Tag : ข่าวคอนโด

4 ผลลัพธ์
‘เพซ’ เปิดตัวโครงการ “นิมิต หลังสวน” ที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี กรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ใกล้สวนลุมพินี

‘เพซ’ เปิดตัวโครงการ “นิมิต หลังสวน” ที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี กรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ใกล้สวนลุมพินี

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี “นิมิต หลังสวน” ความสูง 53 ชั้น ชูจุดเด่นที่ตั้งทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ ใกล้สวนลุมพินี กรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ ออกแบบและก่อสร้างได้มาตรฐานสูงสุดระดับโลก ตั้งเป้าดึงดูดกำลังซื้อที่สูงขึ้นจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (ASEAN Economic Community) โครงการนิมิต หลังสวน ประกอบด้วย ที่พักอาศัยสุดหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรีจำนวน 187 เรสซิเดนซ์  ไพรเวทคลับบนดาดฟ้า และครั้งแรกของ “กรีนเฮ้าส์” สวนสีเขียวสไตล์เรือนกระจกอันร่มรื่นทอดตัวสู่ทางเข้าโครงการ ให้ความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม พร้อมด้วยนวัตกรรมด้านการดีไซน์สุดล้ำของสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยอาคารโอบล้อมรอบด้วยแผ่นกระจกสามมิติ มอบความโปร่งใส แวววาว งดงามมีเอกลักษณ์ เหนือกาลเวลา ซึ่งการออกแบบอาคารสูงด้วยผิวหน้าอาคารแบบกระจกนิรภัยสามมิตินี้นับได้ว่าเป็นครั้งแรกในโลก นิมิต หลังสวน มีมูลค่าโครงการกว่า 7,500 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินกรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ขนาดประมาณ 3 ไร่ บนถนนหลังสวน โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2558 และมีกำหนดแล้วเสร็จภายในครึ่งปีหลังของปี 2561   นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการนิมิต หลังสวนสร้างปรากฏการณ์ทำลายทุกสถิติการจองในช่วงก่อนเปิดขาย (Pre-Sales) ของเพซทุกโครงการ ด้วยยอดจองพร้อมจ่ายมัดจำเรียบร้อยแล้วถึง 70% โดยปัจจัยที่ทำให้โครงการสามารถขายได้อย่างรวดเร็วนั้นมาจากลูกค้าส่วนใหญ่ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าที่เชื่อมั่นในคุณภาพและชื่อเสียงของเพซ และอานิสงส์ของการเปิดตลาดเออีซี ที่ส่งผลให้ความต้องการในตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่พักอาศัยคุณภาพระดับสูงสุด เพื่อรองรับการเดินทางเพื่อติดต่อทางธุรกิจในภูมิภาคที่จะเพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง” นายสรพจน์กล่าวว่า “เพซให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบของโครงการ ทั้งด้านสถาปัตยกรรมอาคารและ การตกแต่งภายในเรสซิเดนซ์ ที่ได้รับการออกแบบและคัดสรรวัสดุที่ใช้ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลก เพื่อมอบความสมบูรณ์แบบในการพักอาศัย เพียบพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดแก่กลุ่มลูกค้าที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นในเพซ จากความสำเร็จของบริษัทกับโครงการที่ผ่านมา อาทิ มาตรฐานซีโร่ ดีเฟกท์ ของ โครงการศาลาแดง เรสซิเดนซ์ รวมถึงโครงการที่เรากำลังทำอยู่คือ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในโครงการมหานคร โดยต้องยอมรับว่าชื่อเสียงของเพซมีส่วนสำคัญในการเพิ่มยอดขายพรี-เซลส์ให้กับโครงการนิมิต หลังสวน” นายสรพจน์กล่าวเสริมว่า “ประมาณ 90% ของยอดจองโครงการมาจากผู้ซื้อชาวไทย โดยมีทั้งผู้ที่ต้องการพักอาศัยเอง และผู้ที่มองเห็นโอกาสในการปล่อยเช่าให้กับผู้บริหารระดับสูงในภูมิภาค” “จากความสำเร็จในการเปิดจองโครงการนิมิต หลังสวน ด้วยราคาขายที่สูงกว่าตารางเมตรละ 300,000 บาท ทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียนภายใน และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการวางแผนเติบโตขององค์กร โดยเราจะเดินหน้าโครงการอื่นๆ อย่างต่อเนื่องควบคู่กันเพื่อให้เพซคงความเป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไฮเอนด์ที่คำนึงถึงคุณภาพสูงสุด รวมถึงการขยายธุรกิจแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกของ ดีน แอนด์ เดลูก้า อย่างเต็มที่” นายสรพจน์ กล่าว โครงการนิมิต หลังสวน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ใกล้สวนลุมพินี ศูนย์การค้าชั้นนำระดับพรีเมี่ยมหลายแห่ง ในย่านราชประสงค์ ชิดลม และเพลินจิต รวมถึงย่านธุรกิจสีลม สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเส้นทางเชื่อมต่อจากถนนหลังสวนและถนนสารสิน มีรูปแบบเรสซิเดนซ์ตั้งแต่ขนาด 2 - 4 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ ในขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 78 – 617 ตารางเมตร เพดานสูง 3 เมตรขึ้นไป ราคาขายโดยประมาณ 25 - 250 ล้านบาท
แมกโนเลียฯ เปิดตัว “วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว” คอนโดมิเนียมระดับคุณภาพ ที่สุดของความสะดวกสบาย

แมกโนเลียฯ เปิดตัว “วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว” คอนโดมิเนียมระดับคุณภาพ ที่สุดของความสะดวกสบาย

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น หรือ MQDC บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมคุณภาพระดับลักชัวรี่ และเป็นเจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยแบรนด์วิสซ์ดอม ประกาศเปิดตัว “วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว” (Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao) คอนโดมิเนียมมาตรฐานเหนือระดับ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ บนทำเลทองเพื่อการอยู่อาศัยใจกลางย่านรัชดา-ลาดพร้าว ที่สุดของความสะดวกสบายด้วยทำเลที่ตั้งติดกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลาดพร้าว เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง และคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ผู้มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย และพิถีพิถันในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่าง และเปิดจองแล้ววันนี้เป็นต้นไป   นายถนอมศักดิ์ แก้วเขียว รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC กล่าวว่า “โครงการ วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว ตอกย้ำความมุ่งมั่นและพันธกิจของ MQDC ในการพัฒนาโครงการคุณภาพ เพื่อมอบสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการอยู่อาศัย และสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพให้กับผู้คน โครงการ วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยคุณภาพ จำนวน 1 อาคาร สูง 27 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ 42 ตารางวา บนถนนลาดพร้าวติดถนนรัชดา ด้านหน้าโครงการเป็น สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลาดพร้าว ทำให้ มีจุดเด่นที่พิเศษและแตกต่างอยู่ที่โลเคชั่น ซึ่งเป็นที่สุดของความสะดวกสบาย เพราะเพียงไม่กี่ก้าวเดินก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลาดพร้าวซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการ แวดล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้ง โรงพยาบาล สถานศึกษา สถานที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและความบันเทิงต่างๆ มากมาย อีกทั้งโครงการตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางย่านธุรกิจใหม่ (New CBD) รัชดาภิเษก-พระราม 9 และสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้อย่างสะดวก” ภายในโครงการพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง ด้วยพื้นที่สีเขียวทั้งบนพื้นดินและพื้นที่สีเขียวลอยฟ้าขนาดใหญ่ กว่า 1,700 ตารางเมตร เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วย Sunset Lounge หรือห้องสมุด สำหรับต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน หรือนั่งอ่านหนังสือสบายๆ ในบรรยากาศท้องฟ้ายามเย็น  Sky Infinity Edged Swimming Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่บนชั้นสูงสุด เพื่อการออกกำลังกายและการพักผ่อนอย่างมีสไตล์ Sky Lounge สำหรับการสังสรรค์ที่เหนือระดับ กับวิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามา และ  Whizdom Lobby ดีไซน์โมเดิร์น เสมือนหน้าบ้านที่สะท้อนความมีรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ พร้อมเจ้าหน้าที่และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง   โครงการถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียด ผสมผสานการวิจัยและพัฒนา เข้ากับการดีไซน์ และความใส่ใจในเรื่องการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ออกแบบตามมาตรฐาน “สถาบันอาคารเขียวไทย” (Thai Green Building Institute) คุณภาพอาคาร “ระดับ SILVER” (SILVER Tree Certificate) เพื่อนำเสนอโครงการคุณภาพที่ตอบสนองทุกฟังก์ชั่นของชีวิต และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นในทุกวัน อาทิ รูปแบบและการจัดวางพื้นที่ภายในห้องพักสอดคล้องกับหลักสรีระศาสตร์เหมาะสมกับระยะร่างกายของมนุษย์เพื่อความสะดวกสบายสำหรับทุกกิจกรรม อยู่สบายและไม่รู้สึกอึดอัด การวางตำแหน่งไฟ ตำแหน่งแอร์ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย ทิศทางการวางตำแหน่งตัวตึกสอดคล้องกับทิศทางแสงอาทิตย์และทิศทางลม เพื่อลดความร้อน และเพิ่มการหมุนเวียนถ่ายเทของอากาศภายในห้องพัก เป็นการช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มความสบายให้ผู้อยู่อาศัย การจัดวางห้องพักซึ่งเริ่มต้นที่ชั้น 5 เพิ่มความเป็นส่วนตัวและห่างไกลจากเสียงรบกวน มีการออกแบบสวนและแนวต้นไม้ช่วยบังแนวเสียงและฝุ่นละอองในอากาศที่จะพัดเข้าสู่ตัวอาคาร เป็นต้น “วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากมีโลเคชั่นที่เรียกได้ว่าสะดวกสบายที่สุด เพราะอยู่ติดกับสถานี MRT พร้อมกับคุณภาพที่เหนือระดับในทุกรายละเอียดด้วยมาตรฐานของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) พร้อมการรับประกันที่ยาวนานถึง 10 ปี ทำให้มีผู้สนใจจับจองห้องชุดพักอาศัยในช่วงพรีเซลล์แล้วเป็นจำนวนกว่า 60 % ซึ่งหลังจากเปิดให้ชมห้องตัวอย่าง คาดว่าจะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่าตลาดยังมีดีมานด์หรือความต้องการคอนโดมิเนียมระดับคุณภาพอยู่มาก โดยเฉพาะในทำเลดีๆ ที่เป็นไพร์มโลเคชั่น (Prime Location) ซึ่งเรากำลังจะมีงาน Grand Opening ระหว่างวัน 26 – 29 มีนาคมนี้ ณ ชั้น 1 สยามพารากอนอีกด้วย” นายถนอมศักดิ์ กล่าว วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว ประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัยหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องแบบสตูดิโอ ขนาดพื้นที่ 27 ตารางเมตร, แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 30-38 ตารางเมตร, แบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 47-56 ตารางเมตร, แบบดูเพล็กซ์ ขนาดพื้นที่ 76-77 ตารางเมตร และแบบเพ้นซ์เฮ้าส์ ขนาดพื้นที่ 105-129 ตารางเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2560 ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-789-9999 หรือทางเว็บไซต์ www.MQDC.com แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น หรือ MQDC คือ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมคุณภาพ ระดับลักชัวรี่ ที่มุ่งเน้นพัฒนาโครงการระดับคุณภาพ โดยผสมผสานการวิจัยและพัฒนา เข้ากับการดีไซน์อย่างมีคุณภาพที่ใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนของมนุษย์ ตลอดจนการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อมอบสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพให้กับผู้คน ทั้งผู้อยู่อาศัยในโครงการ และชุมชนโดยรอบ
บจ.สิรยศ ส่ง “โดว์เช่ อุดมสุข” ลงตลาดรับปีแพะ ด้วยมูลค่าโครงการ 200 ลบ.

บจ.สิรยศ ส่ง “โดว์เช่ อุดมสุข” ลงตลาดรับปีแพะ ด้วยมูลค่าโครงการ 200 ลบ.

บจ.สิรยศ ส่ง “โดว์เช่ อุดมสุข” ลงตลาดรับปีแพะ ด้วยมูลค่าโครงการ 200 ลบ. หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากโครงการบูทีค รัชดา เมื่อหลายปีก่อน ชูจุดขายราคาต้นเพียง 2 ลบ.  เด่นด้วยศักยภาพทำเล 600 ม. จาก BTS อุดมสุข, Fully Furnished บจ.สิรยศ เตรียมส่งโลว์ไลส์คอนโดแบรนด์ “โดว์เช่ อุดมสุข” (Dolce Udomsuk) ลงตลาดอสังหาฯ บนทำเลศักยภาพสูงใกล้บีทีเอสอุดมสุข ประกาศชูจุดขายความเป็นส่วนตัวสูงเพียง 79 ยูนิต ให้ความรู้สึกหรูหราด้วยความสูงจากพื้นถึงเพดานถึง 2.85 เมตร พร้อม Fully Furnished และ Fully built in มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท สนนราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท มั่นใจเข้าใจลูกค้าทำให้พัฒนาสินค้าดีมีคุณภาพรองรับความต้องการของตลาดได้อย่างแน่นอน เผยใช้ประสบการณ์ความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการบูทีค รัชดา ทั้ง 2 โครงการ ที่สามารถปิดการขายได้ภายใน 30 วัน มาเป็นต้นทุนต่อยอดพัฒนาโครงการใหม่   นายวิจาร คุปติพงศ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิรยศ จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งใส่ใจด้านการออกแบบ และความเป็นอยู่ของลูกค้าเป็นสำคัญ กล่าวถึงการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ภายใต้แบรนด์ “โดว์เช่ อุดมสุข” (Dolce Udomsuk) ว่า “โครงการโดว์เช่ อุดมสุข เป็นโลว์ไลส์คอนโดฯ 7 ชั้น 79 ยูนิต มีมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเส้นสุขุมวิท 103/2 ห่างจากถนนสุขุมวิทสายหลักเพียง 400 เมตร เดินทางสะดวกสามารถทะลุออก บางนาตราด ซอย 1 อุดมสุข 18 และ ถนน ศรีนครินทร์ได้อย่างสะดวกสบาย สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเราแน่นอนว่าเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องการความเป็นเมืองในราคาที่สามารถจับต้องได้ เพื่อหาพื้นที่ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ตัวเองเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงราคาก็จะขยับลงมาสบายกระเป๋ามากกว่าอยู่บนเส้นสุขุมวิทหลัก และอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่เรามองไว้ คือ กลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น เนื่องจากเมื่อเราวิเคราะห์ทำเลแล้วจะเห็นได้ว่าบริเวณนี้เริ่มมีร้านสะดวกซื้อของคนญี่ปุ่น หรือ Lawson ซึ่งสามารถเป็นจุดชี้วัดได้ว่ากลุ่มคนญี่ปุ่นเริ่มมีการขยายตัวจากใจกลางสุขุมวิท 49 ออกมาเรื่อยๆ ดังนั้น กลุ่มญี่ปุ่นเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่เราจะไม่ทิ้งกลุ่มเป้าหมายของโครงการ สำหรับโครงการนี้เราได้ออกแบบให้เหมาะกับผู้ที่รักความเป็นส่วนตัวเนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อย ไม่พลุกพล่านเมื่อเข้าอยู่อาศัยจริง ทั้งยังให้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่ไม่อึดอัด เนื่องจากเราออกแบบให้อาคารมีเพียง 7 ชั้น เพื่อที่จะสามารถขยับความสูงของพื้นจรดฝ้าเพดานได้ถึง 2.85 เมตร ซึ่งโดยปกติโครงการทั่วไป อาจจะสูงเพียงแค่ 2.6 เมตรเท่านั้น” สำหรับโครงการโดว์เช่ อุดมสุข เป็นอสังหาริมทรัพย์โครงการที่ 4 ของบริษัท สิรยศ จำกัด โดย 3 โครงการที่ผ่านมา คือ คอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบูทีค รัชดา และโครงการบูทีค รัชดา 2 ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้เปิดขายเมื่อปี  2549 และสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว โดยโครงการแรกใช้เวลาเพียง 1 เดือน ส่วนโครงการที่ 2 ใช้เวลาเพียง 4 เดือนเท่านั้นก็สามารถปิดการขายได้แล้ว ส่วนอีก 1 โครงการ เป็นโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการวิลล่าเจ้าพระยา ใกล้ทางด่วนบางพูน เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จและโอนให้ลูกค้าได้เกือบ 100% แล้ว สำหรับโครงการที่พัฒนาโดยสิรยศนั้น เราใช้ประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการคือ การเลือกทำเลที่ดี และพัฒนาสินค้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งที่เรามั่นใจด้านการออกแบบเป็นอย่างมากเนื่องจาก ทางเราเองเป็นกลุ่มบริษัทที่รวมเอาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับบริษัทอินทีเรียร์ คอนแทร็คแอนด์ดีไซน์เข้าด้วยกัน คือ บริษัท อาร์ทิซติค ฮาร์โมนี จำกัด ตั้งมานานกว่า 15 ปี ทำงานด้านอินทีเรียร์ และบริษัท สิรยศ จำกัด ทำงานด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น เมื่อเรามีบริษัทออกแบบของเราเอง ทั้งยังมีทีมงานการตลาดที่สามารถวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้ เราจึงมั่นใจในการออกแบบ และพัฒนาโครงการเป็นอย่างดี “อันที่จริงส่วนตัวผมเองทำงานในวงการอสังหาฯ มาโดยตลอด เป็นเวลานานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะมาเปิดบริษัท สิรยศ จำกัด ผมได้ดำเนินการภายใต้บริษัท สเต็ปออฟโมเดิร์น จำกัด มีผลงานการพัฒนาโครงการร่มรื่นการ์เด้น - วังน้อย จ.อยุธยา ระหว่างปี 2537 - 2545 โครงการเป็นบ้านจัดสรรและที่ดินเปล่า ซึ่งเราสามารถพาบริษัทให้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ได้โดยไม่เป็น NPL และจากนั้นเราได้พัฒนาอีก 1 โครงการ คือ โครงการร่มรื่นการ์เด้น – บางปะอิน จ.อยุธยา ระหว่างปี 2547 – 2548 โครงการมียอดขาย 100% ภายใน 2 ปี มูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งแนวราบทั้ง 2 โครงการนี้ เราพัฒนาในนามของ บริษัท สเต็ปออฟโมเดิร์น จำกัด แต่เมื่อราขยับเข้ามาในกรุงเทพ เราพัฒนาในนามของ บริษัท สิรยศ จำกัด โดยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ และแนวราบ 1 โครงการ คือ บูทีครัชดา, บูทีครัชดา 2  และโครงการวิลล่าเจ้าพระยา ใกล้ทางด่วนบางพูน เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จและโอนให้ลูกค้าได้เกือบ 100% แล้ว” นายวิจาร กล่าว   สำหรับโครงการโดว์เช่ อุดมสุข เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการประมาณ 0-3-11 ไร่ มีแบบห้องให้เลือก 2 ขนาด คือ ขนาด 1 ห้องนอน 31 ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน 67 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องนั่งเล่น และห้องสมุด (Library room)  ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพกลางสุขุมวิท สามารถเดินทางเข้าสู่ CBD หรือใจกลางเมืองเพียง 20 นาที หรือเดินทางไปทองหล่อเพียง 10 นาที ด้วย BTS เส้นหลัก ทั้งยังใกล้กับ Bangkok Mall ทั้งยังสามารถเดินทางไปยังเส้นทางสายตะวันออกได้ด้วย Monorail บางนา – สุวรรณภูมิ อีกด้วย โดยโครงการโดว์เช่ อุดมสุข พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2558 ราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท สำหรับผู้สนใจจองในวันงานจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ คือ. จองเท่าไหร่ ลดเท่านั้น มูลค่าสูงสุดถึง 100,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-399-2220-1 หรือ www.dolcecondo.com อ่านพรีวิวโครงการ Dolce Udomsuk ได้ที่นี่..
SENA ทุ่มงบลงทุนเดินหน้าสร้าง Brand ผุด 11 โครงการใหม่

SENA ทุ่มงบลงทุนเดินหน้าสร้าง Brand ผุด 11 โครงการใหม่

SENA ทุ่มงบลงทุนเดินหน้าสร้าง Brand ผุด 11 โครงการใหม่ เผยเตรียมเจาะ New Segment ภายใต้กลยุทธ์ ”ไฟนีออน” ส่องสว่างชัดเจน พร้อมเปิด-ปิด ได้ทันสถานการณ์ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดแผนธุรกิจปี ”58 เตรียมพร้อมลงทุนครั้งใหญ่ เปิดตัว 11 โครงการอสังหาฯ ทั้งแนวราบและคอนโดฯ “เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” ชูกลยุทธ์ “ไฟนีออน” เล็งเจาะฐานลูกค้าระดับกลางบน - ขยายธุรกิจ โซลาร์รูฟ หวังผลักดันรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมออกหุ้นกู้เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทฯและบริหารจัดการหนี้สินให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม แย้มไตรมาส 3/58 เตรียมปรับแบรนด์เพื่อเป็นหนึ่งในดวงใจของผู้บริโภค ตั้งเป้าหมายรายได้ประมาณ 3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่คาดว่าจะมีรายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีนี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว หลังจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องผ่านการลงทุนในเมกะโปรเจค  อีกทั้ง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงในปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่ช่วยให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในแง่ของปัจจัยลบที่น่าเป็นห่วงในปีนี้ จะเป็นเรื่องของหนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อย ถึงรายได้ปานกลาง เป็นผลให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้  ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูง และความไม่แน่นอนด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ส่งผลกระทบในเชิงลบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผศ.ดร.เกษรา เผยเกี่ยวกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในปีนี้ว่า “กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท เรียกว่า "กลยุทธ์ไฟนีออน"  ด้วยคุณสมบัติเด่นของไฟนีออน ที่จะส่องสว่างชัดเจน ก็แสดงให้เห็นว่าทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จะเน้นไปที่ความชัดเจนทั้งในเรื่องของ Branding และ Segmentation รวมไปถึงบริการหลังการขาย 360 องศา ซึ่งในช่วงไตรมาส 3 เราเตรียมปรับแบรนด์ SENA ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นหนึ่งในดวงใจของผู้บริโภคที่คิดจะซื้อบ้าน หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อีกหนึ่งคุณสมบัติของไฟนีออน คือเรื่องของความพร้อมเปิด-ปิด ได้อย่างรวดเร็ว คือเราเตรียมตัวพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที” สำหรับแผนการลงทุนในปี 2558 ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่า ได้มีการเปิดตัวโครงการมากที่สุดนับจากการก่อตั้งบริษัท โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ และมีการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ในระดับที่มีรายได้ประมาณ 100,000 บาท (กลุ่มลูกค้า B+) พร้อมลุยพัฒนาโครงการในเขตกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกมากขึ้น รวมทั้งขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจ Recuring Income  และทำโซลาร์รูฟท็อปในโครงการ เพื่อเพิ่มฐานที่มาของรายได้ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต “เนื่องจากในปีนี้เปิด 11 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่าสูงกว่า 1 หมื่นล้านบาท  ซึ่งเราได้มีการเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกหุ้นกู้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของเสนาฯที่มีการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ และเตรียมเพิ่มทุนในหลายรูปแบบ ผ่านตลาดทุน เพื่อคุมสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไม่ให้ปรับตัวสูงมากนัก” ดร.เกษรา กล่าว สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 2558 ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เป้ายอดขาย 4,500 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่ากำลังซื้อเริ่มดีขึ้น หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์  กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทจะมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการจำหน่ายไฟฟ้าของโครงการโซลาร์รูฟท็อป 750 กิโลวัตต์  ในช่วงไตรมาส 2 โดยจะมีกำไรพิเศษเข้ามาประมาณ 6 ล้านบาทต่อปี   นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการซื้อที่ดินโดยเตรียมงบซื้อที่ดินไว้ที่ 1 พันล้านบาท สำหรับการซื้อที่ดินใหม่ และยังมีการวางแผนที่จะออกหุ้นกู้ระยะยาว 2-3 ปี มูลค่า 1,200 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558