Tag : พระราม 9

7 ผลลัพธ์
ไนท์แฟรงค์ ชี้ย่านพระราม 9 ศักยภาพใหม่โฮมออฟฟิศ

ไนท์แฟรงค์ ชี้ย่านพระราม 9 ศักยภาพใหม่โฮมออฟฟิศ

นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทำเลบริเวณพระราม 9, รามคำแหง, ประดิษฐ์มนูธรรม (เอกมัย-รามอินทรา)และศรีนครินทร์ นับเป็นทำเลศักยภาพแห่งใหม่ของการพัฒนาโฮมออฟฟิศ เนื่องจากใกล้ตัวเมืองและเป็นเขตรอยต่อของย่านธุรกิจ ย่านรัชดา, พระราม9, ทองหล่อและสุขุมวิท  อีกทั้งใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์, มอเตอร์เวย์, ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนศรีรัช โดยทำเลนี้ยังใกล้ห้างสรรพสินค้า เดอะไนน์พระราม9, เดอะมอลล์รามคำแหง และโรงพยาบาลชั้นนำอย่าง โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์, โรงพยาบาลรามคำแหง รวมถึงสถานศึกษาสำคัญ เช่น มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าถึง 3 สายที่เข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับทำเลนี้ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง (คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2563), รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน บางซื่อ-หัวหมาก (คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2563) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี (คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566) สำหรับอุปทานตลาดโฮมออฟฟิศบริเวณพระราม 9 – รามคำแหง – ประดิษฐ์มนูธรรม – ศรีนครินทร์ จากปี 2554 จนถึง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2561 มีจำนวนอุปทานสะสมทั้งสิ้น 1,461 หน่วย โดยปีที่มีอุปทานเข้าสู่ตลาดมากที่สุดในปี 2557 ซึ่งมีโครงการโฮมออฟฟิศเปิดใหม่ถึง 512 หน่วย จากผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายเล็กในตลาด อย่างไรก็ตาม อุปทานใหม่ตั้งแต่ปี 2558 – 2560 อยู่ในระดับคงตัวเฉลี่ย 215 หน่วยต่อปี ในขณะที่ 2 เดือนแรกของปี 2561 นั้น มีอุปทานใหม่เข้ามาในพื้นที่ศึกษาเพียง 8 ยูนิต เป็นที่น่าสังเกตุว่าเฉพาะปี 2557 อุปทานกว่า 60% อยู่ในพื้นที่รามคำแหง-ประดิษฐ์มนูธรรม คาดการว่าเกิดจากความตื่นตัวของผู้ประกอบการที่ได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มในช่วงสองปีก่อนหน้านี้ รูปภาพ 1 อุปทานสะสมของโครงการโฮมออฟฟิศบริเวณพระราม 9-รามคำแหง-ประดิษฐ์มนูธรรม -ศรีนครินทร์ ที่มา : ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย รูปภาพ 2 อุปทานสะสมของโครงการโฮมออฟฟิศบริเวณพระราม 9-รามคำแหง-ประดิษฐ์มนูธรรม-ศรีนครินทร์ ตั้งแต่ปี 2554 – ก.พ. 2561 แบ่งตามพื้นที่ ที่มา : ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะลึกลงไปที่อุปทานใหม่เฉพาะโฮมออฟฟิศระดับไพร์ม ซึ่งมีราคาขายต่อยูนิต 20 ล้านบาทขึ้นไป มีเพียง 149 ยูนิตเท่านั้นที่เปิดตัวระหว่างปี 2554 – ก.พ. 2561 โดย 47% ของอุปทานใหม่ทั้งหมดตั้งอยู่ในทำเลพระราม 9 ในขณะที่อีก 42% และ 11% ตั้งอยู่ในทำเลรามคำแหง-ประดิษฐ์มนูธรรม และศรีนครินทร์ ตามลำดับ ซึ่งโฮมออฟฟิศระดับไพร์มนี้ทั้งหมดตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังจุดต่างๆของเมืองได้อย่างสะดวกสบาย รายล้อมไปด้วยสาธารณูปโภคสาธารณูปการครบครัน มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 450 - 1,140 ตร.ม. เนื้อที่ดินขนาดตั้งแต่ 39 – 120 ตร.ว.ต่อยูนิต และมีหน้ากว้างเฉลี่ย 6-11 ม. ส่วนใหญ่มีลิฟต์โดยสาร สวน รวมถึงมีพื้นที่จอดรถได้มากกว่า 6 คันต่อยูนิต รูปภาพ 3 อุปทานโฮมออฟฟิศระดับไพร์ม ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปต่อยูนิต ในพื้นที่พระราม 9 - รามคำแหง - ประดิษฐ์มนูธรรม - ศรีนครินทร์ 2554 - ก.พ. 2561 ที่มา : ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ด้านอุปสงค์โฮมออฟฟิศที่เปิดขายในย่านพระราม 9-รามคำแหง-ประดิษฐ์มนูธรรม-ศรีนครินทร์นั้น ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ซื้อ โดยโครงการที่เปิดตัวระหว่างปี 2556 – เดือนกุมภาพันธ์ปี 2561 มีอัตราการขายเฉลี่ย ณ ปัจจุบันประมาณ 80% ในขณะที่โครงการที่เปิดตัวระหว่างปี 2554 – 2555 นั้นปิดไปการขายไปหมดแล้ว ส่วนโครงการที่เปิดตัวใหม่ในปี 2560 มีอัตราการขายเฉลี่ยประมาณ 70% และด้านแนวโน้มตลาดที่บ่งชี้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทโฮมออฟฟิศเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการมีสำนักงานขนาดเล็กของตนเอง ในทำเลใกล้ศูนย์กลางธุรกิจและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอื่นๆ รูปภาพ 4 อุปสงค์โดยเฉลี่ย ณ สิ้น ก.พ. 2561 ของโครงการโฮมออฟฟิศบริเวณพระราม 9-รามคำแหง-ประดิษฐ์มนูธรรม-ศรีนครินทร์ ที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2554 – ก.พ. 2561 แบ่งตามพื้นที่ ที่มา : ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ตาราง 1 ราคาขายเริ่มต้นโดยเฉลี่ยของโครงการโฮมออฟฟิศบริเวณพระราม 9-รามคำแหง-ศรีนครินทร์ แบ่งตามปีที่เปิดตัว (หน่วย: บาท/ตารางเมตร) ที่มา : ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ในด้านราคาขายเริ่มต้นโดยเฉลี่ยของโครงการโฮมออฟฟิศที่เปิดตัวใหม่ ณ ปี 2560 ในพื้นที่ศึกษา อยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 50,300 บาท โดยโครงการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พระราม 9 มีราคาขายเริ่มต้นโดยเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 67,500 บาท ในขณะที่โครงการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รามคำแหงและศรีนครินทร์ มีราคาขายเริ่มต้นโดยเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 34,600 บาท และ 49,000 บาท ตามลำดับ  ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเฉพาะโฮมออฟฟิศระดับไพร์มในพื้นที่ศึกษา ซึ่งมีราคาขายต่อยูนิตตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป และเปิดตัวในปี 2560 มีระดับราคาขายเริ่มต้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 63,300 ต่อตารางเมตร รูปภาพ 5 ค่าเช่าและอัตราการเช่าของตึกสำนักงานในพื้นที่พระราม 9 – รัชดาภิเษก (เฉพาะตึกใหม่อายุไม่เกิน 10 ปี) ที่มา : ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย เมื่อวิเคราะห์รวมไปถึงตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าในพื้นที่เดียวกัน โดยพิจารณาเฉพาะตึกที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี พบว่าอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงปีละ 6% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี การเป็นเจ้าของโฮมออฟฟิศจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ประกอบการ เนื่องจากช่วยลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน และควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดีในระยะยาว        
One9Five Asoke-Rama 9 – วันไนน์ไฟว์ อโศก-พระราม 9 : รีวิวคอนโด

One9Five Asoke-Rama 9 – วันไนน์ไฟว์ อโศก-พระราม 9 : รีวิวคอนโด

One9Five Asoke-Rama 9 (วันไนน์ไฟว์ อโศก-พระราม 9) - คอนโด High Rise 61 ชั้น เป็นโครงการ Luxury Condominium ขนาดใหญ่กว่า 11 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 5 ในพื้นที่ New CBD ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกใกล้ MRT สถานีพระราม 9 (เพียง 200 เมตร)     รายละเอียดโครงการ   ราคา เริ่มต้น 2,890,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. เริ่มต้น 113,333 บาท/ตร.ม. เจ้าของโครงการ TC Development ลักษณะคอนโด High Rise สูง 61 ชั้น จำนวน 2 อาคาร พื้นที่โครงการ 11-1-6 ไร่ จำนวนห้อง Tower A จำนวน 954 ยูนิต และ Tower B จำนวน 957 ยูนิต ที่จอดรถ 957 คัน ที่ตั้งโครงการ พระราม 9 ซอย 5 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม.   สถานที่สำคัญใกล้เคียง Super Tower G Tower Central พระราม 9 Fortune โรงพยาบาลพระราม 9   ลักษณะห้องและขนาดห้อง - 1 Bedroom Junior Suite ขนาด 25.5-27.5 ตร.ม. - 1 Bedroom Deluxe ขนาด 35-41 ตร.ม. และ 48-69.5 ตร.ม. - 2 Bedroom Deluxe ขนาด 55-67.5 ตร.ม. - 3 Bedroom Exclusive ขนาด 94 -109.5 ตร.ม. - Penthouse ขนาด 194-271.5 ตร.ม.   สิ่งอำนวยความสะดวก Ground Floor Grande Lobby Private Mezzanine Lobby Concierge Service Des Lift Lobby Mailbox Room Laundry Room Express Storage room Public Restroom Retails Shop Space 8th Floor Residential Lounge Library Room Game Room Theatre Room Golf Simulator Roo Fitness Center Cross Fit Zone Boxing Area Yoga Zone Private Spa Locker Room Kid’s Club Pool Lounge 61th Floor Sky Residential Lounge Private Sky lounge Private Sky Meeting Room Sky Bar   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 063-828-8999 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.one9five.com/
Nirvana Icon วงแหวน-พระราม 9 : รีวิวบ้าน

Nirvana Icon วงแหวน-พระราม 9 : รีวิวบ้าน

รีวิวฉบับนี้ เราจะพาไปชมบ้านเดี่ยวของหมู่บ้าน Nirvana Icon วงแหวน-พระราม 9 ซึ่งตั้งอยู่สุดถนนกรุงเทพกรีฑา ใกล้กับตรงช่วงแยกใหญ่บ้านทับช้างที่ถนนมอเตอร์เวย์ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก (ถนนวงแหวน) ที่ดินตรงนี้เป็นผืนเดียวกันกับที่ดินของ หมู่บ้านณุศาศิริ ที่อยู่มาก่อนหลายมีแล้ว ถ้าดูในภาพรวมของที่ดินขนาดใหญ่ โซนด้านขวามือจะเป็นหมู่บ้านณุศาศิริครับ ส่วนที่ดินในโซนด้านซ้ายจะเป็นของ Nirvana Icon ที่เราจะพาไปดูกันนี่แหละครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าทั้ง 2 โครงการนี้เป็นพันธมิตรเพื่อนบ้านที่จับมือกันเป็นอย่างดี โดยทั้ง 2 หมู่บ้านจะใช้ทางเข้าออกเดียวกัน และใช้พื้นที่ส่วนกลาง Facility ต่างๆ ร่วมกันด้วยนะครับ   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    10,500,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 60 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    67 - 0 - 26.50 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ วิธีการเดินทาง เรามาเริ่มกันด้วยวิธีการเดินทางกันก่อนครับ ซึ่งการเดินทางมายังโครงการนี้ก็เหมือนกับโครงการ Nirvana Beyond Lite เลยครับ แค่ขับเลยซอยกรุงเทพกรีฑา 32 มาอีกนิดหน่อย (ดูรีวิว Nirvana Beyond Lite) สำหรับเส้นทางถนนที่สามารถเลือกเดินทางมายังโครงการได้ก็มีทั้งทางซอยรามคำแหง 24 หรือจากแยกลำสาลี รวมถึงสามารถเลือกเดินทางมาตามเส้นทางถนนคู่ขนานกับถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งเข้าได้จากตรงแยกศรีนครินทร์ตัดกับพระราม 9 ส่วนเส้นทางอื่นๆ อย่างเส้นถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ก็สามารถใช้เป็นทางหลักๆ ในการเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพได้ มีด่านทับช้างซึ่งเป็นด่านที่ใกล้ที่สุดก็แถวๆ วัดลาดบัวขาวนั่นแหละครับ แต่โดยภาพรวมแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์ในย่านนี้ก็จัดว่าสะดวกใช้ได้เลยนะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเพราะถนนหนทางในย่านนี้บางทีถ้าขับรถพลาดแล้ว ก็ต้องกลับรถกันหลายครั้งหน่อย แนะนำว่าให้ใช้เส้นทางจากทางฝั่งรามคำแหงจะสะดวกที่สุดครับ การเดินทางเราเริ่มต้นจากซอยรามคำแหง 24 กันเลยนะครับ ตรงมาเรื่อยๆ ก่อนถึงแยกกรุงเทพกรีฑาจะมีป้ายบอก พอมาถึงแยกกรุงเทพกรีฑาข้างหน้าที่เราเห็นจะเป็นถนนศรีนครินทร์ เราตรงไปเพื่อเข้าถนนกรุงเทพกรีฑานะครับ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางบางกะปิ เลี้ยวขวาจะไปทางพัฒนาการ ตรงผ่านแยกมาแล้ว เราก็เข้าสู่ถนนกรุงเทพกรีฑาเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้ตรงอย่างเดียวเลยครับ ระยะทางจากแยกกรุงเทพกรีฑาไปจนถึงที่ตั้งโครงการรวมๆ แล้วประมาณ 6 กิโลนิดๆ ทางขวามมือจะมีผ่านสนามกอล์ฟ 2 แห่งนะครับ ที่แรกเป็นสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา สปอร์ต คลับ อีกสนามใกล้ๆ กัน เป็นสนามกอล์ฟยูนิโก้ ตรงมาจนถึงตรงนี้จะเป็น 3 แยก ทางซ้ายจะเป็นซอยนักกีฬาแหลมทอง ตรงไปจะยังเป็นถนนกรุงเทพกรีฑาอยู่นะครับ เราต้องตรงต่อไป เลยสามแยกมาอีกหน่อย เราโค้งขวาตามทางไปเลยครับ ตรงมาอีกจะเห็นซอยกรุงเทพกรีฑา 32 อยู่ทางขวามือ เข้าไปในซอยนี้อีกนิดเดียวจะเจอโครงการ Nirvana Beyond Lite พระราม 9 เผื่อใครอยากจะดูทั้ง 2 โครงการ ก็แวะเข้าไปได้เลยนะครับ จากนั้นเราตรงไปกันต่อ ข้ามสะพานข้ามคลองตรงนี้ไปอีกนิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วครับ ถึงหน้าโครงการ Nirvana Icon แล้วครับ ที่เห็นป้ายณุศาศิริเพราะพื้นที่โครงการเป็นที่ดินผืนเดียวกัน เลยใช้ทางเข้าออกเดียวกัน ไม่ต้องตกใจคิดว่ามาผิดโครงการนะครับ นอกเหนือจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว รถไฟฟ้า Airport Rail Link ก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสบายเช่นกัน เพราะตัวสถานีบ้านทับช้างอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งทางโครงการก็มีบริการรถรับส่งลูกบ้านจากโครงการไปถึงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามสถานีตลอดทั้งวัน ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกมากขึ้น วิเคราะห์รอบโครงการ เรื่องสภาพแวดล้อมรอบโครงการนั้นต้องบอกว่าเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยมากๆ เพราะพื้นที่รอบๆ โครงการส่วนใหญ่ยังเป็นที่ดินว่าง บ้านพักอาศัยในแนวราบ รวมถึงหมู่บ้านอื่นๆ อีกมากมาย และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ หมู่บ้านณุศาศิริ ที่เป็นเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ติดกัน ซึ่งทำให้เราเห็นบรรยากาศความเป็นอยู่จริงๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีเพื่อนส่วนหนึ่งเข้าอยู่อาศัยกันมาก่อนแล้ว เช่นเดียวกันกับพื้นที่ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ที่ลูกบ้านจะได้ใช้งานร่วมกัน รวมถึงนิติบุคคลของทั้ง 2 โครงการก็จะเป็นนิติบุคคลเดียวกันด้วย สำหรับโครงการ Nirvana Icon นี้มีจำนวนบ้านทั้งหมด 60 ยูนิต ซึ่งจัดว่าเป็นจำนวนไม่มากเลย แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเงียบเกินไปนะครับ เพราะมีเพื่อนบ้านณุศาศิริอีกหลายหลัง รับรองว่าไม่เหงาแน่นอน ถ้าดูถามแปลนของที่ดินทั้งหมด จะเห็นว่าพื้นที่สีเทาๆ ก็คือโครงการณุศาศิริเดิม ส่วน Nirvana Icon จะอยู่ทางฝั่งซ้าย ทั้งสองโครงการนี้ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันนะครับ บรรยากาศในหมู่บ้านครับ ถนนเมนกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนในซอยกว้าง 9 เมตรนะครับ ในส่วนของพื้นที่รอบๆ โครงการไม่ค่อยมีร้านค้าให้เห็นมากนัก แต่ถ้าออกมาในช่วงต้นๆ ของถนนกรุงเทพกรีฑา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงซอยนักกีฬาแหลมทองจะคึกคักมากหน่อย เพราะบริเวณนี้จะเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มีทั้งตลาดสด โรงเรียน สำนักงานที่ดิน สวนสาธารณะ หมู่บ้านนักกีฬา ร้านสะดวกซื้อ เทสโก้โลตัส รวมถึงร้านค้า แผงลอยอีกมากมาย เรื่องอาหารการกินมีให้เลือกเยอะเลยทีเดียว และยังสามารถจับจ่ายซื้อหาอาหารสดไปทำครัวกันได้ ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ หน่อยก็มีทั้ง เดอะมอลล์รามคำแหง เดอะมอลล์บางกะปิ เดอะไนน์ พระราม 9 แฟชั่นไอส์แลนด์ พรอมานาด รามอินทรา หรือถ้าเป็นโซนศรีนครินทร์ก็มี ห้างซีคอนสแควร์ และพาราไดซ์พาร์ค ที่สามารถเดินทางได้ไม่ไกลจนเกินไปนัก ดังนั้นเรื่ององค์ประกอบแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัย จึงจัดว่าครบถ้วนใช้ได้เลยทีเดียวครับ สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV พาชมบ้านตัวอย่าง สำหรับบ้านตัวอย่างของโครงการ Nirvana Icon ที่เราได้มีโอกาสเข้าไปชมในครั้งนี้ เป็นแบบบ้านที่มีชื่อว่า New Inspiration ซึ่งมีการปรับปรุงใหม่จากแบบบ้าน Inspiration เดิม ให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น สำหรับแบบบ้าน New Inspiration นี้ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นในสไตล์โมเดิร์น ตามเอกลักษณ์ของ Nirvana ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. แบ่งเป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่งทั้งหมดนี้จะตั้งอยู่บนที่ดินเริ่มต้นที่ขนาด 80 ตร.ว. แต่ถ้าลูกบ้านอยากจะให้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านด้วย ทางโครงการก็มีเตรียมไว้ให้เลือกเหมือนกัน แต่มีจำนวนไม่มากนะครับ แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย SPIRIT พื้นที่ใช้สอย 185 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน SPIRIT SPECIAL พื้นที่ใช้สอย 210 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน ELEMENT พื้นที่ใช้สอย 225 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน LIFE&SOUL พื้นที่ใช้สอย 265 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน 1 ห้องแม่บ้าน INSPIRATION 275 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน 1 ห้องแม่บ้าน NEW INSPIRATION 275 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ เดี๋ยวเราไปดูแปลนบ้านกันก่อนนะครับว่า มีการปรับเปลี่ยนตรงไหนและเพิ่มอะไรเข้ามาใหม่บ้าง ก่อนจะไปชมภายในบ้านตัวอย่างสวยๆ ครับ อันนี้เป็นแปลนของบ้าน New Inspiration ซึ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านนี้แน่นครบทุกตารางเมตรเลยทีเดียว ทรงบ้านเป็นสไตล์โมเดิร์นตามแบบของ Nirvana เลย จากด้านหน้าจะเห็นว่าตัวบ้านโอ่อ่าใหญ่โตมาก บริเวณหน้าบ้านนะครับ เป็นรั้วเตี้ยและปลูกต้นไม้ไว้สวยงาม ประตูเล็กเป็นบานทึบสีเทา พื้นที่ด้านข้างตัวบ้านเป็นที่จอดรถ 2 ที่ ซึ่งบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นบ้านบนที่ดินขนาดใหญ่ ที่จอดรถเลยขยับออกมาทางที่ดินด้านข้างมากหน่อย ไม่ได้อยู่บริเวณหน้าตัวบ้านอย่างในแปลนครับ ประตูใหญ่ทางเข้าที่จอดรถเป็นรั้วเหล็กโปร่งๆ ควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล จากบริเวณที่จอดรถตรงนี้จะเห็นทางเดินเข้าสู่พื้นที่บ้านครับ เดี๋ยวเราไปชมรอบๆ บ้านกันก่อน อันนี้เป็นสนามหญ้าบริเวณด้านหลังที่จอดรถนะครับ ก็ที่ดินตรงข้างๆ ตัวบ้านนั่นแหละครับ มีต้นไม้ปลูกไว้รอบรั้วเลย ถ่ายกลับมาให้ดูที่ด้านหลังที่จอดรถบ้าง จะเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้างเหมือนกัน แถมยังมีศาลานั่งเล่นที่ทางโครงการทำไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย แต่บ้านจริงที่ที่ดินขนาดเล็กกว่านี้จะไม่มีให้นะครับ ตรงนี้เป็นบริเวณด้านหลังบ้านครับ มีปลูกต้นไม้ไว้ตลอดแนวรั้ว และห้องแม่บ้านก็จะอยู่ทางด้านหลังนี้ด้วย อันนี้เป็นห้องน้ำแม่บ้านซึ่งอยู่ทางด้านหลังของบ้าน ใกล้ๆ กันมีประตูเข้าออกทางด้านหลังบ้าน บริเวณนี้จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวไทย ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดนะครับ บ้านตัวอย่างหลังนี้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้านด้วยนะครับ สระว่ายน้ำอยู่ตรงหน้าบ้านเลย เวลาเดินเข้าประตูหลักของบ้านจะต้องเดินผ่านสระว่ายน้ำก่อน ในขณะที่รอบบ้านชั้นล่างกั้นเป็นกระจกเกือบทั้งหมด จึงมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้รอบบ้านเลย ประตูหลักของบ้านเป็นประตูไม้สักบานเล็กอยู่ในตำแหน่งกลางบ้าน ที่จับเป็นแบบคันโยก พร้อมด้วยล็อค 2 ชั้น เปิดเข้ามาจะเจอโถงพักตรงหน้าบันได บริเวณนี้ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้า และมีมุมให้นั่งใส่รองเท้าเล็กๆ ตรงนี้ด้วย ดูภาพมุมกว้างกันบ้าง จะได้เห็นชัดๆ ว่าต่อจากโถงทางเข้าบ้านไป ทางขวาจะเป็น Living Area ส่วนบันไดและห้องนอนเล็กด้านล่างจะอยู่ถัดเข้าไปด้านใน เรามาดู Living Area โซนแรกกันก่อน เป็นห้องนั่งเล่นกว้างขวางมากๆ ตำแหน่งที่วางโซฟา ได้ระยะดูทีวีกำลังดี มองเห็นเลยไปถึงอีกด้านของบ้านด้วย พื้นที่ภายในบ้านกว้างขวางมากนะครับ วางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ Living Area ในโซนนี้กว้างมากนะครับ จัดแบ่งพื้นที่กันดีๆ ก็จะใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นครับ อย่างในตัวอย่างที่เห็น มุมติดกันสามารถวางโต็ะทำงานขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมทำงานได้สวยงาม เหมือนได้ห้องทำงานกว้างๆ อีกห้องเลยใช่มั้ยครับ แถมอยู่ติดประตูกระจกบานใหญ่ทำให้รับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี บรรยากาศภายในบ้านโอ่โถงสบายตา เพราะประตูกระจกบานใหญ๋ช่วยให้เปิดรับแสงและวิวได้เต็มที่ นั่งทำงานไปชมวิวสระว่ายน้ำไปได้เพลินๆ ครับ ออกจากโซนนั่งเล่น เดี่ยวเราไปดู Dining Area กันบ้าง เดินผ่านโถงทางเข้าก่อน มุมนี้นั่งใส่รองเท้าตรงหน้าตู้รองเท้าได้ด้วย ภายใน Dining Area ครับ บรรยากาศโปร่งสบายๆ เช่นกัน โต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่วางเป็น island ไว้กลางห้องได้เลยครับ ยังเหลือที่รอบโต๊ะให้เดินสบายๆ บรรยากาศภายใน Dining Area อบอุ่นมากทีเดียว ตำแหน่งที่ตั้งโต๊ะกินข้าว มีประตูกกระจกบานเลื่อนเข้ามุม สามารถเปิดโล่งให้เชื่อมต่อถึงสระว่ายน้ำได้เลย เหมาะกับเวลาจัดปาร์ตี้มากๆ บริเวณนั่งรับประทานอาหารใช้พื้นที่เดียวกันกับ pentry ครัวเลยนะครับ Pentry ครัวโซนนี้เป็นครัวเปิดนะครับ มี island ตรงกลางไว้วางของ และเคาน์เตอร์รอบด้านสำหรับจัดเตรียมอาหาร เคาน์เตอร์บริเวณด้านข้างครับ ยาวตลอดแนวเลย ด้านบนและล่าง Built-in ตู้เก็บของไว้เรียบร้อย เคาน์เตอร์ครัวท๊อปด้วยหินอ่อน มีหน้าต่างกระจกยาวตลอดแนวช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้อีกทาง ซิงค์ล้างจานจะอยู่ที่เคาน์เตอร์ทางด้านนี้ครับ เป็นซิงค์ขนาดใหญ่เหมาะกับขนาดครัว เคาน์เตอร์ประกอบอาหารจะอยู่อีกด้าน มีหัวเตาและฮูตดูดควันพร้อม ช่องว่างที่เห็นนี่เว้นไว้วางตู้เย็นครับ รองรับตู้เย็นคิวใหญ่ๆ สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้สบาย ประตูด้านข้างครัว เป็นประตูออกไปที่หลังบ้าน ตรงนี้มีซิงค์ล้างจานอย่างที่บอก สามารถตกแต่งเพิ่มเป็นครัวไทยไว้ทางด้านหลังบ้านได้ บ้านแบบใหม่ผนังด้านหน้าเปลี่ยนเป็นกระจกทั้งหมด นอกจากจะได้วิวสระว่ายน้ำแล้ว ยังเปิดรับแสงได้เต็มที่มากๆ ครับ เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำ และห้องนอนที่บริเวณชั้นล่างกันครับ ห้องนี้มีทางเข้าอยู่ตรงบันไดทางขึ้นบ้านนั่นแหละ ประตูทางด้านซ้ายเป็นห้องน้ำนะครับ ไปดูห้องน้ำกันก่อน ในห้องน้ำชั้นล่างมีชุดสุขภัณฑ์พร้อมสรรพ ด้านบนมีหน้าต่างบานเลื่อน เปิดออกระบายความชื้นได้ดีแถมยังช่วงรับแสงได้อีก อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ มีพื้นที่วางของได้พอสมควร โถสุขภัณฑ์ครบชุด พื้นบริเวณที่อาบน้ำ ดร๊อปต่ำลงมาอีกประมาณ 3 ซม. ป้องกันน้ำเอ่อล้นเวลาอาบน้ำได้ดี ชุดฝักบัวอาบน้ำหน้าตาแบบนี้ครับ ภายในห้องนอนที่ชั้นล่างครับ ซึ่งในบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องอเนกประสงค์ บริเวณหน้าต่างด้านข้าง Built-in เป็นมุมนั่งเล่นน่ารักๆ ภายในห้องมีหน้าต่างทั้ง 2 ด้าน ทำให้ภายในห้องสว่างด้วยแสงธรรมชาติ ทางโครงการตกแต่งเป็นโต๊ะทำงานพร้อมตู้เข้ามุมไว้ให้ชมเป็นไอเดียครับ ตู้ Build-in เข้ามุม ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ดีครับ หน้าต่างบานเลื่อนเป็นกรอบอลูมิเนียมสีดำ มีล็อค 2 ชั้น เพิ่มความแน่นหนาได้มากขึ้น ขึ้นไปดูชั้นบนกันครับ ตรงโถงพักบันได เจาะช่องกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติได้ กระจกบานใหญ่ตรงโถงบันไดชั้น 2 เปิดช่องให้แสงผ่าน ทำให้บริเวณโถงนี้สว่างมากขึ้น ในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการ Built-in เพิ่มตรงราวบันไดให้เป็นตู้โชว์ อันนี้เป็นไอเดียที่น่าสนใจนะครับ โถงหน้าห้องบนชั้นสอง จัดเป็นมุมนั่งเล่นเก๋ๆ ครับ ด้านที่ติดกับราวบันไดจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ หรือเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือได้ครับ ช่วงกลางวันภายในบ้านสว่างไปด้วยแสงธรรมชาติ เนื่องจากมีกระจกเกือบรอบด้าน เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยในบ้านมีมาก วางเก้าอี้นั่งเล่น เอนหลังอ่านหนังสือได้หลายมุม เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนเล็กกันครับ อยู่ใกล้กับบันไดทางขึ้นพอดี ในห้องนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ Built-in ออกแบบให้เป็นห้องนอนเด็ก ถึงจะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็วางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว เหลือที่อีกเหลือเฟือ ข้างเตียงติดกระจกเงาบานใหญ่ ให้เป็นมุมแต่งตัวขนาดกว้างเลยทีเดียว ตำแหน่งเตียงอยู่ใกล้กับหน้าต่าง Built-in ชั้นวางของไว้ด้านหัวเตียง ทำให้มีที่เก็บของมากขึ้น ช่วงปลายเตียงยังมีที่เหลืออีกมาก ทำเป็นโต๊ะทำการบ้านและชั้นเก็บของได้อีก หน้าต่างของห้องก็เป็นบานใหญ่ เกือบเต็มแนวกำแพงเลย ภายในห้องนอนเล็กมีห้องน้ำในตัวด้วยนะครับ ภาพรวมภายในห้องน้ำครับ ก็เป็นไปตามมาตรฐาน ติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ตามนี้ อ่างล้างหน้าสีขาว ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระครบ บริเวณที่อาบน้ำ ไม่มีกระจกกั้นมาให้นะครับ ต้องติดเพิ่มเอง หน้าต่างบานเลื่อนในห้องน้ำ ห้องนี้มีเพิ่มกระจกเข้ามุมมาด้วย ยิ่งทำให้ในห้องน้ำสว่างมากขึ้น ชุดฝักบัวอาบน้ำในห้องนี้จะต่างจากห้องข้างล่างนิดหน่อย พื้นห้องอาบน้ำดร๊อปต่ำลงมาเช่นกัน ต่อไปเป็นห้องนอนที่ 2 ครับ อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน บรรยากาศภายในห้องนอนครับ ห้องนี้ตกแต่งในสไตล์หวานๆ หน่อย หัวเตียงทั้ง 2 ด้านมีหน้าต่างบานกระทุ้งตามภาพ บริเวณปลายเตียง Built-in เป็นตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง พร้อมด้วยมุมทำงานเล็กๆ ติดกับหน้าต่าง ตู้เก็บของด้านข้างเตียง Built-in สูงจรดเพดานเลยนะครับ พื้นที่บริเวณปลายเตียงครับ เหลือที่วางกว้างเลยทีเดียว สำหรับห้องนอนนี้ พื้นที่หน้าห้องน้ำกว้างพอที่จะสามารถตกแต่งเป็น walk in closet ได้ด้วย มุมแต่งตัวตรงหน้าห้องน้ำครับ หวานๆ แบบห้องผู้หญิง หน้าหลังกระจกเงาที่โต๊ะเครื่องแป้ง มีหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติได้สวยๆ ภายในห้องน้ำครับ Lay out ไม่ได้ต่างกันมากนัก เครื่องสุขภัณฑ์ครบเซ็ต อ่างล้างหน้าสเปคเดียวกับห้องก่อนหน้าเลยครับ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระก็เช่นกัน บริเวณอาบน้ำไม่ได้กั้นกระจกให้นะครับ และในห้องน้ำก็มีหน้าต่างบานเลื่อนเปิดระบายความชื้นได้เช่นเดิม พื้นบริเวณที่อาบน้ำดร๊อปต่ำลงมาเหมือนห้องอื่นๆ ครับ แล้วก็มาถึง Master Bedroom ซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนเล็กนะครับ เดินเข้าห้องมาก็จะเจอโซนแต่งตัวหน้าห้องน้ำก่อนเลย ภายโดยรวมของห้องน้ำใน Master Bedroom ครับ ตกแต่งต่างไปจากห้องอื่นๆ มีอ่างอาบน้ำเพิ่มมาด้วย ชุดก๊อกน้ำที่อ่างอาบน้ำครับ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และชุดสุขภัณฑ์จะอัพสเปคขึ้นมาอีก อ่างล้างหน้าทรงรีขนาดใหญ่ฝังบนเคาน์เตอร์สีดำเข้มขรึม เคาน์เตอร์ล้างหน้าในห้องน้ำติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ด้วย ชุดโถสุขภัณฑ์ของห้องนอนใหญ่นี่หน้าตาดูหรูหรามากขึ้น มุมอาบน้ำติดกับอ่างอาบน้ำ (ตัวกระจกกั้นทางโครงการติดไว้เป็นตัวอย่าง ของจริงไม่มีมาให้นะครับ) ส่วนชุดฝักบัวอาบน้ำก็หน้าต่างแบบนี้ครับ เป็นหัวก๊อปแบบผสม เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง อันนี้เป็นภาพรวมครับ พื้นที่ภายในห้องกว้างขวางมากๆ ตรงหัวเตียงของห้องนี้ก็มีหน้าต่างกระจกทั้ง 2 ด้านเช่นกัน บริเวณปลายเตียงแขวนทีวี และมีมุมแต่งตัวพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ติดกับตู้เสื้อผ้าเลย ด้านหลังกระจกเงาเป็นหน้าต่างนะครับ เปิดรับแสงธรรมชาติเวลาแต่งตัวแต่งหน้าได้ ดูกันชัดๆ ครับ มีผ้าม่านบังแสงไว้ให้นิดหน่อย มองกลับไปที่หน้าห้องน้ำจะเห็นว่าฝั่งตรงข้าม Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ตลอดแนว ในห้องนอนใหญ่กว้างและเหลือที่พอให้วางโซฟา 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ แถมยังมีมุมทำงานด้วย มุมทำงานจะอยู่ติดกับเตียงอีกด้าน ด้านหลัง Built-in ตู้เก็บของเพิ่ม และติดกันก็เป็นประตูบานเลื่อนออกไประเบียงครับ โต๊ะทำงานในห้องนอนครับ ไม่ใช่เล็กๆ เลยนะครับ นี่ครับพื้นที่ระเบียง รั้วระเบียงเป็นกระจก เปิดออกไปก็มองเห็นหน้าบ้านพอดี พื้นระเบียงดร๊อปต่ำกว่าพื้นห้องนอนมาก ป้องกันเรื่องน้ำท่วมขังเข้าห้องได้เป็นอย่างดี จากระเบียงห้องนอนใหญ่สามารถมองเห็นได้รอบบริเวณหน้าบ้านเลยนะครับ มองลงไปเห็นวิวสระว่ายน้ำ และประตูหน้าบ้านเต็มตา ใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวสวยๆ ที่มาพร้อมกับการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยคุ้มค่าในย่านวงแหวน-พระราม 9 โครงการ Nirvana Icon ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องแบบบ้านที่ทันสมัย อยู่ไม่ไกลจากในเมืองมากนัก และมีบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ที่สำคัญเรายังสามารถไปเยี่ยมชมบรรยากาศของหมู่บ้านได้จริงก่อนการตัดสินใจซื้อด้วยครับ
Nirvana Beyond LITE พระราม 9 : รีวิวบ้าน

Nirvana Beyond LITE พระราม 9 : รีวิวบ้าน

รีวิวฉบับนี้ เรามีบ้านเดี่ยวสวยๆ จาก Nirvana ในชื่อ Beyond Lite ​มาฝากกันครับ ทำเลที่ตั้งโครงการก็อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า  Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถส่วนตัว ทั้งเส้นทางถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) โซนกรุงเทพกรีฑา และเส้นทางมอเตอร์เวย์ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลยดีกว่าครับ   รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    12,400,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลักษณะโครงการ    บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด    34 - 3 - 72.8 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ค่าส่วนกลาง    20 บาท/ตารางวา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี   วิธีการเดินทาง   สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ Nirvana Beyond Lite พระราม 9 ในครั้งนี้ เราเลือกเดินทางกันด้วยรถไฟฟ้า Airport Rail Link ไปลงที่สถานีบ้านทับช้าง แล้วเดินขึ้นสะพานลอยข้ามมอเตอร์เวย์มายังที่โครงการ ซึ่งทางโครงการบอกไว้ว่ามีระยะห่างเพียง 300 เมตรเท่านั้น แต่ถ้าลองวัดระยะกันจริงๆ จังๆ ต้องบอกว่าจากทางลงสถานีรถไฟฟ้าบ้านทับช้างจะมาถึงหน้าทางเข้าหมู่บ้านต้องมีระยะเดินไม่ต่ำกว่า 550 เมตร เลยนะครับ แต่โชคดีหน่อยที่ทางหมู่บ้านมีบริการรถรับ-ส่งถึงบันไดสะพานลอย ระยะเดินที่ต้องเดินจริงๆ จึงร่นเหลือแค่ 300 เมตรตามที่ทางโครงการบอกเลยครับ (เดี๋ยวจะหาว่าโกหก) ที่สำคัญลูกบ้านทุกหลังสามารถเรียกใช้บริการรถรับส่งได้ตลอดทั้งวันเลยทีเดียว แผนที่กราฟฟิกของโครงการ จะเห็นว่าอยู่ใกล้กับมอเตอร์เวย์เลยนะครับ แผนที่จาก google map จะได้เห็นทิศทางกันชัดๆ ครับ ครั้งนี้เราเลือกเดินทางโดยรถไฟฟ้า Airport Rail Link มาลงที่สถานีบ้านทับช้างครับ ลงจากสถานีมาจะเห็นซอยเล็กๆ ที่เลี้ยวออกไปถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เดินทางตามซอยไม่ไกลมาก็จะเห็นสะพานลอยแล้วครับ เราจะเดินขึ้นสะพานลอยนี้เพื่อข้ามถนนมอเตอร์เวย์ไปยังฝั่งที่ตั้งโครงการกันนะครับ ข้ามมาลงฝั่งตรงข้ามแล้ว ก็เดินเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปได้เลย หรือจะรอเรียกรถกอล์ฟของโครงการให้มารับตรงนี้ก็ได้ครับ เดินเข้าซอยมาประมาณกลางซอยก็จะเห็นป้ายโครงการ Nirvana อันใหญ่ๆ เอาล่ะใกล้จะถึงโครงการแล้วใช่มั้ย จากป้าย Nirvana ตัวใหญ๋ตรงหัวโค้งนั่น เราต้องเลี้ยวขวาไปตามถนนอีกนิดหน่อยนะครับ ถึงจะเจอทางเข้าโครงการ ระยะเดินจริงๆ จากตัวสถานีทับช้างมาถึงหน้าโครงการก็ต้องมีมากกว่า 550 นะครับ ส่วนที่ทางโครงการแจ้งไว้ว่า 300 เมตรคือนับมาถึงแค่สุดสะพานลอยตรงปากซอยทางเข้า หลังจากนี้ถ้าเรียกให้รถมารับ ก็ไม่นับเป็นระยะเดินแล้ววครับ ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ​Nirvana Beyond Lite ใหญ่โตสวยงามเช่นเคย เข้ามาแล้วก็จะเจอถนนเมนตรงเข้าไปหมู่บ้านเลย ซึ่งลักษณะที่ดินของหมู่บ้านก็ลึกทีเดียว เดี๋ยวเราไปชมบรรยากาศของโครงการกันก่อนครับ ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมายังซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการก็มีให้เลือกได้หลายเส้นทาง เช่น จากฝั่งรามคำแหงก็สามารถเข้ามาตามเส้นทางกรุงเทพกรีฑา โดยทางซอยรามคำแหง 24 หรือจากแยกลำสาลี หรือถ้ามาจากแยกพระราม 9 ผ่านแยกศรีนครินทร์มาแล้วจะใช้ถนนคู่ขนานกับมอเตอร์เวย์มาเรื่อยๆ ก็ได้นะครับ อีกทั้งยังมีเส้นทางจากฝั่งอ่อนนุชมาเข้าทางประเวศได้ แต่อาจจะต้องกลับรถข้ามฝั่งมอเตอร์เวย์กันไกลหน่อย เส้นทางนี้จึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นเส้นทางถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) และถนนมอเตอร์เวย์ แต่กว่าจะถึงด่านเข้า-ออกของถนนแต่ละเส้นก็ต้องขับรถอ้อมหรือเลยไปไกลหน่อยนะครับ วิเคราะห์รอบโครงการ ทำเลที่ตั้งของโครงการ Nirvana Beyond Lite อยู่ค่อนไปทางโซนชานเมืองหน่อยนะครับ แต่เรื่องการเดินทางเข้า-ออกเมืองยังถือว่าสะดวกดี โดยเฉพาะคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะถนนหนทางแถบนี้ใกล้ทั้งมอเตอร์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางหลักๆ ในการเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ รวมถึงการเดินทางออกไปทางภาคตะวันออกด้วย แต่ติดที่ด่านทางเข้าของทั้งมอเตอร์เวย์ และถนนวงแหวนรอบนอกไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ตัวโครงการเท่าไหร่นัก บางครั้งการเลือกใช้เส้นทางปกติก็อาจจะเดินทางได้ง่ายกว่าก็ได้ จึงต้องวางแผนเลือกเส้นทางกันนิดหน่อยน่าจะดีกว่า ในย่านนี้ที่พักอาศัยจะเป็นบ้านเดี่ยว ตึกแถว หรือบ้านพักในแนวราบสูงไม่เกิน 4-5 ชั้นเกือบทั้งหมด และก็เป็นหมู่บ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นบรรยากาศโดยทั่วไปจึงไม่พลุกพล่านมากนัก โดยเฉพาะในซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการด้วยแล้ว ต้องบอกว่าเงียบสงบมากเลยทีเดียว แต่เรื่องอาหารการกินก็ไม่ได้ขาดแคลน หรือห่างไกลจากร้านค้าอย่างที่คิดนะครับ ถ้าออกจากซอยกรุงเทพกรีฑา 32 มาตามถนนกรุงเทพกรีฑาช่วงซอยนักกีฬาแหลมทอง แถบนี้ก็จะมีร้านค้าต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท แผงลอย ตลาดสด เทสโก้โลตัส ธนาคาร รวมถึงสำนักงานที่ดินสาขาประเวศ สวนสุขภาพเคหะชุมชนหัวหมาก โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภช และโรงเรียนอื่นๆ อีกหลายแห่ง บริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียวจึงไม่ต้องกลัวอดเลยครับ ถ้าไม่อยากขับรถก็ขี่จักรยานออกมาก็ยังได้ เพราะระยะทางไม่ได้ไกลเลย แต่ถ้าอยากจะช็อปปิ้งจับจ่ายซื้อของแบบจริงจัง ในย่านนี้ก็มีทั้งห้างเดอะมอลล์บางกะปิ ซีคอนสแควร์ และพาราไดซ์พาร์ค ที่พอจะจัดว่าใกล้หน่อย ถ้าไม่อย่างนั้นก็แนะนำให้ขึ้นรถไฟฟ้า Airport Rail Link เข้าเมืองไปช็อปปิ้งที่สยามกันไปเลยครับสะดวกดี สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV รถกอล์ฟรับ-ส่งลูกบ้าน ไปสะพานลอยข้าม Airport Link จากหน้าหมู่บ้านเข้ามาไม่ไกลมากก็จะเจอพื้นที่ส่วนกลางอยู่ทางขวามือ ตึกที่เห็นนั่นคือ ห้องฟิตเนสในบริเวณคลับเฮาส์ ห้องฟิตเนสอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ เป็นห้องกระจกติดแอร์เย็นฉ่ำ ภายในห้องออกกำลังกายมีอุปกรณ์ครบเลยทีเดียวครับ ถึงแม้พื้นที่ไม่ได้กว้างมากก็ตาม ออกมาจากห้องฟิตเนสก็จะเจอกับสระว่ายน้ำเลย สระว่ายน้ำมีก้ันแยกสำหรับสระเด็กไว้ด้วย พร้อมพื้นที่นั่งเล่นริมสระ จากมุมนี้จะเห็นได้ชัดว่าห้องฟิตเนสจะอยู่บริเวณเดียวกับสระว่ายน้ำเลย ทำให้การออกกำลังกายสะดวกมากๆ เดินลงมาอีกด้านของสระว่ายน้ำ จะเจอกับสวนสาธารณะส่วนกลาง บริเวณนี้จะเป็นสนามหญ้ากว้าง พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ ลานบริเวณนี้จัดเป็นสนามเด็กเล่นให้ด้วย พร้อมมุมนั่งเล่นรอบๆ เผื่อให้ผู้ปกครองได้ดูแลลูกๆ อย่างใกล้ชิด มีทั้งของเล่น และพื้นที่กว้างให้เด็กๆ วิ่งเล่นได้สบาย เครื่องเล่นมีหลากหลายเลยครับ แถมบรรยากาศก็ร่มรื่นด้วย พาชมบ้านตัวอย่าง ก่อนอื่นต้องบอกกันก่อนว่าโครงการ Nirvana Beyond Lite พระราม 9 นั้นมีลูกบ้านอยู่กันมานานแล้วพอสมควร เราจึงได้เห็นบรรยากาศภายในหมู่บ้านจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่บรรยากาศตัวอย่างขณะก่อสร้างเหมือนหมู่บ้านใหม่ๆ ซึ่งตอนนี้ทางโครงการได้มีการขยายพื้นที่เปิดเฟสใหม่ รวมถึงเพิ่มแบบบ้านใหม่เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ชื่อว่า Just So บนที่ดินขนาดเริ่มต้นที่ 50 ตร.ว. ตัวบ้านแบ่งเป็น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ภายใต้การออกแบบตัวบ้านในสไตล์โมเดิร์น และด้วยคอนเซปต์บ้านของ Nirvana ที่เน้นการออกแบบให้ภายในบ้านมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่าทุกตารางเมตร ตัวบ้านจึงมีพื้นที่ใช้สอยรวมมากถึง 270 ตร.ม. เลยทีเดียว เราไปดูภายในบ้านตัวอย่าง Just So กันเลยดีกว่าครับ หน้าตาของตัวบ้านแบบเต็มๆ ครับ บ้านที่เราจะได้ดูกันมีชื่อว่า Just So ครับ และนี่คือแปลนชั้นล่างของบ้านครับ เข้ามาในตัวบ้าน จะเจอโถงเล็กๆ Built-in ตู้เก็บรองเท้าไว้เรียบร้อย พื้นที่ตรงประตูทางเข้าบ้านครับ บ้านจริงไม่มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in มาให้นะครับ ถัดเข้ามาใน Living Area ครับ บันไดทางขึ้นก็อยู่ใกล้ๆ กัน บรรยากาศภายในพื้นที่นั่งเล่น หรือห้องรับแขกครับ กว้างๆ โล่งๆ เลย ทีวีแขวนติดผนังเลยนะครับ มุมด้านที่ติดกับประตูทางเข้าเป็นผนังกระจกบางส่วน เปิดรับแสงธรรมชาติได้อีกทาง อีกด้านของห้องนั่งเล่น เป็นประตูกระจกบานใหญ่ทำให้บรรยากาศภายในห้องสว่าง และโปร่งมากขึ้น พื้นที่ติดกันใน Living Area แบ่งมาตั้งโต๊ะกินข้าวได้สบายๆ ด้านนึง Built-in เป็นโซฟาที่นั่งติดหน้าต่าง วางโต๊ะกินข้าวขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ เลย บรรยากาศรวมๆ ใน Living Area ครับ ถัดจากโต๊ะกินข้าวเข้าไปด้านใน เป็นห้องครัวนะครับ ครัวเป็นแบบครัวปิดนะครับ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นให้เรียบร้อย ส่วนประตูข้างๆ เป็นประตูที่ออกไปข้างๆ บ้านได้ ประตูกระจกห้องครัว เป็นกรอบอลูมิเนียมสีขาว พร้อมที่จับตามภาพครับ ในห้องครัวมีหน้าต่างบานใหญ่ เลื่อนเปิดเพื่อระบายกลิ่นได้ และยังช่วยให้รับแสงได้มากขึ้น เคาน์เตอร์ครัว Built-in เข้ามุม มาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่บ้านจริงไม่มีมาให้นะครับ ส่วนภาพนี้เป็นห้องน้ำที่บริเวณชั้นล่างครับ อยู่ติดกับห้องครัว มีหน้าต่างบานใหญ่ในห้องน้ำเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้เลย พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของด้านล่างด้วยนะครับ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระครับ ส่วนพื้นของห้องน้ำก็ดร๊อปต่ำลงมาจากพื้นบ้านอีกพอสมควรเลย เดี๋ยวเราขึ้นไปดูชั้นบนกันครับ อันนี้เป็นแปลนของชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งหมดครับ ขึ้นบันไดมา ตรงจุดพักจะตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ เพดานตรงนี้สูงโปร่ง ทำให้บรรยากาศโอ่โถงมากขึ้น จากพื้นที่พักบันได มีบันไดอีก 2 ขั้นก่อนขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ครับ อันนี้เป็นบริเวณหน้าห้อง Master Bedroom ตรงชั้น 2 ครับ หน้าห้องนอนใหญ่มีแผงคอนโทรลระบบกันขโมย หน้าตาแผงควบคุมครับ ภายในห้องนอนใหญ่ กว้างขวางมาก สามารถวางโซฟาชุดใหญ่ได้ แถมยังเหลือที่อีกเพียบ ข้างๆ โซฟา ยัง Built-in เป็นชั้นวางของและใช้เป็นมุมอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานได้ ดูกันชัดๆ ครับ ตรงมุมชั้นวางของตรงประตูทางเข้าห้องครับ ติดกับพื้นที่นั่งเล่นในห้องนอน เป็นประตูระเบียงกระจกบานเลื่อนนะครับ ระเบียงกว้างขวางมากๆ นะครับ แถมเลยไปด้านของห้องด้วย พื้นที่ระเบียงด้านข้างครับ จากระเบียงห้องนอนใหญ่สามารถมองเห็นวิวหน้าบ้านได้ชัดเจน เดี๋ยวไปดูพื้นที่ของห้องนอนกันบ้างครับ บริเวณกลางห้องกว้างมากพอให้เหลือที่จะวาง ชุดเก้าอี้ได้อีก เตียงนอนขนาดใหญ่ วางไว้กลางห้องเลยครับ จะเห็นว่าพื้นที่รอบๆ เตียงยังเหลือกอีกเพียบ ปลายเตียงแขวนทีวีติดผนังไว้ และ Built-in เป็นชั้นวางของด้วย พื้นที่ของห้องนอนเต็มหน้ากว้างของบ้านเลยนะครับ มีโต๊ะทำงานตรงหัวเตียงด้วย ดังนั้นเตียงนอนจึงไม่ได้วางชิดผนังห้องนะครับ จากโต๊ะทำงานที่หัวเตียงสามารถนั่งทำงานไป ดูทีวีไปได้ ระยะทีวีไกลพอสมควรเลย สามารถเลือกแขวนทีวีขนาดใหญ่ได้สบาย ถัดจากห้องนอนเข้ามาก็เป็นห้องน้ำครับ ประตูห้องน้ำเป็นกระจกใสเต็มผนัง ห้องอาบน้ำแอบเซ็กซี่ ติดกระจกเปิดโล่งทั้ง 2 ด้าน ของอ่างอาบน้ำเลย ชุดก๊อกของอ่างอาบน้ำครับ หน้าต่างตรงอ่างอาบน้ำไม่ได้เปิดออกไปนอกตัวบ้านนะครับ พื้นที่ตรงนี้เหมือนเป็นระเบียงเล็กๆ เปิดเป็นโถงรับลม ที่อาบน้ำอยู่ในมุมด้านในสุด มีชุดฝักบัวแบบ Rain Shower ด้วย แต่พื้นที่ไม่ได้กว้างมากนัก มีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายความชื้นได้ครับ เปิดออกไปก็จะเป็นพื้นที่ระเบียงเดียวกับอ่างอาบน้ำนั่นแหละ พื้นที่ในห้องน้ำยาวเข้าไปด้านในเลย ถัดจากอ่างอาบน้ำอีกด้านเป็นอ่างล้างหน้าครับ มุมทำธุระส่วนตัว อยู่ติดกับเคาน์เตอร์ล้างหน้าครับ มีกระจกเงาบานใหญ่มากติดมาให้แล้ว เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่มาก มีพื้นที่วางของได้เยอะแยะเลย หน้าตาของอ่างล้างหน้าและชุดก๊อกแบบผสมครับ ก๊อกน้ำดีไซน์สวยงามทันสมัยมาก หน้าตาชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระครับ จากบริเวณที่อาบน้ำเข้าไปเป็นพื้นที่แต่งตัวครับ พื้นตรงนี้จะยกสูงกว่าพื้นห้องน้ำหนึ่งสเตป มุมแต่งตัวออกแบบให้อยู่ติดกับหน้าต่าง ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ตู้เสื้อผ้า Built-in ทำเป็น Walk in closet ยาวตลอดแนวเลย มุมด้านในมีมุมแต่งตัวอีกมุมนะครับ และตู้เสื้อผ้าก็เต็มพื้นที่ทั้ง 2ด้านเลย ออกจากห้องนอนใหญ่มาจะเห็นห้องระบบ ซึ่งอยู่ตรงบันไดทางขึ้นชั้น 3 ครับ เดี๋ยวเราไปดูที่ชั้น 3 กัน จะสังเกตุได้ว่า ตรงบันไดบ้านทุกส่วนจะติดกระจกบานใหญ่ ช่วยเปิดรับแสงได้ทุกช่วง ต่อไปเป้นแปลนชั้น 3 ของบ้านครับ แบ่งเป็น 2 ห้องนอน โถงนั่งเล่นตรงที่พักบันได คล้ายๆ ที่ชั้นสองครับ พื้นที่ตรงนี้ต้องตกแต่งเพิ่มเติมเองนะ ชั้นบนสุดนี้แบ่งเป็น 2 ห้องนอน เดี่ยวเราไปดูห้องนอนเล็กกันก่อน ภาพบรรยากาศโดยรวมของห้องนอนเล็กครับ มีห้องน้ำในตัวด้วย ถึงจะเรียกว่าห้องนอนเล็กแต่พื้นที่ก็ไม่ได้เล็กเลยนะครับ กว้างขวางใช้ได้เลย วางเตียงไซส์ 5 ฟุตลงไปแล้วยังเหลือที่อีกกว้างให้เดินสบาย พื้นที่ภายในห้องกว้างมาก กำแพงฝั่งปลายเตียงยัง Built-in ทำตู้เก็บของ และโต๊ะทำงานได้อีก พื้นที่ติดผนังนี้ Built-in ใช้ประโยชน์ได้อีกเยอะเลยนะครับ แล้วแต่ไอเดียแต่ละคน อย่างห้องนี้ยังคงเน้นแสงธรรมชาติ มีหน้าต่างอีก 2 บาน แถมวางโต๊ะทำงานไว้มุมนี้พอดีเลย ฝั่งด้านข้างที่นอนเป็นห้องน้ำครับ Lay out ในห้องน้ำก็เรียบง่ายครับ วางเรียงกันเป็นแนวเลย เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีที่เก็บของด้านล่างด้วย อันนี้ดีมากเลยครับ จะได้มีที่เก็บเครื่องใช้ในห้องน้ำมากขึ้น ข้างกันคือชุดโถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำกั้นด้วยกระจกไว้เป็นสัดส่วนครับ มีเจาะช่องให้วางของได้ด้วย หน้าตาชุดฝักบัวอาบน้ำครับ และมีตำแหน่งติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย หัวฝักบัวเป็นหัวขนาดใหญ่ครับ พร้อมก๊อกน้ำแบบหัวผสม พื้นห้องอาบน้ำดร๊อปต่ำลงมาอีกเล็กน้อย เข้ามาดูห้องนอนใหญ่ของชั้น 3 กันบ้าง ภายในมีบรรยากาศโปร่งสบายดีทีเดียวครับ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง Built-in ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งก็ดูลงตัวมากๆ ครับ วางเตียงลงไปแล้ว ยังเหลือที่กว้างอยู่ สามารถเลือกว่า Day Bed ได้สบายๆ หรือจะตกแต่งตามแบบตัวอย่างก็ได้ ห้องนอนนี้มีระเบียงในห้องด้วยนะครับ เป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ กรอบอลูมิเนียมสีขาว พร้อมระบบล็อคแบบ 2 ชั้น เพิ่มความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยครับ พื้นที่ตรงระเบียงไม่ได้กว้างมากนะครับ เอาไว้ออกไปยืนชมวิวได้สวยๆ พื้นระเบียงดร๊อปต่ำลงมามากพอสมควรเช่นเคย ลักษณะพื้นที่ของห้องนี้คล้ายตัว L ครับ มีมุมลึกเข้าไปด้านในอีก ซึ่งทางโครงการตกแต่งให้เป็นมุมแต่งตัวขนาดใหญ่ ก่อนถึงห้องน้ำครับ ผนังด้านนึง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าเต็มพื้นที่ เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ถูกใจสาวๆ มาก ใครชอบตู้แบบนี้ลองดูเป็นไอเดียวได้ครับ มีการแบ่งพื้นที่แขวนเสื้อผ้าได้มากมาย อีกด้านจะติดเป็นกระจกบานใหญ่ทั้งหมดเลยนะครับ และจัดเป็นมุมแต่งตัว วางโต๊ะเครื่องแป้งให้รับกับแสงธรรมชาติเลย พื้นที่บริเวณที่แต่งตัวนี้ เพดานสูงโปร่งมากๆ นะครับ ด้านบนยังเพิ่มช่องติดกระจกเปิดรับแสงอีกทาง ไม่สว่างก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว ส่วนภายในห้องน้ำก็เหมือนกับห้องนอนเล็กเลยครับ อ่างล้างหน้าสเปคเดียวกันเป๊ะ ก๊อกน้ำเลือกมาได้สวยหรูมีดีไซน์ดีทีเดียว ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระครับ ห้องอาบน้ำกั้นกระจกเทมเปอร์มาให้เช่นกัน พร้อมตำแหน่งติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาแล้วด้วย ชุดฝักบัวอาบน้ำก็เหมือนกับในห้องนอนเล็กครับ บริเวณที่อาบน้ำจะต่ำกว่าพื้นห้องน้ำอีกนิดหน่อยนะครับ ส่วนการวางตำแหน่งสุขภัณฑ์ก็เรียงตัวกันเหมือนเดิม แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย JUST SO    พื้นที่ใช้สอย 270 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้า 2 ที่จอดรถ และห้องแม่บ้าน KEEN   พื้นที่ใช้สอย 310 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้า 3 ที่จอดรถ LIVE   พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้า 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ MOST   พื้นที่ใช้สอย 418 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้า 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ ถึงแม้ว่าทั้งโครงการจะมีจำนวนบ้านมากถึง 156 หลัง แต่บรรยากาศโดยรวมภายในหมู่บ้านก็เงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัยมากเลยครับ พื้นที่ส่วนกลางก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ลูกบ้านทุกหลังสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ทั้งสระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น และห้องออกกำลังกาย ไม่ต้องกังวลว่านิติบุคคลจะดูแลพื้นที่ส่วนกลางได้ไม่ดีเพราะเราได้เห็นสภาพหมู่บ้านจริงกันก่อนตัดสินใจซื้อ หรือจะลองสอบถามกับลูกบ้านที่อยู่กันมาก่อนแล้วก็ได้ครับว่าสะดวกสบายมากน้อยแค่ไหน อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าใครสนใจโครงการ Nirvana Beyond Lite พระราม 9 หรือว่ากำลังมองหาบ้านเดี่ยวสวยๆ ในย่านนี้อยู่แล้ว ก็ลองแวะไปเยี่ยมชมกันได้ครับ
Villa Albero พระราม 9 – ศรีนครินทร์ : รีวิวทาวน์โฮม

Villa Albero พระราม 9 – ศรีนครินทร์ : รีวิวทาวน์โฮม

โครงการ "วิลลา อัลเบลโล่ : Villa Albero" ถูกเนรมิตให้เป็นทาวน์ วิลลา จำนวน 48 ยูนิต และโมเดิร์นช็อปเฮ้าส์จำนวน 7 ยูนิต สำหรับเฟสแรก บนพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 7 ไร่ ที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อยู่อาศัยด้วยความมั่นใจกับการดูแลด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น  4.99 ล้านบาทหรือ 172,068 บาท/ตร.วา เจ้าของโครงการ  บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ   ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ที่ตั้งโครงการ  ถ.กรุงเทพกรีฑา เขต สะพานสูง กทม. เนื้อที่โครงการ  7 ไร่ สถานที่สำคัญใกล้เคียง The Mall บางกะปิ – 4.7 กม. Tesco lotus – 4.7 กม. ABAC – 5 กม. มหาวิทยาลัยรามคำแหง – 5 กม. รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ – 3.5 กม. แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 7.5 เมตร ที่ดิน 29 – 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 177 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก สวนพักผ่อน, พื้นที่สีเขียว กล้อง CCTV รปภ. 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  083-097-5333 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  http://www.villaalbero.com/
Condolette Midst พระราม 9 : รีวิวคอนโด

Condolette Midst พระราม 9 : รีวิวคอนโด

อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจในย่านพระราม 9 เป็นโครงการในเครือพฤกษา Condolette Midst คอนโด High Rise ใกล้สี่แยกพระราม 9 ระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 ถึงโครงการอยู่ที่ 350 เมตร จัดว่าใกล้มากๆ ส่วนเซ็นทรัลพระราม 9 อยู่ถัดออกไปอีก 100 เมตรเท่านั้น ข้ามสี่แยกไปก็เจอตึกฟอร์จูน เรียกว่าเพียบพร้อมลงตัวสไตล์ชีวิตคนเมือง แถมพื้นที่ตรงข้ามโครงการกำลังก่อสร้างศูนย์รวมสำนักงานขนาดยักษ์ใหญ่ในชื่อ Grand Rama9 ซึ่งจะมีผู้คนอีกจำนวนมหาศาลหลั่งไหลมาสู่ความเจริญของย่านนี้ ในขณะที่อีกด้านของความเจริญมักจะมาควบคู่กับการจราจรที่ติดขัด ปริมาณรถที่มากขึ้น และจำนวนคนที่สัญจรด้วยระบบขนส่งมวลชนที่หนาแน่นขึ้นเช่นกัน ถึงแม้ในระแวกนี้จะมีเส้นทางการเดินทางที่สะดวก ในชั่วโมงเร่งด่วนกลับหาเส้นทางเลี่ยงได้ยาก อย่างที่เห็นๆ ก็มีทางด่วนพระราม 9 อยู่ห่างจากตัวโครงการเพียงแค่ 1 กิโลเมตรเศษๆ แต่ก็ต้องอาศัยเวลากว่าจะฝ่ารถติดจากแยกพระราม 9 ออกไปได้ ในวันทำงานปกติเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า จะต้องเผื่อเวลากันมากหน่อย สภาพแวดล้อมรอบโครงการจัดว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 ไม่ต้องเข้าซอยให้เสียเวลา มีเพื่อนบ้านเป็นคอนโดสูงของ IDEO Mobi ตั้งห่างกันเพียงแค่คูระบายน้ำกั้น อีกด้านเป็นบ้านพักอาศัย ส่วนด้านหน้าโครงการมีปั๊มแก๊ส NGV ในขณะที่ด้านหลังโครงการติดกับคลองระบายน้ำ ที่ดินของโครงการถูกล้อมรอบด้วยคูคลองระบายน้ำเสียถึง 2 ฝั่ง อาจมีปัญหาเรื่องกลิ่นจากคลองน้ำเสียได้นะครับ ส่วนห้องฝั่งตะวันออกด้านที่ติดกับ IDEO Mobi ก็ถูกบังวิวกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ฝั่งตะวันตกมีวิวเปิดกว้างกว่าแต่ก็เปิดรับแดดบ่ายไปเกือบเต็มๆ เหมือนกัน ในเรื่องส่วนกลางทางโครงการก็จัดมาได้ครบเครื่อง ทั้งสระว่ายน้ำยาว 30 เมตร ฟิตเนส และห้องพักผ่อนซึ่งรวมอยู่ที่ชั้น 8 และเพิ่ม Roof Garden ไว้บนดาดฟ้าด้วย หันมาดูเรื่องจำนวนที่จอดรถบ้าง ทางโครงการจัดไว้แค่ 40% นับรวมจอดซ้อนคันแล้วด้วย ถือว่าน้อยมากๆ และจำนวนลิฟท์โดยสารที่มีเพียง 2 ตัว ต่อจำนวนยูนิตรวมที่มากถึง 433 ห้อง จัดว่าหนาแน่นมากเลยทีเดียว ถ้าคิดจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยแบบถาวรจริงๆ คงต้องคิดกันเยอะๆ หน่อย ความหนาแน่นขององค์ประกอบรอบตัวแบบนี้อาจทำให้ตกอยู่ในภาวะเครียดได้อย่างไม่รู้ตัว และด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ในเขต New CBD ทำให้ราคาต่อตารางเมตรค่อนข้างแรงพอตัว แต่ทางโครงการก็มีการจัดสรรห้องไว้ในขนาดที่เล็กพอจนทำให้ราคาเริ่มต้นต่อห้องอยู่ในเกณฑ์ราคาที่บรรดามนุษย์เงินเดือนจะซื้อหาจับจองกันได้ เริ่มต้นด้วยห้องแบบ Studio ขนาด 21 ตร.ม. นิดๆ เรียกว่าเปิดประตูเข้าห้องก็แทบจะล้มตัวลงนอนได้เลย ไม่ต้องมีพื้นที่ มีมุมสำหรับกิจกรรมอื่นๆ ให้มากนัก ถ้าห้องแบบ Studio อึดอัดไป ก็มีห้องแบบ 1 ห้องนอนให้เลือก ด้วยขนาด 26 ตร.ม. กว่าๆ ไปจนถึงขนาดเกือบๆ 35 ตร.ม. ซึ่งห้องแบบ 1 ห้องนอนถูกจัด Lay out ไว้ได้ค่อนข้างโอเค เหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า ทั้งเรื่องพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีมุมนั่งเล่น มีพื้นที่ห้องครัวที่ใช้งานได้จริงมากกว่า ในขณะที่บางห้องยังได้พื้นที่ตรงระเบียงกว้างขึ้นด้วย สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ ห้องแบบ 1 ห้องนอนนี้น่าจะลงตัวที่สุด ส่วนขนาดพื้นที่ห้องจะเล็กจะใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับกำลังซื้อเท่านั้น นอกจากห้องตัวอย่างที่เอามาให้ชมกันแล้ว Condolette Midst ยังมีห้องแบบ 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอนด้วยเช่นกัน แต่ด้วยขนาดห้องที่มีตั้งแต่ 56 ตร.ม.ขึ้นไป ทำให้ราคาขายต่อห้องทะลุ 7 ล้าน และราคาเกิน 10 ล้านในบางห้อง ราคานี้คงจะเอื้อมถึงกันยากหน่อย ส่วนเรื่องวัสดุ สุขภัณฑ์ต่างๆ ที่มีแถมมากับห้อง จัดว่าอยู่ในระดับมาตรฐานดี เพราะใช้ของ Modern form แต่อาจจะดูไม่สมฐานะราคาต่อตารางเมตรเท่าไร ลืมบอกไปว่าห้องทุกห้องแต่งมาให้ครบแบบ Fully Furnished แล้ว ที่ไม่มีให้ก็เป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ฟูกที่นอน และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กๆ บางชิ้นเท่านั้นเองครับ ด้วยศักยภาพด้านทำเลของ Condolette Midst ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบอยู่เหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าในราคาระดับนี้ หรือในทำเลแถบนี้จะไม่มีตัวเลือกอื่นๆ เลย เพราะในแถบรัชดาภิเษก หรือแม้แต่แนวถนนพระราม 9 เอง ก็ยังมีโครงการอื่นๆ อีกหลายแห่งอยู่ ในแง่ของทิศทางด้านการลงทุนอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย เพราะแค่ราคาเริ่มต้นก็เปิดตัวสูงอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดจะมองหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัยถ้าต้องทำงานในย่านนี้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
TC Green พระราม 9 : รีวิวคอนโด

TC Green พระราม 9 : รีวิวคอนโด

มาถึงโครงการยักษ์ใหญ่บนถนนพระราม 9 TC Green ของบริษัท เทียนเฉิน อินเตอร์เนชั่นแนล พร๊อพเพอร์ตี้ (ไทยแลนด์) เป็นการร่วมมือกันระหว่างไทย จีน และไต้หวัน บนเนื้อที่ทั้งหมด 16 ไร่ ตั้งแต่ฝั่งถนนพระราม 9 จรดถนนจตุรทิศ ทำให้โครงการนี้สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง และมีตึกหลักทั้งหมด 4 ตึก ยูนิตรวมทั้งหมดกว่า 2,000 ห้อง และยังมีส่วนของอาคารพาณิชย์ของแต่ละเฟสอีก ด้วยจำนวนยูนิตและประชากรที่จะเข้าอยู่อาศัยซึ่งคาดว่าจะมีความหนาแน่นสูง ทางโครงการจึงมีพื้นที่สวนส่วนกลางจัดสรรไว้ขนาดใหญ่ดีทีเดียว ประกอบกับพื้นที่ชั้นล่างของอาคารจะมีร้านค้ารายรอบทุกตึก คล้ายเป็น Community Mall ก็ไม่ผิด ถ้าร้านค้าเริ่มทยอยเปิดจนเต็มพื้นที่คงคึกคัก และสะดวกสำหรับผู้อยู่อาศัยมาก สำหรับเส้นทางการเดินทาง อย่างที่บอกไว้ว่า TC Green อยู่ติดถนนใหญ่ 2 สาย ดังนั้นจะเลือกใช้เส้นทางพระราม 9 หรือจะออกทางถนนจตุรทิศเลี่ยงไปขึ้นทางด่วนก็ยังถือว่าสะดวกดี ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็หาได้ไม่ยาก มีทั้งรถเมล์ แท็กซี่ซึ่งหาเรียกใช้บริการได้ง่ายตลอด 24 ชั่วโมง และถ้าใครต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ก็มีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 ห่างออกไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร โดยทางโครงการมีรถ Shuttle Bus ให้บริการรับส่งด้วย หรือถ้าจะมองไปถึงอนาคตข้างหน้า ก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มมาลงใกล้ๆ ซึ่งก็น่าจะทำให้การเดินทางมีทางเลือกที่สะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก รอบๆ โครงการยังไม่จัดว่าอยู่ในเขตที่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์นัก ยังไงก็ต้องเดินทางออกมาพึ่งพาห้างสรรพสินค้าข้างนอกอยู่ดี ซึ่งที่ใกล้ที่สุดก็เห็นจะเป็นเซ็นทรัลพระราม 9 และเกาะแนวรถไฟฟ้าไปตามถนนรัชดาก็ยังมีอีกหลายห้างให้ช็อปปิ้งได้เช่นกัน ช่วงที่ภายในโครงการยังไม่มีร้านค้า ตอนกลางวันหาของกินยากเอาเรื่องครับ ในระยะที่พอเดินได้แบบเร็วๆ แทบไม่มีร้านอะไรเลย แต่ถ้าพระอาทิตย์ตกเมื่อไหร่ แค่ข้ามถนนจตุรทิศไปก็เจอ RCA แล้ว ร้านค้า ร้านอาหารมีให้เลือกเพียบ รวมไปจนถึงสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่คึกคักขึ้นชื่ออยู่แล้ว นอกจากนี้รอบๆ โครงการยังมีโรงพยาบาล ธนาคาร และอาคารสำนักงานอีกหลายแห่ง ทำให้ย่านนี้พลุกพล่าน มีรถเยอะเกือบจะตลอดเวลา ในช่วงเช้า-เย็นเรื่องรถติดจึงเป็นปัญหาที่ต้องเจออย่างไม่อาจเลี่ยง สำหรับคนที่ต้องใช้รถส่วนตัวเป็นหลักยังมีปัญหาเรื่องที่จอดรถที่ต้องคำนึงถึงอีกด้วย เพราะพื้นที่โครงการจัดที่จอดรถไว้เพียง 50% โดยมีอาคารจอดรถแยกออกจากอาคารพักอาศัย และเห็นว่าทางโครงการจะมีการเก็บค่าที่จอดรถต่างหากอีก ซึ่งก็ต้องลองพิจารณาเงื่อนไขกันดู คราวนี้มาดูเรื่องห้องกันบ้าง เริ่มจากจุดเด่นที่เพดานห้องถูกออกแบบไว้สูงถึง 2.7 เมตร จัดว่าสูงโปร่งกว่าโครงการอื่นๆ ในระดับเดียวกัน แถมขนาดห้องที่เริ่มต้นด้วยพื้นที่ 30 ตร.ม. จึงนับว่าห้องกว้างใช้ได้เลยทีเดียว แต่ด้วยสไตล์เฉพาะตัวของการออกแบบที่ยังติดแนวจีนๆ อยู่ Lay out ห้องจึงยังดูไม่ค่อยลงตัวนักสำหรับคนไทย บางห้องมีหน้าแคบ เวลาแบ่งพื้นที่ห้องนอน ห้องนั่งเล่นแล้ว จะได้พื้นที่ในแนวยาวๆ แคบๆ ซึ่งคนไทยจะไม่ค่อยชินกับพื้นที่อาศัยในลักษณะนี้เท่าไหร่ เวลาจะหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งห้องอาจจะต้องคิดกันนานหน่อยว่าอะไรจะเข้ามุมตรงไหนดี แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีนน่าจะคุ้นชินกับห้องสไตล์นี้มากกว่า ห้องทั้งหมดขายมาแบบห้องเปล่าๆ ที่มีมาพร้อมห้องก็จะเป็นพวกชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ซึ่งทั้งหมด Made in China ทั้งเรื่องดีไซน์ที่แปลกตา และวัสดุแบบจีนๆ ซึ่งหาที่ไหนเหมือนได้ยาก เพราะเค้าสั่ง import วัสดุทั้งหมดมาจากจีน อันนี้ก็ต้องลองดูกันครับ อาจจะตะขิดตะขวงใจกันบ้างในเรื่องคุณภาพ แต่ถ้าพิจารณาจากทำเลและราคาต่อตารางเมตรแล้ว ก็ยังถือว่ามีแรงดึงดูดเยอะอยู่ ส่วนเรื่อง Facility แต่ละตึกจะมีสระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกายอยู่ที่ชั้น 5 ไม่ต้องมาใช้รวมกัน ซึ่งก็ช่วยลดความหนาแน่นลงได้บ้าง แต่ขนาดของสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนสก็ไม่ได้ใหญ่โตเท่าที่ควร มีแค่พอใช้งานได้เท่านั้น ด้วยความที่ เทียนเฉิน ยังเป็นหน้าใหม่ในวงการบ้านเรา ทางโครงการจึงชูเรื่องสร้างก่อนขายขึ้นมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ และอาคารในเฟสแรกก็สร้างเสร็จและมีลูกบ้านเริ่มทยอยย้ายเข้าอยู่แล้ว ซึ่งมีข้อดีที่ทำให้เราได้เห็นห้องจริงก่อนตัดสินใจเลือกห้องในเฟส 2 เท่าที่ได้เดินดู เรื่องฝีมือ ความประณีตของช่างในการเก็บงานในส่วนต่าง ยังต้องดูให้ดีๆ เวลาตรวจรับห้อง บางตำแหน่ง บางจุดเห็นแล้วถึงกับส่ายศีรษะก็มี ใครที่กำลังเล็งคอนโดในแถบนี้ เชื่อว่า TC Green น่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ควรจะเก็บไว้พิจารณาด้วย เพราะราคาต่อตารางเมตรที่ทางโครงการเปิดมา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ล่อตาล่อใจเลยทีเดียว ด้วยทำเลที่มีแนวโน้มในการเจริญเติบโตค่อนข้างดี ทำให้มีโอกาสในการทำกำไรทั้งการขายต่อ และปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติสูงมาก แค่ตอนที่ไปสำรวจโครงการ ก็เห็นมีนักธุรกิจ นักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาจองไว้หลายรายอยู่ หรือถ้าใครที่จะพิจารณาโครงการนี้ไว้สำหรับอยู่อาศัยเอง ก็ยังน่าสนใจอยู่เช่นกัน ยิ่งถ้าชอบแนวที่อยู่อาศัยที่มี Community Mall อยู่ในโครงการ และความคึกคัก พลุกพล่านแบบชุมชน เชื่อว่าได้อย่างที่ชอบแน่ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราแนะนำว่าต้องลองไปดูห้องจริงด้วยตาตัวเองก่อนตัดสินใจ น่าจะเป็นการดีที่สุดครับ