Tag : อโศก - พร้อมพงษ์

“QUARTER 31” ใจกลางสุขุมวิท 100,000 บาท/ตร.ม. [Mini Review] : รีวิวทาวน์โฮม

“QUARTER 31” ใจกลางสุขุมวิท 100,000 บาท/ตร.ม. [Mini Review] : รีวิวทาวน์โฮม

ถ้าพูดถึงที่อยู่อาศัยแถวพร้อมพงษ์ ทุกคนก็จะนึกถึงคอนโดมิเนียม High Rise สุดหรูระดับ Super Luxury ราคาตารางเมตรละ 300,000 ขึ้นไปใช่ไหมคะ แต่ใครจะไปคิดว่าทำเลใจกลางสุขุมวิทแบบนี้จะยังคงมีบ้านที่ได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตารางเมตร ในราคาตารางเมตรละ 100,000 บาทอยู่ ถ้าฟังดูน่าสนใจล่ะก็ ลองไปทำความรู้จักกับโครงการ “QUARTER 31” จาก NYE ESTATE ไปด้วยกันใน Mini Review ฉบับนี้ค่ะ        สำหรับ QUARTER 31 โครงการที่ให้คำนิยามกับตัวเองว่าเป็น Cluster Home โดยได้ทีมดีไซน์ชื่อดัง 3 ทีมมาช่วยกันสร้างสรรค์โครงการ คือ Makeascene ออกแบบสถาปัตยกรรม, SHMA ดูแลด้าน Landscape และ PIA ดีไซน์ Interior ทำให้ได้ส่วนกลางที่เหมือนรีสอร์ทระดับ 5 ดาว และตัวบ้านออกมาในสไตล์ Modern Classic ให้ความรู้สึกอบอุ่นเรียบง่ายแบบครอบครัว ท่ามกลางไลฟ์สไตล์ชั้นนำของย่านพร้อมพงษ์ ทว่ายังคงได้เงียบสงบเป็นส่วนตัว แม้จะตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ซึ่งสามารถทะลุเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี และถนนอโศกมนตรี           QUARTER 31 มีพื้นที่ทั้งหมด 2-2-23.6 ไร่ 20 ยูนิต ส่วนกลางมีลักษณะเป็น Courtyard ขนาด 1 ไร่อยู่กลางโครงการ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อม Sun Deck มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะขายแบบ Fully Fitted โดยจะมีให้เลือกอยู่ 2 Type ได้แก่     Type A ขนาดที่ดิน 30-42 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 425 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.1 เมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถชั้นใต้ดิน จำนวน 10 ยูนิต ได้ห้องครัวแบบ Private อยู่ทางด้านหลังบ้าน   Type B ขนาดที่ดิน 33-42 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 431 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.6 เมตร 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถชั้นใต้ดิน จำนวน 10 ยูนิต ได้ห้องครัวเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น แบบ Party Area   ครั้งนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างของ Type B กันค่ะ บรรยากาศภายในโครงการอาจจะดูแปลกตาไปบ้างสำหรับโครงการแนวราบในบ้านเรา เพราะแต่ละยูนิตจะไม่มีรั้วบ้านกั้นระหว่างกันเลยค่ะ แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ใน Villa หรูของประเทศทางตะวันตก ที่มีทั้งความเป็นส่วนตัวเมื่ออยู่ในบ้านของตัวเอง ขณะเดียวกันก็เกิดเป็น Community ระดับคุณภาพขนาดย่อม ซึ่งเวลาอยู่ในโครงการก็เกือบจะลืมไปเลยล่ะค่ะ ว่าเรายืนอยู่ในใจกลางสุขุมวิท ด้วยความที่มันเงียบสงบมากจริงๆ ส่วนภายในบ้านก็ให้ความโปร่งโล่งด้วยความสูง Double Space ขนาดพื้นที่ใช้สอย และแสงสว่างที่เข้ามาได้ทั่วถึงภายในบ้าน Space วัสดุที่ใช้ก็ให้มาดีทีเดียวค่ะ           เปิดประตูหน้าบ้านบานสูงใหญ่ ต้อนรับเราด้วยความโอ่โถงจากเพดาน Double Space ที่สามารถมองเห็นถึง Mezzanine      Kitchen Room สไตล์ครัวเปิดแบบตะวันตกเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในบ้านให้กลายเป็น Party Area สำหรับทุกคนในครอบครัว หรือจะจัดงานสังสรรค์เล็กๆ อย่างเป็นกันเองได้ ไม่ต้องไปไหนไกล     มีการวางลิฟท์เอาไว้กลางบ้าน และด้านในสุดของชั้นแรกก็ยังมีห้องที่เป็น Multi Function ปรับเปลี่ยนได้ตามใจ   ลงไปที่ Basement ซึ่งเชื่อมต่อกับ Parking จะเป็นชั้นที่เปรียบเสมือนโซน Maid's Room โดยเฉพาะ เพราะมีทั้ง Thai Kitchen, Laundry Room, Storage Room, Backyard, Maid's Room และห้องน้ำ   กลับขึ้นมาที่ Mezzanine ที่มีทั้งส่วนเปิดโล่ง และห้อง Multi Function ด้านในเหมือนกับชั้นแรก   ชั้น 2 มี 2 ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง     ชั้น 3 Master Bedroom      ทั้งการออกแบบ ทำเลที่ตั้ง และราคา เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้แล้วก็ไม่แปลกใจเลยค่ะว่า ตั้งแต่เปิดตัวไปไม่ถึงเดือนยอดขายไปแล้วถึง 60% ลองเข้าไปชมบ้านตัวอย่างในโครงการจริงได้แล้วที่ “QUARTER 31” ซอยสุขุมวิท 31    
EYSE SUKHUMVIT 43 เปลี่ยนคอนโดให้เป็นบ้านกลางธรรมชาติ ในทำเลระดับพรีเมี่ยม : รีวิวคอนโด

EYSE SUKHUMVIT 43 เปลี่ยนคอนโดให้เป็นบ้านกลางธรรมชาติ ในทำเลระดับพรีเมี่ยม : รีวิวคอนโด

ราว 4 ปีมาแล้วนะคะ ตั้งแต่สิงห์ เอสเตท เปิดตัวในสนามอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัวก็เร่งสปีดสร้างโครงการระดับยักษ์ใหญ่เรียกกระแสฮือฮามาได้ตลอด ทั้งสถาปัตยกรรมภายนอก ทั้งการออกแบบภายใน และฟังก์ชั่นในทุกดีเทล จนมาถึงคอนโดมิเนียมโปรเจคใหม่ล่าสุดที่ยังคงความหรูหราบนทำเลสุดไพร์มตามสไตล์สิงห์ รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับแบรนด์น้องใหม่ “EYSE” กันค่ะ     ทำความรู้จัก “EYSE” คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่   EYSE SUKHUMVIT 43 (อีส สุขุมวิท 43) โครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ล่าสุดที่ดึงเอาข้อดีของความเป็นคอนโด Low Rise ออกมาให้ดูสมบูรณ์แบบที่สุด โดยเฉพาะตรงที่ได้ความเป็นส่วนตัว รู้สึกสงบผ่อนคลายได้มากกว่าคอนโดมิเนียมที่เป็น High Rise เพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนยุคใหม่ที่ชอบใช้ชีวิตท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี เดินทางได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นคนโสด หรือครอบครัวขนาดเล็ก ที่ต้องขับรถยนต์เดินทางไปทำงานในเมือง หรือไปส่งลูกเข้าโรงเรียนระดับคุณภาพอยู่เป็นประจำ ขนาดพื้นที่ภายในห้องพักอาศัยเพียงพอต่อทุกคน แต่ไม่ต้องทำความสะอาดมากเหมือนบ้านเดี่ยว       “EYSE” มาจากคำว่า EASE แปลว่าพักผ่อน ผ่อนคลาย สบาย สื่อถึงตัวแบรนด์ที่วางแนวคิด THE HIDDEN TREASURE ให้ผู้อยู่อาศัยได้เผยตัวตนเมื่อเข้ามาอยู่ในโลกส่วนตัวของตนเอง โดยจะประกอบไปด้วย 4 แกนใหญ่ ซึ่งจะนำไปใช้ในโครงการอื่นๆ ต่อจากนี้ภายใต้แบรนด์ EYSE ได้แก่   Downtown Hidden Location ใช้ชีวิตอย่างลงตัวด้วยทำเลที่ตั้งโครงการสุดไพร์ม สามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อย่างง่ายดาย แต่ขณะเดียวกันเมื่อเข้ามาในโครงการก็จะพบกับความสงบเป็นส่วนตัว   Courtyard or backyard concept ,disconnect to the world outside ทุกดีเทลถูกคิดมาเพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของลูกบ้าน เน้นการอยู่กับธรรมชาติ ตั้งแต่การวางทิศทางของอาคารให้สอดคล้องกับทิศทางลม และแสงแดด, นำเอาธรรมชาติเข้ามาอยู่ทั้งภายในและรอบโครงการ, เพดานสูงโปร่งถึง 3 เมตร, Balcony กว้าง รับบรรยากาศธรรมชาติได้เต็มที่ ฯลฯ     Layout options and Real usage function provided ฟังก์ชั่นและดีไซน์ถูกออกแบบมาให้สอดรับกับความต้องการเฉพาะตัวของลูกบ้านมากที่สุด เช่น จำนวนยูนิตน้อยให้ความเป็นส่วนตัว, Customer’s Choices ภายในยูนิตสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการใช้งาน, บริการพิเศษแม่บ้านดูแลทำความสะอาดห้อง เป็นต้น   Multi-functional Facilities พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้าน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลากหลาย สร้าง Space เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกบ้านได้รู้จักกันจนเกิดเป็นสังคมที่ดีในโครงการ     ทำเลสุดไพร์ม   ขึ้นชื่อย่านสุขุมวิทแล้วก็ย่อมเป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นทำเลอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างครอบคลุม รวมถึงออฟฟิศหลายแห่งมารวมตัวกันอยู่ถนนเส้นนี้ก็มีไม่น้อย และยังเป็นถนนที่มีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเป็นสายหลักในบ้านเราวิ่งให้บริการตลอดเส้นทาง โดยในอนาคตจะเปิดให้บริการยาวไปจนถึงจ.สมุทรปราการ ยิ่งเป็นสุขุมวิทช่วงต้นแล้ว ก็ยิ่งเรียกได้ว่าเป็นทำเลทองที่ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอยากจับจองอยู่เสมอ     ช่วงพร้อมพงษ์เป็นจุดที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับถนนสุขุมวิท ในแง่ของสิ่งอำนวยความสะดวกเมื่อเอ่ยชื่อก็คงไม่มีใคร   ไม่รู้จักใช่ไหมคะ อย่าง The EmQuartier, The Emporium หรือจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ Rain Hill และร้านสปา, ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ โดยมีให้เลือกมากมายจนเรียกได้ว่าย่านนี้ไม่ว่าจะเข้าไปในซอยไหนก็เจอร้านอาหารดีๆ อยู่ทุกซอยเลยค่ะ และยังเป็นแหล่งโรงแรมแบรนด์ดังระดับ 4-5 ดาว แม้ว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่รายล้อมอยู่ตลอดสองฝั่งถนน แต่ก็ยังมีสวนสาธารณะอุทยานเบญจสิริ ขนาดพื้นที่ 29 ไร่ แทรกตัวอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ เสมือนเป็นแหล่งโอโซนให้กับคนย่านพร้อมพงษ์ ทั้งหมดนี้จึงไม่แปลกว่าทำไมถึงเป็นแหล่งที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มากมายโดยเฉพาะคนญี่ปุ่นและชาวตะวันตก รวมถึงคนไทยเองที่มีไลฟ์สไตล์แบบฉบับคนเมือง   ส่วนเรื่องการเดินทางก็สามารถใช้ซอยสุขุมวิท 24 (ซอยข้าง The Emporium) ไปทะลุออกถนนพระราม 4 ซึ่งสามารถขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านท่าเรือ บริเวณถนนเกษมราษฎร์ได้ โดยจะเลือกออกไปทางบางนา หรือจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษฉลองรัชไปรามอินทรา หรือฝั่งที่ไปเชื่อมกับทางพิเศษศรีรัชและโทลเวย์ ไปทางพระราม 9-แจ้งวัฒนะได้ ส่วนระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกที่สุด แน่นอนว่าคือรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เปิดให้ใช้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยจากสถานีพร้อมพงษ์ถัดไปเป็นสถานีอโศก ซึ่งเป็น Interchange กับ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีสุขุมวิท และใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีถึงสถานีสยาม           ซอยสุขุมวิท 43 ที่ตั้งของโครงการ EYSE SUKHUMVIT 43 ห่างจาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ประมาณ 550 เมตร ซึ่งจาก BTS ก็จะผ่าน The EmQuartier และ Tops Market Sukhumvit 41 ระยะทางประมาณ 300 เมตร และจากปากซอยมาจนถึงตัวโครงการอีก 250 เมตร หรือจากปากซอย 43 เลยไปอีกประมาณ 900 เมตร ก็จะเป็นซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ อีกแหล่งรวมไลฟ์สไตล์สุดฮิปทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนนั่นเอง และถึงแม้ว่าสุขุมวิท 43 จะเป็นซอยตัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้าน 2 ชั้น ที่อยู่อาศัยกันมานานกับอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้นอยู่บ้าง จึงทำให้ได้บรรยากาศอันเงียบสงบ ท่ามกลางเมืองใหญ่ ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันอยู่มากพอสมควร ระหว่างปากซอยกับในซอยสุขุมวิท 43 ตรงนี้จึงถือเป็น Hidden Gem Location ตามแบบฉบับของโครงการที่ตั้งใจวางคอนเซปนี้เอาไว้       ภาพรวมโครงการ   EYSE SUKHUMVIT 43 คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 7 ชั้น 2 อาคารที่พักอาศัย ทั้งหมด 107 ยูนิต และ 1 อาคาร Facility 3 ชั้น และชั้นใต้ดินซึ่งเป็น Parking 100% อีก 3 ชั้น แยกที่จอดรถสำหรับ Visitor เอาไว้ด้วย ทั้งหมดอยู่บนพื้นที่ 1-3-69.4 ไร่ ซึ่งโครงการนี้ถูกเนรมิตขึ้นโดยการร่วมมือกันของทีมดีไซน์ชั้นนำทั้งหมด 3 ทีมด้วยกันค่ะ เริ่มจาก SHMA จะสร้างสรรค์ในเรื่อง Landscape ทั้งหมด เหมือนยกป่าขนาดย่อมมาไว้กลางเมืองหลวง แต่ยังสามารถอยู่กับคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของคนเมืองใหญ่ได้อย่างพอดี ทีม Steven เข้ามาดีไซน์งาน Interiors ออกแบบ Space ได้กว้างขวางพร้อมคัดสรรวัสดุชั้นเยี่ยม สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยจริง และทีม HB Design ดูแลด้าน Architect คิดละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางทิศทางของอาคารให้สอดคล้องกับทิศทางลมกับแสงแดด ตัวอาคารดูพรีเมียมแต่ยังคงกลมกลืนกับ Landscape ทั้งหมดออกมาได้อย่างลงตัว ได้ทั้งความเป็นส่วนตัว ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในบ้านที่มีธรรมชาติอยู่ล้อมรอบตัว และยังมีระบบ Home Automation ควบคุมการระบบไฟฟ้า และผ้าม่านภายในห้องได้อีกด้วย    Facility แบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ ค่ะ คือ   Facilities Cube จะอยู่บนอาคารสูง 3 ชั้น แยกตัวออกมาจากอาคารพักอาศัย ให้ได้นั่งพักผ่อนในบรรยากาศอันเงียบสงบ โดยจะมีทั้ง Garden Lounge, Changing room with steam room and Private Onsen, Swimming pool with kids pool, Pool deck and Jacuzzi และ Fitness   Courtyard Area พื้นที่สีเขียวกลางอาคาร ออกแบบมาให้ความรู้สึกเชื่อมต่อพื้นที่อาคาร และภายนอกเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนไม่ว่าจะอยู่มุม Lawn Terrace, Waterfall Terrace หรือ Sunken Terrace ก็จะมีแต่ความสงบร่มรื่น     Roof Top ของ Facilities Cube จะถูกวางเป็น Swimming Pool with Kids Pool 4 x 13 เมตร, Pool Deck ซึ่งวางเตียงริมสระน้ำไว้ด้วย และ Jacuzzi สร้างความเป็นส่วนตัวด้วย Green Wall สูงจากพื้นขึ้นมาบังสายตาจากด้านนอก เมื่ออยู่ในสระก็จะให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น   ชั้นเดียวกันกับสระว่ายน้ำ ก็จะมีห้องฟิตเนส โดยภายในยังคงคุมโทนสีน้ำตาลดูเป็นธรรมชาติอยู่   หน้าอาคาร Facilities Cube มี Sunken Terrace ให้นั่งพักผ่อนด้านนอก พร้อมฟังเสียงน้ำตกเล็กๆ จาก Waterfall Terrace    Lawn Terrace ที่เป็น Courtyard กลางโครงการ ทำให้มี Space โล่งๆ ไม่ได้มีแต่อาคารให้ดูหนาแน่นจนเกินไป     Courtyard ตรงกลางจะทำหน้าที่เชื่อมต่อส่วนกลางชั้นล่างของอาคารที่พักอาศัย กับส่วนกลางภายในอาคาร Facilities Cube ให้มีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมถึง Facade ที่ใช้วัสดุอลูมิเนียมผสมผสานกับไม้ และกระจกใส ให้ดูกลมกลืนเข้ากันทั้งโครงการ      The Living Room ใต้อาคาร A เชื่อมต่อจาก Lawn Terrace กลางอาคาร ยังคงคุมโทนสีเข้มให้รู้สึกเหมือนอยู่ในป่า ซึ่งสามารถเปิดประตูกระจก High Ceiling บานใหญ่รับลมธรรมชาติจากภายนอกได้   Garden Lounge เปลี่ยนบรรยากาศการพักผ่อนที่ทั้งดูหรูหราด้วยหินอ่อน และได้ความสงบด้วยไม้ประดับต้นเล็กๆ รอบ Lounge กลมกลืนด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ หวาย และเหล็กสีดำ   Lobby กั้นด้วยประตูกระจก High Ceiling ผสมกับไม้ ภายในได้เพดานสูงโปร่งดูโอ่โถงตกแต่งด้วยหินอ่อน อลูมิเนียมสีทอง และไม้สีเข้ม คุมโทนไม่หลุดคอนเซปความเป็นธรรมชาติ     Floor Plan ทางเข้า-ออกอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 43 ทางทิศตะวันตกค่ะ โดยอาคาร A จะถูกวางเป็นรูปตัว I ด้านหน้าโครงการ และอาคาร B จะถูกวางเป็นรูปตัว L วางแนวด้านในสุดของโครงการ และส่วนกลางนั้นจะถูกวางเอาไว้แยกตัวออกมาเป็น 1 อาคาร ทางซ้ายด้านหน้าโครงการจำนวน 3 ชั้น โดยมีที่จอดรถชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น รวมถึงส่วนกลางตรงกลางพื้นที่ของโครงการค่ะ ซึ่งทั้งโครงการจะปลูกต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบเอาไว้ทั้งหมด   Parking 100% ชั้นใต้ดินทั้ง 3 ชั้นค่ะ โดยกลางอาคารจะมีลิฟท์พร้อมบันไดหนีไฟติดตั้งไว้ด้วย ที่จอดรถก็จะล็อคที่เอาไว้ให้สำหรับทุกห้องเลยค่ะ โดยจะมีการออกโฉนดที่จอดรถให้เลยเป็นที่ประจำของแต่ละยูนิต ด้านข้างของแต่ละล็อคก็จะมีล็อคเกอร์แยกสำหรับแต่ละยูนิตเช่นเดียวกันค่ะ ชั้น 2 จะเห็นภาพชัดเจนขึ้นค่ะว่ายูนิตพักอาศัยจากทั้ง 2 อาคาร จะถูกวางในทิศทางที่ไม่มีห้องไหนโดนบล็อควิวกันเลย และยังช่วยให้ไม่บังทิศทางของลมกันด้วยค่ะ โดยบางส่วนของอาคารที่มีซ้อนกันอยู่จะถูกจัดให้เป็นพื้นที่โถงลิฟท์ และทางเดินของอาคารค่ะ เป็นการออกแบบมาโดยคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยจริงได้อย่างลงตัวมากค่ะ และชั้น 2 ของอาคารส่วนกลาง จะจัดให้เป็นห้องน้ำส่วนกลางที่จะมาพร้อมกับ Steam Room, Private Onsen ค่ะ     ชั้น 3 เป็นชั้นที่มี Terrace เล็กๆ เชื่อมต่อระหว่างสองอาคารที่พักอาศัย และยังสามารถบังฝนให้กับชั้นล่างได้ด้วย ส่วนที่อาคารส่วนกลาง จะเป็น Swimming Pool, Kids Pool, Pool Deck, Jacuzzi และห้องฟิตเนสค่ะ    อาคาร A จะวางยูนิตในทิศเหนือ วิวสระว่ายน้ำ กับทิศใต้ วิวฝั่งถนนสุขุมวิท ส่วนอาคาร B จะวางยูนิตในทิศตะวันออก วิวนอกอาคาร กับทิศตะวันตก วิวสระว่ายน้ำ โดยทั้งสองอาคารจะมีลิฟท์โดยสารอาคารละ 2 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด แยกกันค่ะ   Roof Floor Plan ของทั้งสองอาคารจะถูกติดตั้ง Solar Panel เพื่อดึงพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้กับส่วนกลางของโครงการ เป็นการประหยัดไฟได้ถึง 20,000 บาท/เดือน และยังมีแบตเตอรี่สำรองไฟเอาไว้ใช้ช่วงกลางคืนได้ด้วย ตรงนี้ส่งผลให้ค่าส่วนกลางลดลงกว่าปรกติด้วยนะคะ           Unit Plan   โครงการนี้จะให้เฟอร์นิเจอร์มาแบบ Fully Fitted ทุกยูนิต Floor To Ceiling สูงถึง 3 เมตร ซึ่งถือว่าหาได้ยากมากสำหรับคอนโดมิเนียม Low Rise ส่วน Balcony มีพื้นที่กว้างขวางสามารถออกไปใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ที่สำคัญคือถูกออกแบบมาให้ไม่มี Condensing Unit วางอยู่ให้ดูรำคาญใจเลยค่ะ เพราะจะถูกซ่อนเอาไว้ด้านบนยูนิตของเรา ซึ่งจะไปแทรกตัวอยู่ภายในห้องนอนตรงริมหน้าต่างของยูนิตที่อยู่ด้านบนแทน โดยจุดที่ติดกับหน้าต่างนี้จะจัดให้เป็น Bay Window ปิดด้วยไม้ดูสวยงามเรียบร้อย เป็นการนำเอาเทคนิค Interlock เข้ามาใช้อย่างเกิดประโยชน์ในทุกส่วน ถ้ายังนึกภาพไม่ออกเราจะพาไปดูกันที่ห้องตัวอย่างค่ะ แต่ก่อนอื่นมาดูกันที่ Unit Plan คร่าวๆ ของโครงการก่อนค่ะ        1 Bedroom 52.25 ตร.ม. ยูนิตขนาดเริ่มต้นของโครงการค่ะ จุดเด่นของ Type นี้จะอยู่ที่ประตูห้องน้ำแบบ Double Access เข้า-ออกได้ทั้งจากทางห้องครัวกับห้องนอนบริเวณ Walk In Closet ทำให้เวลามีแขกมาที่ห้องของเรา จะได้ไม่ต้องเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะเข้าห้องน้ำค่ะ ตรงนี้ถือว่าเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น ซึ่งห้องน้ำจะมีส่วนเปียกทั้งที่เป็น Shower และ Bathtub ค่ะ     1 Bedroom 54.00-54.50 ตร.ม. พื้นที่ขยับขึ้นมาอีกนิดค่ะแต่ยังอยู่ใน Type เดียวกัน ซึ่งมีความพิเศษตรงที่เป็น Customer’s Choices สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามต้องการ โดยหากมองแปลนทางซ้ายมือบริเวณ Walk In Closet หากเจ้าของห้องใช้พื้นที่ตู้เสื้อผ้าไม่มาก ก็สามาถให้ทางโครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นห้องทำงานแทนได้ตามแปลนทางขวามือ หรือแม้กระทั่งการ Combine 2 ยูนิต 1 Bedroom ให้เป็นห้องเดียวกัน ทางโครงการก็ทำให้ได้นะคะ ทุกสิ่งก็เพื่อให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริงได้มากที่สุด 2 Bedrooms 88.00 ตร.ม. ห้องขนาด 2 Bedrooms ก็เป็น Customer’s Choices เช่นเดียวกันค่ะ โดยสามารถเลือกได้ระหว่างพื้นที่ห้องนอน 1 กับห้องน้ำกว้างๆ หรือจะเปลี่ยนเป็นเพิ่มห้องทำงาน แต่ลดขนาดห้องนอน 1 กับห้องน้ำลงเล็กน้อย     2 Bedrooms 94.75 ตร.ม. ขนาดใหญ่ที่สุดของ Type 2 Bedrooms 2 Bathrooms เป็นขนาดที่ไม่ต้องเลือกระหว่างพื้นที่ห้องนอนกับห้องทำงานแล้วค่ะ เพราะจะได้พื้นที่ทุกห้องมากว้างมาก ทั้ง 2 ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ไปจนถึงระเบียงเลยค่ะ   2 Bedrooms Duplex 99.50-99.75 ตร.ม. โดยแปลนทางซ้ายจะเป็น Lower จัดให้เป็น Common Area พร้อมห้องน้ำสำหรับรับแขก ส่วนทางขวาเป็น Upper โดย Master Bedroom จะได้ Walk In Closet กับ Bay Window และห้องนอนที่ 2 จะได้ กระจกสูงสามารถมองลงไปที่ Living Room และยังได้ทิวทัศน์ด้านนอกอาคารด้วยกระจก High Ceiling ที่สูงขึ้นมาจาก Living Room จรดเพดานชั้น Upper     ห้องตัวอย่างสุดหรู   ห้องตัวอย่างของ EYSE SUKHUMVIT 43 จะอยู่ภายใน Sale Gallery ของโครงการ THE ESSE SUKHUMVIT 36 ติด BTS ทองหล่อค่ะ ซึ่งจะมีให้ชม 1 ห้องตัวอย่าง Type 2 Bedrooms 88.00 ตร.ม. พร้อมเปิดต้อนรับทุกท่านให้เข้ามาสัมผัสความพรีเมี่ยมในวันที่ 16 กรกฎาคม นี้ค่ะ       Plan นี้คือห้องตัวอย่าง Type 2 Bedrooms 88.00 ตร.ม. ที่เราจะพาไปชมกันนะคะ        เริ่มกันตั้งแต่ประตูห้องกันเลยค่ะ ใช้บานสวิง 1 บานครึ่ง สูง 2.6 เมตร กว้าง 1.3 เมตร ใช้วัสดุไม้วีเนียร์ ซึ่งมีคุณสมบัติกันไฟได้ 1 ชม. อายุการใช้งานยาวนาน และสามารถซ่อมแซมแก้ไขพื้นผิวได้ง่าย อีกทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ Digital Door Lock จากแบรนด์ YALE   สวิทช์ Schneider Electric โดยจะมีไฟ LED บอกสถานะการเปิด-ปิดไฟเป็นสีฟ้าอยู่รอบปุ่ม และ Wallpaper ทางโครงการจะติดตั้งมาให้ด้วย ซึ่งมีให้เลือกระหว่างโทนสีเข้มและสีอ่อนค่ะ     เปิดประตูเข้ามาก็มี Welcome Light ซึ่งเป็นไฟแบบ Downlight ที่ใช้ภายในห้องทั้งหมดค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน โดยโซนแรกเราจะพบกับ Kitchen Room สไตล์ยุโรป ความสูง Floor To Ceiling  2.65 เมตร ชุดครัวจากแบรนด์ Poliform แบ่งเป็นด้านซ้ายเป็น One Wall Kitchen ส่วนด้านขวามือตรงกลางห้อง Kitchen Room เป็น Kitchen Island ที่ต่อด้วยโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง   Top เคาน์เตอร์ครัวทั้งหมด รวมถึงกรุผนังส่วนครัวตลอดแนวด้วยหินควอทซ์แบบเดียวกันทั้งเซต วัสดุปิดผิวบานตู้ทั้งหมดใช้สีขาวตัดกันกับสีเทาเข้มของหินควอทซ์ และใต้ตู้ด้านบนติดตั้งไฟเพิ่มแสงสว่างเวลาทำครัวเอาไว้ด้วยค่ะ   เมื่อเปิดบานตู้และลิ้นชักออกมาทั้งหมดก็จะมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ ด้านในเป็นสีดำแบ่งเป็นชั้นๆ เพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากกว่าเป็นตู้เปล่าค่ะ   ชุดครัวระดับ Hi-End จากยุโรป แบรนด์ Kuppersbusch ทั้งเตาอบ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ได้มาครบชุดนี้เลยค่ะ   ซิงค์ล้างจาน 2 หลุมแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออกเวลาใช้งาน จากแบรนด์ FRANKE   นอกจากนี้ ใกล้กับประตูห้องจะมี Built in ตู้เคาน์เตอร์ 4 บานนี้   เปิดออกมาก็จะเป็นตู้เย็นที่มีช่อง  Freeze อยู่ด้านล่างค่ะ   Kitchen Island กลาง Kitchen Room ก็เป็นตู้เก็บของด้านล่างอยู่ด้วยค่ะ   ด้านขวามือจากประตูห้องมี Built in ตู้เก็บของทรงสูงมาให้ด้วย   ตู้ทรงสูงด้านนี้เป็นชั้นวางรองเท้านั่นเองค่ะ และยังซ่อนตู้ Breaker ไฟฟ้า เอาไว้ด้วยค่ะ   ที่มุมเดียวกันอีกฝั่งหนึ่งของ Built in ตู้เก็บของทรงสูงนี้ก็ยังใช้ประโยชน์ได้อีกค่ะ   เป็นตู้สำหรับวางเครื่องซักผ้าค่ะ โดยจะมีการต่อท่อน้ำมาให้ข้างในเรียบร้อย   ภาพรวมของ Kitchen Room ค่ะ   เชื่อมต่อพื้นที่ลึกเข้าไปภายในห้องที่ส่วน Living Room ค่ะ โดย Floor To Ceiling ของโซนนี้จะสูงถึง 3 เมตร ค่ะ   Living Room พื้นที่กว้างขวางมาก พอที่จะวางโซฟา L Shape ขนาดใหญ่ นอนเอนหลังได้สบายๆ ค่ะ ส่วนพื้นของ Living Room  ไปจนถึง Bedroom นั่นจะปูด้วยวัสดุ Compounded Wood ซึ่งถือเป็นไม้จริงทั้งตัว เพราะผิวหน้าเป็นแผ่นไม้จริงนำไปผ่านกระบวนการทำให้ไม้มีความทนทานมากขึ้น ส่วนเนื้อไม้ด้านล่างเป็นไม้จ๊อยท์ โดยมีคุณสมบัติไม่บิดงอ ปลวกไม่กินยาวนานถึง 10 ปี และสามารถขัดผิวหน้าทำความสะอาดได้   ระยะห่างระหว่างโซฟากับเคาน์เตอร์ทีวีกำลังพอดีค่ะ ไม่ชิดจนเกินไป ตู้ที่มาจากอิตาลี จะมีเฉพาะ ตู้ครัวและตู้เสื้อผ้าทั้งหมดค่ะ ตู้ Built-in ตู้นี้มีเฉพาะห้องแต่งค่ะ   เปิดบานตู้ออกมาก็จะพบกับชั้นวางได้อีกค่ะ   ประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน โดยตัวกระจกลามิเนตสีเทา เป็นกระจก 2 ชิ้นประกบกัน โดยมีฟิล์มกั้นตรงกลาง ซึ่งมีคุณสมบัติกันความร้อนจากภายนอก ป้องกันและเก็บเสียงได้ดีกว่ากระจกธรรมดา ในกรณีที่กระจกแตกเศษกระจกจะไม่ร่วงหล่นลงพื้น แต่จะยึดติดกับตัวฟิล์ม ส่วนเฟรมอลูมิเนียม Powder Coat ช่วยให้ทนต่อรอยขีดข่วนได้มากกว่า ไม่ลอกร่อน ไม่เกิดรอยกระเทาะได้ง่าย   มือจับเป็นตัวยาวซึ่งใช้เป็นตัวล็อคกระจกได้ด้วยการสับขึ้น-ลงค่ะ ส่วนผ้าม่านทึบแบบนี้ทางโครงการก็ให้มาด้วยค่ะ   ให้รางม่าน 1 รางพร้อมม่านทึบค่ะ   Balcony ใช้ไม้เทียมตกแต่งด้านข้างทั้งหมด ราวระเบียงกระจกใสขอบอลูมิเนียมสีเงิน ซึ่งพื้นที่กว้างขวางพอที่จะนำโต๊ะ เก้าอี้ มาวางไว้สำหรับนั่งพักผ่อน หรือแม้แต่จะออกกำลังกายเบาๆ เล่นโยคะ ก็สามารถทำได้ค่ะ   อย่างที่บอกกันไปแล้วค่ะว่า Balcony จะไม่มี Condensing Unit วางไว้ให้เห็นเลย เพราะจะถูกวางเอาไว้ด้านบนยูนิตของเรา แล้วไปแทรกตัวอยู่ในห้องนอนของยูนิตด้านบนของเราค่ะ ลองเข้าไปดูที่ห้องนอนแรกกันเลยดีกว่าค่ะ จะได้เห็นภาพชัดขึ้น   ภายในห้องนอนแรก Floor To Ceiling 3 เมตร ตอนนอนจะทำให้รู้สึกโล่งสบายยิ่งขึ้น   หน้างต่างจะใช้กระจกลามิเนตสีเทา เฟรมอลูมิเนียม Powder Coat เช่นเดียวกันกับประตู Balcony ค่ะ แต่ในห้องนอนจะเป็นกระจกบานกระทุ้ง   ริมหน้าต่างห้องนอนจะมี Bay Window สูงขึ้นมาประมาณ 70 ซม. ซึ่งข้างในนี้จะเป็น Condensing Unit  ของห้องด้านล่าง หันหน้าเป่าลมร้อนออกนอกอาคารค่ะ โดย Bay Window นี้จะไม่ได้ปิดผิวเบาะโซฟาแบบนี้มาให้นะคะ ห้องจริงจะเป็นไม้ขึ้นมาให้เท่านั้น   นอกจากจะซ่อน Condensing Unit  ด้วยเทคนิค Interlock ได้อย่างสวยงามแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดประโยชน์ได้อีกด้วยนะคะ   ภายในห้องทั้งหมดจะใช้เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าค่ะ ส่วนตู้เสื้อผ้าสีขาว และโต๊ะเครื่องแป้งที่เห็นนี้ก็ส่งตรงมาจากอิตาลี แบรนด์ Poliform   ออกจากห้องนอนแรก ตรงข้ามกันจะมีห้องเก็บของค่ะ   ภายในห้องเก็บของไม่ใช่แค่เป็นห้องโล่งๆ นะคะ แต่ยังมี Built in ชั้นวางของเอาไว้ให้ตลอดแนวกำแพง   สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom ด้านในสุดของห้องค่ะ กลางห้องจะเป็น Walk In Closet ด้านขวาเป็นห้องน้ำ ซ้ายมือเมื่อผ่าน Walk In Closet ไปแล้วจะเป็นเตียงนอนค่ะ ซึ่งโต๊ะเครื่องแป้งที่เห็นก็จะ Built in มาให้ยกเซตพร้อมตู้เสื้อผ้าค่ะ   ตู้เสื้อผ้าแบรนด์ Poliform ทั้งสองข้างสามารถแบ่งฝั่งเป็น For him & For her   ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีไฟส่องสว่างติดเอาไว้ให้ด้วยค่ะ เพื่อความสะดวกในการหยิบจับนำมาใช้   จากโซน Walk In Closet ก่อนจะเข้าไปในโซนเตียงนอนจะกั้นด้วยประตูกระจก High Ceiling สีเทา แบบบานเลื่อน 2 ตอน เฟรมอลูมิเนียม Powder Coat   ภายใน Master Bedroom จะเป็นเตียง King Size วางอยู่กลางห้อง และยังคงเหลือพื้นที่ทางเดินได้รอบเตียงค่ะ   หน้าต่างยังคงใช้กระจกลามิตเนตสีเทา เฟรมอลูมิเนียม Powder Coat เช่นเดิมค่ะ แต่หน้าต่างของห้องนอนจะใช้เป็นกระจกบานกระทุ้ง   Bay Window ก็มีมาให้เช่นเดียวกันกับห้องนอนแรกค่ะ เพียงแต่ห้องจริงจะไม่มีการวางเบาะมาให้ มีเพียงเคาน์เตอร์ไม้ขึ้นมาให้เท่านั้น   ภาพรวมของ Master Bedroom ค่ะ โดยสุดท้ายเราจะพาไปดูกันที่ห้องน้ำ ซึ่งจะมีห้องน้ำในตัวสำหรับ Master Bedroom และห้องน้ำกลางของห้องค่ะ   Bathroom สุดพรีเมี่ยมนี้จะได้ทั้งหมดมายกเซตเลยค่ะ ตั้งแต่ง Floor To Ceiling 2.65 เมตร  พื้นและผนังใช้หินอ่อน กับกระเบื้องพอร์ซเลน  ซึ่งเป็นกระเบื้องแบบ Full Body อายุการใช้งานยาวนาน ทนทาน แข็งแกร่งกว่าหินจากธรรมชาติ รองรับน้ำหนักได้ดี ส่วนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเซรามิก Top หินสังเคราะห์ แบ่งฝั่ง For him & For her   เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดที่เห็นในห้องตัวอย่างนี้ หากใครที่อยากจะได้ตามแบบห้องตัวอย่าง นอกเหนือจากบางชิ้นที่โครงการให้มาอยู่แล้วก็สามารถติดต่อไปยัง ARKITEKTURA ร้านนำเข้าเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังระดับ Hi-End ก็จะมีเซตของโครงการนี้จัดเอาไว้ให้โดยเฉพาะ ซึ่งมีให้เลือก 2 โทนสี คือ LIGHT TONE และ NEUTRAL TONE  ในราคาพิเศษสำหรับลูกบ้าน EYSE SUKHUMVIT 43 โดยเฉพาะ    ทุกดีเทลถูกเนรมิตขึ้นมาจนกลายเป็น EYSE SUKHUMVIT 43 โครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ระดับพรีเมี่ยมด้วยโลเคชั่น และตัวโครงการเองตั้งแต่ทางเข้า ส่วนกลาง ไปจนถึงภายในห้องพักอาศัยในทุกตารางนิ้วของโครงการ ซึ่งทุกวันนี้ก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าโครงการจากสิงห์ เอสเตท ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังค่ะ ในราคาเริ่มต้น 13.99 ล้านบาท   Presales 21-22 กรกฏาคม ที่ Sales Gallery ติดกับ BTS ทองหล่อ อย่าลืมลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษ 200,000 – 400,000 บาท >>> http://bit.ly/2Nu7YiQ  
SHAA ASOKE คอนโดลักซ์ชัวรี่ที่..เหนือกว่าใครในทุกด้าน : รีวิวคอนโด

SHAA ASOKE คอนโดลักซ์ชัวรี่ที่..เหนือกว่าใครในทุกด้าน : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาทุกคนนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปชมห้องตัวอย่างโครงการลักชัวรี่คอนโดมิเนียมที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อไม่นานมานี้ SHAA ASOKE (ฌาา อโศก) ของ KPN LAND หนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ที่ให้ความสำคัญเรื่องการเลือก Location ที่จะต้องเป็น Prime of Prime เน้นให้ลูกบ้านเดินทางง่ายอยู่ใกล้ห้าง, โรงเรียน, โรงพยาบาล, สวนสาธารณะ ที่สำคัญคือความคุ้มค่าของที่ดินแปลงนั้นต้องสามารถมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นได้ในอนาคต โดยครั้งนี้ทางโครงการเลือกปักหมุดในย่าน "อโศก" สุดยอดโลเคชั่นในความเป็นศูนย์รวมหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น Interchange ของการเดินทางรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญที่สุดของกรุงเทพคือสายสีเขียว BTS สถานีอโศก และสีน้ำเงิน MRT สถานีสุขุมวิท เต็มไปด้วยสำนักงาน โรงแรม และแหล่งบันเทิงไลฟ์สไตล์ที่ใครๆ ต่างหมายปองอยากอาศัยอยู่ในย่านนี้   ทำเลศักยภาพ ใจกลางเมืองอโศก   เราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าที่ดินใน "ย่านอโศก" ที่สามารถพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมได้นั้นเหลือน้อยเต็มที และมีราคาสูง แต่ทาง KPN LAND ก็สามารถคว้ามาครอบครองไว้ได้ โดยตัวโครงการ ฌาา อโศก ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ในซอยสุขุมวิท 19 ใกล้ BTS อโศก, MRT สุขุมวิท, โรบินสัน และ Terminal 21 จุดเด่นอยู่ที่การเลือกโลเคชั่นที่ไม่พลุกพล่านมาก เพราะอยู่ในซอยย่อย ไม่วุ่นวายเหมือนทำเลติดถนนอโศก เหมาะเป็นย่านที่อยู่อาศัยเพราะในซอยแวดล้อมไปด้วยร้านอาหารบรรยากาศดี, เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์, โรงแรมต่างๆ, สปา, ร้านทำผม, เซเว่น-อีเลเว่น และปิดท้ายซอยด้วยโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ใครที่ใช้รถส่วนตัวก็นับว่าสะดวกสบาย เนื่องจากซอยสุขุมวิท 19 เชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 15 ถนนสุขุมวิท และถนนอโศกมนตรี ทำให้ช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนที่ถนนเส้นหลักได้ดี นอกจากนี้ยังมีเส้นทางลัดเลาะไปยังย่านอื่นๆ ได้ทั้ง นานา, พร้อมพงษ์ และทองหล่อ โดยสามารถเชื่อมต่อทั้งซอยสุขุมวิท 19, ซอยสุขุมวิท 15 และซอยสุขุมวิท 23 หรือถ้าใครอยากใช้ทางด่วน ตัวโครงการก็อยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานครในรัศมีไม่ถึง 3 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางโดยรถยนต์เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากทีเดียว     ในส่วนของการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ต้องบอกว่าสะดวกมากที่สุดแล้วค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่ศูนย์กลางธุรกิจและการค้าในย่านอโศก ใกล้ทั้งแหล่งงาน, โรงแรม, สถานศึกษา, สถานพยาบาล, สวนสาธารณะ รวมทั้งแหล่งช็อปปิ้งสำคัญของกรุงเทพฯ อย่าง Terminal 21 ห้างสรรพสินค้าระดับโลกที่เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้แวะเวียนหลั่งไหลไม่ขาดสาย ที่สำคัญคืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญที่สุดของกรุงเทพที่ Interchange กันระหว่าง BTS สายสีเขียว (สถานีอโศก) และ MRT สายสีน้ำเงิน (สถานีสุขุมวิท) ในระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ ไม่เกิน 5 นาที ซึ่งถ้าใครเป็นสายช็อปปิ้งก็คงถูกใจเพราะพิกัดจากโครงการสามารถเดินไปขึ้น Sky Walk เพื่อไป Terminal 21, Robinson หรือ Korean  Town ที่ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 10 และ 12 หรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS ถัดไปอีก 1 ป้ายก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ สวรรค์ของนักช้อปเพราะมีศูนย์การค้าระดับโลก The EM District ใจกลางสุขุมวิทอย่าง Emporium, Emquartier รวมทั้งห้าง Emsphere ที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างอีกไม่นานต่อจากนี้ ใครที่รักการสังสรรค์ก็คงจะแฮปปี้เพราะนั่งรถไฟฟ้า BTS จากสถานีอโศกไปทองหล่อแค่เพียง 2 สถานี ก็จะถึงแหล่งแฮงก์เอ้าท์ยอดนิยมของคนรุ่นใหม่แล้วค่ะ แถมถ้าใครที่เป็นสายเดินทางก็ยิ่งถูกใจเพราะสามารถเชื่อมต่อไป Airport Link ได้จากรถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิทไปสถานีเพชรบุรีแค่เพียงสถานีเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ไม่ไกลจากโครงการมีบริการเรือด่วนคลองแสนแสบวิ่งระหว่างสะพานผ่านฟ้าถึงวัดศรีบุญเรือง โดยท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรืออโศก ใครที่เบื่อการจราจรบนถนน จะไปใช้บริการทางเรือก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย   แต่ก่อนจะไปชมห้องตัวอย่างแบบเต็มๆ เราขอชวนไปชมสำนักงานขายดีไซน์โดดเด่นของโครงการ ฌาา อโศก กันก่อน โดยสำนักงานขายจะตั้งอยู่คนละที่กับตัวโครงการนะคะ ซึ่งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 (BTS สถานีพร้อมพงษ์) ตรงข้ามร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดัง Philippe Restaurant เลยค่ะ โดยจากถนนใหญ่สุขุมวิท เราตรงเข้ามาในซอยสุขุมวิท 39 ประมาณ 300 เมตรก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานขายโครงการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น.   การเดินทางไปสำนักงานงานขาย SHAA   1. เริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ค่ะ ซึ่งทางไปสำนักงานขาย จะอยู่ที่ทางออก 3 นะคะ 2. เมื่อเดินบันไดลงมาก็หมุนตัวกลับเพื่อเดินย้อนไปปากซอยสุขุมวิท 39 ค่ะ 3. เดินตรงเข้าซอยสุขุมวิท 39 มาเรื่อยๆ จะผ่านโครงการ The Diplomat 39 ของ KPN LAND ด้วยค่ะ 4. จากถนนใหญ่สุขุมวิทตรงเข้ามาในซอยสุขุมวิท 39 ประมาณ 300 เมตรก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ โดยสำนักงานขายดีไซน์หรูหราแต่ยังมีความทันสมัยในสไตล์โมเดิร์นตามคอนเซ็ปต์ของโครงการคือ Modern Craftsmanship ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย พร้อมที่นั่งรับรองลูกค้าหลากหลายมุม นอกจากนี้ยังมีส่วน Presentation โครงการ และห้องตัวอย่างให้เข้าชม 1 ห้องค่ะ   ยกระดับการอยู่อาศัยของคนเมือง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เพียบพร้อม   โครงการ ฌาา อโศก เป็นโครงการลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ตัวอาคารสูง 24 ชั้น บนพื้นที่ 1-0-8 ไร่ ทั้งหมด 143 ยูนิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ในสไตล์ Modern Craftsmanship โดยออกแบบให้ตัวอาคารมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยดีไซน์ Facade เป็นปริซึมกระจกที่เวลาแสงตกกระทบจะเกิดแสงสะท้อนวิบวับ ดูน่าค้นหา โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังคัดสรรแต่วัสดุคุณภาพระดับพรีเมี่ยมมาใช้ในโครงการ โดยเลือกใช้อุปกรณ์ห้องน้ำ AXOR แบรนด์ดังจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผลงานการแบบของ Antonio Citterio ดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “Gentlemen Of Design” ด้วยการนำทองเหลืองมาใช้เป็นวัสดุหลักให้มีความคงทนสามารถใช้งานได้นาน ออกแบบเป็นเอกลักษณ์เน้นเรื่องรูปทรง มุมขอบ ความโค้งมน หลอมรวมเข้าด้วยกัน เพื่อให้ชิ้นงานมีความสวยงามโดดเด่น และยังคงความสวยงาม เหนือกาลเวลา โดยความพิเศษคือ สเป็คของ AXOR ที่ใช้ในห้องน้ำทุกยูนิตนั้นจะเป็นสีพิเศษ Red Gold ซึ่งเป็นสีที่คุณสมบัติทำให้กลมกลืนกับแสง สี ของสภาพแวดล้อม โดยยังคงความเป็นจุดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์เอง ทำให้ได้บรรยากาศในห้องน้ำที่หรูหราไม่เหมือนใครไม่ว่าจะเป็นก๊อกน้ำ, ราวแขวนผ้าเช็ดตัว, ชุดฝักบัว และที่แขวนทิชชู่ ผ่านงานฝีมือแบบชิ้นต่อชิ้น  ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็จัดเต็มแบบสุดๆ เรียกว่าครบครันมากทีเดียวค่ะ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของพื้นที่ส่วนกลางถูกออกแบบโดยหลอมรวมความต้องการของการใช้ชีวิตในเมืองเข้ากับความเป็นส่วนตัว สู่รูปแบบของ Facility ที่มีให้เลือกสรรมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำแบบในร่ม ในขณะที่ห้องฟิตเนสก็มาพร้อมเครื่องออกกำลังกายแบบจัดเต็ม อีกทั้งยังมีล็อบบี้ดีไซน์หรูหรา สไตล์ Modern Craftsmanship, Mailbox, ห้องอเนกประสงค์ต่างๆ รวมไปจนถึงสวนพักผ่อนที่ทุกส่วนสามารถใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังมาพร้อม Bicycle Garage และที่จอดรถถึง 100 คัน, EV Charger กล้องวงจรปิดแบบ CCTV, ระบบเข้าออกอัตโนมัติแบบ Access Control และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ภาพบรรยากาศจำลองด้านหน้าโครงการ SHAA ASOKE (ฌาา อโศก) ที่ถูกออกแบบโดยใช้กระจกเป็นวัสดุหลัก เวลาแสงตกกระทบจะเกิดแสงสะท้อนวิบวับ ดูน่าค้นหา โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครในย่านนี้ ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำในร่มบนชั้น 2 ของอาคาร ผนังวิวรอบด้านเป็นกระจกปริซึม มองออกไปด้านนอกชมวิวเมืองด้วยทัศนียภาพที่ต่างออกไป ภาพบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนสที่เต็มไปด้วยเครื่องออกกำลังกายแบบครบครัน ภาพบรรยากาศจำลองอาคารด้านนอกของโครงการ SHAA ASOKE (ฌาา อโศก) จากภาพจะเห็นว่าแต่ละยูนิตที่พักอาศัยของโครงการจะมีระเบียงพร้อมราวกันตก ซึ่งใช้วัสดุเป็นกระจกเทมเปอร์ทำให้กลมกลืนกับดีไซน์ของอาคารและสามารถมองวิวได้อย่างกว้างไกล   พื้นที่ใช้ชีวิต..คุ้มค่าทุกตารางเมตร   นอกจากภายนอกอาคารที่โดดเด่นและแฝงงานดีไซน์เอาไว้ในทุกส่วนแล้ว ภายในห้องชุดประเภทต่างๆ ของโครงการ ฌาา อโศก มีห้องพักอาศัยให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom, 2 Bedrooms และแบบ Duplex ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 34.25 ไปจนถึง 113.25 ตารางเมตร โดยทางโครงการคัดเลือกแต่วัสดุคุณภาพมาใช้ในทุกๆ ยูนิต รวมไปถึงการคำนึงถึงรูปแบบ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ตัวโครงการยังเปิดขายแบบ Fully Fitted ประกอบด้วยชุดสุขภัณฑ์ไฮเอนด์จากประเทศเยอรมนี AXOR ภายใต้แบรนด์ HANSGROHE ที่ผ่านความใส่ใจในรายละเอียดสุดปราณีตเป็นงานฝีมือแบบชิ้นต่อชิ้น โดยแบบ 1 ห้องนอนจะมีมูลค่ากว่า 4 แสนบาท และ 2 ห้องนอนมูลค่ากว่า 7 แสนบาท เนื่องจาก AXOR เลือกนำทองเหลืองมาใช้เป็นวัสดุหลักมีความคงทนสามารถใช้งานได้นาน ไม่เพียงเท่านี้ยังติดตั้ง Digital Door lock มาให้เรียบร้อยแล้ว โดยใช้แบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Baldwin ที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกุญแจทั่วไป แต่มีความพิเศษกว่าใครคือผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้สามารถเปิดประตูบ้านได้ด้วยมือสัมผัสผ่านการเปิดบลูทูธบนมือถือ และยังสามารถส่งเป็น e-key ไปยังญาติหรือเพื่อนอีกได้ด้วยโดยที่เจ้าของบ้านอยู่ที่ไหนผู้มาเยือนก็สามารถเข้าห้องได้ แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินโทรศัพท์หายหรือแบตหมดก็ยังสามารถใช้กุญแจปกติแบบทั่วไปไขได้   ไม่รอช้า..เรามาเปิดประตูห้องตัวอย่างกันดีกว่า สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมคือแบบ 2 Bedroom ขนาด 69.50 ตารางเมตร ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าห้องมา ต้องบอกว่าภายในห้องจัดวาง Layout ให้ทุกพื้นที่สามารถใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ครบทุกฟังก์ชั่นจริงๆ ค่ะ พื้นจะเป็น Wood Polymer Composite ที่ทนทานต่อความชื้นและไม่บวมน้ำ ส่วนห้องครัวก็มาในลุคดูหรูหรา โดยทางโครงการทำ Built in ชุดครัวมาให้สูงจรดเพดาน ชุดครัวจะเป็นแบรนด์นำเข้าแบรนด์ Kuppersbusch มาพร้อมเตาไฟฟ้า 4 หัว (ถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอนจะได้ 2 หัวค่ะ), เครื่องดูดควัน, เตาอบ และตู้เย็น แถมยังออกแบบช่องเก็บของมาให้แบบจุใจพร้อมหน้าบานทุกตัวติด Soft closed มาให้เรียบร้อยแล้ว ทำให้แขกไปใครมาก็เห็นว่าครัวเป็นนระเบียบอยู่นั่นเองค่ะ ในส่วนของห้องน้ำ, ห้อง Master Bedroom และห้องนอนที่ 2 ห้องนั่งเล่นก็ยังจัดแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน พร้อมแบ่งมุมรับประทานอาหารไว้อีกด้วย และด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ต้องการให้ลูกบ้านทุกยูนิตได้รับความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ ทางโครงการจึงเพิ่ม Home Application ให้ลูกบ้านทุกยูนิตสามารถควบคุมไฟ เครื่องปรับอากาศ ในอนาคตสามารถเพิ่มฟั่งชั่นอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็น CCTV การควบคุมผ่าน Smart Phone ได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่คุณเลือกและควบคุมได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ   หน้าประตูติดตั้ง Digital Door Lock มาให้แล้วนะคะ โดยใช้แบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Baldwin ที่ผสานกับเทคโนโลยีมือถือ ใช้เปิดเข้าห้องแทนคีย์การ์ดหรือส่งคำอนุญาตให้เพื่อนเข้าห้องได้ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายที่สุด เรามาเริ่มจากห้องนอน Master Bedroom กันก่อนนะคะ ภายในห้องโอบล้อมด้วยหน้าต่างกระจกใส ทำให้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามามากพอ ไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวัน และเมื่อเปิดประตูบานเลื่อนไปยังระเบียงทางโครงการก็ติดไฟเพดานพร้อมทำท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย ขนาดระเบียงกว้างกำลังดีเลยค่ะ จากภาพจะเห็นว่าเมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียง ซึ่งสามารถเดินผ่านได้สบายๆ เลยค่ะ หากใครชอบดูทีวีก็สามารถติดตั้งที่ผนังปลายเตียงเพิ่มได้ด้วย พื้นที่ข้างเตียงติดกับห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้าบิลต์อินสูงจรดเพดานเลยนะคะ ภายในมีที่ให้เก็บของได้เยอะทีเดียว ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ใช้วัสดุและอุปกรณ์ห้องน้ำจาก AXOR ภายใต้แบรนด์ HANSGROHE แบรนด์สุขภัณฑ์ไฮเอนด์จากประเทศเยอรมนี จุดเด่นคือสีของอุปกรณ์ AXOR จะเป็นสี Red Gold ที่มีคุณสมบัติพิเศษทำให้กลมกลืนกับแสง สี ของสภาพแวดล้อม โดยยังคงความเป็นจุดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์เองทำให้ได้บรรยากาศในห้องน้ำจะต่างออกไป ไม่ว่าจะก๊อกน้ำ, ฝักบัว หรือที่แขวนทิชชู่ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ลูกบ้าน ต้องใช้งานทุกวัน ทางโครงการเลยให้ความสำคัญและตั้งใจออกแบบอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษมีอ่างอาบน้ำ และห้องอาบน้ำในตัว ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องเข้ามุมมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์แบบบานเปิด ยกธรณีสูงขึ้นมาหนึ่งสเต็ปเพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับประตูเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ จากภาพจะเห็นว่าบานพับและมือจับประตูใช้สี Red Gold เข้าชุดกับสุขภัณฑ์เลยนะคะ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาดกำลังดี ผนังเหนือเคาน์เตอร์ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้สำหรับเสียบไดร์เป่าผมเรียบร้อยแล้ว ท็อปเคาน์เตอร์ปูหินอ่อนสีดำขีดขาวให้ความรู้สึกหรูหรา มาพร้อมก็อกน้ำจาก AXOR สีพิเศษคือสี Red Gold ที่เพิ่มความพรีเมี่ยมและชวนสัมผัสได้เป็นอย่างดี ภายในพื้นที่ส่วนเปียก ทางโครงการสั่งหล่ออ่างอาบน้ำรูปทรงโค้งมนสีขาวสบายตาขึ้นมาใหม่ จากภาพจะเห็นได้ชัดเลยว่าอ่างอาบน้ำมีขนาดบางกว่าอ่างปกติทั่วไป นอกจากนี้ส่วนผนังเหนืออ่างจะแต่งด้วยหินอ่อนสีดำขีดขาวเพื่อเสริมความหรูหรา อีกทั้งยังมีฝักบัวแบรนด์ AXOR สี Red Gold พร้อมก๊อกน้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อย สำหรับโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบ Wall Hung ที่วางระบบฝังผนังดูสวยงามและเรียบร้อย แถมยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย  ซึ่งทางโครงการก็ให้ที่แขวนทิชชู่ของ AXOR สี Red Gold เพื่อให้เข้าชุดกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นภายในห้อง ซึ่งบอกได้เลยค่ะว่านอกจากจะดูแพง หรูหราสมราคาแล้ว ยังดูลงตัวในทุกๆ ส่วนเป็นอย่างดี เรามาดูต่อกันที่ห้องนอนที่ 2 กันก่อนเลย ภายในห้องนอนมีระเบียงในตัวแถมยังเชื่อมต่อกับระเบียงมุมนั่งเล่น พื้นที่มีขนาดกว้างพอจัดวางเตียงเดี่ยวขนาด 4 ฟุตพร้อมโต๊ะและตู้เสื้อผ้าได้แบบพอดี แต่ทางโครงการตกแต่งห้องตัวอย่างออกมาให้เป็นห้องพักผ่อนพร้อมโซฟาแบบ Daybed มาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งก็ดูเหมือนห้องอเนกประสงค์ค่ะ บางคนอาจใช้เป็นห้องเก็บเสื้อผ้าแบบ Walk in closet หรือจะทำเป็นห้องทำงานก็ยังได้ จากห้องนอนที่ 2 ไปดูในส่วนของ Living Room กันค่ะ พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของ Living area นะคะ พื้นที่ส่วนนั่งเล่นมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ด้วยนะคะ โดยสามารถวางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้อย่างพอดิบพอดี มุมมองจากโต๊ะรับประทานอาหารไปยังส่วนนั่งเล่น ทางโครงการจัดวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งเอาไว้เป็นตัวอย่าง ระยะห่างระหว่างโซฟากับคอนโซลทีวีมีระยะกำลังดีเลยนะคะ ไม่แคบและไม่กว้างจนเกินไป สำหรับมุมนี้จะถูกโอบล้อมด้วยประตูกระจกใสนะคะ ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนทั้ง 2 ข้าง สามารถเปิดไปรับลมที่ระเบียงได้ นอกจากสามารถวางโซฟาตัวยาวได้แล้ว ยังมีพื้นที่เหลือสำหรับโต๊ะข้างได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด Home Application ที่ทางโครงการติดตั้งให้ลูกบ้านทุกยูนิตสามารถควบคุมไฟ เครื่องปรับอากาศ รวมถึงผ้าม่านในอนาคต ผ่าน Smart Phone ได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่คุณเลือกและควบคุมได้ มาถึงส่วนครัว ครัวจัดฟังก์ชั่นเป็นตัวไอ (I) มาพร้อมเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, เตาอบ, อ่างล้างจาน 1 หลุม และตู้เย็นแบบบิลต์อิน นอกจากนี้ยังออกแบบหน้าบานเปิดปิดมาให้เรียบร้อย อีกทั้งยังเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าด้วยค่ะ ชุดครัวจะเป็นแบรนด์ Kuppersbusch นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดเลยนะคะ สำหรับก็อกน้ำของอ่างล้างมือจะเป็นแบบ Shower คือเป็นสายฉีดที่สามารถยกออกมาได้ แถมยังเพิ่มความพรีเมียมโดยการพิมพ์ชื่อโครงการ SHAA ไว้ด้วย สำหรับตู้เย็นจะเป็นแบรนด์ของ Teka นะคะ ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นห้องน้ำนะคะ ภายในห้องแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆ สำหรับส่วนอาบน้ำจะมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์แบบบานเปิด วางบนธรณีที่ยกสูงหนึ่งสเต็ปเพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง อุปกรณ์ภายในห้องน้ำจะเป็นของ AXOR  เหมือนในห้องน้ำห้อง Master Bedroom ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ   ด้วยทำเล Prime Location ของกรุงเทพฯ ใกล้จุด Interchange ของการเดินทางรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญที่สุดของกรุงเทพคือสายสีเขียว BTS สถานีอโศก และสีน้ำเงิน MRT สถานีสุขุมวิท แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแบบนี้ ฌาา อโศก จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ถูกจับตามองมากที่สุดโครงการหนึ่ง อย่างที่แจ้งไปแล้วว่าทางโครงการจะขายห้องมาให้แบบ Fully Fitted ดังนั้นในห้องมาตรฐานจะเป็นผนังฉาบเรียบสีขาว และมีเคาน์เตอร์ครัวบิลต์อินพร้อมชุดครัวแบรนด์ Kuppersbusch มาพร้อมเตาไฟฟ้า,เครื่องดูดควัน, เตาอบ, ตู้เย็น, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ AXOR แบรนด์ไฮเอนด์จากประเทศเยอรมนี ที่มาในโทนสี Red Gold ดูหรูหรา สง่างาม และพรีเมี่ยมมากจริงๆ ค่ะ   นอกจากนี้ทางโครงการ ฌาา อโศก ยังมอบ Digital Door Lock แบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Baldwin ที่ผสานกับเทคโนโลยีมือถือ ใช้เปิดเข้าห้องแทนคีย์การ์ดหรือส่ง E-Key ให้เพื่อนเข้าห้องได้ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายที่สุดมาให้กับลูกบ้านทุกยูนิตด้วย ซึ่งทาง KPN LAND ประกาศราคาเริ่มต้นมาที่ 10 ล้านบาท* ถ้าเทียบกับคอนโดมิเนียม Luxury ในระดับเดียวกันแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าแก่การลงทุนมากเลยนะคะ เพราะ Installment Term เริ่มต้นเพียง 30,000 บาท/เดือน นอกจากนี้แนวโน้มในการเติบโตของทำเลค่อนข้างดีมากในอนาคต ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือเก็งกำไรยังไงก็คุ้มค่า
VITTORIO – วิตโตริโอ : รีวิวคอนโด

VITTORIO – วิตโตริโอ : รีวิวคอนโด

VITTORIO’ (วิตโตริโอ) คอนโด High Rise สูง 28 ชั้น ระดับอัลตร้า-ลักซ์แห่งใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘LIVING IN THE MASTERPIECE’ ที่สุดของที่สุดในทุกมิติ ใกล้ BTS สถานีพร้อมพงษ์ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    28,000,000 - 107,000,000 บาท ราคาต่อตารางเมตร   ประมาณ 350,000 บาท/ตารางเมตร เจ้าของโครงการ   บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ลักษณะคอนโด   High Rise สูง 28 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการ   1 ไร่ 2 งาน 93 ตร.ว. จำนวนห้อง   88  ยูนิต ที่จอดรถ    142 คัน (161%) พร้อมที่จอดรถซูเปอร์คาร์ ที่ตั้งโครงการ    ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท39 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีพร้อมพงษ์ The Em District Emporium EmQuartier Emsphere Terminal 21 Miracle Mall Top Market Villa Market Rain Hill K Village อุทยานเบญจศิริ รร.นานาชาติอเมริกันกรุงเทพ รพ.สมิติเวช ลักษณะห้องและขนาดห้อง Palazzo VITTORIO: เพนท์เฮาส์ 3 ชั้น ขนาด 270-306 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต Duplex Este: ดูเพล็กซ์แมนชั่น ขนาด 167 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต VITTORIO Villa: แมนชั่นขนาด 2 ห้องนอน ขนาด 100-140 ตร.ม. จำนวน 80 ยูนิต สิ่งอำนวยความสะดวก Club Kinetic: ฟิตเนสสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ VITTORIO ณ ชั้น 28 Arno Vitality Pool: สัมผัสประสบการณ์ธาราบำบัด 3 มิติ ใน Residence แห่งแรกและแห่งเดียวประเทศไทย ณ ชั้น 27 Salone 39: แหล่งสังสรรค์ภายในบรรยากาศหรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ณ ชั้น 28 Galleria Medici: ล็อบบี้สุดหรูอันเป็นส่วนตัว รวมผลงานจิตรกรรมซึ่งประเมินมูลค่ามิได้ VITTORIO Concierge: พร้อมให้บริการระดับโรงแรม 5 ดาว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-260-9698 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.apthai.com/
KRAAM Sukhumvit 26 คราม สุขุมวิท 26 : รีวิวคอนโด

KRAAM Sukhumvit 26 คราม สุขุมวิท 26 : รีวิวคอนโด

KRAAM Sukhumvit 26 คอนโดหรูระดับ Super Luxury ในซอยสุขุมวิท 26 ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง จาก NYE Estate รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    17 ล้านบาท เจ้าของโครงการ    บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ    1 - 3 - 91 ไร่ จำนวนห้อง     126 ยูนิต ที่จอดรถ    176 คัน หรือคิดเป็น 140% เริ่มก่อสร้าง    เดือนธันวาคม ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    เดือนกันยายน ปี 2562 ค่าส่วนกลาง    100 บาท/ตารางเมตร ค่ากองทุน    1,200 บาท/ตารางเมตร สถานที่สำคัญใกล้เคียง Emporium Emquartier สวนเบญจศิริ Rainhill A Square K-Village BigC Extra พระรามสี่ สถานฑูตฟิลิปปินส์ 24′ Avenue อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ โรงเรียนสายน้ำผึ้งในพระอุปถัมภ์ โรงพยาบาลสมิติเวช Tesco Lotus พระรามสี่ ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom ขนาด 61 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 102 - 122 ตารางเมตร 3 Bedroom ขนาด 177 - 180 ตารางเมตร Penthouse ขนาด 229 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Lobby สระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก ฟิตเนส Jacuzzi Yoga room Steam room Library Multi-purpose room Concierge service Laundry service Room maintenance Doorman Shuttle services สวนหย่อมรอบโครงการ Access Card ระบบรักษาความปลอดภัย และ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-661-2900 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : www.nyeestate.co.th/kraam/
ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 : รีวิวคอนโด

ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 : รีวิวคอนโด

ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 คอนโด High Rise 4 อาคาร สูง 25 ชั้น 2 อาคาร และ 35 ชั้น 2 อาคาร ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย จาก ศุภาลัย รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    4,500,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด    High Rise สูง 25 ชั้น 2 อาคาร และ 35 ชั้น 2 อาคาร จำนวนห้อง    1,046 ยูนิต / ร้านค้า 8 ยูนิต ที่จอดรถ    100% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เนื้อที่ทั้งหมด   10 - 1 - 29  ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนนานาชาติโมเดิร์น อิตัลไทย ทาวเวอร์ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร MRT เพชรบุรี Airport Link มักกะสัน BTS พร้องพงษ์ เอ็มโพเรี่ยม เอ็มควอเทียร์ Terminal 21 ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom  ขนาด 39 - 57.50 ตารางเมตร 2 Bedroom  ขนาด 65.50 - 100.50 ตารางเมตร 3 Bedroom  ขนาด 141.50 - 209.50 ตารางเมตร Penthouse  ขนาด 355 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก Infinity-Edge Swimming Pool & Jacuzzi Kids’ Pool Fitness Sauna Roof Garden Game Room (Snooker) Aerobic & Yoga Sky Lounge Kids’ Room Lobby Sky Lounge Tai Chi / Qigong’s Lawn Fish Pond CCTV System Elevator Access Control System (Key Card & Finger Scan) Smoke & Heat Detector / Fire Alarm Digital Door Lock สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1720 กด 96 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.supalai.com เปิด VIP Sale 18-23 มกราคม นี้ ที่ชั้น M ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิ๊ก!! www.supalai.com
The Diplomat 39 : รีวิวคอนโด

The Diplomat 39 : รีวิวคอนโด

The Diplomat 39 คอนโดหรู สูง 31 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 39 โครงการใหม่จาก KPN Group ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ รายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งใจกลางกรุงเทพ รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น   ประมาณ 15 – 185 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร   ประมาณ 277,000 บาท เจ้าของโครงการ   KPN Group Corporation Limited ลักษณะคอนโด   High Rise สูง 31 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง   ประมาณ 156 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   1 - 3 - 37 ไร่ ที่จอดรถ   ประมาณ 160 คันในช่องจอด ที่ตั้งโครงการ   ซ.สุขุมวิท 39 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา  กรุงเทพฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2562 สถานที่สำคัญใกล้เคียง The Emporium Emquatier Emsphere สวนเบญจสิริ โรงพยาบาลสมิตเวช ลักษณะห้องและขนาดห้อง 1 Bedroom 2 Bedrooms 3 Bedrooms Duplex Penthouses ขนาดประมาณ 54 – 450 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก The Salon Lounge Business Center Swimming pool The Club Gym Rooftop Garden Outdoor terrace สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-789-9000 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.thediplomatcondo.com