Tag : สาทร - ราชพฤกษ์

Aspire Sathorn – Ratchapruek เปลี่ยน..ชีวิตให้เพียบพร้อม ต่อติดทุกการเดินทาง : รีวิวคอนโด

Aspire Sathorn – Ratchapruek เปลี่ยน..ชีวิตให้เพียบพร้อม ต่อติดทุกการเดินทาง : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปอัพเดทความคืบหน้าล่าสุดของคอนโดมิเนียมใหม่ที่อยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีบางหว้า อินเตอร์เชนจ์ เพียงแค่ก้าวเดียวจาก Skywalk กับโครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek (แอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์)” แบรนด์คอนโดคุณภาพจาก AP Thai นั่นเองค่ะ หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณสองปีก่อนหลายคนอาจจำกันได้ว่าทางโครงการได้เคยเปิดจองกันไปแล้ว และก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมากๆ แต่ด้วยประสบการณ์และชื่อเสียงที่พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน ทำให้ทางแบรนด์อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกบ้าน โดยเล็งเห็นอนาคตว่าการมาถึงของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ที่ทำการเชื่อมต่อกับ BTS สถานีบางหว้า จะทำให้ทำเลย่านนี้ดูคึกคัก น่าสนใจ และเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น จึงได้หยุดทำการขายและมีการคืนเงินให้แก่ผู้จองเพื่อพัฒนาโครงการให้ดีขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันทางโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างใกล้เสร็จเต็มทีแล้วนะคะ และการกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ เพราะจุดเด่นนอกจากเรื่องของทำเลศักยภาพแล้ว ตัวอาคารยังถูก Re-design และปรับวาง Layout ภายในใหม่ทั้งหมด รวมถึงคัดสรรแต่วัสดุพรีเมี่ยมที่ดีกว่าเดิมมาใช้กับโครงการในราคาที่แทบไม่ต่างจากเดิมเลย เรียกว่าทุกคนสามารถจับต้องได้เช่นเดิม ซึ่งจะมีการ Pre-Sale อีกครั้งในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561 นี้ ทำเลและการเดินทาง   ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า โครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek” ตั้งอยู่บนทำเลที่น่าสนใจจริงๆ ค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ใกล้กับท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากถนนราชพฤกษ์และถนนเทอดไท จุดเด่นคืออยู่ติด BTS สถานีบางหว้าที่อยู่บนถนนเพชรเกษมตัดกับถนนราชพฤกษ์ บริเวณโดยรอบโครงการเป็นย่านชุมชนเก่าที่คึกคักพอสมควร เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยซะส่วนใหญ่ มีทั้งบ้านเรือนรวมถึงคอนโดฯ ทั้ง High Rise และ Low Rise อยู่หลายโครงการ โดยปกติแล้วคอนโดฯ ในโซนนี้ มักโฆษณาว่าอยู่ติดรถไฟฟ้า แต่ แอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์ นับว่าเป็นโครงการเดียวที่อยู่ติด BTS บางหว้ามากที่สุดในตอนนี้ค่ะ เพราะมี Skywalk ติดหน้าโครงการเลย นับว่าสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากทีเดียว   สำหรับการเดินทางของคนใช้รถยนต์ก็ถือว่าสะดวกและคล่องตัวอยู่พอตัวเลยนะคะ เพราะด้านหน้าโครงการสามารถกลับรถได้เลย และอย่างที่บอกไปว่าโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ตรงหัวมุมถนนเทอดไทพอดี โดยถนนเทอดไทนั้นเป็นถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมไปออกถนนบางแค และถนนเพชรเกษมได้ ซึ่งก็ช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรในชั่วโมงคับคั่งได้เป็นอย่างดี แถมถนนบางแค และถนนเพชรเกษมก็มีร้านค้า, ตลาดสด, ห้างสรรพสินค้า ให้เลือกจับจ่ายมากมาย สาธารณูปโภคต่างๆ ก็มีครบถ้วนทั้งสถานศึกษา, โรงพยาบาล, ศาสนสถาน ไปจนถึงหน่วยงานราชการต่างๆ ใครที่ทำงานในเมืองก็น่าจะถูกใจและสะดวก เพราะจากโครงการสามารถวิ่งตรงเข้าใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ด้วย 2 สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งสะพานกรุงเทพ (ห่างประมาณ 5 กิโลเมตร) และสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน (ห่างประมาณ 6 กิโลเมตร) ก็มุ่งตรงสู่ย่าน CBD อย่างสาทร, สีลม, พระราม 4 แล้วค่ะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บอกได้คำเดียวว่าสะดวกที่สุดค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทำให้มีรถแท็กซี่ รวมถึงวินมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอด ที่สำคัญคืออยู่ติด BTS สถานีบางหว้า สามารถเดิน Skywalk มาลงหน้าโครงการได้สบายๆ หากใครอยากจะเข้าเมืองไปช็อปปิ้งเพลินๆ ก็สามารถใช้ BTS จากสถานีบางหว้า (ต้นสาย) นั่งไปลงที่สถานีสยาม ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางระหว่างสายสุขุมวิทและสายสีลม ที่มีห้างสรรพสินค้ามากมาย อาทิ สยามพารากอน, สยามสแควร์วัน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยใช้เวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกของการเดินทางสำหรับคนเมืองที่อยากหนีความจอแจบนท้องถนน สามารถใช้เรือด่วนในคลองภาษีเจริญที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการได้ ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม และท่าเรือด่วนสาทร ศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของกรุงเทพแล้วค่ะ และในอนาคตสถานีบางหว้าก็จะกลายเป็นศูนย์กลางระบบการคมนาคมขนาดใหญ่ด้วยการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินอีกด้วย เรียกว่าถ้าเปิดให้ใช้บริการเมื่อไหร่ ความสะดวกสบายและตัวเลือกในการเดินทางก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น วันนี้เราเริ่มต้นการเดินทางจากสยาม นั่งมาลงสถานีบางหว้านะคะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 25 นาที จากสถานีจะมองเห็น MRT สายสีน้ำเงิน ที่เป็น Interchange กับ BTS สถานีบางหว้าเลยนะคะ ซึ่งก็ดูก่อสร้างใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าเปิดใช้บริการเมื่อไหร่ ตัวเลือกในการเดินทางก็มีเพิ่มขึ้นเท่านั้น สำหรับทางไปคอนโดจะอยู่ที่ทางออก 3 และ 4 นะคะ สังเกตป้ายที่บอกไปท่าเรือ สะพานตากสิน-เพชรเกษม และเดินตามลูกศรไปเลยค่ะ เดินลงบันไดมาจะเจอ Skywalk ก็เลี้ยวขวาไปตามทางเลยค่ะ ทางเดินเชื่อมจากตัวสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าข้ามคลองภาษีเจริญมายังฝั่งเทอดไทจะทอดยาวไปจนถึงหน้าคอนโดเลยนะคะ โดยทางโครงการได้ทำการเชื่อมต่อทางเดินบน Skywalk ให้ถึงหน้าทางเข้าโครงการเลยทีเดียว ระห่างทางเดินจะมีป้ายบอกทางอยู่ตลอดเลยนะคะ แถมยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่ตามจุดเป็นระยะๆ ด้วย ซึ่งก็ให้ความอุ่นใจเวลาเดินไปกลับคอนโดฯ ได้ระดับหนึ่งเลยค่ะ จาก Skywalk มีบันไดลงมาถึงท่าเรือ สะพานตากสิน-เพชรเกษมเลยนะคะ ถ้าใครอยากหลีกเลี่ยงรถติด ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกสบายมากๆ ตัวโครงการตั้งอยู่บริเวณตรงหัวมุมถนนเทอดไทพอดี ดังนั้นจึงสามารถเดินตามป้ายที่ชี้ไปทางเทอดไทได้เลยค่ะ เดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นตัวคอนโดแล้วค่ะ เพราะอยู่ห่างจาก BTS สถานีบางหว้าเพียง 450 เมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ จาก Skywalk จะมองเห็นถนนเส้นราชพฤกษ์หน้าโครงการเลยนะคะ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดกลับรถไม่ไกล หากจะเข้าเมืองไปสาทรก็สามารถกลับรถใต้สะพานและมุ่งตรงไปได้เลย บริเวณใกล้ๆ โครงการเป็นย่านชุมชนเก่านะคะ ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยซะส่วนใหญ่ นอกจากบ้านเรือนก็จะมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่บ้างนะคะ ถ้าใครอยู่คอนโดและใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก เดินลงมาจากสถานีซื้อข้าวกลับไปคอนโดก็เป็นเรื่องที่สะดวก ติดกับทางลงโครงการ จะเป็นทางลงฝั่งถนนเทอดไทนะคะ ซึ่งเป็นย่านชุมชนเก่าที่คึกคักไม่เบา เนื่องจากเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะเชื่อมต่อกับถนนบางแค และเพชรเกษมได้นั่นเอง ถัดจากทางลงฝั่งเทอดไท ก็จะเป็นทางลงสู่โครงการแล้วค่ะ ซึ่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าเลย เปรียบเสมือนเป็น private walk way ประตูทางเข้าโครงการจะติดกับ Skywalk เพียงแค่ก้าวเดียวเลยนะคะ แถมยังเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้านด้วยการใช้ระบบ keycard ในการเข้าออก ที่ดินของโครงการฝั่งที่ติดกับถนนราชพฤกษ์จะมีคลองระบายน้ำเล็กๆ กั้นอยู่ จากภาพจะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่ติดหัวมุมถนนเทอดไทเลยนะคะ   เจาะลึกโครงการ   โครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek” เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดิน 4-3-13.6 ไร่ แบ่งออกเป็นร้านค้า 1 ยูนิต และที่พักอาศัย 1,049 ยูนิต มาพร้อมที่จอดรถ 419 คัน (คิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน) และมี EV Fharger ด้วย สำหรับลิฟท์โดยสารนั้นมีทั้งหมด 5 ตัว และมี Service Lift ไว้ขนของอีก 1 ตัว อย่างที่บอกไปว่าทางโครงการได้ทำการ Re-design ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เข้ากับยุค 2018 แบบที่ไม่มีใครเคยเห็นจากโครงการไหนของ Aspire มาก่อน ตัวอาคารถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่าย มี Façade ปกคลุมอาคารไว้ และแฝงความเก๋ด้วยการไล่โทนสีอ่อนเข้มแบบ Gradient ให้ตัวอาคารเกิดความมีมิติที่สวยงาม ดูแปลกตาและน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสีประจำโครงการอย่างสีมัสตาร์ด ที่นำมาตกแต่งรายละเอียดภายในอาคารบางจุด เพื่อเพิ่มสีสันและเป็นกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ให้กับโครงการ   สำหรับพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็จัดเต็มแบบสุดๆ เรียกว่าครบครันและคุ้มค่าเกินราคามากเลยค่ะ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของพื้นที่ส่วนกลางถูกออกแบบโดยหลอมรวมความต้องการใช้ชีวิตแบบสังคมยุคใหม่เข้ากับความเป็นส่วนตัวที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานร่วมกันและแยกเป็นส่วนตัว ในรูปแบบของ Facility ที่ใหญ่ขึ้นและมีความหลากหลายมากกว่าเดิม รวมถึงดีไซน์ให้ต่างไปจากเดิมและน่าใช้งานได้มากขึ้น เริ่มตั้งแต่บริเวณ Ground Floor พื้นที่ Lobby อันหรูหรา มาพร้อม multi function แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Reception Hall, Lobby Loumge และ Semi Outdoor Area ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง โดยการทำ Co-working & sharing space ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งทํางาน หรือรีแลกซ์ได้ แถมยังมี Internet แบบ Fibre optic เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้ให้บริการอีกด้วย จาก Master Plan จะมีทางเข้าโครงการจากถนนราชพฤกษ์นะคะ และมีจุด Drop-off ก่อนจะเข้าสู่ Lobby พื้นที่ Lobby ของโครงการออกแบบมาให้เป็น Co-working and Sharing Space อย่างสมบูรณ์ ด้วยจุดที่ลูกบ้านสามารถใช้ทํางาน ได้ถึง 4 จุดตามไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย Social lounge, meeting room, semi outdoor lounge และ techno booth ภาพบรรยากาศจำลองส่วนของโถงต้อนรับ Lobby Lounge ที่ดูหรูหราและทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Social Library Lounge ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Social Library Lounge โซนห้องสมุดที่มาพร้อมโต๊ะนั่งอ่านหนังสือแบบ Indoor สามารถนั่งคุยงาน ทํางานในห้องแอร์แบบ Casual ได้ แต่ถ้าใครต้องการความ private ก็เปลี่ยนไปใช้ Private Meeting Room อีกโซนแทนได้ค่ะ ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Private Meeting Room ออกแบบไว้รองรับลูกบ้านได้ถึง 6-8 คน สําหรับคุยงานจริงจัง ซึ่งสามารถปิดเป็นที่ประชุมได้แบบ private ซึ่งมาพร้อม TV ให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วยค่ะ ภาพบรรยากาศจำลองห้อง Techno Booth ออกแบบให้ลูกบ้านสามารถมานั่งทำงานหรือติวหนังสือคนเดียว หรือเป็นคู่ได้ แถมยังมี TV ให้สามารถต่อ Laptop Present งานได้ แปลนอาคารชั้น 3 ซึ่งแบ่งเป็นที่จอดรถ และเป็นส่วนของที่พักอาศัย โดยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นนี้เลยค่ะ ในส่วนของสระว่ายน้ำ, ฟิตเนต และความสะดวกสบายอื่นๆ ถูกยกขึ้นไปไว้บนพื้นที่ชั้น 8 และ Rooftop ทั้งหมดเลยนะคะ โดยพื้นที่ชั้น 8 นั้นมีสระว่ายน้ำแบบ Overlap Pool ความยาวถึง 40 เมตร โดยจะแบ่งการใช้งานไว้ 2 ฟังก์ชั่น คือ Active Zone มาพร้อมสระว่ายน้ำ Lap pool ความยาวขนาด 25 เมตร สำหรับนักออกกำลังกายแบบจริงจัง ในส่วนของ Passive Zone แบ่งออกเป็น Relaxing Zone ประกอบด้วย Sunken bed, Social pool, kid pool, sunbed บนผิวน้ำ และ Pool Cabana/Pavilion แถมในโซนสระว่ายน้ำยังมีโซน Multifunction Deck เพื่อลูกบ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสำหรับนั่งทำงานและพักผ่อน ซึ่งเป็นออฟชั่นเสริมจากชั้น GF ที่ทางโครงการตั้งใจมอบให้แก่ลูกบ้าน แปลนของพื้นที่ชั้น 8 เป็นส่วนของ Facility สำคัญอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนสนะคะ ซึ่งชั้นนี้จะมียูนิตห้องพักอาศัยรวมด้วย ภาพบรรยากาศจำลอง Facility ชั้น 8 ในส่วนของ Social Pool, kid Pool และ Sunken Bed ภาพบรรยากาศจำลอง Facility ชั้น 8 ที่ออกแบบ Landscape ใหม่ โดยทำทางเดินขนานไปกับผืนน้ำ นับว่าเป็นดีไซน์ที่แปลกใหม่ต่างจากโครงการ Aspire อื่นๆ สำหรับ Fitness ถูกวางขนานไปกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยกระจกใสให้ลูกบ้านได้ออกกำลังกายอย่างเพลิดเพลิน และเป็นครั้งแรกของแบรนด์ AP ที่มุ่งเน้นการออกกำลังกายอย่างแท้จริง โดยจัดเต็มเครื่องเล่นใหม่ๆ อย่าง Matrix และ Johnsons ให้ลูกบ้านแบบไม่มีกั๊ก ซึ่งแบ่งพื้นที่ทั้งหมดออกเป็น 5 Sections ได้แก่ Boxing Arena & dummies, ลานเครื่องออกกําลังกายที่มีถึง 5 เครื่อง รวมไปจนถึง S-Drive และ Rower, 2 Dumbbell racks & 2 benches, Cable Machine และ Multi-purpose area โซนเอนกประสงค์หลากหลายกิจกรรม เช่น Yoga, Yoga ball และ free style ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องฟิตเนสที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายอย่างครบครัน แถมยังดีไซน์โฉบเฉี่ยวเพิ่มความเก๋ด้วยการฝังเส้นไฟ LED สีเหลืองมัสตาร์ด (สีประจำโครงการ) ลงที่ขอบพื้น มาต่อกันที่ Rooftop พื้นที่ชั้น 32 ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดถึง 1,200 ตร.ม. เลยนะคะ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่งคือ Corecreational Sky Park และ Rooftop Garden เพื่อให้ลูกบ้านได้พักผ่อนในรูปแบบของลานกิจกรรม เป็น Sharing space ไม่ว่าจะเป็น Relax Sitting และ Amphitheater, Jogging track, BBQ area, Outdoor TRX และยังมีลานสำหรับกีฬาแบบกลุ่ม (Co-Sporting) ที่รองรับกีฬาหลากหลายประเภทเช่น ฟุตซอล, แฮนด์บอล, แชร์บอล, โยคะ อีกด้วย แปลนของพื้นที่ชั้น 32 นะคะ ซึ่งเป็น Facility บน Rooftop ขนาดใหญ่ ภาพมุมสูงอาคาร จะมองเห็นเนื้อที่บนดาดฟ้าทั้งหมด 1,200 ตร.ม. โดยแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือ Corecreational Sky Park และ Rooftop Garden เพื่อให้ลูกบ้านพักผ่อนได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมี Rooftop Garden พื้นที่สีเขียวและเป็น Buffer กันความร้อนเข้าตึกแล้ว ยังมีพื้นที่ 20% เป็น Urban Farming ที่ลูกค้า สามารถปลูกผักสลัดและสมุนไพรต่างๆ เพื่อนำมาประกอบอาหารได้ โดยโครงการมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดทุกวัน และมีจุดชมวิวเมือง City Scape ได้ 360 องศา มี Multifunction Deck สำหรับนั่งทำกลางเป็นจุดสูงสุด ของถนนราชพฤกษ์ได้พร้อมๆ กัน   เปิดแบบห้อง Aspire Sathorn – Ratchapruek ครั้งแรก!   สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek”  มีให้เลือกด้วยกันถึง 4 แบบด้วยกันนะคะ มีตั้งแต่ห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร, 1 Bedroom ขนาด 31-32 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร และ 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 45-48 ตารางเมตร ทั้งนี้ทางแบรนด์ยังได้พัฒนา Layout รูปแบบใหม่ให้ดีและคุ้มค่ามากกว่าเดิม โดยนำมาใช้เป็นโครงการแรกของ AP ด้วย ซึ่งภายในห้องแต่ละยูนิตมีจุดเด่นคือฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลายรูปแบบ ถูกออกแบบมาเพื่อความโปร่งโล่ง สบาย ตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้านได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังจัดเต็มวัสดุให้เกินราคาจริงๆ ค่ะ เพราะเท่าที่เราสอบถามข้อมูลมาคร่าวๆ ก็พอจะเห็นถึง Spec ที่ต่างไปจากเดิมมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นประตูกั้นห้อง Full height ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา, ห้องน้ำสําเร็จรูปที่ใช้กระเบื้องเพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกเหมือนห้องน้ำทั่วไป ข้อดีคือทำความสะอาดง่าย และมี service ที่ดีกว่า, ภายในครัวใช้กระเบื้องครัวขนาด 60 x 60 นิ้ว เหนือกว่าโครงการอื่นๆ ที่มักใช้กระเบื้องขนาด 30 x 30 นิ้วเท่านั้น และชุดครัว Hob hood ก็ใช้ Teka Sink MEG ด้วยค่ะ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ลูกบ้านจะได้รับทั้งหมดเลยนะคะ เพราะทางโครงการจะเปิดขายห้องแบบ Fully Fitted ในราคาที่แทบไม่ต่างจากเดิมเลยค่ะ   นอกจากการปรับ Layout และเพิ่ม Spec ที่คุ้มค่าให้ห้องพักอาศัยแล้ว ทางโครงการยังมอบ Fiber Optic to Room ให้ลูกบ้านสามารถใช้ Internet Hi-speed ได้สูงสุด ซึ่งเป็นครั้งแรกใน Product Aspire ด้วยค่ะ แถมโครงการคู่แข่งรอบข้างส่วนใหญ่จะใช้เป็นสายทองแดงปกติ ทำให้สามารถสมัคร Net fiber ได้แต่ความเร็วก็จะลดลงนั่นเองค่ะ นับว่าเป็นข้อดีที่เหนือกว่าอีกข้อเลย สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่คงต้องอดใจรออีกนิดนะคะ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าปัจจุบันตัวโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างจนเกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย ทีมงานจึงยังไม่สามารถเข้าไปเก็บภาพห้องตัวอย่างมาฝากได้ แต่เพื่อชาว Review Your Living ทุกคน วันนี้เราจึงมีภาพ Draft และภาพ Mockup room จากทางโครงการ มาให้พิจารณาก่อนที่ทาง AP จะมีการเปิดตัวใหญ่ในช่วงปลายเดือนที่จะถึงนี้ แปลนห้องทั้ง 4 แบบด้วยกันนะคะ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร, 1 Bedroom ขนาด 31-32 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร และ 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 45-48 ตารางเมตร แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.5-32 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ติดกันนั้นเป็นห้องน้ำและส่วนห้องนอนอยู่ถัดไป ส่วนครัวเป็นแบบครัวปิดมีกั้นห้องมาให้ ห้องครัวมีระเบียงอยู่ด้านในสุด ตัวระเบียงสามารถวางแอร์คอมเพรสเซอร์ และเครื่องซักผ้าได้ ภาพตัวอย่างส่วนของ Living area ที่ดูกว้างขวาง ซึ่งลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ฝั่งขวามือของห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนครัวมีประตูบานเลื่อนกระจกใสกั้นไว้ให้ ติดกับคอนโซลทีวีจะเป็นห้องนำ้และห้องนอนที่เป็นประตูทึบ เพดานห้องสูง 2.55 เมตร ภาพตัวอย่างภายในห้องนอนโอบล้อมด้วยกระจกใส สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ แถมยังดูมีระยะพื้นที่ข้างเตียงเหลือพอให้เดินโดยรอบได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วยค่ะ แปลนห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. นับว่าเป็นห้องไฮไลท์ของโครงการได้เลยค่ะ เพราะออกแบบมาให้ลูกบ้านสามารถจัดวาง Layout ได้ตามใจชอบ มีให้เลือกถึง 5 option สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายฟังก์ชั่น โดยจะมีห้องอเนกประสงค์กั้นเพิ่มมาให้ 1 ห้อง ซึ่งเราสามารถที่จะจัดเป็นห้องนอนเล็กหรือห้องทำงานได้ค่ะ ภาพตัวอย่างส่วนของ Living area ที่แบ่ง Zoning ของ Living Ding ชัดเจน โดยใช้ Furniture Built-in ท่ีเป็น Style BAY WINDOW BENCH เข้ามาเป็นตัวแบ่ง ZONE ทําให้พื้นที่ห้องดูกว้างขวางและลงตัวมากขึ้น ภาพตัวอย่างภายในห้องนอนจะมีขนาดกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบถ้วนแบบเหลือๆ ไม่อึดอัด มีช่องแสงป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้ง แปลนห้อง 2 Bedroom ขนาด 46.5-48 ตารางเมตร เป็นห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการค่ะ เข้าห้องมาจะเจอส่วนกลางเป็นมุมรับประทานอาหารที่เชื่อมกับห้องนั่งเล่น มีห้องครัวแบบปิดกั้นอยู่ตรงกลางระหว่าง MasterBedroom และห้องนอนเล็ก ระเบียงจะอยู่ด้านหลังครัวนะคะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนใหญ่ ซึ่งใช้ร่วมกันกับห้องนอนเล็ก เพราะมีประตูเข้าออก 2 ทาง ภาพตัวอย่างส่วนของ Living area เน้น Function ที่ห้อง Living ใหญ่ ยาวต่อเนื่องไปยังพื้นที่ Dining area โดยสามารถนั่งทานข้าวบริเวณเก้าอี้ที่เสมือนเป็น sofa ได้ เหมาะสําหรับตอนเพื่อนๆ มา Party จะได้นั่งต่อกันเป็นพื้นท่ีใหญ่ได้โดยไม่รู้สึกว่าแยกพื้นที่กัน ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องนอนเล็กที่ดูกว้างขวางทีเดียว เพราะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง Master Bedroom มีขนาดกว้างเลยทีเดียวค่ะ เพราะสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบ อัพเดทข้อมูลกันมาถึงตรงนี้ คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธใช่ไหมคะว่าโครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek” เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก AP Thai ที่น่าสนใจมากๆ นอกจากเป็น Product Aspire ตัวแรกในปี 2018 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ Spec, Design, Technology, และ Facilities อย่างแท้จริงแล้ว โลเคชั่นของโครงการยังสามารถเดินทางสะดวกทั้งคนใช้รถส่วนตัวและรถสาธารณะ เพราะอยู่ใกล้ Interchange บางหว้า ที่มีรถไฟฟ้าถึง 2 สาย (สายเขียวอ่อน BTS + สายสีน้ำเงิน MRT เสร็จภายใน 2 ปี) โดยสายสีฟ้าเป็นรถไฟลอยฟ้าเชื่อมต่อกับใต้ดิน วิ่งครบลูปรอบเมือง ที่สำคัญตัวโครงการมี Skywalk เปรียบเสมือนเป็น Private walk way ส่วนตัว ติดกับประตูทางเข้าเพียงแค่ก้าวเดียว ซึ่งโครงการเองก็เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้านอีกขั้นด้วยระบบ keycard เข้าออก   สำหรับคนที่สนใจไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่า บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่าแน่นอนค่ะ เพราะเป็นโครงการที่จองต้นปีก็สามารถย้ายเข้าอยู่ช่วงปลายปีเลย ไม่ต้องอดทนรอก่อสร้างอีกนานกว่าจะได้อยู่จริง จึงสามารถดึงดูด Real demand ได้ดี อีกทั้งราคายังสามารถจับต้องได้ โดยแตกต่างจากเดิมนิดหน่อยแต่ยังคงสูสีกับโครงการในตลาดด้วยราคา 87,000 บาท/ตร.ม. เท่านั้นค่ะ แถมทุกยูนิตขายแบบ Fully Fitted มาพร้อมวัสดุและสุขภัณฑ์คุณภาพซึ่งถูกคัดสรรมาอย่างดี ซึ่งทางโครงการแอบกระซิบว่า โครงการ “Aspire Sathorn – Ratchapruek” จะเปิด Pre-Sale ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท* พิเศษ! สำหรับชาว Review Your Living สามารถลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท ได้ที่นี่ https://goo.gl/7XdzS4 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร Call Center 1623
เฌอคูน Design Townhome สาทร-ราชพฤกษ์ : รีวิวทาวน์โฮม

เฌอคูน Design Townhome สาทร-ราชพฤกษ์ : รีวิวทาวน์โฮม

เฌอคูน Design Townhome สาทร-ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮม 3 ชั้น แนวคิดใหม่ มอบอิสระ และความเป็นส่วนตัวในสังคมเพียง 70 ครอบครัว บนถนนสวนผัก จาก NYE Estate     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น     4,850,000 บาท เจ้าของโครงการ     NYE Estate Co., Ltd. ลักษณะโครงการ     ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 70 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด     7 - 0 - 42.8 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนสวนผัก แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ    กลางปี 2559 ค่าส่วนกลาง    60 บาท/ตารางวา   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   ตลาดสดกรุงนนท์ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 โรงเรียนวัดน้อยใน Home Work ราชพฤกษ์ The Crystal ราชพฤกษ์ The Walk ราชพฤกษ์ The Circle ราชพฤกษ์ แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย   ดีไซน์ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 168 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ดีไซน์ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 168 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 14 x 3 เมตร ฟิตเนส Multi Purpose room สวนสาธารณะ พร้อมอุปกรณ์เด็กเล่น Key Card Access ระยะใกล้ ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง ระบบ CCTV สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-882-2021 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.nyeestate.co.th
รีวิวทำเล Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ : รีวิวคอนโด

รีวิวทำเล Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ : รีวิวคอนโด

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งในหลายโครงการของเครือ AP ที่มีกระแสการตอบรับที่ดีมากๆ วันนี้เราเลยจะพาไปสำรวจทำเลที่ตั้งโครงการ และบรรยากาศโดยรอบแบบคร่าวๆ กันก่อนที่จะมีการเปิดตัวเต็มๆ อีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ เผื่อว่าใครที่กำลังสนใจอยู่จะได้เก็บข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจ เพราะได้ข่าวมาว่ายอดลงทะเบียนทางหน้าเว็บไซต์ของโครงการตอนนี้พุ่งกระฉูดเกินความคาดหมายไปไกลแล้วครับ สำหรับใครสนใจโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ ก็อย่าลืมไปลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ ผ่านทาง www.apthai.com ไว้ด้วยนะครับ   การเดินทาง   ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ อยู่ติดถนนราชพฤกษ์ ตรงหัวมุมถนนเทอดไทพอดิบพอดี ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมที่ดินสำหรับก่อสร้าง ซึ่งเราได้มีโอกาสได้เข้าไปดูพื้นที่จริงก่อนที่จะมีการเปิด Pre-sale พร้อมๆ กับได้เดินสำรวจดูทำเลใกล้ๆ ไปด้วยเลย   สำหรับการเดินทางในครั้งนี้เราขับรถข้ามสะพานตากสินมาทางถนนกรุงธนบุรี แล้วเข้าถนนราชพฤกษ์ ผ่านสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศมาก็ชิดซ้ายเลี้ยวไปตามป้ายบอกทางถนนเทอดไท พอขึ้นสะพานข้ามแยกมาแล้วให้ชิดซ้ายเพื่อไปถนนเทอดไท ไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ ไม่งั้นจะเลยไปเข้าถนนเพชรเกษมกันซะก่อน วิ่งมาตามทางอีกนิดหน่อยก็จะเห็นตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือพอดี ซึ่งเส้นทางนี้น่าจะเป็นเส้นทางหลักๆ ในการเดินทางมายังโครงการ ส่วนเส้นทางรองอีกทางก็สามารถเข้ามาทางถนนบางแคก็ได้ หรือถ้ามาจากทางถนนเพชรเกษม ก็ให้สังเกตป้ายวัดนิมมานรดีตรงปากซอย เส้นทางในซอยแถวนี้พอจะให้ใช้หลีกหนีรถติดได้พอสมควรครับ ส่วนการเดินทางมายังโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ ด้วยรถไฟฟ้าก็ถือว่าเป็นอีกวิธีที่สะดวกพอสมควร เพราะอยู่ห่างออกไปเพียง 10 สถานีเท่านั้น แค่เดินจากหน้าโครงการไปอีก 350 เมตร ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว ยิ่งในอนาคตทางกรุงเทพมหานครจะทำทางเดินเชื่อมจากตัวสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าข้ามคลองภาษีเจริญมายังฝั่งเทอดไท ก็จะยิ่งความสะดวกกับคนที่อาศัยอยู่ฝั่งนี้มากขึ้น แถมทางโครงการจะเชื่อมต่อทางเดินบน Sky Walk ให้ยาวมาจนถึงหน้าทางเข้าโครงการเลย ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกให้กับลูกบ้านที่ต้องใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นไปอีกหลายเท่า เพราะแค่ก้าวเท้าออกจากประตูโครงการเพียงก้าวเดียวก็สามารถขึ้น (บันไดสถานี) รถไฟฟ้าได้แล้วครับ ในขณะที่การเดินทางด้วยวิธีการอื่นๆ ก็มีไว้รองรับพอสมควรเลยเหมือนกัน ทั้งรถสองแถวที่วิ่งผ่านหน้าโครงการเลย รถแท็กซี่ก็หาเรียกได้ไม่ยากเท่าไหร่ หรือถ้าจะลองใช้บริการเรือด่วนในคลองภาษีเจริญก็ได้เช่นกัน ทางกรุงเทพมหานครก็จัดให้มีเรือด่วนวิ่งรับส่งทั้งเช้าและเย็น ก็ทำให้การเดินทางไปยังโซนต่างๆ บนถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ประตูน้ำภาษีเจริญ ไปจนถึงเพชรเกษม 69 จะเดินทางขึ้นรถ ต่อเรือ นั่งรถไฟฟ้า ก็จัดว่าสะดวกดีทีเดียวเลย สำรวจรอบโครงการ   ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในเขตที่ใกล้แหล่งชุมชนเก่าที่มีอยู่กันมาก่อนแล้ว ถึงจะอยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์ซึ่งเป็นถนนใหญ่ แต่ก็ยังได้บรรยากาศความคึกคักของชุมชนอยู่พอสมควร เพราะถนนเทอดไทเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมไปออกถนนบางแค และถนนเพชรเกษมได้ จึงมีรถวิ่งผ่านไปมาเยอะพอสมควร แต่ยังไม่ถึงกับมีปัญหารถติดหนักๆ ในซอยนะครับ เรียกว่าวิ่งกันได้สบายๆ ตลอดทั้งวัน บริเวณใกล้ๆ โครงการไม่ได้มีตึกสูงขึ้นมาใกล้ๆ เลย ดังนั้นปัญหาเรื่องการบังวิวจึงยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง รอบๆ ที่ดินโครงการจะเป็นที่พักอาศัยในแนวราบสูงไม่เกิน 4-5 ชั้น ฝั่งตรงข้ามมีห้องพักให้เช่าซึ่งมีอยู่เดิม บริเวณด้านหน้าจึงมีเพิงขายอาหารเล็กๆ อยู่ให้พอซื้อของกินเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง แต่ถ้าเลยเข้ามาในถนนเทอดไทหน่อย ก็จะเห็นว่ามีร้านค้า ร้านขายของอยู่เรื่อยๆ ยิ่งออกไปที่ถนนบางแค และถนนเพชรเกษมก็ยิ่งคึกคักใหญ่เลย ร้านค้า ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า มีให้เลือกจับจ่ายได้เต็มที่ สาธารณูปโภคต่างๆ ก็มีครบทั้งสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ศาสนสถาน หน่วยงานราชการต่างๆ อีก ต่อไปในอนาคตอันใกล้พอรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเปิดให้บริการ การเดินทางก็จะยิ่งสะดวกขึ้น บรรยากาศการค้าบริเวณนี้ก็คงจะยิ่งคึกคักมากขึ้นไปอีกหลายเท่า ดังนั้นเรื่องการอยู่อาศัยในย่านนี้จึงจัดว่าค่อนข้างสะดวกสบาย ครบครันดีทีเดียว ในขณะที่บรรยากาศรอบๆ โครงการก็ยังเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน   พอวิ่งตามถนนราชพฤกษ์มาตามป้ายบอกไปถนนเทอดไทแล้ว พอเจอป้ายแบบนี้ก็เลี้ยวซ้ายเตรียมเข้าโครงการได้เลย ที่ดินของโครงการฝั่งที่ติดกับถนนราชพฤกษ์จะมีคลองเล็กๆ กั้นอยู่ ความคืบหน้าของโครงการขณะนี้ก็มีการล้อมรั้ว เตรียมปรับหน้าดินเพื่อก่อสร้างกันแล้ว มุมนี้ถ่ายจากหัวมุมถนนเทอดไทครับ ตรงที่รถตู้จอดอยู่กำลังก่อสร้าง Sale Gallery ส่วนทางเข้าโครงการก็อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นเลยครับ หน้าโครงการฝั่งถนนเทอดไทครับ จะเห็นว่าอยู่ตรงหัวมุมทางเข้าพอดีเลย ถ่ายจากหน้าโครงการก็เห็นรางรถไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ เลย อีกไม่นาน Sale Gallery ก็คงเปิดให้เข้าชมได้ละครับ บริเวณ Sale Gallery หน้าโครงการเลยครับ จะเห็นว่าถนนเทอดไทตรงหน้าโครงการก็ไม่ได้ใหญ่มาก เป็นถนนสองเลนมีรถราวิ่งผ่านตลอดวัน ข้างๆ Sale Gallery ตอนนี้ยังเป็นซอยเล็กๆ และมีบ้านอยู่ แต่อีกไม่นานก็จะถูกปรับพื้นที่ใหม่แล้ว ที่ดินตรงนี้รวมถึงบ้านที่เห็นก็เป็นพื้นที่ของโครงการนะครับ ภายในพื้นที่จริงที่กำลังจะมีการเตรียมก่อสร้างครับ พอเจ้าของบ้านหลังที่เห็นย้ายออก ที่ตรงนี้ก็จะลึกไปถึงด้านหลังนู่นเลย คลองระบายน้ำที่อยู่ตรงหน้าโครงการจะยาวไปจนถึงคลองภาษีเจริญเลย ตอนนี้ทางกทม.ก็มีการปรับภูมิทัศน์บริเวณทางเดินจากหน้าโครงการไปจนถึงคลองภาษีเจริญให้ดูสวยงามและเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น สถานีรถไฟฟ้าบางหว้าอยู่ฝั่งตรงข้ามนะครับ เดี๋ยวทาง BTS จะทำทาง Sky Walk มาลงที่ฝั่งนี้ แล้วทาง AP ก็ลงทุนต่อทางเดินเพิ่มเพื่อไปลงยังหน้าโครงการเลย บรรยากาศในคลองภาษีเจริญครับ มีเรือด่วนวิ่งรับส่งด้วย ทำให้การเดินทางในแถบนี้สะดวกมากยิ่งขึ้น ถนนเทอดไทหน้าโครงการ เป็นถนนสองเลนมีรถวิ่งสวนไปมาเกือบตลอดเวลาเลยครับ เพราะในซอยนี้ทะลุไปออกถนนบางแคได้ ตรงข้ามโครงการมีเพิงขายอาหารเล็กๆ พอให้พึ่งพาได้บ้าง ตรงข้ามโครงการยังมีหอพักสูง 2 ชั้น เลยเข้ามาในถนนเทอดไทเพื่อไปออกถนนบางแค ก็เริ่มเป็นแหล่งชุมชน มีโรงเรียนและบ้านพักอาศัยเยอะเลยครับ จากถนนเทอดไทก็เลี้ยวมาออกถนนบางแคได้ ถือว่าการเดินทางก็สะดวกดีครับ ถ้ามาทางถนนเพชรเกษมก็สามารถเข้าถนนบางแค ตรงทางเข้าวัดนิมมานรดีเลย แหล่งช็อปปิ้งสำคัญของฝั่งบางแคครับ ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้โครงการที่สุดแล้ว รายละเอียดโครงการ ในส่วนของรายละเอียดโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอะไรออกมามากนัก เพราะทาง AP เตรียมจะมีการเปิดตัวใหญ่ในช่วงปลายเดือนที่จะถึงนี้ แต่เท่าที่เราสอบถามข้อมูลมาคร่าวๆ ก็พอจะเห็นจุดเด่นของโครงการในเรื่อง ทางเชื่อมต่อขึ้น Sky Walk ไปยังสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ที่ใกล้ชนิดที่เรียกว่า ก้าวเดียวถึง!! รวมถึง Facility ที่จัดกันมาแบบเต็มที่ และที่แน่ๆ สำหรับโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ นี่ยังมี Layout ห้องแบบใหม่ที่ทาง AP เอามาใช้เป็นโครงการแรก ซึ่งภายในห้องมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้ทำประโยชน์ได้มากขึ้น และตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้านได้ดีขึ้นกว่าเดิม Master Plan ของโครงการ ทางเข้า-ออก โครงการใช้ทางเดียวนะครับ คือทางถนนเทอดไท Outdoor lobby ที่แบ่งพื้นที่นั่งเป็น pocket space ส่วนตัว ขนาบด้วย waterscape และ green area Indoor Lobby ชั้น 8 จะเป็น Facility หลักของโครงการ มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool ยาว 40 เมตร และฟิตเนส สระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool ยาว 40 เมตร ชั้น 11-28 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด มี Rooftop Garden อยู่ที่ชั้น 33 Rooftop Garden บนชั้น 33 ทั้งนี้ก็อดใจรอชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในงานเปิดตัวของ AP ที่สยามพารากอนอีกครั้ง หรือที่ www.apthai.com ส่วนรีวิวโครงการแบบเต็มๆ พร้อมห้องตัวอย่าง เราจะรีบตามไปเก็บข้อมูลมาฝากกันอีกครั้งนะครับ อย่าลืมติดตามกันด้วย
The President สาทร-ราชพฤกษ์ 3  : รีวิวคอนโด

The President สาทร-ราชพฤกษ์ 3  : รีวิวคอนโด

The President สาทร-ราชพฤกษ์ 3 คอนโด High Rise สูง 34 ชั้น คอนโดใหม่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางหว้า เปิดจองแล้ววันนี้ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 1,800,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร 76,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ชัยพัฒนาที่ดิน จํากัด ลักษณะคอนโด High Rise สูง 34 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 799 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 4 - 0 - 76 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ถนนราชพฤกษ์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ (บางจากฝั่งใต้) เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2560 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ซีคอนบางแค เดอะ มอลล์ บางแค มหาวิทยาลัยสยาม โรงพยาบาลบางไผ่ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาด 25, 30 และ 34.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 50 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ Fitness Sauna Home Theater Multi-Purpose Room with Wi-Fi Internet Wi-Fi พื้นที่ส่วนกลาง Key card access พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอดและกล้องวงจรปิด 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-457-2836, 092-267-0800, 085-956-3333 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.thepresidentcondo.com
The President สาทร – ราชพฤกษ์ : รีวิวคอนโด

The President สาทร – ราชพฤกษ์ : รีวิวคอนโด

ข้ามฝั่งมาดู คอนโดมิเนียม แถวฝั่งธนบุรีกันบ้างครับ กับโครงการ The President สาทร - ราชพฤกษ์ โครงการใหญ่ติดสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้จะสังเกตุเห็นได้ง่าย เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนตรงแยกถนนเพชรเกษมตัดกับถนนราชพฤกษ์พอดี โครงการนี้มีเจ้าของโครงการเป็น Developer หน้าใหม่ในวงการที่อยู่อาศัยแบบอาคารสูง แต่ด้วยศักยภาพของทำเลที่น่าสนใจมาก และขนาดของโครงการที่กำลังขยายไปถึงเฟสที่ 3 แล้ว จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามองเลยทีเดียว   การเดินทาง   การเดินทางมายังโครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ สามารถมาได้หลายทาง แต่วิธีที่สะดวกที่สุดคือ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีบางหว้า ออกทางออกที่ 4 แล้วข้ามถนนมาอีกนิดหน่อยก็ถึงตัวโครงการแล้ว ระยะห่างจากตัวสถานีถึงหน้าโครงการไม่เกิน 50 เมตรเท่านั้น ส่วนรถไฟฟ้าอีกสายที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างขณะนี้คือรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ซึ่งมีสถานีบางหว้าเป็นจุด Inter Change Station ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้นี้ เรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจากหน้าโครงการThe President จึงถือว่าสะดวกมากๆ ทั้งการมุ่งหน้าเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจอย่างสาทรหรือสยามด้วยรถไฟฟ้า BTS  รวมถึงการเดินทางออกไปยังย่านบางแค-บางซื่อด้วยรถไฟฟ้า MRT ก็สามารถกำหนดระยะเวลาในการเดินทางได้แน่นอนมากขึ้น วิ่งมาจาก สะพานตากสิน มาลงที่แยกบางหว้า แล้วให้เลี้ยวซ้ายเพราะแยกนี้ยังไม่ให้เลี้ยวขวา เมื่อเลี๊ยวซ้ายมาแล้ว ให้เตรียมกลับรถ กลับรถ เมื่อกลับรถแล้ว ก็ให้วิ่งไปแยกบางหว้า ผ่านรถไฟฟ้าสถานีบางหว้า ผ่านแยกบางหว้า จะเห็นโครงการ The President อยู่ทางขวา ผ่านแยกมาแล้ว ให้เตรียมตัวกลับรถ ทางกลับรถจะเห็นปั้มเชลล์อยู่ทางซ้าย เมื่อกลับรถมาแล้วให้เข้าซ้ายทันที เพราะโครงการอยู่ก่อนถึงแยกบางหว้า วิ่งเลยไปหน่อยจะเป็นทางเข้าโครงการ The President เฟส 2 ทางเข้า The President เฟส 2 นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ก็จัดว่าสะดวกไม่น้อยไปกว่ากันเลย เพราะถนนหน้าโครงการเป็นสี่แยกถนนเพชรเกษมตัดกับถนนราชพฤกษ์ ซึ่งถือเป็นเส้นทางหลักๆ ที่สามารถใช้เดินทางเข้าออกเมืองได้ง่ายๆ ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการไม่ว่าจะเลือกถนนราชพฤกษ์ข้ามมาฝั่งสาทร หรือจะไปทางถนนเพชรเกษมเข้าวงเวียนใหญ่ก็ได้  จะมีปัญหาหน่อยก็ตรงที่ช่วงเวลาเร่งด่วนปริมาณรถจะหนาแน่นมากๆ เข้าขั้นวิกฤตเลยทีเดียว แถมพื้นที่ฝั่งธนบุรีก็ไม่มีทางด่วนอยู่ใกล้ๆ เลย เส้นทางเลี่ยงรถติดจึงทำได้แค่ใช้เส้นทางลัดเลาะตามซอยเล็กซอยน้อยเท่านั้น ส่วนใครที่หวังจะพึ่งพาบริการรถสาธารณะอย่างรถเมล์ รถแท็กซี่ หรือแม้แต่วินมอเตอร์ไซค์ เพื่อเดินทางในระยะใกล้ๆ บริเวณหน้าโครงการก็หาเรียกรถได้ไม่ยากเลย แถมปัจจุบันทางกรุงเทพมหานครยังเปิดให้บริการเดินเรือโดยสารในคลองภาษีเจริญแล้วด้วย จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับใครที่ต้องการโดยสารเรือไปยังจุดต่างๆ ตามแนวคลองภาษีเจริญ ที่สำคัญท่าขึ้นเรือก็อยู่บริเวณด้านหลังโครงการพอดีอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยวิธีไหนก็ดูจะสะดวกไปซะทุกทางเลย   วิเคราะห์ตัวโครงการ   โครงการThe President สาทร-ราชพฤกษ์ เปิดตัวไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันจึงเริ่มเปิดขายในเฟสที่ 2 ด้วยจุดเด่นของทำเลที่ตั้งโครงการที่ซึ่งอยู่ตรง 4 แยกพอดี ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก (ถ้ารถไม่ติด) แถมบริเวณรอบๆ ก็เป็นเขตชุมชนเดิมมีคนอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก เรื่องร้านค้า ร้านอาหาร ตัวอาคารและการออกแบบในเฟสที่ 2 ไม่ได้ต่างจากเฟสแรกมากนัก ถ้าใครได้เคยเข้าไปชมโครงการก่อนหน้านี้แล้วก็น่าจะพอนึกภาพตามได้ไม่ยาก สำหรับอาคารในเฟสที่ 2 นี้ เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น ส่วนของที่พักอาศัยเริ่มกันตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไป บริเวณชั้น 1-5 จึงเป็นที่จอดรถทั้งหมด ซึ่งนับรวมแล้วจำนวนที่จอดรถก็มีเพียง 30% เท่านั้น ถือว่าจัดมาแบบพอให้มีจำนวนจอดได้ตามมาตรฐาน ตามแบบฉบับโครงการใกล้รถไฟฟ้าที่เน้นจับกลุ่มคนที่ไม่ใช้รถส่วนตัว และต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก พื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่พักผ่อนจะอยู่ที่ชั้น 6 แต่ดูจากขนาดคร่าวๆ ในแปลนแล้ว ต้องบอกว่าพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างน้อยไปหน่อยสำหรับคอนโด High Rise ที่มีจำนวนลูกบ้านเกือบ 600 ห้องแบบนี้ ถึงแม้จะมีสวนหย่อมบนดาดฟ้าเพิ่มขึ้นมาด้วยก็ตาม เวลาที่ต้องใช้งานจริงๆ อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้านก็ได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องลิฟท์โดยสารที่ทางโครงการจัดมาให้ 4 ตัว ซึ่งเฉลี่ยแล้วลิฟต์ 1 : 146 นับว่าหนาแน่นมากเหมือนกันครับ เวลาเช้าๆ อาจต้องรอลิฟท์กันนานหน่อย อย่างที่บอกว่าอาคารของเฟส 2 ตั้งอยู่ติดๆ กันกับเฟสแรก ห้องพักด้านนี้จึงถูกบังวิวอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ในขณะที่ด้านอื่นๆ ยังโชคดีที่ไม่มีอาคารอะไรมาอยู่ในระยะประชิด เพราะส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย และอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้นเท่านั้น จะเลือกห้องมุมไหนก็พิจารณาดูแปลน และทิศทางของทั้ง 2 เฟสเปรียบเทียบกันให้ดีๆ ครับ เพราะทางโครงการจะโชว์แปลนแยกกัน บางทีเราเลยลืมไปว่ายังมีตึกของเฟสแรกบังวิวกันอยู่ model โครงการ The President เฟส 1 model โครงการ The President เฟส 2 ด้านข้างของ model โครงการ The President เฟส 2 ด้านหลังโครงการติดกับคลองภาษีเจริญ-ซึ่งมีท่าเรือของกรุงเทพมหานครที่กำลังทดลองให้บริการฟรีอยู่ พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่ของ โครงการ The President เฟส 3 ในช่วงทดลองให้บริการ-เรือจะให้บริการแค่ช่วงเช้าและช่วงเย็นเท่านั้น บริเวณท่าเรือจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วย-ค่าบริการตรวจสอบได้ตามป้าย   พาชมห้องตัวอย่าง   สำหรับห้องพักของโครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ ก็มีให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 30 ตร.ม. ไปจนถึงขนาด 60 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่สุด ห้องทั้งหมดขายกันมาแบบห้องเปล่าๆ จะมีที่มาพร้อมห้องก็แค่ ชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศเท่านั้น สำหรับ Lay out ของห้องแบบ 1 ห้องนอน ต้องบอกว่าจัดพื้นที่ใช้สอยมาได้ค่อนข้างลงตัวดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัวแบบปิดที่วางอยู่ในตำแหน่งติดระเบียง จึงช่วยเรื่องการระบายกลิ่นได้เป็นอย่างดี   สำหรับแบบ 1 ห้องนอน ที่ขนาด 30 ตร.ม. และ 34.5 ตร.ม. จะต่างกันอยู่พอสมควรในเรื่องของฟังก์ชั่นห้อง เพราะห้อง 30 ตร.ม. ใช้กระจกบานเลื่อนกั้นพื้นที่บริเวณห้องนอน ซึ่งช่วยให้ห้องดูโปร่งสบายตามากขึ้น แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า ห้องแบบนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน และไม่ได้มีแขกมาเยี่ยมห้องบ่อยๆ ครับ ส่วนห้อง 1 ห้องนอนที่ขนาด 34.5 ตร.ม. จะเป็นอีกแบบที่เป็นตัวเปรียบเทียบที่น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะได้พื้นที่ห้องเพิ่มขึ้นแล้ว การจัดวาง Lay out ห้องที่กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบและติดตั้งประตูบานสวิงแทน จึงทำให้ห้องแบบนี้ดูเป็นสัดส่วนเรียบร้อยมากกว่า ในส่วนของห้องครัวนั้นถือว่าจัดมาได้เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารกินเอง เพราะมีประตูบานเลื่อนกั้นห้องครัวออกจากพื้นที่นั่งเล่นเรียบร้อย แถมตำแหน่งที่อยู่ติดระเบียงก็ยังสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อช่วยระบายกลิ่นได้อีกทางด้วย หันกลับมาดูที่ห้องน้ำ ทางโครงการก็จัดเตรียมชุดสุขภัณฑ์ไว้ตามมาตรฐาน มีฉากกั้นอาบน้ำแยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียก โดยรวมแล้วห้องแบบ 1 ห้องนอนออกแบบมาค่อนข้างดีทีเดียวครับ นอกจากนี้ทางโครงการยังมีห้องแบบ 2 ห้องนอน ที่ขนาด 50-60 ตร.ม. เผื่อคนที่ต้องการห้องใหญ่ไว้อยู่อาศัยเป็นครอบครัว แต่ราคาห้องก็โดดขึ้นไปอีกเท่านึงเลยทีเดียว ทำให้คนที่อยากจะได้ห้องใหญ่ต้องคิดหนักกันหน่อย เพราะราคาขนาดนี้อาจจะมีตัวเปรียบเทียบให้เลือกมาก ทั้งในเรื่องของทำเล ขนาด และแบรนด์เจ้าของโครงการ เมื่อเข้าห้องก็จะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่น มองตรงเข้าไปจะเป็นห้องนอน ส่วนของโซฟาจะอยู่ทางซ้าย มุมทานข้าวอยู่หน้าห้องนอน ติดกับมุมนั่งเล่น ถัดมาเป็นห้องนอน ห้องนอนกับห้องนั่งเล่น จะกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน ห้องนอน มองจากห้องนอนออกมา มุมด้านในห้องนอน มาถึงห้องครัว ถ่ายจากระเบียงเข้ามา จะเห็นว่าตู้เย็นจะวางติดกับเคาเตอร์ครัว เคาเตอร์ครัวที่ทางโครงการมีให้ เตากับเครื่องดูดควัน ทางโครงการมีทำการแบ่งพื้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัว ห้องนั่งเล่นจะใช้เป็นพื้นไม้ลามิเนต ส่วนพื้นห้องครัวจะเป็นกระเบื้อง เข้ามาดูห้องน้ำจะได้กระจกบานใหญ่ แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง อุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นแบบมาตรฐาน ธรณีประตูระหว่างห้องน้ำกับห้องครัว สวิทซ์ไฟแบบมาตรฐาน มาดูห้องขนาด A2 บ้าง เข้ามาก็เป็นห้องนั่งเล่นเหมือนกัน ถัดจากห้องนั่งเล่น ก็จะเป็นห้องครัว โต๊ะทานข้าวอยู่ติดกับส่วนห้องนั่งเล่น ทีวีจะอยู่ติดกับประตูทางเข้า โต๊ะทาานข้าวติดกับห้องครัว เคาเตอร์ที่โครงการมีให้ เตากับเครื่องดูควันจะอยู่แยกกับส่วนของซิ้งค์ล้างจาน จากห้องครัวมองออกไปที่ห้องนั่งเล่น มุมห้องนอน มุมเตียงนอน ชั้นวางทีวีปลายเตียง มุมตู้เสื้อผ้า มองจากห้องนอนออกมา ความคุ้มค่าน่าลงทุน โครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการที่มีจุดเด่นดีในด้านของทำเลที่ตั้ง เพราะอยู่เกาะติดกับสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าทั้ง 2 สาย และตั้งอยู่บริเวณ 4 แยกของถนนสายหลักอย่างราชพฤกษ์และเพชรเกษม การเดินทางไปไหนมาไหนจึงจัดว่าสะดวกมากเลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงในเรื่องของมลภาวะทางเสียง และฝุ่นละอองที่อาจะเลี่ยงได้ยาก สำหรับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าในงบประมาณไม่เกิน 3 ล้าน โครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ คงได้เปรียบมาก เพราะตัวสถานีอยู่ห่างออกไปเพียง 50 เมตรเท่านั้น ศักยภาพด้านทำเลที่ตั้งจึงเรียกคะแนนความสนใจได้สูงมากๆ สำหรับด้านการลงทุน โครงการ The President สาทร-ราชพฤกษ์ จัดว่ามี Upside Gain สูง ทั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า แหล่งสาธาณูปโภคต่างๆ ที่จัดว่าสะดวกครบครัน การจะขายเพื่อทำกำไรต่อ หรือปล่อยห้องเช่าก็มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าหมดจากเฟสแรกไปแล้ว มาจนถึงเฟส 2 ที่กำลังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ปริมาณห้องค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีข่าวมาว่าทางโครงการอาจจะสร้างเฟสที่ 3  เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ซึ่งแต่ละอาคารก็มีจำนวนยูนิตไม่ต่ำกว่า 500 ห้อง จำนวนห้องมีโอกาสล้นเกินความต้องการ แถมความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยในบริเวณนี้ก็จะมากตามไปด้วย  นอกจากนี้ตัว Developer ก็เป็นรายใหม่ในวงการที่อยู่อาศัยแบบอาคารสูง เรื่องการจัดการในด้านต่างๆ จึงยังไม่มีข้อมูลเก่าๆ ให้ศึกษามากนัก ความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของ Developer ก็ทำให้ต้องคิดกันเยอะขึ้นอีกนิดครับ