไฟฟ้า รั้วระยะบ้านข้างเคียง และสภาพดิน อีกทั้งยังต้องสำรวจเส้นทางคมนาคม  เช่น ความกว้างของถนนเข้า-ออก ความสูงของสิ่งกีดขวาง ตามเส้นทางขนส่ง มีพื้นที่วางเครน ระยะSetback รอบที่ดินหรือไม่ เป็นต้น ขั้นตอนต่อมาจะเริ่มการก่อสร้างระบบฐานราก 2 ชั้น  ฐานรากที่  1 ประกอบด้วย เสาเข็ม ระบบฐานราก ระบบท่อน้ำยา กำจัดปลวกที่ติดตั้งรอบคานคอดิน โดยเชื่อมต่อสู่ภายนอก เพื่อให้ง่ายต่อการอัดฉีดน้ำยากำจัดปลวดหลังการเข้าอยู่อาศัย จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสร้างฐานรากชั้นที่ 2  ซึ่งฐานรากที่ 2 จะถูกยกสูงจากระดับดิน 55 ซม. เพื่อใช้เป็นพื้นที่ติดตั้งระบบประปาสุขาภิบาล และท่อแอร์ใต้พื้นบ้าน  กรณีแก้ไขซ่อมแซมสามารถทำได้สะดวกโดยไม่ต้องทุบบ้าน หรือเดินท่อลอย 2. ผลิตบ้านภายในโรงงาน SCG HEIM ในขณะที่หน้างานกำลังก่อสร้างระบบฐานราก โครงสร้างเหล็กจะถูกเชื่อมต่อ ด้วยหุ่นยนต์ภายในโรงงาน เจ้าหน้าที่ติดตั้งงานระบบ และฉนวนภายในผนังบ้าน ติดตั้งผนัง ประตู หลังคา และหน้าต่าง เพื่อให้ตัวบ้านหลักพร้อม สำหรับการติดตั้งเมื่อทำฐานรากเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจัดเรียงยูนิตบ้านและอุปกรณ์ติดตั้งลงบนรถขนส่ง ทำการเช็คผ้าใบและทำการเช็คลำดับขบวนรถ ก่อนขนย้ายยูนิตบ้านออกจากโรงงานเข้าสู่หน้างานก่อนสร้าง 3. ยกติดตั้งบ้านลงบนดิน หลังจากที่รถขนส่งยูนิตบ้านมาถึงหน้างานเรียบร้อย  ยูนิตบ้านจะถูกยกตั้งลงบนฐานรากตามตำแหน่งที่วางแผนไว้อย่างแม่นยำ พร้อมทำการเชื่อมต่อยูนิต และสายไฟต่างๆ เข้าด้วยกันให้เสร็จภายใน 1-2 วัน 4. สำหรับการยกติดตั้งบ้านลงบนดิน ยูนิตบ้านแต่ละชิ้นส่วนจะถูกคำนวณความละเอียดในระดับ มิลลิเมตรเพื่อให้การเชื่อมต่อสมบูรณ์ที่สุด ปลอดภัย คงทน  ตรงตามความต้องการ 5. บ้านของสีตวัน มีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบบ้าน 2 ห้องนอนราคาบ้านพร้อมที่ดินเริ่มต้นที่ 14.6 ล้านบาทขนาดที่ดิน 100 ตร.ว พื้นที่ใช้สอย  238 ตร.ม. และแบบบ้าน 3 ห้องนอน ราคาบ้านพร้อมที่ดินเริ่มต้นที่ 18.8 ล้านบาทขนาดที่ดิน 117 ตร.ว พื้นที่ใช้สอย 296 ตร.ม. ซึ่งภาพที่เห็นเป็นการสร้างบ้าน ขนาด 3 ห้องนอน สำหรับอัตราการสร้างบ้านสูงสุด คือ ใน 1 วันสามารถสร้างได้ 2 หลัง 6. ติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และระบบหมุนเวียนวอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดจะถูกเชื่อมต่อและทำการทดสอบ หลังจากนั้นจะทำการติดตั้งท่อเครื่อง Air Factory ทั่วทั้งบ้าน ลำดับต่อมาจะเป็นการทดสอบน้ำขังบนพื้นห้องน้ำ และติดตั้งระบบประปา สุขาภิบาล  และก่อนปูกระเบื้องติดตั้งโถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำ บริษัทฯ จะทดสอบการขังน้ำบริเวณพื้นห้องน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน พร้อมทั้งติดตั้งถังน้ำดี ปั๊มน้ำ ถังดักไขมัน และต่อเชื่อมระบบระบายน้ำทิ้ง เมื่อสร้างบ้านเสร็จเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการออกแบบตกแต่งบริเวณบ้านเป็นลำดับต่อไป  ดังภาพ สิ่งอำนวยความสะดวก   คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ระบบ Key Card Access Room Cleaning & Laundry Service ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  090-968-9191 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :   www.baansitawan.com
Issara Collection Sathorn : รีวิวคอนโด

Issara Collection Sathorn : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ เรายังคงวนเวียนอยู่ในย่านสาทร แต่คราวนี้จะข้ามมาทางฝั่งถนนนางลิ้นจี่ เพื่อดูคอนโด Low Rise หรูให้ความเป็นส่วนตัว ด้วยยูนิตที่น้อยเพียง 33 ยูนิต ชื่อโครงการ "Issara Collection Sathorn" โครงการใหม่จาก ชาญ อิสสระ การเดินทาง โครงการ Issara Collection สาทร ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตสาทร แต่ถ้าจะให้ระบุพิกัดชัดๆ ก็ต้องบอกว่าอยู่ในซอยนางลิ้นจี่ 4 นะครับ ซึ่งการเดินทางไปยังตัวโครงการก็สามารถไปได้หลายทาง เส้นทางหลักที่เราใช้ในครั้งนี้มาจากทางถนนจันทน์ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสี่แยกที่ตัดกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์แล้ว ให้ตรงต่อมาจนถึงถนนนางลิ้นจี่ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายมาอีกประมาณ 120 เมตร ก็จะเจอซอยนางลิ้นจี่ 4 อยู่ทางซ้ายมือพอดี หรือถ้าขึ้นทางด่วนขั้นที่ 1 มาลงที่ถนนพระราม 3 (ช่องนนทรี-นางลิ้นจี่) ก็สามารถเลี้ยวขวาเข้าถนนนางลิ้นจี่ได้เลย จากแยกนี้ตรงมาอีกแค่ 1 กิโลเมตรก็จะถึงซอยนางลิ้นจี่ 4 พอดี ส่วนถ้าจะเข้ามาทางซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 17 พอตรงมาเจอสามแยกเทคนิคกรุงเทพ ก็แค่เลี้ยวขวาเข้าถนนนางลิ้นจี่มาอีก 600 เมตรเท่านั้น แล้วเตรียมเลี้ยวเข้าซอยนางลิ้นจี่ 4 ได้เลย แต่ถ้ามาจากถนนสาทรใต้ ก็ให้เลี้ยวเข้าซอยสวนพลู (สาทร 3) วิ่งตามซอยสวนพลูมาเข้าถนนนางลิ้นจี่ ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพมาเล็กน้อย ซอยนางลิ้นจี่ 4 จะอยู่ทางขวามือ เยื้องกับปั้มน้ำมันบางจาก นอกจากเส้นทางที่เรายกตัวอย่างมาให้แล้ว ยังมีเส้นทางลัดอื่นๆ อีก ทั้งทางซอยเย็นอากาศที่สามารถตัดไปออกถนนพระราม 4 หรือซอยสาทร 1 ได้ เช่นเดียวกันกับถนนของกรมการบินพลเรือน ที่ตัดเข้าซอยงามดูพลี ไปออกถนนพระราม 4 และซอยสาทร 1 ได้เหมือนกัน ต้องบอกว่าทำเลของถนนนางลิ้นจี่นี่ได้เปรียบในเรื่องเส้นทางเข้าออกที่สามารถเลือกได้หลายทาง ทำให้เรามีทางหนีรถติดได้เยอะดีทีเดียวครับ และด้วยแบรนด์ของโครงการที่เป็นระดับ Hi-End กลุ่มลูกค้าของโครงการคงจะเน้นการเดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก ถึงแม้ว่าทำเลที่ตั้งโครงการจะไม่มีรถไฟฟ้าสายต่างๆ อยู่ใกล้มากพอที่จะสามารถเดินไปได้โดยสะดวก ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพราะเส้นทางการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกมากๆ ถ้าไม่นับเรื่องปัญหาการจราจรที่ต่างก็รู้กันดี แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าหากต้องการจะใช้บริการระบบขนส่งมวลชนบ้าง ก็ใช่ว่าจะไม่สะดวก เพราะแค่เดินออกมาที่ปากซอยนางลิ้นจี่ 4 ก็มีทั้งรถแท็กซี่ สามล้อ สองแถว รวมถึงรถเมล์วิ่งผ่านอีกหลายสาย หรือถ้าจะให้เร็วก็เรียกบริการวินมอเตอร์ไซค์บริเวณปากซอยได้เช่นกัน รับรองว่าพี่วินแถวนี้เค้ารู้ทางหลบรถติดดีระดับเซียน จะหนีออกบ่อนไก่ พระราม 4 สาทร พระราม 3 ถนนเชื้อเพลิง คลองเตย หรือเส้นทางอื่นได้หมด เชื่อเถอะว่าตรอกซอกซอยแถวนี้โยงใยหากันได้อย่างที่คุณคิดไม่ถึงเลยทีเดียว วิเคราะห์ตัวโครงการ ในขณะที่ที่ตั้งโครงการ Issara Collection สาทร อยู่ในซอยตันที่มีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักอาศัย แต่ด้วยความที่ซอยนางลิ้นจี่ 4 อยู่ไม่ห่างจากเขตชุมชนเดิมของบริเวณนี้มากนัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงจัดว่าเพียบพร้อมมากๆ ออกมาแค่ปากซอยก็จะเจอโครงการ De For Rest ซึ่งเป็นเหมือน Community Mall เล็กๆ ที่รวบรวมร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย และบริการล้างรถไว้ด้วยกัน ฝั่งตรงข้ามซอยจะมีปั้มน้ำมันบางจาก ซึ่งก็มีร้านกาแฟ ร้านซักรีด คลินิครักษาสัตว์ และบริการล้างรถของ Maguire’s อีกเจ้า แถมปากซอยเย็นอากาศยังมี Tops Supermarket ให้เป็นที่จับจ่ายซื้อของกินของใช้เข้าครัวอีกด้วย ในขณะที่ห่างออกไปอีกหน่อยทางฝั่งนางลิ้นจี่ก็มีตลาดสด พร้อมกับของอร่อยริมทางอีกหลายเจ้า เลยไปอีกนิดยังมี T.T.N. Avenue ซึ่งมีทั้ง Tops ร้านกาแฟ และร้านอาหารให้ฝากท้องอีกหลายเจ้า หรือถ้าขยับไปทางซอยสวนพลูก็มีอีกหนึ่งตลาดสด รวมถึงแผงลอยขายอาหารอีกมากจนละลานตาไปหมด ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในระยะที่สามารถเดินหรือขี่จักรยานมาได้ง่ายๆ ครับ โครงการ De for-rest อันนี้อยู่ติดๆ กับปากซอยนางลิ้นจี่ 4 เลย ในโครงการนี้ก็มีร้านอาหารด้วยนะครับ เอาไว้เป็นที่ฝากท้องยามที่ขี้เกียจขับรถออกไปไกลๆ ได้ ร้านกาแฟวาวีในโครงการก็มานั่งเล่นชิวๆ ได้ บรรยากาศดีเหมือนกันนะครับ ตลาดนัดด้านหลังปั๊มน้ำมันบางจาก มีของกินหลายอย่างเหมือนกัน ของใช้กับเสื้อผ้าก็มีนะครับ เปิดทุกเย็นวันจันทร์ แวะไปเดินเล่นซ๊อปปิ้งกันได้ ฝั่งตรงข้ามเทคนิคกรุงเทพฯ มีร้านกาแฟ Think Tank เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง T.T.N. Avenue คอมมิวนิตี้มอลล์อีกแห่งที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานมาก ตั้งอยู่บนถนนนางลิ้นจี่ค่อนมาทางฝั่งพระราม 3 นะครับ ข้างในมีร้านอาหารและร้านอาหารให้เลือกฝากท้องหลายร้านเลย แถมยังมี Tops Super Market อีกด้วย นอกจากความสะดวกสบายในพื้นที่แล้ว ในรัศมีรอบที่ตั้งโครงการยังแวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภคแบบคนเมืองเต็มพิกัด ทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้ง สถานศึกษา สถานฑูต สถานที่ราชการ แหล่งธุรกิจ สำนักงาน และสถานที่ Hang Out อีกเพียบ เพียงแค่ขยับขับรถกันซักหน่อย จะไปพระราม3 สีลม สาทร สยาม ทองหล่อ เอกมัย หรือแอบไปชิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็เดินทางได้สะดวกทั้งสิ้น ผ่านจากเรื่องสภาพแวดล้อมโดยรอบไปแล้ว ที่นี้ก็มาดูที่ตัวโครงการกันบ้าง อย่างที่บอกไปแล้วว่าซอยนางลิ้นจี่ 4 เป็นซอยตัน ดังนั้นบรรยากาศภายในซอยจึงเงียบสงบมาก และค่อนข้างร่มรื่นเพราะยังมีต้นไม้ใหญ่อยู่มาก อีกทั้งถนนในซอยก็กว้างแค่พอขับรถสวนกันได้เท่านั้น ผู้คนไม่พลุกพล่าน ปริมาณรถก็น้อยเลยไม่ค่อยเป็นปัญหาครับ ภายในซอยจะมีบ้านพักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น และคอนโด อพาร์ทเม้นท์สูงไม่เกิน 8 ชั้นอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนบ้านที่ติดกันกับที่ดินโครงการเป็นบ้านเดี่ยวนะครับ ส่วนตึกคอนโด/อพาร์ทเม้นท์จะอยู่ถัดออกไป ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตึกขนาบข้างให้น่าอึดอัด ขณะเดียวกันทางโครงการก็จัดสรรให้พื้นที่รอบๆ อาคารเป็นสวนไปซะ แล้วปลูกต้นเพื่อช่วยบังสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวเข้าไปอีก คาดว่าของจริงน่าจะร่มรื่นดีนะครับ โครงการ Issara Collection เป็นคอนโดที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งโครงการจึงมีเพียง 33 ยูนิตเท่านั้น ตัวอาคารเป็นตึกเดี่ยวสูง 7 ชั้น ภายใต้การออกแบบตกแต่งในสไตล์ไทยโมเดิร์น (Siwilai Modern Concept) ซึ่งจะเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-7 และมีชั้นจอดรถใต้ดินอีก 2 ชั้น อีกทั้งยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยลิฟท์โดยสารแบบส่วนตัวสำหรับห้อง Type 3 Bedrooms นอกเหนือจากลิฟท์ส่วนกลางมาให้ด้วย จึงให้ความรู้สึกแบบ Exclusive Luxury มากยิ่งขึ้น สำหรับ Main Facilities จะอยู่ที่ชั้น 6-7 และดาดฟ้านะครับ โดยที่ห้องฟิตเนส ห้องสตรีม และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งทางโครงการก็ใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยการออกแบบให้ซิลลิ่งของห้องฟิตเนสสูงไปถึงชั้น 7 เพิ่มบรรยากาศให้ปลอดโปร่งมากขึ้นเวลาออกกำลังกาย ในขณะที่สระว่ายน้ำถูกจัดวางไว้บนดาดฟ้าของอาคารนะครับ ซึ่งสระว่ายน้ำเป็นระบบน้ำเกลือ และมีแยกสระเด็กกับจากุชชี่มาให้ด้วย นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน มี Lobby ในโซนด้านหน้าโครงการ พร้อมทั้งจัดเตรียม Driver Room ห้องพักคนขับรถไว้ให้ตรงบริเวณลานจอดรถที่ชั้น 1 ด้วยเพื่อความเรียบร้อย ถ้าจะให้เห็นภาพมาขึ้นลองมาดู Floor Plan กันก่อนเลยครับ พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงในส่วนของห้องตัวอย่างกันบ้าง ก่อนอื่นต้องแจ้งให้ทราบว่าสำนักงานขายของโครงการ Issara Collection ไม่ได้อยู่ที่ที่ตั้งโครงการนะครับ Sales Gallery อยู่เลยแยกที่จะไปด่านทางด่วนนางลิ้นจี่นิดนึงครับ ข้ามแยกไฟแดงใต้ทางด่วนมาก็เห็น Sales Gallery เลย ซึ่งบรรยากาศภายในก็ตกแต่งไว้ตามคอนเซปต์ของโครงการเลย เช่นเดียวกันกับในห้องตัวอย่างที่ใช้วัสดุ การตกแต่งตามจริงทั้งหมด (ยกเว้นเฟอร์นิเจอร์ของแต่งห้อง) แบบห้องของโครงการมีให้เลือกเป็นแบบ 2 Bedrooms, 3 Bedrooms และ 3 Bedrooms Duplex เท่านั้นนะครับ โดยมีขนาดห้องเริ่มต้นที่ 108 ตร.ม. และมีห้องไซส์ใหญ่สุดขนาด 244.4 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างเพียงแบบเดียวที่ทางโครงการเลือกทำมาโชว์ไว้ที่ Sales Gallery แห่งนี้ ก่อนจะไปดูภาพห้องจริง เรามาดูแปลนห้องคร่าวๆ กันก่อนครับ ห้องนี้เป็นห้อง Type-3E ซึ่งมีเพียง 9 ห้องเท่านั้น โดยที่แต่ละห้องอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องสลับตำแหน่งซ้ายขวานิดหน่อย ห้องทั้งหมดของโครงการขายมาแบบ Partly Fitted คือติดตั้งและตกแต่งมาเป็นแนวทางให้แล้วพอประมาณ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้อื่นๆก็ตกแต่งเพิ่มเต็มกันตามสไตล์ไปเลย ห้องไซส์นี้เป็นแบบ 3 Bedrooms โดยแบ่งเป็น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ เมื่อออกมาจากลิฟท์ส่วนตัวก็จะเข้าสู่พื้นที่โถงหน้าห้อง ซึ่งมีห้องเก็บของอยู่ตรงนี้ด้วย ประตูบานสูงอีกฝั่งจะเป็นประตูหลักที่ใช้เข้าห้องครับ ทางโครงการเลือกออกแบบให้ประตูเข้าห้องเป็นบานสูงจรดเพดานเลย พอเปิดเข้ามาแล้วก็จะเห็นพื้นที่ในโซน Living Area ที่อยู่ส่วนกลางของห้อง ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือให้ความรู้สึกโอ่งโถงมากเป็นพิเศษ และจุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้บรรยากาศของห้องนี้แตกต่างจากคอนโดทั่วไปก็คือ พื้นที่ระเบียงที่กว้างกว่า 10 เมตร ซึ่งประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่นี้เราสามารถเลื่อนเปิดได้กว้างจนสุดเพื่อให้พื้นที่ภายในห้องและระเบียงเชื่อมต่อถึงกันโดยไม่อะไรมาเกะกะสายตา ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก และได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวมากกว่าคอนโดอื่นครับ อีก Area หนึ่งที่ทางโครงการตกแต่งเสนอเป็นไอเดียให้ก็คือ ห้องกระจกในบริเวณ Living Area นั่นเอง ทางโครงการเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า Collection Room ซึ่งในห้องจริงไม่มีการกั้นพื้นที่ตรงนี้ไว้ให้นะครับ แต่ในห้องตัวอย่างนี่ทำไว้ให้เห็นว่าสามารถเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับห้องได้อีก ลูกค้าบางคนอาจจะชอบกับไอเดียนี้ที่สามารถทำห้องน้ำเป็นห้องทำงาน ห้องเปียโน ห้องสมุด หรือให้เป็นห้องเก็บของสะสมพร้อมตั้งโชว์ได้ด้วย แต่ถ้าการกั้นห้องแบบนี้ยังไม่โดนใจ จะปล่อยให้พื้นที่บริเวณนี้กว้างต่อจากบริเวณนั่งเล่นเลยก็ได้เช่นกัน สำหรับในส่วนของห้องนอน แต่ละห้องจัดสรรมาโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักเช่นกัน ห้องนอนแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว เริ่มด้วยห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom ที่จัดเต็มมาให้ทั้งอ่างอาบน้ำดีไซน์หรูกลางห้องน้ำ และโซนอาบน้ำแบบ Rain Shower ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้อง Homogeneous Tile โทนสีขาว-เทา เพิ่มด้วยลูกเล่นของการจัดไฟในโทนอุ่น โดยเฉพาะบริเวณหน้ากระจกเหนืออ่างล้างหน้าที่ทางโครงการตกแต่งไว้ให้ดูเป็นไอเดีย ทำให้บรรยากาศภายในห้องน้ำของ Master Bedroom แทบไม่ต่างจากโรงแรม 5 ดาวเลยทีเดียว ในขณะที่พื้นที่ใช้สอยภายบริเวณห้องนอนก็กว้างขวางไม่น้อยเลย เพราะบริเวณปลายเตียงสามารถวางโซฟาไว้นั่งเล่นดูทีวีได้อีกชุด แถมยังมีพื้นที่ว่างเหลืออีกเพียบ ซึ่งเราสามารถดีไซน์เพิ่มประโยชน์ให้กับพื้นที่ใช้สอยตรงจุดนี้ได้หลากหลายไอเดียเลยครับ หรือจะดูที่ทางโครงการทำไว้ในห้องตัวอย่างเผื่อเป็นไอเดียก่อนก็ได้ ส่วนในห้องนอนเล็กอีกสองห้องก็ถูกออกแบบให้มี Layout ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเน้นประโยชน์การใช้สอยพื้นที่ให้หลากหลายตามคอนเซปต์การออกแบบของโครงการ แอบใส่ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมเข้าไป เช่น ชั้นเก็บของที่ด้านหลังบานกระจกเหนืออ่างล้างหน้า และตู้เก็บของในห้องน้ำ รวมถึงการดีไซน์ให้พื้นที่ที่ติดกับบริเวณห้องน้ำเป็น Walk in Closet ซึ่งเราสามารถใช้แนวคิดที่ทางโครงการตกแต่งไว้เป็น Guile Idea ไว้ให้ หรือจะดีไซน์ตกแต่งแบบอื่นให้ตรงกับการใช้งานของเราเองก็ได้ ทีนี้เรามาดูในส่วนของห้องครัวกันบ้าง พื้นที่ส่วนนี้ทางโครงการให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าส่วนอื่นเลย เพราะมีการจัดสรรพื้นที่ครัวมาให้ตามการใช้งาน โดยส่วนแรกซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับ Living Area ทางโครงการออกแบบให้มีครัวเปิดสไตล์ฝรั่ง ที่มาพร้อมชุดเคาน์เตอร์ครัวหรูหรา และอุปกรณ์ครบครัน แล้วยังตกแต่งเพิ่มเติมด้วยเคาน์เตอร์ลอยตัวกับโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนนี้ไม่ได้รวมมากับชุดครัวนะครับ แต่ทางโครงการทำไว้เป็นตัวอย่างอีกเช่นกัน ซึ่งการตกแต่งเพิ่มเติมในจุดนี้เพิ่มความน่าสนใจให้กับห้องได้ไม่น้อยเลย เพราะทำให้บรรยากาศภายในห้องดูเป็นบ้านที่อบอุ่นมากขึ้น แถมยังสามารถรองรับการจัดปาร์ตี้ย่อมๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ทางโครงการยังจัดพื้นที่สำหรับครัวไทยแยกไว้เป็นสัดส่วนในห้องใกล้ๆ กัน พร้อมกับประตูปิดมิดชิดเพื่อป้องกันปัญหากลิ่นรบกวนในห้อง อีกทั้งยังมีหน้าต่างบานเล็กในห้องครัวไว้ช่วยระบายอากาศได้อีกทาง แต่เท่าที่เดินดูภายในห้องครัวไทยจะสังเกตุเห็นว่า บรรยากาศในห้องครัวค่อนข้างทึบและแคบไปหน่อย ถ้าบ้านไหนชอบลงครัวปรุงอาหารไทยบ่อยๆ อาจจะรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควรมั้งครับ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นส่วนปลีกย่อยอื่นๆ ที่ทางโครงการก็คิดมาให้เสร็จสรรพ ทั้งห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว และประตูทางเข้า-ออกของแม่บ้านซึ่งแยกจากประตูหลัก ห้องเก็บของบริเวณโถงลิฟท์หน้าห้องที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้เรียบร้อยและไม่เกะกะภายในห้อง รวมถึงมุมที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์บริเวณระเบียง ที่กั้นพื้นที่ไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยดีทีเดียว สำหรับโครงการ Issara Collection สาทร ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายในตลาดบน ที่มีงบประมาณตั้งแต่ 15 ล้านขึ้นไป ซึ่งเน้นความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวสูง เรื่องขนาดห้องจึงออกแบบมาให้กว้างขวางตอบโจทย์การใช้งาน และให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวมากกว่าคอนโด โดยน่าจะเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง ได้พักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ในขณะที่ยังอยู่ในทำเลย่านกลางเมือง เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว Issara Collection น่าจะตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ดีทีเดียวครับ