Tag : คอนโดติดรถไฟฟ้า

88 ผลลัพธ์
de Zone แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

de Zone แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

โครงการ: de Zone แจ้งวัฒนะ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,290,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 50,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ปกาสิต แอนด์ ซัน แอสเสท จำกัด จุดเด่น คอนโดใหม่ บนถนนแจ้งวัฒนะ เดินทางสะดวกใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน พร้อมห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และอิมแพค เมืองทองธานี จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2558 ที่ตั้ง: de Zone แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 0 - 3 - 51 ไร่ ที่ตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พิกัดโครงการ 13.90721,100.531415 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT เมืองทองธานี สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ แม็คโคร บิ๊กซี โฮมโปร ศูนย์ราชการแห่งใหม่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี รพ.มงกุฎวัฒนะ รพ.วิภาราม รพ.ชลประทาน รพ.กรุงไทย ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ม.ธุรกิจบัณฑิต ลักษณะโครงการ: de Zone แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน 26 – 36 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 147 ยูนิต ส่วนกลาง: de Zone แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 45 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Key Card Access สวนหย่อม ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด   เพิ่มเติม: de Zone แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-789-9993 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.dezonecondo.com/index.html ข้อมูล ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2556
Regent Home 18 แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

Regent Home 18 แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Regent Home 18 แจ้งวัฒนะ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 999,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 33,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด จุดเด่น – จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ กลางปี 2558 ที่ตั้ง: Regent Home 18 แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 9 - 0 - 23 ไร่ ที่ตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.879942, 100.597653 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีเมืองทองธานี สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมืองทองธานี สถาบันปัญญาภิวัฒน์ Big C Tesco Lotus แมคโคร ลักษณะโครงการ: Regent Home 18 แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 14 ชั้น จำนวนห้อง 1,490 ยูนิต ส่วนกลาง: Regent Home 18 แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องรับรอง รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง, ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ keycard, กล้องวงจรปิด ร้านค้า , สวนหย่อมรอบโครงการ ที่จอดรถ 2 ชั้น   เพิ่มเติม: Regent Home 18 แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-521-9171 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.rgphome.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 27 มีนาคม 2557
Summer Garden แจ้งวัฒนะ 19 : รีวิวคอนโด

Summer Garden แจ้งวัฒนะ 19 : รีวิวคอนโด

โครงการ: Summer Garden แจ้งวัฒนะ 19 (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,400,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 49,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท วินซัม จำกัด จุดเด่น คอนโด Low Rise 4 อาคาร บนถนนแจ้งวัฒนะตรงข้ามเซ็นทรัล เดินทางสะดวกใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสีชมพู จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ - ที่ตั้ง: Summer Garden แจ้งวัฒนะ 19 (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 5 - 2 - 42 ไร่ ที่ตั้ง ซอยแจ้งวัฒนะ 19 ปากเกร็ด นนทบุรี พิกัดโครงการ 13.906939,100.530014 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT เลี่ยงเมืองปากเกร็ด สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมืองทองธานี โรงพยาบาลเวิล์ด เมดิคัล เซ็นเตอร์ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ แมคโคร บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส ลักษณะโครงการ: Summer Garden แจ้งวัฒนะ 19 (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 29 – 42 ตรม. 2 ห้องนอน ขนาด 46 – 51 ตรม. จำนวนตึก 4 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 657 ยูนิต ส่วนกลาง: Summer Garden แจ้งวัฒนะ 19 (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 54% (รวมจอดซ้อนคัน) ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำขนาด 370 ตรม. Fitness สวนแบบ Tropical Jogging track ร้านค้า เข้า-ออก ด้วยระบบ Key card CCTV และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง   เพิ่มเติม: Summer Garden แจ้งวัฒนะ 19 (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-962-2877 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.summergardencondo.com/ ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2555
The Seed แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

The Seed แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Seed แจ้งวัฒนะ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,650,000 บาท บาท/ตารางเมตร 73,300 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด Low Rise จากพฤกษาบนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน และรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายสายสีชมพู สถานีศรีรัช จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ - ที่ตั้ง: The Seed แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด Low Rise เนื้อที่ทั้งหมด 2-0-32 ไร่ ที่ตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พิกัดโครงการ 13.898142,100.546619 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT ศรีรัช สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ โรงพยาบาลกรุงไทย ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร โครงการรถไฟฟ้า(ในอนาคต) สายสีชมพู เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ แมคโคร แจ้งวัฒนะ ลักษณะโครงการ: The Seed แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี Studio 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี Studio ขนาด 22.50 ตร.ม. 1 ห้องนอน ขนาด 28.72 – 31.68 ตร.ม. 2 ห้องนอน ขนาด 47.28 – 64.51 ตร.ม. จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 8 ชั้น จำนวนห้อง 210 ยูนิต ส่วนกลาง: The Seed แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Key Card Access สวนหย่อม ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้อง   เพิ่มเติม: The Seed แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.pruksa.com ข้อมูล ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556
The Urban Attitude แบริ่ง 14 : รีวิวคอนโด

The Urban Attitude แบริ่ง 14 : รีวิวคอนโด

วันนี้เราจะพาไปดูคอนโด Low Rise ในซอยแบริ่ง ที่มีชื่อว่า The Urban Attitude แบริ่ง 14 จาก Urban Property เจ้าของเดียวกับ The Gallery ที่อยู่ตรงต้นซอยแบริ่งนั่นเอง โครงการน้องใหม่นี้อยู่ถัดเข้ามาในซอยแบริ่ง 14 นะครับ ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งประมาณ 1 กิโลเมตรได้ ซึ่งถือว่าเดินทางกันได้สะดวกสบายไม่น้อยเลย สำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้รถส่วนตัว รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    1,490,000 บาท เจ้าของโครงการ    The Urban Property Co., Ltd. ลักษณะโครงการ    Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง     137 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด   0 - 3 - 62 ไร่ ที่จอดรถ    ประมาณ 30% (รวมจอดซ้อนคัน) ที่ตั้งโครงการ    ซอยแบริ่ง 14 ถนนสุขุมวิท 107 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง  จ.สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้าง    ไตรมาสที่ 4 ปี 2015 คาดว่าจะแล้วเสร็จ    ไตรมาสที่ 2 ปี 2017 ค่าส่วนกลาง    45 บาท/ตารางเมตร (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) ค่ากองทุน    500 บาท/ตารางเมตร (ชำระครั้งเดียว) วิธีการเดินทาง การเดินทางในครั้งนี้ เรานั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีแบริ่ง แล้วต่อรถเข้าไปดูที่ตั้งโครงการในซอยแบริ่ง 14 ก่อน ซึ่งระยะทาง BTS แบริ่ง เข้ามาประมาณ 800 เมตร ก็จะเห็นซอยแบริ่ง 14 อยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้ามาอีกนิดหน่อย ตัวโครงการจะตั้งอยู่ตรงหัวมุมด้านซ้ายมือครับ ส่วนที่ตั้งของ Sale Gallery จะตั้งอยู่ช่วงปากซอยแบริ่ง ตรงข้ามกับโครงการ The Gallery เลย หาไม่ยากครับ จากรถไฟฟ้า BTS เราสามารถเดินมาขึ้นรถสองแถว หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ที่บริเวณปากซอยแบริ่งเลยนะครับ มีรถวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน ถ้าลงรถที่ปากซอยแบริ่ง 14 ก็เดินต่อเข้ามาในซอยอีกแค่ 150 เมตรเท่านั้น กำลังสบายๆ แต่ถ้าเลือกนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็เลี้ยวเข้ามาส่งที่หน้าโครงการได้เลย สะดวกมากๆ ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็สามารถเลือกเข้าได้ทั้งจากเส้นทางหลักถนนสุขุมวิททางซอยแบริ่ง (สุขุมวิท 107) หรือทางซอยสุขุมวิท 109 ก็ได้ เนื่องจากท้ายซอยแบริ่ง 14 เชื่อมต่อกับซอยสันติคาม 13 ไปออกซอยสุขุมวิท 109 ได้ด้วย หรือจะมาทางถนนศรีนครินทร์ก็ได้อีกเช่นกัน นอกจากนี้เรายังสามารถใช้เส้นทางถนนเทพารักษ์ ถนนปู่เจ้าสมิงพราย และวงแหวนรอบนอก ในการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อีกหลายเส้นทางเลยทีเดียว การเดินทางในย่านนี้ถือว่าสะดวกมากเลยทีเดียวนะครับ เสียแต่ว่าปริมาณรถหนาแน่นมากเกือบตลอดวัน แถมยังอยู่ในเส้นทางที่มีการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าอีก ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็นของวันทำงาน สถานที่สำคัญใกล้เคียง BTS สถานีแบริ่ง ไบเทค บางนา เซ็นทรัล บางนา บิ๊กซี โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา อิมพีเรียล เวิล์ด สำโรง วิเคราะห์รอบโครงการ ถึงแม้ว่าตัวโครงการ The Urban Attitude แบริ่ง 14 จะตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องบอกว่าความเจริญโดยรอบยังจัดว่าครบครันเลยทีเดียว ทั้งทางด้านถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ และถนนบางนา-ตราด ก็มีห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าเล็กใหญ่ เรียงรายเต็มไปหมด รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว วัดวา สถานศึกษา และโรงพยาบาล ก็แวดล้อมอยู่ใกล้ๆ อีกหลายแห่ง ที่สำคัญรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่กำลังก่อสร้างในส่วนต่อขยายอยู่ ก็ทำให้ความเจริญไล่ตามมาติดๆ จะเห็นได้จากโครงการบ้านและคอนโดใหม่ๆ ผุดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าอีกเพียบเลยครับ ส่วนในซอยแบริ่งนั้น ก็ถือว่าเป็นซอยใหญ่ มีปริมาณรถผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นถนนที่เชื่อมถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์เข้าด้วยกัน ช่วงต้นซอยมีร้านค้ามากมาย มีของขายหลากหลาย รวมถึงร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารด้วย จึงเป็นที่พึ่งพาเรื่องกินข้าวของเครื่องใช้เล็กๆ น้อยได้สบาย เว้นเสียแต่ว่าต้องจ่ายตลาดซื้อของสดเป็นเรื่องเป็นราว ก็ต้องนั่งรถเลยไปอีกหน่อยที่ตลาดสำโรง ซึ่งมีข้าวของให้เลือกซื้อมากกว่ามากเลยครับ สำหรับตัวโครงการ The Urban Attitude อยู่ถัดจากปากซอยแบริ่ง 14 เข้ามาอีกประมาณ 150 เมตร บริเวณปากซอยแบริ่ง 14 มีร้านอาหารให้พึ่งพาอยู่บ้างนะครับ เลี้ยวเข้ามาในซอยแล้วจะเห็นว่า ถนนในซอยค่อนข้างแคบ ยิ่งมีรถจอดอยู่ข้างทางด้วยก็ยิ่งทำให้รู้สึกแคบเข้าไปอีก โชคดีกว่าตัวโครงการอยู่ไม่ลึกมาก จึงไม่ได้รู้สึกลำบากมากในการขับรถเข้าออก ที่ดินหัวมุมของซอยเล็กที่เชื่อมไปที่ซอยแบริ่ง 16 ได้ คือที่ตั้งของโครงการนะครับ เมื่อสร้างเสร็จแล้วทางเข้าออกหลักจะอยู่ที่ถนนด้านนี้ ดังนั้นลูกบ้านจึงเลือกเข้าได้ทั้งจากทางซอยแบริ่ง 14 และ 16 ใกล้กับโครงการมีอาคารโรงงานสูง 5 ชั้น ช่วงเช้า-เย็น รวมถึงตอนพักกลางวัน จะมีพนักงานเดินเข้าออกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งตึกตรงข้ามที่ดินโครงการยังเป็นร้านขายของชำ ขายขนมเล็กๆ น้อยๆ ด้วย และช่วงกลางวันยังมีแผงลอยตั้ง ตลาดนัดขายของอยู่หลายร้าน อาจจะเป็นเพราะตอนนี้โครงการยังไม่ทำการก่อสร้าง คิดว่าถ้าสร้างเสร็จแล้ว พื้นที่หน้าโครงการคงไม่อนุญาตให้ตั้งแผงลอยแบบปัจจุบัน นอกเหนือจากนี้พื้นที่ติดกันโดยรอบก็จะเป็นบ้านพักอาศัย แนวราบ อาจจะมีคอนโดโครงการอื่นขึ้นใกล้ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับติดกัน เลยไม่ค่อยน่าเป็นห่วงว่าจะเปิดหน้าต่างมาเจอเพื่อนตึกติดกันนะครับ เพียงแต่บริเวณใกล้ๆ มีอาคารอพาร์ทเม้นท์อยู่บ้าง ผู้คนบริเวณนี้จึงคึกคักหน่อย ไม่ถึงกับเงียบสงบเลยซะทีเดียว โครงการ The Urban Attitude แบริ่ง 14 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มีจำนวนยูนิตรวม 137 ยูนิตเท่านั้น โดยส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป พื้นที่ชั้นล่างใต้อาคารจะเป็นที่จอดรถ และสวนหย่อมตรงพื้นที่ตรงกลางระหว่างรูปตัว U ของอาคาร ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมี Lobby และห้องสมุด ร่วมกับห้องพักอาศัยด้วย ส่วน Facility หลักจะอยู่ที่ชั้น 8 รวมกับห้องพักบางส่วน ซึ่ง Facility ที่ทางโครงการจัดไว้ให้ก็มีทั้ง สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องอบไอน้ำ สวนหย่อม และถ้าขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าก็ยังมีพื้นที่พักผ่อนเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อีกด้วย สิ่งอำนวยความสะดวก ผู้ช่วยพิเศษสำหรับการบริการ ที่จอดจัรยาน ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำลอยฟ้า ลานบาบีคิวลอยฟ้า ระบบคีย์การ์ดภายในโครงการ สวนพักผ่อนภายในโครงการ ห้องอบไอน้ำ สวนลอยฟ้า โถงต้อนรับอเนกประสงค์และห้องสมุด Shutter Bus รับส่งสถานี BTS พาชมห้องตัวอย่าง มาดูห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ทางโครงการมีห้องให้เลือกชม 2 แบบด้วยกัน เริ่มกันที่ห้องแรกที่ขนาด 26.17 ตร.ม เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งเป็นห้องหน้าแคบ แต่ก็จัดวาง Layout ได้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว เปิดเข้าห้องมาก็จะเจอกันพื้นที่นั่งเล่น หรือห้องรับแขก ส่วนพื้นที่โซนด้านในจะแบ่งเป็นห้องนอน และห้องครัว ซึ่งมีประตูกระจกกั้นพื้นที่ใช้สอยส่วนต่างๆ ไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน ไปดูภาพบรรยากาศภายในห้องไปพร้อมกันเลยครับ ส่วนห้องตัวอย่างอีกห้อง จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเช่นกัน โดยมีพื้นที่ห้องขนาด 31.67 ตร.ม. แบบห้องเป็นแบบหน้าแคบนะครับ ลักษณะห้องจะลึกกว่าห้องแรก โดยรวมแล้ว Layout ของห้องจะมีลักษณะคล้ายกันมาก แต่พื้นที่ของห้องนี้จะกว้างกว่า จึงได้พื้นที่ว่างเพิ่มบริเวณระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ บริเวณนี้ทางโครงการจึงเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยการ Built-in ตู้เก็บของมาให้ เพิ่มการใช้สอยประโยชน์ภายในห้องให้มากขึ้นอีกหน่อยครับ ห้องพักของโครงการ The Urban Attitude แบริ่ง 14 จะขายกันมาแบบ Fully Furnished เลยนะครับ แทบจะพร้อมเข้าอยู่เลยทีเดียว เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในห้องตัวอย่างทั้งตู้ เตียง ชุดครัว รวมถึงเครื่องปรับอากาศก็จะได้ตามที่เห็นเลย เว้นแต่เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่อาจจะมีหน้าตาไม่เหมือนในห้องตัวอย่างบ้าง อันนี้แนะนำให้เช็คกับทางโครงการให้ดีก่อนนะครับ เพราะบางชิ้นเป็นการตกแต่งเพิ่งเติมเพื่อความสวยงามภายในห้องตัวอย่างเท่านั้น ด้วยความที่ห้องของโครงการขายให้แบบเกือบจะพร้อมเข้าอยู่เมื่อสร้างเสร็จเลย จึงน่าจะเหมาะมากๆ กับคนที่ต้องการหาคอนโดขนาดกระทัดรัดซักห้องในย่านนี้ ยิ่งถ้าต้องทำงานอยู่ใกล้ๆ ในแถบนี้อยู่แล้ว ก็ถือว่าสะดวกมากเลยทั้งเรื่องการเดินทาง และอาหารการกิน นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกโครงการในพื้นที่แบริ่ง อีกอย่างด้วยราคาขายก็อยู่ในระดับที่จับต้องได้ง่าย สบายกระเป๋า แต่ก็แลกกับที่ตั้งที่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าออกมาหน่อยก็ถือว่าคุ้มราคาอยู่นะครับ
Astro แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

Astro แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

โครงการ: Astro แจ้งวัฒนะ (PREVIEW)   ราคา 1,200,000 – 6,400,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว) บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 42,600 บ./ตร.ม. เจ้าของโครงการ บริษัท เอ-สตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 37 ชั้น บนถนนแจ้งวัฒนะ ตรงข้ามเซ็นทรัล ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพู และจุดขึ้นลงทางด่วน จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ - ที่ตั้ง: Astro แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 0 - 95 ไร่ ที่ตั้ง ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 21 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี พิกัดโครงการ 13.903982,100.530536 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT เลี่ยงเมืองปากเกร็ด สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมืองทองธานี คาร์ฟูร์ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี ลักษณะโครงการ: Astro แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedroom 3 Bedroom 2 Bedroom Duplex 3 Bedroom Duplex ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom (28.15 – 37.2 sq.m) 2 Bedroom (54.1 – 57.15 sq.m) 3 Bedroom (88.10 sq.m) 2 Bedroom Duplex (80.15 -87.15 sq.m) 3 Bedroom Duplex (110.6 -114.8 sq.m) จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 37 ชั้น จำนวนห้อง 484 ยูนิต ส่วนกลาง: Astro แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด - ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค Infinity edge swimming pool Roof garden Fitness   เพิ่มเติม: Astro แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 02-962-2988 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.astrocondo.com/en/index.html ข้อมูล ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2556
THE KEY แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

THE KEY แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

โครงการ: THE KEY แจ้งวัฒนะ (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 1,770,000 บาท (ณ วันที่ 25 ตค. 55) บาท/ตารางเมตร 60,000 – 70,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 21 ชั้น 2 อาคาร จาก Land & House ติดถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้เมืองทองธานี และรถไฟฟ้า สายสีชมพู จุดด้อย – โปรโมชั่น - ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2555 ที่ตั้ง: THE KEY แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 6 - 0 -59 ไร่ ที่ตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ (เยื้องทางเข้าเมืองทองธานี) ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พิกัดโครงการ 13.899887,100.540123 ระบบขนส่งสาธารณะ MRT สถานีเมืองทองธานี สถานที่สำคัญใกล้เคียง แม็คโคร แจ้งวัฒนะ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ โฮมโปร เทสโก้ โลตัส บิ๊ก ซี ซุปเปอร์ เซ็นเตอร์ ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ ไอที แสควร์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กระทรวงยุติธรรม กรมการกงศุล โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ลักษณะโครงการ: THE KEY แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน ขนาดห้องที่มี 1 ห้องนอน ขนาด 31 – 38 ตร.ม. 2 ห้องนอน ขนาด 62.50 ตร.ม. จำนวนตึก 2 อาคาร จำนวนชั้น 21 ชั้น จำนวนห้อง 988 ยูนิต ส่วนกลาง: THE KEY แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 45% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) - ค่ากองทุน(/ตร.ม) - สาธารณูปโภค สระว่ายน้ำ (ระบบเกลือ) ฟิตเนส ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านซัก อบ รีด สวนหย่อม Wifi Internet บริเวณ Lobby (และพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด) ระบบรักษาความปลอดภัยตลอดและกล้องวงจรปิด 24 ชม.   เพิ่มเติม: THE KEY แจ้งวัฒนะ (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://thekey.lh.co.th/th ข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2555
Grene แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

Grene แจ้งวัฒนะ : รีวิวคอนโด

กรีเน่ แจ้งวัฒนะ คอนโด High Rise สูง 22 ชั้น คอนโดใหม่บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน  และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสีชมพู สถานีศรีรัช รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น 1,900,000 บาท (ณ วันที่ 05/06/2013) ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 82,600 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท ปรีดา โฮลดิ้ง จำกัด ลักษณะคอนโด High Rise สูง 22 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้อง 376 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด 2 - 0 - 29.5 ไร่ ที่ตั้งโครงการ ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ปีที่สร้างเสร็จ ประมาณปลายปี 2557 สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ดิ อเวนิว มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สปอร์ตซิตี้ ลักษณะห้องและขนาดห้อง Studio ขนาด 22 - 23 ตารางเมตร 1 ห้องนอน ขนาด 32 - 35.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 59 - 61 ตารางเมตร 2 ห้องนอน (ดูเพล็กซ์) ขนาด 59 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่สวนหย่อยด้านหน้าอาคารและสวนส่วนกลางรอบโครงการ สระว่ายน้ำแบบ Infinity-edge pool และ Jacuzzi ฟิตเนสและเซาว์น่า ห้องอเนกประสงค์ Lobby Key Card Access Control ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-980-8811 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.grenecondo.com
Noble Ploenchit : รีวิวคอนโด

Noble Ploenchit : รีวิวคอนโด

กลางสี่แยกเพลินจิตตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักโครงการ Noble เพลินจิต คอนโด High Rise ที่กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ฮ๊อตสุดๆ ในชั่วโมงนี้ เพราะด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองที่มีความเจริญถึงขีดสุด และแวดล้อมไปด้วยแหล่งช็อปปิ้งสุดหรู อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงแรมระดับ 5 ดาว รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ อีกมากมาย ยิ่งทางโครงการได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมมาด้วยว่า มีการปรับปรุง ตกแต่งห้องตัวอย่างใหม่ แถมมีโปรโมชั่นใหม่แกะกล่องที่น่าสนใจมากๆ ทางทีมงานเลยรีบเข้าไปเก็บภาพห้องตัวอย่างมาอัพเดทกันครับ การเดินทาง พูดถึงเรื่องการเดินทางมายังโครงการ Noble เพลินจิต คงไม่มีวิธีไหนสะดวกไปกว่าการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS อีกแล้ว เพราะตัวสถานีเพลินจิตมีบันไดจ่ออยู่ถึงหน้าโครงการ แถมเมื่อโครงการแล้วเสร็จ Sky Walk ของตัวสถานีจะเชื่อมต่อเข้าไปยังโครงการด้วย ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตนี้ต้องบอกว่าเป็นสถานีที่มีเส้นทาง Sky Walk เชื่อมต่อครอบคลุมไปทั้งพื้นที่เลยทีเดียว เรียกว่าไม่ต้องเสียเวลาเดินลงจากสถานีไปเดินริมฟุตบาท หรือข้ามทางม้าลายตรงสี่แยกให้เสียเวลา หลายอาคารที่อยู่รอบๆ สถานีนี้มีสะพานเชื่อมต่อเข้าตัวอาคารเหมือนกันหมดครับ ไม่มีใครยอมน้อยหน้าใครเลย ดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเลยได้คะแนนด้านความสะดวกสบายไปเต็มๆ แถมยังรวดเร็วกำหนดเวลาได้ค่อนข้างแน่นอน ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหารถติดด้วย เว้นแต่ช่วงเวลาเร่งด่วนที่ปริมาณคนโดยสารแน่นเกินไปหน่อยเท่านั้นเองครับ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็ตามชื่อโครงการเลยครับ คือสถานีเพลินจิต ถ้ามาจากทางหมอชิต ออกจากรถไฟฟ้ามาแล้วก็จะเห็นโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่เลยนะครับ แต่ถ้ามาจากทางอ่อนนุชก็จะเห็นตึกมหาทุนพลาซ่า ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกันโครงการ ลงมาแล้วจะมีป้ายบอกทางเยอะแยะเลยนะครับ เราตามป้ายทางออก 1, 2 ไปเลยนะครับ ทางออก 2 จะเป็นทางเชื่อมเข้าตึก Park Venture ทางที่เราจะขึ้นไปดูห้องตัวอย่างกันครับ ส่วนทางออก 1 จะเป็นบันไดลงไปฝั่งที่ตั้งโครงการ ถ้าโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางออก 1 นี่แหละครับที่น่าจะเป็นทางเชื่อมเข้าโครงการ หากเดินตรงไปจะเป็น Sky Walk เชื่อไปยังตึก Wave Place และห้าง Central Embassy สำหรับการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ต้องบอกว่า สะดวกสบายตามสมควร เพราะทางโครงการเตรียมเส้นทางเข้าออกไว้ให้หลายทาง ทั้งทางด้านหน้าจากฝั่งถนนเพลินจิต ทางด้านหลังโครงการซึ่งอยู่ในซอยนายเลิศ และทางฝั่งถนนวิทยุที่ใช้ทางเชื่อมกับพื้นที่จอดรถของอาคาร Wave Place (Home Pro) นั่นเอง แต่ติดปัญหาที่ถนนเพลินจิตมีเกาะกลางกั้นยาวตลอดทั้งเส้น แถมยังไม่มีจุดกลับรถอีก ถ้าขับมาผิดฝั่งก็ต้องเลยตามเลย แล้วค่อยหาทางกลับมาที่โครงการกันอีกรอบ ไหนจะถนนวิทยุที่หาที่กลับรถยากอีก ข้อจำกัดในการขับรถมายังโครงการจึงเพิ่มเงื่อนไขมากขึ้น ถ้าจะให้ดีต้องศึกษาทางหนีทีไล่ของเส้นทางรอบๆ บริเวณนี้ให้ดีครับ เพราะมีซอยเล็กซอยน้อยเป็นตัวช่วยได้เยอะพอสมควร แผนที่แสดงให้เห็นทางเข้า-ออกโครงการที่มีทั้งหมด 3 ทาง ซึ่งทางเข้า-ออกหลักจะเป็นหมายเลข 1 ด้านที่ติดกันถนนเพลินจิต ทางที่ 2 จะเป็นฝั่งซอยนายเลิศ ส่วนทางที่ 3 จะเป็นฝั่งถนนวิทยุ ผ่านตึก Wave Place ก่อนเข้าโครงการ ทีนี้มาดูเส้นทางการเดินทางโดยรถยนต์กันบ้าง จากถนนสาทรสามารถใช้เส้นทางถนนวิทยุมาถึงแยกเพลินจิตได้เลย แล้วค่อยไปเลี้ยวเข้าตึก Wave Place หรือซอยนายเลิศก็ได้ ส่วนถ้ามาจากฝั่งสุขุมวิทก็ตรงมาเข้าถนนเพลินจิตได้เลย แต่จำไว้นิดนึงนะครับว่า ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเพลินจิตฝั่งเหนือ จึงต้องเบี่ยงรถมาอีกฟากของถนน ถ้าขับเพลินๆ ชิดซ้ายมาทางด้านฝั่งเพลินจิตใต้ก็คงต้องเลยยาวกันไป แล้วค่อยกลับตัวว่าจะเข้าซอยหลังสวนแล้วกลับมาทางถนนวิทยุ หรือจะเลยยาวไปถึงแยกราชประสงค์ดี เช่นเดียวกันกับด้านลงทางด่วนนะครับ ให้ลงฝั่งเพลินจิตเหนือ จะได้เลี้ยวเข้าโครงการได้ง่ายหน่อย ส่วนด้านขาขึ้นทางด่วน ก็มีด่านเก็บเงินอยู่ใกล้ๆ กับทางโครงการเลย จะออกนอกเมืองหรือข้ามไปฝั่งอื่นๆ ของกรุงเทพฯก็สะดวกครับ เลี้ยวออกจากโครงการมาไม่เกิน 300 เมตรเท่านั้น โดยภาพรวมแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็จัดว่าไม่แย่นะครับ ถนนบริเวณหน้าโครงการวิ่งสวนเลนมาจากทางแยกราชประสงค์ได้หนึ่งเลน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องปัญหารถติดก็ยังคงหนักหน่วงเอาเรื่องสำหรับย่านนี้ ต้องเป็นนอกช่วงเวลาเร่งด่วนเท่านั้นที่การจารจรยังลื่นไหลมากหน่อย แต่ถ้าช่วงเช้า-เย็นนี่สิรถจะติดหนักหนาเอาการเลย ซึ่งปัญหานี้ก็หลีกเลี่ยงกันยากหน่อย ยังไงชีวิตคนเมืองก็หนีไม่พ้นปัญหารถติดอยู่แล้วล่ะครับ เริ่มจากทางลงทางด่วนเลยนะครับ ให้เราชิดซ้ายเพื่อที่จะลงเพลินจิตฝั่งเหนือ ลงทางด่วนมาแล้วให้ชิดขวาไว้นะครับ เพื่อรอที่จะเลี้ยวขวาไปทางถนนวิทยุ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปจะเข้าถนนสุขุมวิทไปทางนานา อโศก เลี้ยวขวามานิดเดียวจะเห็นทางขึ้นทางด่วนตรงนี้แหละครับ ที่ลูกบ้านโนเบิล เพลินจิต อาจจะได้ใช้ประจำ เลยจากจุดขึ้นทางด่วนมาจะเจอสถานี BTS เพลินจิต ก็ใกล้ถึงโครงการแล้วครับ จากนั้นก็ถึงโครงการแล้วครับ แต่ตอนนี้ยังเข้าไม่ได้นะครับ เค้ากำลังก่อสร้างอยู่ ^_^ ส่วนการเดินทางไปที่สำนักงานขายที่ตึก Park Venture ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ ต้องมาลงทางด่วนอีกฝั่งนึงคือฝั่งเพลินจิตใต้นะครับ เริ่มจากทางลงทางด่วนเพลินจิตนะครับ ให้ชิดขวาไว้เพื่อที่จะตรงไปลงเพลินจิตฝั่งใต้ เบี่ยงออกทางขวา ตามป้ายเพลินจิตใต้ไปเลยครับ มองไปทางด้านขวามือก็จะเห็นตึกสูงๆ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ นั่นคือโครงการ Noble เพลินจิต นี่แหละครับ ลงสะพานมาแล้วขับชิดซ้ายยาวๆ เลยนะครับ จะเจอทางออกด้านซ้ายมือ ให้เรากลับรถไปทางถนนเพลินจิต กลับรถมาแล้วจะเป็นถนน 2 เลน เลียบทางด่วนย้อนกลับไปทางเพลินจิตครับ ออกมาถึงถนนเพลินจิตแล้วก็เลี้ยวซ้ายเลยครับ เลี้ยวซ้ายมานิดเดียวก็เจอ BTS สถานีเพลินจิตแล้วครับ จะผ่านตึกมหาทุนพลาซ่าที่อยู่ติดกับ BTS จากนั้นก็จะเจอตึก Park Venture แล้วล่ะครับ นอกเหนือจากนี้ การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็เห็นจะมีแต่พี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างนี่แหละครับที่น่าจะเป็นที่พึ่งพาได้ดี ยิ่งถ้ารีบๆ นี่คงต้องใช้บริการกันซักหน่อย ซึ่งหน้าโครงการก็มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่แล้วด้วย ออกมาจากโครงการก็โดดขึ้นรถได้เลย แต่ถ้าไม่ถนัดกับรถสองล้อ จากหน้าโครงการก็สามารถหาเรียกรถตุ๊กตุ๊ก สามล้อ หรือรถแท็กซี่ได้ง่ายไม่แพ้กัน รวมถึงรถเมล์ก็เช่นกันครับ เอาไว้เป็นทางเลือกในการเดินทางสำหรับวันที่ไม่อยากขับรถ วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ปัจจุบันโครงการ Noble  เพลินจิต อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ซึ่งคืบหน้าไปได้มากแล้ว ถ้าใครมีโอกาสผ่านไปผ่านมาบริเวณแยกเพลินจิต ก็คงจะได้เห็นภาพตึกที่กำลังก่อสร้างสูงมากกว่า 40 ชั้นแล้วในตอนนี้ แน่นอนว่าโครงการฮ็อตฮิตระดับนี้ก็ย่อมได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก เท่าที่รู้มาก็เห็นว่าห้องส่วนใหญ่ก็ถูกจับจองกันไปเยอะแล้ว ถ้าใครที่สนใจก็ลองแวะเข้าไปชมห้องตัวอย่างกันได้ที่สำนักงานขาย ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 16 ของอาคาร Park Ventures ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง ทีนี้เรามาดูรอบตัวโครงการกันก่อนดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าบริเวณนี้มี Landmark สำคัญๆ อยู่หลายแห่งด้วยกัน ทั้ง Central Embassy, สถานฑูตอังกฤษ, โรงแรมปาร์คนายเลิศ, ตึกมหาทุน, เพลินจิตเซ็นเตอร์, โรงแรม Novotel และ โรงแรม The Okura Prestige อันนี้แค่บริเวณใกล้ๆ ตัวสถานีเพลินจิตแบบคร่าวๆ เท่านั้นนะครับ ยิ่งถ้าเลยไปทางแยกราชประสงค์ ก็ยังมีโรงแรมใหญ่ๆ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารหรูมีชื่อ และโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ซึ่งแต่ละสถานที่ก็เป็นที่รู้จักกันดี เลยไม่ต้องสาธยายอะไรให้ยืดยาว เอาเป็นว่าศักยภาพเรื่องการอยู่อาศัยในย่านนี้เรียกว่าเพียบพร้อม ครบถ้วนในทุกๆ ด้าน สาธารณูปโภคต่างๆ ก็ครบครัน โรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ เอกชนล้วนแวดล้อมอยู่รอบตัวเลยทีเดียว สำหรับตัวโครงการ Noble เพลินจิต เป็นโครงการใหญ่ ประกอบไปด้วย 3 อาคารหลักซึ่งเป็นส่วนที่พักอาศัย และอีกหนึ่งอาคารทางด้านหน้าติดถนนเพลินจิตที่ทางโครงการจัดไว้เป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร และเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าด้วย ซึ่งในส่วนนี้ทางโครงการจะเป็นผู้ดูแลเอง จากโมเดลที่เราเห็นในสำนักงานขาย จะเห็นได้ว่าแต่ละอาคารก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่อาคาร A ซึ่งอยู่ทางด้านในสุดของโครงการ มีความสูงแค่ 14 ชั้น เป็นตึกที่เตี้ยที่สุดและแน่นอนว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกอาคารรอบๆ บังวิวซะมิดเลย แต่กลับได้เปรียบในเรื่องอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางมากที่สุด ถัดมาเป็นอาคาร B ที่อยู่ตรงกลาง สูง 51 ชั้น ตึกนี้จะวางตัวในแนวทิศเหนือใต้ เท่าที่รู้มาห้องพักส่วนใหญ่ในอาคารนี้จึงถูกจับจองไปอย่างรวดเร็ว เพราะไหนจะได้เรื่องวิวที่ดีกว่าอาคาร A และอยู่ในทิศทางที่ไม่ร้อนแดด จึงไม่น่าแปลกใจถ้าห้องฝั่งทิศใต้จะถูกจองเต็มก่อนเพื่อน ในขณะที่อาคาร C ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าโครงการ สูง 45 ชั้น กลับวางตัวในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก แน่นอนว่าอาจจะเสียเปรียบในเรื่องทิศทางห้องที่หันรับแดดแบบเต็มๆ แต่กลับได้เปรียบในเรื่องวิวมากกว่าเพราะถูกบังวิวน้อยกว่า และเดินเข้าจากทางหน้าโครงการใกล้กว่าด้วย ทางเชื่อมจากสถานี BTS เพลินจิต เข้าตัวโครงการที่ตึก D บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ของโครงการ เราจะมีเพื่อนบ้านมากกว่า 1,400 ยูนิตเลยทีเดียว ถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะไม่ใช่เล่นเลยนะครับ พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ แล้วจะอยู่ระหว่างอาคาร A และอาคาร​ B ซึ่งจะมีทั้ง สระว่ายน้ำ แยกสระเด็กกับจากุชชี่ไว้ต่างหาก ห้องออกกำลังกาย ห้องสตรีม สนามบาสเก็ตบอล และสวนหย่อม โดยพื้นที่สีเขียวนี่จะมีทั้งโซนด้านหน้า และสวนบนดาดฟ้าของอาคารด้วย คิดเป็นพื้นที่รวมก็ราวๆ 4 ไร่เห็นจะได้ ถ้าว่ากันตามตรงแล้วด้วยจำนวนยูนิตรวมมากกว่า 1,400 ยูนิต กับพื้นที่ส่วนกลางแค่นี้ ก็คงไม่น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานจริงซักเท่าไหร่ เช่นเดียวกับพื้นที่จอดรถของโครงการ ถึงแม้จะจัดมาให้มากถึง 70% แล้วก็ตาม แต่โครงการระดับนี้ที่ราคาค่าห้องทะลุ 10 ล้าน เรื่องที่จอดรถน่าจะต้องมีให้มากกว่านี้อีกหน่อย เพราะอย่างไรแล้วลูกบ้านแต่ละยูนิตก็น่าจะต้องมีรถส่วนตัวกันอยู่แล้ว เผลอๆ จะมีมากกว่ายูนิตละ 1 คันด้วยซ้ำไป ทีนี้ปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอก็อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เหมือนกันนะครับ จุดเด่นหนึ่งของโครงการ Noble เพลินจิต ก็คือการชูเรื่อง Private Elevator ได้ยินเพียงแค่นี้ ความรู้สึก Elegant และ Exclusive ก็ผุดขึ้นในมโนภาพทันที แน่นอนล่ะครับมีใครไม่ชอบความรู้สึกพิเศษของการมีลิฟท์ส่วนตัวมาจอดถึงหน้าประตูห้องบ้าง ซึ่งทางโครงการออกแบบมาให้ห้องพักทุกห้องมีโถงลิฟท์หน้าห้อง โดยในหนึ่งชั้นจึงมีสองห้องที่ใช้ลิฟท์ร่วมกันนั่นเอง แต่ในทางกลับกัน ด้วยความที่ถูกออกแบบมาให้ลิฟท์มีลักษณะการใช้งานแบบส่วนตัว ดังนั้นเราจึงไม่มีผู้ร่วมโดยสารลิฟท์ตัวเดียวกันแน่นอน ซึ่งถ้าหากขณะนั้นมีลูกบ้านห้องอื่นๆ ใช้งานลิฟท์อยู่ เราก็ต้องรอจนลิฟท์ไปส่งถึงจุดหมายก่อน ค่อยวิ่งกลับมารับลูกบ้านห้องถัดไป นอกจากลิฟท์ส่วนตัวแล้ว ทางโครงการก็จัดลิฟท์โดยสารส่วนกลางไว้สำหรับแต่ละตึกด้วยเช่นกัน อย่างน้อยก็น่าจะเอาไว้ใช้สำหรับโดยสารไปยังชั้นที่เป็นส่วนกลางได้นั่นเอง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นภาพรวมทั้งหมดของตัวโครงการที่เราเก็บข้อมูลมาจากการเยี่ยมชมในครั้งนี้ อาคาร A จะสูง 14 ชั้น เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด ทุกห้องจะหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำ โมเดลบริเวณสระว่ายน้ำที่อยู่ระหว่างตึก A กับตึก B อาคาร B จะเป็นอาคารที่สูงที่สุดคือ 51 ชั้น ห้องส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือและใต้ โดยทิศเหนือวิวจะโล่ง ส่วนทิศใต้ส่วนใหญ่วิวจะติด Park Venture อาคาร C สูง 46 ชั้น ห้องส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ทิศตะวันตกจะหันไปทางตึก Wave Place ส่วนทิศตะวันออกจะหันไปด้านทางด่วน ฝั่งนี้ข้อดีคือไม่มีตึกสูงบังวิว แต่ข้อเสียก็คือตอนเช้าก็จะได้รับแดดเต็มๆ พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงในส่วนของห้องตัวอย่างของ Noble เพลินจิตกันบ้าง อย่างที่บอกไปแล้วว่าทางโครงการมีการปรับปรุง ตกแต่งห้องตัวอย่างใหม่ทั้งหมด ซึ่งเราได้มีโอกาสเข้าไปเก็บภาพห้องใหม่มาให้ชมกันด้วย โดยห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดมาในครั้งนี้จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งคอนเซปต์ยังคงเน้นความโมเดิร์น ดูโอ่โถงอยู่สบาย โดยเราขออธิบายภาพรวมของลักษณะห้องให้เห็นก่อนละกันครับ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย ค่อยตามไปดูในรูปประกอบอีกครั้งนะครับ เมื่อเราเปิดประตูห้องจากส่วนกลางเข้ามาจะเจอกับโถงลิฟท์ส่วนตัวก่อน ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้จะจัดแบ่งการใช้งานไว้ร่วมกับ ห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ ตู้เก็บของ และชั้นเก็บรองเท้าที่ทางโครงการ Build-in มาให้เรียบร้อย หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมคอมเพรสเซอร์แอร์จึงเอามาแขวนไว้ด้านใน แทนที่จะเป็นด้านนอกตรงระเบียงเหมือนโครงการอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งเราเองก็อดสงสัยไม่ได้เช่นกัน สอบถามกับพนักงานขายแล้วก็ได้ความว่า ทางโครงการเลือกใช้วิธีการระบายความร้อนด้วยน้ำเหมือนกับที่โรงแรมใหญ่ๆ เค้าใช้กัน ดังนั้นทั้งเรื่องความร้อนและเรื่องเสียงดังรบกวนจึงหมดห่วงกันไปได้ ด้านล่างของห้องเก็บคอมเพรสเซอร์ทางโครงการใช้เป็นที่วางเครื่องซักผ้าฝาหน้า แต่เวลาใช้งานจริงๆ อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ถัดจากโถงลิฟท์เข้าไป จะมีประตูห้องอีกชั้น เปิดเข้าไปยังพื้นที่ห้องจริงๆ ซักที เข้ามาปุ๊ปก็จะเจอพื้นที่ครัว ซึ่งจัดการ Build-in ไว้ให้แล้วทั้งหมด และเห็นว่าปรับเปลี่ยนตรงส่วนของตู้เย็นให้ Build-in ซ่อนไว้หลังตู้ทั้งหมด ดูแล้วก็เป็นระเบียบเรียบร้อยดีทีเดียว ส่วนเครื่องครัวทั้งหมดจะได้ตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง หรือเทียบเท่า ซึ่งก็ให้มาทั้งเตาไฟฟ้า ตัวดูดควัน และเตาไมโครเวฟ พร้อมใช้งานกันเลย ถัดเข้ามาก็จะเป็นส่วนของ Living Area และห้องนอน โดยทางโครงการมีให้เลือกระหว่างห้องแบบที่ใช้บานสไลด์กันห้องนอน กับห้องที่กันห้องนอนแยกไว้เป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะถูกใจห้องแบบไหนมากกว่ากัน แต่โดยภาพรวมแล้ว ห้องสองแบบนี้ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ให้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่ต่างกันออกไปเท่านั้นเอง ฝ้าเพดานภายในห้องสูงเกือบ 2.7 เมตรนะครับ ทุกห้องเป็นแอร์แบบฝังฝ้าเพดาน อะไรที่เราเห็นในห้องตัวอย่างแบบใหม่นี้ มันจะเป็นสิ่งที่เราจะได้มาพร้อมห้องทั้งหมดนะครับ ทางโครงการมีการปรับโปรโมชั่นใหม่ จัดกันมาอย่างจุใจ โดยจะขายกันมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ตกแต่งเสร็จพร้อมเข้าอยู่ โต๊ะ ตู้ เตียง เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าเป๊ะทุกชิ้น ขาดแค่ของตกแต่งห้องสวยๆ งาม แล้วก็ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวแค่นั้นเอง เรามาดูแบบแรกกันก่อนนะครับ จะเป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 46.80 ตารางเมตร ลิฟท์ส่วนตัวของแต่ละห้องจะเปิดได้ 2 ด้านนะครับ เท่ากับว่าลิฟท์ 1 ตัวจะใช้ร่วมกัน 2 ห้องในแนวราบ ออกจากลิฟท์มาจะมีโถงเล็กๆ โถงตรงนี้จะเป็นสำหรับวางเครื่องซักผ้า แต่ต้องใช้แบบฝาหน้านะครับ ส่วนด้านบนจะเป็นจุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ ถัดมาจะเป็นตู้ 2 ตอน ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บรองเท้า ออกจากลิฟท์มาก็ถอดรองเท้าเก็บใส่ตู้ได้เลย ด้านบนจะเป็นตู้เก็บของทั่วไป คราวนี้เราเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยดีกว่า เข้ามาในห้องก็จะเป็นส่วนของครัว และโต๊ะทานอาหารก่อนเลยครับ เคาน์เตอร์ครัวขนาดจะกระทัดรัดประมาณนี้นะครับ ซิงค์ล้างจานแบบฝังของ Mex เตาไฟฟ้า 2 หัวของ smeg มาพร้อมฮูดดูดควันยี่ห้อเดียวกัน โต๊ะทานอาหารจะมีที่นั่งทั้งแบบยาวติดกับผนังและเก้าอีกแยกอีกต่างหาก ข้างๆ กับเคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้เก็บของเล็กๆ Built in ไว้ติดกับผนัง ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอน ระหว่างห้องนอนกับห้องครัวจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องนอนเหมือนจะรวมห้องนั่งเล่นไว้ด้วยนะครับ เพราะพื้นที่ปลายเตียงจะวางทีวีและโซฟาไว้ด้วย แต่ระยะห่างค่อนข้างจะแคบไปสักหน่อย ถ้าจะวางทีวีจอใหญ่ๆ คงต้องนั่งดูอยู่บนที่นอนถึงจะได้ระยะครับ ถ้านั่งที่โซฟาอาจจะใกล้เกินไป โซฟาที่ได้จะประมาณนี้ครับ เป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ชั้นวางทีวีเล็กๆ แต่ถ้าใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะได้พื้นที่วางของเพิ่มขึ้นอีก ขยับขึ้นมาดูที่เตียงนอน สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบเลยครับ แต่ถ้าวางเตียง 5 ฟุต จะดูไม่อึดอัดเท่าไหร่ มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้อีก แอร์จะเป็นแบบฝังฝ้านะครับ หันเข้าหาเตียงแบบนี้ ห้องน้ำจะอยู่ข้างๆ เตียงแบบนี้เลย การจัดวางสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำก็ประมาณนี้ครับ กระจกส่องหน้าจะได้บานยาวเต็มพื้นที่คู่กับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ที่กระจกส่องหน้าทั้ง 2 ฝั่งสามารถเปิดได้แบบนี้นะครับ จะเป็นช่องไว้สำหรับเก็บของเล็กๆ อยู่ทั้ง 2 ด้าน อ่างล้างหน้าจะใช้ของ Kohler จะเป็นเคาน์เตอร์ยาว ทำให้มีที่วางของได้เยอะดีครับ ใต้อ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของให้อีกต่างหาก โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ข้างเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ใช้สุขภัณฑ์ของ Kohler เหมือนกันครับ อีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built in ฝังผนังอยู่ในห้องน้ำให้เลยนะครับ ตู้จะเป็นบานเปิดแบบนี้นะครับ จะได้ 2 ตู้ ด้านในสุดของห้องน้ำจะเป็น Shower Box กั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ ชุดฝักบัว จะมี Rain Shower ให้ด้วย ขนาดของ Shower Box อาจจะพอดีตัวอยู่สักหน่อยนะครับ แต่ก็ไม่ถือว่าเล็กจนดูอึดอัด ออกมาดูที่อีกฝั่งของเตียง จะเป็นระเบียงที่ยาวตลอดแนวของห้อง ระเบียงจะใช้ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน สำหรับเปิดปิด จะเป็นออกจะเป็น 3 บล็อคนะครับ เราออกมาดูด้านนอก ขนาดของระเบียงจะเป็นระเบียงเล็กๆ แบบนี้นะครับ อาจจะใช้งานได้ไม่เต็มที่สักเท่าไหร่ ระเบียงจะถูกกั้นด้วยแผงคอนกรีตแบบนี้นะครับ เพื่อความสวยงามของโครงสร้างด้านนอก ส่วนอีกห้องจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนเหมือนกันครับ แต่ขนาดจะใหญ่ขึ้นมาหน่อยประมาณ 58 ตารางเมตร หน้าตาภายใน Private Lift ของแต่ล่ะห้อง จะมีประตูเข้าออก 2 ด้าน ใช้ร่วมกัน 2 ห้อง ออกมาจากลิฟท์แล้วก็จะเจอโถงเล็กๆ เหมือนห้องก่อนหน้านี้นะครับ มีตู้เก็บเครื่องซักผ้าและคอมเพรสเซอร์แอร์ เหมือนกัน ข้างๆ กันก็เป็นตู้เก็บของ เก็บรองเท้า เข้ามาดูในห้องกันต่อเลยครับ เข้ามาแล้วจะเจอส่วนของครัวก่อนเลยครับ ข้างๆ เคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้เย็น Built in ฝังผนังไว้ให้ด้วยนะครับ ด้านบนเป็นตู้ลอยเก็บของ เตาไฟฟ้าเซรามิค 2 หัว ของ smeg ฮูดดูดควันก็ของ smeg เหมือนกันนะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูด้วย ^_^ ใต้ซิ้งค์ล้างจานจะตู้เก็บของและถังขยะเล็กๆ ถัดมาจะเป็นลิ้นชัก 3 ชั้น สำหรับเก็บจาน ชาม ช้อน ส้อม ช่องวางไมโครเวฟจะอยู่ติดกับลิ้นชัก ฝั่งตรงข้ามกับส่วนครัวจะเป็นมุมโต๊ะทานอาหาร ขนาด 4 ท่าน ที่ผนัง Built in เป็นตู้โชว์ ทำให้ดูโปร่งขึ้นเยอะเลยครับ ต่อจากโต๊ะทานอาหาร เดี๋ยวเราไปดูที่ Living Area กันต่อ ส่วน Living Area ที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่าห้องเมื่อกี้พอสมควร ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาจึงได้ระยะมากขึ้น สามารถวางทีวีจอใหญ่ได้ตามใจเลยครับ สามารถวางโซฟาตัวยาว และเก้าอี้ อาร์มแชร์อีก 2 ตัวได้สบายๆ ส่วนชั้นวางทีวี Built in มาให้พร้อมกับตู้โชว์ ระเบียงเล็กๆ อยู่ติดกับส่วน Living Area ระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ที่ระเบียงจะดรอปพื้นลงมาอีกนิดหน่อยนะครับ ขยับเข้ามาดูกันต่อที่ห้องนอน ห้องนอนสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบเลยครับ ปลายเตียง Built in เป็นชั้นวางทีวี พร้อมกับตู้บานโปร่งแสง ภายในห้องนอนก็จะมีระเบียงเล็กๆ ให้อีก 2 ช่อง ส่วนอีกด้านของห้องนอนจะเป็นห้องน้ำ ที่หน้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้าให้ก่อน 1 ตู้ การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะคล้ายๆ กับห้อง Type แรกเลยนะครับ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแนวยาว ตัวท็อปเป็นหินแกรนิต ตู้เก็บของใต้อ่างล่างหน้า ที่กระจกส่องหน้ามีตู้เก็บของเล็กๆ ซ่อนอยู่เหมือนกัน ฝั่งตรงข้ามจะมีตู้เสื้อผ้าให้อีก 1 ตู้ Shower Box จะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้า ใน Shower Box จะดรอปพื้นลงมานิดหน่อยนะครับ เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปส่วนอื่น ชุดฝักบัวและ Rain Shower ส่วนโถสุขภัณฑ์จะหลบเข้ามาอยู่ด้านในต่อจาก Shower Box ว่ากันมาด้วยเรื่องจุดเด่นของห้องแล้วก็ขอเอ่ยถึงข้อด้อยเล็กๆ น้อยๆที่สะดุดความรู้สึกเราซักหน่อยดีกว่า ซึ่งก็คือ “ระเบียง” ในแต่ละห้องทางโครงการมีระเบียงมาให้นะครับ แต่พื้นที่ระเบียงกว้างแค่ 60 เซนติเมตรเท่านั้น แถมยังไม่สามารถเปิดได้เต็มหน้ากว้างห้องอีก เนื่องจากติดที่โครงสร้างของตัวอาคารที่เป็นโครงเหล็กจากด้านนอก ทำให้ระเบียงที่ได้มาทั้งเล็กและแคบ อาจจะใช้งานลำบากหน่อยไม่ว่าจะตากผ้า หรือปลูกต้นไม้ก็มีพื้นที่จำกัดมากครับ แต่ถ้าจะออกไปยืนชมวิว รับลมเย็นๆ ก็พอไหวอยู่นะ ถ้าบ้านไหนต้องซักผ้าทีละเยอะๆ อาจจะมีปัญหาเรื่องพื้นที่ในการตากผ้ากันหน่อย ซึ่งก็พอจะแก้ไขได้ด้วยการซื้อเครื่องอบผ้ามาใช้อีกซักตัว หรือส่งเสื้อผ้าไปร้านซักรีดเลยก็สะดวกดีนะครับ นอกเหนือจากนี้ในส่วนอื่นๆ ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีทีเดียวเลย ส่วนใครจะถูกใจห้องแบบไหนมากกว่ากัน หรืออยากได้ห้องใหญ่ที่เป็นแบบห้อง combine ก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมที่สำนักงานขายกันดูครับ ยังไงซะสิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น การได้เห็นห้องด้วยตาตัวเองก็ย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ จริงมั้ยครับ
B-Loft สุขุมวิท 115 : รีวิวคอนโด

B-Loft สุขุมวิท 115 : รีวิวคอนโด

เลยมาดูคอนโดในแนวรถไฟฟ้าในอนาคตกันบ้างกับ B-Loft สุขุมวิท 115 ในเครือ Origin อีกเช่นเคย ซึ่งตัวโครงการมีความเหมือนกับ B-Loft ในซอยสุขุมวิท 109 อยู่มาก ทั้งเรื่องขนาดห้อง และ Lay out ห้อง และยังใช้สำนักงานขายเดียวกันด้วย ตัวตึกเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ดังนั้นภาพในห้องตัวอย่างของ 2 โครงการนี้จึงเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน ขนาดห้องของ B-Loft สุขุมวิท 115 จะเริ่มต้นที่ 25 ตร.ม. ปลายๆ ไปจนถึงขนาด 33 ตร.ม. และมีห้องขนาดพิเศษที่ 44 ตร.ม. ซึ่งมีเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น ในส่วนของห้องพักทั้งหมดขายกันมาแบบห้องเปล่าๆ พร้อมสุขภัณฑ์มาตรฐาน Cotto เรื่อง Facility ส่วนกลางก็มีมาให้ครบทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวน แต่มีขนาดเล็กและมีพื้นที่จำกัดจนดูเหมือนจะไม่สามารถใช้งานได้จริงตามสไตล์ Origin เลย เรื่องสาธารณูปโภคอื่นๆ ตามที่คุยคิดว่าพอโครงการสร้างเสร็จน่าจะมี Shutter Bus ให้บริการรับส่งถึงรถไฟฟ้าด้วย ยังไงก็ต้องรอดูกันอีกที และที่ดูแล้วน่าจะติดขัดอีกเรื่องก็คือเรื่องที่จอดรถ ซึ่งทางโครงการจัดไว้เพียง 35% เท่านั้น จนคิดว่าไม่น่าจะเพียงพอต่อจำนวนลูกบ้านที่จะเข้าอาศัยอยู่ เรื่องขนาดและคุณภาพห้องในระดับราคาเริ่มต้นที่หลักครึ่งแสนต่อตารางเมตรของโครงการ B-Loft ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ครับ แต่สำหรับการมองเผื่อลงทุนคงต้องวิเคราะห์กันเยอะๆ หน่อย เพราะยังไม่แน่ใจว่าพื้นที่ว่างๆ ในซอยจะมีโครงการอื่นขึ้นอีกมั้ย ในเบื้องต้นเรื่องวิวทิวทัศน์รอบๆ โครงการจึงไม่ใช่เรื่องน่าห่วงนัก เรื่องทำเลที่ตั้งถ้าเป็นปัจจุบันอาจจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไม่สะดวกนัก เพราะรถไฟฟ้า BTS หมดระยะที่สถานีแบริ่งเท่านั้น ยังต้องอาศัยการต่อรถมาอีกเกือบ 4 กิโลเมตรกว่าจะถึงปากซอยสุขุมวิท 115 แต่ถ้าในอนาคตที่รถไฟฟ้าเปิดใช้งานถึงสถานีปู่เจ้าแล้ว คนที่ไม่มีรถส่วนตัวคงเดินทางได้สะดวกขึ้นแน่นอน จากปากซอยสุขุมวิท 115 เข้ามาอีก400 เมตรถึงจะถึงตัวโครงการซึ่งตั้งอยู่ในซอยอภิชาติ 3 อีกที ถ้าไม่อยากเดินบริเวณปากซอยมีพี่วินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่ ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัวนั้น มีทั้งเส้นทางในซอยที่ไปออกถนนเทพารักษ์ได้ ถนนสุขุมวิทเส้นทางสายหลักไปออกบางนา หรือจะอาศัยเส้นทางถนนวงแหวน หรือเลี่ยงมาใช้สะพานภูมิพลเข้าเมืองก็สะดวกใช้ได้ พื้นที่โดยรอบโครงการเงียบมากๆ และยังเป็นซอยตัน ตอนกลางคืนจัดว่าเปลี่ยวเอาเรื่องอยู่ ไม่เหมาะกับการเดินเข้าซอยตัวคนเดียวเลย ในระยะเดินถึงไม่มีร้านค้าร้านอาหารให้พึ่งพาได้เลย ต้องออกไปแถวๆ ตลาดสำโรง หรือ อิมพีเรียล ถึงจะอุดมสมบูรณ์หน่อย แต่ถ้าต้องการเดินห้างช๊อปปิ้งก็ต้องเลยไปถึงเซ็นทรัลบางนา หรือเมกะบางนานู่นแน่ะ เรื่องความเจริญของพื้นที่รอบๆ คงต้องรอดูหลังจากรถไฟฟ้าเปิดใช้บริการถึงสถานีปู่เจ้าแล้ว ถึงจะรู้ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน