Tag : Real Asset

PLEX BANGNA – เพล็กซ์ บางนา : รีวิวทาวน์โฮม

PLEX BANGNA – เพล็กซ์ บางนา : รีวิวทาวน์โฮม

PLEX BANGNA (เพล็กซ์ บางนา) - ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์น พิถีพิถันทุกรายละเอียดการออกแบบในสไตล์ Multi-Texture เดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    5,590,ooo บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาด 22 ตร.วา จำนวน 238 ยูนิต พื้นที่โครงการ    23-3-91.1 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถ.บางนา-ตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ปีที่สร้างเสร็จ    ปี 2557 ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง    60 บาท/ตร.ว./เดือน   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   MEGA บางนา IKEA Index Living Mall Central บางนา Paradise park Tesco Lotus โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลปิยะมินทร์ โรงพยาบาลไทยนครินทร์ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาดหน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถส่วนตัว 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รปภ. CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  089-000-9922 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  http://www.plextownhome.com/bangna
LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

“ทองหล่อ”  หนึ่งในย่านไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนเมือง ซึ่งใครก็รู้กันดีว่าเป็นทำเลระดับ Premium ที่ทุกคนต่างจับตามอง เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ แหล่งช็อปปิ้งไลฟ์สไตล์ และที่แฮงค์เอ้าท์สุดเก๋ไม่เหมือนใคร รวมทั้งเป็นย่านที่มีที่พักอาศัยในระดับ Luxury รวมกันอยู่มากมาย ศักยภาพของทำเลจึงได้รับความสนใจทุกครั้งที่มีโครงการใหม่ๆ เปิดตัวขึ้นมา ล่าสุด Real Asset ได้เลือกทำเลดีในซอยสุขุมวิท 57 เป็นที่ตั้งโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ภายใต้ชื่อ “Laviq Sukhumvit 57” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่พักอาศัยหรูหรา มีสไตล์ และเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายแบบครบวงจร   Laviq Sukhumvit 57 มีข้อได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้งซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อไม่เกิน 300 เมตร หรือเดินเพียง 3 นาที ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว จึงแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในทำเลปากซอยทองหล่อเลยล่ะ และด้วยความที่อยู่ถัดเข้ามาในซอยสุขุมวิท 57 เล็กน้อยซึ่งเป็นซอยตัน จึงช่วยเพิ่มความเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้น นอกจากระบบขนส่งมวลชนอย่าง BTS แล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เนื่องจากถนนหนทางในย่านนี้เชื่อมโยงถึงกันหลายสาย ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถนนพระราม 4 ทำให้มีเส้นทางให้เลือกเดินทางเข้าออกเมืองได้หลายทางมาก แผนที่โครงการ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 300 เมตร ลงรถไฟฟ้าแล้วเดินเลยซอยทองหล่อมานิดเดียวก็ถึงซอยสุขุมวิท 57 แล้วครับ ซอยสุขุมวิท 57 จุดสังเกตง่ายมากๆ คือจะมีโรงแรม Bangkok Marriott Sukhumvit อยู่หน้าปากซอย บรรยากาศในซอยสุขุมวิท 57 จากบอกซอยเดินเข้ามาไม่ไกลก็ถึงโครงการแล้วครับ ขณะเดียวกันรอบๆ โครงการก็มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ เดินเข้ามาที่ซอยทองหล่อแล้วก็เลือกได้เต็มที่ตั้งแต่ Street Food ร้านอาหารชื่อดัง ห้องอาหารในโรงแรม ร้านกาแฟสุดชิค รวมไปถึง Community Mall ที่มีให้เลือกแบบไม่ซ้ำสไตล์เลย เช่น J Avanue, Arena 10, Market Place, The Common, Maze ทองหล่อ ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมร้านแบบ Stand Alone ดังๆ อีกเพียบ ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เพราะรวมไว้ครบทั้งแหล่งกิน เที่ยว ช๊อป แถมด้วยแหล่งแฮงค์เอ้าท์ แบบไม่ต้องออกไปไหนให้ไกลบ้านเลย J Avanue Market Place The Common Maze ทองหล่อ “Glamorous : Inspired by Fendi Casa” ความพิเศษสุดของ Laviq Sukhumvit 57 คือ ดีไซน์การออกแบบที่หรูหรา และความร่วมมือสร้างสรรค์โดย Fendi Casa จาก Italy ซึ่งเป็น High Brand ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Laviq จะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก Fendi Casa ทั้งหมด ซึ่งเราจะเห็นตัวอย่างส่วนหนึ่งได้จากใน Sale Office ที่จำลองการตกแต่งบริเวณ Lobby ไว้อย่างหรูหราอลังการเลยทีเดียว นอกจากนี้การดีไซน์ตกแต่งตัวอาคารทางโครงการก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน Exterior ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ กระจก Full High Glass Window รอบตัวอาคารที่นอกจากให้ความสวยงามหรูหราแล้ว ยังช่วยให้แต่ละห้องสามารถเปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ ตัวอาคารออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรหรูหราดึงดูดสายตามากๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Landmark ของทองหล่อเลยก็ว่าได้ โครงการ Laviq Sukhumvit 57 เป็นอาคาร High Rise สูง 33 ชั้น ที่ถูกออกแบบมาให้เน้นความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมไว้ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่สวนสวยบริเวณด้านหน้าที่มีระยะกว่า 30 เมตรก่อนถึงตัวอาคารซึ่งช่วยสร้างความร่มรื่น และเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ในขณะที่พื้นที่บริเวณ Lobby มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่สวนภายนอก จัดสรรบริเวณส่วนหนึ่งเป็น Outdoor Library เพื่อเพิ่มการใช้งานพื้นที่บริเวณชั้นล่างได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกัน Facility ส่วนกลางก็ถูกจัดสรรไว้อย่างเต็มที่ เช่น Infinity Edge Lap Pool with Ozone System & Kids Pook, Fitness Studio & Bike Simulator, Yoga Room, Golf Simulator Room, Rock Climbing Station for Kids, Steam Room, Executive Lounge & Meeting Room, Library, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ซึ่งส่วนใหญ่ถูกรวบรวมไว้บนชั้น 29-30 ในส่วนของพื้นที่จอดรถ ทางโครงการจัดสรรมาให้แบบเต็มพื้นที่ สามารถรองรับได้ 100% เลยที่เดียว แถมยังมี Super Car & Super Bike Parking Space และ Bicycle Garage ไว้เอาใจคนรักรถโดยเฉพาะ รวมไปถึง Electric Vehicle Charging Station เพื่อรองรับยานยนต์แห่งอนาคต และพื้นที่สำหรับคนขับรถก็มี Separated Driver Lounge มาให้พร้อมสรรพ ที่ชั้น G เมื่อเข้าสู่โครงการแล้วจะเห็นสวนสีเขียวอยู่ด้านหน้าโครงการ เรียกว่า Sanctuary Hills ก่อนเข้าสู่ด้านในอาคารจะมี Lobby และ Library ที่มองออกมาเห็นสวนด้านนอก ที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1-5 ในช่องจอด 204 คัน แต่ถ้ารวมจอดซ้อนคันแล้วจะได้ 235 คัน ครบ 100% พอดี ทางเข้าโครงการ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปถึงชั้น 24 เฉลี่ย 11 ยูนิตต่อชั้น สวนสีเขียวหน้าโครงการ พื้นที่สีเขียวบริเวณชั้น 6 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย สวนสีเขียวบนชั้น 6 ส่วนชั้น 25-28 จะมี 9 ยูนิตต่อชั้น ขึ้นมาถึง 29 จะเป็นส่วนของ Facility หลักของโครงการทั้งสระว่ายน้ำที่เป็นรูปตัว L ยาว 36 เมตร กว้างประมาณ 5 เมตร นอกจากนั้นยังมี Rock Climbing Station for Kids, Social Club, Sky Deck & Party Terrace ชั้น 30 ก็ยังเป็นของ Facility อยู่นะครับ ที่ชั้น 30 จะมี Fitness Studio, Yoga Room, Golf Simulator Room, Executive Lounge & Meeting Room ซึ่งจะมีบรรไดเดินเชื่อมขึ้นมาจากชั้น 29 ได้เลย โมเดลจำลอง Facility บนชั้น 29 บันไดเดินเชื่อมระหว่างชั้น 29-30 บรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำรูปตัว L บนชั้น 29 ชั้น 31 จะกลับมาเป็นห้องพักอาศัยอีกครั้ง จะมี 6 ยูนิต ชั้น 32 จะเป็นห้อง Penthouse ขนาด 3 ห้องนอน อยู่เพียง 2 ยูนิต ชั้นบนสุดที่ชั้น 33 จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการคือห้องขนาด 4 ห้องนอน อยู่เพียงห้องเดียวบนชั้น 33 เรื่องบริการความสะดวกสบายสำหรับลูกบ้าน ทางโครงการก็ให้ความใส่ใจไม่แพ้กัน เช่น One-card access for all areas โดยไม่ต้องพกบัตร/กุญแจหลายอัน รวมถึงบริการ Concierge & Door Man บริการ Direct mail Delivery Service เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการจองร้านอาหารต่างๆ และบริการซัก-อบ-รีด นอกจากนี้ยังมีบริการ Shuttle Service ด้วยรถหรูรับส่งในจุดที่กำหนด เพื่อวันสบายๆ ที่ไม่อยากใช้รถส่วนตัว เท่าที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ก็เชื่อได้ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้พักอาศัยได้รอบด้าน ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นไหลแม้อยู่ในพื้นที่โครงการ “Exquisite Life Experience” ด้วยคอนเซปต์ “Exquisite Life Experience” ประสบการณ์ชีวิตที่สวยงามเหนือระดับ ทางโครงการจึงใส่ใจในทุกรายละเอียด นอกเหนือจากจุดเด่นหลายๆ ข้อที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว การเปิดประสบการณ์ที่อยู่อาศัยที่หรูหราให้เป็นมากกว่าบ้านทาง Real Asset และผู้ออกแบบ ได้ลงรายละเอียด ใส่ความพิถีพิถันตั้งแต่การจัดวางพื้นที่ การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมในทุกๆ ตารางนิ้วของห้องชุดให้เป็นเหมือนงาน Master Piece เฉพาะตัว 42 ตารางเมตร คือห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ ห้องแบบ 1 Bedroom ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน บนพื้นที่ใช้สอยที่จัดสรรมาแล้วอย่างดี ความสูงแบบ Floor to Floor สูงถึง 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร กระจกทุกบานในห้องเป็นแบบ Full Height ทำให้สามารถ Take View ด้านนอกได้อย่างเต็มตา เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องชิ้นหลักๆ ทางโครงการ Built-in มาให้เสร็จสรรพ เช่น ชุดครัว Top ด้วยหิน Quartz พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง ตู้เย็น, เตาไฟฟ้า 2 หัว + เครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, ไมโครเวฟแบบ Free Stand มีตู้ Built-in สำหรับเก็บรองเท้า เก็บของบริเวณประตูทางเข้าห้องมาให้ด้วย และเพิ่มความใส่ใจด้วย ตู้ Built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้าพร้อมเก็บอุปกรณ์ซักรีดไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วน ในขณะที่ภายในห้องน้ำก็จัดเต็มด้วยสุขภัณฑ์ระดับ Luxury Brand จากยุโรปนำโดย Villeroy & Boch และ Gessi เรียกได้ว่าจัดเต็มกันทุกส่วนเลยทีเดียว แปลนห้อง 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 42 ตารางเมตร ที่นี่จะใช้ Digital Door Lock ของ Samsung ทุกห้องนะครับ เข้ามาในห้องแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วน Living Area ด้านขวามือโครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเครื่องผ้าไว้ติดกัน หน้าบานเป็น High-Gross สีขาว ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัว Built-in พร้อมโต๊ะทาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวโครงการก็จัดเต็มมาให้เลยนะครับ ทั้งตู้เย็น ส่วนท็อปครัวเป็นหิน Quartz เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Küppersbusch มาพร้อมกับฮูดดูดควันยี่ห้อเดี๋ยวกัน ใกล้ๆ กันเป็นซิงค์ล้างจานแบบหลุม โต๊ะทานอาหารจะเชื่อมต่อกับเค้าเตอร์ครัว ทำให้เคาน์เตอร์ครัวมีลักษณะเป็นรูปตัว U ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของและจุดวางไมโครเวฟ เลยเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของ Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าห่างเลยนะครับ สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้สบายเลย โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ฝั่งชั้นวางทีวีโครงการ Built-in ชั้นวางเล็กๆ แบบใช้ทีวีติดผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แอร์ที่นี่จะให้แบบฝังฝ้านะครับ บริเวณ Living Area มีให้ 1 จุด ติดกับ Living Area จะมีระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน บานสูงถึงเพดาน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องลายไม้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง เข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งยังมีที่เหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้ หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่สูงจรดเพดาน มีบานเล็กๆ เป็นกระทุ้ง ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะวางทีวี หรือถ้าใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือมากขึ้น ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in เป็นตู้เสื้อ ด้านบนเป็นแอร์แบบฝังฝ้า เข้ามาถึงห้องน้ำ จะตกแต่งด้วย Marble Porcelain สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ท็อป ท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะเป็นหินจริง มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ กระจกเงาจะได้บานยาว เท่าเคาเตอร์อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของอยู่ด้านหลัง ติดกันเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดเป็น Shower Box มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำ มีกระจกเทมเปอร์กั้นให้เรียบร้อย พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้างเลยนะครับ ด้วยพื้นที่ที่กว้างทำให้สามารถแยกอ่างอาบน้ำกับพื้นที่ยืนอาบน้ำออกจากกันได้ ไม่ต้องยืนอาบน้ำในอ่าง ชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower ที่มีระบบ Thermostat ซึ่งจะช่วยควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้คงที่ ขยับมาดู 2 Bedroom กับบ้างกับขนาดห้อง 86 ตารางเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นอีกห้องที่น่าสนใจและมีรายละเอียดแบบจัดเต็มไม่แพ้กันเลย เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าที่ Built-in ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้าไว้ให้เต็มความสูงฝ้าเพดาน ในขณะที่ห้องครัวก็มาพร้อมชุดครัวและสุขภัณฑ์ระดับ Hi-Brand ทุกชิ้น เช่น เตาไฟฟ้า 4 หัว และเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch, เตาอบ ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in ที่เชื่อว่าแทบจะไม่มีโครงการไหนจัดมาเต็มที่ขนาดนี้แน่นอน รวมถึง Island Counter ในห้องครัวก็ติดตั้งมาให้พร้อมเช่นกัน ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ให้มาพร้อมกับห้องทั้ง ตู้เย็นตัว Top ของ Samsung เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าของ Teka ที่จัดไว้ในตู้ Built-in มาให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยสบายตา เครื่องปรับอากาศภายในห้องทุกห้องของโครงการเป็นแบบ Ceiling Concealed Type โดยออกแบบให้มีการเติมอากาศ (Fresh Air Intake) ทำให้อากาศภายในมีการหมุนเวียนตลอดเวลา เรียกได้ว่าเครื่องใช้ที่จำเป็นส่วนใหญ่ทางโครงการก็จัดการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเตรียมไว้ให้แล้ว แปลนห้อง 2 ห้องนอน Type B1 ขนาด 86 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วนครัวอยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนจะเข้าไปส่วน Living Area ด้านใน คล้ายๆ กับห้อง Type A1 ด้านหน้าประตูห้อง โครงการ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของกระจุกกระจิก ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของหน้าประตูห้อง ด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัวแบบเปิด ชุดครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โครงการจัดมาให้ครบครันเลยนะครับ ท็อปเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินอ่อนสีขาว ห้องนี้จะได้เตาไฟฟ้า 4 หัวของ Küppersbusch Island ที่อยู่ในส่วนครัวโครงการวางเก้าอี้ไว้เหมือนเป็นโต๊ะทานอาหารเล็กๆ ด้านล่างจะเป็นจุดวาง เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์แบบ Built-in เตาอบ, ไมโครเวฟ และตู้เก็บไวน์ โครงการจัดมาให้อย่างครบครัน เครื่องซักผ้าจะมีตู้เก็บอย่างอย่างมิดชิด ด้านบนเป็นตู้ลอยเก็บของ พื้นที่ห้องนั่งเล่นภายในห้องกว้างขว้าง เชื่อมต่อกับบริเวณครัวได้อย่างลงตัว บริเวณนี้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดีด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ สูงเต็มเพดาน (Full Height) 3.5 เมตร floor to ceiling 3 เมตร บริเวณระเบียงจัดแบ่งพื้นที่สำหรับแขวน Compressor แอร์ พร้อมระแนงปิดไว้อย่างสวยงามดีทีเดียว และที่สำคัญพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่เห็นไม่ได้นับรวมกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ว่ากันง่ายๆ คือ ทางโครงการไม่ได้คิดพื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่ขาย ซึ่งต่างจากโครงการอื่นๆ ที่จะนับรวมพื้นที่ทั้งหมดรวมระเบียงไว้ในราคาขายด้วย ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Living Area ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่าอยู่ในระยะที่ดีเลยนะครับ ไม่ใกล้จนเกินไป โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ ด้านหลังโซฟาจะมีโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง โต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่วางอยู่หลังโซฟาของส่วน Living Area ออกจาก Living Area มาจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ คอมเพรสเซอร์แอร์ จะมีห้องเก็บอย่างเป็นสัดส่วน ประตูกั้นระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 3 ตอน มุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปด้านในห้อง   Highlight ของห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom นี้เป็นห้องในตำแหน่งห้องมุม ทำให้ Master Bedroom สามารถ Take View ได้เต็มตาด้วยกระจกบาน Full Height แบบเข้ามุมภายในห้อง หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ในขนาดกำลังดี ขณะเดียวกันภายในห้องน้ำก็ตกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยกระเบื้อง Marble Pocelain หรูหรา สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็น Luxury Brand จากยุโรปที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมอ่างอาบน้ำในดีไซน์เรียบหรูมีสไตล์ จาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ห้องแรกด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำเล็ก ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน คล้ายๆ กับห้องน้ำ Type A1 สุขภัณฑ์จะใช้ของ Villeroy & Boch เช่นกันครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ เคาเตอร์อ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนเล็ก โครงการวางเตียง 5 ฟุต ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างในห้องนอนเล็กจะเป็นบาน Fix บานใหญ่สูงถึงเพดานเลยนะครับ ด้านปลายเตียงมีที่พอให้เดินได้ ถ้าจะติดทีวีไว้ในห้องนอนเล็กด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนครับ ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้าบานสูงมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ แอร์แบบฝังฝ้าในห้องนอนเล็ก ด้านในสุดจะเป็นห้อง Master Bedroom พื้นที่ในห้อง Master Bedroom ถือว่ากว้างขวางเลยนะครับ โครงการวางเตียง 6 ฟุต King Size มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้อีกครับ หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นหน้าต่างเข้ามุมสูงถึงเพดาน ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีได้ ข้างเตียงอีกด้านโครงการจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ และชั้นวางของไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ หน้าทางเข้าห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet เข้ามาด้านในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom ค่อนข้างกว้างเลยนะครับ โครงการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Villeroy & Boch มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ทำให้มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์ มีกระจกเทมเปอร์กั้น ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นอ่าง อาบน้ำ วางอยู่ฝั่งซ้ายมือ บริเวณอ่างอาบน้ำและใน Shower Box จะมีหน้าต่างไว้นอนแช่น้ำชมวิวใจกลางเมือง ฝั่งตรงข้ามอ่างอาบน้ำ จะเป็น Shower Box มาพร้อมชุดฝักบัวและ Rain Shower     Click to play ถ้าจะพูดถึง Highlight / จุดเด่นของวัสดุ สุขภัณฑ์เครื่องใช้ในโครงการแล้ว ต้องบอกว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยที่บรรยายได้ไม่รู้จักจบกันแน่นอน ทั้งเรื่อง Digital Door Lock ของ Sumsung, Video Door Phone ติดต่อสื่อสารกับ Front Desk, ประตูทางเข้าห้องสูง 2.6 เมตร พร้อม Door Seal และ Rubber Door Seal เพื่อกรองฝุ่นละอองและเสียงรบกวน ฯลฯ เพราะทางโครงการตั้งใจคัดเลือกทุกรายละเอียดให้สมกับความเป็นคอนโดในระดับ Super Luxury ในขณะที่ราคาขายเปิดกันมาแบบสมน้ำสมเนื้อ คุ้มค่าการลงทุนที่สุดในทำเลทองหล่อแบบนี้ ซึ่งนอกจากแบบห้องที่ยกตัวอย่างมาให้ดูกันในครั้งนี้แล้ว ทางโครงการยังมีแบบห้องให้เลือกอีกมาก ทั้งแบบ 2 Bedroom, 3 Bedroom, Duplex และ Penthouse เพื่อตอบโจทย์ไลฟสไตล์และความต้องการที่ต่างกันของลูกค้า สำหรับราคาเริ่มต้นที่ทางโครงการเปิดมาที่ 9.7 ล้านบาทนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับ Spec และสิ่งที่จะได้รับ ทำให้โครงการ Laviq Sukhumvit 57 มีศักยภาพน่าสนใจทั้งในด้านการลงทุนเพื่อเกร็งกำไร และซื้อไว้สำหรับอาศัยอยู่เอง หรือปล่อยเช่า สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือระดับ สามารถเข้าไปเยี่ยมชม Sale Gallery ได้ ณ ที่ตั้งโครงการ ซึ่งจะมีงาน Show Suites Preview ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน นี้ หรือต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.laviq.com
LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 : รีวิวคอนโด

LAVIQ Sukhumvit 57 (ลาวีค สุขุมวิท 57) คอนโด High Rise ระดับ Luxury สูง 33 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 57 ใกล้รถ BTS ทองหล่อ และแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง โครงการใหม่จาก Real Asset รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    9,000,000 บาท เจ้าของโครงการ    Real Asset Co., Ltd. ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง    235 ยูนิต ที่จอดรถ    235 คัน (ที่จอดซุปเปอร์คาร์ 8 คัน) คิดเป็น 100% (รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด   2 - 1 - 65 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 57 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit Parklane Ekkamai J Avenue The Commons Rain Hill Camillian Hospital Samitivej Hospital Emquartier ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 42 – 45 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 79 - 91 ตารางเมตร 3 Bedroom  ขนาด 115 - 144 ตารางเมตร Duplex  ขนาด 92 ตารางเมตร Penthouse  ขนาด 244 - 357 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สนามเด็กเล่น ห้องสมุด และห้องประชุม สระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge Rock-Climbing สำหรับเด็ก ระเบียง Sky Deck ระเบียงจัดปาร์ตี้ ห้องสังสรรค์ Executive Lounge และห้องประชุม Simulator เล่นกอล์ฟ Simulator ปั่นจักรยาน สตูดิโอ ฟิตเนส ห้องโยคะ บริการ Front Desk Service และพนักงานต้อนรับ ที่จอดรถซุปเปอร์คาร์ และซุปเปอร์ไบค์ โรงจอดรถจักรยาน จุดชาร์จพลังงานยานยนต์ไฟฟ้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1232 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.laviq.com  
วิรัณยา วงแหวน-อ่อนนุช : รีวิวบ้าน

วิรัณยา วงแหวน-อ่อนนุช : รีวิวบ้าน

วิรัณยา วงแหวน-อ่อนนุช (Viranya Wongwean-Onnut) บ้านเดี่ยวโครงการแรกจาก Real Asset Development โดยแนวคิดในการออกแบบเป็นสไตล์ Modern ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพย่านวงแหวน-อ่อนนุช ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    5,990,000 บาท (23 พฤษภาคม 2560) เจ้าของโครงการ    บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 169 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    ประมาณ 43-1-65 ไร่ ที่ตั้งโครงการ      ถนนกาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   IKEA เซ็นทรัลบางนา สวนหลวง ร.9 สนามบินสุวรรณภูมิ พาราไดซ์ พาร์ค ซีคอน สแควร์   แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   Floretta  ขนาดพื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม.3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Blooma  ขนาดพื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Matura  ขนาดพื้นที่ใช้สอย 171 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวก สโมสร 2 ชั้นขนาดใหญ่ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนภายในโครงการเชื่อมต่อให้เป็น Jogging Track ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้อง CCTV 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Call Center 1232 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  https://www.realasset.co.th/singlehouse/viranya
The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้ จะพาทุกคนไปชมเยี่ยมโครงการ The Stage Taopoon Interchange ในเครือของ Real Asset อีกหนึ่งโครงการที่เกาะติดแนวรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน แถมพ่วงด้วยสายสีม่วงเข้าไปอีก เพราะจุดนี้เป็นสถานีเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายพอดี ทำเลนี้เลยเพิ่มระดับความน่าสนใจขึ้นมาได้อีกเยอะเลยทีเดียว   การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการ The Stage Taopoon Interchange ของเราในครั้งนี้ เริ่มต้นกันจากถนนประชาชื่นครับ มุ่งหน้ามาทางเตาปูนจนสุดถนน ซึ่งจะตัดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 พอดี ตรงนี้เราจะเริ่มเห็นรางรถไฟฟ้ากันแล้ว จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2 กันเลย วิ่งตรงข้ามแยกเตาปูนมาอีกหน่อยก็จะเห็นตัวโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือแล้วครับ การเดินทางด้วยรถยนต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ เพราะสามารถเลือกลงทางด่วนรัชดาภิเษก ตรงแยกประชานุกูลแล้ววิ่งมาตามถนนประชาชื่นก็ได้ หรือจะเลือกข้ามสะพานพระราม 7 มาจากฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ก็ได้เช่นกัน แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเมื่อไหร่ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็จะเป็นการเดินทางที่พึ่งพาเป็นหลักได้ เพราะช่วยประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้มาก แถมตัวสถานีรถไฟฟ้าก็อยู่ห่างจากหน้าโครงการไปไม่เกิน 400 เมตร เรียกว่ากำลังเดินได้สบายๆ ครับ แต่ถ้าขี้เกียจเดินหน่อย บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าก็มีวินมอเตอร์ไซค์พร้อมให้บริการอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเดินทางด้วยรถบริการสาธารณะอื่นๆ ก็ค่อนข้างสะดวกเช่นกัน ทั้งรถเมล์ และรถแท็กซี่ เนื่องจากบริเวณแถบนี้มีทั้งโรงเรียน และโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ รถราจึงมีวิ่งบริการเป็นจำนวนมากอยู่พอสมควรเลยทีเดียวครับ แผนที่การเดินทางรอบๆ โครงการ เริ่มจากถนนประชาชื่น บริเวณแยกประชานุกูล หน้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น นะครับ ให้ตรงผ่านแยกประชานุกูลไปทางบางซื่อเลยครับ โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ ประชาชื่น อีกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โครงการ จากนั้นขับตรงไปตามถนนประชาชื่น ขับมาจนถึงแยกประชาชื่น ก่อนจะถึงแยกจะเห็นโลตัส ประชาชื่น หรือที่คนแถวนี้เรียกว่าโลตัส เตาปูน อยู่ด้านซ้ายมือ ถึงแยกแล้วให้เลี้ยวขวา เข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ไปทางเตาปูน ตามป้าย เลี้ยวขวามานิดหน่อย ก็จะเจอ MRT สถานีเตาปูน Interchange บรรยากาศบนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 จะมีคอนโด ขึ้นมาหลายโครงการ ทั้ง Rich Park ที่สร้างเสร็จแล้ว โครงการ ชีวาทัย Interchange และ The Tree Interchange ที่กำลังก่อสร้างอยู่ การเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนการจราจรอาจจะติดขัดสักหน่อยนะครับ จากสถานี MRT เตาปูนมาประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงสำนักงานขายโครงการแล้วครับ วิเคราะห์ตัวโครงการ โครงการ The Stage Taopoon Interchange เป็นคอนโด High Rise ตั้งอยู่บนประชาราษฎร์สาย 2 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนมาประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงหน้าทางเข้าโครงการ ถ้าดูตามรูปที่ดินของโครงการแล้ว จะเห็นว่าตัวที่ตั้งโครงการจริงๆ จะอยู่ด้านในถัดจากถนนเข้ามาอีกประมาณ 100 เมตร ซึ่งเดิมบริเวณนี้เป็นที่ดินของโรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยา ถ้าหากใครที่คุ้นเคยกับทำเลแถบนี้อยู่แล้วก็คงจะนึกภาพตามได้ไม่ยากครับ ด้วยความที่ตัวที่ดินอยู่ถัดเข้ามาด้านใน จึงค่อนข้างลดปัญหาเรื่องมลภาวะทางเสียงไปได้พอสมควรเลยนะครับ เพราะถ้าตัวอาคารที่พักอาศัยอยู่ติดถนนใหญ่ และใกล้กับรางรถไฟฟ้ามากกว่านี้ คงหลีกเลี่ยงเรื่องเสียงรบกวนได้ยาก ในขณะที่พื้นที่รอบๆ โครงการยังเป็นที่พักอาศัยทั้งอาคารพาณิชย์และบ้านเดี่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมีเพื่อนบ้านเป็นตึกสูงของโครงการ The Tree Interchange ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเท่านั้นที่อยู่ในระยะประชิด ยังดีหน่อยที่ลักษณะของที่ดินโครงการบังคับให้ตัวอาคารที่พักอาศัยหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ เลยหมดปัญหากังวลเรื่องตำแหน่งห้องที่จะถูกตึกข้างๆ บดบังวิวไปได้เยอะเลย อย่างที่บอกไปแล้วว่าพื้นที่โดยรอบยังเป็นบ้านพักอาศัยที่อยู่มาก่อนนานแล้ว สภาพแวดล้อมโดยรอบจึงยังคงความเป็นชุมชนอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วก็ตาม อาคารพาณิชย์ริมถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหาร และธนาคารพาณิชย์ ที่ให้ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันได้ตามสมควร รวมถึงโรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยาที่ยังคงอยู่ทางด้านหลังโครงการ และโรงพยาบาลบางโพที่อยู่ห่างออกไปเพียง 300 เมตรเท่านั้น ในขณะที่ถัดออกไปทางแยกเตาปูนก็มีตลาดสด และห้างโลตัสเตาปูนที่สามารถเป็นที่พึ่งพาให้จับจ่ายซื้อหาข้าวของที่จำเป็นได้ไม่ยาก ทำเลในย่านนี้จึงถือว่าเหมาะกับการอยู่อาศัยพอสมควรเลยทีเดียว บรรยากาศ 2 ข้างทางบนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ยังคงเป็นอาคารพาณิชย์เรียงรายอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง จะมีร้านอาหารอยู่ประปราย อย่างที่เห็นนี่คือร้านข้าวมันไก่ ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ฝั่งตรงข้ามก็จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายใบ้ ร้านอร่อยที่อยู้ใกล้ๆ คอนโด เดินเลยมาอีกหน่อยก็จะถึงทางขึ้นรถไฟฟ้า ระยะทางจากโครงการถึง MRT ประมาณ 350 เมตร ถ้ารถไฟฟ้าเปิดใช้บริการแล้ว น่าจะเพิ่มความสะดวกสบายให้คนในย่านนี้ขึ้นเยอะเลยครับ สำหรับตัวโครงการเป็นคอนโดอาคารเดี่ยวสูง 36 ชั้น มียูนิตรวมทั้งหมด 773 ยูนิต โดยส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป  ในขณะที่พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1-6 จะถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่จอดรถ ซึ่งสามารถรองรับปริมาณรถได้ถึง 447 คันเลยทีเดียว  ถือว่าทางโครงการจัดมาให้เต็มที่มากๆ เมื่อเทียบกับคอนโดแนวรถไฟฟ้าในระดับเดียวกัน พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 6-7 มีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำขนาด 25 x 8 เมตร พื้นที่พักผ่อน รวมถึงห้องสมุด และ Play Room ด้วย ซึ่งจะอยู่รวมกันกับพื้นที่พักอาศัยบนชั้น 7 นั่นเอง ห้องพักบนชั้นนี้จะสะดวกเวลาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางในการออกกำลังกาย แต่ก็ต้องแลกกับเป็นส่วนตัวที่เสียไปบ้างครับ นอกจากนี้ที่พื้นที่บนดาดฟ้าชั้น 36 ยังมีสวนหย่อม และมุมพักผ่อนไว้ให้รับลมชมวิวได้อีกด้วย แต่จะว่าไปแล้วพื้นที่ส่วนกลางที่ทางโครงการจัดสรรมาให้นั้น ออกจะกระทัดรัดไปซักหน่อย ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตรวมแล้ว สัดส่วนของการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างหนาแน่นเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับลิฟท์โดยสารที่ทางโครงการจัดไว้ให้ 4  ตัว เฉลี่ยออกมาแล้ว ลิฟต์ 1 ตัว ต่อ 194 ยูนิต นับว่าหนาแน่นเอาเรื่องถึงแม้จะมีลิฟต์ขนของแยกมาต่างหากแต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้นะครับ เพราะอย่างไรการใช้งานก็แยกส่วนกันอยู่ดี ถึงเวลาใช้งานจริง ช่วงเช้าๆ ที่ทุกคนรีบจะออกไปทำงานพร้อมๆ กัน คงต้องรอลิฟต์กันนานหน่อย พ้นจากเรื่องส่วนกลางไปแล้ว เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการก็เป็นไปตามมาตรฐานเลยครับ ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการใช้ Key Card ในการเข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานที่เราพอจะคาดเดากันได้ไม่ยาก ภาพมุมกว้าง เมื่อมองจากโค้งน้ำเจ้าพระยา แบบจำลองโครงการ จะเห็นระยะทางที่ตัวโครงการร่นจากถนนเข้าไปประมาณ 100 เมตร ทางเข้าโครงการ ชั้น G จะเป็น Lobby ขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับ Shop อีก 4 Shop และมีที่จอดรถอีกบางส่วน ส่วนที่จอดรถหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 1-6 หน้าตาของ Lobby ที่ชั้น G Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 7 ทั้งสระว่ายน้ำแยกสระเด็ก Reading Room และ Play Room นอกจาก Facility แล้ว ชั้น 7 ก็จะเป็นชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัยด้วยนะครับ ห้องสมุดที่ชั้น 7 สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8x25 เมตร พร้อมแยกสระเด็ก แบบจำลองบนชั้น 7 ส่วน Fitness จะอยู่ที่ชั้น 8 เป็นชั้นลอยขึ้นมาจาก Facility ที่ชั้น 7 ชั้น 9 - 36 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยประมาณ 26 ยูนิตต่อชั้น Roof Garden บนชั้นดาดฟ้า พาชมห้องตัวอย่าง แบบห้องหลักๆ ของโครงการ The Stage Taopoon Interchange มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นกันที่ 26 ตร.ม. โดยประมาณ ถึงจะเป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ แต่ก็มีการจัดวาง Layout ไว้เป็นสัดส่วน เปิดประตูห้องมาก็จะเจอในส่วนของ Living Area ก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ซึ่งทางโครงการกั้นประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่ไว้ให้เป็นสัดส่วน ส่วนอีกด้านจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว และห้องน้ำ  แน่นอนว่าในโซนนี้ก็มีประตูกระจกบานเลื่อนแยกไว้ชัดเจนอีกเหมือนกัน แต่เวลาจะเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องครัวก่อนทุกครั้ง ในขณะที่ระเบียงด้านนอกก็มีพื้นที่กระทัดรัด เพียงแค่พอวางเครื่องซักผ้า กับแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ชมกัน จะเป็นห้องขนาด 33.2 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Layout ของห้องนี้จัดมาได้ค่อนข้างน่าสนใจแปลกตา เปิดห้องมาเราจะเจอ Living Area ที่ค่อนข้างกว้างขวางดีทีเดียว พอวางชุดโซฟาไปแล้ว ก็ยังมีที่เหลือสำหรับโต๊ะกินข้าวได้อีกชุด ในห้องตัวอย่างจึงจัดวางโต๊ะกินข้าวไว้ชิดผนังด้านที่ติดกับห้องครัวให้เห็นเป็นไอเดียด้วย การกั้นห้องจะมีลักษณะเป็นผนังทึบ ไม่ใช่ประตูกระจกบานเลื่อนอย่างห้องแบบแรก ซึ่งข้อดีของการกั้นห้องแบบนี้คือ ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ผนังของห้องครัวด้านที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ถูกเจาะช่องติดกระจกบานใสไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเปิดรับแสงจากธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะให้ความรู้สึกขาดๆ เกินๆ ไปบ้างเพราะโดยส่วนตัวไม่ค่อยชินกับการออกแบบลักษณะนี้จริงๆ ครับ พื้นที่ห้องครัวจัดไว้เป็นสัดส่วนดี ทั้งประตูบานเลื่อนที่ช่วยป้องกันปัญหากลิ่นรบกวน และประตูระเบียงที่ติดกับห้องครัวก็ช่วยในเรื่องการระบายกลิ่นได้อีกทาง ในขณะที่พื้นที่ของห้องนอนจะจัดสรรพื้นที่ใช้สอยมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว เปิดประตูบานสวิงเข้าไป เตียงนอนจะอยู่ใกล้หน้าต่างที่เป็นกระจกเข้ามุม เปิดรับแสงและวิวได้เต็มที่มากๆ อีกด้านเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ และโซนแต่งตัวหน้าห้องน้ำที่ดูแล้วลงตัวดีครับ แบบห้อง Type A 1 ห้องนอน ขนาด 33.20 ตารางเมตร เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ อย่างที่บอกว่า Living Area ที่นี่ค่อนข้างจะกว้างทีเดียว ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาอยู่ราวๆ 3 เมตร สามารถตั้งทีวีจอใหญ่ได้สบายๆ เลยครับ โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่าน ทางโครงการจัดวางไว้ข้างๆ โซฟา ในส่วน Living Area ติดกับผนังครัวที่ทำเป็นช่องกระจกมองเข้าไปเห็นในครัวได้ วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง อาจจะดูเล็กไปหน่อยนะครับ เพราะต้องเผื่อพื้นที่ให้ดต๊ะทานอาหาร ชั้นวางทีวีที่โครงการ Built-in มาให้ดู ดูจากระยะห่างแล้ว คงจะต้องใช้ทีวีจอใหญ่หน่อยครับถึงจะได้อรรถรส เลยเข้ามาด้านใน จะเป็นส่วนครัว ครัวจะเป็นแบบปิดนะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เคาน์เตอร์ครัวจะหน้าตาแบบนี้นะครับ มีช่องวางไมโครเวฟด้านล่าง แต่จะไม่ได้กระจกติดผนังกันเปื้อนแบบในภาพนะครับ เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจานแบบฝังอยู่ทางขวามือ ทางซ้ายจะเป็นเตาไฟฟ้า ด้านล่างจะเป็นช่องวางไมโครเวฟและตู้เก็บของ ซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ Teka มารพ้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ระเบียงจะอยู่ติดกับครัวเลยนะครับ จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน รางและขอบประตูกระจกเป็นอลูมิเนียมสีดำ ขนาดของระเบียงก็จะกว้างประมาณนี้นะครับ จุดที่วางเครื่องซักผ้าอยู่ที่ระเบียง คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่เหนือเครื่องซักผ้า หันหน้าออกนอกระเบียง กลับเข้ามาข้างใน เราจะไปดูที่ห้องนอนกันต่อ ในห้องตัวอย่างกับแปลนห้องหัวเตียงจะสลับด้านกันนะครับ เข้าห้องนอนมาแล้วประตูจะอยู่ด้านปลายเตียง ไม่ใช่หัวเตียงเหมือนในแปลนห้อง ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตกำลังดีเลยนะครับ มีพื้นที่รอบๆ เตียงเหลือให้ทำอย่างอื่นได้อีก ปลายเตียงมีที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก แต่จะวางชั้นวางทีวีก็จะดูแคบไป ควรจะใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะดีกว่าครับ หน้าต่างในห้องนอนด้านปลายเตียงจะทำกระจกเข้ามุมไว้ด้วย จะมีบานกระทุ้ง 1 บาน ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่างเว้นที่ไว้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟสวยๆ ก็โอเคนะครับ ข้างเตียงอีกฝั่งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่วางอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ติดกับตู้เสื้อผ้า การวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าของ MOGEN มีมาเฉพาะตัวอ่างนะครับ ไม่มีเคาน์เตอร์และตู้เก็บของด้านล่างให้ ทำให้แทบจะไม่มีที่วางของเลย โถสุขภัณฑ์ก็ของ MOGEN เหมือนกันครับ มีที่แขวนทิชชู่อยู่ด้านข้าง ส่วน Shower Box จะกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวที่ได้ ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนที่ทางโครงการทำห้องตัวอย่างไว้คือ ห้องขนาด 56.1 ตร.ม. ห้องนี้มีพื้นที่กว้างขวางให้ใช้สอยได้ค่อนข้างเหลือเฟือ เปิดประตูเข้าห้องมาจะเป็นพื้นที่โซนกลางห้องที่จัดสรรเป็นส่วนพักผ่อน และมุมรับประทานอาหาร โถงกลางห้องนี้จะโล่งโปร่ง เปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะมีระเบียงอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นนั่นเอง ส่วนห้องนอนจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง โดยห้องนอนใหญ่จะใช้พื้นที่ด้านหนึ่งไปเต็มๆ ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพ พร้อมมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำที่สามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in ได้อย่างลงตัว ในขณะที่อีกฟากของห้องจะเป็นห้องนอนเล็กขนาดกระทัดรัดกำลังดี อยู่ติดกับห้องน้ำเล็กที่ต้องเดินออกมาเข้าจากทางห้องนั่งเล่น ส่วนห้องครัวก็อยู่ถัดจากห้องน้ำมาทางด้านหน้าห้องครับ แน่นอนว่าห้องครัวมีประตูบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วนเช่นกัน ห้องแบบนี้ค่อนข้างเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก เพราะมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ทำให้ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวเพียงพอ ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางห้องก็กว้างพอที่จะให้สมาชิกทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้อีกด้วย Type B 2 ห้องนอน ขนาด 56.10 ตารางเมตร เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนนะครับ แต่ก่อนจะเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นเรามาดูส่วนที่อยู่ด้านหน้าห้องกันก่อน ด้านซ้ายมือจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ท่าน ตู้เก็บของที่ทางโครงการ Built-in มาให้ดูอยู่หน้าห้องใกล้กับโต๊ะทานอาหาร ถัดจากโต๊ะทานอาหารเข้าไปข้างในจะเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง ห้องนั่งเล่นจะไม่ใหญ่มากนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีประมาณ 2 เมตร วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง จะพอดีกับผนังห้อง ชั้นวางทีวี Built-in เล็กๆ หรือว่าจะใช้ทีวีแบบแขวนผนังก็ได้ครับ พื้นที่ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน คอมเพรสเซอร์แอร์หันหน้าออกนอกระเบียง ฝั่งขวาจะเรียงกัน 3 ห้องนะครับ คือ ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนเล็ก เริ่มจากครัวก่อน ครัวจะอยู่ด้านขวามือตรงข้ามกับโต๊ะทานอาหารจะเป็นครัวแบบปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ในครัวอาจจะดูอึดอัดไปสักหน่อยนะครับ เพราะไม่ได้อยู่ติดระเบียงเหมือน Type A ตัวท็อปเป็นลามิเนตสีขาว ซิงค์ล้างจานแบบฝัง เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka ฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน ช่องวางไมโครเวฟจะอยู่ด้านล่าง ตู้เก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม ด้านล่าง ชั้นลอยเก็บของด้านบน มาต่อที่ห้องน้ำ สุขภัณฑ์ที่ใช้และการจัดวางจะเหมือนกับ Type A Shower Box มาดูที่ห้องนอนเล็กต่อนะครับ ทางโครงการวางเตียงขนาด 3 ฟุตให้ดู ทำให้พื้นที่รอบๆ เตียงเหลืออยู่พอสมควร ปลายเตียงมีเหลือให้เดินได้สบายๆ หน้าต่างข้างเตียงจะเป็นบานฟิกและมีบานกระทุ้ง 1 บาน อีกฝั่งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า เราข้ามฝั่งมาดูที่ห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ห้องนอนใหญ่วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลยครับ ปลายเตียงมีที่เหลือให้ Built-in ชั้นวางทีวีได้เลย หน้าต่างด้านหัวเตียงทำเป็นกระจกเข้ามุมให้ด้วยนะครับ ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ตู้เสื้อผ้าจะมีอยู่ 2 ฝั่ง หน้าห้องน้ำ ภาพมุมกว้างของห้องนอนใหญ่ มองไปที่ห้องน้ำ การวางสุขภัณฑ์จะคล้ายๆ ห้องน้ำห้องแรกนะครับ แต่ห้องนี้จะได้อ่างล้างหน้าที่มีที่วางของได้เยอะขึ้นหน่อย อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ MOGEN มีที่วางของรอบๆ และใต้อ่าง ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะเหมือนเดิมครับ Shower Box กั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัวที่ได้ ห้องทั้งหมดที่ทางโครงการขายมาให้เป็นห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์แถมมาให้ด้วย เว้นแต่ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น นอกจากนี้ห้องจริงที่ได้ฝ้าเพดานก็สูง 2.6 เมตร แตกต่างจากระยะที่เห็นในห้องตัวอย่างนิดหน่อยครับ ใครรักชอบแบบไหนก็เลือกกันได้ตามสะดวก Type A1L 1 ห้องนอน ขนาด 26.3 ตารางเมตร Type A1R 1 ห้องนอน ขนาด 26.3 ตารางเมตร Type A2R 1 ห้องนอน ขนาด 33.2 ตารางเมตร Type B1L1 2 ห้องนอน ขนาด 56.1 ตารางเมตร Type B1L2 2 ห้องนอน ขนาด 56.1 ตารางเมตร Type B2 2 ห้องนอน ขนาด 61.4 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน ทำเลที่ตั้งของโครงการ The Stage Taopoon Interchange อยู่ในย่านที่เหมาะกับการอยู่อาศัย เพราะค่อนข้างสงบ ในขณะที่ยังอยู่ในย่านชุมชน ใกล้ตลาดสด โรงพยาบาล และโรงเรียน ซึ่งเหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยเกาะแนวรถไฟฟ้า และอยู่ไม่ห่างจากความเจริญมากนัก นอกจากนี้พื้นที่บริเวณนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมี โอกาศเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากห่างออกไปทางด้านเกียกกาย กำลังมีการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการก็เป็นสถานี Interchange ที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วงไว้ด้วยกัน ทำให้การเดินทางในอนาคตค่อนข้างสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่การซื้อหาห้องเพื่อการลงทุนในย่านนี้ อาจจะต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย เพราะทำเลในแถบนี้ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ให้เปรียบเทียบอีกมาก จึงอาจจะทำให้การปล่อยเช่าห้องมีคู่แข่งในด้านราคาเป็นจำนวนมาก ผลตอบแทนที่ได้ก็อาจจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควร นักลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ
The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

The Stage Taopoon Interchange : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,890,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 72,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท เรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จุดเด่น คอนโดใหม่จาก Real Asset เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน Interchange สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2560 ที่ตั้ง: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 3 - 3 - 84.9 ไร่ ที่ตั้ง ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.805962,100.526333 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีเตาปูน Interchange   สถานที่สำคัญใกล้เคียง MRT สถานีเตาปูน MRT สถานีบางซื่อ เทสโก้ โลตัส เตาปูน โรงพยาบาลบางโพ บิ๊กซี   ลักษณะโครงการ: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 33.25 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 56.10 – 61.41 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 36 ชั้น จำนวนห้อง 773 ยูนิต ส่วนกลาง: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด 340 คัน (รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50.5%) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 37 บาท (ชำระล่วงหน้า 2 ปี) ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท   สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนส่วนกลาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. กล้องวงจรปิด Keycard Access   เพิ่มเติม: The Stage Taopoon Interchange (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 088-044-5551 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.realasset.co.th ข้อมูล ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2557