ค้นหารีวิวจากทำเล

Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 : รีวิวทาวน์โฮม

ภาพยนตร์ภาคแรกสนุกจะมีหรือที่ไม่มีภาคต่อ บ้านก็เช่นกันผู้อยู่อาศัยมีความสุขทำไมจะไม่ส่งต่อความสุข กับโครงการ Nirvana DEFINE ศรีนครินทร์ - พระราม 9 ทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์โมเดิร์นที่เป็นมากกว่าบ้านเดี่ยว มาพร้อมกับรางวัล โครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น ประจำปี 2561 ประเภททาวน์เฮาส์ราคาสูงจากศูนย์วิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (AREA) จากรีวิวครั้งที่แล้วเป็นทาวน์โฮม Type C และ D การกลับมาครั้งนี้สู่ความยิ่งใหญ่ขึ้น กับบ้านอีก 2 Type คือ A และ B     แต่ก่อนที่จะไปชมบ้านแบบใหม่ดีไซน์สวยทั้งภายในและภายนอก สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชมแบบแรกรับชมได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว       ทำเล   โครงการ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ตั้งอยู่บนถนน ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ เชื่อมกับถนนศรีนครินทร์แยกกรุงเทพกรีฑา – หัวหมาก ยาวไปอีกด้านเป็นถนนกาญจนาภิเษกไปสิ้นสุดที่ถนนเจ้าคุณทหาร ซึ่งในอนาคตจะเกิดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ตัดผ่านบริเวณสี่แยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมากพอดี     ถ้าพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในช่วงถนนศรีนครินทร์และบนถนนรามคำแหง เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก, ราชมังคลากีฬาสถาน, โรงพยาบาลรามคำแหง, เดอะพาสิโอ้ทาวน์ รามคำแหง, ซีคอนสแควร์, ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์, พาราไดซ์พาร์ค และยังใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 20 นาทีจะถึง เมกาบางนา และสนามบินสุวรรณภูมิ   ภาพรวมโครงการ   Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นมากกว่าบ้านเดียวที่มาให้เลือกทั้งหมด 4 Type พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 190-350 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.5 เมตร เท่ากันทุกยูนิต จุดเด่นของทาวน์โฮม ที่ไม่เหมือนใครในเรื่องของดีไซน์ที่หาไม่ได้จากทาวน์โฮมทั่วไป ซึ่งมีที่เดียวเท่านั้นมาพร้อมกับฟังก์ชันต่างๆ  ที่ตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัยไม่ว่าจะด้วยเรื่องของช่องแสงภายในบ้านบวกกับเพดานสูงโปร่ง ทำให้บ้านปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่มืดทึบเหมือนทาวน์โฮมทั่วไป เพราะทางโครงการใส่ใจทุกรายละเอียดให้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ และเหมาะกับทุกคนในครอบครัว    มาพร้อมกับ Facility ครบครันตอบโจทย์ผู้อาศัยไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก โซนบาร์บีคิว คลับเฮ้าส์สำหรับพักผ่อน สระว่ายน้ำ และฟิตเนส     Unit Plan   Type A พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 31.3 – 63 ตารางวา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ     Type B  พื้นที่ใช้สอย 285 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 30-34 ตารางวา 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ       ชมบ้านตัวอย่าง     ทาวน์โฮมตัวอย่างแบบแรกที่จะพาไปชมเป็น Type A ซึ่งจะเป็น Type ที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ และเป็น Type เดียวที่อยู่แปลนมุมเพราะจะได้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยมากขึ้นของผู้อยู่อาศัยครับ       ในสวนของลานหน้าบ้านมีพื้นที่สำหรับจอดรถได้ถึง 3 คัน ตรงกลางมีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเข้าไปในบ้านได้ และด้านขวามือเป็นประตูหลักเพื่อเข้าไปยังในตัวบ้าน     ด้านในสุดของพื้นที่จอดรถทางโครงการทำเป็นคอร์ดกลางบ้าน เพื่อให้มีแสงสว่างส่องเข้ามาได้ทั่วถึงไม่ทำให้บ้านมืดทึบ และยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกด้วยครับ ซึ่งโดยปกติแล้วทาวน์โฮมทั่วๆ ไปจะมีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาในตัวบ้านได้เฉพาะฝั่งหน้าบ้านกับหลังบ้านเท่านั้น แต่การดีไซน์มีคอร์ดให้อยู่กลางบ้านจะช่วยสร้างบรรยากาศปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น   นอกจากทำให้บ้านมีแสงสว่างส่องเข้ามาได้ทั่วถึงแล้ว ตรงนี้ยังสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้กลางคอร์ด ทำให้บ้านดูเป็นธรรมชาติ ร่มรื่นมากขึ้นครับ ซึ่งการมีคอร์ดกลางบ้านแบบนี้ ได้รับความนิยมมากในบ้านเดียวสไตล์ Modern ในปัจจุบัน ทำให้ทาวน์โฮม Nirvana DEFINE มีความใกล้เคียงกับบ้านเดียวมากที่เดียวครับ     ด้านซ้ายมือของที่จอดรถจะมีประตูแยกซ้ายขวา เป็นพื้นที่สำหรับห้องเก็บของทั้งสองห้องครับ         ด้วยความที่ Type A ถูกวางให้อยู่แปลงมุม จึงทำให้ได้พื้นที่สนามหญ้าข้างบ้านซึ่งสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังด้านหลังบ้านได้อีกด้วยครับ       หากใครที่เคยติดตามรีวิวของเราก็คงจะได้เห็นรูปแบบบ้านเดี่ยวจากเนอวานากันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ โดยเอกลักษณ์อย่างหนึ่งนั่นคือการยกห้องรับแขกขึ้นไปไว้ที่ชั้น 2 ของบ้าน แล้วแยกให้ดูเป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้าน ซึ่งในทาวน์โฮมโครงการนี้ก็นำเอาจุดเด่นตรงนี้มาใส่เอาไว้ด้วยเช่นเดียวกันกับบ้านเดี่ยว โดยสามารถใช้บันไดจากหน้าบ้านทางซ้ายมือนี้ขึ้นไปได้เลยครับ     กลับมาดูที่ชั้นแรกกันก่อนครับ เริ่มจากชานบ้านถูกยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันฝุ่นละอองสิ่งสกปรกที่จะปลิวเข้าในตัวบ้าน ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะใช้ไม้สัก     เข้ามาภายในตัวบ้านพื้นที่แรกทางโครงการทำเป็น Drop Shoes ยกพื้นต่างระดับถึง 3 ขั้น เพื่อแบ่งพื้นที่ให้สามารถถอดรองเท้าไว้ภายในบ้าน ไม่ต้องถอดข้างนอก โดยทางเดินมีพื้นที่สามารถทำตู้เก็บรองเท้า ก็ยังเหลือพื้นที่เดินมากพอครับ     สำหรับชั้นแรกนี้จะถูกจัดให้เป็นห้องครัวปิด พร้อมกับพื้นที่รับประทานอาหารครับ โดยพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และนอกจากนี้ทางโครงติดวอลเปเปอร์สีเรียบให้ทั้งหลัง     ทางโครงการ Built in เคาน์เตอร์บาร์ต่อด้วยโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ที่นั่ง ความจริงแล้วสามารถวางเป็นโต๊ะสำหรับ 10 ที่นั่งก็ยังได้ครับ ซึ่งสามารถใช้พื้นที่ของชั้นแรกนี้สำหรับจัด Party สังสรรค์เล็กๆ กับเพื่อนได้     ในส่วนของห้องครัวเป็นครัวปิด โดยมีที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ High Ceiling ขอบ Aluminium Powder Coat ป้องกันการเกิดสนิม และยังทำให้สีติดแน่นทนนานไม่หลุดลอก       เข้ามาภายในห้องครัวมีพื้นที่แบ่งเป็นสองฝั่ง ส่วนประตูตรงกลางเชื่อมออกไปในส่วนของพื้นที่ซักล้าง     และเคาน์เตอร์ครัวทางด้านขวาเป็นแบบ L-Shape ติดกับหน้าต่างและวางอ่างล่างจานเพราะช่วยระบายความชื้น ป้องกันเชื้อราได้ดีอีกด้วยครับ       ในส่วนของพื้นที่ด้านหลังบ้าน มีทางเชื่อมมาจากสนามหน้าบ้าน       กลับเข้ามาสู่ภายในตัวบ้าน ก่อนที่จะขึ้นชั้น 2 ห้องตรงกลางส่วนนี้คือห้องน้ำกลาง     ภายในห้องน้ำส่วนกลางมีอ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่       ตรงข้ามกันเป็นโถสุขภัณฑ์ และห้องน้ำส่วนกลางจะไม่มีพื้นที่ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำ     ขึ้นบันไดไปชมทาวน์โฮมกันต่อ ซึ่งบันไดระหว่างที่เดินขึ้นบันไดนั้นไม่เกิดเสียงดังขึ้นเลยครับ เพราะโครงสร้างเป็นคอนกรีตทำให้มีความแข็งแรง ส่วนหน้าบันไดนั้นกว้าง ไม่ชัน ตรงนี้โครงการทำให้สามารถวางเท้าได้เต็มเท้าทั้งชายและหญิง เป็นการเพิ่มความปลอดภัยด้วยครับ     ขึ้นมาชั้นสองด้านขวามือเป็นตู้ไฟ และซ้ายมือเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นครับ       ในส่วนของประตูบานนี้เป็นประตูที่เชื่อมมาจากบันไดหน้าบ้านที่เราพาชมกันไปเมื่อสักครู่นีั เพื่อเข้ามาสู่ห้องนั่งเล่นของบ้านครับ     ในส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่น Floor To Ceiling 4 เมตร มีพื้นที่กว้าง ปลอดโปร่ง วางโซฟาแบบ L-Shape ก็ยังเหลือพื้นที่เหลือเฟือ และมีประตูกระจก High Ceiling เชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน           ในส่วนของระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย       อีกด้านของของห้องนั่งเล่น เป็นระเบียงข้างบ้าน       ในส่วนของระเบียงของระเบียงข้างบ้าน จะมีเฉพาะบ้าน Type A ที่มีเฉพาะแปลนมุม และสามารถมองลงมาที่โรงจอดรถได้ครับ     ทางเดินตรงข้ามเพื่อเชื่อมไปยังห้องนอนแรก ซึ่งเป็น Master Bedroom      ภายใน Master Bedroom มีพื้นที่กว้างสามารถแบ่ง Double Function ตามที่โครงการ Built in ส่วนที่วางเตียงนอน กับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี     ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นในห้อง Master Bedroom  ทางโครงการทำเพดานสูง Double Space ให้ความรู้สึกโล่งสบาย ไม่อึดอัดเหมือนบ้านทาวน์โฮมทั่วไปครับ     ในส่วนของเตียงนอนมีพื้นที่มากพอที่สามารถวางเตียงขนาด King Size ก็ยังเหลือพื้นที่ครับ     พื้นที่ด้านนี้ยังลึกเข้าไปสามารถจัดเป็นส่วนของ Walk In Closet ด้านหน้าห้องน้ำ     ในส่วนของ Walk In Closet ทางด้านขวามือเป็นห้องน้ำที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนขอบ Aluminium Powder Coat     ห้องน้ำถูกปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ให้ความรู้สึกความหรูหราบวกกับ Bath Tub     อีกฝั่งหนึ่งเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำเป็น Rain Shower มีพื้นที่ต่างระดับแบ่งส่วนเปียกและแห้ง   เดินขึ้นต่อไปโดยมีทางแยกด้านซ้าย ก่อนที่จะไปยังชั้นสาม ซึ่งด้านซ้ายมือจะเป็นห้องนอนแรก           แต่ก่อนที่จะขึ้นไปชั้น 3 แวะมาดูทางซ้ายมือในส่วนของห้องนอนแรก เมื่อเข้ามาด้านซ้ายสามารถ Built in เป็นตู้เส้อผ้าขนาดใหญ่   ในส่วนของห้องน้ำมีกระจกบานใหญ่ และพื้นห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกคือพื้นที่อาบน้ำด้านในสุด ตรงกับหน้าต่างระบายอากาศ เพื่อให้อากาศถ่ายเทไม่อับชื้น     ในส่วนของเตียงนอนสามารถวางเป็นเตียงขนาด King Size หรือเล็กกว่านั้นตามความชอบของผู้อยู่อาศัย ก็ยังเหลือพื้นที่     ที่ปลายเตียงทางโครงการได้ Built in ทำกำแพงยื่นออกมาแบ่งเป็น Double Function ด้านซ้ายมือเป็นโต๊ะทำงานหรืออ่านหนังสือ อีกด้านเป็นโซฟานั่งเล่น ด้านบนเป็นกระจก     ขึ้นมาต่อแต่ก่อนที่จะขึ้นไปชั้น 3 แวะออกมาชมในส่วนของ Out Door     ในส่วนของ Out Door สำหรับรับอากาศภายนอก สามารถเป็นพื้นที่เปลี่ยนบรรยากาศพาแขกหรือคนในครอบครัวนั่งคุยนั่งเล่น ทำกิจกรรมร่วมกันครับ     และยังสามารถมองลงไปเห็นระเบียงด้านข้างบ้านผ่านคอร์ดกลางบ้าน     ต่อจากส่วน Out Door ขึ้นบันไดไปชั้นที่ 3 บนสุดของบ้าน     ก่อนที่จะเข้าไปยังในห้อง มีพื้นที่ว่างสามารถทำเป็นที่บูชาพระพุทธรูปภายในบ้านได้ เพราะอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน     ห้องสุดท้ายจะแยกออกเป็นสองฝั่ง สามารถแบ่งเป็นห้องนอนได้อีกเป็นสองห้อง หรือจะทำเป็นห้องนอนเดียวทั้งชั้นก็แล้วแต่ความชอบของผู้อยู่อาศัยครับ     มาเริ่มจากฝั่งซ้ายมือกันก่อนครับ     ทางโครงการ Built in ห้องนี้ให้เป็นเหมือนห้องอเนกประสงค์ หรือห้องทำงาน     มีประตูกระะจกบานเลื่อนออกไปยังระเบียงด้านหลังบ้าน     ระเบียงด้านหลังมีราวกันตกที่ราวเหล็กแข็งแรง ทนทาน     มองลงไปจะเห็นพื้นที่หลังบ้าน และทางโครงการนี้จะเดินท่อเครื่องปรับอากาศมาทางด้านหลังทั้งหมด เพื่อความสวยงามของระเบียงด้านหน้าบ้าน     กลับเข้ามาภายในห้องอีกด้านยังมีพื้นที่มาก กว้างขวางสามารถทำเป็น Walk In Closet      ด้านหลังมีห้องน้ำให้ในตัวครับ     ห้องน้ำแบ่งออกเป็นสองฝั่ง โดยมีกระจกบานใหญ่และอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์โดยฝั่งซ้ายเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำ     และด้านขวาเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์     มาต่อกับอีกด้านหนึ่งของห้องทางด้านขวา ทางโครงการ Built in เป็นห้องนอนที่ 2 ของบ้าน มีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน     มีห้องน้ำให้ภายในตัวปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน นอกจากดูหรูหราแล้ว ยังกว้างไม่อึดอัด     มาพร้อมกับกระจกบานใหญ่กับอ่างล้างหน้าแบบฝังเคาเตอร์       มุมสุดของห้องจากปลายเตียงมีห้องลับซ่อนอยู่สามารถทำเป็นมุมโปรดตามไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย และมีกระจกบานใหญ่สามารถมองเห็นจากทางขึ้นบันไดมายังชั้นนี้       และจากห้องนอนออกมาสู่ระเบียงหน้าบ้านบนชั้นบนสุดของบ้านเพื่อรับอากาศที่ดี เพราะที่ดินโดยรอบย่านนี้ยังไม่แออัด       ทาวน์โฮมตัวอย่างแบบต่อมาจะเป็น Type B   ก่อนเข้าไปในตัวบ้านด้านซ้ายเป็นส่วนของห้องแม่บ้านซึ่งมีห้องน้ำภายในตัว   ก่อนจะเข้าประตูบ้านทางโครงการยกพื้นต่างระดับออกมาให้อารมณ์เหมือนชานบ้าน       เปิดประตูออกมาทางโครงการทำพื้นเป็น Drop Shoes ยกพื้นต่างระดับถึง 3 ขั้น เพื่อแบ่งพื้นที่ให้สามารถถอดรองเท้าไว้ภายในบ้าน       นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สามารถทำตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ ตอบโจทย์นักช้อปรองเท้า     มาถึงส่วนของ Common Area มีขนาดกว้างยาวจนไปถึงด้านหลัง สามารถปรับฟังก์ชันได้ตามความชอบของผู้อยู่อาศัย     พื้นที่ต่อจากประตูเข้าบ้านเข้ามา เป็นส่วนของโซน Living Room มีพื้นที่มากพอที่จะวาง L shape sofa ก็ยังเหลือพื้นที่วางโซฟาสองที่นั่งและโต๊ะกลาง       ตรงพื้นที่โซน Living Room ด้านบนทางโครงการทำ Double Space เพิ่มความโปร่ง โล่งสบาย     ทางโครงการ Built in ชั้นไม้กั้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับโซนรับประทานอาหาร ความจริงยังสามารถต่อเติมทำเป็นกระจกกั้นก็ยังได้     ด้านหลังระหว่างที่กั้นแบ่งโซนห้องเป็นส่วนของห้องน้ำกลาง       ด้านหลังโถสุขภัณฑ์ทางโครงการทำผนังยื่นออกมาสามารถวางของได้     ต่อจากส่วนนั่งเล่นเป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถวางเป็นโต๊ะสำหรับ 6 ถึง 10 ที่นั่งก็ยังเหลือพื้นที่มากพอ ตรงกับโต๊ะรับประทานอาหารเป็นส่วนของห้องครัว     กำแพงมุมห้องสามารถทำ Counter Built in ยื่นออกมาเพื่อวางหรือเก็บของได้มากขึ้น     ต่อจากโต๊ะรับประทานอาหาร มีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังสนามหญ้าด้านหลังบ้าน     ทั้งประตูกระจกและหน้าต่างทุกบานจะติดตั้งด้วยระบบล็อค TosTem คุณภาพสูงจากญี่ปุ่น     ถัดไปเป็นส่วนของห้องครัวเป็นแบบ L shape ซึ่งเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน และมีประตูเชื่อมออกไปยังส่วนพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน     ด้านหลังบ้านมีสวนหย่อมให้เล็กน้อยไว้ปลูกต้นไม้ตามความชอบคนรักธรรมชาติ บวกกับพื้นที่ซักล้างให้ครับ         เดินต่อเพื่อขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินแล้วไม่เกิดเสียงดังเลยครับ         เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ของบ้านจะพบกับห้องนอนแรก     ภายในห้องกว้างขวางสามารถแบ่งฟังก์ชันตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย อย่างในห้องตัวอย่างนี้มีการกั้นแบ่งเป็น Double Function ในส่วนของเตียงนอนริมหน้าต่าง และห้องทำงานแบบเปิดโล่ง     สำหรับห้องนอนแรกนี้ ทางโครงการติดตั้งกระจก สามารถมองลงไปเห็นห้องนั่งเล่นชั้นแรกได้ครับ     ในส่วนของพื้นที่วางเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตไปจนถึง King Size ก็ยังไม่อึดอัด       ผนังด้านนี้ความจริงแล้วกำแพงยื่นออกถึงแค่สวิทช์ไฟ สามารถ Built in กั้นห้องออกมาได้ครับ     ต่อจากผนังที่ทางโครงการทำยื่นออกมาเพื่อทำเป็นส่วนของ Walk In Closet      ด้านข้างก่อนจะเข้าห้องน้ำ มีกระจกบานใหญ่สามารถทำเป็นโต๊ะเสริมสวยของสาวๆ ได้ครับ     ส่วนของห้องน้ำทางโครงการเจาะผนังเป็นช่องสามารถวางของได้เพิ่มขึ้น     บนหัวของพื้นที่อาบน้ำ มีประจกบานเลื่อนเพื่อถ่ายเทอากาศไม่ให้อับชื้น     ออกมาจากห้องระหว่างทางเดินทางเชื่อมไปยังอีกห้อง ระหว่างทางเดินจะผ่านบริเวณ Double Value     ซึ่ง Double Value ทางโครงการใส่ใจรายละเอียดเน้นการสื่อสารกับคนภายในบ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเดินลงมาพูดคุยที่ชั้นแรก แต่สามารถยืนคุยกันได้และไปทำกิจกรรมต่อครับ       เดินเข้ามาสู่ห้องนอนที่ 2 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านหน้าบ้าน ภายในห้องกว้างโปร่งสบาย ไม่อึดอัด     ระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย และมีพื้นที่ยาวเข้าไปถึงด้านซ้าย       อีกด้านของระเบียงมีพื้นที่สามารถเป็นมุมโปรดไว้วางกระถางต้นไม้ได้ และยังเห็นห้องนอนผ่านกระจกเข้ามุม         ภายในห้องน้ำของห้องนอน 2 มีกระจกบานใหญ่ ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้แบรนด์ American Standard     ในส่วนพื้นที่อาบน้ำมีกระจกบานเลื่อนเพื่อถ่ายเทอากาศ ไม่ให้อับชื้น ด้านข้างฝักบัวเจาะผนังสำหรับวางของได้ครับ     ออกจากห้องนอน 2 ขึ้นบันไดไปยังชั้น 3 จะสังเกตได้ว่าทางเดินเชื่อมระหว่างห้องมีพื้นที่กว้างขวางสามารถเดินสวนกันได้สบายครับ     ก่อนขึ้นบันไดภายใต้ประตูบานนี้จะมีตู้ไฟซ่อนอยู่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ถือว่าทางโครงการใส่ใจดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีครับ         ด้านตรงข้ามกับบันไดด้านบนมีช่องแสงจากระเบียงให้แสงสว่างส่องเขามาทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า       บนชั้น 3 เป็นส่วนของ Master Bedroom ทั้งชั้นมีพื้นที่กว้างมากให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ Penthouses ในคอนโดมิเนียมครับ มีทั้งส่วนนั่งเล่น และส่วนของวางเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด King Size  ได้สบายๆ       มีกำแพงกั้นห้องแบ่ง Double Function แยกเป็นส่วนที่นอนกับ Walk In Closet     มีหน้าต่างด้านหลังห้องสามารถมองลงไปเห็นด้านหลังบ้านได้ครับ จะสังเกตได้ว่าทาวน์โฮมจากเนอวานาจะให้ความใส่ใจกับเรื่องช่องแสง ดึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาอย่างทั่วถึงภายในทาวน์โฮม     ในส่วนของ Walk In Closet ยังแบ่งออกเป็นสองฝั่งแยกเสื้อผ้าชายหญิงได้อย่างลงตัว ไม่ปะปนกัน       ห้องน้ำส่วนของ Master Bedroom ทางโครงการมีอ่างอาบน้ำให้ครับ     อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์และส่วนของพื้นที่อาบน้ำ กำแพงด้านหลังโถสุขภัณฑ์ยาวจนถึงพื้นที่อาบน้ำยื่นออกมาสามารถวางของได้เพิ่มขึ้น มีพื้นต่างระดับแบ่งพื้นที่เปียกแห้งอย่างชัดเจนครับ     ปลายอ่างอาบน้ำด้านบนมีกระจกแบบบานกระทุ้ง เพื่อระบายอากาศไม่ทำให้ห้องน้ำอับชื้น     บนหัวเตียงมีประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้านครับ     พื้นที่ระเบียงหน้าบ้านบนชั้น 3 กว้างมากเป็นพื้นที่ Out Door ทำเป็นมุมโปรดเปลี่ยนบรรยากาศได้ครับ     มีช่องแสงที่สามารถมองทะลุเห็นจากทางขึ้นบันได     พื้นที่ระเบียงติดตั้งราวกันตกด้วยกระจกนิรภัย และด้วยขนาดของระเบียงก็มากพอที่จะใช้งานได้จริงครับ       เป็นอย่างไรบ้างครับกับการกลับมาสู่ภาคต่อกับเฟสที่ 2 ทาวน์โฮม Type A และ B ดีไซน์ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ทั้งประโยชน์ใช้สอยภายในบ้าน การออกแบบบ้านที่ไม่เหมือนใครมีที่เดียวเท่านั้น ทั้งเรื่องพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเทียบเท่ากับบ้านเดี่ยว เพดานที่สูงโปร่งที่หาไม่ได้จากทาวน์โฮมที่ไหน กับช่องแสงที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ดูไม่อับทึบเหมือนกับทาวน์โฮมทั่วไป การันตีผลกับรางวัล AREA กับผู้สร้าง บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ที่ให้คำนิยาม “ทาวน์โฮมที่เป็นได้…มากกว่าบ้านเดี่ยว” พบกันได้ที่ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9       ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1787 หรือทางเว็บไซต์ NIRVANA DEFINE Srinakarin - Rama 9          
Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

ทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์โมเดิร์นโดดเด่น ทำเลดีเดินทางง่าย สิ่งเหล่านี้เราจะไม่นึกถึงเนอวานาคงไม่ได้ค่ะ รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปชมโครงการเนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม 9 ทาวน์โฮมสวยๆ ที่อยากจะให้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง บนทำเลที่น่าสนใจบนถนนตัดใหม่ล่าสุดในกรุงเทพฯ อย่างถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า ซึ่งในอนาคตหลายคนคาดการณ์กันว่าถนนเส้นนี้จะพัฒนากลายเป็นศูนย์กลางสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งหนึ่งตามแบบถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา       ทำเล ถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า เป็นถนนตัดใหม่ที่เพิ่งเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปีนี้ เพราะเหลือเพียงช่วงที่เป็นทางยกระดับข้ามถนนกาญจนาภิเษกที่ยังเร่งก่อสร้างกันอยู่ โดยถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้าเป็นถนนที่มีความยาวทั้งหมด 12 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างถนนศรีนครินทร์บริเวณแยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมาก ตรงข้ามถนนกาญจนาภิเษกแล้วไปสิ้นสุดที่ถนนเจ้าคุณทหาร ซึ่งถนนสายนี้เกิดขึ้นมาด้วยความคาดหวังในการลดความหนาแน่นของการจราจรในย่านนี้ลงได้ด้วยความกว้างของถนนถึง 8-10 เลน และยังเป็นที่คาดการณ์กันด้วยว่าในอนาคตถนนเส้นนี้จะพัฒนาเทียบเท่าถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราในปัจจุบัน   ย่านนี้ใกล้กับทางด่วนสายสำคัญหลายสายทำให้เชื่อมต่อการเดินทางไปได้ทั่วกรุงเทพฯ และยังออกต่างจังหวัดได้อย่างง่ายดาย โดยหากเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 ก็สามารถเดินทางได้ง่ายที่สุดด้วยถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกแล้วกลับรถลงมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้าก็สามารถขึ้นทางด่วนศรีรัชได้เลย ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้นก็จะถึง New CBD อย่างพระราม 9 อีกทั้งยังใช้เวลาประมาณ 20 นาทีถึงสนามบินสุวรรณภูมิ      ช่วงแยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมาก ในอนาคตกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา ผ่านตรงบริเวณสี่แยกพอดี ซึ่งสายสีเหลืองนี้มีความสำคัญต่อโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ เพราะจากต้นสายที่เป็น Interchange กับ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว ตรงยาวบนถนนลาดพร้าว ผ่านเดอะมอลล์บางกะปิ เลี้ยวขวาเข้าสี่แยกลำสาลี ซึ่งในอนาคตก็จะเป็นจุด Interchange กับสายสีส้ม สถานีลำสาลี แล้วตรงเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ผ่านอีกจุด Interchange กับแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีหัวหมาก จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกศรีเทพา ปลายสายเป็น Interchange กับ BTS สายสีเขียว สถานีสำโรงในปัจจุบัน โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ได้เริ่มการก่อสร้างได้ระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2563            นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ไม่ไกล โดยส่วนใหญ่จะอยู่แนวถนนศรีนครินทร์ และถนนรามคำแหง เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก, ราชมังคลากีฬาสถาน, โรงพยาบาลรามคำแหง, เดอะพาสิโอ้ทาวน์ รามคำแหง, ซีคอนสแควร์, ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์, พาราไดซ์พาร์ค หรือจะใช้ถนนกาญจนาภิเษกตรงสู่เมกาบางนาก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที       ภาพรวมโครงการ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 เป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีแบบให้เลือกทั้งหมด 4 Type พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 190-350 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.5 เมตร เท่ากันทุกยูนิต มี Facility จัดโซนไว้ให้ทั้งสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก โซนบาร์บีคิว คลับเฮ้าส์สำหรับพักผ่อน ครบครันด้วยสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศความร่มรื่นจากสวนสีเขียวกลางโครงการ โดยทั้งโครงการจะแบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน แต่ความร้อนแรงของโครงการนี้ ทำให้ Sold Out ตั้งแต่วันเปิด Exclusive Sales ในส่วนของเฟสแรก สิ่งนี้เป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพของเนอวานาที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี   ดีไซน์สไตล์โมเดิร์นอันเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างด้วยฟังก์ชั่น Double volume space เชื่อมพื้นที่ให้ความโปร่งสบาย จัดโซน Common Area อย่างเป็นสัดส่วน ห้องนอนกว้างขวางมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง เพิ่มช่องเปิดรับแสงแดดและลมธรรมชาติให้มากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ภายนอกดีไซน์สวยงาม แต่ยังตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยจริงได้ดีที่สุดตามแบบฉบับเนอวานา             Unit Plan Type A พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 31.3 – 63 ตารางวา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน Type B  พื้นที่ใช้สอย 258 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 30-34 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน Type C  พื้นที่ใช้สอย 230 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 21.1-43.7 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Type D   พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 20.8-23.7 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ   เดินชมโครงการ เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม 9 โครงการตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ทั้ง Main Gate และดีไซน์ของตัวโครงการเองแล้วทำให้สังเกตได้ง่ายมากค่ะ  ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตรค่ะ เมื่อผ่าน Main Gate มาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ โดยจะเป็นมีลานกว้างๆ สำหรับเป็นลานอเนกประสงค์ มุมสนามเด็กเล่นจะปูด้วยหญ้าเทียมค่ะ มุมสำหรับสังสรรค์จัดปาร์ตี้บาร์บีคิว แม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางแต่ก็มีต้นไม้สูงล้อมรอบให้ความเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ มีเตาปิ้งย่างพร้อมซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย ถัดมาเป็นพื้นที่คลับเฮ้าส์ทั้งหมดค่ะ มีสระว่ายน้ำระบบเกลืออยู่ตรงกลาง ชั้นล่างจะมีห้องที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนอยู่ค่ะ มีมุมสำหรับล้างตัวและห้องน้ำส่วนกลาง ด้านในห้องกระจกชั้นล่าง ปัจจุบันนี้คือ Sale Gallery ค่ะ แต่ในอนาคตจะทำเป็นคลับเฮ้าส์สำหรับนั่งพักผ่อน ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันบ้างค่ะ ชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ค่ะ เป็นห้องที่ล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งมาถึงตรงนี้เราเดินชมส่วนกลางของโครงการกันแล้วก็ถึงเวลาไปชมบ้านตัวอย่างกันค่ะ   เปิดทาวน์โฮมตัวอย่าง หน้าตาของทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นแบบเนอวานาค่ะ ซึ่งทางโครงการมีตัวอย่างให้ดู 2 หลัง Type C กับ Type D และจะสังเกตได้ว่าหลังคาแต่ละหลังจะไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นจะไม่สามารถเดินใต้ฝ้าได้ค่ะ ทาวน์โฮมตัวอย่างหลังแรก Type D เริ่มตั้งแต่รั้วกันก่อนเลยค่ะ เป็นเหล็กโปร่งสีดำแบบพับฝั่งละ 3 ตอน สูง 1.5 เมตร หน้าทาวน์โฮมแต่ละหลังจะติดตั้ง Mail Box หน้าตาแบบนี้เอาไว้ให้ค่ะ และด้านล่างมีช่องประตูเล็กๆ ซึ่งเป็นช่องสำหรับเก็บขยะจากด้านนอกได้เลย ทุกหลังจะได้หน้ากว้าง 6.5 เมตรเท่ากัน สามารถจอดรถได้ 2-3 คัน หลังรั้วหน้าบ้านจะเห็นว่ามีถังขยะพร้อมฝาปิดด้านบนให้เรียบร้อย เชื่อมต่อกับประตูสำหรับเก็บขยะด้านหน้า พร้อมก๊อกน้ำและปลั๊กไฟสำหรับเป็นพื้นที่ซักล้าง ถัดเข้ามาเราจะพบประตูบานสวิงสีขาวอยู่บริเวณพื้นที่จอดรถค่ะ ส่วนเพดานบริเวณจอดรถมีการติดตั้งไฟแบบ Downlight เอาไว้ให้ด้วย หน้าบ้านมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ซึ่งกระจกทุกบานของโครงการนี้จะใช้กระจก LOW - E ที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยให้บ้านของเราไม่ร้อนจนเกินไป โดยเวลาเปิดเครื่องปรับอากาศจะช่วยให้เย็นเร็วกว่าปกติ ประหยัดพลังงานได้อีกทางค่ะ ประตูหน้าบ้านใช้เป็นประตูไม้สักสวิงค่ะ ดีกว่าทาวน์โฮมทั่วไปที่ใช้ประตูกระจกบานเลื่อนธรรมดา เพราะจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า มีความทนทาน และดูแน่นหนาได้ความปลอดภัยมากกว่าค่ะ เปิดประตูเข้าไปดูในบ้านกันค่ะ พื้นที่แรกจะเป็นพื้นที่สำหรับห้องรับแขก ลึกเข้าไปเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร และห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนทางขวามือค่ะ พื้นชั้นแรกนี้จะปูด้วยแกรนิตโต้ ใช้ไฟแบบ Downlight โดยโครงการนี้เราจะได้บ้านเปล่านะคะ ซึ่งทางโครงการจะมีการติด wallpaper มีเครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง Master Bedroom  ติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบอินฟาเรด ที่สำคัญติดตั้ง Wifi ให้สำหรับทุกหลังได้ใช้กันฟรีๆ เลยค่ะ ลึกเข้าไปจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่ง แล้วแต่เราจะจัดการพื้นที่ได้เลยค่ะ เพราะด้วยพื้นที่ใช้สอยแล้วถือว่าได้มาเยอะกว่าทาวน์โฮมทั่วไป หลังบ้านกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมสีดำค่ะ ทั้งประตูกระจกและหน้าต่างทุกบานจะติดตั้งระบบล็อค TosTem คุณภาพสูงจากญี่ปุ่น   ตรงลานซักล้างมีกระจกบานเลื่อนตรงส่วนครัวสำหรับระบายอากาศด้วยค่ะ กลับเข้ามาดูในบ้านกันต่อค่ะ ถัดจากพื้นที่วางเคาน์เตอร์ทีวีแล้วก็จะเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนค่ะ ภายในห้องครัวจะมีพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ครัว L Shape ได้ค่ะ มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศและความชื้นไปทางหลังบ้าน โดยทั่วไปแล้วทาวน์โฮมจะได้มาเป็นครัวเปิดที่มีพื้นที่เดียวกันกับห้องนั่งเล่น ซึ่งหากบ้านไหนชอบทำครัวก็คงไม่เหมาะใช่ไหมคะ แต่สำหรับเนอวานา ดีฟายน์ ให้ห้องครัวปิดที่มีพื้นที่กว้างพอสมควรมาด้วยเลยค่ะ ภายในห้องครัวมีห้องน้ำมาให้ด้วยนะคะ ห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนลายเดียวกันทั้งหมดค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างแบบนี้จะไม่มีส่วนเปียกค่ะ เพราะเน้นสำหรับรับแขกเท่านั้น ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้แบรนด์ American Standard อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมีตู้สำหรับเก็บของไว้ด้านล่างด้วยค่ะ ได้กระจกเงาบานใหญ่แบบนี้มาด้วยค่ะ สำรวจชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นไปชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ โครงสร้างของบันไดใช้แบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เวลาเดินไม่เกิดเสียงดังแบบโครงสร้างที่ใช้เหล็กเพียงอย่างเดียวค่ะ โดยขั้นบันไดใช้ไม้เอ็นจิเนียร์ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องนอนเพียงห้องเดียวค่ะ สัญญาณกันขโมยระบบอินฟาเรด โครงการติดตั้งแบบนี้มาให้เหมือนกันทุกหลังค่ะ สไตล์ของเนอวานาอย่างหนึ่ง คือการเอา Master bedroom มาไว้ที่ชั้น 2 ของทาวน์โฮมค่ะ เพื่อผู้ใหญ่ของบ้านจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดมาก แต่จะเปลี่ยนให้ห้องนอนของเด็กๆ ขึ้นไปไว้ชั้นบนสุดแทน Master bedroom มีพื้นที่กว้างขวางมากพอให้วางเตียง king size ได้ และยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียง สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีก ปลายเตียงเป็นผนังว่าง สำหรับ Built in เคาน์เตอร์วางทีวี ด้านข้างของเตียงเป็นระเบียงทางฝั่งหน้าบ้าน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ระเบียงของห้อง Master bedroom ทางฝั่งหน้าบ้าน มีพื้นที่มากพอสำหรับวางโต๊ะ-เก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนรับลมด้านนอก ราวกันตกใช้กระจกนิรภัยใสรอบด้าน วิวจากระเบียงห้อง มองเห็นภาพรวมของส่วนกลางค่ะ กลับเข้ามาในห้อง ไปดูอีกฝั่งของห้องกันต่อค่ะ พื้นที่ข้างเตียงยังสามารถวางโต๊ะทำงาน หรือโซฟาเพิ่มเติมก็ได้นะคะ ส่วนห้องน้ำในตัวทางขวามือจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ภายในห้องน้ำปูพื้นเเละผนังทั้งหมดด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน และสุขภัณฑ์จาก American Standard อ่างล้างหน้าแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ช่วยป้องกันน้ำกระเด็กออกมาได้ส่วนหนึ่ง มาพร้อมกับพื้นที่บนเคาน์เตอร์สำหรับวางของได้อีกมาก มีอ่างอาบน้ำถัดจากอ่างล้างหน้า อีกฝั่งของห้องน้ำเป็นโถสุขภัณฑ์ และส่วนเปียก มีทั้งฝักบัว และ Rain shower ติดตั้งมาให้ ขวามือด้านบนมีหน้าต่าง สำหรับเพิ่มแสงสว่างจากภายนอก และยังช่วยระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำ ออกจากห้องน้ำจะมีพื้นที่ห้องเล็กอีก 1 ห้องซ่อนอยู่ค่ะ พื้นที่ของส่วนนี้ ทางโครงการจัดมาให้เป็น Walk In Closet เราสามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าได้ตลอดแนวผนัง หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้นะคะ ไปดูกันที่ชั้น 3 กันต่อค่ะ บริเวณโถงบันได มีกระจกทรงสูงเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับทางเดิน และมีตู้ไฟซ่อนมาให้ในผนังเรียบร้อยค่ะ ขึ้นมาที่ชั้น 3 ตรงโถงบันไดก็จะมีกระจกทรงสูงติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกันค่ะ ที่ชั้น 3 จะมีห้องนอนทั้งหมด 2 ห้อง เราเข้าไปดูกันที่ห้องตรงกลางกันก่อนค่ะ ห้องนอนที่ 2 ของบ้านอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ทางขวามือจะเป็นห้องน้ำในตัว ตามที่โครงการตกแต่งมาให้นั้นเป็นเตียง 5 ฟุต แต่ด้วยขนาดพื้นที่จริงเราสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้เลยค่ะ ด้านข้างเตียงมีระเบียงขนาดใหญ่ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ตรงระเบียงมีราวกันตกที่ทำจากเหล็กโปร่งสีดำ ระเบียงของห้องนี้จะเป็นวิวทางด้านหน้าของตัวบ้านค่ะ อีกด้านของห้องเป็นห้องน้ำในตัว พื้นที่เเรกของห้องน้ำเป็นส่วนแห้ง ในบริเวณพื้นที่ส่วนแห้งจะมีอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง ถัดจากโถสุขภัณฑ์เป็นส่วนเปียก ด้านข้างฝักบัวมีการเจาะผนังลึกเข้าไปสำหรับวางของ ห้องนอนสุดท้าย ของทาวน์โฮม  Type D ค่ะ ห้องนอนนี้มีขนาดเท่าๆกัน กับห้องนอนที่ 2 ค่ะ ตามห้องตัวอย่างจะวางเตียง 5 ฟุตชิดผนัง แต่ด้วยพื้นที่จริงสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้ โดยยังมีพื้นที่ข้างหน้าต่างเหลืออยู่ค่ะ หรือจะเลือกวางเตียงเอาไว้ตรงกลางห้องแล้วมีพื้นที่ทางเดินเหลือรอบเตียงก็ได้ ปลายเตียงมีห้องน้ำในตัว ภายในห้องน้ำจะพบกับส่วนแห้งอยู่ทางด้านขวาก่อน อ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง กระจกบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ ทางโครงการจะให้มาทั้งหมดนี้เลยค่ะ เหนือโถสุขภัณฑ์เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งทรงสูงค่ะ หน้าต่างบานกระทุ้งก็ใช้ระบบล็อคจาก TosTem เช่นเดียวกันค่ะ ฝั่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์เป็นส่วนเปียกลึกเข้าไปค่ะ มาถึงทาวน์โฮมตัวอย่างหลังที่ 2 Type C ซึ่งเป็นหลังสุดท้ายของโครงการนี้กันค่ะ ด้วยความที่หลังตัวอย่างนี้เป็นแปลงมุมก็จะมีพื้นที่สวนข้างบ้านยาวไปจนถึงหลังบ้านเพิ่มขึ้นมาแบบนี้ค่ะ ลานซักล้างหน้าบ้าน ข้างพื้นที่จอดรถค่ะ หน้าบ้านทุกหลังจะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่แบบนี้ และประตูไม้สัก ก่อนเข้าบ้านก็จะมีห้องเก็บของไว้ให้เหมือนกันทุกหลังค่ะ เปิดประตูเข้าไปดูในบ้านกันเลยค่ะ ชั้น 1 ของ Type C นี้ จะถูกจัดให้เป็นพื้นที่โต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งเอาไว้กลางบ้าน โดยจะปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ ใช้ไฟแบบ Downlight ด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวางมากคล้ายกับบ้านเดี่ยว ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวได้ ทาวน์โฮมแปลงมุมจะได้หน้าต่างข้างบ้านเพิ่มขึ้น ทำให้ดูสว่างมากขึ้นค่ะ กั้นส่วนครัวปิดเอาไว้อีกฝั่ง มองขึ้นไปจะเห็นว่า Type C มีชั้นลอยที่สามารถมองทะลุเห็นกันได้ ทำให้เพดานดูสูงโปร่งขึ้นเยอะเลยค่ะ ห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องครัวทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ เป็นห้องครัวที่เหมาะสำหรับการอยู่กับครอบครัวจริงๆ ค่ะ เพราะเป็นครัวปิดแยกเป็นสัดส่วนแบบที่หาได้ยากในโครงการทาวน์โฮม จุดที่เป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน แนะนำให้วางซิงค์ล้างจานตามแบบโครงการค่ะ เพราะจะช่วยเรื่องระบายความอับชื้นได้ดี หันกลับมาดูที่ห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างจะมีแค่ส่วนแห้งค่ะ แต่จะมีโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ และอ่างล้างหน้ามาให้ครบ มีประตูกระจกออกไปทางหลังบ้านค่ะ และยังมีส่วนที่เป็นหน้าต่างกระจกด้านบนเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับส่วนชั้นลอยก็ยิ่งทำให้บ้านดูโปร่งสบายเข้าไปอีก   มุมสวนหลังบ้านที่ยาวเชื่อมต่อมาจากหน้าบ้านค่ะ ดูชั้นแรกกันเสร็จแล้วก็ขึ้นไปดูชั้นต่อไปกันเลยค่ะ โดยบันไดจะอยู่ทางซ้ายมือของประตูบ้าน โถงบันไดมีหน้าต่างกระจกทรงสูงทำให้ไม่ดูทึบจนเกินไป ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่จะถูกจัดให้เป็นเพียงชั้นลอยนะคะ ซึ่งพื้นชั้นบนจะถูกปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. พื้นที่ชั้นลอยกว้างขวางมากพอที่จะจัดให้เป็นห้องรับแขกตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ได้เลยค่ะ หากเราตกแต่งพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องนั่งเล่นก็จะสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้พร้อมโต๊ะกลาง ยังมีพื้นที่เหลือระหว่างเคาน์เตอร์วางทีวีได้สบายๆ แม้จะเป็นชั้นลอย แต่ก็มีระเบียงหน้าบ้านเอาไว้เปิดรับลมธรรมชาติได้แทนการเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ซึ่งจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ระเบียงติดตั้งราวกันตกด้วยกระจกนิรภัย และด้วยขนาดของระเบียงก็มากพอที่จะใช้งานได้จริง กลับเข้ามาดูอีกส่วนหนึ่งของชั้นลอยนี้ค่ะ โดยลึกเข้าไปด้านในสุดก็จะมีที่พักบันได ซึ่งมีพื้นที่พอสมควรเหมือนเป็นห้องเล็กๆ อีกห้องหนึ่งให้ได้ใช้เป็นประโยชน์ ตามบ้านตัวอย่างนี้จะถูกตกแต่งให้เป็นห้องทำงานเล็กๆ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเห็นวิวทางฝั่งหลังบ้าน ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ส่วนนี้ใช้งานได้จริง ที่ชั้นลอยนี้สามารถมองลงไปด้านล่างได้ ทำให้โซน Common Area ทั้งหมดนี้มีเพดานที่สูงโปร่ง ในสไลต์ Double volume space ที่ทางเนอวานาออกแบบมาเพื่อเอื้อต่อการอยู่อาศัยระยะยาว และสามารถรองรับสมาชิกใหม่ในอนาคตได้ จากชั้นโซน Double volume space ขึ้นไปดูอีกชั้นหนึ่งของบ้าน ซึ่งจะเป็นส่วน Private ชั้น 2 มีห้องนอนที่เป็น Master Bedroom อยู่ชั้นนี้เพียงห้องเดียวค่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็น Master Bedroom ก็จะมีพื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษกว่าห้องอื่น สามารถวางเตียงขนาด 6 ตามห้องตัวอย่างนี้ได้ ไปจนถึงวางเตียง king size ได้ แถมยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่นได้อีก ข้างเตียงมีประตูกระจกกั้นระหว่างห้องนอนกับระเบียงส่วนตัวค่ะ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ วิวจากระเบียงฝั่งด้านหน้าโครงการทางทิศเหนือค่ะ พื้นที่แถวนี้ยังมีสิ่งปลูกสร้างขึ้นน้อยทำให้มีลมพัดผ่านได้ดีทีเดียวค่ะ กลับเข้ามาในห้องกันต่อค่ะ ยังมีพื้นที่ภายในห้องอีกฝั่งให้ชมกันอีก ถัดจากเตียงตรงนี้ยังมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน หรือจะวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งก็ยังได้นะคะ ห้องน้ำในตัวจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขอบอลูมิเนียมสีดำเข้าชุดแบบเดียวกันทั้งหลังค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเหมือนกันทุกห้องน้ำเลยค่ะ ห้องน้ำนี้จะถูกแบ่งส่วนแห้งอยู่ก่อนส่วนเปียกด้านในสุด เริ่มจากทางขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ และส่วนเปียกที่ติดตั้งมาทั้งฝักบัวและ Rain Shower มีการเจาะช่องผนังลึกเข้าไปเพื่อเป็นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ ซ้ายมือเป็นอ่างล้างหน้าแบบฝังใต้เคาน์เตอร์พร้อมกระจกเงา และอ่างอาบน้ำค่ะ ออกมาจากห้องน้ำไปดูพื้นที่ส่วนสุดท้ายของ Master Bedroom อยู่ถัดจากประตูห้องค่ะ ห้องนี้ถูกจัดให้เป็น Walk In Closet สำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะก็สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ทั้งห้องนี้เลยค่ะ หรือจะจัดเป็นห้องทำงานก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีหน้าต่างกระจกบานสไลด์ติดตั้งอยู่ทำให้ส่วนนี้ดูไม่มืดทึบจนเกินไป มองจากมุมนี้จะเห็นว่าเป็นห้องที่แม้จะเชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกันกับ Master Bedroom แต่มีการแบ่งโซนออกมาเป็นสัดส่วน ขึ้นไปดูที่ชั้นบนสุดของทาวน์โฮม Type C นี้กันค่ะ ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดจะมีมุมที่เป็นโถงบันไดอยู่ สามารถเพิ่ม Built in ตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ เพิ่มเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกค่ะ หันมาทางขวามือจะพบกับห้องนอนอีก 2 ห้อง เราเดินเข้าไปดูห้องตรงกลางกันก่อนค่ะ ห้องนอนที่ 2 นี้จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ ตามห้องตัวอย่างที่วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต พร้อมวางโต๊ะทำงานเอาไว้ด้วย แต่พื้นที่จริงตรงนี้สามารถวางเตียงได้ถึง 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ทางเดินได้รอบเตียงเลยค่ะ ปลายเตียงเราสามารถ Built in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ เคาน์เตอร์วางทีวี หรือหากจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตในห้องนี้ เราก็สามารถย้ายโต๊ะทำงานมาไว้พื้นที่ปลายเตียงนี้ก็ได้นะคะ มีห้องน้ำในตัวถัดจากพื้นที่ปลายเตียงค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค วางพื้นที่ส่วนแห้งก่อนพื้นที่ส่วนเปียกด้านใน เริ่มจากอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ และพื้นที่อาบน้ำค่ะ ส่วนเปียกมีการเจาะช่องผนังให้เป็นที่วางของได้ด้วยค่ะ ข้างเตียงมีระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน โดยประตูกระจกลักษณะนี้จะใช้สเปคเดียวกันทั้งโครงการเลยค่ะ คือเป็นกระจกแบบ LOW - E มีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนได้ดีกว่ากระจกเขียวตัดแสงทั่วไปค่ะ ระแนงไม้ตรงระเบียงที่เห็นนี้ไม่เพียงแต่จะให้ความสวยงามเท่านั้นนะคะ แต่ยังช่วยเรื่องการใช้งานจริงจากระเบียงได้ ทั้งการบังแดด เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการออกมาใช้งานที่ระเบียงชมวิวได้กว้างขึ้น วิวจากระเบียงห้องฝั่งหน้าโครงการค่ะ จะเห็นได้ชัดขึ้นว่ารอบๆ โครงการยังเป็นพื้นที่โล่งอยู่ ออกจากห้องนอนที่ 2 เข้าไปดูกันที่ห้องสุดท้ายทางซ้ายมือฝั่งหลังบ้านกันค่ะ ห้องนอนที่ 3 ค่ะ เป็นห้องสุดท้ายแล้วที่เราจะพามาชมในรีวิวฉบับนี้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัวค่ะ ส่วนห้องนอนที่นอกเหนือจาก Master Bedroom ก็มีพื้นที่กว้างขวางเท่าๆ กัน สามารถวางเตียงใหญ่ได้พร้อมกับโต๊ะทำงานของตัวเอง ไม่เล็กจนดูอึดอัดค่ะ ห้องนอนที่ 3 ของ Type C นี้ จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้านค่ะ พื้นที่ปลายเตียงเหมาะสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ตลอดแนวผนัง เพราะมีหน้าต่างอยู่ด้านข้างถึง 2 ด้านให้แสงสว่างเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยยังเหลือพื้นที่ทางเดินอยู่ทั้งสองฝั่ง แต่ถ้าชอบเตียงใหญ่ๆ ขนาด 6 ฟุต ก็สามารถวางชิดกำแพงได้เลยค่ะ ส่วนห้องน้ำในตัวของห้องนี้จะถัดจากพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งเอาไว้ด้านในสุดค่ะ ส่วนเปียกจะอยู่ทางซ้ายมือเลย และแม้จะเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอนปกติก็ยังได้พื้นที่ขนาดกำลังพอดี เหนือพื้นที่ส่วนเปียกจะถูกออกแบบมาให้มีหน้าต่างสำหรับเพิ่มแสงสว่างและระบายความอับชื้นอยู่เสมอค่ะ   มาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อเหลือเกินค่ะว่าคงไม่มีใครสงสัยว่าทำไมเฟสแรกของโครงการนี้ถึงได้ Sold Out ไปตั้งแต่วันแรกที่ Exclusive Sales ทั้งทำเล พื้นที่ใช้สอย สเปคที่ได้ ไปจนถึงการดีไซน์ดีเทลต่างๆ เพื่อผู้อยู่อาศัยจริงได้ความสะดวกสบายที่สุดสมกับคำว่า “ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว”   เตรียมพบกับงาน Pre-SALE วันเดียว 23 มิ.ย. 2561นี้ พร้อมรับสิทธิ์พิเศษเฉพาะในงานเท่านั้น!!  
บ้าน Nirvana BEYOND Rama 2 ความสุขที่เป็นมากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

บ้าน Nirvana BEYOND Rama 2 ความสุขที่เป็นมากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

เพราะบ้านคือสถานที่แห่งความสุขและจะอยู่คู่กับเราไปอีกหลายสิบปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนรุ่นใหม่จะเลือกบ้านที่สมบูรณ์พร้อม ทั้งเรื่องของทำเลที่ต้องเดินทางรวดเร็วเชื่อมต่อชีวิตเมืองเป็นเรื่องง่าย ความสวยงามของดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานในบ้าน ความเงียบสงบที่ชวนให้ทุกวันเป็นวันพักผ่อน หรือแม้กระทั่งสังคมเพื่อนบ้านที่เราสามารถออกแบบเองได้รวมไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายโดยรอบต้องครบครัน ซึ่งการจะหาบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการและตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะวันนี้เรามีบ้านเดี่ยว “Nirvana BEYOND Rama 2 (เนอวานา บียอนด์ พระราม 2)” โครงการระดับลักซ์ชัวรี่ของ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ที่มีสภาพแวดล้อมสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดในโซนพระราม 2 มาแนะนำในวันนี้ สำหรับโครงการ “เนอวานา บียอนด์ พระราม 2” ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 2 ฝั่งขาออกเมืองที่มุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร ระหว่างทางแยกไปถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล หรือทางผ่านจากกรุงเทพไปชะอำ-หัวหิน โดยทำเลฝั่งพระราม 2 ถือว่าเป็นทำเลฝั่งธนทางตอนใต้ที่เหล่าดีเวลลอปเปอร์สนใจลงทุนพัฒนาเป็นอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมต่างๆ จุดเด่นคือมีถนนให้สามารถเลือกใช้และเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง อาทิ ถนนบางขุนเทียน, วงแหวนรอบนอก, ถนนพุทธบูชา, ถนนประชาอุทิศ, ถนนสุขสวัสดิ์ที่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งผ่าน แถมยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานครด่านพระราม 2 ที่สามารถใช้วิ่งเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตรงไปถนนสาทร และถนนพระราม 3 ได้สะดวก ทำให้การเดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ ในส่วนของการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็จัดว่าสะดวกสบายไม่แพ้กันเลยนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างถนนพระราม 2 ที่มีหลายเลนส์ ทำให้มีรถโดยสารประจำทาง รถตู้ และรถสองแถววิ่งผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก แม้ตัวโครงการจะตั้งอยู่ฝั่งขาออกเมืองแต่บริเวณหน้าโครงการยังมีป้ายรถเมล์ และสะพานลอยให้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเข้าเมืองได้สะดวก ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีเส้นทางคมนาคมอย่างเส้นทางรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดินนะคะ แต่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน – ราษฎร์บูรณะ วิ่งผ่านบนถนนสุขสวัสดิ์นี้แน่นอนค่ะ โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการคือสถานีดาวคะนอง เรียกได้ว่าถ้าก่อสร้างเสร็จเมื่อไหร่ การเดินทางก็ยิ่งเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้นเท่านั้น ในเรื่องของอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้าการเดินทางเลยนะคะ เพราะพิกัดใกล้ๆ โครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus (ห่างจากโครงการประมาณ 900 เมตร) หรือ Big C ฝั่งตรงข้ามที่สามารถเดินได้ประมาณ 700 เมตรเท่านั้น แถมยังมี HomePro, Central พระราม 2 ที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 และห่างจากที่ตั้งโครงการในรัศมี 2 กิโลเมตร นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลชั้นนำมากมาย อาทิ โรงพยาบาลพระราม2, โรงพยาบาลบางมด, โรงพยาบาลบางปะกอก 9 International, โรงพยาบาลบางปะกอก 1 และโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ขยับไปอีกหน่อยก็มีสถานศึกษาชั้นนำอย่างโรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรี รวมไปจนถึงสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ ก็ล้วนแต่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง   ภาพรวมโครงการ โครงการ “เนอวานา บียอนด์ พระราม 2” เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่คุณจะมีเพื่อนบ้านร่วมแบ่งปันความสุขเพียง 120 หลังเท่านั้น จึงได้เปรียบเรื่องความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง บนเนื้อที่โครงการประมาณ 42 ไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร ปัจจุบันเป็นโครงการที่แล้วเสร็จประมาณหนึ่ง และยังมียูนิตที่กำลังก่อสร้างเป็น Backlog อีกนิดหน่อยค่ะ การจัดสัดส่วนของโครงการบริเวณซุ้มทางเข้าจะมีป้อมยามตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก โดยอุ่นใจไปด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกล้องวงจรปิด CCTV และประตู Double Gate Security เป็นแบบ Remote access ระยะไกลแบบ Easy pass ที่จะเลื่อนประตูหน้าโครงการให้รถสามารถเข้าไปได้ ซุ้มทางเข้าโครงการจะเป็นซุ้มสไตล์โมเดิร์น ที่ดูโดดเด่นด้วยหลังคาขนาดใหญ่ปกคลุมทั้งทางเข้า-ออกเลยนะคะ ขวามือเป็นป้ายชื่อ Nirvana และซ้ายมือคือป้ายชื่อโครงการ Beyond นั่นเองค่ะ โดยป้อมรปภ.จะอยู่ทางขวาใกล้กับประตูเล็กๆ ค่ะ ผ่านซุ้มรปภ. และประตูเลื่อนหน้าโครงการเข้ามาจะเป็นถนนหลักของโครงการที่กว้างประมาณ 13 เมตร เมื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและเพียบพร้อมไปด้วยความสุขของทุกคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ทางโครงการยังจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางให้ตอบทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ลูกบ้านทุกหลังจึงสามารถมาทำกิจกรรมที่หลากหลายในบริเวณ Club House 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่บริเวณขวามือติดซุ้มทางเข้าออกโครงการ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน, ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายครบครัน รวมไปถึงสวนสาธารณะขนาดกว้างที่มีพื้นที่ให้เดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย และกิจกรรมอื่นๆ ของเด็กเล็ก ติดซุ้มโครงการฝั่งขวามือเป็น Clubhouse ภายในรองรับที่จอดรถได้ประมาณ 6 คัน ซึ่งแบ่งห้องออกเป็นห้องฟิตเนส ห้องรับรอง ห้องน้ำ และส่วนที่นั่งพักผ่อนชมสวน ส่วนชั้น 2 จะมีสระว่ายน้ำและ Sunken seat รวมถึงพื้นที่ล้างตัวและห้องน้ำค่ะ ภายในห้องฟิตเนสโอบล้อมด้วยกระจกใส ให้ลูกบ้านสามารถออกกำลังกายไปด้วยชมวิวไปด้วยได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากสามารถมองวิวสวนได้อย่างจุใจแล้ว ภายในห้องฟิตเนสเต็มไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายอย่างครบครันเลยนะคะ ด้านหน้าระหว่างห้องรับรองและห้องฟิตเนสทางโครงการได้จัดเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้นั่งพักผ่อนด้วยค่ะ วิวสวนบริเวณ Clubhouse ค่ะ จากสวนมองกลับไปที่ Clubhouse ของโครงการค่ะ เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมาชั้น 2 ฝั่งขวามือจะเป็นสระว่ายน้ำที่มีทั้งส่วนกลางแจ้งและในร่ม พร้อมที่นั่งพักผ่อนในร่มข้างสระ ติดกับทางขึ้นลงคลับเฮ้าส์ จะมีชุดที่นั่งแบบ Sunken Seat วิวสวนอยู่ สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือแบบน้ำล้นนะคะ แบ่งออกเป็นสะเด็กและผู้ใหญ่ ข้างสระอีกฝั่งด้านซ้ายจะมีห้องน้ำและจุดล้างตัวนะคะ บริเวณข้างสระด้านขวาจะมีที่นั่งในร่มด้วยค่ะ ที่นั่งในร่มข้างสระใช้กันแดดกันฝนได้ มีทั้งโซฟาแบบ Day bed และแบบม้านั่งยาวๆ จากที่นั่งในร่มข้างสระมองไปที่สระ จะเห็นว่ามีทั้งส่วนในร่มและกลางแจ้งแบบนี้เลยนะคะ ข้อดีคือทำให้สามารถใช้สระว่ายน้ำได้ทุกเวลา หากอากาศร้อนก็หลบเข้ามาใช้งานในส่วนร่มได้ จากสวนหย่อมตรงเข้าไปส่วนของบ้านพักอาศัยจะมีประตูเลื่อนบานที่ 2 กั้นกลางอยู่ก่อนจะแบ่งบ้านออกเป็นฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ซึ่งน่าจะเป็นโครงการบ้านในแนวราบสร้างใหม่ที่โดดเด่นและน่าสนใจในแถบนี้เลยก็ว่าได้  โดยมีแบบบ้านให้เลือกถึง 8 แบบทั้งบ้าน 2 ชั้นและ 3 ชั้น ตามพื้นที่ใช้สอยดังต่อไปนี้.. จาก Clubhouse เดินตรงมาบนถนนหลัก กว้าง 13 เมตร จะเป็นประตูเลื่อนชั้นที่ 2 ที่กั้นส่วนอาคารที่พักอาศัยไว้อีกชั้นเพื่อความปลอดภัยอีกระดับนะคะ ระบบรักษาความปลอดภัยจะเป็นแบบ Double gate secuity โดยประตูใหญ่จะถูกเลื่อนจากสัญญาณของ Remote access เหมือน Easypass ของทางด่วนเลยค่ะ ซึ่งจะเห็นว่าภายในโครงการไม่มีเสาไฟมาให้เกะกะสายตาเลย เพราะทางโครงการฝังเสาไฟฟ้าลงดินให้เรียบร้อยแล้ว แบบบ้าน Sane บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 2 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 52 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 232 ตารางเมตร แบบบ้าน Reach บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 73 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 289 ตารางเมตร แบบบ้าน Quest บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 102 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 365 ตารางเมตร แบบบ้าน Keen บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 311 ตารางเมตร แบบบ้าน Niche บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 2 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 52.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 317 ตารางเมตร แบบบ้าน Live บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 61.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 357 ตารางเมตร แบบบ้าน Most บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 71.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 418 ตารางเมตร แบบบ้าน Pride บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน มาพร้อมลิฟท์ส่วนตัว และสระว่ายน้ำ เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 89.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 550 ตารางเมตร เปิดประตูบ้านตัวอย่าง สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในวันนี้คือแบบ Pride บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่นับว่าเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ขนาดที่ดิน 89.3 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 550 ตารางเมตร ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ มาพร้อมลิฟท์ 1 ตัว และสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วยค่ะ ถ้าผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่รายล้อมอยู่รอบๆ บริเวณบ้าน ตัวบ้านถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่ ลักษณะทรงกล่องที่ดูเรียบง่าย โดยเน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นหลัก และใช้วัสดุที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว กระเบื้องลายไม้และลายหินอ่อนเพื่อเพิ่มความหรูหราและเติมมิติให้แก่ตัวบ้านดูมีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดเด่นของแบบบ้าน Pride จะมีบันไดหน้าเฉลียงติดประตูทางเข้าบ้านชั้น 1 เพื่อใช้ขึ้นไปชั้นสระว่ายน้ำที่ชั้น 2 ได้ ข้อดีของการออกแบบบันไดไว้หน้าบ้านแบบนี้ ก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีในระดับหนึ่งเลยนะคะ เพราะเวลามีแขกมาเยี่ยมเยียน สมาชิกก็สามารถเลี่ยงโดยใช้บันไดนี้เข้าสู่ตัวบ้านชั้น 2 ได้ แปลนแบบบ้าน Pride บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน มาพร้อมลิฟท์ส่วนตัว และสระว่ายน้ำ เนื้อที่บ้านเริ่มต้น 89.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 550 ตารางเมตร บริเวณชั้น 1 นะคะ ตัวบ้านถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย ในสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ โดยใช้รูปทรงเลขาคณิตอย่างสี่เหลี่ยมเป็นองค์ประกอบ จุดเด่นคือมีบันไดที่สามารถขึ้นไปที่ระเบียงชั้น 2 ได้ โดยมีสระว่ายน้ำกรุด้วยหินอ่อนรอบสระ ตัวอาคารตกแต่งตกแต่งด้วยสีขาวตัดด้วยสีวัสดุทั้งจากลายไม้ และหินอ่อน ทำให้ตัวบ้านดูหรูหราและสง่างาม บริเวณหน้าบ้านจะมีทางเข้าด้วยกันสองทางคือจากประตูบานไม้ และทางบันไดหินอ่อนจากหน้าบ้านขึ้นไปที่ข้างสระว่ายน้ำชั้น 2 พื้นส่วนลานจอดรถแยกโครงสร้างกับตัวบ้านนะคะ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีรอยร้าวหรือรอยแยกออกมาจากตัวบ้านในระยะยาว ซึ่งสามารถจอดรถได้ 3 คัน สวนข้างลานจอดรถฝั่งขวามือของบ้านตัวอย่าง ทางโครงการได้ทำการปูหญ้า จัดสวน และวางแผ่นหินและรั้วพุ่มไม้เป็นทางเดินไปสวนข้างบ้านมาให้ดูเป็นไอเดีย เปิดประตูบ้านเข้ามาจะเป็นโถงทางเข้าตรงยาวเข้าไปเลยนะคะ ซึ่งทางโครงการได้ Built in ตู้เก็บของพร้อมที่นั่งใส่รองเท้ามาให้ดูเป็นตัวอย่าง มุมมองกลับมาจะเห็นว่ามือจับประตูบ้านนั้นเป็นแบบ Digital Door Lock ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกคนในบ้านได้ดีทีเดียวค่ะ สำหรับพื้นส่วนนี้จะถูกลดระดับลงมาจากพื้นบ้านชั้น 1 เพื่อช่วยกันฝุ่นเข้าสู่ตัวบ้านนะคะ จากทางเดินเข้ามาจะเป็นส่วนของโถงกลางที่มีเพดานสูงถึง 3 เมตรเลยนะคะ ทำให้ดูโปร่งโล่งสบาย ซึ่งทางโครงการตกแต่งส่วนนี้เป็นตัวอย่าง โดยจัดให้เป็นครัวแบบฝรั่ง ที่มีเคาน์เตอร์สำหรับนั่งรับประทานอาหารและไอส์แลนด์เตรียมอาคารไว้ตรงกลาง ก่อนจะต่อเนื่องไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร และส่วนของ Pantry ไอส์แลนด์จะมาพร้อมที่เก็บของด้านล่างด้วยนะคะ พื้นที่ตรงกลางมีขนาดกว้างพอสำหรับวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบโต๊ะกลมสำหรับ 8 ที่นั่ง ซึ่งสามารถเดินได้โดยรอบสบายๆ Pantry ถูกจัดฟังก์ชั่นแบบตัวแอล (L) ยาวขนานไปกับผนังฝั่งหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำกาแฟ เครื่องปิ้งขนมปัง เตรียมอาหาร หรือวางอุปกรณ์ต่างๆ ได้ สำหรับชุดครัวอีกฝั่งจะมีเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, อ่างล่างจาน ซึ่งสามารถประกอบอาหารได้สบายๆ ภายในครัวปิดก่อเคาน์เตอร์วางท็อปหินแกรนิตสีดำ พร้อมหน้าบานปิดช่องเก็บของมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ พื้นที่ฝั่งตรงข้ามจะโล่งๆ เหมาะแก่การวางตู้เย็น ส่วนพื้นที่ในสุดจะมีประตูเปิดออกไปลานซักล้างข้างบ้านได้ ที่ลิ้นชักมีช่องแบ่งช้อนส้อมและเก็บจานชามติดมาให้เรียบร้อย ก็อกน้ำจะเป็นโครเมียมที่นอกจากหมุนซ้ายขวาได้แล้ว ยังสามารถยกตัวก็อกน้ำออกมาได้เหมือนฝักบัวได้อีกด้วย ติดกับโต๊ะรับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสงที่สามารถเปิดออกไปสวนข้างบ้าน และเปิดเพื่อรับลมเข้าสู่ตัวบ้าน ข้อดีของการมีประตูและหน้าต่างกระจกใสคือช่วยทำให้บ้านไม่ดูทึบตัน ไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวัน สำหรับพื้นที่ด้านนอกทางโครงการจัดตัวอย่างไว้ให้เป็นมุมรับประทานอาหารแบบ 10 ที่นั่ง พร้อมตกแต่งผนังส่วนที่ว่างเป็นสวนแนวตั้งเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แก่บ้าน มองขึ้นไปด้านบนก็จะเป็นทางเดินที่เชื่อมระหว่างห้องรับแขกชั้น 2 และห้องนอน Master bedroom เพื่อความเป็นส่วนตัวของห้องนอนใหญ่ ใต้สะพานจะเห็นว่ามีลำโพง Bose แบบ Bluetooth จาก Sonos ติดไว้สำหรับจัดปาร์ตี้หรือเปิดเพลงฟังเวลานั่งพักผ่อนนอกบ้านได้ ติดกับมุมรับประทานอาหาร ทางโครงการทำ Pavillion เป็นโซฟากว้างรูปตัว U พร้อมหลังคากันแดดกันฝนมาให้ดูเป็นไอเดีย กลับเข้ามาด้านใน ฝั่งตรงข้ามครัวและส่วนห้องรับประทานอาหารจะเป็นบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 และลิฟท์โดยสารในบ้าน ซึ่งจะมีเฉพาะบ้านแบบ Pride ซึ่งเป็นแบบบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโครงการหลังนี้เท่านั้น พื้นที่ติดกับลิฟท์จะเป็นโถงทางเดินซึ่งมีห้องครัวแบบปิด, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอนชั้นล่าง สำหรับครัวจะมีประตูบานเลื่อนเปิดปิดปิดด้วยนะคะ ซึ่งเหมาะกับการประกอบอาหารไทยที่มีกลิ่นแรง เปิดประตูด้านหลังออกมาจะเป็นส่วนลานหลังบ้าน ทางโครงการออกแบบพื้นเฉลียงปูกระเบื้องและลานคอนกรีตแยกโครงสร้างกับตัวบ้าน ติดไฟสำหรับตอนกลางคืนและเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย กลับเข้ามาด้านใน ถัดจากครัวจะเป็นห้องน้ำชั้นล่างนะคะ ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำแบบไม่มีส่วนอาบน้ำนั่นเองค่ะ สเป็ควัสดุห้องน้ำได้ตามนี้ค่ะ คือพื้นและผนังเป็นหินอ่อนสีครีมเทา ติดกับห้องน้ำชั้นล่าง พื้นที่ในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ของบ้านนะคะ ซึ่งเหมาะที่จะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากไม่ต้องให้ผู้สูงอายุต้องขึ้นลงบันได แต่บางบ้านที่ไม่มีผู้สูงอายุก็อาจประยุกต์ใช้เป็นห้องนอนแขก ห้องทำงาน หรือห้องเลี้ยงเด็กก็ได้นะคะ ภายในห้องมีขนาดกว้างใหญ่เลยนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตไว้เป็นตัวอย่าง จากรูปจะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือสำหรับวางโซฟาตัวยาว และโต๊ะกลางได้อีกด้วย มุมนั่งเล่นข้างเตียงสามารถจัดวางชุดเก้าอี้และโซฟาตัวยาวได้สบายๆ ติดกันนั้นเป็นเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังสวนข้างนอกได้ การมีประตูกระจกทำให้มีแสงจากธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ดี พื้นที่ตรงข้ามกับมุมนั่งเล่นจะมีเคาน์เตอร์เล็กๆ ที่สามารถวางเครื่องทำกาแฟ รวมถึงใส่ตู้เย็นขนาดเล็กที่ใส่ใต้ล่างได้ด้วย มุมมองจากมุมนั่งเล่นกลับไปด้านในตัวห้อง พื้นที่ใต้แอร์ก็จะมีโซฟาตัวยาวแบบไม่มีพนัก เหมาะสำหรับรองรับพยาบาลประจำตัวหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ ติดกันนั้นมีพื้นที่ที่สามารถจัดเป็นมุมแต่งตัวได้สบายๆ ส่วนทางขวามือ ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ติดทางเข้าห้องน้ำในตัว นอกจากจัดสรรพื้นที่ให้เป็นที่นั่งพักผ่อนแล้วยังสามารถจัดพื้นที่ด้านข้างให้เป็นโต๊ะทำงานที่เชื่อมต่อกับชั้นวางทีวีได้อีกด้วย ตู้เสื้อผ้าภายในบ้านตัวอย่างจัดมาแบบ Built in ที่เป็นบานดึงออกนะคะ ซึ่งพื้นที่ตรงกลางจัดให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านหลังกระจกเป็นหน้าต่างกระจกใสทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามา ช่วยให้ห้องสว่างและแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ห้องน้ำมีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ซึ่งมีส่วนอาบน้ำพร้อมแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องลายหินอ่อนโทนสีครีม พื้นห้องลดระดับลงต่ำกว่าส่วนห้องนอนประมาณ 5 เซนติเมตร ส่วนพื้นห้องน้ำปูเป็นกระเบื้องโมเสกยาวชิ้นเล็กๆ ไล่สีโทนสีครีม เทา ทอง บ่งบอกถึงความหรูหรา พื้นที่ส่วนเปียกจะกั้นฉากกั้นอาบนำ้กระจกเทมเปอร์มาให้แล้วนะคะ โดยพื้นส่วนเปียกจะลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตร ภายในห้องอาบน้ำมีการก่อปูนขึ้นมาเป็นที่นั่งให้ผู้ใหญ่นั่งอาบน้ำได้สบายๆ มีช่องแสงด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ส่วนสำคัญอีกส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือพื้นที่ชั้นสอง ที่ทางโครงการตั้งใจออกแบบไว้ให้พื้นที่ตรงนี้ มีทางขึ้นมา 3 ทาง คือขึ้นบันไดหน้าบ้านมา, ขึ้นบันไดในบ้าน และใช้ลิฟท์ โดยชั้น 2 ส่วนหน้าบ้านเลยจะเป็นสระว่ายน้ำและระเบียงสำหรับนั่งพักผ่อน ถัดเข้าบ้านมาเป็นส่วนห้องรับแขกขนาดใหญ่ ด้านหลังจะมีบันไดขึ้นไปชั้น 3 และมีทางเดินเชื่อมผ่าน Court ตรงกลางบ้านไปยังห้อง Master bedroom ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ภายในจะมีพื้นที่วางเตียงนอน ชุดโซฟา มุมห้องทำงาน พื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวแบบ Full Bath ที่ให้อ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ แปลนแบบบ้าน Pride บริเวณชั้น 2 นะคะ จุดเด่นคือมีทางขึ้นได้ 3 ทาง คือขึ้นบันไดหน้าบ้าน บันไดในบ้าน และลิฟท์ โดยชั้น 2 ส่วนหน้าบ้านจะเป็นสระว่ายน้ำและระเบียงสำหรับนั่งพักผ่อน ถัดเข้าบ้านมาเป็นส่วนห้องรับแขกขนาดใหญ่ ด้านหลังจะมีบันไดขึ้นไปชั้น 3 และมีทางเดินเชื่อมผ่าน Court ตรงกลางบ้านไปยังห้อง Master bedroom ด้านหลัง เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมาจะเจอส่วนหน้าลิฟท์ชั้น 2 ที่มี Built in ชั้นวางของสูงจรดเพดานมาให้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีทีเดียวค่ะ พื้นที่บริเวณโถงกลางของชั้น 2 จะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ซึ่งทางโครงการตกแต่งบ้านตัวอย่างให้เป็นไอเดียโดยวางโซฟารูปตัว L ขนาด 6 ที่นั่ง พร้อมเก้าอี้อาร์มแชร์ และโต๊ะกลางมาให้เห็นระยะที่สามารถใช้งานได้จริงและสะดวกสบาย ระยะห่างจากโซฟาถึงคอนโซลทีวีมีระยะประมาณ 2 เมตรกว่าๆ ซึ่งลูกบ้านสามารถวางทีวีจอใหญ่ขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ ติดกับบริเวณคอนโซลทีวีจะมีประตูออกไปสระว่ายน้ำชั้น 2 ซึ่งเป็นแบบก้านโยกนะคะ โดยทุกจุดของประตูและหน้าต่างในบ้านจะมีแผ่นแม่เหล็กที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบกันขโมยแบบ Magnetic Shock Sensor ติดมาให้ เพื่อเพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัยอีกระดับ เปิดประตูออกมาจะเป็นระเบียงที่เชื่อมอยู่ระหว่างบันได้ทางขึ้นจากเฉลียงหน้าบ้านชั้นล่าง และสระว่ายน้ำด้านซ้ายค่ะ ทางเดินเมื่อไต่บันไดขึ้นไปบริเวณข้างสระจะปูด้วยไม้เทียม ซึ่งมีความทนทานเวลาโดนน้ำ และมีมุมให้วางชุดที่นั่งข้างสระได้ ด้านบนมีชายคาระเบียงยื่นออกมาบังแดดบังฝนให้กับทางเดินและที่นั่งพักผ่อนข้างสระ สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร พื้นสระปูกระเบื้องโมเสกสีน้ำเงินฟ้า ขอบสระกรุหินอ่อนสีดำที่ดูหรูหรา กลับเข้ามาด้านใน พื้นที่ด้านหลังมุมนั่งเล่นจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 3 ส่วนทางเดินทอดยาวตรงไปนั้นจะเป็นทางเดินเชื่อมไปห้องนอนใหญ่ เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนใหญ่จะเจอมุมนั่งเล่นก่อนนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตไว้เป็นตัวอย่าง จากภาพจะเห็นว่าเหลือพื้นที่ทางเดินได้โดยรอบสบายๆ เลยค่ะ ทางโครงการจัดมุมนั่งเล่นตัวอย่างไว้ที่พื้นที่ปลายเตียง โดยวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งมาให้พร้อม Built in ชั้นหนังสือด้านข้าง และคอนโซลวางทีวีสำหรับคนที่ชอบนอนดูหนัง หรืออ่านหนังสือก่อนนอน นอกจากจะมีมุมนั่งเล่นในตัวแล้ว พื้นที่ลึกเข้าไปยังมุมทำงาน ห้องน้ำขนาดใหญ่และ Walk-in closet ขนาดใหญ่ในตัวด้วย พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในติดกับห้องน้ำ จะเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นมุมทำงานเหมือนห้องตัวอย่างได้เลยนะคะ กลับออกมาจะเจอกับส่วนของ Walk-in Closet ค่ะ ในส่วนของ Walk-in closet ก็เรียกว่าตกแต่งเป็นไอเดียตัวอย่างให้ลูกบ้านได้ดีเลยนะคะ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้โดนใจทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ต้องการตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมชั้นวางของตรงกลาง นอกจากจะออกแบบชั้นวางของ ที่แขวนเสื้อผ้ามาแบบเต็มที่แล้ว ยังจัดสรรพื้นที่ตรงกลางให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งอีกด้วย ติดกับ Walk-in closet จะเป็นห้องน้ำนะคะ ภายในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำทรงกลมสีขาวสะอาดตา ผนังข้างอ่างกรุด้วยหินอ่อนสีน้ำตาลทองที่ดูหรูหรา แถมยังทำเป็นชั้นวางของที่สามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำหรือของตกแต่งได้อีกด้วย ติดกับห้องอาบน้ำจะเป็นห้องโถสุขภัณฑ์ โดยใช้แบรนด์ Kohler นะคะ ซึ่งมาพร้อมสายฉีดชำระและที่แกนใส่ทิชชู พื้นที่ส่วนเปียก ภายในห้องอาบน้ำ จะกั้นกระจกเทมเปอร์มาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ ภายในมีที่นั่งอาบน้ำกรุหินอ่อนมาให้ใช้วางของและนั่งขัดผิวเวลาอาบน้ำได้ โดยจะมีฝักบัวแบบ Rain Shower ติดตั้งมาให้ในตัวแล้วค่ะ อ่างล้างหน้าเป็นแบบ 2 หลุม (His & Her) เคาน์เตอร์ปูท็อปด้วยหินอ่อนสีครีมเทาเข้ากับพื้นและผนังห้องน้ำ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ขนาดไปกับความยาวของอ่าง แปลนแบบบ้าน Pride บริเวณชั้น 3 นะคะ ซึ่งเป็นพื้นที่ของห้องนอนทั้งหมด เมื่อเดินไต่บันไดขึ้นมาชั้น 3 จากทางบันไดก็จะเจอลิฟท์และโถงทางเดินก่อนแยกไปยังโถงกลางที่อยู่ติดระเบียง และห้องนอนทั้ง 3 ห้อง มาดูกันที่ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันก่อนดีกว่าค่ะ ภายในห้องนอนมีขนาดกว้างขวางอย่างที่เห็นเลยนะคะ ซึ่งสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้สบายๆ ทางโครงการ Built in เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องมาให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ จากภาพจะเห็นได้ว่าจัดสรรทุกอย่างได้ลงตัวมากๆ พื้นที่ข้างเตียงฝั่งหนึ่งทำ Built in ชั้นวางของติดผนังและโซฟาไว้สำหรับพักผ่อน แถมใต้โซฟามีช่องลิ้นชักเป็นที่เก็บของด้วยนะคะ พื้นที่ในสุดถูก Built in ให้เป็นมุมทำงาน, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ้งกั้นกลางพื้นที่ด้วยคอนโซลทีวี ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องน้ำ ภายในห้องแบ่งพื้นที่เปียกและแห้งไว้อย่างลงตัว พื้นที่ส่วนเปียกจะมีฉากกั้นเป็นกระจกเทมเปอร์ พร้อมมือจับอลูมิเนียมที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ซึ่งพื้นส่วนเปียกนั้นลดระดับลงไปประมาณ 3 เซนติเมตรค่ะ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของแบรนด์ Kohler หรือเทียบเท่านะคะ กลับออกมาดูที่ห้องนอนอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน ภายในห้องนอนนี้เปิดประตูเข้าไปจะเจอตู้เสื้อผ้าก่อนนะคะ ภายในห้องมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้เหมือนห้องนอนอื่นเลยนะคะ ทางโครงการ Built in เฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง หลากหลายมุมเลยนะคะ อีกฝั่งของผนังตรงข้ามเตียงทำ Built in ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนและโต๊ะทำงานพร้อมชั้นวางของมาให้เรียบร้อย ติดกับมุมทำงานหรือแต่งตัวจะเป็นห้องน้ำนะคะ ภายในห้องแบ่งแยกส่วนเปียกและแห้งเหมือนดั่งห้องอื่นๆ ในชั้น 3 ส่วนอาบน้ำพร้อมฉากกั้นมาให้ พื้นลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตร สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องลายไม้ให้ความรู้สึกนุ่มนวลน่าใช้งาน กลับเข้ามาที่โถงกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่เอนกประสงค์อยู่ติดระเบียง ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นตรงนี้ให้เป็นห้องพระ หรือเป็นพื้นที่นั่งเล่นเช่นเดียวกับในภาพก็ได้นะคะ ติดกับพื้นที่เอนกประสงค์จะเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งนะคะ ห้องนอนนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า 2 ห้องก่อนหน้านะคะ ภายในห้องสามารถจัดฟังก์ชั่นให้เป็นทั้งส่วนนั่งเล่น ทำงาน และพักผ่อน สำหรับเตียงนอนก็สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้และเหลือระยะเดินโดยรอบได้สบายเช่นเดียวกับห้องอื่นๆ ค่ะ แถมยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้ Built in โซฟา และชั้นวางของแบบแขวนผนังได้ด้วย บริเวณปลายเตียงจะเป็นระเบียงมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นให้ออกไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกยามเช้านะคะ พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในสุดจะเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ที่อยู่ติดกับห้องน้ำนะคะ ภายในห้องน้ำแบ่งแยกพื้นที่เปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน บริเวณโซนเปียก ทางโครงการจะติดฉากกั้นอาบน้ำด้วยประตูกระจกมาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ สุขภัณฑ์ที่ลูกบ้านจะได้รับก็ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเคาน์เตอร์ล้างหน้าสุขภัณฑ์ที่ลูกบ้านจะได้รับก็ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางเคาน์เตอร์ล้างหน้าไว้ตรงกลางห้อง ก่อนจะจัดโถสุขภัณฑ์ไว้ชิดผนังฝั่งขวา   โดยรวมแล้วถือว่าการออกแบบและจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมีความลงตัวทุกตารางเมตรเลยนะคะ เพราะมีระยะเหมาะสมกับการใช้งานทั้งห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ห้องน้ำและห้องครัวแบบปิด ซึ่งการแทรก Courtyard ข้างบ้าน ก็เปรียบเสมือนสวนสวยส่วนตัวที่เสริมให้พื้นที่ธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ทางโครงการยังใส่ใจรายละเอียดทั้งในแง่การใช้งานและลักษณะวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน อาทิ การเตรียมห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ, ระยะใช้สอยกับพื้นที่ก็เอื้อต่อการใช้รถเข็น และแบบบ้านที่ยังมีลิฟต์ในตัว เป็นต้น สำหรับบ้านที่ทางโครงการเปิดขายนั้นจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ผนังบ้านฉาบปูนเรียบทาสีขาว, ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว มาพร้อมไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง มีเพดานสูง 3 เมตร ข้อดีคือทำให้บ้านโปร่งโล่งสบายและมีพื้นที่เก็บของแนวตั้งได้เยอะ อีกทั้งยังสามารถตกแต่งเพดานได้หลากหลายรูปแบบ โดยใช้วัสดุอุปกรณ์คุณภาพทั้งหมด พร้อมมีระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic & Motion Sensor ทุกหลังอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด ที่สะท้อนให้เห็นแล้วว่าโครงการบ้านที่ดีนั้นต้องออกแบบบ้านให้ทันสมัย จัดฟังก์ชั่นการใช้งานให้คุ้มค่าทั้งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านและ Facility ที่รองรับความสุขของสมาชิกครอบครัวทุก Gen ที่สำคัญพื้นที่บริเวณรอบต้องมีความอุดมสมบูรณ์ ไปไหนมาไหนสะดวก ใกล้ทางด่วน ห่างจากตัวเมืองไม่มากนัก จนคุณสามารถมั่นใจได้ว่า “เนอวานา บียอนด์ พระราม 2” เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่เป็นมากกว่าบ้าน โดยเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตที่เพียบพร้อมอย่างแตกต่างและลงตัว อีกทั้งทุกฟังก์ชั่นการใช้งานตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างมีเอกลักษณ์ ในราคาเริ่มต้น 19-40 ล้าน บอกได้คำเดียวว่า “คุ้มค่า” จริงๆ ค่ะ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดหมายเพื่อชมโครงการได้ที่ www.nirvana-group.com/th/project/beyond-rama-2
Nirvana Define Srinakarin – Rama 9 เพิ่มความสุขในชีวิตที่มากกว่า.. : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana Define Srinakarin – Rama 9 เพิ่มความสุขในชีวิตที่มากกว่า.. : รีวิวทาวน์โฮม

ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะว่าที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคในปัจจุบันก็คือ “ทาวน์โฮม” จุดเริ่มต้นก็มาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนอยากขยับขยายพื้นที่เพื่อรองรับชีวิต จึงเริ่มมองหาที่อยู่ใหม่ให้ตอบสนองความต้องการทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้ง พื้นที่ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หากเลือกที่อยู่เป็นคอนโดมิเนียมทำเลดีก็จะติดตรงพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของจำนวนสมาชิก หรือหากจะเลือกเป็นบ้านเดี่ยวสักหลังบางทีก็มีราคาสูงเกินกว่าจะรับไหว ดังนั้นทาวน์โฮมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวยุคใหม่ในตอนนี้ค่ะ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งพื้นที่ใช้สอยและเรื่องของราคา   แต่จะดีแค่ไหน..ถ้ามีทาวน์โฮมฟังก์ชั่นเหมือนบ้านเดี่ยว เช่นเดียวกับโครงการ “Nirvana DEFINE Srinakarin - Rama 9 (เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ - พระราม9)” ของ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช้อยส์ให้แก่คุณผู้อ่านที่กำลังคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แถมยังปักหมุดบนทำเลที่เอื้อต่อการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย ซึ่งเราจะพาไปทำความรู้จักกันในวันนี้..     ปักหมุดทำเลศักยภาพแห่งใหม่ ใกล้ CBD พระราม 9 คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มีที่พักอาศัยอยู่ไม่ไกลใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนหลายสาย และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งโครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” ก็ตอบโจทย์ทุกข้อที่กล่าวมาได้เป็นอย่างดี ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพแห่งใหม่ของฝั่งกรุงเทพตะวันออก ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่เพิ่งเปิดใช้บริการเมื่อไม่นานมานี้ ความพิเศษของถนนเส้นนี้นอกจากจะมีช่องจราจร ถึง 6-8 ช่อง ระยะทางรวมกว่า 16 กม. แล้ว ในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตเท่าถนนเลียบทางด่วน-รามอินทรา อีกด้วยนะคะ เพราะเป็นถนนขนาดใหญ่ มีระยะทางยาวตัดผ่านถนนเส้นหลักหลายสาย ทั้งถนนพระราม 9-ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ   นอกจากจะเป็นทำเลศักยภาพใหม่ที่น่าสนใจแล้ว ยังเป็นที่ดินฝั่งที่มูลค่าสูงมาก เหมาะแก่การลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งโซนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งเป็นโซนฝั่งก่อนข้ามถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก นับว่าเป็นโซนที่พักอาศัยที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะอยู่ติดย่านพระราม 9 และศรีนครินทร์ สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงใจกลาง CBD ได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น จึงทำให้เหล่า Developer ต่างหมายปองครอบครองที่ดินเพื่อผุดโครงการใหม่ๆ ในย่านนี้ เนื่องจากเป็นโซนที่ถูกรายล้อมไปด้วยที่อำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วนพระราม 9, ทางด่วนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี ที่ทำให้การเดินทางเข้านอกออกเมืองเป็นเรื่องที่ง่าย นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็จัดว่าสะดวกสบายไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะมีทั้งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิ้งก์, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีครีกรีฑา (ทางฝั่งศรีนครินทร์) และสายสีส้ม (ทางฝั่งรามคำแหง) ในระยะที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการเลย   หรือถ้าลูกบ้านคนใดเป็นสายช็อป ชิม และชิลล์ก็น่าจะถูกใจที่สุด เพราะอย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใหม่  การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายสามารถเชื่อมผู้อยู่อาศัยไปยังสถานที่สำคัญโดยรอบได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะไปห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เดอะมอลล์บางกะปิ, ซีคอนสแควร์, เดอะไนน์ พระราม 9 หรือ พาราไดซ์ปาร์ค ที่มีร้านค้าร้านอาหารรวมถึงร้านนั่งชิลล์ให้เลือกมากมาย หากเจ็บไข้ได้ป่วยก็สามารถไปโรงพยาบาลชั้นนำในพิกัดใกล้ๆ อย่าง โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลรามคำแหง หรือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ได้สะดวก ยิ่งในเรื่องของการศึกษาก็นับว่าตอบโจทย์ครอบครัวขยายที่มีสมาชิกเพิ่มได้ดี เพราะใกล้สถานศึกษา อาทิ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ, มหาวิทยาลัยเอแบค, มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสถาบันนิด้า เป็นต้น   ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว   โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” คือพื้นที่ใช้ชีวิตที่ครบครันทุกฟังก์ชั่น เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่มองหาความหรูหราเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายมาเติมเต็มชีวิต เริ่มจากการออกแบบทาวน์โฮมในสไตล์โมเดิร์นให้มีเอกลักษณ์ในรูปทรงกล่อง ผสานกับงานไม้โทนสีอบอุ่นและการจัดวางที่แสนลงตัว ให้ความรู้สึกเรียบหรูมีระดับ แบ่งออกเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น และ 3 ชั้นครึ่ง ที่มีเพียง 173 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นโครงการบ้านในแนวราบสร้างใหม่ที่โดดเด่นและน่าสนใจในแถบนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับบ้านมีให้เลือก 4 แบบตามพื้นที่ใช้สอยดังต่อไปนี้..   Type A ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 31.3-63 ตารางวา Type B ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30.9 ตารางวา Type C ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 21.1-43.7 ตารางวา Type D ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 20.8-23.7 ตารางวา   ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในก็ถูกจัดสรรให้แตกต่าง Full Function มากกว่าบ้านเดี่ยว ด้วยการใช้ช่องแสงธรรมชาติมากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป โดยคำนึงถึงความโปร่งโล่ง อยู่สบาย อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่หน้าบ้านให้กว้างกว่าใครด้วยดีไซน์กว้างกว่า 6.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2-3 คัน ก็นับว่าตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด             เติมเต็มความสุขกับทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง อีกหนึ่งความพิเศษของ โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” คือการคำนึงถึงช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกบ้าน ไม่ว่าจะวันหยุด วันธรรมดา หรือช่วงเวลาพักผ่อน เพราะทางโครงการได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยที่แตกต่างได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสวนส่วนกลาง, คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่, ฟิตเนส ที่มาพร้อมกับ Public Wi-Fi และยังสร้างความอุ่นใจไปกับระบบระบบกล้อง CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.     จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” เป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบทาวน์โฮมสำหรับกลุ่มคนที่เบื่อการอยู่อาศัยแบบแนวสูง อยากมีพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังอยากได้ความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางแบบชาวคอนโดมีเนียมอยู่ จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำแหน่งที่ตั้งของตัวโครงการนั้น เป็นทำเลศักยภาพที่ทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่ายจนไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเดินทางเข้านอกหรือออกเมือง เพราะใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึงทางด่วนแล้ว แถมใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็ถึงใจกลาง CBD ย่านพระราม 9 ด้วยค่ะ ที่สำคัญคืออยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีเหลือง (สถานีศรีกรีฑา) เพียง 4 กม. และใกล้ Airport Link (สถานีหัวหมาก) เพียง 5.5 กม. เท่านั้น ดังนั้น Location จึงกลายเป็นจุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท*   พิเศษ! สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปร่วมงาน EXCLUSIVE SALES ในวันที่ 24 มีนาคม 2561 นี้ พร้อมรับสิทธิพิเศษเหนือใครด้วยราคาสุดว้าวก่อน Pre-Sales ได้ที่ Sales Gallery ลงทะเบียนได้ที่ goo.gl/RfZ2Qn งานดีๆ แบบนี้บอกได้คำเดียว "ไม่ควรพลาดนะคะ"   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1787
Nirvana @Work ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana @Work ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana @Work ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น สไตล์ Loft ทำเลติดถนนเกษตร-นวมินทร์ ตอบโจทย์การใช้งานได้เต็มที่ทุกตารางเมตร โครงการใหม่ล่าสุด Nirvana Development     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     รอข้อมูลจากโครงการ เจ้าของโครงการ     บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ     โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น จำนวน 48 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ    ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึ่งกุ่ม กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   โรงเรียนอนุบาลเลิศหล้า บุญถาวร ตลาดนัดรถไฟ เกษตร-นวมินทร์ The Walk เกษตร-นวมินทร์ The Crystal CDC Central East Ville Tesco Lotus Fashion Island แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย Type A  Loft Office 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร พื้นที่ใช้สอย 452 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ Type B  Loft Office 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 363 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบบ้าน Type A Loft Office 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร พื้นที่ใช้สอย 452 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ แบบบ้าน Type B Loft Office 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 363 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก Securities 24 Hrs. CCTV Key Card Access Pocket garden between block plot Public Parking 43 Slots สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1787 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.nirvana-group.com/th/project/at-work-ladprao-kaset-nawamin
Nirvana Define Rama 9 : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana Define Rama 9 : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana @Work Ramintra ทาวน์โฮมหรูสูง 3.5 ชั้น ติดถนนพระราม 9 ใกล้ The Nine และแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง โครงการใหม่ล่าสุดจาก Nirvana Development     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     8,990,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ     ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น จำนวน 51 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด     5 - 2 - 85 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนรามคำแหง 24 แยก 2 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   เดอะไนท์ พระราม 9 เดอะมอลล์ รามคำแหง เซ็นทรัล พระราม 9 โรงเรียนนานาชาติเซนต์มาร์ค โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลรามคำแหง   แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   Type A  ทาวน์โฮม สูง 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร เนื้อที่ขนาด 31 – 42 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน Type B  ทาวน์โฮม สูง 3 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร เนื้อที่ขนาด 30 – 34 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 285 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 2 คันฉ Type C ทาวน์โฮม สูง 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร เนื้อที่ขนาด 21 – 28 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 230 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสำหรับพักผ่อน กล้อง CCTV รอบโครงการ เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและ CCTV 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1787 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.nirvana-group.com/th/campaign/define-rama9
Nirvana @Work Ramintra : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana @Work Ramintra : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana @Work Ramintra โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น สไตล์ Loft ติดถนนรามอินทรา กม.2 ใกล้เซ็นทรัล รามอินทรา จํานวนเพียง 61 ยูนิต โครงการใหม่ล่าสุดจาก Nirvana Development รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     15,900,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ     โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น จำนวน 61 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด     9 - 0 - 31.9 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนรามอินทรา แขวงอนุเสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง   เซ็นทรัล รามอินทรา สนามกอล์ฟกองทัพบก มหาวิทยาลัยเกริก เทสโก้ โลตัส หลักสี่ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร The Jas ลาดปลาเค้า แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   Type A  Loft Office 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร พื้นที่ใช้สอย 452 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ Type B  Loft Office 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 363 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก กล้อง CCTV รอบโครงการ เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card ระบบรักษาความปลอดภัยและ CCTV 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1787 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.nirvana-group.com/projects/atwork-ramintra/
Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สัมผัสความเหนือระดับ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สัมผัสความเหนือระดับ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา : รีวิวคอนโด

โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันจะได้มาครอบครอง ไม่ใช่เพียงเพราะความหรูหรา สะดวกสบายของตัวโครงการ แต่ยังได้วิวที่สวยที่สุดของกรุงเทพฯ อย่างแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่ว่าจะผ่านช่วงเวลากี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงเสน่ห์เหนือกาลเวลา ซึ่ง “Banyan Tree Residences Riverside Bangkok” โครงการใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆ นี้ จาก เนอวานา ไดอิ ที่จับมือกันกับแบรนด์บันยันทรี แม้จะเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกจากเนอวานา ไดอิ แต่ครั้งนี้สามารถสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย ด้วยดีไซน์ของสถาปัตยกรรม โดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตอยู่อาศัยจริงของลูกบ้าน ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ตกแต่งห้อง การจัดการพื้นที่ภายในโครงการ ไปจนถึงเซอร์วิชระดับโรงแรมห้าดาว ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเก่าอันเงียบสงบ ภายใต้แนวคิด The Sanctuary for your Soul แต่ขณะเดียวกันในอนาคตพื้นที่ในย่านี้กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้า และธุรกิจ เช่นกัน Banyan Tree Residences Riverside Bangkok เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 45 ชั้น 133 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งธนบุรี) อาคารถูกออกแบบโดยบริษัทระดับโลกจาก นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เป็นทรงอาคารครึ่งวงกลม สิ่งที่โดดเด่นมากของที่นี่ คือ ทุกยูนิตหันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันออก ทุกห้องจะได้ Panoramic Riverview ทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน หน้ากว้างตั้งแต่ 8 เมตรขึ้นไป และเมื่อเปรียบเทียบจากขนาดที่ดินภายในโครงการทั้งหมดกับจำนวนยูนิตแล้ว ก็สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทางโครงการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว โดยห้องพักอาศัยจะแบ่งเป็น Low zone 4 ยูนิต/ชั้น Mid zone 3 ยูนิต/ชั้น และ High zone 2 ยูนิต/ชั้น และมีให้เลือก 5 Unit Type ได้แก่ - 1 Bedroom 69.40-85.45 ตร.ม. 48 ยูนิต - 2 Bedroom 156.40-179.20 ตร.ม. 66 ยูนิต - 3 Bedroom 243.10 ตร.ม. 16 ยูนิต - 4 Bedroom 417.35-419.85 ตร.ม. 2 ยูนิต - Penthouse (Duplex) 836.70 ตร.ม. 1 ยูนิต บริเวณชั้น G - ชั้น 3 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ Panoramic ในทุกมุมมอง เช่น Residence Lobby 3 จุด, Outdoor Lounge, Riverside Lounge, Multipurpose Room, River view owners lounge, Library Lounge, Private Dining Room, Panoramic View Swimming Pool, Cabanas, Kids Room, Active Play Area, Outdoor Lounge & BBQ Area, Banyan Tree Spa Room, River Facing Jacuzzi, Fitness Center, Private Lift Lobby ฯลฯ รวมถึงเมื่อโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ ในช่วงปลายปีหน้าจะมีบริการ Resident Shuttle Boat เรือสุดหรูจากท่าน้ำส่วนตัวของคอนโดไว้คอยบริการรับ-ส่งลูกบ้านไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือไปหาของอร่อยทานที่เยาวราช โดยให้บริการฟรี เพียงแค่ทำการจองล่วงหน้าผ่าน Application ที่สร้างขึ้นมาเพื่อลูกบ้านโดยเฉพาะ ในเรื่องของพื้นที่จอดรถซึ่งเป็นปัญหามากสำหรับคอนโดหลายโครงการ แต่ที่นี่หมดห่วงได้เลยเพราะมีอาคารจอดรถอยู่ทางด้านหน้าโครงการ สามารถรองรับการจอดรถได้มากถึง 260 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 200% โดยแบ่งพื้นที่ชั้นล่างเป็นโซนจอดรถซุปเปอร์คาร์ และสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอีกด้วย ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถก็ยังมีส่วนกลางเพิ่มมาให้อีก คือ สระว่ายน้ำ แยกโซนเด็กกับโซนผู้ใหญ่ พร้อมสนามเด็กเล่น และโซนสำหรับนั่งพักผ่อน โดยรวมของสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่มีพื้นที่ถึง 59% ของอาคาร หรือประมาณ 6,000 ตร.ม. แล้ว ถือว่าเพียงพอแน่นอนสำหรับลูกบ้านทั้งหมด     ทำเลและการเดินทาง Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ตั้งอยู่ที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 ตรงเข้าไปสุดซอยก็จะพบกับพื้นที่โครงการ ซึ่งจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างบนอาคารจริงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพราะเป็นความตั้งใจของทางเนอวานา ไดอิ ที่ต้องการสร้างความมั่นใจในคุณภาพของโครงการจริงๆ ด้วยการลงมือสร้างอาคารก่อนที่จะเปิดขายจริงมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับความเหนือระดับนี้ด้วยตัวเอง แต่หากใครที่ต้องการจะชมห้องตัวอย่างล่วงหน้า ก็สามารถนัดหมายทางโครงการ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้นำเรือไปรับที่จุดนัดพบศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ มาชมห้องตัวอย่างที่ Sale Gallery ของโครงการ การเดินทางสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวก หาที่ตั้งโครงการได้ไม่ยากเลย ถ้ามาจากถนนสาทรให้ตรงมาข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ก่อนลงสะพานให้เบี่ยงออกซ้ายตามป้ายถนนเจริญนคร เมื่อลงมาถึงสามแยกกรุงธนบุรีให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญนคร แล้วตรงไปจนถึงแยกคลองสาน เบี่ยงซ้ายเข้าสู่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 จะอยู่ขวามือ ติดกับโรงพยาบาลตากสินเลย แม้โครงการจะตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี แต่ด้วยทำเลแล้วสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมาก จากโครงการเข้าถนนเจริญนคร เลี้ยวขวาขึ้นสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินก็ถึงย่านสาทรโดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีจุดขึ้น-ลง ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดอีก 2 จุดด้วยกัน คือ บนถนนเจริญราษฎร์ ซึ่งออกไปทางบางนา-ดาวคะนอง และถนนสุรวงศ์ เพื่อไปทางพระราม 9-แจ้งวัฒนะ ในอนาคตหากโครงการเสร็จสมบูรณ์ ลูกบ้านก็จะสามารถใช้บริการ Resident Shuttle Boat ให้ไปรับ-ส่ง ที่ท่าเรือสาทร แล้วขึ้นรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ชีวิตก็ดูง่ายขึ้นอีกเยอะ สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า แน่นอนว่าย่านนี้มีร้านอาหารเจ้าเก่าแก่อยู่มากมาย คอมมูนิตี้มอลล์บนถนนเจริญนครก็มีให้เห็นอยู่หลายแห่ง เช่น Sena Fest, The Lighthouse, Vue Bangkok ฯลฯ แต่สิ่งสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญย่านนี้ในอนาคต คือ ICONSAIM โปรเจคยักษ์ใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าส่วนที่เป็นศูนย์การค้าพื้นที่ประมาณ 525,000 ตารางเมตร จะกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ติดอันดับ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่เดียว (อยู่ห่างจาก Banyan Tree Residences แค่ประมาณ 700 เมตร)   ชมห้องตัวอย่าง ปัจจุบันห้องตัวอย่างที่ Sale Gallery มีให้ชมเพียง 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 69.40 ตร.ม. เป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ ความสูง Floor to Ceiling 3.2 เมตร เฟอร์นิเจอร์ให้มาแบบ Fully Fitted เช่น เคานเตอร์ครัว พร้อม Hood Hob และเตาอบ ซิงค์ล้างจาน เตียง ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด พร้อมติดวอลเปเปอร์ และมีม่านโปร่ง มาให้ด้วย จุดเด่นอีกอย่างภายในห้องพักอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุนำเข้าจากอิตาลี ที่แอบกระซิบกันมาว่า CEO ลงมือเลือกวัสดุด้วยตัวเองเลยทีเดียว เพื่อให้ได้ของที่สวย และได้คุณภาพที่สุด แปลนของห้องตัวอย่างจะเห็นได้ว่า เน้นพื้นที่ Living Area ที่เชื่อมต่อกับครัวเปิดได้กว้างขวางมาก บวกกับความสูงของเพดาน ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด พื้นที่ช่วงกลางห้องกว้างมากพอที่จะสามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ ระเบียงหน้ากว้างต่ำสุด 8 เมตร เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นไปถึงห้องนอน ส่วนฝั่งห้องนอนจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ที่มีการแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้เป็นสัดส่วน สรุปภาพรวมแล้ว คอนโดมิเนียม Banyan Tree Residences Riverside Bangkok สามารถดึงเอาจุดเด่น ของตัวเองออกมาได้อย่างดี ทั้งเรื่องของทำเลติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทุกยูนิตจะได้วิวแบบ Panoramic Riverview ด้วยระเบียงหน้ากว้างเหมือนกัน ต่างกันแค่วิวความสูงของชั้นที่อยู่อาศัย วิวทางขวามือจะได้เห็นเมืองอันทันสมัยในย่านสาทร-สีลม แต่ถ้ามองไปทางซ้ายจะได้วิวสุดคลาสสิกของความเป็นเมืองเก่า ภายในโครงการถูกออกแบบมาเน้นความส่วนตัว เงียบสงบเป็นพิเศษกับจำนวนยูนิตที่น้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด เพราะพื้นที่ 56% หรือ 6,000 ตร.ม. เป็น Facility  และเมื่อได้จับมือกับแบรนด์บันยันทรี สิ่งที่จะตามมาคือ เรื่องของ Service ระดับโรงแรม 5 ดาว โดยผู้ที่ซื้อโครงการนี้จะได้รับสิทธิ์การเป็นสมาชิก The Sanctuary Club เพื่อรับสิทธิพิเศษจากแบรนด์ในเครือที่มีอยู่ทั่วโลกด้วย ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสุด Exclusive ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ โครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ราคาเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 330,000 บาท/ตร.ม. เปิด Pre sale 18-19 พฤศจิกายน นี้ หากสนใจก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนกันก่อนได้ที่ http://www.banyantreeresidencesriversidebangkok.com/ .ricoh-theta-spherical-image{margin:0 auto !important;
Nirvana Icon วงแหวน-พระราม 9 : รีวิวบ้าน

Nirvana Icon วงแหวน-พระราม 9 : รีวิวบ้าน

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปชมบ้านเดี่ยวของหมู่บ้าน Nirvana Icon วงแหวน-พระราม 9 ซึ่งตั้งอยู่สุดถนนกรุงเทพกรีฑา ใกล้กับตรงช่วงแยกใหญ่บ้านทับช้างที่ถนนมอเตอร์เวย์ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก (ถนนวงแหวน) ที่ดินตรงนี้เป็นผืนเดียวกันกับที่ดินของ หมู่บ้านณุศาศิริ ที่อยู่มาก่อนหลายมีแล้ว ถ้าดูในภาพรวมของที่ดินขนาดใหญ่ โซนด้านขวามือจะเป็นหมู่บ้านณุศาศิริครับ ส่วนที่ดินในโซนด้านซ้ายจะเป็นของ Nirvana Icon ที่เราจะพาไปดูกันนี่แหละครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าทั้ง 2 โครงการนี้เป็นพันธมิตรเพื่อนบ้านที่จับมือกันเป็นอย่างดี โดยทั้ง 2 หมู่บ้านจะใช้ทางเข้าออกเดียวกัน และใช้พื้นที่ส่วนกลาง Facility ต่างๆ ร่วมกันด้วยนะครับ   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    10,500,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 60 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    67 - 0 - 26.50 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ วิธีการเดินทาง เรามาเริ่มกันด้วยวิธีการเดินทางกันก่อนครับ ซึ่งการเดินทางมายังโครงการนี้ก็เหมือนกับโครงการ Nirvana Beyond Lite เลยครับ แค่ขับเลยซอยกรุงเทพกรีฑา 32 มาอีกนิดหน่อย (ดูรีวิว Nirvana Beyond Lite) สำหรับเส้นทางถนนที่สามารถเลือกเดินทางมายังโครงการได้ก็มีทั้งทางซอยรามคำแหง 24 หรือจากแยกลำสาลี รวมถึงสามารถเลือกเดินทางมาตามเส้นทางถนนคู่ขนานกับถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งเข้าได้จากตรงแยกศรีนครินทร์ตัดกับพระราม 9 ส่วนเส้นทางอื่นๆ อย่างเส้นถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ก็สามารถใช้เป็นทางหลักๆ ในการเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพได้ มีด่านทับช้างซึ่งเป็นด่านที่ใกล้ที่สุดก็แถวๆ วัดลาดบัวขาวนั่นแหละครับ แต่โดยภาพรวมแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์ในย่านนี้ก็จัดว่าสะดวกใช้ได้เลยนะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเพราะถนนหนทางในย่านนี้บางทีถ้าขับรถพลาดแล้ว ก็ต้องกลับรถกันหลายครั้งหน่อย แนะนำว่าให้ใช้เส้นทางจากทางฝั่งรามคำแหงจะสะดวกที่สุดครับ การเดินทางเราเริ่มต้นจากซอยรามคำแหง 24 กันเลยนะครับ ตรงมาเรื่อยๆ ก่อนถึงแยกกรุงเทพกรีฑาจะมีป้ายบอก พอมาถึงแยกกรุงเทพกรีฑาข้างหน้าที่เราเห็นจะเป็นถนนศรีนครินทร์ เราตรงไปเพื่อเข้าถนนกรุงเทพกรีฑานะครับ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางบางกะปิ เลี้ยวขวาจะไปทางพัฒนาการ ตรงผ่านแยกมาแล้ว เราก็เข้าสู่ถนนกรุงเทพกรีฑาเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้ตรงอย่างเดียวเลยครับ ระยะทางจากแยกกรุงเทพกรีฑาไปจนถึงที่ตั้งโครงการรวมๆ แล้วประมาณ 6 กิโลนิดๆ ทางขวามมือจะมีผ่านสนามกอล์ฟ 2 แห่งนะครับ ที่แรกเป็นสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา สปอร์ต คลับ อีกสนามใกล้ๆ กัน เป็นสนามกอล์ฟยูนิโก้ ตรงมาจนถึงตรงนี้จะเป็น 3 แยก ทางซ้ายจะเป็นซอยนักกีฬาแหลมทอง ตรงไปจะยังเป็นถนนกรุงเทพกรีฑาอยู่นะครับ เราต้องตรงต่อไป เลยสามแยกมาอีกหน่อย เราโค้งขวาตามทางไปเลยครับ ตรงมาอีกจะเห็นซอยกรุงเทพกรีฑา 32 อยู่ทางขวามือ เข้าไปในซอยนี้อีกนิดเดียวจะเจอโครงการ Nirvana Beyond Lite พระราม 9 เผื่อใครอยากจะดูทั้ง 2 โครงการ ก็แวะเข้าไปได้เลยนะครับ จากนั้นเราตรงไปกันต่อ ข้ามสะพานข้ามคลองตรงนี้ไปอีกนิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วครับ ถึงหน้าโครงการ Nirvana Icon แล้วครับ ที่เห็นป้ายณุศาศิริเพราะพื้นที่โครงการเป็นที่ดินผืนเดียวกัน เลยใช้ทางเข้าออกเดียวกัน ไม่ต้องตกใจคิดว่ามาผิดโครงการนะครับ นอกเหนือจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว รถไฟฟ้า Airport Rail Link ก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสบายเช่นกัน เพราะตัวสถานีบ้านทับช้างอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งทางโครงการก็มีบริการรถรับส่งลูกบ้านจากโครงการไปถึงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามสถานีตลอดทั้งวัน ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกมากขึ้น วิเคราะห์รอบโครงการ เรื่องสภาพแวดล้อมรอบโครงการนั้นต้องบอกว่าเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยมากๆ เพราะพื้นที่รอบๆ โครงการส่วนใหญ่ยังเป็นที่ดินว่าง บ้านพักอาศัยในแนวราบ รวมถึงหมู่บ้านอื่นๆ อีกมากมาย และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ หมู่บ้านณุศาศิริ ที่เป็นเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ติดกัน ซึ่งทำให้เราเห็นบรรยากาศความเป็นอยู่จริงๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีเพื่อนส่วนหนึ่งเข้าอยู่อาศัยกันมาก่อนแล้ว เช่นเดียวกันกับพื้นที่ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ที่ลูกบ้านจะได้ใช้งานร่วมกัน รวมถึงนิติบุคคลของทั้ง 2 โครงการก็จะเป็นนิติบุคคลเดียวกันด้วย สำหรับโครงการ Nirvana Icon นี้มีจำนวนบ้านทั้งหมด 60 ยูนิต ซึ่งจัดว่าเป็นจำนวนไม่มากเลย แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเงียบเกินไปนะครับ เพราะมีเพื่อนบ้านณุศาศิริอีกหลายหลัง รับรองว่าไม่เหงาแน่นอน ถ้าดูถามแปลนของที่ดินทั้งหมด จะเห็นว่าพื้นที่สีเทาๆ ก็คือโครงการณุศาศิริเดิม ส่วน Nirvana Icon จะอยู่ทางฝั่งซ้าย ทั้งสองโครงการนี้ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันนะครับ บรรยากาศในหมู่บ้านครับ ถนนเมนกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนในซอยกว้าง 9 เมตรนะครับ ในส่วนของพื้นที่รอบๆ โครงการไม่ค่อยมีร้านค้าให้เห็นมากนัก แต่ถ้าออกมาในช่วงต้นๆ ของถนนกรุงเทพกรีฑา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงซอยนักกีฬาแหลมทองจะคึกคักมากหน่อย เพราะบริเวณนี้จะเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มีทั้งตลาดสด โรงเรียน สำนักงานที่ดิน สวนสาธารณะ หมู่บ้านนักกีฬา ร้านสะดวกซื้อ เทสโก้โลตัส รวมถึงร้านค้า แผงลอยอีกมากมาย เรื่องอาหารการกินมีให้เลือกเยอะเลยทีเดียว และยังสามารถจับจ่ายซื้อหาอาหารสดไปทำครัวกันได้ ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ หน่อยก็มีทั้ง เดอะมอลล์รามคำแหง เดอะมอลล์บางกะปิ เดอะไนน์ พระราม 9 แฟชั่นไอส์แลนด์ พรอมานาด รามอินทรา หรือถ้าเป็นโซนศรีนครินทร์ก็มี ห้างซีคอนสแควร์ และพาราไดซ์พาร์ค ที่สามารถเดินทางได้ไม่ไกลจนเกินไปนัก ดังนั้นเรื่ององค์ประกอบแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัย จึงจัดว่าครบถ้วนใช้ได้เลยทีเดียวครับ สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV พาชมบ้านตัวอย่าง สำหรับบ้านตัวอย่างของโครงการ Nirvana Icon ที่เราได้มีโอกาสเข้าไปชมในครั้งนี้ เป็นแบบบ้านที่มีชื่อว่า New Inspiration ซึ่งมีการปรับปรุงใหม่จากแบบบ้าน Inspiration เดิม ให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น สำหรับแบบบ้าน New Inspiration นี้ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นในสไตล์โมเดิร์น ตามเอกลักษณ์ของ Nirvana ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. แบ่งเป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่งทั้งหมดนี้จะตั้งอยู่บนที่ดินเริ่มต้นที่ขนาด 80 ตร.ว. แต่ถ้าลูกบ้านอยากจะให้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านด้วย ทางโครงการก็มีเตรียมไว้ให้เลือกเหมือนกัน แต่มีจำนวนไม่มากนะครับ แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย SPIRIT พื้นที่ใช้สอย 185 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน SPIRIT SPECIAL พื้นที่ใช้สอย 210 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน ELEMENT พื้นที่ใช้สอย 225 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน LIFE&SOUL พื้นที่ใช้สอย 265 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน 1 ห้องแม่บ้าน INSPIRATION 275 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน 1 ห้องแม่บ้าน NEW INSPIRATION 275 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ เดี๋ยวเราไปดูแปลนบ้านกันก่อนนะครับว่า มีการปรับเปลี่ยนตรงไหนและเพิ่มอะไรเข้ามาใหม่บ้าง ก่อนจะไปชมภายในบ้านตัวอย่างสวยๆ ครับ อันนี้เป็นแปลนของบ้าน New Inspiration ซึ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านนี้แน่นครบทุกตารางเมตรเลยทีเดียว ทรงบ้านเป็นสไตล์โมเดิร์นตามแบบของ Nirvana เลย จากด้านหน้าจะเห็นว่าตัวบ้านโอ่อ่าใหญ่โตมาก บริเวณหน้าบ้านนะครับ เป็นรั้วเตี้ยและปลูกต้นไม้ไว้สวยงาม ประตูเล็กเป็นบานทึบสีเทา พื้นที่ด้านข้างตัวบ้านเป็นที่จอดรถ 2 ที่ ซึ่งบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นบ้านบนที่ดินขนาดใหญ่ ที่จอดรถเลยขยับออกมาทางที่ดินด้านข้างมากหน่อย ไม่ได้อยู่บริเวณหน้าตัวบ้านอย่างในแปลนครับ ประตูใหญ่ทางเข้าที่จอดรถเป็นรั้วเหล็กโปร่งๆ ควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล จากบริเวณที่จอดรถตรงนี้จะเห็นทางเดินเข้าสู่พื้นที่บ้านครับ เดี๋ยวเราไปชมรอบๆ บ้านกันก่อน อันนี้เป็นสนามหญ้าบริเวณด้านหลังที่จอดรถนะครับ ก็ที่ดินตรงข้างๆ ตัวบ้านนั่นแหละครับ มีต้นไม้ปลูกไว้รอบรั้วเลย ถ่ายกลับมาให้ดูที่ด้านหลังที่จอดรถบ้าง จะเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้างเหมือนกัน แถมยังมีศาลานั่งเล่นที่ทางโครงการทำไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย แต่บ้านจริงที่ที่ดินขนาดเล็กกว่านี้จะไม่มีให้นะครับ ตรงนี้เป็นบริเวณด้านหลังบ้านครับ มีปลูกต้นไม้ไว้ตลอดแนวรั้ว และห้องแม่บ้านก็จะอยู่ทางด้านหลังนี้ด้วย อันนี้เป็นห้องน้ำแม่บ้านซึ่งอยู่ทางด้านหลังของบ้าน ใกล้ๆ กันมีประตูเข้าออกทางด้านหลังบ้าน บริเวณนี้จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวไทย ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดนะครับ บ้านตัวอย่างหลังนี้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านด้วยนะครับ สระว่ายน้ำอยู่ตรงหน้าบ้านเลย เวลาเดินเข้าประตูหลักของบ้านจะต้องเดินผ่านสระว่ายน้ำก่อน ในขณะที่รอบบ้านชั้นล่างกั้นเป็นกระจกเกือบทั้งหมด จึงมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้รอบบ้านเลย ประตูหลักของบ้านเป็นประตูไม้สักบานเล็กอยู่ในตำแหน่งกลางบ้าน ที่จับเป็นแบบคันโยก พร้อมด้วยล็อค 2 ชั้น เปิดเข้ามาจะเจอโถงพักตรงหน้าบันได บริเวณนี้ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้า และมีมุมให้นั่งใส่รองเท้าเล็กๆ ตรงนี้ด้วย ดูภาพมุมกว้างกันบ้าง จะได้เห็นชัดๆ ว่าต่อจากโถงทางเข้าบ้านไป ทางขวาจะเป็น Living Area ส่วนบันไดและห้องนอนเล็กด้านล่างจะอยู่ถัดเข้าไปด้านใน เรามาดู Living Area โซนแรกกันก่อน เป็นห้องนั่งเล่นกว้างขวางมากๆ ตำแหน่งที่วางโซฟา ได้ระยะดูทีวีกำลังดี มองเห็นเลยไปถึงอีกด้านของบ้านด้วย พื้นที่ภายในบ้านกว้างขวางมากนะครับ วางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ Living Area ในโซนนี้กว้างมากนะครับ จัดแบ่งพื้นที่กันดีๆ ก็จะใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นครับ อย่างในตัวอย่างที่เห็น มุมติดกันสามารถวางโต็ะทำงานขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมทำงานได้สวยงาม เหมือนได้ห้องทำงานกว้างๆ อีกห้องเลยใช่มั้ยครับ แถมอยู่ติดประตูกระจกบานใหญ่ทำให้รับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี บรรยากาศภายในบ้านโอ่โถงสบายตา เพราะประตูกระจกบานใหญ๋ช่วยให้เปิดรับแสงและวิวได้เต็มที่ นั่งทำงานไปชมวิวสระว่ายน้ำไปได้เพลินๆ ครับ ออกจากโซนนั่งเล่น เดี่ยวเราไปดู Dining Area กันบ้าง เดินผ่านโถงทางเข้าก่อน มุมนี้นั่งใส่รองเท้าตรงหน้าตู้รองเท้าได้ด้วย ภายใน Dining Area ครับ บรรยากาศโปร่งสบายๆ เช่นกัน โต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่วางเป็น island ไว้กลางห้องได้เลยครับ ยังเหลือที่รอบโต๊ะให้เดินสบายๆ บรรยากาศภายใน Dining Area อบอุ่นมากทีเดียว ตำแหน่งที่ตั้งโต๊ะกินข้าว มีประตูกกระจกบานเลื่อนเข้ามุม สามารถเปิดโล่งให้เชื่อมต่อถึงสระว่ายน้ำได้เลย เหมาะกับเวลาจัดปาร์ตี้มากๆ บริเวณนั่งรับประทานอาหารใช้พื้นที่เดียวกันกับ pentry ครัวเลยนะครับ Pentry ครัวโซนนี้เป็นครัวเปิดนะครับ มี island ตรงกลางไว้วางของ และเคาน์เตอร์รอบด้านสำหรับจัดเตรียมอาหาร เคาน์เตอร์บริเวณด้านข้างครับ ยาวตลอดแนวเลย ด้านบนและล่าง Built-in ตู้เก็บของไว้เรียบร้อย เคาน์เตอร์ครัวท๊อปด้วยหินอ่อน มีหน้าต่างกระจกยาวตลอดแนวช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้อีกทาง ซิงค์ล้างจานจะอยู่ที่เคาน์เตอร์ทางด้านนี้ครับ เป็นซิงค์ขนาดใหญ่เหมาะกับขนาดครัว เคาน์เตอร์ประกอบอาหารจะอยู่อีกด้าน มีหัวเตาและฮูตดูดควันพร้อม ช่องว่างที่เห็นนี่เว้นไว้วางตู้เย็นครับ รองรับตู้เย็นคิวใหญ่ๆ สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้สบาย ประตูด้านข้างครัว เป็นประตูออกไปที่หลังบ้าน ตรงนี้มีซิงค์ล้างจานอย่างที่บอก สามารถตกแต่งเพิ่มเป็นครัวไทยไว้ทางด้านหลังบ้านได้ บ้านแบบใหม่ผนังด้านหน้าเปลี่ยนเป็นกระจกทั้งหมด นอกจากจะได้วิวสระว่ายน้ำแล้ว ยังเปิดรับแสงได้เต็มที่มากๆ ครับ เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำ และห้องนอนที่บริเวณชั้นล่างกันครับ ห้องนี้มีทางเข้าอยู่ตรงบันไดทางขึ้นบ้านนั่นแหละ ประตูทางด้านซ้ายเป็นห้องน้ำนะครับ ไปดูห้องน้ำกันก่อน ในห้องน้ำชั้นล่างมีชุดสุขภัณฑ์พร้อมสรรพ ด้านบนมีหน้าต่างบานเลื่อน เปิดออกระบายความชื้นได้ดีแถมยังช่วงรับแสงได้อีก อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ มีพื้นที่วางของได้พอสมควร โถสุขภัณฑ์ครบชุด พื้นบริเวณที่อาบน้ำ ดร๊อปต่ำลงมาอีกประมาณ 3 ซม. ป้องกันน้ำเอ่อล้นเวลาอาบน้ำได้ดี ชุดฝักบัวอาบน้ำหน้าตาแบบนี้ครับ ภายในห้องนอนที่ชั้นล่างครับ ซึ่งในบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องอเนกประสงค์ บริเวณหน้าต่างด้านข้าง Built-in เป็นมุมนั่งเล่นน่ารักๆ ภายในห้องมีหน้าต่างทั้ง 2 ด้าน ทำให้ภายในห้องสว่างด้วยแสงธรรมชาติ ทางโครงการตกแต่งเป็นโต๊ะทำงานพร้อมตู้เข้ามุมไว้ให้ชมเป็นไอเดียครับ ตู้ Build-in เข้ามุม ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ดีครับ หน้าต่างบานเลื่อนเป็นกรอบอลูมิเนียมสีดำ มีล็อค 2 ชั้น เพิ่มความแน่นหนาได้มากขึ้น ขึ้นไปดูชั้นบนกันครับ ตรงโถงพักบันได เจาะช่องกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติได้ กระจกบานใหญ่ตรงโถงบันไดชั้น 2 เปิดช่องให้แสงผ่าน ทำให้บริเวณโถงนี้สว่างมากขึ้น ในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการ Built-in เพิ่มตรงราวบันไดให้เป็นตู้โชว์ อันนี้เป็นไอเดียที่น่าสนใจนะครับ โถงหน้าห้องบนชั้นสอง จัดเป็นมุมนั่งเล่นเก๋ๆ ครับ ด้านที่ติดกับราวบันไดจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ หรือเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือได้ครับ ช่วงกลางวันภายในบ้านสว่างไปด้วยแสงธรรมชาติ เนื่องจากมีกระจกเกือบรอบด้าน เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยในบ้านมีมาก วางเก้าอี้นั่งเล่น เอนหลังอ่านหนังสือได้หลายมุม เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนเล็กกันครับ อยู่ใกล้กับบันไดทางขึ้นพอดี ในห้องนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ Built-in ออกแบบให้เป็นห้องนอนเด็ก ถึงจะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็วางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว เหลือที่อีกเหลือเฟือ ข้างเตียงติดกระจกเงาบานใหญ่ ให้เป็นมุมแต่งตัวขนาดกว้างเลยทีเดียว ตำแหน่งเตียงอยู่ใกล้กับหน้าต่าง Built-in ชั้นวางของไว้ด้านหัวเตียง ทำให้มีที่เก็บของมากขึ้น ช่วงปลายเตียงยังมีที่เหลืออีกมาก ทำเป็นโต๊ะทำการบ้านและชั้นเก็บของได้อีก หน้าต่างของห้องก็เป็นบานใหญ่ เกือบเต็มแนวกำแพงเลย ภายในห้องนอนเล็กมีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ ภาพรวมภายในห้องน้ำครับ ก็เป็นไปตามมาตรฐาน ติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ตามนี้ อ่างล้างหน้าสีขาว ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระครบ บริเวณที่อาบน้ำ ไม่มีกระจกกั้นมาให้นะครับ ต้องติดเพิ่มเอง หน้าต่างบานเลื่อนในห้องน้ำ ห้องนี้มีเพิ่มกระจกเข้ามุมมาด้วย ยิ่งทำให้ในห้องน้ำสว่างมากขึ้น ชุดฝักบัวอาบน้ำในห้องนี้จะต่างจากห้องข้างล่างนิดหน่อย พื้นห้องอาบน้ำดร๊อปต่ำลงมาเช่นกัน ต่อไปเป็นห้องนอนที่ 2 ครับ อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน บรรยากาศภายในห้องนอนครับ ห้องนี้ตกแต่งในสไตล์หวานๆ หน่อย หัวเตียงทั้ง 2 ด้านมีหน้าต่างบานกระทุ้งตามภาพ บริเวณปลายเตียง Built-in เป็นตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง พร้อมด้วยมุมทำงานเล็กๆ ติดกับหน้าต่าง ตู้เก็บของด้านข้างเตียง Built-in สูงจรดเพดานเลยนะครับ พื้นที่บริเวณปลายเตียงครับ เหลือที่วางกว้างเลยทีเดียว สำหรับห้องนอนนี้ พื้นที่หน้าห้องน้ำกว้างพอที่จะสามารถตกแต่งเป็น walk in closet ได้ด้วย มุมแต่งตัวตรงหน้าห้องน้ำครับ หวานๆ แบบห้องผู้หญิง หน้าหลังกระจกเงาที่โต๊ะเครื่องแป้ง มีหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติได้สวยๆ ภายในห้องน้ำครับ Lay out ไม่ได้ต่างกันมากนัก เครื่องสุขภัณฑ์ครบเซ็ต อ่างล้างหน้าสเปคเดียวกับห้องก่อนหน้าเลยครับ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระก็เช่นกัน บริเวณอาบน้ำไม่ได้กั้นกระจกให้นะครับ และในห้องน้ำก็มีหน้าต่างบานเลื่อนเปิดระบายความชื้นได้เช่นเดิม พื้นบริเวณที่อาบน้ำดร๊อปต่ำลงมาเหมือนห้องอื่นๆ ครับ แล้วก็มาถึง Master Bedroom ซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนเล็กนะครับ เดินเข้าห้องมาก็จะเจอโซนแต่งตัวหน้าห้องน้ำก่อนเลย ภายโดยรวมของห้องน้ำใน Master Bedroom ครับ ตกแต่งต่างไปจากห้องอื่นๆ มีอ่างอาบน้ำเพิ่มมาด้วย ชุดก๊อกน้ำที่อ่างอาบน้ำครับ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และชุดสุขภัณฑ์จะอัพสเปคขึ้นมาอีก อ่างล้างหน้าทรงรีขนาดใหญ่ฝังบนเคาน์เตอร์สีดำเข้มขรึม เคาน์เตอร์ล้างหน้าในห้องน้ำติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ด้วย ชุดโถสุขภัณฑ์ของห้องนอนใหญ่นี่หน้าตาดูหรูหรามากขึ้น มุมอาบน้ำติดกับอ่างอาบน้ำ (ตัวกระจกกั้นทางโครงการติดไว้เป็นตัวอย่าง ของจริงไม่มีมาให้นะครับ) ส่วนชุดฝักบัวอาบน้ำก็หน้าต่างแบบนี้ครับ เป็นหัวก๊อปแบบผสม เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง อันนี้เป็นภาพรวมครับ พื้นที่ภายในห้องกว้างขวางมากๆ ตรงหัวเตียงของห้องนี้ก็มีหน้าต่างกระจกทั้ง 2 ด้านเช่นกัน บริเวณปลายเตียงแขวนทีวี และมีมุมแต่งตัวพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ติดกับตู้เสื้อผ้าเลย ด้านหลังกระจกเงาเป็นหน้าต่างนะครับ เปิดรับแสงธรรมชาติเวลาแต่งตัวแต่งหน้าได้ ดูกันชัดๆ ครับ มีผ้าม่านบังแสงไว้ให้นิดหน่อย มองกลับไปที่หน้าห้องน้ำจะเห็นว่าฝั่งตรงข้าม Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ตลอดแนว ในห้องนอนใหญ่กว้างและเหลือที่พอให้วางโซฟา 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ แถมยังมีมุมทำงานด้วย มุมทำงานจะอยู่ติดกับเตียงอีกด้าน ด้านหลัง Built-in ตู้เก็บของเพิ่ม และติดกันก็เป็นประตูบานเลื่อนออกไประเบียงครับ โต๊ะทำงานในห้องนอนครับ ไม่ใช่เล็กๆ เลยนะครับ นี่ครับพื้นที่ระเบียง รั้วระเบียงเป็นกระจก เปิดออกไปก็มองเห็นหน้าบ้านพอดี พื้นระเบียงดร๊อปต่ำกว่าพื้นห้องนอนมาก ป้องกันเรื่องน้ำท่วมขังเข้าห้องได้เป็นอย่างดี จากระเบียงห้องนอนใหญ่สามารถมองเห็นได้รอบบริเวณหน้าบ้านเลยนะครับ มองลงไปเห็นวิวสระว่ายน้ำ และประตูหน้าบ้านเต็มตา ใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวสวยๆ ที่มาพร้อมกับการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยคุ้มค่าในย่านวงแหวน-พระราม 9 โครงการ Nirvana Icon ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องแบบบ้านที่ทันสมัย อยู่ไม่ไกลจากในเมืองมากนัก และมีบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ที่สำคัญเรายังสามารถไปเยี่ยมชมบรรยากาศของหมู่บ้านได้จริงก่อนการตัดสินใจซื้อด้วยครับ
Nirvana Beyond LITE พระราม 9 : รีวิวบ้าน

Nirvana Beyond LITE พระราม 9 : รีวิวบ้าน

รีวิวฉบับนี้ เรามีบ้านเดี่ยวสวยๆ จาก Nirvana ในชื่อ Beyond Lite ​มาฝากกันครับ ทำเลที่ตั้งโครงการก็อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า  Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถส่วนตัว ทั้งเส้นทางถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) โซนกรุงเทพกรีฑา และเส้นทางมอเตอร์เวย์ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลยดีกว่าครับ   รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    12,400,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    34 - 3 - 72.8 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ค่าส่วนกลาง    20 บาท/ตารางวา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี   วิธีการเดินทาง   สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ Nirvana Beyond Lite พระราม 9 ในครั้งนี้ เราเลือกเดินทางกันด้วยรถไฟฟ้า Airport Rail Link ไปลงที่สถานีบ้านทับช้าง แล้วเดินขึ้นสะพานลอยข้ามมอเตอร์เวย์มายังที่โครงการ ซึ่งทางโครงการบอกไว้ว่ามีระยะห่างเพียง 300 เมตรเท่านั้น แต่ถ้าลองวัดระยะกันจริงๆ จังๆ ต้องบอกว่าจากทางลงสถานีรถไฟฟ้าบ้านทับช้างจะมาถึงหน้าทางเข้าหมู่บ้านต้องมีระยะเดินไม่ต่ำกว่า 550 เมตร เลยนะครับ แต่โชคดีหน่อยที่ทางหมู่บ้านมีบริการรถรับ-ส่งถึงบันไดสะพานลอย ระยะเดินที่ต้องเดินจริงๆ จึงร่นเหลือแค่ 300 เมตรตามที่ทางโครงการบอกเลยครับ (เดี๋ยวจะหาว่าโกหก) ที่สำคัญลูกบ้านทุกหลังสามารถเรียกใช้บริการรถรับส่งได้ตลอดทั้งวันเลยทีเดียว แผนที่กราฟฟิกของโครงการ จะเห็นว่าอยู่ใกล้กับมอเตอร์เวย์เลยนะครับ แผนที่จาก google map จะได้เห็นทิศทางกันชัดๆ ครับ ครั้งนี้เราเลือกเดินทางโดยรถไฟฟ้า Airport Rail Link มาลงที่สถานีบ้านทับช้างครับ ลงจากสถานีมาจะเห็นซอยเล็กๆ ที่เลี้ยวออกไปถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เดินทางตามซอยไม่ไกลมาก็จะเห็นสะพานลอยแล้วครับ เราจะเดินขึ้นสะพานลอยนี้เพื่อข้ามถนนมอเตอร์เวย์ไปยังฝั่งที่ตั้งโครงการกันนะครับ ข้ามมาลงฝั่งตรงข้ามแล้ว ก็เดินเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปได้เลย หรือจะรอเรียกรถกอล์ฟของโครงการให้มารับตรงนี้ก็ได้ครับ เดินเข้าซอยมาประมาณกลางซอยก็จะเห็นป้ายโครงการ Nirvana อันใหญ่ๆ เอาล่ะใกล้จะถึงโครงการแล้วใช่มั้ย จากป้าย Nirvana ตัวใหญ๋ตรงหัวโค้งนั่น เราต้องเลี้ยวขวาไปตามถนนอีกนิดหน่อยนะครับ ถึงจะเจอทางเข้าโครงการ ระยะเดินจริงๆ จากตัวสถานีทับช้างมาถึงหน้าโครงการก็ต้องมีมากกว่า 550 นะครับ ส่วนที่ทางโครงการแจ้งไว้ว่า 300 เมตรคือนับมาถึงแค่สุดสะพานลอยตรงปากซอยทางเข้า หลังจากนี้ถ้าเรียกให้รถมารับ ก็ไม่นับเป็นระยะเดินแล้ววครับ ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ​Nirvana Beyond Lite ใหญ่โตสวยงามเช่นเคย เข้ามาแล้วก็จะเจอถนนเมนตรงเข้าไปหมู่บ้านเลย ซึ่งลักษณะที่ดินของหมู่บ้านก็ลึกทีเดียว เดี๋ยวเราไปชมบรรยากาศของโครงการกันก่อนครับ ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมายังซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการก็มีให้เลือกได้หลายเส้นทาง เช่น จากฝั่งรามคำแหงก็สามารถเข้ามาตามเส้นทางกรุงเทพกรีฑา โดยทางซอยรามคำแหง 24 หรือจากแยกลำสาลี หรือถ้ามาจากแยกพระราม 9 ผ่านแยกศรีนครินทร์มาแล้วจะใช้ถนนคู่ขนานกับมอเตอร์เวย์มาเรื่อยๆ ก็ได้นะครับ อีกทั้งยังมีเส้นทางจากฝั่งอ่อนนุชมาเข้าทางประเวศได้ แต่อาจจะต้องกลับรถข้ามฝั่งมอเตอร์เวย์กันไกลหน่อย เส้นทางนี้จึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นเส้นทางถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) และถนนมอเตอร์เวย์ แต่กว่าจะถึงด่านเข้า-ออกของถนนแต่ละเส้นก็ต้องขับรถอ้อมหรือเลยไปไกลหน่อยนะครับ วิเคราะห์รอบโครงการ ทำเลที่ตั้งของโครงการ Nirvana Beyond Lite อยู่ค่อนไปทางโซนชานเมืองหน่อยนะครับ แต่เรื่องการเดินทางเข้า-ออกเมืองยังถือว่าสะดวกดี โดยเฉพาะคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะถนนหนทางแถบนี้ใกล้ทั้งมอเตอร์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางหลักๆ ในการเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ รวมถึงการเดินทางออกไปทางภาคตะวันออกด้วย แต่ติดที่ด่านทางเข้าของทั้งมอเตอร์เวย์ และถนนวงแหวนรอบนอกไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ตัวโครงการเท่าไหร่นัก บางครั้งการเลือกใช้เส้นทางปกติก็อาจจะเดินทางได้ง่ายกว่าก็ได้ จึงต้องวางแผนเลือกเส้นทางกันนิดหน่อยน่าจะดีกว่า ในย่านนี้ที่พักอาศัยจะเป็นบ้านเดี่ยว ตึกแถว หรือบ้านพักในแนวราบสูงไม่เกิน 4-5 ชั้นเกือบทั้งหมด และก็เป็นหมู่บ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นบรรยากาศโดยทั่วไปจึงไม่พลุกพล่านมากนัก โดยเฉพาะในซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการด้วยแล้ว ต้องบอกว่าเงียบสงบมากเลยทีเดียว แต่เรื่องอาหารการกินก็ไม่ได้ขาดแคลน หรือห่างไกลจากร้านค้าอย่างที่คิดนะครับ ถ้าออกจากซอยกรุงเทพกรีฑา 32 มาตามถนนกรุงเทพกรีฑาช่วงซอยนักกีฬาแหลมทอง แถบนี้ก็จะมีร้านค้าต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท แผงลอย ตลาดสด เทสโก้โลตัส ธนาคาร รวมถึงสำนักงานที่ดินสาขาประเวศ สวนสุขภาพเคหะชุมชนหัวหมาก โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภช และโรงเรียนอื่นๆ อีกหลายแห่ง บริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียวจึงไม่ต้องกลัวอดเลยครับ ถ้าไม่อยากขับรถก็ขี่จักรยานออกมาก็ยังได้ เพราะระยะทางไม่ได้ไกลเลย แต่ถ้าอยากจะช็อปปิ้งจับจ่ายซื้อของแบบจริงจัง ในย่านนี้ก็มีทั้งห้างเดอะมอลล์บางกะปิ ซีคอนสแควร์ และพาราไดซ์พาร์ค ที่พอจะจัดว่าใกล้หน่อย ถ้าไม่อย่างนั้นก็แนะนำให้ขึ้นรถไฟฟ้า Airport Rail Link เข้าเมืองไปช็อปปิ้งที่สยามกันไปเลยครับสะดวกดี สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV รถกอล์ฟรับ-ส่งลูกบ้าน ไปสะพานลอยข้าม Airport Link จากหน้าหมู่บ้านเข้ามาไม่ไกลมากก็จะเจอพื้นที่ส่วนกลางอยู่ทางขวามือ ตึกที่เห็นนั่นคือ ห้องฟิตเนสในบริเวณคลับเฮาส์ ห้องฟิตเนสอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ เป็นห้องกระจกติดแอร์เย็นฉ่ำ ภายในห้องออกกำลังกายมีอุปกรณ์ครบเลยทีเดียวครับ ถึงแม้พื้นที่ไม่ได้กว้างมากก็ตาม ออกมาจากห้องฟิตเนสก็จะเจอกับสระว่ายน้ำเลย สระว่ายน้ำมีก้ันแยกสำหรับสระเด็กไว้ด้วย พร้อมพื้นที่นั่งเล่นริมสระ จากมุมนี้จะเห็นได้ชัดว่าห้องฟิตเนสจะอยู่บริเวณเดียวกับสระว่ายน้ำเลย ทำให้การออกกำลังกายสะดวกมากๆ เดินลงมาอีกด้านของสระว่ายน้ำ จะเจอกับสวนสาธารณะส่วนกลาง บริเวณนี้จะเป็นสนามหญ้ากว้าง พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ ลานบริเวณนี้จัดเป็นสนามเด็กเล่นให้ด้วย พร้อมมุมนั่งเล่นรอบๆ เผื่อให้ผู้ปกครองได้ดูแลลูกๆ อย่างใกล้ชิด มีทั้งของเล่น และพื้นที่กว้างให้เด็กๆ วิ่งเล่นได้สบาย เครื่องเล่นมีหลากหลายเลยครับ แถมบรรยากาศก็ร่มรื่นด้วย พาชมบ้านตัวอย่าง ก่อนอื่นต้องบอกกันก่อนว่าโครงการ Nirvana Beyond Lite พระราม 9 นั้นมีลูกบ้านอยู่กันมานานแล้วพอสมควร เราจึงได้เห็นบรรยากาศภายในหมู่บ้านจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่บรรยากาศตัวอย่างขณะก่อสร้างเหมือนหมู่บ้านใหม่ๆ ซึ่งตอนนี้ทางโครงการได้มีการขยายพื้นที่เปิดเฟสใหม่ รวมถึงเพิ่มแบบบ้านใหม่เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ชื่อว่า Just So บนที่ดินขนาดเริ่มต้นที่ 50 ตร.ว. ตัวบ้านแบ่งเป็น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ภายใต้การออกแบบตัวบ้านในสไตล์โมเดิร์น และด้วยคอนเซปต์บ้านของ Nirvana ที่เน้นการออกแบบให้ภายในบ้านมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่าทุกตารางเมตร ตัวบ้านจึงมีพื้นที่ใช้สอยรวมมากถึง 270 ตร.ม. เลยทีเดียว เราไปดูภายในบ้านตัวอย่าง Just So กันเลยดีกว่าครับ หน้าตาของตัวบ้านแบบเต็มๆ ครับ บ้านที่เราจะได้ดูกันมีชื่อว่า Just So ครับ และนี่คือแปลนชั้นล่างของบ้านครับ เข้ามาในตัวบ้าน จะเจอโถงเล็กๆ Built-in ตู้เก็บรองเท้าไว้เรียบร้อย พื้นที่ตรงประตูทางเข้าบ้านครับ บ้านจริงไม่มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in มาให้นะครับ ถัดเข้ามาใน Living Area ครับ บันไดทางขึ้นก็อยู่ใกล้ๆ กัน บรรยากาศภายในพื้นที่นั่งเล่น หรือห้องรับแขกครับ กว้างๆ โล่งๆ เลย ทีวีแขวนติดผนังเลยนะครับ มุมด้านที่ติดกับประตูทางเข้าเป็นผนังกระจกบางส่วน เปิดรับแสงธรรมชาติได้อีกทาง อีกด้านของห้องนั่งเล่น เป็นประตูกระจกบานใหญ่ทำให้บรรยากาศภายในห้องสว่าง และโปร่งมากขึ้น พื้นที่ติดกันใน Living Area แบ่งมาตั้งโต๊ะกินข้าวได้สบายๆ ด้านนึง Built-in เป็นโซฟาที่นั่งติดหน้าต่าง วางโต๊ะกินข้าวขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ เลย บรรยากาศรวมๆ ใน Living Area ครับ ถัดจากโต๊ะกินข้าวเข้าไปด้านใน เป็นห้องครัวนะครับ ครัวเป็นแบบครัวปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นให้เรียบร้อย ส่วนประตูข้างๆ เป็นประตูที่ออกไปข้างๆ บ้านได้ ประตูกระจกห้องครัว เป็นกรอบอลูมิเนียมสีขาว พร้อมที่จับตามภาพครับ ในห้องครัวมีหน้าต่างบานใหญ่ เลื่อนเปิดเพื่อระบายกลิ่นได้ และยังช่วยให้รับแสงได้มากขึ้น เคาน์เตอร์ครัว Built-in เข้ามุม มาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่บ้านจริงไม่มีมาให้นะครับ ส่วนภาพนี้เป็นห้องน้ำที่บริเวณชั้นล่างครับ อยู่ติดกับห้องครัว มีหน้าต่างบานใหญ่ในห้องน้ำเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้เลย พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของด้านล่างด้วยนะครับ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระครับ ส่วนพื้นของห้องน้ำก็ดร๊อปต่ำลงมาจากพื้นบ้านอีกพอสมควรเลย เดี๋ยวเราขึ้นไปดูชั้นบนกันครับ อันนี้เป็นแปลนของชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งหมดครับ ขึ้นบันไดมา ตรงจุดพักจะตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ เพดานตรงนี้สูงโปร่ง ทำให้บรรยากาศโอ่โถงมากขึ้น จากพื้นที่พักบันได มีบันไดอีก 2 ขั้นก่อนขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ครับ อันนี้เป็นบริเวณหน้าห้อง Master Bedroom ตรงชั้น 2 ครับ หน้าห้องนอนใหญ่มีแผงคอนโทรลระบบกันขโมย หน้าตาแผงควบคุมครับ ภายในห้องนอนใหญ่ กว้างขวางมาก สามารถวางโซฟาชุดใหญ่ได้ แถมยังเหลือที่อีกเพียบ ข้างๆ โซฟา ยัง Built-in เป็นชั้นวางของและใช้เป็นมุมอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานได้ ดูกันชัดๆ ครับ ตรงมุมชั้นวางของตรงประตูทางเข้าห้องครับ ติดกับพื้นที่นั่งเล่นในห้องนอน เป็นประตูระเบียงกระจกบานเลื่อนนะครับ ระเบียงกว้างขวางมากๆ นะครับ แถมเลยไปด้านของห้องด้วย พื้นที่ระเบียงด้านข้างครับ จากระเบียงห้องนอนใหญ่สามารถมองเห็นวิวหน้าบ้านได้ชัดเจน เดี๋ยวไปดูพื้นที่ของห้องนอนกันบ้างครับ บริเวณกลางห้องกว้างมากพอให้เหลือที่จะวาง ชุดเก้าอี้ได้อีก เตียงนอนขนาดใหญ่ วางไว้กลางห้องเลยครับ จะเห็นว่าพื้นที่รอบๆ เตียงยังเหลือกอีกเพียบ ปลายเตียงแขวนทีวีติดผนังไว้ และ Built-in เป็นชั้นวางของด้วย พื้นที่ของห้องนอนเต็มหน้ากว้างของบ้านเลยนะครับ มีโต๊ะทำงานตรงหัวเตียงด้วย ดังนั้นเตียงนอนจึงไม่ได้วางชิดผนังห้องนะครับ จากโต๊ะทำงานที่หัวเตียงสามารถนั่งทำงานไป ดูทีวีไปได้ ระยะทีวีไกลพอสมควรเลย สามารถเลือกแขวนทีวีขนาดใหญ่ได้สบาย ถัดจากห้องนอนเข้ามาก็เป็นห้องน้ำครับ ประตูห้องน้ำเป็นกระจกใสเต็มผนัง ห้องอาบน้ำแอบเซ็กซี่ ติดกระจกเปิดโล่งทั้ง 2 ด้าน ของอ่างอาบน้ำเลย ชุดก๊อกของอ่างอาบน้ำครับ หน้าต่างตรงอ่างอาบน้ำไม่ได้เปิดออกไปนอกตัวบ้านนะครับ พื้นที่ตรงนี้เหมือนเป็นระเบียงเล็กๆ เปิดเป็นโถงรับลม ที่อาบน้ำอยู่ในมุมด้านในสุด มีชุดฝักบัวแบบ Rain Shower ด้วย แต่พื้นที่ไม่ได้กว้างมากนัก มีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายความชื้นได้ครับ เปิดออกไปก็จะเป็นพื้นที่ระเบียงเดียวกับอ่างอาบน้ำนั่นแหละ พื้นที่ในห้องน้ำยาวเข้าไปด้านในเลย ถัดจากอ่างอาบน้ำอีกด้านเป็นอ่างล้างหน้าครับ มุมทำธุระส่วนตัว อยู่ติดกับเคาน์เตอร์ล้างหน้าครับ มีกระจกเงาบานใหญ่มากติดมาให้แล้ว เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่มาก มีพื้นที่วางของได้เยอะแยะเลย หน้าตาของอ่างล้างหน้าและชุดก๊อกแบบผสมครับ ก๊อกน้ำดีไซน์สวยงามทันสมัยมาก หน้าตาชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระครับ จากบริเวณที่อาบน้ำเข้าไปเป็นพื้นที่แต่งตัวครับ พื้นตรงนี้จะยกสูงกว่าพื้นห้องน้ำหนึ่งสเตป มุมแต่งตัวออกแบบให้อยู่ติดกับหน้าต่าง ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ตู้เสื้อผ้า Built-in ทำเป็น Walk in closet ยาวตลอดแนวเลย มุมด้านในมีมุมแต่งตัวอีกมุมนะครับ และตู้เสื้อผ้าก็เต็มพื้นที่ทั้ง 2ด้านเลย ออกจากห้องนอนใหญ่มาจะเห็นห้องระบบ ซึ่งอยู่ตรงบันไดทางขึ้นชั้น 3 ครับ เดี๋ยวเราไปดูที่ชั้น 3 กัน จะสังเกตุได้ว่า ตรงบันไดบ้านทุกส่วนจะติดกระจกบานใหญ่ ช่วยเปิดรับแสงได้ทุกช่วง ต่อไปเป้นแปลนชั้น 3 ของบ้านครับ แบ่งเป็น 2 ห้องนอน โถงนั่งเล่นตรงที่พักบันได คล้ายๆ ที่ชั้นสองครับ พื้นที่ตรงนี้ต้องตกแต่งเพิ่มเติมเองนะ ชั้นบนสุดนี้แบ่งเป็น 2 ห้องนอน เดี่ยวเราไปดูห้องนอนเล็กกันก่อน ภาพบรรยากาศโดยรวมของห้องนอนเล็กครับ มีห้องน้ำในตัวด้วย ถึงจะเรียกว่าห้องนอนเล็กแต่พื้นที่ก็ไม่ได้เล็กเลยนะครับ กว้างขวางใช้ได้เลย วางเตียงไซส์ 5 ฟุตลงไปแล้วยังเหลือที่อีกกว้างให้เดินสบาย พื้นที่ภายในห้องกว้างมาก กำแพงฝั่งปลายเตียงยัง Built-in ทำตู้เก็บของ และโต๊ะทำงานได้อีก พื้นที่ติดผนังนี้ Built-in ใช้ประโยชน์ได้อีกเยอะเลยนะครับ แล้วแต่ไอเดียแต่ละคน อย่างห้องนี้ยังคงเน้นแสงธรรมชาติ มีหน้าต่างอีก 2 บาน แถมวางโต๊ะทำงานไว้มุมนี้พอดีเลย ฝั่งด้านข้างที่นอนเป็นห้องน้ำครับ Lay out ในห้องน้ำก็เรียบง่ายครับ วางเรียงกันเป็นแนวเลย เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีที่เก็บของด้านล่างด้วย อันนี้ดีมากเลยครับ จะได้มีที่เก็บเครื่องใช้ในห้องน้ำมากขึ้น ข้างกันคือชุดโถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำกั้นด้วยกระจกไว้เป็นสัดส่วนครับ มีเจาะช่องให้วางของได้ด้วย หน้าตาชุดฝักบัวอาบน้ำครับ และมีตำแหน่งติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย หัวฝักบัวเป็นหัวขนาดใหญ่ครับ พร้อมก๊อกน้ำแบบหัวผสม พื้นห้องอาบน้ำดร๊อปต่ำลงมาอีกเล็กน้อย เข้ามาดูห้องนอนใหญ่ของชั้น 3 กันบ้าง ภายในมีบรรยากาศโปร่งสบายดีทีเดียวครับ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง Built-in ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งก็ดูลงตัวมากๆ ครับ วางเตียงลงไปแล้ว ยังเหลือที่กว้างอยู่ สามารถเลือกว่า Day Bed ได้สบายๆ หรือจะตกแต่งตามแบบตัวอย่างก็ได้ ห้องนอนนี้มีระเบียงในห้องด้วยนะครับ เป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ กรอบอลูมิเนียมสีขาว พร้อมระบบล็อคแบบ 2 ชั้น เพิ่มความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยครับ พื้นที่ตรงระเบียงไม่ได้กว้างมากนะครับ เอาไว้ออกไปยืนชมวิวได้สวยๆ พื้นระเบียงดร๊อปต่ำลงมามากพอสมควรเช่นเคย ลักษณะพื้นที่ของห้องนี้คล้ายตัว L ครับ มีมุมลึกเข้าไปด้านในอีก ซึ่งทางโครงการตกแต่งให้เป็นมุมแต่งตัวขนาดใหญ่ ก่อนถึงห้องน้ำครับ ผนังด้านนึง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าเต็มพื้นที่ เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ถูกใจสาวๆ มาก ใครชอบตู้แบบนี้ลองดูเป็นไอเดียวได้ครับ มีการแบ่งพื้นที่แขวนเสื้อผ้าได้มากมาย อีกด้านจะติดเป็นกระจกบานใหญ่ทั้งหมดเลยนะครับ และจัดเป็นมุมแต่งตัว วางโต๊ะเครื่องแป้งให้รับกับแสงธรรมชาติเลย พื้นที่บริเวณที่แต่งตัวนี้ เพดานสูงโปร่งมากๆ นะครับ ด้านบนยังเพิ่มช่องติดกระจกเปิดรับแสงอีกทาง ไม่สว่างก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว ส่วนภายในห้องน้ำก็เหมือนกับห้องนอนเล็กเลยครับ อ่างล้างหน้าสเปคเดียวกันเป๊ะ ก๊อกน้ำเลือกมาได้สวยหรูมีดีไซน์ดีทีเดียว ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระครับ ห้องอาบน้ำกั้นกระจกเทมเปอร์มาให้เช่นกัน พร้อมตำแหน่งติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาแล้วด้วย ชุดฝักบัวอาบน้ำก็เหมือนกับในห้องนอนเล็กครับ บริเวณที่อาบน้ำจะต่ำกว่าพื้นห้องน้ำอีกนิดหน่อยนะครับ ส่วนการวางตำแหน่งสุขภัณฑ์ก็เรียงตัวกันเหมือนเดิม แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย JUST SO    พื้นที่ใช้สอย 270 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้า 2 ที่จอดรถ และห้องแม่บ้าน KEEN   พื้นที่ใช้สอย 310 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้า 3 ที่จอดรถ LIVE   พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้า 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ MOST   พื้นที่ใช้สอย 418 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้า 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ ถึงแม้ว่าทั้งโครงการจะมีจำนวนบ้านมากถึง 156 หลัง แต่บรรยากาศโดยรวมภายในหมู่บ้านก็เงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัยมากเลยครับ พื้นที่ส่วนกลางก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ลูกบ้านทุกหลังสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ทั้งสระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น และห้องออกกำลังกาย ไม่ต้องกังวลว่านิติบุคคลจะดูแลพื้นที่ส่วนกลางได้ไม่ดีเพราะเราได้เห็นสภาพหมู่บ้านจริงกันก่อนตัดสินใจซื้อ หรือจะลองสอบถามกับลูกบ้านที่อยู่กันมาก่อนแล้วก็ได้ครับว่าสะดวกสบายมากน้อยแค่ไหน อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าใครสนใจโครงการ Nirvana Beyond Lite พระราม 9 หรือว่ากำลังมองหาบ้านเดี่ยวสวยๆ ในย่านนี้อยู่แล้ว ก็ลองแวะไปเยี่ยมชมกันได้ครับ
บียอนด์ ศรีนครินทร์ : รีวิวบ้าน

บียอนด์ ศรีนครินทร์ : รีวิวบ้าน

วันนี้เราจะพาไปเยี่ยมชมโครงการ บียอนด์ ศรีนครินทร์ บ้านเดี่ยวท่ามกลางธรรมชาติ ตรงข้ามสวนหลวง ร.9 ภายใต้คอนเซปต์ Ever Green Living ซึ่งทางโครงการเปิดบ้านสไตล์โมเดิร์นให้เราได้เข้าไปเก็บภาพมาฝากแฟนๆ กันครับ   การเดินทาง การเดินทางมายังโครงการนี่ค่อนข้างสะดวกทีเดียว เพราะสามารถเลือกเส้นทางในการเดินทางได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านถนนสุขุมวิท เข้าซอยอุดมสุข (สุขุมวิท 103) ตรงมาข้ามแยกตัดถนนศรีนครินทร์ แล้วเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 มาอีกนิดหน่อยก็จะเจอกับโครงการ บียอนด์ ศรีนครินทร์ อยู่ทางด้านขวามือ นับจากปากซอยอุดมสุขมาถึงหน้าโครงการก็มีระยะทางแค่ 6.6 กิโลเมตรเท่านั้นครับ ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่ การเดินทางเส้นทางแรกเราเริ่มจากปากซอยสุขุมวิท 103 หรือซอยอุดมสุข กันเลยนะครับ ใครใช้รถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีอุดมสุข แล้วก็ต่อรถเข้าซอยนี้ได้เลยครับ บริเวณปากซอยอุดมสุขทั้ง 2 ข้างทาง จะมีร้านขายอาหาร เยอะแยะให้เลือกซื้อหา การจราจรตรงช่วงปากซอยจะติดขัดอยู่สักหน่อยนะครับ เพราะมีรถสองแถวจอดรอรับผู้โดยสารกินเลนซ้ายไป 1 เลน เลยจากปากซอยมาเข้าหน่อยการจราจรก็เริ่มโล่งขึ้นแล้วครับ ในซอยนี้มีร้านอาหารอยู่เยอะเหมือนกันนะครับ จะมีอยู่ตาม 2 ข้างทางเป็นช่วงๆ ช่วงไหนมีรถจอดข้างทางเยอะ แสดงว่าตรงนั้นแหละครับ มีร้านอาหาร เราตรงเข้ามาในซอยอุดมสุขเรื่อยๆ ก็เจอป้ายบอกทางไปถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ข้างหน้าจะมีสะพานข้ามถนนศรีนครินทร์ เราตรงขึ้นสะพานไปทางประเวศเลยครับ เราขึ้นสะพานไปเลยนะครับ ตรงนี้จะเป็นถนนศรีนครินทร์ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางซีคอน ถ้าเลี้ยวขวาจะไปออกถนนบางนา-ตราด หรือไปทางเทพารักษ์ก็ได้ พอลงสะพานมาแล้ว จะเป็นถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แล้วนะครับ ถนนเส้นนี้จะมีโครงการบ้านจัดสรรอยู่เป็นระยะๆ ช่วงที่เราไปเป็นช่วงบ่ายๆ การจราคล่องตัวดีนะครับ แต่ได้ยินมาว่าช่วงเช้ากับช่วงเย็นรถจะมาติดอยู่บริเวณหน้าวัดตะกล่ำตรงนี้แหละครับ เลยจากวัดตะกล่ำมาอีกสักหน่อยก็ใกล้ถึงโครงการแล้วครับ ถึงแล้วครับ โครงการ บียอนด์ ศรีนครินทร์ อยู่ด้านขวามือ หรือถ้าจะเลือกเข้าจากทางถนนบางนา-ตราดก็ได้ พอลงทางด่วนบางนามาแล้ว วิ่งผ่านเซ็นทรับบางนามานิดหน่อยก็ให้เลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ พอมาถึงแยกตัดกับถนนอุดมสุขก็เลี้ยวขวาเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติฯ ได้เลย เส้นทางนี้นับจากลงทางด่วนมาก็แค่เกือบๆ 8 กิโลเมตร เท่านั้น สำหรับเส้นทางนี้เราสามารถเลือกเลี้ยวเข้าซอยเชลียง 7 หรือ ซอยบางนา-ตราด 21 ซึ่งถึงก่อนห้างเซ็นทรัลบางนาเล็กน้อยมาเข้าถนนอุดมสุขได้ด้วย ซึ่งเส้นทางนี้เหมาะกับใช้เดินทางจากโครงการมาช็อปปิ้งที่ห้างเซ็นทรัลมากครับ เพราะไม่ต้องออกถนนบางนาตราดไปกลับรถให้เสียเวลา เส้นทางที่ 2 เราเริ่มจากถนนบางนา-ตราด ฝั่งตรงข้ามไบเทค บางนา ใครมาทางด่วน มาลงสี่แยกบางนา แล้วใช้เส้นทางนี้ต่อเลยนะครับ เลยมาอีกจะเจอเซ็นทรัล ซิตี้ บางนา ติดกับเซ็นทรัล จะเป็นบิ๊กซี เลยจากบิ๊กซีมา เตรียมชิดซ้าย ตามป้ายบางกะปิเลยครับ เจอ SB Design Square แล้วชิดซ้ายไว้เลยครับ เลยจาก SB มานิดเดียว เราต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อไปเข้าถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวมาแล้วจะเจอวัดศรีเอี่ยมอยู่ทางซ้ายมือ จากนั้นขับตรงไปเลยครับ อาจจะมีโค้งเยอะหน่อยนะครับ ตรงมาเรื่อยๆ เราก็มาออกถนนศรีนครินทร์กันแล้ว ตรงมาตามถนนศรีนครินทร์เรื่อยๆ เราชิดซ้ายไว้นะครับ ข้างหน้าจะมีอุโมงค์ลอดผ่านแยกหนองบอน เราไม่ต้องลงอุโมงค์นะครับ เลยทางลงอุโมงค์มาแล้ว ให้ชิดขวาไว้นะครับ เพราะเดี๋ยวเราจะเลี้ยวขวาไปทางลาดกระบัง เลี้ยวขวามาแล้ว เราก็เข้าสู่ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 กันแล้วนะครับ คราวนี้ตรงไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางแรกเลยครับ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางถนนอ่อนนุช ออกถนนศรีนครินทร์ แล้วมาเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติฯ มาที่โครงการได้ หรือจะเลี่ยงไปวิ่งถนนวงแหวนตะวันออกแล้วเข้ามาทางเขตประเวศก็ได้อีกเช่นกัน เรียกว่าเส้นทางเดินรถรอบๆ โครงการนั้นมีให้เลือก ให้เลี่ยงรถติดได้เยอะดีเหมือนกันครับ นี่แค่เส้นทางหลักๆ เท่านั้น ถ้าใครที่คุ้นเคยถนนหนทางแถบนี้หน่อยก็จะรู้ว่า ตรอกซอกซอยย่านนี้เชื่อมโยงถึงกันได้หลายทาง ถึงบริเวณรอบๆ นี้จะมีปัญหารถติดค่อนข้างมาก แต่ยังมีทางเลี่ยงได้เยอะเลยไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่ครับ ในขณะเดียวกัน ถ้าใครอยากจะใช้บริการระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ หน้าโครงการก็หาเรียกได้ทั้งแท็กซี่ รถเมล์ และรถสองแถว ซึ่งมีให้เลือกหลายสายไปได้หลายเส้นทาง หรือถ้าจะต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สามารถทำได้ไม่ยากครับ สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุขเป็นสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุด แค่เรียกรถต่อไปอีกหน่อยก็สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายและรวดเร็วแล้วครับ วิเคราะห์รอบโครงการ อย่างที่ชื่อโครงการก็บอกชัดไว้แล้วว่า ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้สวนหลวง ร.9 จากหน้าโครงการไปไม่ไกลก็จะเจอทางเข้าสวนหลวง ร.9 แล้ว บริเวณใกล้เคียงนี้จะเป็นหมู่บ้านเดี่ยว และบ้านพักอาศัยเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะห่างไกลแหล่งช็อปปิ้ง และร้านค้าร้านอาหารชนิดขาดความอุดมสมบูรณ์ไปเลยนะครับ เพราะแหล่งช็อปปิ้งใหญ่ในย่านนี้ก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เช่น ห้างเซ็นทรัลบางนา ซีคอนสแควร์ พาราไดซ์พาร์ค เทสโกโลตัส แถมตลอดถนนเฉลิมพระเกียรติฯ ก็มีร้านอาหารเรียงรายอยู่มากมาย รวมถึงซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อก็รายล้อมอยู่ใกล้ๆ เช่นเดียวกับสาธารณูปโภคอื่นๆ ก็มีครบถ้วนทั้งโรงพยาบาล ธนาคาร โรงเรียน มหาวิทยาลัย และที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือ Landmark สำคัญอย่างสวนหลวง ร.9 ซึ่งถือเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้ผู้คนในย่านนี้ได้มาออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ ใกล้ชิดธรรมชาติ และสูดอากาศบริสุทธิ์กันได้เต็มปอด ในส่วนของพื้นที่ของโครงการจะมีลูกบ้านทั้งหมดเพียง 58 หลังเท่านั้น อีกทั้งทางโครงการยังกั้นรั่วรอบโครงการสูงถึง 6 เมตร จึงค่อนข้างได้เปรียบเรื่องความปลอดภัยและให้ความเป็นส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน โซนด้านหน้าของโครงการจะเป็นคลับเฮาส์ส่วนกลาง มีทั้งสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส สนามเด็กเล่น และสวนส่วนกลาง นอกจากนี้ระบบไฟฟ้าภายในโครงการก็เป็นระบบฝังใต้ดินทั้งหมด จึงไม่มีสายไฟระโยงระยางให้เกะกะสายตา ในขณะที่ระบบรักษาความปลอดภัยก็เป็นไปตามมาตรฐานทั้งกล้อง CCTV ทั่วโครงการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และระบบ Key Card เข้าออกโครงการครับ สำหรับแผนผังที่ดินของโครงการก็ไม่มีอะไรยากครับ ที่ดินมีลักษณะเป็นรูปตัว T จากหน้าโครงการลึกเข้าไปแล้วแยกออกเป็นซ้าย-ขวา ไม่มีซอยแยกซับซ้อนเพราะจำนวนบ้านมีไม่มาก บ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าไปในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ แต่ถ้าใครที่อยากได้บ้านหันหน้าไปทางทิศเหนือ ใต้ ก็ต้องเลือกในโซนด้านหน้าโครงการ แต่ก็มีจำนวนไม่มากนะครับ เข้ามาในโครงการจะเป็นถนนหน้ากว้าง 10 เมตร วิ่งตรงเข้าไปด้านในโครงการจะเป็นถนนกว้าง 9 เมตร ด้านขวามือจะเป็นคลับเฮาส์ของโครงการ เข้าไปชมคลับเฮาส์กันซะหน่อย เข้ามาแล้วจะเจอสระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็กไว้เรียบร้อย สระใหญ่ก็ลึกไม่เกิน 1.2 เมตรครับ มุมอาบน้ำข้างสระว่ายน้ำ เตียงพักผ่อนริมสระ ช่วงเย็นมานั่งเอนหลังได้ชิวๆ บรรยากาศสไตล์รีสอร์ทเลยนะครับ ไม่ธรรมดาจริงๆ ที่เห็นเป็นอาคาร 2 ชั้น ตอนนี้ชั้นล่างจะเป็นสำนักงานของนิติบุคคล ส่วนด้านบนจะเป็นฟิตเนส มีห้องอาบน้ำ ห้องแต่งตัว แยกชายหญิง อยู่ด้านล่างอาคาร ภายในห้องน้ำก็จะมีทั้งห้องอาบน้ำ และห้องสุขา สำหรับคนที่มาใช้บริการที่คลับเฮาส์ ด้านหลังสระว่ายน้ำ จะมีสนามเด็กเล่นเล็กๆ ปูพื้นด้วยหญ้าเทียม ครอบครัวที่มีลูกๆ ยังเล็กน่าจะชอบ พาชมบ้านตัวอย่าง แบบบ้านของโครงการมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ซึ่งแบ่งกันตามขนาดของที่ดินและพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ในขณะที่ลักษณะหน้าตาของบ้านแต่ละหลังก็ไม่ได้ต่างกันมาก ยังคงคงคอนเซปต์การออกแบบในแนวโมเดิร์นไว้ บ้านทุกหลังจะมีสัญญาณกันขโมย ลำโพง Bose ฝังฝ้า แอร์ฝังฝ้าแบบ Flow Way หนึ่งตัวที่ห้องนั่งเล่น และแอร์ติดผนังตามจำนวนห้อง รวมถึงเครื่องครัว สุขภัณฑ์ ตามมาตรฐานโครงการ และประตูรั่วพร้อม Remote Control ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลแบบคร่าวๆ ที่ทางโครงการจัดไว้ให้ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนอื่นๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขาย แต่ก่อนอื่นเราไปชมบรรยากาศในบ้านตัวอย่างกันดีกว่าครับ จะได้พอเห็นภาพและหน้าตาวัสดุต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น แบบบ้านที่เราได้ชมกันในครั้งนี้มีชื่อว่า Keen เป็นบ้านทรงโมเดิร์นบนที่ดินขนาด 52 ตร.วา ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ซึ่งมาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอยกว่า 310 ตร.ม. จุดเด่นภายในบ้านแต่ละหลังคือ การเล่นระดับพื้นที่ภายในให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ยังได้ความโอ่อ่า หรูหรา อยู่สบาย ซึ่งก็น่าจะถูกใจหลายๆ คนไม่มากก็น้อยครับ บ้าน Keen สูง 3 ชั้น บนที่ดินขนาด 52 ตร.วา แปลนบ้านชั้น 1 หน้าบ้านจอดรถได้ 3 คัน แปลนบ้านชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ครับ แปลนชั้นที่ 3 จะแบ่งเป็นห้องนอน 2 และพื้นที่ระเบียง รูปแบบบ้านจะออกแบบในสไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบหรู บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน ลานหน้าบ้านเป็นทรายล้างเล่นลายนะครับ ซึ่งต่างจากที่เห็นในบ้านตัวอย่าง เดี๋ยวเราไปชมรอบๆ บ้านกันก่อน พื้นที่ตรงนี้สามารถจอดรถได้คันหนึ่งพอดีๆ พื้นที่ข้างบ้านเหลือนิดหน่อย พอให้เดินไปยังหลังบ้านได้ พื้นที่รอบบ้านจะตกแต่งเป็นสวน ปูหญ้าให้ด้วย ภายใต้คอนเซปต์ Ever Green Living พื้นที่สวนหลังบ้านกว้างประมาณ 2 เมตร บ้านจริงจะเป็นพื้นหญ้าสีเขียวปกตินะครับ ไม่ได้แต่งสวนให้แบบนี้ ลานด้านข้างของบ้านตัวอย่างจะปูพื้นกระเบื้องไว้ แต่บ้านจริงจะเป็นสนามหญ้าทั้งหมดครับ มุมนั่งเล่นหลังบ้านส่วนนี้ทางโครงการก็ตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียเช่นกันครับ หน้าบ้านมีซุ้มประตูเล็กดูหรูหราด้วยกระเบื้องหินอ่อนครับ จากซุ้มประตูเข้ามา ก็จะเป็นบันไดเข้าสู่ตัวบ้าน เดี๋ยวเราเข้าไปดูในตัวบ้านกันต่อ สวิชไฟดีไซน์เรียบหรู เข้ามาในบ้านแล้วมองตรงไปจะเป็นห้องทานอาหาร ด้านขาวมือจะเป็น Living Room Living Room พื้นที่จะค่อนข้างกระทัดรัด อาจจะดูไม่ใหญ่สมกับที่มีถึง 4 ห้องนอน แต่จะให้ความรู้สึกอบอุ่นซะมากกว่า บ้านตัวอย่างจัดวางโซฟา L-Shape พร้อมชั้นวางทีวีเล็กๆ บริเวณห้องนั่งเล่นเป็น Double Ceiling ให้บรรยากาศโอ่โถง หรูหรามากเลยทีเดียว ช่องแอร์ฝังฝ้าบริเวณห้องนั่งเล่น ด้านหลังมีหน้าต่างสูงคอยให้แสงสว่างเข้ามา ทำให้ไม่ดูทึบ จนดูอึดอัด มีช่องหน้าต่างจากห้อง Master Bedroom มองลงมาเห็นที่ Living Room บันไดขึ้นชั้น 2 จะแอบอยู่ด้านซ้ายมือก่อนลงไปที่โต๊ะทานอาหาร เดินเลยเข้ามาด้านในเป็นจุดที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ท่าน พื้นบริเวณชั้น 1 จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ อยู่ติดกับห้องครัว จาก Living Room จะดรอปพื้นลงมาระยะประมาณบันได 3 ขั้น โต๊ะทานอาหารวางได้ขนาด 6 ท่านเลยนะครับ มีหน้าต่างอยู่ด้านหลังด้วย มองออกไปเห็นสวนได้นอก ให้ความร่มรื่นเวลาทานอาหาร อีกด้านของโต๊ะทานอาหารจะมีประตูกระจกบานเลื่อน ออกไปยังสวนด้านนอก ห้องครัวในบ้านตัวอย่างจะทำเป็นประตูกระจกบานเลื่อน และกระจกเข้ามุม กั้นห้องครัวให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่บ้านจริงไม่มีให้นะครับ ประตูกระจกบานเลื่อนตรงห้องครัวเป็นอลูมิเนียมสีดำตามแบบเลยครับ ชุดครัวที่ทางโครงการเลือกให้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว U ของ Star Mark ตามแบบในบ้านตัวอย่างเลย มีหน้าต่างอยู่ทั้ง 2 ด้าน เพื่อให้แสงเข้ามาอย่างเพียงพอ และเป็นการระบายกลิ่นอาหารออกนอกตัวบ้านด้วย จะได้เตาไฟฟ้า 4 ตัวของ Teka มาพร้อมฮูดดูดควันของ Teka เหมือนกัน ซิ้งค์ล้างจานแบบฝัง มีที่พักจานข้างๆ ด้านล่างจะเป็นตู้และลิ้นชักเก็บของ ลิ้นชักเคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบ Soft Close ในครัวจะมีประตูออกมาที่สวนด้านนอก ส่วนที่ติดกับห้องครัวมีห้องน้ำอยู่อีก 1 ห้อง ห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้ค่อนข้างจะเล็กกระทัดรัดอยู่สักหน่อยนะครับ จุดที่วางโถสุขภัณฑ์นี่อยู่ใต้บันไดพอดีเลยนะครับ ถ้าไม่ระวังอาจจะชนเอาได้ ห้องน้ำชั้นล่างอยู่ตรงตำแหน่งใต้บันได เวลาลุกจากนั่งชักโครกต้องระวังกันหน่อยสำหรับคนตัวสูงๆ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมมีตู้เก็บของด้านล่าง กระจกเงาจะได้บานสูง Shower Box จะกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ พื้นที่ใน Shower Box ขนาดก็กระทัดรัดตามขนาดห้องน้ำ มีช่องระบายอากาศอยู่ด้านบน ติดกับห้องน้ำ เป็นห้องนอนที่มีขนาดเล็กที่สุด บ้านตัวอย่างจะตกแต่งเป็นห้องทำงาน วางตู้โชว์ Daybed และโต๊ะทำงานเข้าไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นห้องทำงานเล็กๆ ได้เลยครับ หรือถ้าจะทำเป็นห้องนอน วางเตียงขนาด 3 ฟุต กำลังดีครับ ถ้าใหญ่กว่านี้จะดูอึดอัดเกินไป หน้าต่างมองออกไปที่ที่จอดรถหน้าบ้าน มุมนี้ตกแต่งไว้เป็นโต๊ะทำงานให้ดูเป็นตัวอย่าง สำหรับชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้อง Master Bedroom แบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะครับ เมื่อขึ้นมาแล้วด้านซื้อมือจะเป็นห้องนอน ส่วนด้านขาวมือจะเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet และห้องน้ำ บันไดขึ้นชั้น 2 ไม่มีราวจับนะครับ ทั้ง 2 ด้านเป็นผนังปูน ขึ้นมาถึงจะเจอประตูเข้าห้อง Master Bedroom แผงควบคุมระบบสัญญาณกันขโมย จะอยู่บริเวณหน้าห้องนอนใหญ่ เข้ามาในห้องแล้วจะแยกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอน ฝั่งขวาเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet และห้องน้ำ เราเข้ามาในห้องนอนกันก่อน ภายในห้องนอนก็ไม่ได้ใหญ่มากนะครับ เนื่องจากพื้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง เพื่อทำเป็นห้องแต่งตัว และยังถูก Double Ceilling ของ Living Room กินพื้นที่ขึ้นมาด้วย พื้นของชั้น 2 และชั้น 3 จะปูพื้นด้วยปาร์เก้ไม้สัก วางเตียง King Size ลงไปแล้วพื้นที่รอบๆ เตียงยังเหลือให้ตกแต่งได้อีกเพียบเลยครับ ข้างเตียงด้านซ้ายจะมีหน้าต่างเล็กๆ ปลายเตียงมีพื้นที่เลหือเยอะให้ Built in ชั้นวางทีวี และชั้นวางของได้ บรรยากาศภายในห้องนอนใหญ่ดูโปร่งสบายมากครับ มีหน้าต่างบานเลื่อน มองลงไปเห็น Living Room ที่อยู่ด้านล่าง มองจากหน้าต่างห้องนอนใหญ่ลงไปจะเห็นห้องนั่งเล่นแบบนี้ครับ มุมห้องอีกด้านมีหน้าต่างบานสูงเข้ามุมไว้ด้วย เมื่อแสงเข้ามาในห้องแล้ว ทำให้รู้สึกว่าห้องโปร่งโล่ง ไม่ดูอึดอัด บานด้านขวามือจะเป็นบานเลื่อน ติดกับบ้านข้างๆ ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นระเบียง ออกมาด้านหน้าบ้าน เราออกจากห้องนอนข้ามไปดูห้องแต่งตัวที่อยู่อีกด้านกันต่อ ระหว่างทางเดินมีหน้าต่างอยู่อีก 1 บาน ห้องแต่งตัวปรับพื้นที่ขึ้นไปสูงกว่าห้องนอนอยู่ประมาณบันได 3 ขั้น ตู้ และชั้นวางของทั้งหมดจะ Built-in มาให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้นนะครับ ภายในห้องจะ Built in เป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet มีเคาน์เตอร์กระจกเงาอยู่ตรงกลาง บ้านไหนที่มีเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้เยอะๆ ลองเอาไอเดีย Built-in ตู้แบบนี้ไปลองใช้ดูได้ ภาพมุมกว้างของห้องแต่งตัว ในห้องจะมีหน้าต่างบานสูง สามารถเลื่อนเปิดได้ มองลงไปเห็นสวนหลังบ้าน วิวจากหน้าต่างห้องแต่งตัวครับ แทรกด้วยสีเขียวสบายตา มองเข้าไปด้านในสุด จะเป็นห้องน้ำนะครับ ผนังห้องน้ำจะเป็นกระจกเข้ามุม ห้องอาบน้ำนี่เซ็กซี่ดีทีเดียว มุมนี้มองจากห้องแต่งตัวเข้าไปที่ห้องน้ำครับ เข้าในห้องน้ำจะเจอ Shower Box อยู่ตรงกลางเลยนะครับ ขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียว ชุดฝักบัวและ Rain Shower ของ Kohler ในห้องอาบน้ำมีมุมเล็กๆ ก่อเป็นที่นั่งไว้ให้ด้วย อีกด้านจะเป็นอ่างล้างหน้า และอ่างอาบน้ำ อยู่ติดกับผนังกระจก ภายในห้องน้ำจะตกแต่งด้วยดทนสีเข้ม ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ อ่างอาบน้ำจะใช้ของ Kohler อ่างอาบน้ำมีระบบควบคุมตามแบบในรูปเลยครับ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ อ่างล้างหน้าจะเป็นทรงสีเหลี่ยมของ Kohler เหมือนกันนะครับ มาพร้อมเคาน์เตอร์สีดำเข้ม มีพื้นที่วางของเยอะเลยครับ ติดกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า มีหน้าต่างอยู่อีก 1 บาน คอยให้แสงสว่าง มองย้อนกลับมาทาง Shower Box จะมีโถสุขภัณฑ์แอบอยู่ข้างๆ จุดที่วางโถสุขภัณฑ์จะมาแอบอยู่อีกด้านนะครับ พื้นที่ค่อนข้างเล็กไปสักหน่อย ชุดโถสุขภัณฑ์มาพร้อมสายชำระ มีหน้าต่างบานเล็กๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย ภายในห้องนอนใหญ่มีชุดลำโพง Bose ฝังฝ้าติดตั้งมาให้พร้อม ชั้น 3 จะเป็นห้องนอนอีก 2 ห้องขนาดเท่าๆ กัน พร้อมกับมีระเบียงใหญ่อยู่ด้วย จากชั้น 2 เราขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 3 กันต่อ โถงบันไดทางขึ้นชั้น 3 จากโถงบันไดที่ชั้น 3 มองออกไปเห็นระเบียงใหญ่ด้านนอก เราเลี้ยวเข้ามาดูในห้องทางขวามือกันก่อนนะครับ ห้องนี้จะอยู่เหนือห้องแต่งตัวที่ชั้น 2 นะครับ จะได้นึกภาพตามกันได้ พื้นที่ห้องถือว่ากว้างพอสมควรนะครับ วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ พื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะเลยครับ Built in เป็นชั้นวางของและชั้นวางทีวีได้เลย ข้างเตียงอีกด้านมีพื้นที่เหลือเยอะให้วางโต๊ะทำงาน เหมือนในบ้านตัวอย่างยังได้ มีหน้าต่างคอยให้แสงสว่างจากด้านหลังโต๊ะทำงาน ติดกับโต๊ะทำงานมีประตูกระจกบานเลื่อน ออกไปที่ระเบียงใหญ่ด้านนอก มุมนี้มองจากระเบียงกลับเข้ามาที่ห้องนอนครับ จะเห็นว่าภายในห้องกว้างขวางดีทีเดียว ห้องน้ำจะอยู่อีกด้าน เป็นจุดที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งอยู่หน้าห้องน้ำ การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มีตู้เก็บของด้านล่าง กระจกเงาจะได้เป็นแนวยาว โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่หน้า Shower Box Shower Box จะอยู่ด้านในสุดเลยนะครับ จะได้เป็นชุดฝักบัวไม่มี Rain Shower ให้เหมือนห้อง Master ประตูกระจกบานเลื่อนออกไปที่ระเบียงเป็นอลูมิเนียมสีดำ พร้อมระบบ Double Lock ตามภาพเลย พื้นที่ระเบียงถือว่าใหญ่พอสมควรนะครับ สามารถจัดกิจกรรมเล็กๆ ภายในครอบครัวได้เลย ระเบียงจะเข้าออกได้ทั้ง 2 ห้องบนชั้น 3 เลยนะครับ ทีนี้เราข้ามไปดูห้องนอนอีกห้องกันต่อ ขนาดของห้องนี้จะพอๆ กับห้องเมื่อกี้นะครับ แต่การตกแต่งที่ต่างกัน ทำให้ห้องนี้ก็โปร่งโล่ง เลยดูกว้างมากกว่า ถ่ายจากประตูห้องนอนเข้าไปในห้องก็พอจะเห็นภาพว่าห้องนี่ดูกว้างขวางไม่น้อยเลย มุมห้องด้านซ้ายโครงการตกแต่งเป็นมุมแต่งตัว ที่มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งและเดย์เบดเล็กๆ อยู่รวมกัน ดูน่ารักดีนะครับ ติดกันจะเป็นห้องน้ำ การจัดวางและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะคล้ายๆ กับอีกห้องเลยนะครับ ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะได้ตามแบบนี้เลย แต่กระจกเงาของห้องนี้จะเล็กกว่า โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระเหมือนห้องก่อนหน้า ห้องอาบน้ำกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์อย่างในรูปเลยครับ จะได้ชุดฝักบัวเหมือนกันนะครับ ไม่มี Rain Shower ให้ ใน Shower Box จะมีช่องระบายอากาศอยู่ด้านบน พื้นที่ในห้องมีเยอะเลยนะครับ วางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบเลยครับ พื้นที่ในห้องนอนกว้างมาก บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่โล่งเหลือเฟือ ห้องนี้ปลายเตียงจะไม่เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้นะครับ ห้องนี้ปลายเตียงจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ อาจจะต้องใช้ชั้นวางทีวีแทนการ Built in หน้าต่างกระจกบานใหญ่หันออกไปทางหน้าบ้าน เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ หน้าต่างที่ได้จะเป็นบานเลื่อนบานใหญ่ด้านบน และด้านล่างเป็นบาน Fix อีกดานจะมีประตูบานเลื่อนออกไปที่ระเบียง จะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เหมือนห้องแรก มองจากระเบียงเข้าไปด้านในโครงการ สำหรับตัวโครงการบียอนด์ ศรีนครินทร์ถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีเลยนะครับ สภาพแวดล้อมรอบๆ เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ ไปหน่อยก็เป็นสวนหลวง ร. 9 สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือเรียกได้ว่าเป็นปอดของย่านนี้เลยก็ว่าได้ เรื่องการเดินทางก็ถือว่าสะดวกพอสมควร ที่ตั้งโครงการไม่ได้อยู่นอกเมืองจนเกินไป การเดินทางเข้าเมืองมีให้เลือกหลายเส้นทาง แถมอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าอีกต่างหาก เรื่องทำเลถือว่าหายห่วงเลยครับ เรื่องวัสดุที่ติดมากับตัวบ้านก็ถือว่าเป็นวัสดุเกรดพรีเมี่ยมเหมาะสมกับราคาระดับนี้ ส่วนเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ของโครงการหรือของตัวบ้านเอง  ถ้ารูปภาพที่เรานำมาให้ชมยังไม่จุใจหรืออาจจะยังเห็นภาพรวมๆ ของโครงการไม่ชัดเจน สามารถเดินทางไปชมโครงการด้วยตัวเองได้ทุกวันนะครับ ดูรายละเอียดโครงการหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยนะครับ โทร : 1787 www.nirvana-group.com www.nirvanabeyond.com E-Mail : contact@nirvana-group.com