Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

การเดินทาง
อ่านรีวิวอื่นที่เกี่ยวกับ
ติดต่อโครงการ


Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 (รีวิวคอนโด)
Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปดูคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ริมถนนรัตนาธิเบศร์ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง อีกหนึ่งโครงการคุณภาพจาก AP ซึ่งโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ที่เราจะพาไปเยี่ยมชมในครั้งนี้ เพิ่งจะสร้างเสร็จไปเมื่อต้นปี 59 นี้เอง ตัวโครงการอยู่ในตำแหน่งที่น่าสนใจมากครับ เพราะห่างจากสถานีบางกระสอเพียง 250 เมตรเท่านั้น การเดินทางสะดวกมาก ใกล้แยกแครายที่เชื่อมต่อกับถนนติวานนท์ และมีด่านขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ ด้วย

 

Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ตึกคู่ สูง 25 ชั้น ทางเข้าโครงการอยู่ติดริมถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก พอเลยจากแยกแครายมาประมาณ 1.4 กม. ก็จะเห็นทางเข้าได้อย่างชัดเจน หาไม่ยากเลยครับ

aspire-%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b9%8c-2-review-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%99

ใกล้ๆ กับโครงการมีทั้งศูนย์ราชการนนทบุรี ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี, โลตัส, เอสพลานาดรัตนาธิเบศร์ ในขณะที่เลยไปอีกหน่อย ก็ยังมีห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งสำคัญของย่านนี้เลยทีเดียว

 

เจาะลึกโครงการ

สำหรับตัวโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 จะมีพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่เศษ ซึ่งอัดแน่นไปด้วย Facility ที่ทางโครงการจัดมาแบบเต็มที่ โดย Facility หลักๆ จะอยู่บริเวณชั้นล่างระหว่างอาคารพักอาศัยทั้ง 2 ตึก มีทั้งสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ความยาว 25 เมตร, ห้องฟิตเนส, ห้องซาวน่า, ลานกิจกรรมกลางแจ้ง, สนามเด็กเล่น, สวนขนาดใหญ่, ล็อบบี้เปิดรับวิวแบบ 360 องศา, Bike Lane และ Jogging Track รอบโครงการ ในขณะที่พื้นที่จอดรถจะแยกส่วนออกมาเป็นอีกหนึ่งอาคาร สามารถรองรับปริมาณรถได้มากถึง 45% เลยทีเดียว

Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกายรอบโครงการ

Bike Lane อยู่คนละฝั่งถนนกับ Jogging Track

Main Lobby จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร

ใกล้ๆ กับ Lobby จะมีสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร

ฟิตเนสจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยนะครับ

จากฟิตเนสมองออกมาเห็นสระว่ายน้ำ

ใกล้ๆ กันก็จะมีห้องน้ำ พร้อมห้องซาวน่าและตู้ล็อกเกอร์ แยกชาย-หญิง

ข้อดีอย่างหนึ่งของการที่มี Facility อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารพักอาศัยคือ ลูกบ้านทุกคนสามารถลงมาใช้บริการได้สะดวกเท่าเทียมกัน แถมโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 นี้ยังเป็นอาคารสูงถึง 25 ชั้น จึงช่วยบังแดดได้เป็นอย่างดีเกือบตลอดทั้งวัน บริเวณสระว่ายน้ำจึงร่มรื่น สามารถลงเล่นน้ำได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องกลัวแดดร้อนกันเลย

ในส่วนของที่พักอาศัยนั้นจะเริ่มกันตั้งแต่บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคารเลยนะครับ แต่มีจำนวนห้องไม่มากนักในบริเวณชั้นล่าง ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าหาส่วนกลาง เปิดรับวิวสระว่ายน้ำ และสวนสวยๆ แบบใกล้ชิดกันไปเลย นอกจากนี้บริเวณชั้น 8 ของอาคาร A ด้านที่ติดกับอาคารจอดรถ ทางโครงการยังจัดแต่งพื้นที่ดาดฟ้าของอาคารจอดรถให้เป็นสวนลอยฟ้าขนาดย่อม สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน รับลมชมวิวได้สบายๆ ห้องพักทางด้านทิศเหนือของอาคาร A จึงได้วิวสวนสีเขียวเพิ่มขึ้นมาอีกด้านไปโดยปริยาย

จากแปลนอาคารจะเห็นถนนทางเข้าโครงการด้านขวามือ ก่อนจะเข้ามาเจออาคารจอดรถเป็นอาคารแรก

ทางเข้าโครงการ

ถนนทางเข้าโครงการร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่

มีทางเท้าสำหรับเดินเข้าโครงการอยู่คู่ขนานกับถนน Main

ขับรถเข้ามาด้านในแล้วจะเจออาคารจอดรถอยู่ทางด้านขวามือ

อาคารจอดรถสูง 8 ชั้น อยู่ติดกับอาคาร A

ทางขึ้นอาคารจอดรถ

ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ทั้ง 2 อาคารเลยนะครับ แต่อาคาร A จะมีน้อยกว่า เพราะติดกับอาคารจอดรถ

ชั้น 3-7 ห้องพักอาศัยจะเริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่อาคาร A ก็ยังติดอาคารจอดรถอยู่

ขึ้นมาถึงชั้น 8 จะเป็นชั้นสุดท้ายของอาคารจอดรถ ซึ่งชั้นดาดจะถูกทำเป็นสวนส่วนกลาง

ตั้งแต่ชั้น 9 ขึ้นไปจนถึงชั้น 25 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะมีประมาณ 31 ห้องต่อชั้น

ห้องพักของ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีทั้งหมด 1,428 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือแบบ 1 Bedroom และ 2  Bedroom โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 24.5 ตร.ม. นะครับ เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องตัวอย่างของโครงการกันว่าจะน่าอยู่มากแค่ไหน

 

เปิดห้องตัวอย่าง

ปัจจุบันทางโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 มีลูกบ้านย้ายเข้ามาพักอาศัยกันเป็นจำนวนพอสมควรแล้วนะครับ ดังนั้นใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่สามารถติดต่อเข้ามาขอชมห้องในบรรยากาศจริงได้เลย

เปิดห้องตัวอย่างห้องแรก เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่ขนาด 24.5 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการเลย แต่การออกแบบ Layout ภายในห้องค่อนข้างลงตัว เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีทีเดียว

หลังประตูทางเข้าห้อง จะเป็นพื้นที่ของ Living Area ติดกันเป็นบริเวณห้องนอน ซึ่งมีประตูกระจกบานใสกั้นไว้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้อง ในขณะที่ห้องครัวและมุมกินข้าวจะอยู่ถัดไปอีกด้านที่ติดกับระเบียงนะครับ บรรยากาศโดยรวมภายในห้องค่อนข้างโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ที่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ห้องเลยไม่อับทึบถึงแม้จะมีขนาดเพียง 24.5 ตร.ม. ก็ตาม

เปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ

ช่วงนี้โครงการมีโปรโมชั่นจัดเฟอร์นิเจอร์ของ SB มาให้เรียบร้อย ตรงนี้จะได้เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง

แต่ดูจากพื้นที่แล้วถ้าใครอยากได้ใหญ่กว่านี้ก็สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้อยู่นะครับ

ด้านชั้นวางทีวีโครงการก็จัดเตรียมมาให้ด้วยนะครับ

ติดกับ Living Area จะเป็นห้องนอน มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น โครงการวางเตียง 5 ฟุตไว้ให้ พร้อมฟูก

ติดกับหัวเตียง Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ให้ด้วย

ปลายเตียงโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานสูงไว้ให้

มุมมองจากห้องนอนออกมาที่ Living Area

จากห้องนอนเราไปดูกันต่อที่ห้องครัวเลยนะครับ

ห้องนี้จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ ไม่ได้มีประตูกระจกกั้นให้

ภายในห้องครัวโครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมโต๊ะทานอาหาร

เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจาน พร้อมกับพื้นที่เตรียมอาหาร ด้านล่างจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ที่โครงการจัดมาให้ในช่วงโปรโมชั่น

ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วนครัว

พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน

ห้องน้ำจะอยู่อีกด้านของห้องครัว

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard

ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 ที่เปิดให้ชมคือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้ ดูเผินๆ แล้วจะมีการจัดวาง Layout ภายในห้องใกล้เคียงกับห้องแบบแรกมากเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมีมากกว่า ครัวที่ได้จึงเป็นครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนเพิ่มเข้ามา ในขณะที่ห้องนอนก็จะเป็นผนังทึบแทนกระจกบานเลื่อน ส่วนห้องน้ำก็เปลี่ยนมาเข้าออกจากในห้องนอนแทนครับ

ห้องนี้จะได้เปรียบกว่าตรงที่ได้ครัวปิด มีประตูกั้นเรียบร้อย สามารถทำอาหารจริงจังได้มากกว่าแค่จัดเตรียม อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน พื้นที่ครัวก็กว้างขึ้นอีกหน่อย วางโต๊ะกินข้าวเข้ามุมไว้ก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้อีกสบายๆ ครับ

เข้ามาในห้องแล้วจะเจอส่วน Living Area ก่อนเลยนะครับ

พื้นที่บริเวณ Living Area กว้างอยู่พอสมควร

โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีอยู่ติดกับตู้เก็บของ

ตู้เก็บของ Built-in อยู่หน้าประตูห้อง

ต่อจาก Living Area เข้าไปด้านในจะเป็นห้องครัว

Type นี้จะเป็นครัวแบบปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกั้น

ด้านในครัวจะคล้ายๆ กับห้องก่อนหน้านี้ที่เราดูกันมา

ตู้เย็นวางอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัวจะมีซิงค์ล้างจานพร้อมกับพื้นที่เตรียมอาหาร

ด้านบนจะเป็นตู้ลอยเก็บของ

ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า

ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง

ระเบียงจะอยู่ต่อจากห้องครัว

ธรณีประตูยกขึ้นมาค่อยข้างสูงทีเดียว

พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร

เรามาดูกันต่อที่ห้องนอนนะครับ

พื้นที่ในห้องนอนกว้างพอสมควรนะครับ

โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้

ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก

ถ้าอยากติดทีวีไว้ในห้องด้วย อาจจะต้องใช้ทีวีแบบติดผนัง ซึ่งโครงการก็เตรียมปลั๊กไว้ให้เรียบร้อย

โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานสูงไว้ให้ที่ปลายเตียง

หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เลยนะครับ

จะมีบานกระทุ้งเป็นบานเล็ก 1 บาน ส่วนที่เหลือจะเป็นบาน Fix

ห้องตัวอย่างที่เราได้มาดูกันจะอยู่ที่ชั้น 9 มองออกไปจะเห็นสวนสีเขียวที่อยู่บนชั้น 8

อีกด้านโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางของไว้หน้าห้องน้ำ

การจัดวาง Layout ห้องน้ำ Type นี้จะต่างกับห้องแรกอยู่พอสมควรนะครับ เนื่องจากขนาดห้องที่ใหญ่กว่า

ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้ของ American Standard เหมือนกัน อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม

มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดวางโถสุขภัณฑ์

ตรงกลางจะเป็น Shower Box มีฉากกั้นเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน

พื้นที่ใน Shower Box ค่อนข้างกว้างพอสมควรเลยนะครับ

ชุดฝักบัวและที่วางของเล็กๆ

ห้องแบบสุดท้ายที่เราจะเปิดชมกันก็คือ ห้อง 2 Bedroom ซึ่งมีให้เลือกขนาดเดียวคือ 45.5 ตร.ม. ส่องจาก Layout ห้องก็ว่าเป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีแล้ว พอเปิดห้องจริงก็ต้องบอกว่าภายในเป็นสัดส่วน เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกันมากๆ โซนกลางห้องเป็น Living Area ติดกับระเบียงซึ่งเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้ค่อนข้างเต็มที่ ในขณะที่พื้นที่ครัวก็กว้างขวาง เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำ ซึ่งเข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากด้าน Living Area และ Master Bedroom

ห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอนนี้ จัดแบ่งห้องนอนไว้คนละด้าน นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแล้ว แต่ละห้องยังสามารถเปิดรับวิวจากกระจกบานใหญ่ได้อย่างเต็มตา ขณะเดียวกันถ้าพื้นที่ของห้องนอนเล็ก ก็สามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ อาจจะใช้เป็นห้องทำงาน ห้องเป็นของ หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็จะช่วยให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นได้ แต่ถ้าครอบครัวไหนมีลูกเล็กๆ ขนาดห้องนี้ก็กำลังกะทัดรัดพอดิบพอดีเลยครับ

เข้ามาในห้องแล้วจะเป็นพื้นที่ Dining Area โล่งๆ ก่อนจะเห็น Living Area ที่อยู่ด้านใน

เรามาดูด้านซ้ายมือกันก่อนนะครับ ด้านซ้ายมือจะห้องน้ำ การจัดวาง Layout จะแตกต่างจาก 2 ห้องที่ผ่านมาเลยนะครับ

ส่วนสุขภัณฑ์ที่ใช้จะเหมือนกัน เริ่มจากอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม

มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์

ด้านในสุดจะเป็น Shower Box ที่มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย

พื้นที่ใน Shower Box กว้างขวางใช้ได้เลยครับ

ชุดฝักบัวและที่วางของเล็กๆ

ออกจากห้องน้ำมาเราข้ามไปดูห้องครัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันต่อ ครัวของห้องนี้จะเป็นครัวแบบปิดนะครับ

พื้นที่ในห้องครัวค่อนข้างกว้างเลยนะครับ

เคาน์เตอร์ครัวจะได้ชุดใหญ่กว่า 2 ห้องที่ผ่านมา

จะมีซิงค์ล้างจานพร้อมพื้นที่เตรียมอาหาร

ซิงค์ล้างจานแบบหลุมของ Teka

ด้านบนเป็นชั้นลอยเก็บของ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่โล่งๆ สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า

ห้องครัว Type จะไม่มีระเบียงให้นะครับ แต่จะมีหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมบานกระทุ้ง ไว้สำหรับระบายกลิ่นอาหารในห้องครัว

กลับมาเข้าในห้อง มาดูพื้นที่ Dining Area กันต่อ ตรงนี้โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งไว้ให้

จะอยู่บริเวณหน้าห้องครัวเลยนะครับ เตรียมอาหารเสร็จก็ยกออกมาเสิร์ฟกันได้เลย

ถัดจาก Dining Area เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Area

โครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งก็ได้นะครับ

ส่วนด้านที่วางทีวีโครงการ Built-in เป็นชั้นวางทีวีมาให้ด้วย จะวางบนชั้นวาง หรือจะใช้ทีวีแบบติดผนังเหมือนในห้องตัวอย่างก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้อีกแบบครับ

ระเบียงจะอยู่ติดกับ Living Area นะครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน

ธรณีประตูยกขึ้นมาสูงทีเดียวครับ เวลาก้าวข้ามก็ระวังกันนิดนึงนะครับ

พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวเท่าๆ กับพื้นที่ Living Area ซึ่งถือว่ากว้างพอสมควรเลยนะครับ

คอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกว่าไว้ที่ระเบียง หันหน้าเป่าลมร้อนออกด้านนอก

เรากลับเข้ามาด้านใน ขวามือของ Living Area จะเป็นห้องนอนเล็ก

ด้านในห้องนอนเล็กโครงการจะวางเตียงขนาดประมาณ 3 ฟุตไว้ให้

ซึ่งขนาดเตียงจะลงล็อกพอดีเป๊ะเลยนะครับ

ปลายเตียงสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังแบบนี้ก็ได้

หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบาน Fix และบานกระทุ้ง 1 บาน

ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in โต๊ะเครื่องแป้ง

วางไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า

มาถึงห้องนอนใหญ่ที่อยู่ด้านซ้ายมือของ Living Area

โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้

ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้เดินได้สะดวก อาจจะต้องใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะดีกว่านะครับ

หน้าต่างในห้องนอนจะได้บานใหญ่เป็นบาน Fix และมีบานเล็กเป็นกระทุ้ง

ข้างเตียงอีกด้านโครงการจะ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ติดกับตู้เสื้อผ้า

ในห้องนอนจะมีประตูเข้าห้องน้ำอีกด้านนึงด้วยนะครับ จะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าเลย

ทางเข้าห้องน้ำจากฝั่งห้องนอน

ด้วยความที่โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 อยู่ติดกับถนนใหญ่เลย แถมยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกด้วย จึงค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของการเดินทาง ไม่ว่าจะด้วยระบบขนส่งมวลชนหรือรถส่วนตัว ยิ่งถ้าใครต้องทำงานในช่วงโซนนนทบุรีอยู่แล้ว ก็ยิ่งสะดวกกว่ามากในการเดินทางไปกลับจากที่ทำงาน นอกจากนี้ในอนาคต บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีจะเป็นจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพฯได้มากขึ้นไปอีกครับ รอบๆ โครงการถึงแม้จะไม่ได้มีร้านค้าร้านอาหารให้พึ่งพาในระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ แต่ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าถัดออกไปอีก 1 หรือ 2 สถานีก็จะมีห้างสรรพสินค้า แหล่งช็อปปิ้งให้พึ่งพาได้สบายๆ ทั้ง ห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และเทสโก้ โลตัส

ส่วนภายในโครงการ ต้องบอกว่าทางโครงการจัด Facility มาแน่นเต็มที่มากๆ แถมห้องทุกห้องก็ขายให้แบบ Fully Fitted คือมีให้ทั้งเครื่องปรับอากาศ, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, สุขภัณฑ์และที่กั้นอาบน้ำ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก็จัดมาให้คุ้มค่าคุ้มราคา ตามมาตรฐานทุกชิ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวนะครับ สำหรับที่พักอาศัยที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรืออยากจะลองเข้าไปชมห้องตัวอย่างด้วยตัวเองก็สามารถนัดหมายกับเจ้าหน้าที่โครงการได้เลยครับ

บทความ รีวิวคอนโด ล่าสุด