Tag : เสรีไทย

Unio Ramkhamhaeng–Serithhai (ยูนิโอ รามคำแหง-เสรีไทย) คอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้นิด้า : รีวิวคอนโด

Unio Ramkhamhaeng–Serithhai (ยูนิโอ รามคำแหง-เสรีไทย) คอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้นิด้า : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้จะพาทุกท่านไปชมคอนโดมิเนียม Low-Rise 8 ชั้นบนถนนเสรีไทยกับโครงการ Unio Ramkhamhaeng-Serithai  ภายใต้แบรนด์ Helix บริษัทในเครือ Ananda Development ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทั้งการเดินทางที่สะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบที่ครันบนถนนรามคำแหงและถนนลาดพร้าว ตัวโครงการอยู่ติดริมถนนใหญ่ คุ้มค่าในราคาที่สามารถจับต้องได้       ทำเล UNIO Ramkhamhaeng–Serithhai   ถนนเสรีไทยอยู่ฝั่งกรุงเทพฯตะวันออก  ตัวถนนมีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตรเชื่อมต่อจากปลายถนนลาดพร้าว ยาวไปต่อจนถึงสี่แยกมีนบุรี ซึ่งถนนเส้นนี้แม้จะเชื่อมต่อจากถนนลาดพร้าว  ที่เห็นได้ชัดเลยคือถนนยังคงเป็นชุมชนบ้านพักอาศัย 2 ชั้นเป็นหลักยังไม่ค่อยมีอาคารสูงเท่าไรนัก จึงทำให้เงียบสงบไม่วุ่นวาย และยังเป็นถนนคู่ขนานกับถนนรามคำแหงซึ่งเป็นแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกครับ             Unio Ramkhamhaeng – Serithhai ตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนเสรีไทยฝั่งขาเข้าใกล้กับสี่แยกนิด้าไม่ไกลจากสถานที่สำคัญไม่น้อยเพียง 1 กิโลเมตร ห่างจากเดอะมอลล์บางกะปิ 4 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายอย่าง Paseo Town, Big C Extra สุขาภิบาล 3, Lotus บางกะปิ, Makro บางกะปิ, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลเวชชานี, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (วิทยาเขตหัวหมาก), สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน     ในเรื่องของการเดินทางด้วยรถยนต์จะใกล้กับ ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในอนาคตจะสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะกำลังจะมีรถไฟฟ้าเกิดขึ้น คือสายสีเหลือง และสายสีส้มซึ่งทั้ง 2 สายนี้มีความสำคัญตรงที่จะวิ่งจากชานเมืองเขาสู่ตัวเมืองและกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในปปัจจุบัน โดยจะมีจุด Interchange สำคัญอยู่ที่แยกลำสาลีแต่สถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือ สายสีส้ม สถานีคลองบ้านม้าครับ           ภาพรวมโครงการ   UNIO Ramkhamhaeng–Serithhai คอนโดมิเนียม Low-Rise บนพื้นที่ 6-0-51 ไร่ มีด้วยกัน 3 อาคารมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จุดเด่นของโครงการโดยให้คำนิยามกับ 3 คำ (ใกล้ คุ้ม ครบ) โดยเริ่มจากคำว่า "ใกล้" ในที่นี้คือใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา, การเดินทางสะดวก ถัดมากับคำว่า "คุ้ม" คือคุ้มค่าในเรื่องของพื้นที่ห้องที่มีความเป็นสัดส่วน สร้างความเป็นส่วนตัว และสุดท้ายกับคำว่า "ครบ" นอกจากห้องดี ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบแล้ว ภายในโครงการมาพร้อมกับ Facility  ที่ครบครันเพิ่มความสะดวกสบายกับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น   เริ่มกันที่ทางเข้าโครงการซึ่งอยู่ติดริมถนนใหญ่ ในส่วนของทางเข้า-ออกเป็นระบบ Key Card Acess และมาพร้อมกับกล้องวงจรปิด CCTV กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก่อนที่จะพาไปชมห้องตัวอย่างแวะมาดูส่วนกลางของโครงการกันก่อนครับ โดยส่วนกลางจะอยู่ระหว่างกลางระหว่างอาคารพักอาศัยเริ่มจาก Play Ground สนามเด็กเล่นสำหรับหนูๆ ถัดมาเป็น Garden & Jogging Track พื้นที่ออกกำลังกาย Out Door สำหรับคนรักสุขภาพที่อยากสัมผัสบรรยากาศภายนอก มาต่อกันที่ Lotus Pound & Sunket Seat พื้นที่พักผ่อนหรือเป็นมุมโปรดอ่านหนังสือ พูดคุยกับเพื่อนบ้านโดยมีสระบัวล้อมรอบเพิ่มความผ่อนคลาย       ด้านในสุดเป็นส่วนของ Swimming Pool โดยแบ่งเป็นสระเด็กและผู้ใหญ้ไว้เป็นสัดส่วน มีเตียงสระว่ายน้ำให้ ส่วนอาคารด้านหลังสระว่ายน้ำเป็น Fitness Room สำหรับคนรักสุขภาพ ใต้ถุนอาคารเป็นพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศได้ครับ   เข้ามาภายในอาคารชั้นแรกจะเป็นส่วนของ Common Room ซึ่งเป็น Co-working Space หรือไว้เป็น Lobby ต้อนรับแขก ถัดเข้ามาก่อนขึ้นลิฟต์ด้านข้างจะพบตู้ล็อคเกอร์เก็บจดหมาย         Floor Plan ทางเข้าออกโครงการมีทางเดียวอยู่ติดริมถนนใหญ่ อยู่บนถนนเสรีไทย เมื่อเข้ามาแล้วจะพบอาคาร A ซึ่งปลายปีนี้สามารถพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เข้าอยู่ครับ ถัดมาจะเป็นอาคาร B และฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคาร C ซึ่งสามารถพร้อมเข้าอยู่ได้เลยครับ ส่วนตรงกลางระหว่างตึกจะเป็นส่วนของ Facility ที่ต่อกันเป็นแนวยาวเริ่มจากสวนและสนามเด็กเล่น ถัดมาเป็นบ่อบัวและพื้นที่นั่งเล่นยาวไปจนสุดจะเป็นสระว่ายน้ำ สุดท้ายคือ Fitness       Floor Plan ของอาคาร A ซ้ายมือสุดในปัจจุบันนี้เป็น sale gallery แต่ในอนาคตจะเป็นร้านสะดวกซื้อและเป็นส่วนของ Common Room ถัดมาชั้นแรกก่อนที่จะขึ้นลิฟต์เป็นส่วนของ Mail Box และห้องซักรีด ด้านนอกเป็นพื้นที่จอดรถ และห้องนิติบุคคลครับ     ในส่วนของ Floor Plan ชั้นที่ 2-8 เป็นส่วนของยูนิตพักอาศัย ซึ่งเริ่มที่ ยูนิต A 1-3 จะอยู่ในทิศใต้และมองเห็นวิวของ Facility ทั้งหมดของโครงการ ยูนิต A 4-9 จะหันออกทางทิศเหนือมุมนี้จะหันออกหน้าโครงการซึ่งเป็นถนนใหญ่ ยูนิต A 10-23 จะอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะได้วิวนอกโครงการ ยูนิต A 24-36 จะอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้จะได้วิวส่วนของ Garden & Jogging Track         ถัดมาเป็น Floor Plan ของอาคาร B และ C ซึ่งอาคาร B จะอยู่ต่อจากอาคาร A ส่วนของอาคาร C จะอยู่ตรงข้ามกัน ทั้งสองอาคารหันไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือเหมือนกันทั้งสองอาคาร แต่จำนวนยูนิตพักอาศัยของ 2 อาคารต่างกันคืออาคาร B มี 36 ยูนิตต่อชั้น ส่วนอาคาร C มี 28 ยูนิตต่อชั้น ชั้นแรกของ 2 อาคารเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถและมี Lobby, Mail Box, ห้องซักรัดครับ       พาชมห้องตัวอย่าง โครงการ Unio Ramkhamhaeng–Serithhai มียูนิตให้เลือกอยู่ 2 ยูนิต เป็นแบบห้อง Studio ขนาด 22.82 และ 26.40 เริ่มจากห้อง Studio ขนาด 22.82 ซึ่งความจริงแล้วเป็นห้องเปล่าไม่มีประตูกั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น สามารถต่อเติมได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยช่วยเพิ่มความเป็นสัดส่วนของห้อง ในส่วนของห้องครัวถึงจะแยกออกมาเป็นครัวเปิดแต่แยกออกมาเป็นสัดส่วนได้ดีสำหรับผู้อาศัยที่ทำครัวหนักสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ครับ และทางโครงการให้เครื่องปรับอากาศและ Built in ครัวให้กับทุกยูนิตครับ ซึ่งห้องตัวอย่างแบบแรกจะมีห้องตัวอย่างกับห้องเปล่ามาให้ชมเปรียบเทียบกันครับ     ในส่วนแรกเข้ามาจากประตูคือ Common Area ในส่วนของ Floor To Ceiling 2.6 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งสบาย ไฟบนเพดานทางโครงการติดตั้งให้เป็นแบบไฟซาลาเปา ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้คือ Living Room  สามารถวางโซฟาสำหรับ 3 ถึง 4 ที่นั่งและวางชั้นวางทีวีได้อย่างเป็นสัดส่วนลงตัว       ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอนซึ่งทางโครงการ Built in ประตูเลื่อนกระจกกั้นห้องให้ดูแบ่งพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วน ดูระเบียบ เตียงนอนสามารถวางขนาด Queen Size และยังพอมีพื้นที่เหลือด้านข้างเตียงวาง Side Table ได้ครับ ปลายเตียงยังมีพื้นที่สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง หน้าต่างเป็นแบบก้นหอย ส่วนเครื่องปรบอากาศจะติดติ้งให้ที่ด้านบนหน้าต่างจากแบรนด์ Samsung     ออกมาจากห้องนอนจะเป็นทางเดินเพื่อเขาสู่ห้องครัว ด้านขวามือคือห้องน้ำ ภายในห้องน้ำมีกระจกเงาบานใหญ่และมีผนังยื่นออกมาสามารถวางของได้เพิ่มขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น อ่างล่างหน้าเป็นแบบแขวนผนังจากแบรนด์ American Standard ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์ และต่อด้วยพื้นที่อาบน้ำโดยทางโครงการทำพื้นที่ต่างระดับแบ่งส่วนแห้งและเปียกไว้เป็นสัดส่วน ออกจากห้องน้ำเป็นส่วนของครัวซึ่งเป็นครัวปิดสำหรับใครที่ชอบทำครัวหนักสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ครับ และโครงการ Built in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมกับ อ่างล้างจานแบบฝังเคาน์เตอร์ พื้นที่ว่างด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นซึ่งจะเชื่อมกับระเบียงของห้อง         พื้นที่ระเบียงหลังห้องกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคมีพื้นที่พอสามารถวางราวตากผ้าได้ ราวกันตกเป็นเหล็กสีดำ และทางโครงการวางท่อเพื่อติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ให้ครับ ด้านบนเป็น Condensing Unit       ถัดมาเป็นส่วนของห้อง Studio ขนาด 26.40 ซึ่งแผนผังภายในห้องมีขนาดเหมือนกับขนาด 22.82 เพียงแต่ได้พื้นที่ใช้สอยใน Common Area และส่วนของห้องนอนมากขึ้น ทำให้ห้องกว้างขวาง โปร่งโล่งสบายมากขึ้น     ในส่วนแรกเมื่อเข้ามาจะเป็น Common Area ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างพอสามารถวางโซฟา L Shape และโต๊ะกลางก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินที่กว้างพอครับ       ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอนซึ่งทางโครงการ Built in ประตูกระจกบานเลื่อน ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง 6 ฟุตก็ยังมีพื้นที่ข้างเตียงสามารถ Built in ชั้นวางของได้ตามแบบที่โครงการทำไว้เป็นตัวอย่าง ส่วนปลายเตียงมีพื้นที่มากพอที่จะ Built in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ครับ       ออกมาจากห้องนอนเข้าสู่พื้นที่ของห้องครัวซึ่งเป็นครัวเปิด พื้นที่ด้านนี้สามารถกั้นประตูเป็นครัวปิดสำหรับผู้อยู่อาศัยชอบทำอาหารไม่ให้กลิ่นอาหารเข้าห้องได้ครับ ซึ่งทางโครงการให้เคาน์เตอร์ครัวมาพร้อมกับอ่างล่างจานแบบฝังเคาน์เตอร์และยังมีสวิตซ์ไฟที่เคาน์เตอร์ครัวให้ในตัวครับ ทางด้านซ้ายมือของเคาน์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำ ซึ่งด้านในสุดของห้องน้ำเป็นพื้นที่อาบน้ำโดยโครงการทำพื้นที่ต่างระดับแบ่งส่วนพื้นที่เปียกและแห้งไว้เป็นสัดส่วนฝักบัวอาบน้ำจากเบรนด์ American Standard ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto       และสุดท้ายกับระเบียงหลังห้องกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ราวกันตกเป็นราวเหล็กโปร่งสีดำ มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าได้ครับ ด้านบนถูกติดตั้งด้วย Condensing Unit         สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งความเป็นส่วนตัว หรือการเดินทางที่สะดวกสบายและในอนาคตอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มและสีเหลืองซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างอีกไม่นานเกินรอก็จะได้ใช้บริการกันแล้วครับ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกบนถนนรามคำแหงและถนนลาดพร้าว กับโครงการ UNIO Ramkhamhaeng–Serithhai คอนโดมิเนียม Low-Rise แต่คุณภาพดีเยี่ยมทั้งยูินิตอยู่อาศัย Facility ภายในโครงการที่ครบครับ ในราคา 1.19 ล้านบาทที่ใครๆ ก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้จาก Helix บริษัทในเครือ Ananda Development    
Niche ID เสรีไทย-วงแหวน ใส่ใจทุกดีเทล ฟังก์ชั่นเกินราคา : รีวิวคอนโด

Niche ID เสรีไทย-วงแหวน ใส่ใจทุกดีเทล ฟังก์ชั่นเกินราคา : รีวิวคอนโด

ขึ้นชื่อว่าเป็นคอนโดมิเนียมจากค่ายเสนาดีเวลลอปเม้นท์ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่นด้วยแนวคิด MADE FROM HER ในความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และต้องมีความคุ้มค่าแบบฉบับความคิดของคุณผู้หญิงที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยจริง โดยเฉพาะในห้องพักอาศัยที่มีฟังก์ชั่นดีๆ มากมาย ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียวค่ะ        ทำเล   กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกมีการเติบโตของเมืองขึ้นเรื่อยๆ มาตลอด มีทั้งถนนหนทางตัดใหม่เกิดขึ้นมาไม่น้อย และสิ่งอำนวยความสะดวกก็มากมายไม่แพ้โซนอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ยิ่งได้ปัจจัยของพื้นที่เขต EEC เข้ามาประกอบด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้โซนนี้ กลับมาเป็นที่สนใจกันอีกไม่น้อย เพราะเรื่องการเดินทางที่สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างง่ายดาย      ถนนเสรีไทย ถือเป็นถนนแถบชานเมืองของกรุงเทพฯ โซนตะวันออก เชื่อมต่อจากถนนลาดพร้าวช่วงปลาย ผ่านแยกนิด้า แยกหมู่บ้านสหกรณ์ ผ่านจุดขึ้น-ลงถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก แยกสวนสยาม ผ่านนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ตรงไปจนถึงแยกเมืองมีนตัดกับถนนรามอินทรา ถนนสุวินทวงศ์ และถนนสีหบุรานุกิจ รวมระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร แม้ว่าสองข้างทางจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่อย่างห้างสรรพสินค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ แต่ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ มากเพียงพอต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งเสน่ห์ของถนนเส้นนี้นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลบหลีกความวุ่นวาย และการจราจรอันติดขัดแบบถนนสายอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ที่สำคัญคือค่าครองชีพยังไม่สูงมากนัก ขณะเดียวกันก็ยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังจุดสำคัญหลักๆ ได้อย่างสะดวก     Niche ID เสรีไทย-วงแหวน ตั้งอยู่ในซอยเสรีไทย 81/2 หากเลี้ยวเข้าซอยไปโครงการก็จะอยู่ทางขวามือเลยค่ะ ซึ่งพื้นที่โครงการจะอยู่ติดกับโครงการ Niche ID เสรีไทย ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ไปเมื่อปี 2559 แต่ทางเข้า-ออก รวมถึงนิติบุคคลจะแยกกันค่ะ ช่วงท้ายซอยจะเชื่อมต่อกับซอยสวนสยาม 11 ทะลุเข้าถนนสวนสยาม โดยถนนสวนสยาม เป็นถนนที่มีร้านอาหารอร่อยๆ อยู่มากมายตั้งแต่ปากทางแยกสวนสยามไปจนถึงสามแยกโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี บนถนนรามอินทรา อาทิ เกาเหลาเนื้อตุ๋น นายส่วน, ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายฉุ่ย, ร้านวัดดงมูลเหล็ก (โย โภชนา), K2 coffee cafe, Hob & Coff cafe and social bar, ร้านอาหารวันดี, ฮานาฟีร์ สเต็กโฮม เป็นต้น รวมถึงมีตลาดนัดอมรพันธุ์ สวนสยาม ไปจนถึงคอมมูนิตี้มอลล์ Amorini นอกจากนี้ก็ยังสามารถเดินทางไปยังสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียงอื่นๆ ได้ในหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นบนนถนนรามอินทรา เช่น โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี, โรงพยาบาลสินแพทย์, แฟชั่นไอส์แลนด์, เดอะพรอมานาด, ตลาดนัดเลียบด่วน เป็นต้น ส่วนถนนรามคำแหงโดยใช้ถนนมีนพัฒนาไปถึงแยกลาดบัวขาว ก็จะมีบิ๊กซี, เทสโก้โลตัส สาขาสุขาภิบาล 3 ฯลฯ หรือแม้แต่จะใช้ถนนเสรีไทยเองก็จะใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน, โรงพยาบาลเสรีรักษ์ แล้วฝั่งที่ไปเชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าวก็มีทั้งเดอะมอลล์ บางกะปิ, เทสโก้โลตัสบางกะปิ    การเดินทางสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกมากค่ะ ยิ่งหากต้องเดินทางไปภาคตะวันออกอยู่เป็นประจำก็ถือว่าใกล้มาก เพราะสามารถใช้ถนนกาญจนาภิเษก ที่ห่างจากโครงการประมาณกิโลกว่าๆ ก็จะถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนแล้วไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ได้ หรือจะผ่านแยกเมืองมีนแล้วใช้ถนนสุวินทวงศ์ก็ออกไปจังหวัดฉะเชิงเทราได้ไม่ไกล แต่หากเลือกใช้รถสาธารณะก็สามารถใช้รถโดยสารประจำทางตรงหน้าปากซอยได้เลยค่ะ หากไปทางขาเข้าเมืองฝั่งตรงข้ามกับโครงการก็จะตรงเข้าถนนลาดพร้าวได้เลย หรือหากไปลงตลาดมีนบุรีก็สามารถต่อรถสายอื่นๆ ได้อีกหลายเส้นทาง และในอนาคตประมาณปี 2564 บนถนนรามอินทราก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่านตลอดทั้งสาย ส่วนฝั่งถนนรามคำแหงในอนาคตประมาณปี 2566 ก็สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งเข้าสู่ใจกลางเมืองได้                 ภาพรวมโครงการ   Niche ID เสรีไทย-วงแหวน เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ซึ่งจะเรียกเป็นอาคาร C กับอาคาร D ค่ะ ส่วนอาคาร A กับ B นั้น จะอยู่ในโครงการ Niche id เสรีไทย ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่จะมีการกั้นรั้ว แยกทางเข้า-ออกโครงการ และนิติบุคคลก็แยกกันค่ะ ซึ่งโครงการนี้มีมาในคอนเซป LIVING LARGE IN THE NEW OASIS ชีวิตสบายและผ่อนคลายได้มากกว่า ในโอเอซิสกลางกรุงแห่งใหม่ โดยตัวโครงการจะเล่นโทนสีให้ดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับพื้นที่รอบโครงการที่จะถูกปลูกต้นไม้สีเขียวล้อมรอบ โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่คอยต้อนรับด้วยความร่มรื่นตั้งแต่ทางเข้าโครงการ      Facility ตามสไตล์ของ SENA จะมีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่นำโซลาร์เซลล์มาติดตั้งบน Roof Top เพื่อดึงพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในส่วนกลางของโครงการ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปได้ในระยะยาว โดยสิ่งอำนวยความสะดวกโซน Outdoor อย่าง สวนไม้หอม Aromatic Garden, Jogging Track, สระว่ายน้ำ, สนามเด็กเล่น, ลานโยคะ เหล่านี้จะถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ความสงบร่มรื่น หลบหลีกจากความวุ่นวายภายนอกให้เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น และยังมีห้องฟิตเนสติดกับสระว่ายน้ำ ให้ได้ออกกำลังกายพร้อมวิวธรรมชาติด้านนอก           ร่มรื่นตั้งแต่ทางเข้าโครงการที่มีต้นไม้ใหญ่ตลอดแนว   หน้าอาคาร D คือแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการค่ะ โดยสระว่ายน้ำจะถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สร้างความป็นส่วนตัว และยังช่วยบดบังสายตาจากภายนอกได้อีกด้วย   ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำค่ะ   พื้นที่สีเขียวของโครงการที่มี Jogging Track ก็ยังคงร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่รอบอาคาร      Floor Plan   ดูจากผังโครงการแล้วจะเห็นว่าพื้นที่โครงการอยู่ใกล้กับปากซอยมากประมาณ 30 เมตร เดินได้สบายๆ เลยค่ะ ซึ่งตัวโครงการ Niche ID เสรีไทย-วงแหวน จะมีทั้งหมด 2 อาคาร คือ อาคาร C หน้าโครงการ กับอาคาร D ที่มี Facility อยู่ชั้นล่างของอาคาร ซึ่งทางเข้าอาคารจะอยู่ทางทิศตะวันตกค่ะ    อาคาร C ห้องพักอาศัยจะถูกวางแบบ Double Corridor มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว บันไดหนีไฟ 3 จุด วางกระจายอยู่ทั่วอาคาร ซึ่งห้องพักอาศัยจะถูกวางในทิศเหนือวิวทางถนนสวนสยาม กับทิศใต้ได้วิวถนนเสรีไทยค่ะ  อาคาร D ห้องพักอาศัยจะถูกวางแบบ Double Corridor มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว บันไดหนีไฟ 3 จุด เช่นเดียวกันค่ะ แต่อาคารนี้จะวางเป็นรูปตัว L ซึ่งห้องพักอาศัยจะถูกวางเอาไว้ทั้ง 4 ทิศเลยค่ะ ได้แก่ห้องทางทิศเหนือได้วิวทางถนนสวนสยามและวิวสระว่ายน้ำ ห้องทางทิศใต้ได้วิวถนนเสรีไทย ห้องทางทิศตะวันออกได้วิวถนนเสรีไทยทางฝั่งมีนบุรี และทิศตะวันตกได้วิวสระว่ายน้ำและสวนภายในโครงการค่ะ            Unit Plan     Type A ขนาด 26.00 ขนาดเริ่มต้นของโครงการค่ะ ซึ่งเป็นห้องที่วางไว้เป็นสัดส่วนทีเดียวค่ะ ได้ทั้งห้องครัวปิด ห้องน้ำจะอยู่โซนเดียวกันกับห้องครัว และเฟอร์นิเจอร์ที่เราเห็นในแปลนก็จะได้มาตามนี้ทั้งหมดเลยค่ะ   Type B ขนาด 28.00 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยขยับเพิ่มขึ้นมาอีกค่ะ แต่จะได้แปลนคล้ายๆ กันกับ Type A   Type C ขนาด 30.00 ตร.ม. ขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการค่ะ ซึ่งจะได้ครัวปิดเช่นเดียวกัน ส่วนพื้นที่ Living Room กว้างขวางขึ้น และห้องน้ำจะถูกแยกตัวออกมาอยู่ในโซนเดียวกันกับ Living Room ค่ะ     ชมห้องตัวอย่าง     Niche ID Serithai–Wongwaen มีการเข้าอยู่ในซอยเดียวกันกับโครงการ Niche ID Serithai เลยค่ะ เพราะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่จะถูกแบ่งเป็น  2 โครงการแยกกันค่ะ    Sales Office จะอยู่ด้านหน้าโครงการเลยค่ะ เข้ามาในซอยมองไปทางขวามือก็จะเห็นเลย ซึ่งตัวอาคารจริงกำลังสร้างอยู่ทางด้านหลังนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปีนี้ค่ะ   ภายใน Sales Office จะมีห้องตัวอย่างให้ชมกันอยู่ 2 Type ค่ะ คือ Type A ขนาด 26.00 ตร.ม. กับ Type B ขนาด 28.00 ตร.ม.   Type A ขนาด 26.00 ตร.ม. เรามาเปิดห้องตัวอย่างแรกกันดีกว่าค่ะ เริ่มจากวัสดุพื้นห้องปูด้วยลามิเนตสีน้ำตาลอ่อน ส่วนแรกของห้องเป็น Living Room ลึกเข้าไปด้านในเป็นห้องนอน ส่วนทางขวามือเป็นโซนห้องครัว และห้องน้ำค่ะ   เคาน์เตอร์วางทีวีจะได้หน้าตาแบบนี้มาทั้งเซตเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชั้นใส่รองเท้า เก็บร่ม ชั้นวางหนังสือก็ได้ทั้งนั้น เรียกได้ว่าเป็นตู้อเนกประสงค์จริงๆ ค่ะ แต่ยกเว้นเพียงทีวีกับเครื่องปรับอากาศที่ห้องนั่งเล่นเท่านั้นที่ไม่ได้มาด้วย   ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ทีวีจะได้โซฟาผ้าสีเทาขนาด 2 ที่นั่ง โดยใต้โซฟาจะซ่อนลิ้นชักเก็บของเอาไว้ให้ 2 ช่องค่ะ   ที่วางแขนเปิดออกได้เป็นช่องเล็กๆ สำหรับเก็บพวกรีโมททีวีค่ะ   ข้างโซฟาจะได้โต๊ะพร้อมเก้าอี้แบบนี้มาด้วยนะคะ ซึ่งโต๊ะสามารถหุบขาเหล็กแล้วพับโต๊ะเก็บได้ด้วยค่ะ โดยจะใช้งานเป็นโต๊ะทานข้าวหรือโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ   ลึกเข้ามาในห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนอนค่ะ   กั้นประตูห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ขอบอลูมิเนียม ซึ่งข้อดีของการใช้ประตูห้องนอนแบบนี้คือ ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างห้องนอนส่องเข้ามาถึงใน Living Room ทำให้ทั้งห้องสว่าง ดูโปร่งไม่มืดทึบค่ะ   ในห้องนอนจะได้เฟอร์นิเจอร์ทั้งเตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศ ส่วนผ้าม่านจะรวมให้เฉพาะช่วงโปรโมชั่นเท่านั้นนะคะ   หลังกระจกเงาเป็นตู้เก็บของค่ะ โดยแบ่งออกเป็นสองบานกระจก เวลาใช้งานจริงหากเราเปิดกระจกบานฝั่งที่แคบกว่าเพียงด้านเดียวก็จะสามารถเพิ่มมุมมองอีกด้านเวลาเราส่องกระจกค่ะ   ลิ้นชักโต๊ะเครื่องเเป้งมีการเเบ่งสัดส่วนมาให้เพื่อง่ายต่อการเก็บ เครื่องสำอางค์และอุปกรณ์เเต่งหน้า     เตียงขนาด 6 ฟุตวางเอาไว้ชิดกำแพงริมหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน   หัวเตียงกับด้านข้างที่ติดกับผนังจะมีฉากกั้นบุฟองน้ำนิ่มๆ มาให้ตามภาพแบบนี้เลยค่ะ ใครที่ชอบนั่งอ่านหนังสือบนเตียงก็สามารถนั่งเอนหลังได้สบายๆ   ใต้เตียงยังมีลิ้นชักเก็บของมาด้วย 1 ช่องค่ะ   ตรงหัวเตียงมีช่องสำหรับเสียบหนังสือหรือ Magazine ที่เล่มไม่หนามากได้ด้วยนะคะ   ภายในห้องนอนทางโครงการจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบรนด์ Panasonic มาให้ด้วย 1 ตัวค่ะ ส่วนผ้าม่านแบบนี้จะแถมมาให้เฉพาะช่วงโปรโมชั่นเท่านั้นนะคะ ซึ่งสามารถสอบถามจากทางโครงการได้โดยตรงอีกครั้งค่ะ   ปลายเตียงจะได้ Built in ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน 3 ตอน ซึ่งมีหน้าบานกระจกเงามาให้ 1 บาน สามารถเลื่อนได้ทั้งหมดค่ะ โดยข้อดีของตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนแบบนี้คือช่วยประหยัดพื้นที่ของห้องได้ดี และยังมีความสวยงามกว่าตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัวด้วยค่ะ   เรียกได้ว่าฟังก์ชั่นในห้องนอนให้มาล้นเหลือทีเดียวค่ะ แต่ดีเทลพิเศษแบบนี้ไม่ได้หมดเฉพาะแค่ในห้องนอนอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ ยังเหลือโซนห้องครัวต่อค่ะ   โซนห้องครัวจะถูกแยกออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนทีเดียวค่ะ โดยจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเป็นลักษณะของครัวปิด ช่วยไม่ให้กลิ่นอาหารเวลาทำกับข้าวเข้ามาในห้องค่ะ   พื้นที่โซนห้องครัวจะแบ่งออกเป็นห้องน้ำทางขวามือ และครัวทางซ้ายค่ะ   เข้าไปดูในห้องน้ำกันก่อนค่ะ ภายในจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ส่วนผนังก็เป็นกระเบื้องเซรามิคสีขาว ขวามือด้านบนของภาพมีราวแขวนผ้าสแตนเลสติดมาให้ค่ะ   อ่างล้างหน้าเซรามิคแบบแขวนผนัง และก๊อกน้ำจากแบรนด์ COTTO มาพร้อมกับกระจกเงา โดยมีการก่อผนังยื่นออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้เป็นที่วางอุปกรณ์หน้าอ่างล้างหน้าค่ะ   ถัดจากอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมแกนใส่ทิชชู่จาก COTTO และสายชำระอยู่ข้างขวาของโถสุขภัณฑ์ค่ะ   ส่วนเปียกจะถูกแยกออกโดยมีธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำล้นออกมาที่ส่วนแห้งค่ะ   มีชั้นวางอุปกรณ์เข้ามุมมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ ฝักบัวจากแบรนด์ Prema   สุดท้ายไปดูที่ห้องครัวกันค่ะ   สิ่งที่ทางโครงการจะให้มาด้วยนั่นคือ Built in เคาน์เตอร์ครัวครบเซตจากแบรนด์ Modernform มีช่องสำหรับวางตู้เย็นอยู่ข้างเคาน์เตอร์ครัว   ซิงค์ล้างจานจากแบรนด์ HAFELE ซึ่งด้านหลังซิงค์จะมีพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์ล้างจาน หรือจะวาง ipad ทำครัวไปด้วยเปิดยูทูปวิธีทำกับข้าวไปด้วยก็ได้นะคะ และยังติดตั้งราวแขวนสแตนเลสมาด้วยค่ะ   ตู้ด้านบนจะมีการติดตั้งที่วางจาน ซึ่งสามารถดึงลงมาเพื่อหยิบหรือเก็บของได้ง่ายขึ้นมากเลยค่ะ ตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ดีทีเดียว   ระเบียงจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมค่ะ   มีธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อยกั้นเอาไว้ เพื่อป้องกันฝุ่นจากภายนอก รวมถึงน้ำจากการซักล้างที่ระเบียงไม่ให้ล้นเข้าห้องด้วยค่ะ   ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม มีก๊อกน้ำสำหรับต่อเครื่องซักผ้าวางเอาไว้ที่ระเบียง และยังเหลือพื้นที่เพียงพอต่อการตากผ้าได้ด้วยค่ะ   Condensing Unit ถูกแขวนเอาไว้มุมระเบียง ซึ่งหันหน้าเข้าระเบียงค่ะ มีข้อดีตรงถ้าหากตากผ้าจะทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น หรือถ้าใครไม่ชอบลมร้อนก็สามารถติดตั้งกริลแอร์เพิ่มเติมได้ค่ะ   Type B ขนาด 28.00 ตร.ม. ห้องตัวอย่างสุดท้ายค่ะ ขนาด 28.00 ตร.ม. พื้นห้องปูด้วยลามิเนตสีน้ำตาลอ่อนเช่นเดียวกันค่ะ โดยจะพบกับ Living Room ก่อน ลึกเข้าไปจะเป็นห้องนอนค่ะ   ด้านขวาวางโซฟาผ้าขนาด 2 ที่นั่ง และโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่งเอาไว้ค่ะ   ทุกยูนิตจะได้โซฟาที่มีลิ้นชักข้างใต้ และช่องเก็บรีโมทตรงที่พักแขนเช่นดียวกันหมดค่ะ   โต๊ะทานอาหารจะได้มาพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวแบบนี้เลยค่ะ โดยโต๊ะสามารถหุบขาเหล็กสีดำแล้วพับเก็บโต๊ะได้   เคาน์เตอร์วางทีวีพร้อมตู้อเนกประสงค์ Built in มาให้ทั้งเซตเลยค่ะ   เชื่อมต่อพื้นที่เดียวกันเป็นห้องนอน ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนค่ะ   ริมหน้าต่างจะได้เตียงขนาด 6 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้งอยู่ข้างหัวเตียง   หัวเตียงและด้านข้างของเตียงฝั่งชิดผนังจะมีฉากกั้นบุฟองน้ำหุ้มด้วยผ้า สำหรับเป็นพนักพิงนั่งเอนหลังเล่นบนเตียงได้   ใต้เตียงมีลิ้นชัก 1 ช่องสำหรับเก็บของค่ะ   หัวเตียงมีช่องสำหรับเสียบหนังสือเล่มไม่หนามาก หรือจะเสียบ Tablet ด้วยก็ได้นะคะ   โต๊ะเครื่องแป้งมีฟังก์ชั่นสำหรับเก็บของจุกจิกได้อีกเยอะเลยค่ะ   เครื่องปรับอากาศในห้องนอนจะถูกติดตั้งมาให้เหนือหน้าต่างบานกระจกค่ะ โดยถ้าเปิดประตูห้องนอนเอาไว้แล้วเปิดแอร์ ความเย็นก็จะสามารถไปถึง Living Room ได้โดยที่ไม่ต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศอีกตัวเพิ่ม   ปลายเตียง Built in ตู้เสื้อผ้าประตูบานเลื่อน 3 บาน ซึ่งมี 1 บานที่หน้าบานเป็นกระจกเงาค่ะ ภายในตู้แบ่งช่องเอาไว้หลากหลายขนาด สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของคุณผู้หญิงได้ดี ไม่ว่าจะแขวนชุดเดรสยาว ลิ้นชักเก็บชุดชั้นใน ช่องยาวเก็บโต๊ะรีดผ้า ทุกสิ่งถูกคิดขึ้นมาเพื่อการใช้งานจริงค่ะ   เข้าไปดูอีกโซนของห้องกันค่ะ   ห้องครัวจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นเดียวกันค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค โดยห้องครัวจะอยู่ทางขวาเชื่อมต่อกับระเบียงห้อง และซ้ายมือเป็นห้องน้ำค่ะ   ห้องน้ำพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค โดยจะเป็นส่วนแห้งก่อนส่วนเปียกด้านในค่ะ   ขวามือวางโถสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนใส่ทิชชู่ และราวแขวนผ้าเอาไว้ครบค่ะ ส่วนเปียกมีชั้นวางของมาไว้ให้ด้วยค่ะ ไม่ต้องซื้อชั้นวางของเพิ่มเลย   อีกด้านของห้องน้ำมีการก่อผนังออกมาเล็กน้อย สำหรับเป็นที่วางของเพิ่มเติม   อ่างล้างหน้าเซรามิคแบบแขวนผนังมาพร้อมกระจกเงาค่ะ   ออกจากห้องน้ำก็จะเป็นห้องครัวค่ะ โดยเริ่มจากพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น และเคาน์เตอร์ครัวแบบ One Wall Kitchen   ชุดครัวมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟด้านล่าง โดยวัสดุปิดผิวทั้งหมดเป็นลามิเนตค่ะ   ซิงค์ล้างจานจากแบรนด์ HAFELE พร้อมติดตั้งราวสแตนเลสไว้ด้านหลัง และมีพื้นที่สำหรับวางของเอาไว้หลังซิงค์ค่ะ   ทุกยูนิตจะได้ที่วางจานด้านบน ซึ่งสามารถดึงเก็บไว้ในตู้แบบนี้มาเหมือนกันหมดค่ะ   ลิ้นชักมีช่องเก็บอุปกรณ์ครัวมาให้ด้วยทุกยูนิตค่ะ   ระเบียงถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน   มีธรณีประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อยกั้นไว้ด้วยค่ะ   พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค และมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าอยู่ที่มุมระเบียงเพื่อใช้เป็นพื้นที่ซักล้าง   Condensing Unit แขวนเอาไว้มุมเดียวกันกับพื้นที่วางเครื่องซักผ้าค่ะ     Niche ID Serithai–Wongwaen คอนโดที่เปรียบเสมือนโอเอซิสกลางเมือง ยิ่งใครที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางชันก็เหมาะมากค่ะ เพราะประมาณ 500 เมตรก็ถึงช่วงนิคมแล้ว สามารถเดินทางไปทำงานได้ใกล้มากๆ หรือใครที่ต้องใช้ถนนกาญจนาภิเษกบ่อยๆ โดยเฉพาะหากต้องออกไปยังภาคตะวันออกก็เดินทางได้สะดวกไม่แพ้กัน ราคาก็จับต้องได้เริ่มต้นเพียง 1.5 ล้านบาท แถมยังได้เฟอร์นิเจอร์ฟังก์ชั่นดี ให้มาครบแบบที่ไม่ต้องซื้ออะไรเข้ามาเพิ่มก็เข้าอยู่ได้เลย