Tag : รื่นฤดี ดีเวลล็อปเมนท์

2 ผลลัพธ์
Vio ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

Vio ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

มีคอนโดใหม่แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงในชื่อ Vio  ของบริษัท รื่นฤดี ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมกันทีเดียว 2 โครงการไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง ซึ่ง “Vio ติวานนท์” เรียกได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียม High Rise โครงการแรกของบริษัทเลยก็ไม่ผิดนัก ด้วยความที่ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลหัวมุมแยกติวานนท์ตัดกับถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แถมยังอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สถานีในระยะเดินถึงได้ไม่ยาก เราเลยรีบไปเยี่ยมชมโครงการนี้และเก็บข้อมูลมาฝากกันครับ   การเดินทาง   การเดินทางไปที่โครงการ Vio ติวานนท์ เราใช้เส้นทางถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าไปทางสะพานพระนั่งเกล้า พอมาถึงแยกแครายแล้วเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์ ผ่านหน้ากระทรวงสาธาณะสุขมาถึงห้าแยกติวานนท์ตัดกับถนนประชาราษฏร์ (ไปท่าน้ำนนท์) ถนนนครอินทร์ และถนนกรุงเทพ-นนทบุรี พอขับรถมาถึงตรงนี้จะสังเกตุเห็นโครงการ Vio ติวานนท์ ทางด้านซ้ายมือพอดี หรือถ้าเดินทางมาตามถนนกรุงเทพ-นนทบุรี พอมาถึงแยกนี้แล้วก็ต้องเลี้ยวขวาไปกลับรถที่ถนนติวานนท์นะครับ ทางเข้าออกโครงการปัจจุบันมีอยู่เส้นทางเดียวคือฝั่ง ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แต่ในอนาคตทางโครงการจะเปิดทางเข้าออกฝั่งถนนติวานนท์เพิ่มอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกดีเหมือนกัน เพราะมีเส้นทางเลี่ยงได้หลายเส้นทาง ถ้าไม่ติดปัญหารถติดหนักในช่วงเวลาเร่งด่วนนะครับ   แผนที่โครงการ เส้นทางการเดินทาง โดยเริ่มจาก The Mall งามวงศ์วาน จาก The Mall งามวงศ์วาน พอขับมาถึงทางแยกแครายให้เลี้ยวซ้ายเลยครับ จะเห็น Showroom Hyundai อยู่ทางขวา วิ่งมาเรื่อยๆจะเห็นเนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงครับ วิ่งเลยมาเรื่อยๆ จะเห็นสถานีรถไฟฟ้า กระทรวงสาธารณสุข วิ่งไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางแยก ทางซ้ายเป็นทางเข้า กระทรวงสาธารณสุข ส่วนด้านบนก็เป็นสถานีกระทรวงสาธารณสุข วิ่งไปตามแนวรถไฟฟ้าเลยครับ จะเจอสะพาน เราไม่ต้องขึ้นสะพาน ให้วิ่งด้านล่าง พอวิ่งไปเรื่อยๆ จะเห็น Big C อยู่ทางขวา วิ่งมาเรื่อยๆ จะเห็นตัวโครงการ Vio ติวานนท์ อยู่ข้างหน้า ถึงแล้ว ทางโครงการจะล้อมรั้ว เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการเลยครับ สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ก็สามารถทำได้เลือกได้ทั้งสถานีกระทรวงสาธารณสุข ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 400 เมตร และสถานีแยกติวานนท์ ซึ่งห่างออกไปประมาณ 350 เมตร ระทางของทั้ง 2 สถานีนี้แทบไม่ต่างกันเลย เพราะตัวโครงการแทบจะตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างสถานีพอดี อันนี้ใครสะดวกสถานีไหนก็เลือกได้ตามสบายเลยครับ นอกจากนี้การเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะบริเวณใกล้ๆ เป็นแหล่งชุมชน รวมถึงเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางราชการอย่างกระทรวงสาธารณะสุขด้วย ดังนั้นจึงมีรถเมล์ รถแท็กซี่ และพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่เป็นจำนวนมาก ที่ต้องทำก็แค่เดินออกทางโครงการมาทางกระทรวงฯ ให้พ้นจากบริเวณแยกติวานนท์ซักหน่อย ก็จะช่วยให้เรียกรถได้ง่ายขึ้น เส้นทางการเดินจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีกระทรวงสาธารณสุข มาโครงการ ระยะทางประมาณ 400 เมตร เส้นทางการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีแยกติวานนท์ ระยะทางประมาณ 350 เมตร   วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ   ทำเลที่ตั้งของโครงการ Vio ติวานนท์จัดว่าเป็นทำเลที่น่าสนเหมือนกัน เพราะอยู่บริเวณหัวมุมแยกติวานนท์พอดี มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน แถมบริเวณรอบๆ ก็มีทั้งกระทรวงสาธารณะสุข โรงพยาบาล มีห้าง Big C อยู่ฝั่งตรงข้ามด้านถนนติวานนท์ รวมทั้งเป็นแหล่งชุมชนที่ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากในเรื่องอาหารการกิน ร้านอาหาร ร้านค้า แผงลอยมีให้เลือกจนละลานตาเลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นแหล่งชุมชน และมีกระทรวงใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ การจราจรโดยรอบจึงติดขัดเอาเรื่องเหมือนกัน ในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการแล้ว รถอาจจะติดน้อยลงกว่านี้ก็ได้ครับ รอบๆ โครงการไม่มีตึกสูงขึ้นในระยะประชิดนะครับ ตึกสูงที่เห็นก็จะมีแค่คอนโดศุภาลัย พาร์ค ที่อยู่อีกมุมของแยกเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีปัญหาเรื่องการบังวิวซักเท่าไหร่ จะมีแค่ห้องบางตำแหน่งทางด้านหน้าโครงการเท่านั้นที่จะถูกบังวิวไปบ้าง ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบจึงไม่น่ากังวลเช่นกัน แต่ที่เห็นจะเป็นปัญหาหนักๆ เลยก็คือ รางรถไฟฟ้าที่พาดผ่านมาทางด้านหลังโครงการในระยะประชิดนี่แหละครับ ที่จะก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงที่ไม่น่าพิศมัยเอาซะเลย แถมยังหลีกเลี่ยงได้ยากอีก โอกาสที่จะเอาตัวรอดได้บ้างก็ต้องหันไปเลือกห้องที่อยู่สูงขึ้นไปบนๆ เลย ซึ่งอาจจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ต้องแลกกับราคาห้องที่สูงขึ้นเป็นเงา ส่วนห้องในชั้นล่างๆ หน่อยก็รับกันไปเต็มๆ ทั้งเสียงดัง ทั้งฝุ่นควันจากถนนด้วย Vio ติวานนท์เป็นคอนโค High Rise อาคารเดี่ยวโดดๆ สูง 36 ชั้น การออกแบบเพิ่มลูกเล่นด้วยการเล่นระดับให้ดูลดหลั่นกันลงมาในบางช่วงของตึก นับรวมทั้งหมดแล้วก็จะมีห้องพักอาศัยจำนวน 623 ยูนิต โดยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 เป็นต้นไป บริเวณชั้น 2-6 จะเป็นพื้นที่จอดรถในสัดส่วน 40% ของจำนวนห้องทั้งหมด ถือว่าไม่เยอะเลยสำหรับโครงการขนาดนี้ที่ลูกบ้านน่าจะมีรถยนต์กันอยู่แล้ว ในส่วนของ Facility ถูกรวบรวมไว้ที่ชั้น 7 เป็นหลัก ซึ่งทางโครงการจัดให้มีทั้ง สระว่ายน้ำขนาด 5x26 เมตร จากุชซี่ Fitness พร้อมห้องซาวน่าแยกชาย-หญิง และห้องเอนกประสงค์ รวมถึงบริการสัญญาณ internet wi-fi ในพื้นที่ส่วนกลางด้วย นอกจากที่ Facility ที่บริเวณชั้น 7 แล้ว บนดาดฟ้ายังมีสวน Roof Top และห้อง Sky Lounge ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน เดินเล่น ชมวิวได้เหมือนกัน ดูจากพื้นที่ Facility ส่วนกลางคร่าวๆ แล้ว ถือว่าทางโครงการจัดมาให้เยอะพอสมควรเลย ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในสัดส่วนที่ไม่หนาแน่นจนเกินไปนัก และที่ลืมไม่ได้ก็คือสัดส่วนของลิฟท์โดยสารที่มีมาให้ 4 ตัว บวกลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ต้องบอกว่าค่อนข้างหนาแน่นนะครับสำหรับลิฟท์ 1 ตัวต่อ 156 ยูนิต แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นปัญหาในการใช้งานเท่าไหร่ น่าจะยังพอใช้กันได้สบายๆ อยู่ Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ชั้น 7 ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือห้องนั่งเล่น Roof Top จะอยู่ชั้น 37 เป็นดาดฟ้า สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยครับ พาชมห้องตัวอย่าง   ห้องของโครงการ Vio ติวานนท์ มีด้วยกันทั้งหมด 4 แบบ มีทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน แต่ที่สำนักงานขายมีแค่ห้องแบบ 1 ห้องนอนให้ชมเท่านั้น โดยมีด้วยกัน 2 Type ซึ่งต่างกันที่ Layout ห้องเล็กๆ น้อยๆ เริ่มกันที่ห้อง Type A ซึ่งจัดสัดส่วนพื้นที่ห้องไว้ค่อนข้างลงตัวดีทีเดียว เปิดเข้ามาจะเจอห้องครัวก่อน ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดและมีพื้นที่เชื่อมต่อไปถึงบริเวณห้องนั่งเล่น ในขณะที่ห้องนอนถูกแยกออกไปโดยใช้ประตูบานเลื่อนแบบทึบที่สามารถเลื่อนปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือเลื่อนเปิดออกเพื่อให้พื้นที่ห้องเชื่อมต่อเนื่องถึงกัน ห้องน้ำของ Layout ห้องแบบนี้ จะเข้าออกได้จากทางห้องนอนเท่านั้น ส่วนห้องแบบ Type A.1 เมื่อเปิดมาจะเจอห้องครัวก่อนเช่นเดียวกัน รวมถึงพื้นที่ของห้องนั่งเล่นก็มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมือนกันกับห้องแบบก่อนหน้านี้ ส่วนที่ต่างกันก็คือ การกั้นห้องด้วยผนังและใช้ประตูบานสวิงเปิดเข้าออกแทนประตูบานเลื่อน ทำให้ห้องนอนของห้อง Type A.1 มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า นอกจากนี้ประตูเข้าออกห้องน้ำก็ย้ายมาฝั่งห้องครัวแทน ซึ่งการใช้งานก็จะมีความสะดวกต่างกันไปครับ โดยรวมแล้วห้องทั้ง 2 แบบไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนักในเรื่องขนาดห้อง ซึ่งเริ่มต้นที่ 30 ตร.ม. และ 31 ตร.ม. ต่างกันเพียง 1 ตร.ม. เท่านั้น เรียกว่าแทบจะไม่รู้สึกเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องวัสดุอุปกรณ์ก็จัดไว้ให้เหมือนกันเป๊ะ เลือกคุณภาพมาตรฐานตามราคาห้อง ในห้องน้ำก็กั้นฉากอาบน้ำมาให้ รวมถึงเครื่องครัวที่มีมาให้พร้อมทั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ราคาที่ทางโครงการเปิดมาเป็นราคาขายแบบ Fully Furnished นะครับ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนแถมจะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้ชัดเจน พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนตในขณะที่พื้นห้องครัวและห้องนั่งเล่นปูด้วยกระเบื้อง หน้าตาเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมาให้ก็เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่ Built-in มาให้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างในห้องจึงดูลงตัวมากเลยครับ ถึงแม้การออกแบบจะเรียบๆ ตามมาตรฐานคอนโดทั่วไป จนไม่มีอะไรแปลกใหม่ก็ตาม   เข้าประตูมาจะเจอ Pantry อยู่ทางซ้าย และตู้รองเท้ากับตู้เย็นจะอยู่ทางขวาครับ มุมนี้จะเห็นโต๊ะทานข้าวอยู่ติดกับ Pantry เลย Pantry ที่โครงการ Built มาให้จะมีเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน มาด้วยครับ เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันครับ ซิ้งค์ล้างจานที่โครงการมีให้ จากประตูมองมาทางขวาจะเห็นตู้รองเท้า ที่ทางโครงการ Built ให้เต็มพื้นที่เลยครับ เดินเลยเข้ามาจะเป็นส่วนนั่งเล่น และจะมีห้องนอนอยู่หลัง โซฟา ซึ่งจะประตูแบ่งส่วนนี้จะเป้นประตูบานเลื่อน มุมนี้จะเห็นชัดว่าเตียงจะอยู่หลังโซฟาเลย เตียงที่โครงการมีให้จะเป็นขนาด 5 ฟุต มองมาทางขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้ จะอยู่หน้าห้องน้ำเลย หน้าห้องน้ำอีกมุมนึง จะเป็นโต๊ะทำงาน และจะมีชั้นให้ด้วย ห้องน้ำ ทางโครงการมีเป็น Rain Shower ให้ มุมนี้มองจากห้องนอน เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนออก จะสามารถดูทีวีได้เลยครับ มุมนี้มองจากที่นั่งเล่น มุมนี้มองทางซ้ายจากห้องนั่งเล่น จะเห็นว่าตู้เย็นจะอยู่ติดกับตู้รองเท้าเลย ส่วนมุมนี้มองทางขวาจากห้องนั่งเล่น ก็จะเจอส่วนครัวกับโต๊ะทานข้าว เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอส่วนที่เป็นครัวอยู่ทางขวา และห้องน้ำอยู่ทางซ้ายครับ มองมาทางขวาจะเห็นส่วนครัวที่โครงการ Built มาให้ และจะเจอโต๊ะทานข้าวที่โครงการก็ให้มาเหมือนกัน Pantry ที่โครงการมีให้จะมีเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ซิ้งค์ล้างจานที่ให้ก็เป็นของ Hafele' ตามมาตรฐาน มุมมองจากพื้นที่นั่งเล่น แล้วมองออกไปทางด้านหน้า เลยเข้ามากก็จะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น จะอยู่ถัดไปจากโต๊ะทานข้าว เมื่อเดินเข้ามายังพื้นที่ส่วนของนั่งเล่นจะเห็นว่าโต๊ะทานข้าวจะอยู่ติดกับโซฟาเลย จากประตูทางเข้ามองไปทางซ้ายก็จะเห็นห้องน้ำ โครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Mogen ครับ ชักโครกก็ใช้ของ Mogen ธรณีประตูระหว่างห้องน้ำกับตัวห้องจะสูงขึ้นมา กันน้ำออกได้ดีทีเดียว โต๊ะหรือชั้นข้างเตียง โครงการก็ Built มาให้ครับ ห้องนอนจะมีเตียง 5 ฟุตมาให้ แต่ถ้าจะทำเป็น 6 ฟุตก็ได้ครับ แต่จะไม่แนะนำเพราะจะดูแน่นไปหมดครับ ตู้เสื้อผ้าที่ Built มาให้เต็มพื้นที่เลย จากเตียงมองออกไปก็จะเห็นส่วนที่เป็นครัว ส่วนขอระเบียงจะอยู่ติดกับส่วนพื้นที่นั่งเล่น ตรงระเบียงจะเป็นที่วางเครื่องคอมเพลสเซอร์แอร์ ความคุ้มค่าการลงทุน พิจารณาในเรื่องการลงทุนกันบ้าง โครงการ Vio ติวานนท์ อาจจะมีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ดี ใกล้สถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี ใกล้สถานที่ราชการสำคัญ และมีเส้นทางการเดินทางที่หลากหลาย ดูข้อมูลคร่าวๆ แล้ว อาจจะเห็นว่า Vio ติวานนท์น่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีศักยภาพในการลงทุนนะครับ แต่ถ้าลองพิจารณาด้านอื่นๆ เพิ่มเติมเข้าไป จะเห็นว่าจุดด้อยที่มีรางรถไฟฟ้าผ่านทางด้านหลังโครงการเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงเป็นอย่างมากจากการที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่านในช่วงทางโค้งนี้ ยิ่งถ้าต้องการซื้อห้องไว้เพื่อการปล่อยเช่า หรือขายต่อแล้วล่ะก็ คงปล่อยห้องได้ยากขึ้นแน่ๆ นอกจากนี้เรื่องทำเลที่ตั้งที่ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งธุรกิจชั้นนำที่จะมีกำลังเช่าห้องในราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเรื่องที่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพิจารณาด้วย ข้อสำคัญที่ข้อที่อาจทำให้เกิดอาการลังเลได้ก็คือ ความเชื่อมั่นในตัวบริษัทผู้พัฒนาโครงการ ที่ถือว่าเป็นมือใหม่มากๆ ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมตึกสูง แถมโครงการ Vio ติวานนท์นี้ก็เป็นตึกแรกที่ทางโครงการสร้างตึกสูงอีก จึงทำให้ความมั่นใจแอบลดลงเล็กๆ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอดูกันไปอีกซักพัก ไม่แน่ว่าบริษัท รื่นฤดี อาจจะเอาอยู่ก็ได้ นะครับ
Vio แคราย : รีวิวคอนโด

Vio แคราย : รีวิวคอนโด

รีวิวครั้งนี้เราจะพาไปดูคอนโด Low Rise ติดสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรี ของ บริษัท รื่นฤดี ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ซึ่งยังถือว่าเป็นมือใหม่ในตลาดคอนโดมิเนียม แต่ถ้าเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบบริษัทนี้เค้าทำมานานและทำมาหลายโครงการแล้วเหมือนกัน พอหันมาพัฒนาโครงการแนวสูงปุ๊ป ก็ถือโอกาสเปิดตัวทีเดียว 2 โครงการพร้อมๆ กันเลย ซึ่งเราจะเริ่มพาไปดูที่โครงการ Vio แคราย กันก่อนว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง การเดินทาง เป็นเพราะว่ามีสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์ราชการนนทบุรีตั้งอยู่หน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์10 ซึ่งอยู่ใกล้กับตัวโครงการ Vio แครายมากเสียจนแทบจะเรียกได้ว่ารั้วติดกันอยู่แล้ว จะขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าก็เดินไปแค่ 50 เมตรจากประตูหน้าโครงการก็ถึงบันไดเลื่อนขึ้นรถไฟฟ้าเลย ข้อนี้จึงถือเป็นจุดแข็งสำคัญของโครงการ Vio แครายเลยทีเดียว ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามีความสะดวกสบายมากที่สุดสำหรับคนที่มีที่ทำงานอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีฟ้าสร้างเสร็จและเปิดให้บริการครบทุกสาย การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในบริเวณนี้จะยิ่งสะดวกมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเพราะสถานีศูนย์ราชการเป็นจุดเชื่อมต่อ (Interchange) ของรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายเลย ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็ถือว่าสะดวกไม่แพ้กันถ้าไม่ติดปัญหารถติดอันหนักหน่วงที่แยกแครายในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน ถนนหนทางรอบโครงการก็มีเส้นทางหลีกเลี่ยงเข้าเมืองได้หลายทาง อีกทั้งยังมีด่านทางด่วนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก จะติดก็แต่ทำเลของซอยรัตนาธิเบศร์ 10 นี่แหละที่ดันอยู่ติดกับตีนสะพานกลับรถพอดิบพอดี เมื่อกลับรถลงจากสะพานมาแล้วจะไม่สามารถเบี่ยงซ้ายเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ได้เลย ทำให้เราต้องขับรถเลยห้าง Central รัตนาธิเบศร์ไปกลับรถที่สะพานกลับรถที่ 2 นับจากแยกแคราย ซึ่งไกลพอสมควรเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้แล้ว การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็ยังคงสะดวกดี เพราะมีทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการเพียบ วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ โครงการ Vio แคราย ตั้งอยู่ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ถึงก่อนศูนย์ราชการนนทบุรีเพียง 200 เมตรเท่านั้น ซึ่งภายในศูนย์ราชการฯ ยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนและออกกำลังกายได้ด้วย ช่วงเย็นๆ บริเวณนี้จึงถือว่าค่อนข้างคึกคักอยู่พอสมควร เพราะมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ออกมาทำกิจกรรมที่สวนสาธารณะนี้กันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีห้าง Esplanade รัตนาธิเบศร์ และ Tesco Lotus อยู่ถัดออกไปอีกเพียง 500 เมตร ซึ่งอยู่ในระยะเดินถึงได้ง่าย จึงน่าจะเป็นที่พึ่งหลักๆ ที่จะฝากท้อง หรือใช้เป็นที่จับจ่ายซื้อของได้สบาย แต่ถ้ายังมีตัวเลือกไม่พอ ฝั่งตรงข้ามก็ยังมีห้าง Big C ที่อยู่ห่างออกไปไกลจากโครงการมากอีกหน่อยแต่ก็ยังพออยู่ในระยะที่เดินได้ไม่ยาก รวมถึงห้าง Central รัตนาธิเบศร์, The Mall งามวงศ์วาน, ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ซึ่งอยู่ในระยะเดินทางไม่เกิน 5 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีสถานที่ราชการสำคัญๆ สถานพยาบาล โรงเรียน และวัดอีกหลายแห่งอีกด้วย ในซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ ปัจจุบันยังมีที่ดินว่างอยู่ทั้งด้านซ้ายและฝั่งตรงข้ามของโครงการ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าในอนาคตจะมีโครงการอื่นๆ มาขึ้นบังวิวหรือไม่ ในขณะที่บริเวณเยื้องๆ กันกับโครงการเป็นอู่ซ่อมรถ และถัดเข้าไปอีกหน่อยก็มีคอนโด The Connextion ที่สร้างมาก่อนและคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกไม่นานนี้ นอกเหนือจากนี้รอบๆ ก็จะเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบ ทั้งอาคารพาณิชย์ริมถนนรัตนาธิเบศร์ และบ้านเดี่ยวที่อยู่ในซอยติดกัน จึงยังไม่เห็นปัญหาเรื่องการถูกบังวิวซักเท่าไหร่ครับ ตัวอาคารของ Vio เป็นตึก Low Rise สูง 8 ชั้น ที่ออกแบบมาตามสไตล์สมัยนิยมทั่วๆ ไป มีจำนวนยูนิตรวม 125 ยูนิต บนเนื้อที่387 ตารางวา ซึ่งถือว่าพื้นที่ของโครงการค่อนข้างเล็กนะครับ จึงทำให้การจัดวางพื้นที่ส่วนกลางมีข้อจำกัดตามไปด้วย ทั้งในเรื่องของตัวอาคารที่ออกแบบมาเป็นรูปตัว U และมีการวางสระว่ายน้ำ (ระบบน้ำเกลือ) ไว้กลางตึก ทำให้ขนาดของสระว่ายน้ำค่อนข้างเล็กเกินไปสำหรับการใช้งาน ในขณะที่ห้อง Fitness ห้องซาวน่า และสวนก็กระจายกันอยู่คนละชั้น ไม่มีพื้นที่เชื่อมต่อถึงกัน จึงทำให้การใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร ในส่วนของที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป โดยให้พื้นที่บริเวณชั้น 1 เป็นที่จอดรถทั้งหมด ซึ่งสามารถรองรับจำนวนรถได้ถึง 40% (รวมจอดซ้อนคันแล้ว) ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากขนาดนี้ เรื่องลิฟท์โดยสารที่มีมาให้ 2 ตัว ก็ไม่ถือว่าหนาแน่นครับ ใช้กันได้สบายๆ ที่สัดส่วนลิฟท์ 1 ตัวต่อ 63 ยูนิต เท่านั้น โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าจะมี Facility ให้มาเยอะและครบถ้วนนะครับ แต่ก็มีพื้นที่มาแบบจำกัดจำเขี่ยเหมือนกัน ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้คาดหวังกับการใช้สอย Facility ส่วนกลางพวกนี้มากนักก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ครับ พาชมห้องตัวอย่าง สำนักงานขายของโครงการ Vio แคราย จะอยู่คนละที่กับที่ตั้งโครงการนะครับ ดังนั้นถ้าจะชมห้องตัวอย่างก็ต้องไปที่แยกติวานนท์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ Vio ติวานนท์นั่นเอง ทั้ง 2 โครงการใช้แบบห้องคล้ายๆ กัน ซึ่งขนาดห้องที่มีให้ชมกันก็คือห้อง Type A ที่มีขนาดเริ่มต้นที่ 31 ตร.ม. ซึ่งมีการจัดสรรพื้นที่มาให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดีครับ ห้องแบบนี้จะมีทางเข้าห้องน้ำจากบริเวณห้องครัว ซึ่งอยู่รวมกับพื้นที่นั่งเล่น ห้องครัวเป็นแบบเปิดตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้าพอดี เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องมีแถมมาให้แบบ Fully Furnished แล้ว เช่น โต๊ะกินข้าวแบบพับ-ขยายได้ ตู้เสื้อผ้า Built-in ในห้องนอน ตู้เก็บของ และเคาน์เตอร์ครัว พร้อมเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน เฟอร์นิเจอร์ที่โชว์ในห้องตัวอย่างถ้าชิ้นไหนแถมมากับห้องก็จะมีสติ๊กเกอร์แปะไว้ให้เห็นชัดเจนครับ พื้นห้องทางโครงการเลือกปูพื้นกระเบื้องในบริเวณห้องนั่งเล่น และห้องครัว พื้นลามิเนตจะปูให้เฉพาะในห้องนอนเท่านั้น เรื่องวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำก็จัดมาได้ค่อนข้างดี และมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อยแล้ว โดยรวมแล้ว Layout ห้องของ Vio หน้าตาเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปครับ แต่เราจะรู้สึกว่าการจัดห้องของเค้าทำได้ค่อนข้างลงตัวดีทีเดียว เพราะเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ถูก Built-in และจัดตำแหน่งมาเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ค่อยเห็นว่ามีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนอยู่ผิดที่ และรู้สึกรกหูรกตา หรือทำให้ห้องอึดอัดมากนัก ทั้งๆ ที่เพดานห้องสูงแค่ 2.4 เมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่าเพดานค่อนข้างเตี้ยถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆ ในปัจจุบันที่เฉลี่ยความสูงของเพดานจะอยู่ที่ 2.6-2.7 เมตร นอกจากห้องแบบ 1 ห้องนอนแล้วทางโครงการยังมีห้องแบบ 2 ห้องนอนให้เลือกด้วยนะครับ แต่ว่าไม่มีห้องตัวอย่างให้ชม คงต้องพิจารณาเอาจากแบบแปลนผสมจิตนาการกันเอาเอง ความคุ้มค่าการลงทุน พื้นที่ในแถบแครายนี้ มีคอนโดหลายโครงการให้เลือกเปรียบเทียบเยอะมาก ซึ่ง Vio แครายเองก็ถือจุดเด่นในเรื่องการทำเลที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเอามากๆ ดังนั้นคนที่ต้องการหาที่อยู่ในบริเวณแคราย และมีการเดินทางโดยรถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยที่ไม่เน้นการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ รวมทั้งไม่แคร์เรื่องวิวสวยๆ และไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ Facility มากนัก เพราะชีวิตส่วนใหญ่ทำงานกลับบ้านและนอน โครงการนี้อาจจะพอขยับความน่าสนใจขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย หรือถ้ายิ่งทำงานอยู่ในศูนย์ราชการนนทบุรีก็น่าจะลงตัวมากๆ เพราะอาศัยการเดินแค่ 200 เมตรเท่านั้นก็ไปกลับบ้านกับที่ทำงานได้แบบไม่ต้องแคร์ปัญหาเรื่องการจราจรเลย ส่วนเรื่องการลงทุนเพื่อการปล่อยห้องเช่า คงต้องคำนวนกันให้ดีๆ ครับ อย่างที่บอกว่ามีคอนโดอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก ตัวเปรียบเทียบจึงเยอะตามไปด้วย แล้วยิ่งในบริเวณรอบๆ ก็ไม่ได้มีออฟฟิศใหญ่ๆ หรือเป็นย่านธุรกิจ กลุ่มคนหลักๆ ของบริเวณนี้น่าจะเป็นคนที่ทำงานในศูนย์ราชการ กระทรวงสาธารณะสุข หรือหน่วยงานราชการใกล้ๆ แคราย การจะหาคนมาเช่าห้องในราคา 10,000 บาท/เดือนเป็นอย่างน้อย อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่เลยครับ และด้วยราคาของห้องที่เริ่มต้นก็เปิดมา 2 ล้านต้นๆ แล้ว การลงทุนจึงต้องพิจารณาให้ละเอียดหน่อย ว่าห้องเช่าขนาด 31 ตร.ม. นี้จะหาจุดทำกำไรได้อย่างไรบ้าง