Tag : รีวิวคอนโดติดรถไฟฟ้า

72 ผลลัพธ์
Maestro 07 Victory Monument-มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ : รีวิวคอนโด

Maestro 07 Victory Monument-มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Maestro 07 Victory Monument (มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ) เจ้าของโครงการ : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซอยราชวิถี 7 ถนนราชวิถี แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร พื้นที่โครงการ : 1-0-41.8 ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 171 ยูนิต ที่จอดรถทั้งหมด : คิดเป็น 40% ของจำนวนยูนิต   ขนาดห้อง : -  แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27.00 – 29.34 ตร.ม. -  แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 45.51 – 68.37 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนเด็กเล่น - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,800,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : ประมาณ 140,000 บาท/ ตร.ม. ค่าส่วนกลาง : 65 บาท/ ตร.ม./ เดือน ค่ากองทุน : 650 บาท/ ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : พร้อมเข้าอยู่ จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม The Original Design งานสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและกลิ่นอายของความโมเดิร์นในแบบฉบับมาเอสโตร ผสมผสานและสะท้อนอยู่ในงานออกแบบที่ยังคงเน้นความเรียบหรู สง่างามเหนือกาลเวลา ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง :  BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ, BTS พญาไท, ARL พญาไท, ทางด่วนศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : Center One,Victory Mall, Fashion Mall, Century Mall, King Power, สวนสันติภาพ, รพ.ราชวิถี, รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.พญาไท 2, รพ.พญาไท 1, รร.ศรีอยุธยา, พันธ์ทิพย์ พลาซ่า, แพลทินัม, สยามพารากอน, สยามสแควร์ Central World, ฟอร์จูน, Central พระราม 9  
BEAT Bangwa Interchange-บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

BEAT Bangwa Interchange-บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : BEAT Bangwa Interchange (บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์) เจ้าของโครงการ : บริษัท นอร์ธแลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนนเทอดไท แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. พื้นที่โครงการ : 2-3-72 ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 2 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 402 ยูนิต ที่จอดรถ : 135 คัน คิดเป็น 39% ขนาดห้อง : - 1 Bedroom ขนาด  25.6 – 32.3 ตร.ม. - 1 Bedroom Plus ขนาด  32.5 – 40 ตร.ม. - 2 Bedrooms ขนาด 45.7 – 51.1 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนหย่อม - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,590,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 69,000บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง : 39 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ปี 2563 จุดเด่นโครงการ : เริ่มต้นจังหวะกับการใช้ชีวิตแบบคนเมืองที่รวดเร็ว มาพร้อมจังหวะที่สนุกสนานอย่างลงตัวในสไตล์คุณ บนพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่สุด เข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายดายและสะดวกสบายกว่าใคร เพียง 15 นาทีถึงสาทร ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนราชพฤกษ์, ถนนเพชรเกษม, BTS บางหว้า สถานที่ใกล้เคียง :  ตลาดพลู, Seacon  บางแค, ตลาดใหม่ บางแค, เทสโก้ โลตัส กัลปพฤกษ์, แมคโคร กัลปพฤกษ์, ม.สยาม, ร.ร.ฐานปัญญา, ร.ร.นานาชาติ British Columbia
The Rich Rama 9-Srinakarin-เดอะริช พระราม 9-ศรีนครินทร์ : รีวิวคอนโด

The Rich Rama 9-Srinakarin-เดอะริช พระราม 9-ศรีนครินทร์ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Rich Rama 9-Srinakarin (เดอะริช พระราม 9-ศรีนครินทร์) เจ้าของโครงการ : บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. พื้นที่โครงการ : 2-0-16.5 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 32 ชั้น จำนวนยูนิต : 558 ยูนิต   ขนาดห้อง : - 1 Bedroom ขนาด 25.61 - 35.68 ตร.ม. - 1 Bedroom loft ขนาด 25.27 - 45.04 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,920,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 130,000บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง : 55 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน : 600 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ไตรมาส 2 ปี 2564 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise ผสมผสาน Mix Use  3 ชั้น จาก ริชชี่ เพลส ติดรถไฟฟ้า 3 สาย เชื่อมสู่เมืองและเชื่อมการเดินทางทั่วโลกโดบใช้เวลาเพียง 10 นาทีจากสุวรรณภูมิ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนศรีนครินทร์, Airport Link หัวหมาก, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีพัฒนาการ, รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานที่ใกล้เคียง : Stamford University, MaxValu, Lotus พัฒนาการ, ตลาดเอี่ยมสมบัติ, The Nine พระราม 9, รร.เตรียมอุดมพัฒนาการ, รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, รพ.รามคำแหง  
Phyll Phahol 34-ฟีล พหล 34 : รีวิวคอนโด

Phyll Phahol 34-ฟีล พหล 34 : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Phyll Phahol 34 (ฟีล พหล 34) เจ้าของโครงการ : บริษัท ซีพีเอ็น เรซซิเด้นซ์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซอย พหลโยธิน 34 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พื้นที่โครงการ :  3-2-7.4 ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 4 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 358 ยูนิต   ขนาดห้อง : - 1 Bedroom ขนาด 25 - 35 ตร.ม. - 2 Bedroom ขนาด 56 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,990,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 130,000 บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง : 60 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน : 600 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : เดือน พฤศจิกายน ปี 2562 จุดเด่นโครงการ : คอนโดที่ชีวิตสมดุล สะดวกครบทุกความต้องการ ใกล้เมือง ใกล้สีสัน และใกล้ธรรมชาติที่เป็นความสุขส่วนตัว ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BTS สถานีเสนานิคม สถานที่ใกล้เคียง : รพ.เปาโล เกษตร, ม.เกษตรศาสตร์,  ม.ศรีปทุม, Home Village,  Tops เกษตร,  Major Cineplex รัชโยธิน  
The Nest Sukhumvit 71-เดอะ เนสท์ สุขุมวิท 71 : รีวิวคอนโด

The Nest Sukhumvit 71-เดอะ เนสท์ สุขุมวิท 71 : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Nest Sukhumvit 71 (เดอะ เนสท์ สุขุมวิท 71) เจ้าของโครงการ : บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ตั้งโครงการ :  ซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ : 5-0-54 ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 5 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 515 ยูนิต ที่จอดรถ :  50% รวมจอดซ้อนคัน ขนาดห้อง : - แบบ 1 Bedroom ขนาด 24.69-33.35 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 41.52 ตร.ม. - แบบ 2 Bedrooms ขนาด 44.51-47.22 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,500,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 90,000-100,000 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ไตรมาส 4/2563 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม Low Rise แนวคิด สุนทรียภาพของการใช้ชีวิตที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ เติมเต็มความสุขด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BTS พระโขนง, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ สถานที่ใกล้เคียง : รพ.สุขุมวิท, ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท, W District, Summer Hill, Gateway Ekamai  
Ideo Ratchada-Sutthisan-ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

Ideo Ratchada-Sutthisan-ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Ideo Ratchada-Sutthisan (ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร) เจ้าของโครงการ : บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. พื้นที่โครงการ : 1-3-97 ไร่ ลักษณะโครงการ : high rise จำนวนชั้น : 24 ชั้น จำนวนยูนิต : 410 ยูนิต ที่จอดรถ : 182  คัน ขนาดห้อง : - แบบ Studio ขนาด 28.00-29.00 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom ขนาด 33.5-34.5 ตร.ม. - แบบ 2 Bedrooms ขนาด 46.00-71.50 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวก : - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - สวนพักผ่อน - ฟิตเนส เปิดตลอด 24 ชม. - ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,490,000 บาท ราคาเฉลี่ย : 90,000 บาท/ตร.ม จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมที่ออกแบบที่อยู่อาศัยที่ให้คุณใช้ชีวิตเมืองได้เต็มที่ในทุกด้านอย่างที่คุณต้องการ บนทำเลกึ่งกลางระหว่างพื้นที่ทางธุรกิจกับแหล่งไลฟ์สไตล์ ห้องพักอาศัยที่ปรับตามไลฟ์สไตล์คุณ และพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับมิติ ชีวิตที่หลากหลายเพื่อวิวัฒน์ 24 ชั่วโมงของคุณ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : MRT สุทธิสาร สถานที่ใกล้เคียง : เซ็นทรัล พระราม 9, ฟอร์จูน พระราม 9, โรงพยาบาลพระราม 9, สำนักงานเขตห้วยขวาง, สน.ห้วยขวาง, ตลาดห้วยขวาง, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน
Life Asoke Hype-ไลฟ์ อโศก ไฮป์ : รีวิวคอนโด

Life Asoke Hype-ไลฟ์ อโศก ไฮป์ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Life Asoke Hype (ไลฟ์ อโศก ไฮป์) เจ้าของโครงการ : เอพี ไทยแลนด์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนอโศก-ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. พื้นที่โครงการ : 5-0-10 ไร่ ลักษณะโครงการ : high rise จำนวนชั้น : 40 ชั้น จำนวนยูนิต : 1,253 ยูนิต ที่จอดรถ : 530  คัน ขนาดห้อง : - แบบ Studio ขนาด 25.5 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom ขนาด  30.5 – 32 ตร.ม. - แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด  35 ตร.ม. - แบบ 2 Bedrooms ขนาด 48.5-64 ตร.ม. ราคา : เริ่มต้น 2,890,000 บาท จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า MRT เพียง 300 เมตร ผสานที่สุดของทุกไลฟ์สไตล์ สะท้อนตัวตนที่แตกต่างด้วย THE HYPE PRIVATE FACILITY กว่า 5 ไร่ ใจกลางอโศก-พระราม 9  เริ่ม 2.89 ล้านบาท ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้า MRT พระราม 9, Airport Link มักกะสัน, ทางด่วนพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : ตลาดอยู่เจริญ, The Grand Rama 9,  Fortune Town, อาคารภคินท์,  True Tower    
เอกมัย-ทองหล่อ ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

เอกมัย-ทองหล่อ ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ถ้าถามถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ของในกรุงเทพฯ ยุคนี้ย่อมต้องมีองค์ประกอบเรื่องกิน-เที่ยวในตัวเองครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่ตกแต่งเก๋ๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟเฉพาะตัว หรือร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ เชฟและวัตถุดิบอิมพอร์ตจากต่างประเทศโดยเฉพาะ ไปจนถึงร้านที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างรอบด้าน เช่น ร้านจักรยาน ร้านแฟชั่น ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านบาร์เบอร์-ซาลอน ร้านสปา ร้านแฮงค์เอาท์ ผับบาร์ยามค่ำคืนยาวไปจนร้านข้าวต้มโต้รุ่ง เรียกได้ว่าย่านนี้ไม่เคยหลับใหล จึงไม่แปลกที่ย่านเอกมัย-ทองหล่อ คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบค่ะ   หากพูดถึงในแง่ของที่อยู่อาศัยย่านนี้แล้ว เชื่อว่าคงเป็นที่อยู่อาศัยในฝันของใครหลายคน รวมไปถึงชุมชน Expat ที่กระจุกตัวกันอยู่ในย่านนี้ไม่น้อย เพราะนอกจากไลฟ์สไตล์อันเพียบพร้อมรอบด้านแล้วยังเดินทางสะดวกสบาย ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเอกมัย-ทองหล่อ และตัวถนนเองที่แม้จะเป็นเพียงถนนหรือซอยที่เป็นทางเชื่อมลัดเลาะไปสู่ถนนหลักอย่างถนนเพชรบุรีกับถนนสุขุมวิท แต่ด้วยความกว้างของถนนจึงทำให้สามารถมีอาคารสูงขนาดใหญ่เกิดขึ้นได้ตามกฏหมาย อีกทั้งยังสามารถทะลุออกไปถนนพระราม 4 ที่ต่อไปยังสีลม-สาทรได้ในระยะไม่ไกลกัน จึงทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในย่านที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ              จากแผนที่จะเห็นภาพชัดขึ้นค่ะว่าช่วงซอยทองหล่อ 10  - เอกมัย 12 - ปรีดีฯ 31 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกันตรงใจกลางย่านนี้พอดี ส่วนจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็มีทั้งทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งอยู่เลยแยกพระโขนงไปเล็กน้อย และทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยอยู่บริเวณถนนพระราม 4   เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้แล้ว เราก็จะพาไปเดินชมทำเลเอกมัย-ทองหล่อด้วยเลยค่ะ   รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าเอกมัย มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ใครๆ ต่างก็จดจำได้ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้กันทั้ง เกตเวย์ เอกมัย, เมเจอร์ สุขุมวิท และ สถานีขนส่งเอกมัย   บรรยากาศช่วงปากซอยเอกมัย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในย่านนี้คึกคักอยู่ตลอดเวลา เดินเล่นในเอกมัยก็มีความคึกคักไม่แพ้กันทั้งกลางวัน-กลางคืน ตลอดทางมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านที่น่าสนใจเรียงรายอยู่มากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในปัจจุบัน ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนได้หลากหลาย หากโฟกัสกันที่จุดสำคัญของย่านเอกมัยก็คงต้องบอกว่าอยู่ตรงสี่แยกกลางซอยที่สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ตั้งแต่ซอยทองหล่อ 10 ต่อมาที่ซอยเอกมัย 5 ซอยเอกมัย 12 แล้วไปทะลุสุดที่ซอยสุขุมวิท 71 ตรงซอยปรีดี พนมยงค์ 31 ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น  ลองเดินทะลุมาที่ทองหล่อ ช่วงทองหล่อซอย 10 ยังเป็นแหล่งปาร์ตี้ชื่อดังอยู่หลายร้าน ใครที่ชอบชีวิต nightlife ต่างก็รู้จักแถวนี้แน่นอน      จากนั้นเราลองเดินกลับมาที่เอกมัย เข้าไปดูในซอยเอกมัย 12 กันต่อค่ะ    บรรยากาศภายในซอยเอกมัย 12 เป็นช่วงถนนที่มีความกว้างถึง 4 เลน ซึ่งเรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างทองหล่อ-เอกมัย-ซอยสุขุมวิท 71(ซอยปรีดีพนมยงค์) ภายในซอยเอกมัย 12 แห่งนี้มีคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่น่าสนใจอยู่ค่ะ ชื่อว่า "The FINE Bangkok"   The FINE Bangkok คอนโดมิเนียม High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร 220 ยูนิต ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ 70% บนพื้นที่ 1-1-05 ไร่ ในซอยเอกมัย 12  เกิดจากการร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) จำกัด(บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น) กับ บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ Keihan Railways  ผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ในภูมิภาคคันไซ จึงเกิดเป็น The FINE Bangkok คอนโดมิเนียมสไตล์ Luxury Modern Japanese มูลค่าโครงการกว่า 1.7 พันล้านบาท และรังสรรค์งานดีไซน์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม ออกแบบตกแต่งภายใน และ Landscape โดยบริษัทชื่อดังอย่าง  Architects 49     สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ได้แก่   โซน Fine Greenery แม้เป็นคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง แต่กลับรายล้อมไปด้วยธรรมชาติตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าโครงการด้วยบรรยากาศแแบบ Fine Spring Garden และสวนพักผ่อนที่ชั้น 23 และ 27 ให้ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วย City View   โซน Fine Lounge ด้วยความตั้งใจออกแบบให้เป็นพื้นที่ใช้ร่วมกัน มีส่วนรองรับสำหรับการใช้งานจากกลุ่มใหญ่ แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัว โดยดีไซน์ออกมาให้มีเอกลักษณ์ความเป็น Modern Luxury แบบญี่ปุ่นชัดเจนที่สุด ประกอบไปด้วย  Lobby, Mail Room, Co-working room และ Private Meeting room   โซน Fine Retreat พื้นที่พักผ่อนรับลมธรรมชาติพร้อมดื่มด่ำทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองไปด้วย ซึ่งทุกส่วนออกแบบให้สามารถชมวิวขอบฟ้าได้ใกล้ที่สุดอย่าง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, Pool Bar, Sauna Room, Hot Pool, The Edge View Point     โซน Fine Sky พื้นที่ Roof Lounge สูงสุดของอาคาร ออกแบบมาให้สามารถชม City View ได้รอบทิศทาง 360 องศา ไปพร้อมกัน เช่น Fitness, Golf Club, Sky Seat, Karaoke room, Kid Room, Wine Lounge                          Floor Plan ชั้น 1 หน้าโครงการหันไปทางทิศใต้ จัดสวนสไตล์ Fine Spring Garden โดยต้องผ่านลำธารเล็กๆ หน้าโครงการไปก่อน ให้ความรู้สึกแบบสวนญี่ปุ่น  Floor Plan ชั้น 9-22 เป็นชั้นสำหรับยูนิตพักอาศัย ประกอบไปด้วยลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์เซอร์วิส 1 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด วางรูปแบบ Double Corridor ฝั่งทิศตะวันออกได้วิวทางพระโขนง-อ่อนนุช ส่วนทางฝั่งตะวันตกจะได้วิวในเมืองอย่างทองหล่อ-อโศก Floor Plan ชั้น 30 เป็น Facility โซน Fine Retreat ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่, Pool Bar, Sauna Room, Hot Pool และ The Edge View Point       สิ่งเหล่านี้สามารถพูดได้ว่าเป็นการออกแบบมาเพื่อวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในระดับพรีเมียม เพื่อสนองต่อความต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตได้ดีที่สุดบนกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอันทรงเสน่ห์   The FINE Bangkok ไม่ใช่แค่คอนโดมิเนียมสไตล์ญี่ปุ่น แต่เป็นคอนโดที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นในบ้านเราได้สัมผัสกับความแตกต่างในสไตล์ Luxury Modern Japanese เตรียมเปิดห้องตัวอย่างเร็วๆ นี้ และพร้อมเปิด Pre sale 2-3 มิ.ย. นี้   
AESTIQ Thonglor – เอสทีค ทองหล่อ : รีวิวคอนโด

AESTIQ Thonglor – เอสทีค ทองหล่อ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : AESTIQ Thonglor (เอสทีค ทองหล่อ) เจ้าของโครงการ : บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ :  ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. พื้นที่โครงการ :  1-3-88.9 ไร่ ลักษณะโครงการ : อัลติเมทลักชัวรี่ คอนโดมิเนียม จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 40 ชั้น จำนวนยูนิต : 203 ยูนิต ที่จอดรถ : 220 คัน   ขนาดห้อง : - 1 ห้องนอน : 33 - 52 ตร.ม. - 2 ห้องนอน : 76 - 119 ตร.ม. - 3 ห้องนอน : 131 - 158 ตร.ม. - เพนท์เฮ้าส์ : 292 - 301 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : ชั้น 1 - Hideaway Pavilion - Step Garden - Welcome Lobby - Private lobby ชั้น 2 - Main lobby - Kids Club - Golf Simulator - Private Theater - Greenery Space ชั้น 10 - Serene Garden ชั้น 30 - Reflection Pool - Upside Down Jacuzzi - Aquatic Treadmill - Sauna&Steam ชั้น 31 - Panoramic Gym - Bike Simulator - Sky Social Club - Skyline Garden ราคา : เริ่มต้น 8,990,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 280,000บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ไตรมาส 4 ปี 2564 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม แบบอัลติเมทลักชัวรี่ จาก เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ ด้วยแนวคิด “A Reflection of you” เน้นย้ำสุนทรียภาพในการใช้ชีวิตสำหรับคนรุ่นใหม่ในเมือง บนทำเลศักยภาพทองหล่อ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ , ถนนสุขุมวิท , ถนนเพชรบุรี , ทางพิเศษเฉลิมมหานคร , ทางพิเศษฉลองรัช สถานที่ใกล้เคียง : นั่งเล่น เอสโคบาร์ , รร.นานาชาติเอกมัย , รร.ทอสี , รพ.สุขุมวิท , Demo เดโม่ , Major เอกมัย , DND , Seen Space , The Commons , Nihonmura Mall , J Avenue , Hubba Thailand   AESTIQ Thonglor ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท Presale 15-16 กันยายนนี้ พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลและสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้ที่ www.aestiq.com หรือโทร 1232 #AESTIQ #REALASSET
Whizdom Station Ratchada – Thapra : รีวิวคอนโด

Whizdom Station Ratchada – Thapra : รีวิวคอนโด

ในซอกมุมเล็ก ๆ แถวฝั่งธนบุรี มีย่านเก่าแก่ย่านหนึ่งที่มีชื่อว่า “ตลาดพลู” จุดกำเนิดมาจากชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในสมัยก่อนทำสวนพลูและนำมาค้าขาย พื้นที่แถวนั้นจึงปกคลุมไปด้วยสวนพลูจึงเรียกแถวนี้ว่าตลาดพลู และถ้าพูดถึงย่านนี้ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักนึกถึงของกินมากมายและขึ้นชื่อมีหลายอย่างอาทิเช่น ข้าวหมูแดง, กุยช่ายตลาดพลู,ไอศครีมไข่แข็ง,หมี่กรอบจีนหลี และอีกมากมายให้นักชิมได้มาลิ้มลอง     ทำเลทองของฝั่งธนบุรี   ธนบุรีเมืองกรุงเก่า เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมเก่าแก่ วัดวาอารามต่างๆ อาหารขึ้นชื่อดังๆ หลายร้าน จึงเป็นเสน่ห์อย่างมากของฝั่งธนบุรีที่ฝั่งพระนครหาไม่ได้ เดิมธนบุรีมีพื้นที่เป็นชุมชนส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยมีตึกสูงเสียดฟ้าแบบฝั่งพระนคร ซึ่งมีความแออัดมาก จึงจำเป็นต้องขยายพื้นที่และเล็งเห็นว่าธนบุรีสามารถรองรับขยายได้ 10กว่าปีมาแล้วที่ธนบุรีมีการเติบโตเทียบเท่าฝั่งพระนครจะมองเห็นว่ามีตึกสูงมากมายผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด นอกจากนี้เสน่ห์เมืองเก่าอย่างธนบุรีจะเป็นแหล่งวัฒนธรรมเก่าแก่ อาหารขึ้นชื่อมากมายแล้ว มีชุมชนความเป็นอยู่ที่เงียบสงบที่่ฝั่งพระนครหาไม่ได้เลย     ห่างออกไปอีกไม่ไกลบนถนนรัชดาภิเษกมีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนพระราม 3 และถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งถนนสองเส้นนี้เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปเพื่อเข้าเมืองอย่างฝั่งพระนครนั้นเอง นอกจากนี้ ยังเป็นทำเลทองเพราะเป็นถนนที่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา สามารถขับรถส่วนตัวข้ามฝั่งโดยใช้สะพานพระราม 3 และสะพานตากสินได้ เมื่อมองลึกเข้าไปบนถนนรัชดาภิเษกมีโครงการ Whizdom Station Ratchada – Thapra ซึ่งอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS 80 เมตรใช้เวลาเพียง 1 นาทีถึงสถานี และใช้เวลา 11 นาทีเข้าตัวเมืองอย่างสะดวกสบาย ง่ายดาย ขยับไปอีกนิดเพียง 250 เมตรก็จะถึง BRT สถานีราชพฤกษ์ นอกจากนี้ตัวโครงการยังติดถนนใหญ่จึงมีรถโดยสารวิ่งผ่านเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางอีกด้วย ความโชคดีด้านหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ประจำทางวิ่งผ่าน ไม่ได้มีเพียงรถเมล์เท่านั้นยังมีวินมอเตอร์ไซค์ รถแท็กซี่ รถสามล้อ และ รถสองแถวแดง ให้ได้เลือกใช้บริการตามสะดวก          Whizdom Station Ratchada – Thapra ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งละแวกนี้เป็นชุมชนเก่าแก่และเป็นศูนย์กลางของธนบุรีเลยก็ว่าได้ จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้ที่ครบครัน อย่างห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ท่าพระ เพียงข้ามสะพานลอยหน้าโครงการก็ถึงแล้วเพราะอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน และยังมีห้างสรรพสินค้าอื่นๆ โดยรอบอย่าง Max Value , BigC ไม่ได้มีแต่ห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ถัดมาข้างๆโครงการมีตลาดไทยช่วยไทยพลาซ่าอีกด้วย หรือจะขยับออกมาอีกนิดเพียง 2 กิโล ก็จะถึงตลาดเก่าแก่ที่มีร้านอาหารดังหลายอย่างนั้นก็คือ “ตลาดพลู” ให้ได้ไปสัมผัสลิ้มลองรสชาติกัน นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงอย่าง โรงพยาบาลพญาไท3 , โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า , โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ , วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ , ธนาคารกสิกรไทย     ภาพรวมโครงการ   Whizdom Station Ratchada – Thapra คอนโดมิเนียม High Rise สูง 37 ชั้น บนพื้นที่ 3-0-53.2  ไร่ ที่จอดรถประมาณ 295 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 43% จุดเด่นของโครงการมีการวาง Concept ได้เป็นอย่างดี โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตลาดพลูในสมัยก่อน อย่างการออกแบบสถาปัตยกรรมตัวตึกมีแนวความคิดจากใบพลู มาให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นตลาดพลูแต่เก่าก่อน ที่สำคัญการออกแบบได้รับรางวัลมาตราฐาน TREES ออกโดยสถาบันอาคารเขียวไทย ว่าเป็นตึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างดีเยี่ยม         Facility ยังคงนำความเป็นตลาดพลูในประวัติศาสตร์มาผสมผสานกับปัจจุบันได้อย่างลงตัว โดยมอบของขวัญเป็นพื้นที่สีเขียวมากมายให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น ผ่อนคลาย ซึ่งส่วนกลางแบ่งออกเป็น 3 ส่วน เริ่มจากชั้นที่ 1 Grand Lobby ที่คอยต้อนรับมีเพดานสูงดูโอ่โถง ภายในประติมากรรมตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เราได้สัมผัส มีความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ถัดมาเพิ่มสะดวก สบายด้วย Retails shop ด้วยกันถึง 6 ร้านที่ทันสมัย   Grand Lobby ที่ดูโอ่งโถงใหญ่โต บวกกับประติมากรรมให้ความรู้สึกเหมือนนั่งเล่นใต้ต้นไม้   ส่วนของชั้น 6 , 7 เป็นส่วนของ Infinity Edge Pool เปิดประสบการณ์ว่ายน้ำรูปแบบใหม่กับบรรยากาศเมืองสุดขอบฟ้า Pool Bar ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านริมน้ำ สามารถก้าวเท้าลงเล่นน้ำได้ทันใจ หรือเวลากลางคืนเปลี่ยนบรรยากาศจัดปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำก็ย่อมได้ สำหรับคนที่รักสุขภาพเดินขึ้นบันไดจาก Pool Bar อีกชั้นก็จะพบแหล่งพลังความสุขภาพนั้นก็คือ Fitness ที่รายล้อมไปด้วยกระจกทำให้มองเห็นวิวเมืองหรือสระว่ายน้ำได้ หรือใครที่อยากได้ความเงียบสงบ ร่มรื่นกับอีกฝั่งหนึ่งพบกับ Greenery Courtyard ที่จำลองยกสวนหลังบ้านที่เป็นท้องร่องในสมัยก่อน เน้นการปลูกพืชผักสวนครัวยึดพันธุ์ไม้ท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่อาทิเช่น ว่านหางจระเข้ , ใบยี่หร่า , ใบชะพลู , ตะไคร้ , ต้นชมพู่  เป็นต้น   Infinity Edge Pool เปิดประสบการณ์ใหม่กับสระว่ายน้ำกับวิวสุดขอบฟ้าและ Pool Bar ผ่อนคลายกับบ้านริมน้ำเพียงอึดใจก้าวเท้าลงเล่นน้ำได้ทันใจ   Fitness ที่มองเห็นวิวได้ทั่ว อยู่ระหว่างชั้นหกและเจ็ด   ในชั้นบนสุดอย่างชั้นที่ 37 เราจะพบ Tunnel Garden สวนแปลกตากับอุโมงค์พันธุ์ไม้เลื้อย ช่วยลดความร้อนให้กับตัวอาหาร และได้ความร่มรื่น ผ่อนคลายกับสายลมและสบายตากับพันธุ์ไม้ต่างๆ เนื่องจากได้คัดสรรพันธุ์ไม้ที่ไม่บังทิศทางของสายลม และยังเพิ่มความร่มเงาให้ผู้พักอาศัยได้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างมาก เมื่อหลุดเข้าไปข้างในจะพบกับ Co-Working Space สนุกกับการทำงานท่ามกลางธรรมชาติ สำหรับคนที่ต้องการหาที่ทำงานเงียบๆ ใช้สมาธิส่วนตรงนี้เหมาะกับผู้อาศัยอย่างมากเพราะได้ทำงานโดยมีพืชพรรณรายล้อมทำให้รู้สึกสบายไม่เครียดหรือกดดัน  สิ่งต่อจากนี้ถือเป็น Signature ของโครงการนี้เลยก็ว่าได้นั้นก็คือ Glass House Sky Lounge ที่ให้กลิ่นอายความรู้สึกเหมือนอยู่เรือนเพาะชำ ให้ผู้อาศัยมาทำกิจกรรมต่างอย่างอ่านหนังสือเล่มโปรด ทำงาน หรือนั่งเล่นนั่งก็คุยก็ทำได้  เมื่อมองขึ้นไปจะพบกับ Vertical Garden เป็นพื้นที่เล็กๆเอาไว้นั่งคุยหรือประชุมลับได้ มีการออกแบบที่น่าสนใจเป็นรูปแก้วแชมเปญอยู่เหนือพื้นที่ Co-Working Space   Tunnel Garden เปิดมิติใหม่กับสวนอุโมงค์ไม้เลื้อยชวนให้ความรู้สึกผ่อนคลาย   Co-Working Space มองหาพื้นที่ทำงานพร้อมกับธรรมชาติ   ขอนำเสนอ Glass House Sky Lounge ยกแปลงเพาะชำมาอยู่ในห้องนั่งเล่นทำกิจกรรมต่างๆ     Floor Plan     ทางเข้า-ออกของโครงการมีทางเดียว อยู่ติดริมถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าโครงการจัดแต่งด้วยสวนให้ดูเหมือนหลุดเข้าไปในท่ามกลางธรรมชาติที่แท้จริง ซึ่ง Facility จะอยู่ภายในอาคาร   สำหรับชั้นหก ถ้าเดินออกจากลิฟท์ทางด้านซ้ายมือจะเป็น Greenery Courtyard และฝั่งตรงข้ามจะเป็นส่วนของ Pool Bar และสระว่ายน้ำ     ชั้น 7 เป็นส่วนของ Fitness และมีบันไดทางเชื่อมลงไปชั้นหกเพื่อพักผ่อนกับ Pool Bar และสระว่ายน้ำ     ส่วน Facility บนสุดอย่างชั้นที่ 37 จะเป็นส่วนของสวน Tunnel Garden และ Glass House Sky Lounge and Co-Working Space   Floor Plan ชั้นที่ 9-33 จะสังเกตเห็นได้ว่าทุกยูนิตถูกวางไว้โดยไม่มีห้องไหนถูกบดบังทัศนียภาพเมือง ทำให้ดูโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด   Floor Plan ชั้นที่ 36 Type Penthouse จะถูกวางเอาไว้ที่ชั้น 36 นี้ และเพียงแค่ขึ้นไปอีกหนึ่งชั้นก็จะเจอ Facility ของชั้นที่ 37     Unit Plan   สำหรับโครงการ Whizdom Station Ratchada – Thapra จะมียูนิตให้เลือกมากมายตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย โดยจะมี Type ตั้งแต่ Studio , 1 Bedroom, 2 Bedroom และ Penthouse ลองไปชมตัวอย่างแปลนห้องในแต่ละ Type กันเลย     เริ่มจาก Studio มีขนาดเริ่มต้น 22.81 ตร.ม. เพื่อความเป็นส่วนตัว ดูแลรักษาง่าย ตัวห้องจัดพื้นที่ได้อย่างลงตัวสามารถใช้สอยได้อย่างเต็มที่ เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะพบกับด้านซ้ายมือเป็นครัวและขวามือเป็นห้องน้ำ       มาต่อกับ Type B One Bedroom (Separate Kitchen) มีขนาดเริ่มต้น 26.08 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้คือมีห้องครัวที่เป็นครัวปิด หมดปัญหากลิ่นอาคารเวลารังสรรค์เมนูสุดโปรดของเรา     Type C เป็น One Bedroom มีขนาดเริ่มต้น 28.14 ตร.ม. ตัวห้องมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ห้องมีความโปร่ง โล่งสบาย     Type D เป็น Two Bedroom มีขนาดเริ่มต้น 47.82 ตร.ม. สิ่งที่น่าสนใจสำหรับห้องนี้ ทุกห้องวางตำแน่งไว้ห้องมุม และเสริมกระจกเพื่อความกว้างขวาง ดูโปร่งสบาย   และสุดท้ายกับ Type E เป็น Penthouse อยู่บนชั้นที่ 36 ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองได้กว้าง ทุกพื้นที่ภายในห้องออกแบบใช้สอยอย่างเต็มประสิทธิภาพ       จาก BTS ถึง Whizdom เพียงหนึ่งนาที     จาก BTS สถานีตลาดพลูก็สามารถมองเห็นโครงการแล้ว     เดินออกจากสถานี BTS ตลาดพลูโดยใช้ทางออก 3     เมื่อเดินลงมาให้เลี้ยวขวาเดินตามทางเท้าเพียงไม่กี่ก้าวด้านขวามือจะพบห้างสรรพค้าเดอะมอลล์ท่าพระและซ้ายมือจะเจอโครงการแล้ว       ในที่สุดก็ถึงโครงการ Whizdom Station Ratchada – Thapra เป็นที่เรียบร้อย   เดินชมรอบโครงการ   เมื่อเข้าโครงการจะพบไม้กั้นรถ โดยโครงการนี้ใช้ระบบ Access Card ในการเข้าออกโครงการ   ทางด้านข้าง เป็นทางเดินเพื่อเข้าไปยังสวนพักผ่อนที่จำลองบรรยากาศทางเดินในบ้านสวนของย่านตลาดพลู   สวนหย่อมโครงการรายล้อมไปด้วยต้นไม้ดูเป็นธรรมชาติ   ภายในโครงการมีที่สำหรับจอดรถ ECO Parking อีกด้วย   ชั้นแรกพื้นที่ตรงนี้จะเป็นส่วนของร้านค้า 2 ร้านอำนวยความสะดวกแก่ผู้พักอาศัยในโครงการ   ไม่ได้มีร้านค้าเพียงชั้นแรกเท่านั้นบันไดด้านนี้นำไปสู่ชั้นสองซึ่งเป็นร้านค้าอีก 4 ร้านที่เหลือ   เดินเข้ามาต่อจากร้านค้าก็จะพบ Grand Lobby ที่ดูโอ่โถง คอยต้อนรับผู้พักอาศัย   ก่อนที่เราจะขึ้นลิฟท์ทางฝั่งซ้ายมือ จะพบตู้ล็อคเกอร์เก็บจดหมาย   ตู้จดหมายสามารถเดินวนได้รอบ ออกแบบได้อย่างหรูหรา สวยงาม   ขณะนี้เรากำลังจะขึ้นไปชมตัวโครงการโดยเราจะแวะไปที่ชั้น 6 ก่อนเพื่อไปดู Facility กันเลยครับ   เมื่อออกจากลิฟท์มาแล้ว เดินออกมาซ้ายมือเราจะพบกับ Greenery Courtyard   เป็นสวนที่จำลองเป็นท้องร่องในสมัยก่อน มาปรับให้เข้ากับปัจจุบันได้อย่างลงตัว   พืชพันธุ์ที่นี้ ทางโครงการจะปลูกเป็นพันธุ์ไม้พื้นบ้าน อย่างต้นชมพู่ , ว่านหางจระเข้ , ใบยี่หร่า เป็นต้น นอกจากทำให้ร่มรื่นแล้วยังสามารถนำไปใช้ได้จริง   ถ้ามองขึ้นไปจากสวนนี้ ก็จะเห็นตึกโครงการเสียดฟ้า ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว อย่างที่อาคารด้านขวามือตัว  Facade(เปลือกอาคาร) ได้แรงบันดาลใจจากปลายแหลมของใบพลูที่ซ้อนกันหลายๆ ชั้น   เดินต่อจากสวนทางฝั่งตรงข้าม ก็จะพบกับสระว่ายน้ำในฝันของใครหลายคน ในส่วนตรงนี้จะเป็น Kids Pool และมีน้ำตกเล็กๆ ให้คุณหนูๆได้เพลิดเพลิน สนุกกับการเล่นน้ำมากขึ้น   ทีเด็ดของ Infinity Edge Pool สัมผัสใหม่กับการว่ายน้ำพร้อมมองเห็นบรรยากาศเมือง     ในส่วนของห้องน้ำส่วนกลางชั้นนี้ มีบริการตู้ล็อคเกอร์ให้ผู้พักอาศัยเก็บของก่อนไปทำกิจกรรมต่างๆได้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำ และอาบน้ำแบ่งไว้ให้อย่างละห้องอีกด้วย   Pool Bar เป็นส่วนในการทำกิจกรรมจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ หรือมานั่งพักเหนื่อยหลังจากเล่นน้ำก็ได้   โดย Pool Bar จะรายล้อมด้วยกระจกใส ทำให้มองเห็นสระน้ำพร้อมกับวิวเมือง   บันไดตรงหน้า เป็นทางขึ้นไปยัง Fitness   ส่วนของ Fitness ที่ถูกล้อมด้วยกระจกเงา ทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้น โปร่งสบาย ไม่อึดอัด   เครื่องเล่นที่มีมากมายให้กับผู้รักสุขภาพได้เลือกเล่นตามความชอบ     ขึ้นมาต่อกับชั้นที่ 37 บนสุดของโครงการ พักผ่อนกับ Tunnel Garden   เดินตรงมาจาก Tunnel Garden จะเจอ Glass House Sky Lounge มุมสำหรับนั่งคุยเล่นหรืออ่านหนังสือเล่มโปรด   มองออกไปก็จะเห็นวิวกว้างของเมือง   ส่วนมุมนี้เป็น Co-Working Space เอาใจคนที่อยากหาที่ทำงานเงียบๆ พร้อมอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ   Vertical Garden มุมลับๆ สำหรับประชุมลับหรือนั่งคุยเล่นทำกิจกรรม   จะมีประตูเชื่อมไปยัง Tunnel Garden   ชมห้องตัวอย่าง   ห้องตัวอย่างที่เรากำลังจะพาไปชม เป็น 2 Bedroom ขนาด 59.95 ตร.ม. ทางโครงการมีเฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully Fitted และทุกยูนิตจะติดตั้ง Home  Intelligent System เพื่อความสะดวกสบายภายในบ้าน ตัวอย่างโหมด Healthy จะคำนวณวัดค่าคาร์บอนไดออกไซด์ถ้าเกินมาตราฐาน จะปรับเปลี่ยนเอาออกซิเจนเข้ามาแทน หรือโหมด lifestyle สามารถปรับเปลี่ยนแสงไฟตามความต้องการของเราได้ให้เป็น Entertainment Mode หรือ Reading Mode สามารถสั่งเปิดปิดไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆได้ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเราเพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ทางโครงการจัดทำขึ้นก็สะดวกสบายไร้กังวลเวลาออกจากบ้านแล้วลืมปิดไฟ ยอกจากนี้ยังมีโหมด Security ที่สามารถตรวจสอบภายในห้องพักอาศัยผ่าน IP Camera ที่เปิดดูจากแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ   บรรยากาศของทางเดินไปยังห้องตัวอย่างเป็น Double Corridor ก่อนที่เราจะเข้าห้อง หน้าห้องจะมีตู้เก็บท่อน้ำ ข้อดีก็คือเวลาเกิดน้ำรั่วซึมสามารถเปิดซ้อมได้จากตู้นี้โดยที่ไม่ต้องเข้าไปในห้อง เรียกว่าระบบท่อออกหลัง เพิ่มความสะดวกสบายเวลาผู้พักอาศัยไม่อยู่     มาถึงห้องตัวอย่างโดยประตูห้องทุกยูนิตใช้ระบบ Digital Door Lock จากแบรนด์ YALE   หลังจากปิดประตูก็ยังมีพื้นที่สามารถวางตู้เก็บรองเท้าได้ด้วย   สวิทซ์ไฟทั้งห้องจากแบรนด์ Obotrons และมีไฟ LED บอกสถานะการเปิด-ปิดไฟเป็นสีฟ้าอยู่รอบปุ่มในเฉพาะห้องน้ำเป็นเซนเซอร์เพียงแค่เดินเข้าไปก็สามารถเปิดไฟเองได้ หรือออกจากห้องเพียงไม่กี่วินาทีไฟก็จะปิดตัว   เมื่อเข้ามาก็จะพบกับประตูสองบาน เรามาเริ่มจากด้านขวามือกันเลย   ประตูทางด้านขวามือเมื่อเข้ามา เป็นส่วนของห้องน้ำกลาง   เปิดประตูมาจะเจอกับอ่างล้างหน้าจากแบรนด์ Lavenz ใต้อ่างมีชั้นวางเก็บของได้   พื้นห้องน้ำมีธรณีกั้นแยกระหว่างที่เปียกกับแห้ง แบ่งเป็นสัดส่วน พื้นของห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนของที่เปียกจะกั้นด้วยกระจกแบบ  Temper   ฝักบัวสแตนเลสจากแบรนด์ Englefield ข้างฝักบัวยังมีชั้นวางของอีกด้วย   โถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Toto บริเวณข้างหลังที่ยื่นมาเป็นถังพักน้ำไว้เก็บท่อน้ำแบ่งน้ำดีน้ำเสีย และยังช่วยเพิ่มพื้นที่ในการวางของได้อีกด้วย   ถัดมาออกจากห้องน้ำซ้ายมือก็จะเป็นห้องนอนแรก   พื้นที่ของห้องนอนนี้ยังสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตก็ย่อมได้   มองออกไปก็จะมีหน้าต่างบานใหญ่ สามารถมองเห็นวิวเมืองและยังพอมีพื้นที่สามารถตั้งโต๊ะทำงานได้อีกด้วย   หน้าต่างเป็นแบบหน้าต่างบานกระทุ้ง   ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ปลายเท้าถูกติดตั้งไฟอัตโนมัติ และมีระบบ Soft close เพื่อกันเปิด-ปิดตู้เสียงดังทำให้ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน   เครื่องปรับอากาศทางโครงการติดตั้งของ Daikin และทางโครงการได้ใส่ใจรายละเอียดในทุกอยู่ยูนิต จะดูทิศทางในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศไม่ติดตั้งไว้บนหัวนอน เพราะจะทำให้มีปัญหาด้านสุขภาพผู้อยู่อาศัย   ออกจากห้องนอนแรกตรงเข้ามาก็จะเจอกกับ Common Area. Floor To Ceiling 2.65 เมตร   ซึ่งทางซ้ายของห้องตัวอย่างนี้ จะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและถัดไปจะเป็น Kitchen Cabinets ไว้ประกอบอาหาร   ในส่วนของครัวยังมีพื้นที่พอให้วางสำหรับโต๊ะรับประทานอาหาร และยังพอมีพื้นที่ให้ทางเดินได้ ไม่ทำให้ดูแคบ   หน้าตาของ Kitchen Cabinets เป็นครัวเปิด มุมขวาชั้นบนเป็นตู้ไฟ   Top ครัวเป็นหินควอตซ์ อ่างล้างจานเป็นแบบฝั่งใต้เคาน์เตอร์ มีข้อดีทำให้น้ำไม่กระเด็นออกมาจากแบรนด์ Mex   ตัวเตาไฟฟ้าเป็นแบบสองหัว มาคู่กับเครื่องดูดควัน สะดวกต่อการประกอบอาหารของคุณแม่บ้าน   ส่วนต่อมากับ Living Room หรือส่วนที่ทำกิจกรรม นั่งเล่นดูโทรทัศน์กับครอบครัว     ด้านหลังที่วางโทรทัศน์ มีกระจกทรงสูงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง   ตรงจุดที่วางโซฟา สามารถซื้อโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ก็ยังได้ ไม่ทำให้ดูขวางทางเดิน หรือวางโต๊ะก็ยังได้   ประตูกระจกบานเลื่อนออกไปสู่ระเบียงห้องเพื่อสูดอากาศภายนอก หรือชมวิวทิวทัศน์     พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค กับราวกันตกเป็นราวเหล็กโปร่ง ส่วนของระเบียงยังสามารถวางราวตากผ้าได้ กำแพงริมระเบียงติดตั้ง Condensing Unit จะสังเกตเห็นได้ว่าข้างล่างมีก๊อกน้ําและรูปลั๊กไฟเหลือพื้นที่พอสำหรับเครื่องซักผ้า   กลับเข้าห้องมากับห้องสุดท้าย Master Bedroom    เมื่อเดินเข้ามาก็จะเจอห้องน้ำอยู่ในตัวของห้องนอนใหญ่   ซึ่งสุขภัณฑ์ห้องน้ำมีครบเหมือนกันกับห้องน้ำกลาง แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือมีหน้าต่างลอยตัวเป็นแบบหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถเปิดไว้เพื่อระบายอากาศได้   ภายในห้องนอน Master Bedroom มีความกว้างขวาง สามารถวางเตียงขนาด King Size   ตู้เสื้อผ้าของห้องนี้เป็นแบบสองฝั่งไว้แบ่งเสื้อผ้าชายหญิงได้   บนหัวเตียงนอนเป็นกระจกสามารถเปิดรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าได้ครับ   ที่ปลายเตียงมีพื้นที่พอสำหรับการวางเคาน์เตอร์วางโทรทัศน์ ไว้ดูก่อนนอน   หน้าต่างห้องนี้ เป็นกระจกทรงสูงเชื่อมไปยังหัวเตียงทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองได้กว้างขึ้น มุมบนหัวเตียงมีกระจกเข้ามุม ทำให้มองเห็นทัศนียภาพได้รอบทิศ   เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย ทางโครงการได้แถมกล้องวงจรปิดให้กับทุกยูนิต ซึ่งสามารถบันทึกภาพขณะที่ไม่ได้อยู่ในห้องเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Home Intelligent System ที่รวมอยู่ในห้องชุดพักอาศัย   และนี้คือหน้าตาของรีโมทสั่งการที่จะช่วยอำนวยความสะดวกของผู้อยู่อาศัยในการควบคุมการเปิดปิดไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องซึ่งทางโครงการได้แถมให้กับทุกยูนิต   เพราะเป็นย่านเก่าแก่ และขึ้นชื่อของฝั่งธนบุรี ทำให้ Whizdom Station Ratchada – Thapra คอนโดมิเนียมใหม่จาก "Magnolia" MQDC Magnolia Quality Development Corporation  ใช้ Concept "ใบพลู" สร้างสรรค์คอนโดมิเนียม High rise สูง 37 ชั้น ตอบโจทย์ Lifestyle คนรุ่นใหม่ที่ชอบความสงบ แต่สะดวกสบายต่อการเดินทางเพียง 1 นาทีถึง BTS ตลาดพลู และ 11 นาที สู่ใจกลางเมืองย่าน CBD ด้วยความสะดวกสบายทั้งการเดินทาง หรือไลฟ์สไตล์ที่ชอบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติกลางเมือง Whizdom Station Ratchada – Thapra ถือว่าตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยอย่างมาก   สอบถามรายละเอียดเพิมเติมที่ โทร. 1265 หรือ  http://bit.ly/thaprareview    
Kensington 63-เคนซิงตัน 63 : รีวิวคอนโด

Kensington 63-เคนซิงตัน 63 : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : Kensington 63 (เคนซิงตัน 63) เจ้าของโครงการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ :  ซอยพหลโยธิน 63 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ : 1 – 3 – 31 ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 231 ยูนิต ที่จอดรถ : 73 คันหรือคิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ขนาดห้อง : - 1 Bedroom ขนาด 22.7 – 31 ตร.ม. - 1 Bedroom Plus ขนาด 35.4 – 40.5 ตร.ม. - 2 Bedroom ขนาด 48.2 ตร.ม.     สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนหย่อม - สระว่ายน้ำระบบเกลือ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,790,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร :  89,000 บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง : 40 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน : 400 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ปี 2563 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น คอนเซป  Uplift your Lifestyle Upgrade your Privacy สู่ระดับของการใช้ชีวิต เริ่ม 1.79 ล้านบาท ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ , สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี , สายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี , สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สถานที่ใกล้เคียง : ตลาดยิ่งเจริญ, Big C สะพานใหม่ , Central รามอินทรา , IT Square , ม.ราชภัฎ พระนคร , รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล , วัดพระศรีมหาธาตุ , กรมทหารราบที่ 11 , สนามบินดอนเมือง  
HYPE Sathorn-Thonburi-ไฮป์ สาทร-ธนบุรี : รีวิวคอนโด

HYPE Sathorn-Thonburi-ไฮป์ สาทร-ธนบุรี : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : HYPE Sathorn-Thonburi (ไฮป์ สาทร-ธนบุรี) เจ้าของโครงการ : บริษัท ภัทรนันธ์ แอสเซท จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซอยเจริญนคร 22 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม. พื้นที่โครงการ : 7-0-53  ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 5 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 907 ยูนิต ที่จอดรถ : เฟส 1 จอดได้ 166 คัน คิดเป็น 34% , เฟส 2 จอดได้ 131 คัน คิดเป็น 30%     ขนาดห้อง : - สตูดิโอ ขนาด 25.2 ตร.ม. - 1 ห้องนอน ขนาด 32-43 ตร.ม. - 2 ห้องนอน ขนาด  45-51.36 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนสาธารณะ - กล้อง CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,790,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 71,000บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ :  ไตรมาสที่ 2/2563 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมที่ออกแบบจากความโปร่ง โล่ง สบาย ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านของคุณ ทางเดินในอาคารให้กว้างสูงสุดถึง 5 ม. เพื่อปลูกต้นไม้ใหญ่ในทางเดิน และเปิดรับแสงแดดและลมเข้าสู่ภายในอาคารอย่างเต็มที่ เพื่อให้คุณสัมผัสธรรมชาติได้อย่างแท้จริง ตอบสนองวิถีคนเมือง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : รถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรี , รถไฟฟ้าสายสีทอง 600 เมตร , ถนนกรุงธนบุรี , ถนนเจริญนคร , ถนนสาทร สถานที่ใกล้เคียง : Senafest , Icon Siam , รร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย , รร.อัสสัมชัญ บางรัก , รพ.เซนต์หลุยส์
The Tree Dindaeng-Ratchaprarop-เดอะ ทรี ดินแดง-ราชปรารภ : รีวิวคอนโด

The Tree Dindaeng-Ratchaprarop-เดอะ ทรี ดินแดง-ราชปรารภ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Tree Dindaeng-Ratchaprarop (เดอะ ทรี ดินแดง-ราชปรารภ) เจ้าของโครงการ :  บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. พื้นที่โครงการ : 1-2-76  ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 226 ยูนิต     ขนาดห้อง : - SAVANNA ขนาด 22.60 ตร.ม. - TROPICAL ขนาด 26.25 ตร.ม. - PINE  ขนาด 28.00 ตร.ม. - EVERGREEN ขนาด 34.25 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,000,000 บาท จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม แนวคิดนวัตกรรมคู่ธรรมชาติ ที่สร้างสรรค์ความสุขเพื่อการใช้ชีวิต จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ และ MRT ดินแดง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BTS สถานีอนุสาวรีย์ สถานที่ใกล้เคียง : สวนสันติภาพ , รางน้ำ , อนุสาวรีย์ขัยสมรภูมิ , ปปส. , สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น , กระทรวงแรงงาน , รพ.พญาไท 1 , รพ.ราชวิถี , รร.นิธิปริญญา , รร.แม่พระฟาติมา , รร.สุรศักดิ์มนตรี , ม.หอการค้า
XT Huaikhwang – เอ็กซ์ที ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

XT Huaikhwang – เอ็กซ์ที ห้วยขวาง : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : XT Huaikhwang ( เอ็กซ์ที ห้วยขวาง ) เจ้าของโครงการ : บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. พื้นที่โครงการ : 6 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 2 อาคาร จำนวนชั้น : 43 ชั้น , 12 ชั้น จำนวนยูนิต : 1,404  ยูนิต ที่จอดรถ : 41 %     ขนาดห้อง : - 1 Bedroom : 27.00-34.75 ตร.ม. - 2 Bedroom 1 Bath : 50.00 ตร.ม. - 2 Bedroom 2 Bath : 52.75-69.75 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,690,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 165,000 บาท/ ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ไตรมาสที่ 2 /2564 จุดเด่นโครงการ :  XT ห้วยขวางโดดเด่นด้วย Hidden Skybar ในรูปแบบ speakeasy bar รวมทั้ง sky tea garden ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในเวลาพักผ่อน ค้นพบชีวิตอันน่าหลงใหลที่ซุกซ่อนอยู่ใจกลางห้วยขวาง ห่างจากสถานี MRT ห้วยขวางเพียง 75 เมตร และ 5 นาทีจากเซ็นทรัลพระราม 9 ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : MRT สถานีห้วยขวาง , ถนนรัชดาภิเษก , ทางพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : เซ็นทรัล พระราม 9 , ฟอร์จูน พระราม 9 , โรงพยาบาลพระราม 9 , สำนักงานเขตห้วยขวาง , สน.ห้วยขวาง , ตลาดห้วยขวาง
The Teak Sathorn-Lumpini – เดอะ ทีค สาทร-ลุมพินี : รีวิวคอนโด

The Teak Sathorn-Lumpini – เดอะ ทีค สาทร-ลุมพินี : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Teak Sathorn-Lumpini (เดอะ ทีค สาทร-ลุมพินี ) เจ้าของโครงการ : บริษัท ทีค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ซอยศรีบำเพ็ญ ถนนพระราม 4 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พื้นที่โครงการ : 0-2-64 ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 8 ชั้น จำนวนยูนิต : 78 ยูนิต ขนาดห้อง : - 1 Bedroom ขนาด 25.1-35.5 ตร.ม. - 1 Bedroom Plus ขนาด 44.3 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - กล้อง CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,300,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 136,000 บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง : 55 บาท/ตร.ม./เดือน ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ธ.ค. 2562 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมบนทำเลที่ดีที่สุดของถนนสาธร - ลุมพินี ก้าวเข้าสู่นิยามใหม่ของการใช้ชีวิตใจกลางเมือง ที่ทุกอย่างจะอยู่ตัวคุณมากกว่าที่เคย ทั้งความสะดวกสบายของชีวิตใจกลางเมืองหลวง ความรวดเร็วในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงคุณกับทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ทางด่วนเฉลิมมหานคร , MRT คลองเตย , MRT ลุมพินี , MRT สีลม , BTS ศาลาแดง , BTS ช่องนนทรี , BRT ถนนจันทน์ สถานที่ใกล้เคียง : ร.ร.นานาชาติเครซเซนต์ , ร.ร.นานาชาติการ์เด้น , ม.เทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ , Q House ลุมพินี
XT Ekkamai – XT เอกมัย : รีวิวคอนโด

XT Ekkamai – XT เอกมัย : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : XT Ekkamai (XT เอกมัย ) เจ้าของโครงการ : บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนนเอกมัย แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. พื้นที่โครงการ : 2-3-34 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 38 ชั้น จำนวนยูนิต : 537 ยูนิต ที่จอดรถ : 49.50% 1 อาคาร 9 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3ชั้น   ขนาดห้อง : - 1 Bedroom ขนาด 29.75 – 31.50 ตร.ม. - 1 Bedroom ขนาด 38.00 ตร.ม. - 2 Bedroom ขนาด 45.25- 57.00 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - กล้อง CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น : 4,590,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 185,000 บาท/ ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ไตรมาสที่ 4 ปี 2563 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมแชร์พื้นที่ส่วนกลาง  Co – Work / Play Space สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อการเล่นและการทำงานได้ ด้วยดีไซน์พื้นที่ที่ออกแบบให้ห้องทุกห้องเป็นสัดส่วนรองรับการใช้งานได้หลากหลาย สร้างแรงบันดาลใจด้วยสีสันและดีไซน์ที่แตกต่างกัน ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BTS สถานีเอกมัย , ถนนสุขุมวิท ,ถนนเพชรบุรี , ทางพิเศษเฉลิมมหานคร , ทางพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : Bangkok Prep International School , The American School Of Bangkok , Ekkamai International School , Camilian Hospital , Sukhumvit Hospital , J Avenue , Gateway Ekkamai Major Cineplex , Ekkamai Shopping Mall , Health Land , Arena 10
EYSE Sukhumvit 43-อีส สุขุมวิท 43 : รีวิวคอนโด

EYSE Sukhumvit 43-อีส สุขุมวิท 43 : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : EYSE Sukhumvit 43 (อีส สุขุมวิท 43) เจ้าของโครงการ : บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขุมวิท 43 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พื้นที่โครงการ : 1.4 ไร่ ลักษณะโครงการ : Low Rise จำนวนอาคาร : 2 อาคาร จำนวนชั้น : 7 ชั้น จำนวนยูนิต : 107 ยูนิต ขนาดห้อง : - 1 Bedroom ขนาด 52.25-54.5 ตร.ม. - 2 Bedrooms ขนาด 62.5-94.75 ตร.ม. - 2 Bedrooms ขนาด 99.5-99.75 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - กล้อง CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 13,990,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 267,000 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ไตรมาสที่ 4/ 2563 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมลักชัวรี Low Rise ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ที่มองหาโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็น “Absolute Urban Retreat” หรือพื้นที่ผ่อนคลายใจกลางเมือง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BTS สถานีพร้อมพงษ์ , ถนนสุขุมวิท , ถนนเพชรบุรี สถานที่ใกล้เคียง : อุทยานเบญจสิริ , รพ.สมิติเวช สุขุมวิท , Bangkok International Preparatory & Secondary School , Emquartier , Emporium , Rain Hill
MARU Ekkamai 2-มารุ เอกมัย 2 : รีวิวคอนโด

MARU Ekkamai 2-มารุ เอกมัย 2 : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : MARU Ekkamai 2 (มารุ เอกมัย 2) เจ้าของโครงการ : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ซอยเอกมัย 2 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. พื้นที่โครงการ : 1-2-77 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 32 ชั้น จำนวนยูนิต : 333 ยูนิต ที่จอดรถ : 48% หรือ 165 คัน ขนาดห้อง : -  1 Bedroom (S) ขนาด 29.00 ตร.ม. -  1 Bedroom Simplex ขนาด  32.50 – 35.50 ตร.ม. -  2 Bedrooms Simplex ขนาด 54.00 – 60.50 ตร.ม. -  1 Bedroom Duplex ขนาด  41.00 – 42.00 ตร.ม. -  2 Bedroom Duplex ขนาด  45.00 – 76.00 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนลอยฟ้า - ล๊อบบี้ - ที่จอดรถ - ห้องเมล์บ๊อกซ์ - กล้อง CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 5,400,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 196,000บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง : 75 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน : 750 บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : ก.ย. 2563 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม HIGH RISE  ยกระดับความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนห้องสูงสุด เพียง 16 ห้อง/ชั้น เพียง 450 เมตร จาก BTS เอกมัย ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง :  BTS เอกมัย สถานที่ใกล้เคียง : Big C เอกมัย, Park Lane, Gateway เอกมัย, Major เอกมัย, รพ.สุขุมวิท, วัดธาตุทอง
LIFE Ladprao Valley-ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเล่ย์ : รีวิวคอนโด

LIFE Ladprao Valley-ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเล่ย์ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : LIFE Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเล่ย์) เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ : 5-2-45.5 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 44 ชั้น จำนวนยูนิต : 1,140 ยูนิต จำนวนที่จอดรถ : 484 คัน (คิดเป็น 42%) ไม่รวมซ้อนคัน ขนาดห้อง : - สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 28.8 ตร.ม. -  1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำขนาดพื้นที่ใช้สอย 35-37 ตร.ม. -  2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.6ตร.ม. -  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำขนาดพื้นที่ใช้สอย 57.8-66.5ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ 3 สระ - ห้องซาวน่าและห้องสตรีม - ห้องออกกำลังกาย - ห้องโยคะ - ห้องอเนกประสงค์ - จุดจอดและทางปั่นจักรยาน - สวนพักผ่อน - หน้าผาจำลอง - พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับเล่นกีฬา - Multi Living Space - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 3,490,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 145,000บาท/ตร.ม. ปีที่สร้างเสร็จ : กันยายน 2564 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมที่ได้แรงบันดาลใจการดีไซน์จาก Hi-End Boutique Hotel& Resort ท่ามกลางแนวเทือกเขาสไตล์ Valley สู่การออกแบบที่โดดเด่น ตั้งแต่ทางเข้าหน้าโครงการจนถึงยอดอาคารผสมผสานเส้นสายของแนวลายเส้นโค้งและลูกเล่นมิติของ Façade ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คไอคอนแห่งใหม่บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : MRT พหลโยธิน, รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีห้าแยกล้าดพร้าว สถานที่ใกล้เคียง : เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว, โรงเรียนหอวัง, เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์,ตลาดนัดสวนจตุจักร, เมเจอร์ รัชโยธิน, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น  
THE MONUMENT THONG LO – เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ : รีวิวคอนโด

THE MONUMENT THONG LO – เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : THE MONUMENT THONG LO (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ) เจ้าของโครงการ : บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ทองหล่อ (ถนนสุขุมวิท ซอย 55) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. พื้นที่โครงการ : 2 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 45 ชั้น จำนวนยูนิต : 127 ยูนิต ขนาดห้อง : - 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 124.25 ตรม. - 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ขนาด 252.25 ตรม. - เพนต์เฮาส์ ขนาด 508.75 – 662 ตรม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : -สระว่ายน้ำดีไซน์ระดับไอคอนิก - พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ - Dog Park ที่สวนด้านหน้า - Educational Playground ราคา : เริ่มต้น 30,000,000 บาท ปีที่สร้างเสร็จ : ต้นปี 2562 จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียมผ่านแนวคิด “LUXURY IS SPACE เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ (Complete your living experience) ในทุกมิติผ่านส่งต่อทำเลที่มีคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอาคารสูงรูปทรง “Monolith” (โมโนลิธ) ซึ่งมีอัตลักษณ์โดดเด่นอยู่ที่รูปทรงแท่งสูงตรง ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BTS ทองหล่อ , ถนนสุขุมวิท , ถนนเพชรบุรี , ทางพิเศษศรีรัช สถานที่ใกล้เคียง : Big C เอกมัย , Park Lane, Foodland, Tops , Fifty Fifth Avenue , Nihonmura Mall , Gateway เอกมัย , Major เอกมัย , J Avenue , รร.นานาชาติเอกมัย , รพ.คามิลเลียน , รพ.สมิติเวช , รพ.สุขุมวิท , EmQuatier , Emporium  
THE TREE CHARAN 30 – เดอะทรี จรัญ 30 : รีวิวคอนโด

THE TREE CHARAN 30 – เดอะทรี จรัญ 30 : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : THE TREE CHARAN 30 (เดอะทรี จรัญ 30) เจ้าของโครงการ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ซ.จรัญสนิทวงศ์ 30 ถ.จรัญสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ : 1-3-79 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 2 อาคาร จำนวนชั้น : 8-22 ชั้น จำนวนยูนิต : 305 ยูนิต   ขนาดห้อง : -TYPE A ขนาด 23.6 - 25.5 ตร.ม. -TYPE B ขนาด 25.9 - 28.9 ตร.ม. -TYPE C ขนาด 31.00 - 32.65 ตร.ม. -TYPE D ขนาด 43.95 - 45.85 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สวนสาธารณะ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 2,390,000 บาท จุดเด่นโครงการ :  คอนโดหรูบนย่านวัฒนธรรมเก่า ดีไซน์โดดเด่น ทั้งภายในและภายนอก หรูหราและเป็นส่วนตัวด้วยการตกแต่งที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เปรียบเสมือนอัญมณีล้ำค่าที่คู่คุณเสมอ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : MRT สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) สถานีแยกไฟฉาย สถานที่ใกล้เคียง : ฟู้ดแลนด์ จรัญสนิทวงศ์, แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า , รพ.ศรีวิชัย 1 , รพ.ธนบุรี 1, ม.ธรรมศาสตร์-ม.ศิลปากร ท่าพระจันทร์
MAESTRO 14 SIAM-RATCHATHEWI นิยามใหม่ของการใช้ชีวิต..ใจกลางเมือง : รีวิวคอนโด

MAESTRO 14 SIAM-RATCHATHEWI นิยามใหม่ของการใช้ชีวิต..ใจกลางเมือง : รีวิวคอนโด

ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะว่าการเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญข้อหนึ่งสำหรับการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัย ซึ่งย่านฮอตฮิตใจกลางเมืองอย่าง “สยาม-ราชเทวี” ก็เป็นอีกพิกัดหนึ่งที่หลายคนมาดหมายอยากอยู่อาศัย เพราะแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ส่งผลให้ดีเวลลอปเปอร์เลือกปักหมุดสร้างคอนโดมีเนียมขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่คอนโดฯ เป็นตึกสูงหน้าตาซ้ำกันไปหมด แถมรูปแบบห้องก็เป็นพิมพ์เดียวกันดูอึดอัดไม่น่าอยู่เอาซะเลย     ถ้าใครกำลังตามหาคอนโดดีไซน์สวยงามไม่เหมือนใครอยู่ล่ะก็ โครงการ "MAESTRO 14 SIAM-RATCHATHEWI (มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี)" ในตระกูล มาเอสโตร เรสซิเด้นซ์  (Maestro Residences) จาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ถือว่าเป็นคำตอบที่ดีของชีวิตคุณเลยค่ะ เพราะที่นี่ไม่เหมือนคอนโดอื่นๆ ตั้งแต่คอนเซ็ปต์ออกแบบที่ผสมผสานความลงตัวของสถาปัตยกรรมแบบคอนเทมโพรารีเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยที่ตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี เพียง 300 เมตร และใช้เวลาเพียง 5 นาทีถึงสยาม แหล่งช็อปปิ้งใจกลางเมืองของวัยรุ่น นอกจากนี้พื้นที่โครงการยังมีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากตั้งอยู่ในซอย ทำให้ภายในมีพื้นที่โล่งกว้างท่ามกลางความเป็นธรรมชาติแม้อยู่ใจกลางเมือง จนทำให้รู้สึกว่านี่แหละมันคือคอนโดที่เป็นเหมือน “บ้าน” จริงๆ   สำหรับโครงการ มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี ตั้งอยู่บนทำเลที่น่าสนใจจริงๆ ค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ใจกลางเมือง เงียบสงบเนื่องจากอยู่ในซอยเพชรบุรี 12 ตัดกับซอยพญานาค โดยเป็นซอยที่อยู่ติดกับ BTS สถานีราชเทวี จุดเด่นของโครงการคือตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ CBD, แหล่งงาน, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย สามารถเชื่อมต่อออกไปยังที่ต่างๆ ได้สะดวก ตอบโจทย์ลูกบ้านทั้งคนมีรถและไม่มี โดยมีให้เลือกหลากหลายเส้นทางไม่ว่าจะเข้าหรือออกเมือง พร้อมทั้งอยู่ใกล้ทางด่วนยมราช และมีซอยย่อยที่ลัดเลาะไปได้โดยไม่ต้องใช้เส้นหลัก ที่สำคัญตัวโครงการสามารถเข้าออกได้ถึง 3 ทาง ทั้งจากถนนเพชรบุรี เข้าตรงซอยเพชรบุรี 12, ถนนพญาไท เข้าตรงซอยพญานาค และสามารถทะลุออกถนนบรรทัดทองได้ ซึ่งก็ช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรในชั่วโมงคับคั่งได้เป็นอย่างดี     ใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ ต้องบอกว่าสะดวกสุดๆ ไปเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยเพชรบุรี 12 ตัดกับซอยพญานาคที่อยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี บริเวณหน้าซอยพญานาคก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้ใช้บริการ และมีรถเมล์, รถแท็กซี่ผ่านไปมาตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีเรือโดยสารคลองแสนแสบที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ท่าเรือที่ใกล้ที่สุดคือท่าเรือสะพานหัวช้าง ที่สำคัญตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS ราชเทวีเพียง 300 เมตร ก็ถึงบันไดเลื่อนขึ้นตัวสถานีแล้วค่ะ โดยเป็นระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ แถมข้างทางก็เป็นแหล่งชุมชนทำให้ไม่รู้สึกเปล่าเปลี่ยว ในเรื่องของอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้าการเดินทางเลย ด้วยความที่เป็นย่านที่พักอาศัยจึงค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เพราะในซอยจะมีร้านอาหาร Street food รวมไปจนถึงร้านค้าต่างๆ ให้เลือกจับจ่ายใช้สอยตลอดเช้ายันค่ำ หรือขยับข้ามฝั่งตรงข้ามไปก็มี Coco Walk แหล่งไลฟ์สไตล์ ที่มีร้านแฮงก์เอ้าท์ และคาเฟ่ต่างๆ ใครอยากไปช็อปปิ้งก็สามารถใช้ BTS จากสถานีราชเทวีนั่งรถไปสถานีเดียวก็จะถึงสถานีสยาม จุดเปลี่ยนเส้นทางระหว่างสายสุขุมวิทและสายสีลมที่มีห้างสรรพสินค้าชื่อดังมากมาย อาทิ สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามแสควร์วัน, สยามดิสคัฟเวอรี่, มาบุญครอง และจามจุรีสแควร์ หรือถัดไปอีกหน่อยถนนราชประสงค์ก็จะเป็นเซ็นทรัลเวิลด์แล้วค่ะ แถมยังรายล้อมไปด้วยสถานที่ศึกษาชั้นนำ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เรียกได้ว่าโครงการ มาเอสโตร 14 สยาม - ราชเทวี เหมาะสำหรับชีวิตคนเมืองที่แท้จริง   1. วันนี้เราเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS นะคะ โดยนั่งมาลงที่สถานีราชเทวี 2. สำหรับทางออกรถไฟฟ้าไปโครงการ มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี จะอยู่ที่ทางออก 1 ค่ะ 3. เดินลงบันได BTS มาให้สังเกตที่ซอยพญานาคก็เดินเข้าไปเลยค่ะ 4. ปากซอยพญานาคจะเป็นที่ตั้งของโรงแรมเอเชียนะคะ ทำให้มีรถและผู้คนผ่านไปมาตลอด ไม่เปลี่ยวแน่นอน 5. เดินตรงเข้ามาในซอยจะพบกับร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมถึงร้านชื่อดังอย่าง Sushi Masa ด้วย 6. นอกจากร้านอาหารก็มีร้านคาเฟ่น่ารักๆ อย่าง Lazy Mary ด้วยนะ 7. เดินตรงเข้าไปอีกหน่อยจะพบกับเซเว่นค่ะ จากจุดนี้ก็สังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีป้ายสีส้มด้านขวาชี้พิกัดโครงการ มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี อยู่ด้วย 8. เดินเลี้ยวเข้ามาในซอยข้างเซเว่นไม่ทันเหนื่อยก็ถึงโครงการแล้วค่ะ   เจาะลึกโครงการ   โครงการ มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี เป็นคอนโด Low Rise 1 อาคาร สูง 8 ชั้น พร้อมที่จอดรถชั้นใต้ดิน จำนวน 179 ยูนิต บนที่ดิน 1-1-59 ไร่ ด้วยขนาดห้องชุดตั้งแต่ 26.72 – 64.81 ตารางเมตร โดยทางโครงการเน้นการออกแบบที่ผสานกับธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่บริเวณคอนโดจะมีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบช่วยเพิ่มบรรยากาศของธรรมชาติ ถึงแม้จะอยู่กลางเมืองก็ตาม ด้านการออกแบบของสถาปัตยกรรมก็ออกแบบให้ตัวอาคารมีเอกลักษณ์เฉพาะโดดเด่นที่สุดในย่านนี้ จากการผสมผสานรูปแบบคอนเทมโพรารี เข้ากับความมินิมอล ออกมาเป็นรูปแบบศิลปะแนวคอนเทม – มินิมอลลิซึม (Contem – Minimalism) ที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ด้วยความพิถีพิถันและใส่ใจทุกรายละเอียด ความอบอุ่น สุขุม ทันสมัยได้ถูกนำมารวมกันและนำมาตกแต่งภายในคอนโดมิเนียมและห้องพักด้วยความมีชีวิตชีวาและความงามสไตล์สแกดิเนเวียน เรโทร ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรเป็นอย่างดี โทนสีพาสเทล และวัสดุโลหะที่เข้ากันอย่างลงตัว ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อความหรูหราสไตล์ยุโรปได้มาผสมผสานกับความทันสมัยอย่างลงตัว มาเอสโตร 14 จึงถือเป็นคอนโดฯ ที่น่าสนใจในย่านสยาม – ราชเทวี อีกโครงการหนึ่ง   ในส่วนของ Facilities เรียกว่าครบครันทีเดียว เพราะถึงแม้ตัวโครงการจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ยังใส่ใจในเรื่องการใช้ชีวิตของลูกบ้านที่ต้อง Balance ระหว่างการทำงานและการพักผ่อน รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติและสัตว์เลี้ยง ซึ่งเอกลักษณ์สำคัญของคอนโดจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) คือนโยบาย Pet-friendly ที่อนุญาตให้ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยจัดสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดให้ลูกบ้านทุกยูนิต และมีกฎระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข อาทิ  - การนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาเลี้ยง จะต้องขออนุญาตฝ่ายบริหารอาคารฯ และลงทะเบียนประวัติสัตว์เลี้ยงไว้เป็นข้อมูล โดยชำระค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียน จำนวน 3,600 บาท/ต่อตัว/ต่อปี (ค่าใช้จ่ายนี้จะนำมาเป็นกองทุนในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและลงน้ำยาฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์) - ชำระเงินประกันความเสียหายจำนวน 5,000 บาท/ต่อตัว (เรียกเก็บครั้งแรกครั้งเดียว) และจะคืนให้เมื่อเจ้าของห้องชุดเลิกเลี้ยงสัตว์/สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต และไม่พบการกระทำผิดระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดและ/หรือพบความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับเจ้าของห้องชุด/เจ้าของร่วม/อาคารชุดรวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง) - สัตว์เลี้ยงที่เจ้าของห้องชุดจะเลี้ยง จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม เมื่อโตเต็มที่ เจ้าของห้องชุดสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เกินจำนวนดังต่อไปนี้ 1 ตัว / พื้นที่น้อยกว่า 50 ตร.ม. และไม่เกิน 50 ตร.ม. 2 ตัว / พื้นที่ 100 ตารางเมตร 3 ตัว / พื้นที่ 150 ตารางเมตร เป็นต้นไป (จำนวนสูงสุดของสัตว์เลี้ยงจะมีได้ไม่เกิน 3 ตัวต่อ 1 ห้องชุดเท่านั้น) - สัตว์เลี้ยงจะต้องมีสายผูก/จูงและมีผู้ดูแลตลอดเวลาที่อยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง กฎระเบียบ ข้อห้าม ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ รวมถึงบทลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามกฎ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำโครงการ   ไม่เพียงเท่านี้ทางโครงการยังออกแบบให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับความสุขของลูกบ้านอย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่พื้นที่ชั้น 1 ที่มีจุดจอดรับส่ง และแร็คจอดจักรยาน เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับล็อบบี้, ห้องจดหมาย, ห้องซักรีด รวมถึงสระว่ายน้ำใจกลางโครงการที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ นอกจากนี้ยังมีห้องสตีมและซาวน่า มีโซนอ่านหนังสือ และสวนเพื่อให้มาอ่านหนังสือเล่มโปรด ขยับมาที่ชั้น 2 ก็มีสวนเพื่อการเรียนรู้ หากใครอยากออกกำลังกายในร่มก็เพียงแค่กดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 9 ก็จะพบกับห้องฟิตเนสที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์มากมาย หรือถ้ารักการสังสรรค์ทางโครงการก็มี Party Patio, ห้องคาราโอเกะ, ลานบาร์บีคิวที่ชั้นดาดฟ้าพร้อม Sky Lounge, Sky Cabana เพื่อให้เป็นสถานที่แห่งความสุขของลูกบ้านทุกช่วงเวลา แถมยังมีความปลอดภัยสูงเพราะทางโครงการออกแบบให้ลูกบ้านทุกยูนิตใช้คีย์การ์ดแบบล็อคชั้นซึ่งขึ้นไปได้เฉพาะชั้นตัวเองและส่วนกลางเท่านั้น อีกทั้งยังให้ความรู้สึกอุ่นใจไปกับกล้องวงจรปิด และรปภ. ที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จาก Master Plan จะมีทางเข้าโครงการจุดเดียวนะคะ และมีจุด Drop-off ก่อนจะเข้าสู่ Lobby ซึ่งแบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และห้องพักอาศัยประมาณ 5 ห้อง สำหรับที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้นใต้ดินค่ะ สระว่ายน้ำถูกออกแบบไว้ตรงกลางโครงการเลยนะคะ จากภาพจะเห็นว่ามีบันไดเชื่อมต่อไปยังสวนเพื่อการเรียนรู้บริเวณชั้น 2 ด้วย บริเวณริมสระจัดวางเตียงนอนอาบแดดสีขาวสบายตาไว้รองรับความสุขของลูกบ้าน จากภาพจะเห็นว่าบริเวณรอบๆ สระว่ายน้ำจะถูกโอบล้อมไปด้วยความเขียวขจีไม้ประดับนานาพรรณ ขยับเข้ามาที่พื้นที่ส่วนกลางด้านใน บริเวณชั้น 1 นอกจากมีสระว่ายแล้วยังมีห้อง Library อีกด้วย ภายในห้องดูกว้างขวางและเงียบสงบ โดยทางโครงการจัดวางชุดโต๊ะ เก้าอี้ โซฟาแบบเข้าชุดไว้หลากหลายมุม หากลูกบ้านคนไหนต้องการทำงานหรือทำการบ้านเงียบๆ ก็สามารถเลือกใช้มุมเคาน์เตอร์ ที่ออกแบบมาพร้อมรองรับอุปกรณ์สายชาร์ตต่างๆ หรือใครอยากติวการบ้านกับเพื่อน, มีครูมาสอนพิเศษจะเลือกนั่งเป็นมุมนี้ก็ดูลงตัว ก่อนจะพาไปดูส่วนกลางชั้นอื่นๆ เมื่อเดินไปยังโถงลิฟท์จะพบกับส่วนของห้องจดหมายก่อนนะคะ สำหรับแปลนชั้น 2-8 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมดค่ะ โดยความพิเศษของชั้น 2 ทางโครงการได้ออกแบบสวนเพื่อการเรียนรู้มาไว้รองรับลูกบ้านด้วย สำหรับสวนเพื่อการเรียนรู้จะมีบันไดเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำบริเวณชั้น 1 ด้วยนะคะ บรรยากาศบริเวณสวนเพื่อการเรียนรู้ชั้น 2 ค่อนข้างร่มรื่นและผ่อนคลายทีเดียว เหมาะแก่การมานั่งอ่านหนังสือสบายๆ ทางโครงการจัดวางที่นั่งไว้ให้เลือกสรรหลากหลายมุมทีเดียวค่ะ แปลนของพื้นที่ชั้น 9 นะคะ ซึ่งจะรวม Facilities ส่วนกลางหลักๆ โดยจัดไว้ชั้นบนของอาคาร ต่อจากพื้นที่ส่วนกลางที่กระจายอยู่ในพื้นที่ชั้น 1 และชั้น 2 บริเวณชั้นดาดฟ้าถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่รองรับความสุขลูกบ้านหลากหลายมุมทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ลานโยคะ, สนามเด็กเล่น, ลานบาร์บีคิว, สกายเลาจน์, ห้องคาราโอเกะ และ pet zone จากภาพจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าแม้ทางโครงการจะออกแบบให้มีพื้นที่นั่งเล่นหลากหลายมุมแค่ไหน แต่ก็ยังมีรั้วระแนงเล็กๆ สีดำกั้นแยกระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงไม่ให้รบกวนกัน และอยู่ร่วมกันอย่างสุขใจ ลานบาร์บีคิวที่ออกแบบมาพร้อมรองรับปาร์ตี้เล็กๆ ของลูกบ้าน นอกจากมีที่นั่งรองรับลูกบ้านมากมายแล้ว ในส่วนของลานบาร์บีคิว ยังมาพร้อมเตาและอ่างล่างมือด้วย บรรยากาศบริเวณดาดฟ้าชั้น 9 ในมุมกว้าง จะเห็นได้ว่าทางโครงการใส่ใจตั้งแต่พื้นที่พักผ่อนและมุมส่วนตัวมากมาย รวมถึงนำความเขียวขจีของต้นไม้มาประดับประดาให้ลูกบ้านรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอยู่เสมอ แม้ว่าจะอยู่ใจกลางเมืองก็ตาม นอกจากมีมุมพักผ่อนให้เลือกสรรมากมายแล้ว ยังมีฟิตเนสอยู่ที่บริเวณชั้น 9 อีกด้วย ภายในห้องฟิตเนสโอบล้อมไปด้วยหน้าต่างกระจกใสให้ลูกบ้านสามารถออกกำลังกายพร้อมกับชมวิวเมืองอย่างเพลิดเพลิน พื้นที่ติดกับห้องฟิตเนสนั้นจะเป็นส่วนของห้อง Karaoke ค่ะ ภายในห้องคาราโอเกะมาพร้อมกับโซฟาตัวยาว และชุดโฮมเธียร์เตอร์เพื่อรองรับกิจกรรมสังสรรค์ของลูกบ้านอย่างเต็มเปี่ยม   เปิดประตูห้องตัวอย่างที่พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้   สำหรับโครงการ มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี มีแบบห้องหลักๆ อยู่ 3 แบบ คือ 1 Bedroom Suite ขนาด 26.72 - 30.91 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 32-35.66 ตร.ม., 2 Bedroom ขนาด 60.55 - 64.81 ตร.ม. ที่มาในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมชุดครัวแบรนด์ Electrolux สุขภัณฑ์ต่างๆ เครื่องปรับอากาศ และเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน ซึ่งถ้าลูกบ้านตัดสินใจซื้อจะขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าและพร็อพตกแต่งเท่านั้น แถมทุกยูนิตยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วยนะคะ เรียกว่าถ้าถูกใจก็พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยทีเดียว   ในครั้งนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างถึง 3 ห้องด้วยกัน เริ่มกันด้วยห้อง 1 Bedroom Suite AA1-1 ขนาด 29.65  ตร.ม. ลักษณะห้องเป็นแบบหน้าแคบลึก พื้นที่ใช้สอยจัดมาได้ลงตัวทีเดียวค่ะ โดยเปิดเข้ามาจะเจอส่วนครัวและห้องน้ำก่อน เพื่อให้พื้นที่ด้านในเป็นส่วนพักผ่อนอย่างเตียงนอนและโซฟานั่งเล่น ภายในห้องดูโปร่งโล่งสบาย ซึ่งในห้องตัวอย่างทางโครงการตกแต่งแบบจัดเต็มเพื่อให้เราได้เห็นฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องได้อย่างชัดเจนมากขึ้น แต่ห้องที่ขายจริงจะเป็นห้องโล่งๆ ที่ได้เพียงผนังฉาบเรียบสีขาว กับ Fully Furnished ตามมาตรฐานที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้นค่ะ แปลนห้อง 1 Bedroom Suite AA1-1 ขนาด 29.65  ตร.ม. เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับส่วนของ Pantry ครัวก่อนเลยค่ะ ถัดไปจะเป็นส่วนของ Living Area ที่ตอบโจทย์ต่อการพักผ่อนได้ดี ครัวจะเป็นแบบ One Wall-Kitchen นะคะ โดยโครงการจะเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นมาให้แล้วด้วย ชุดเคาน์เตอร์ครัว ลูกบ้านจะได้ทุกอย่างตามนี้เลยนะคะ ซึ่งมาพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน จะเว้นก็เพียงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็น, ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าเท่านั้น นอกจากเว้นช่องไว้ให้ใส่ไมโครเวฟอย่างพอดิบพอดีแล้ว บริเวณลิ้นชักยังมีช่องสำหรับใส่อุปกรณ์ช้อนส้อม และมีดให้ด้วย พื้นที่ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว ติดกับประตูทางเข้าจะเป็นตู้เก็บของและตู้รองเท้าแบบบิลต์อินนะคะ ติดกับตู้เก็บของจะเป็นห้องน้ำค่ะ ซึ่งมีพื้นที่เล็กๆ หน้าห้องเหลือพอสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ ได้ด้วย เรามาดูที่ห้องน้ำกันบ้าง เดินเข้ามาจะพบกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง ขวามือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ของแบรนด์ Kohler พื้นที่ในสุดจะเป็นโซนเปียกที่ทางโครงการกั้นประตูกระจกอาบน้ำไว้ให้แล้ว แถมยังยกธรณีสูงหนึ่งเสต็ป เพื่อกันไม่ให้น้ำจาก Shower Area ไหลออกไปสู่พื้นที่อื่นๆ ภายในห้องน้ำ ภายใน Shower Area ผนังข้างฝักบัวถูกเจาะช่องให้สามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำได้ กลับออกมาด้านนอก ก่อนจะเข้าไปส่วนพักผ่อนจะเห็นว่าทางโครงการได้เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนมาให้ค่ะ เมื่อเปิดประตูด้านในส่วนพักผ่อนเข้ามาจะเจอส่วนนั่งเล่นก่อนเลยนะคะ พื้นที่ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นมุมทำงานและระเบียงค่ะ ระยะห่างระหว่างโซฟากับคอนโซลทีวีมีระยะกำลังดีเลยนะคะ ไม่แคบและไม่กว้างจนเกินไป พื้นที่ลึกเข้ามาด้านใน ทางโครงจัดวางโต๊ะทำงานเล็กๆ ไว้ให้ดูเป็นไอเดียนะคะ ลูกบ้านสามารถใช้เป็นมุมนี้เป็นมุมทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งมุมนี้จะอยู่ติดกับระเบียงนะคะ โดยทางโครงการกรุผนังกระจกใสไว้เพื่อความโปร่งโล่ง ระเบียงมีขนาดกำลังดี สามารถวางราวตากผ้าได้ โดยคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านบนนะคะ โดยทางโครงการได้ทำระแนงเหล็กกั้นเพื่อความเรียบร้อยไว้ให้แล้ว กลับเข้ามาด้านในส่วนของห้องนอนกันบ้างดีกว่าค่ะ ภายในห้องดูโปร่งโล่ง สบาย ชวนพักผ่อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถวางที่นอน 5 ฟุต ได้สบายๆ พื้นที่ข้างเตียงติดกับประตูจะเป็นตู้เสื้อผ้าบิลต์อินสูงจรดเพดานเลยนะคะ ภายในมีที่ให้เก็บของได้เยอะทีเดียว ตัวบานพับจะใช้แบบ Soft closed ค่ะ   ห้องตัวอย่างอีกห้องที่เราได้ชมกันคือ 1 Bedroom A4-3 ขนาด 35.10 ตร.ม. ลักษณะห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส จัดวาง Layout ไว้ค่อนข้างเป็นสัดส่วนชัดเจน เชื่อมต่อพื้นที่การใช้งานอย่าง Pantry มุมรับประทานอาหาร และมุมนั่งเล่นไว้ด้วยกัน ทางโครงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บิลต์อินเพื่อทำให้ผู้อาศัยสามารถจัดวางข้าวของเครื่องใช้ได้อย่างเป็นระเบียบและใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ภายในห้องชุดยังมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน ชุดครัว Pantry Set เครื่องปรับอากาศ ตามมาตรฐานเหมือนกับห้องแรกค่ะ   แปลนห้อง 1 Bedroom A4-3 ขนาด 35.10 ตร.ม. นะคะ สำหรับไทป์นี้เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนครัวเหมือนกับห้องตัวอย่างแรกเลยค่ะ เพียงแต่มีขนาดที่กว้างและใหญ่กว่า เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปแบบตัวไอ (i) จะได้วัสดุเหมือนอย่างในห้องตัวอย่างก่อนหน้าเช่นกัน พื้นที่ตรงข้ามครัวทางโครงการบิลต์อินตู้รองเท้าและตู้เก็บของ พร้อมเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้แล้วค่ะ เดินต่อเนื่องเข้ามาที่โถงกลาง Living Area ที่เชื่อมมุมรับประทานอาหารและมุมนั่งเล่นเข้าไว้ด้วยกัน จากภาพจะเห็นว่าแม้จะจัดวางโซฟาตัวยาวแล้ว แต่ยังเหลือพื้นที่กว้างพอสำหรับวางโต๊ะและเก้าอี้รับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง ได้สบายๆ ทางโครงการได้จัดวางโซฟาตัวยาวขนาด 2-3 ที่นั่งไว้เป็นตัวอย่างในส่วน Living Area นะคะ จะเห็นได้ว่าบริเวณตรงกลางมีพื้นที่เหลือมากพอสำหรับวางโต๊ะกลางด้วย ติดกับมุมนั่งเล่นจะเป็นระเบียงนะคะ ซึ่งมีประตูบานเลื่อนกั้นให้ออกมารับลมได้ โดยระเบียงมีขนาดกว้างสามารถวางราวตากผ้าได้สบายๆ เลยค่ะ คอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ด้านบนนะคะ โดยทางโครงการได้ทำระแนงเหล็กกั้นไว้ให้แล้วเพื่อความเรียบร้อย กลับมาที่ภายในห้อง บริเวณคอนโซลทีวีมีขนาดกว้างพอรองรับจอขนาดใหญ่ได้เลยนะคะ พื้นที่ติดกันนั้นจะเป็นส่วนของห้องนอนที่เป็นประตูแบบทึบค่ะ เข้ามาในส่วนของห้องนอนกันก่อนดีกว่าค่ะ ภายในห้องนอนดูโปร่งโล่งสบาย โอบล้อมด้วยกระจกใส เอื้อต่อการพักผ่อน พื้นที่ติดกับหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ ทางโครงการจัดวาง Daybed ไว้เป็นตัวอย่าง ซึ่งลูกบ้านสามารถจัดสรรส่วนนี้ให้เป็นมุมพักผ่อนของสัตว์เลี้ยงก็ยังได้ เมื่อวาง Daybed แล้วจะเห็นว่าบริเวณรอบๆ มีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงด้วย มุมมองกลับมาที่ภายในห้องนะคะ พื้นที่ติดกับเตียงนั้นจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ลึกเข้าไปนั้นจะเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำค่ะ ตู้เสื้อผ้าจะบิลต์อินสูงจรดเพดานเลยคะซึ่งลูกบ้านจะได้มาพร้อมกับห้องเลยค่ะ มาในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง ตรงกลางจะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือที่อยู่ติดกับชุดสุขภัณฑ์ มีกระจกเงาบานใหญ่มาให้ พื้นที่ในสุดจะเป็นส่วนเปียก ส่วนเปียกจะเป็นกระจกกั้นนะคะ ซึ่งทางโครงการได้ยกธรณีสูงขึ้นประมาณนึงเพื่อกันน้ำเปียกมายังโซนแห้ง ทางโครงการเจาะช่องให้สำหรับวางของใช้ส่วนตัวให้เหมือนดั่งห้องตัวอย่างแรกเลยค่ะ   และห้องตัวอย่างสุดท้ายที่เราจะพาไปดู เป็นห้อง 2 Bedroom B1-1 ขนาด 64.81 ตร.ม. ที่นับว่าเป็นขนาดใหญ่สุดของโครงการ ลักษณะเป็นห้องหน้าแคบลึก แต่พอเดินเข้ามาจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส บรรยากาศโดยรวมในห้องนี้จึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายตา การจัดแบ่งพื้นที่ไว้ก็เป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดห้องเข้ามาเจอส่วนครัวที่มาพร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ต่อเนื่องมายังมุมรับประทานอาหาร และมุมนั่งเล่นที่กว้างพอให้วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้สบายๆ แถมยังแอบเหลือพื้นที่สำหรับโต๊ะกลางได้ด้วย ติดกันนั้นมีประตูบานเลื่อนอีกชั้นให้ออกไปสัมผัสอากาศด้านนอกที่ระเบียงได้ ส่วนพื้นที่ลึกเข้ามาด้านในตรงกลางจะเป็นห้องน้ำ ก่อนต่อเนื่องไปยังห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็ก ภายในห้องบิลต์อิน ตู้ เตียงไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ แปลนห้อง 2 Bedroom B1-1 ขนาด 64.81 ตร.ม. เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องจะเจอครัวที่ลึกยาวเข้าไปก่อนเลยนะคะ โดยครัวถูกจัดให้อยู่ชิดริมผนังฝั่งทางเดิน เป็นแบบ One Wall-Kitchen เหมือนดั่งห้องตัวอย่างสองห้องก่อนหน้าเลยนะคะ ขนาดของเคาน์เตอร์และชั้นเก็บของด้านบนจะมีขนาดยาวขึ้นเล็กน้อยตามขนาดของห้อง แต่ตัววัสดุที่ใช้รวมถึงเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นยังคงเหมือนกับห้องตัวอย่างก่อนหน้าทั้งสองห้องเลยค่ะ พื้นที่ตรงข้ามครัวทางโครงการบิลต์อินตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของขนาดใหญ่มาให้แล้ว ซึ่งสามารถเก็บของได้เยอะมาก แถมยังไม่รบกวนสายตาเนื่องจากมีหน้าบานเปิดปิดด้วยค่ะ เดินเข้ามาที่โถงกลาง มุมรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับมุมนั่งเล่นเลยนะคะ ซึ่งมีขนาดกว้างขวางมากเพราะสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้สบายๆ พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดกว้างขวางกำลังดี ระยะห่างของโซฟากับทีวีของห้องนี้จะห่างเกือบ 2 เมตรนะคะ ซึ่งก็เหมาะสำหรับวางทีวีขนาด 42 นิ้วขึ้นไป แถมลูกบ้านยังสามารถจัดวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้สบาย พร้อมเหลือพื้นที่ตรงกลางไว้สำหรับวางโต๊ะได้ด้วย ซึ่งมุมนั่งเล่นจะอยู่ชิดติดระเบียงนะคะเลยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นค่ะ ระเบียงมีขนาดกว้างสามารถวางราวตากผ้าได้สบายๆ เลยค่ะ อีกทั้งยังกั้นระแนงเพื่อบังคอมเพรสเซอร์แอร์ให้เรียบร้อยแล้ว มุมมองกลับมาที่ภายในห้องนะคะ จะเห็นว่าการจัดวาง Layout จะคล้ายๆ กับห้องตัวอย่างที่สอง เพียงแต่ห้องนี้มีขนาดใหญ่กว่า พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในตรงกลางจะเป็นห้องน้ำนะคะ ก่อนต่อเนื่องไปยังห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่ สำหรับห้องน้ำด้านนอก ตรงกลางจะเป็นชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ มีกระจกเงาบานใหญ่มาให้ ด้านขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ ฝั่งด้านซ้ายมือเป็นพื้นที่อาบน้ำ กั้นกลางด้วยกระจกใส พื้นภายในห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนนะคะ   และก็เหมือนกับห้องน้ำในห้องตัวอย่างก่อนหน้า ผนังฝั่งเปียกจะเจาะช่องไว้ให้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ ซึ่งก็เพิ่มความสะดวกสบายได้ดีทีเดียว ออกจากห้องน้ำมาต่อกันที่ห้องนอนเล็กนะคะ ภายในห้องมีขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับวางเตียงนอนขนาด 3.5 ไปจนถึง 5 ฟุตได้ แถมผนังปลายเตียงยังสามารถติดทีวีเพิ่มโดยไม่รู้สึกคับแคบด้วยค่ะ นอกจากโอบล้อมด้วยหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ บริเวณรอบๆ เตียงยังมีพื้นที่เหลือให้เดินได้ ผนังฝั่งที่ติดกับประตู จะเป็นตู้เสื้อผ้าบิลต์อินสูงจรดเพดานที่ได้มาพร้อมกับห้องเลยนะคะ เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่กันบ้าง ภายในห้องนอนขนาดกว้างพอจัดให้เป็นโซนพักผ่อน และโซน Walk-in Closet ที่อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ ภายในห้องน้ำแบ่งแยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจนเหมือนดั่งห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้ สำหรับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะจัดวางสุขภัณฑ์ไว้ตรงกลาง จัดชุดเคาน์เตอร์ล้างหน้าไว้ชิดริมประตู โดยมีกระจกเงาบานใหญ่มาให้ ส่วนเปียกจะเป็นกระจกกั้นนะคะ ซึ่งทางโครงการได้ยกธรณีสูงขึ้นประมาณนึงเพื่อกันน้ำเปียกมายังโซนแห้ง ภายในพื้นที่ส่วนเปียกนอกจากจะเจาะช่องที่ผนังฝั่งฝักบัวไว้ให้สามารถวางของได้แล้ว ยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้อีกด้วย ออกมาจากห้องน้ำ พื้นที่ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตู้เสื้อผ้าบิวต์อินขนาดใหญ่ยาวขนานไปกับผนัง ก่อนจะต่อเนื่องมายังโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานที่ทางโครงการจัดวางไว้ให้เป็นไอเดียแก่ลูกบ้าน ในส่วนของพื้นที่พักผ่อนจะโอบล้อมด้วยหน้าต่างกระจกใสผสมกับหนังทึบเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ ซึ่งทางโครงการจัดวางที่นอนขนาด 5 ฟุตไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยเหลือพื้นที่ให้เดินรอบๆ และวางโต๊ะข้างเตียงได้ด้วยค่ะ ทางโครงการจัดวางเก้าอี้นวมไว้เป็นตัวอย่าง ซึ่งลูกบ้านสามารถจัดสรรพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นมุมของเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดก็ยังได้ค่ะ   นับว่าโครงการ มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เหมาะสำหรับคนเมืองอย่างแท้จริงเลยนะคะ ใครที่อยากมีคอนโดดีๆ เลี้ยงสัตว์ได้ พร้อมยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ความรู้สึกของความเป็นที่สุดอย่างเต็มอิ่ม แถมยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวีเพียงแค่ 300 เมตร สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะมีรถส่วนตัวหรือไม่มี ที่สำคัญคือสามารถเข้า-ออกได้ถึง 3 เส้นทาง ถนนพญาไท, ถนนบรรทัดทอง และถนนเพชรบุรี นอกจากนี้ยังแวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคครบครัน ในราคาเอื้อมถึงได้ เริ่มต้น 4.5 ล้านบาท* เมื่อพิจารณาจากทำเล ห้องที่แต่งครบ มีเฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่แบบนี้ ถือว่าคุ้มค่าและหาได้ไม่ง่ายเลยนะคะ ไม่ว่าจะจับจองไว้อยู่อาศัยเองหรือเก็บไว้เป็นทางเลือกในการลงทุนปล่อยเช่า อาทิ นักเรียน, นักศึกษา, คนทำงาน และชาวต่างชาติ ก็น่าจะได้ผลตอบแทน Capital gain ที่ดีไม่ใช่น้อย
The Room Phayathai – เดอะ รูม พญาไท : รีวิวคอนโด

The Room Phayathai – เดอะ รูม พญาไท : รีวิวคอนโด

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ :  The Room Phayathai (เดอะ รูม พญาไท ) เจ้าของโครงการ : บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร พื้นที่โครงการ : 2-2-22.9 ไร่ ลักษณะโครงการ : High Rise จำนวนอาคาร : 1 อาคาร จำนวนชั้น : 38 ชั้น จำนวนยูนิต : 437 ยูนิต ที่จอดรถ : ประมาณ 64% (รวมจอดซ้อนคัน)   ขนาดห้อง : - Studio : 27.8 ตร.ม. - 1 Bedroom : 37.8 ตร.ม. - 2 Bedrooms : 64.7-73.4 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 5,300,000 บาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร : 190,000 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ : คอนโดมิเนียม รูปแบบห้องดีไซส์ใหม่ โปร่งกว่า.. กว้างกว่า.. หนีความวุ่นวาย มาสัมผัส Skyline ของกรุงเทพ บนชั้น Rooftop Facilities เชื่อมต่อทุกการเดินทาง ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย, 2 ทางด่วนและสะพานจตุรทิศ ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : BTS สถานีพญาไท, ARL ราชปรารภ สถานที่ใกล้เคียง : อาคารวรรณสรณ์, คิง เพาเวอร์ รางน้ำ, ไบหยก ทาวเวอร์, เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน, รพ.ราชวิถี, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
SHAA ASOKE คอนโดลักซ์ชัวรี่ที่..เหนือกว่าใครในทุกด้าน : รีวิวคอนโด

SHAA ASOKE คอนโดลักซ์ชัวรี่ที่..เหนือกว่าใครในทุกด้าน : รีวิวคอนโด

รีวิวฉบับนี้เราจะพาทุกคนนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปชมห้องตัวอย่างโครงการลักชัวรี่คอนโดมิเนียมที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อไม่นานมานี้ SHAA ASOKE (ฌาา อโศก) ของ KPN LAND หนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ที่ให้ความสำคัญเรื่องการเลือก Location ที่จะต้องเป็น Prime of Prime เน้นให้ลูกบ้านเดินทางง่ายอยู่ใกล้ห้าง, โรงเรียน, โรงพยาบาล, สวนสาธารณะ ที่สำคัญคือความคุ้มค่าของที่ดินแปลงนั้นต้องสามารถมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นได้ในอนาคต โดยครั้งนี้ทางโครงการเลือกปักหมุดในย่าน "อโศก" สุดยอดโลเคชั่นในความเป็นศูนย์รวมหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น Interchange ของการเดินทางรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญที่สุดของกรุงเทพคือสายสีเขียว BTS สถานีอโศก และสีน้ำเงิน MRT สถานีสุขุมวิท เต็มไปด้วยสำนักงาน โรงแรม และแหล่งบันเทิงไลฟ์สไตล์ที่ใครๆ ต่างหมายปองอยากอาศัยอยู่ในย่านนี้   ทำเลศักยภาพ ใจกลางเมืองอโศก   เราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าที่ดินใน "ย่านอโศก" ที่สามารถพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมได้นั้นเหลือน้อยเต็มที และมีราคาสูง แต่ทาง KPN LAND ก็สามารถคว้ามาครอบครองไว้ได้ โดยตัวโครงการ ฌาา อโศก ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ในซอยสุขุมวิท 19 ใกล้ BTS อโศก, MRT สุขุมวิท, โรบินสัน และ Terminal 21 จุดเด่นอยู่ที่การเลือกโลเคชั่นที่ไม่พลุกพล่านมาก เพราะอยู่ในซอยย่อย ไม่วุ่นวายเหมือนทำเลติดถนนอโศก เหมาะเป็นย่านที่อยู่อาศัยเพราะในซอยแวดล้อมไปด้วยร้านอาหารบรรยากาศดี, เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์, โรงแรมต่างๆ, สปา, ร้านทำผม, เซเว่น-อีเลเว่น และปิดท้ายซอยด้วยโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ใครที่ใช้รถส่วนตัวก็นับว่าสะดวกสบาย เนื่องจากซอยสุขุมวิท 19 เชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 15 ถนนสุขุมวิท และถนนอโศกมนตรี ทำให้ช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนที่ถนนเส้นหลักได้ดี นอกจากนี้ยังมีเส้นทางลัดเลาะไปยังย่านอื่นๆ ได้ทั้ง นานา, พร้อมพงษ์ และทองหล่อ โดยสามารถเชื่อมต่อทั้งซอยสุขุมวิท 19, ซอยสุขุมวิท 15 และซอยสุขุมวิท 23 หรือถ้าใครอยากใช้ทางด่วน ตัวโครงการก็อยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานครในรัศมีไม่ถึง 3 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางโดยรถยนต์เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากทีเดียว     ในส่วนของการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ต้องบอกว่าสะดวกมากที่สุดแล้วค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่ศูนย์กลางธุรกิจและการค้าในย่านอโศก ใกล้ทั้งแหล่งงาน, โรงแรม, สถานศึกษา, สถานพยาบาล, สวนสาธารณะ รวมทั้งแหล่งช็อปปิ้งสำคัญของกรุงเทพฯ อย่าง Terminal 21 ห้างสรรพสินค้าระดับโลกที่เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้แวะเวียนหลั่งไหลไม่ขาดสาย ที่สำคัญคืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญที่สุดของกรุงเทพที่ Interchange กันระหว่าง BTS สายสีเขียว (สถานีอโศก) และ MRT สายสีน้ำเงิน (สถานีสุขุมวิท) ในระยะที่เดินเท้าได้สบายๆ ไม่เกิน 5 นาที ซึ่งถ้าใครเป็นสายช็อปปิ้งก็คงถูกใจเพราะพิกัดจากโครงการสามารถเดินไปขึ้น Sky Walk เพื่อไป Terminal 21, Robinson หรือ Korean  Town ที่ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 10 และ 12 หรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS ถัดไปอีก 1 ป้ายก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ สวรรค์ของนักช้อปเพราะมีศูนย์การค้าระดับโลก The EM District ใจกลางสุขุมวิทอย่าง Emporium, Emquartier รวมทั้งห้าง Emsphere ที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างอีกไม่นานต่อจากนี้ ใครที่รักการสังสรรค์ก็คงจะแฮปปี้เพราะนั่งรถไฟฟ้า BTS จากสถานีอโศกไปทองหล่อแค่เพียง 2 สถานี ก็จะถึงแหล่งแฮงก์เอ้าท์ยอดนิยมของคนรุ่นใหม่แล้วค่ะ แถมถ้าใครที่เป็นสายเดินทางก็ยิ่งถูกใจเพราะสามารถเชื่อมต่อไป Airport Link ได้จากรถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิทไปสถานีเพชรบุรีแค่เพียงสถานีเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ไม่ไกลจากโครงการมีบริการเรือด่วนคลองแสนแสบวิ่งระหว่างสะพานผ่านฟ้าถึงวัดศรีบุญเรือง โดยท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรืออโศก ใครที่เบื่อการจราจรบนถนน จะไปใช้บริการทางเรือก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย   แต่ก่อนจะไปชมห้องตัวอย่างแบบเต็มๆ เราขอชวนไปชมสำนักงานขายดีไซน์โดดเด่นของโครงการ ฌาา อโศก กันก่อน โดยสำนักงานขายจะตั้งอยู่คนละที่กับตัวโครงการนะคะ ซึ่งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 (BTS สถานีพร้อมพงษ์) ตรงข้ามร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดัง Philippe Restaurant เลยค่ะ โดยจากถนนใหญ่สุขุมวิท เราตรงเข้ามาในซอยสุขุมวิท 39 ประมาณ 300 เมตรก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปเยี่ยมชมสำนักงานขายโครงการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น.   การเดินทางไปสำนักงานงานขาย SHAA   1. เริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ค่ะ ซึ่งทางไปสำนักงานขาย จะอยู่ที่ทางออก 3 นะคะ 2. เมื่อเดินบันไดลงมาก็หมุนตัวกลับเพื่อเดินย้อนไปปากซอยสุขุมวิท 39 ค่ะ 3. เดินตรงเข้าซอยสุขุมวิท 39 มาเรื่อยๆ จะผ่านโครงการ The Diplomat 39 ของ KPN LAND ด้วยค่ะ 4. จากถนนใหญ่สุขุมวิทตรงเข้ามาในซอยสุขุมวิท 39 ประมาณ 300 เมตรก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ โดยสำนักงานขายดีไซน์หรูหราแต่ยังมีความทันสมัยในสไตล์โมเดิร์นตามคอนเซ็ปต์ของโครงการคือ Modern Craftsmanship ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย พร้อมที่นั่งรับรองลูกค้าหลากหลายมุม นอกจากนี้ยังมีส่วน Presentation โครงการ และห้องตัวอย่างให้เข้าชม 1 ห้องค่ะ   ยกระดับการอยู่อาศัยของคนเมือง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เพียบพร้อม   โครงการ ฌาา อโศก เป็นโครงการลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ตัวอาคารสูง 24 ชั้น บนพื้นที่ 1-0-8 ไร่ ทั้งหมด 143 ยูนิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ในสไตล์ Modern Craftsmanship โดยออกแบบให้ตัวอาคารมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยดีไซน์ Facade เป็นปริซึมกระจกที่เวลาแสงตกกระทบจะเกิดแสงสะท้อนวิบวับ ดูน่าค้นหา โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังคัดสรรแต่วัสดุคุณภาพระดับพรีเมี่ยมมาใช้ในโครงการ โดยเลือกใช้อุปกรณ์ห้องน้ำ AXOR แบรนด์ดังจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผลงานการแบบของ Antonio Citterio ดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “Gentlemen Of Design” ด้วยการนำทองเหลืองมาใช้เป็นวัสดุหลักให้มีความคงทนสามารถใช้งานได้นาน ออกแบบเป็นเอกลักษณ์เน้นเรื่องรูปทรง มุมขอบ ความโค้งมน หลอมรวมเข้าด้วยกัน เพื่อให้ชิ้นงานมีความสวยงามโดดเด่น และยังคงความสวยงาม เหนือกาลเวลา โดยความพิเศษคือ สเป็คของ AXOR ที่ใช้ในห้องน้ำทุกยูนิตนั้นจะเป็นสีพิเศษ Red Gold ซึ่งเป็นสีที่คุณสมบัติทำให้กลมกลืนกับแสง สี ของสภาพแวดล้อม โดยยังคงความเป็นจุดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์เอง ทำให้ได้บรรยากาศในห้องน้ำที่หรูหราไม่เหมือนใครไม่ว่าจะเป็นก๊อกน้ำ, ราวแขวนผ้าเช็ดตัว, ชุดฝักบัว และที่แขวนทิชชู่ ผ่านงานฝีมือแบบชิ้นต่อชิ้น  ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็จัดเต็มแบบสุดๆ เรียกว่าครบครันมากทีเดียวค่ะ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของพื้นที่ส่วนกลางถูกออกแบบโดยหลอมรวมความต้องการของการใช้ชีวิตในเมืองเข้ากับความเป็นส่วนตัว สู่รูปแบบของ Facility ที่มีให้เลือกสรรมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำแบบในร่ม ในขณะที่ห้องฟิตเนสก็มาพร้อมเครื่องออกกำลังกายแบบจัดเต็ม อีกทั้งยังมีล็อบบี้ดีไซน์หรูหรา สไตล์ Modern Craftsmanship, Mailbox, ห้องอเนกประสงค์ต่างๆ รวมไปจนถึงสวนพักผ่อนที่ทุกส่วนสามารถใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังมาพร้อม Bicycle Garage และที่จอดรถถึง 100 คัน, EV Charger กล้องวงจรปิดแบบ CCTV, ระบบเข้าออกอัตโนมัติแบบ Access Control และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ภาพบรรยากาศจำลองด้านหน้าโครงการ SHAA ASOKE (ฌาา อโศก) ที่ถูกออกแบบโดยใช้กระจกเป็นวัสดุหลัก เวลาแสงตกกระทบจะเกิดแสงสะท้อนวิบวับ ดูน่าค้นหา โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครในย่านนี้ ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำในร่มบนชั้น 2 ของอาคาร ผนังวิวรอบด้านเป็นกระจกปริซึม มองออกไปด้านนอกชมวิวเมืองด้วยทัศนียภาพที่ต่างออกไป ภาพบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนสที่เต็มไปด้วยเครื่องออกกำลังกายแบบครบครัน ภาพบรรยากาศจำลองอาคารด้านนอกของโครงการ SHAA ASOKE (ฌาา อโศก) จากภาพจะเห็นว่าแต่ละยูนิตที่พักอาศัยของโครงการจะมีระเบียงพร้อมราวกันตก ซึ่งใช้วัสดุเป็นกระจกเทมเปอร์ทำให้กลมกลืนกับดีไซน์ของอาคารและสามารถมองวิวได้อย่างกว้างไกล   พื้นที่ใช้ชีวิต..คุ้มค่าทุกตารางเมตร   นอกจากภายนอกอาคารที่โดดเด่นและแฝงงานดีไซน์เอาไว้ในทุกส่วนแล้ว ภายในห้องชุดประเภทต่างๆ ของโครงการ ฌาา อโศก มีห้องพักอาศัยให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom, 2 Bedrooms และแบบ Duplex ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 34.25 ไปจนถึง 113.25 ตารางเมตร โดยทางโครงการคัดเลือกแต่วัสดุคุณภาพมาใช้ในทุกๆ ยูนิต รวมไปถึงการคำนึงถึงรูปแบบ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ตัวโครงการยังเปิดขายแบบ Fully Fitted ประกอบด้วยชุดสุขภัณฑ์ไฮเอนด์จากประเทศเยอรมนี AXOR ภายใต้แบรนด์ HANSGROHE ที่ผ่านความใส่ใจในรายละเอียดสุดปราณีตเป็นงานฝีมือแบบชิ้นต่อชิ้น โดยแบบ 1 ห้องนอนจะมีมูลค่ากว่า 4 แสนบาท และ 2 ห้องนอนมูลค่ากว่า 7 แสนบาท เนื่องจาก AXOR เลือกนำทองเหลืองมาใช้เป็นวัสดุหลักมีความคงทนสามารถใช้งานได้นาน ไม่เพียงเท่านี้ยังติดตั้ง Digital Door lock มาให้เรียบร้อยแล้ว โดยใช้แบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Baldwin ที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกุญแจทั่วไป แต่มีความพิเศษกว่าใครคือผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้สามารถเปิดประตูบ้านได้ด้วยมือสัมผัสผ่านการเปิดบลูทูธบนมือถือ และยังสามารถส่งเป็น e-key ไปยังญาติหรือเพื่อนอีกได้ด้วยโดยที่เจ้าของบ้านอยู่ที่ไหนผู้มาเยือนก็สามารถเข้าห้องได้ แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินโทรศัพท์หายหรือแบตหมดก็ยังสามารถใช้กุญแจปกติแบบทั่วไปไขได้   ไม่รอช้า..เรามาเปิดประตูห้องตัวอย่างกันดีกว่า สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมคือแบบ 2 Bedroom ขนาด 69.50 ตารางเมตร ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าห้องมา ต้องบอกว่าภายในห้องจัดวาง Layout ให้ทุกพื้นที่สามารถใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ครบทุกฟังก์ชั่นจริงๆ ค่ะ พื้นจะเป็น Wood Polymer Composite ที่ทนทานต่อความชื้นและไม่บวมน้ำ ส่วนห้องครัวก็มาในลุคดูหรูหรา โดยทางโครงการทำ Built in ชุดครัวมาให้สูงจรดเพดาน ชุดครัวจะเป็นแบรนด์นำเข้าแบรนด์ Kuppersbusch มาพร้อมเตาไฟฟ้า 4 หัว (ถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอนจะได้ 2 หัวค่ะ), เครื่องดูดควัน, เตาอบ และตู้เย็น แถมยังออกแบบช่องเก็บของมาให้แบบจุใจพร้อมหน้าบานทุกตัวติด Soft closed มาให้เรียบร้อยแล้ว ทำให้แขกไปใครมาก็เห็นว่าครัวเป็นนระเบียบอยู่นั่นเองค่ะ ในส่วนของห้องน้ำ, ห้อง Master Bedroom และห้องนอนที่ 2 ห้องนั่งเล่นก็ยังจัดแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน พร้อมแบ่งมุมรับประทานอาหารไว้อีกด้วย และด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ต้องการให้ลูกบ้านทุกยูนิตได้รับความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ ทางโครงการจึงเพิ่ม Home Application ให้ลูกบ้านทุกยูนิตสามารถควบคุมไฟ เครื่องปรับอากาศ ในอนาคตสามารถเพิ่มฟั่งชั่นอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็น CCTV การควบคุมผ่าน Smart Phone ได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่คุณเลือกและควบคุมได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ   หน้าประตูติดตั้ง Digital Door Lock มาให้แล้วนะคะ โดยใช้แบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Baldwin ที่ผสานกับเทคโนโลยีมือถือ ใช้เปิดเข้าห้องแทนคีย์การ์ดหรือส่งคำอนุญาตให้เพื่อนเข้าห้องได้ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายที่สุด เรามาเริ่มจากห้องนอน Master Bedroom กันก่อนนะคะ ภายในห้องโอบล้อมด้วยหน้าต่างกระจกใส ทำให้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามามากพอ ไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวัน และเมื่อเปิดประตูบานเลื่อนไปยังระเบียงทางโครงการก็ติดไฟเพดานพร้อมทำท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย ขนาดระเบียงกว้างกำลังดีเลยค่ะ จากภาพจะเห็นว่าเมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียง ซึ่งสามารถเดินผ่านได้สบายๆ เลยค่ะ หากใครชอบดูทีวีก็สามารถติดตั้งที่ผนังปลายเตียงเพิ่มได้ด้วย พื้นที่ข้างเตียงติดกับห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้าบิลต์อินสูงจรดเพดานเลยนะคะ ภายในมีที่ให้เก็บของได้เยอะทีเดียว ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ใช้วัสดุและอุปกรณ์ห้องน้ำจาก AXOR ภายใต้แบรนด์ HANSGROHE แบรนด์สุขภัณฑ์ไฮเอนด์จากประเทศเยอรมนี จุดเด่นคือสีของอุปกรณ์ AXOR จะเป็นสี Red Gold ที่มีคุณสมบัติพิเศษทำให้กลมกลืนกับแสง สี ของสภาพแวดล้อม โดยยังคงความเป็นจุดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์เองทำให้ได้บรรยากาศในห้องน้ำจะต่างออกไป ไม่ว่าจะก๊อกน้ำ, ฝักบัว หรือที่แขวนทิชชู่ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ลูกบ้าน ต้องใช้งานทุกวัน ทางโครงการเลยให้ความสำคัญและตั้งใจออกแบบอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษมีอ่างอาบน้ำ และห้องอาบน้ำในตัว ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องเข้ามุมมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์แบบบานเปิด ยกธรณีสูงขึ้นมาหนึ่งสเต็ปเพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับประตูเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ จากภาพจะเห็นว่าบานพับและมือจับประตูใช้สี Red Gold เข้าชุดกับสุขภัณฑ์เลยนะคะ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาดกำลังดี ผนังเหนือเคาน์เตอร์ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้สำหรับเสียบไดร์เป่าผมเรียบร้อยแล้ว ท็อปเคาน์เตอร์ปูหินอ่อนสีดำขีดขาวให้ความรู้สึกหรูหรา มาพร้อมก็อกน้ำจาก AXOR สีพิเศษคือสี Red Gold ที่เพิ่มความพรีเมี่ยมและชวนสัมผัสได้เป็นอย่างดี ภายในพื้นที่ส่วนเปียก ทางโครงการสั่งหล่ออ่างอาบน้ำรูปทรงโค้งมนสีขาวสบายตาขึ้นมาใหม่ จากภาพจะเห็นได้ชัดเลยว่าอ่างอาบน้ำมีขนาดบางกว่าอ่างปกติทั่วไป นอกจากนี้ส่วนผนังเหนืออ่างจะแต่งด้วยหินอ่อนสีดำขีดขาวเพื่อเสริมความหรูหรา อีกทั้งยังมีฝักบัวแบรนด์ AXOR สี Red Gold พร้อมก๊อกน้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อย สำหรับโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบ Wall Hung ที่วางระบบฝังผนังดูสวยงามและเรียบร้อย แถมยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย  ซึ่งทางโครงการก็ให้ที่แขวนทิชชู่ของ AXOR สี Red Gold เพื่อให้เข้าชุดกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นภายในห้อง ซึ่งบอกได้เลยค่ะว่านอกจากจะดูแพง หรูหราสมราคาแล้ว ยังดูลงตัวในทุกๆ ส่วนเป็นอย่างดี เรามาดูต่อกันที่ห้องนอนที่ 2 กันก่อนเลย ภายในห้องนอนมีระเบียงในตัวแถมยังเชื่อมต่อกับระเบียงมุมนั่งเล่น พื้นที่มีขนาดกว้างพอจัดวางเตียงเดี่ยวขนาด 4 ฟุตพร้อมโต๊ะและตู้เสื้อผ้าได้แบบพอดี แต่ทางโครงการตกแต่งห้องตัวอย่างออกมาให้เป็นห้องพักผ่อนพร้อมโซฟาแบบ Daybed มาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งก็ดูเหมือนห้องอเนกประสงค์ค่ะ บางคนอาจใช้เป็นห้องเก็บเสื้อผ้าแบบ Walk in closet หรือจะทำเป็นห้องทำงานก็ยังได้ จากห้องนอนที่ 2 ไปดูในส่วนของ Living Room กันค่ะ พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของ Living area นะคะ พื้นที่ส่วนนั่งเล่นมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ด้วยนะคะ โดยสามารถวางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้อย่างพอดิบพอดี มุมมองจากโต๊ะรับประทานอาหารไปยังส่วนนั่งเล่น ทางโครงการจัดวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งเอาไว้เป็นตัวอย่าง ระยะห่างระหว่างโซฟากับคอนโซลทีวีมีระยะกำลังดีเลยนะคะ ไม่แคบและไม่กว้างจนเกินไป สำหรับมุมนี้จะถูกโอบล้อมด้วยประตูกระจกใสนะคะ ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนทั้ง 2 ข้าง สามารถเปิดไปรับลมที่ระเบียงได้ นอกจากสามารถวางโซฟาตัวยาวได้แล้ว ยังมีพื้นที่เหลือสำหรับโต๊ะข้างได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด Home Application ที่ทางโครงการติดตั้งให้ลูกบ้านทุกยูนิตสามารถควบคุมไฟ เครื่องปรับอากาศ รวมถึงผ้าม่านในอนาคต ผ่าน Smart Phone ได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่คุณเลือกและควบคุมได้ มาถึงส่วนครัว ครัวจัดฟังก์ชั่นเป็นตัวไอ (I) มาพร้อมเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, เตาอบ, อ่างล้างจาน 1 หลุม และตู้เย็นแบบบิลต์อิน นอกจากนี้ยังออกแบบหน้าบานเปิดปิดมาให้เรียบร้อย อีกทั้งยังเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าด้วยค่ะ ชุดครัวจะเป็นแบรนด์ Kuppersbusch นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดเลยนะคะ สำหรับก็อกน้ำของอ่างล้างมือจะเป็นแบบ Shower คือเป็นสายฉีดที่สามารถยกออกมาได้ แถมยังเพิ่มความพรีเมียมโดยการพิมพ์ชื่อโครงการ SHAA ไว้ด้วย สำหรับตู้เย็นจะเป็นแบรนด์ของ Teka นะคะ ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นห้องน้ำนะคะ ภายในห้องแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆ สำหรับส่วนอาบน้ำจะมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์แบบบานเปิด วางบนธรณีที่ยกสูงหนึ่งสเต็ปเพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง อุปกรณ์ภายในห้องน้ำจะเป็นของ AXOR  เหมือนในห้องน้ำห้อง Master Bedroom ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ   ด้วยทำเล Prime Location ของกรุงเทพฯ ใกล้จุด Interchange ของการเดินทางรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญที่สุดของกรุงเทพคือสายสีเขียว BTS สถานีอโศก และสีน้ำเงิน MRT สถานีสุขุมวิท แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแบบนี้ ฌาา อโศก จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ถูกจับตามองมากที่สุดโครงการหนึ่ง อย่างที่แจ้งไปแล้วว่าทางโครงการจะขายห้องมาให้แบบ Fully Fitted ดังนั้นในห้องมาตรฐานจะเป็นผนังฉาบเรียบสีขาว และมีเคาน์เตอร์ครัวบิลต์อินพร้อมชุดครัวแบรนด์ Kuppersbusch มาพร้อมเตาไฟฟ้า,เครื่องดูดควัน, เตาอบ, ตู้เย็น, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ AXOR แบรนด์ไฮเอนด์จากประเทศเยอรมนี ที่มาในโทนสี Red Gold ดูหรูหรา สง่างาม และพรีเมี่ยมมากจริงๆ ค่ะ   นอกจากนี้ทางโครงการ ฌาา อโศก ยังมอบ Digital Door Lock แบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Baldwin ที่ผสานกับเทคโนโลยีมือถือ ใช้เปิดเข้าห้องแทนคีย์การ์ดหรือส่ง E-Key ให้เพื่อนเข้าห้องได้ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายที่สุดมาให้กับลูกบ้านทุกยูนิตด้วย ซึ่งทาง KPN LAND ประกาศราคาเริ่มต้นมาที่ 10 ล้านบาท* ถ้าเทียบกับคอนโดมิเนียม Luxury ในระดับเดียวกันแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าแก่การลงทุนมากเลยนะคะ เพราะ Installment Term เริ่มต้นเพียง 30,000 บาท/เดือน นอกจากนี้แนวโน้มในการเติบโตของทำเลค่อนข้างดีมากในอนาคต ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือเก็งกำไรยังไงก็คุ้มค่า