Tag : คอนโดย่านแบริ่ง

3 ผลลัพธ์
Lumpini Ville Sukhumvit 76 – Bearing Station 2 – ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 76 – แบริ่ง สเตชั่น 2 : รีวิวคอนโด

Lumpini Ville Sukhumvit 76 – Bearing Station 2 – ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 76 – แบริ่ง สเตชั่น 2 : รีวิวคอนโด

Lumpini Ville Sukhumvit 76-Bearing Station 2 (ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 76-แบริ่ง สเตชั่น 2 )- คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เพียง 1 กิโลเมตร สะดวกทุกการเดินทาง   รายละเอียดโครงการ เจ้าของโครงการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะคอนโด คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น พื้นที่โครงการ 3-2-94.5 ไร่ จำนวนห้อง 406 ยูนิต ร้านค้า 4 ยูนิต ที่จอดรถ 132 คัน ที่ตั้งโครงการ ซอยสุขุมวิท 76 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง เซ็นเตอร์พ้อยท์ สตูดิโอ อิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง บิ๊กซี สาขาสำโรง ไบเทค บางนา โรงพยาบาล สำโรงการแพทย์ โรงพยาบาล จุฬาเวช โรงพยาบาล มนารมย์   ลักษณะห้องและขนาดห้อง แบบสแตนดาร์ด ขนาด 24 ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตร.ม. แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 39 ตร.ม.     สิ่งอำนวยความสะดวก ฟิตเนสโซน ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม ห้องเฮ้าส์เวิร์ค ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม ห้องเปี่ยมสุข สวนรวมใจ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 02-393-4476 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.lpn.co.th/
Manhattan Park Peninsula : รีวิวคอนโด

Manhattan Park Peninsula : รีวิวคอนโด

ผ่านไปผ่านมาในซอยแบริ่งช่วงต้นๆ ซอย หลายคนอาจจะสังเกตุเห็นคอนโดใหม่ๆ ขึ้นเต็มไปหมด หรือไม่ก็สำนักงานขายใหม่ๆ ก็มีให้เห็นมากมาย หนึ่งในนั้นต้องมีสำนักงานขายของ Manhattan Park Peninsula แน่นอน คราวนี้เราเลยถือโอกาสแวะเข้าไปเก็บข้อมูลมาฝาก เพราะรู้สึกสะดุดตากับภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูหรูหราตั้งแต่สำนักงานขายเลยทีเดียว   การเดินทาง การเดินทางมายังซอยแบริ่ง ปัจจุบันสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS พอมาถึงสถานีแบริ่งก็แค่เดินต่อเข้ามาในซอย หรือเลือกต่อรถเข้ามาอีกทอดก็สะดวกไม่แพ้กัน สำหรับตัวโครงการ Manhattan Park Peninsula นั้นตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 13 ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้ามากพอสมควรเลยทีเดียว ด้วยระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร คงไม่เหมาะกับการเดินเท่าไหร่ ถ้าต้องเดินไปกลับทุกๆ วันคงไม่สนุกแน่ ดังนั้นการเลือกนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาที่ตัวโครงการ หรืออย่างน้อยก็นั่งรถสองแถวมาลงที่ปากซอยแบริ่ง 13 จึงเป็นการเดินทางที่จำเป็นครับ ในขณะที่รถไฟฟ้าจัดว่าเป็นการเดินทางหลักซึ่งเป็นจุดขายแล้ว การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปยังจุดที่รถไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ออกมาที่ปากซอยแบริ่งก็มีทั้งรถแท็กซี่ รถสองแถว และรถเมล์ให้เลือกได้หลายสายเช่นกัน ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซอยแบริ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ ถนนในซอยเป็นถนนหลักสายใหญ่ที่มีปริมาณรถสัญจรมากเกือบตลอดเวลา ถ้าใครที่ต้องการเดินทางเข้าออกเมืองก็สามารถเลือกใช้เส้นทางสุขุมวิทตามปกติ หรือจะไปขึ้นทางด่วนด่านบางนาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักก็ได้ รวมถึงเส้นทางวงแหวนรอบนอก และสะพานอุตสาหกรรมก็เป็นอีกเส้นทางที่ใช้เดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพได้สะดวกเช่นกัน จะติดก็แค่เรื่องปริมาณรถที่มากมายเกือบตลอดวันและทุกวัน การจราจรแถบนี้จึงหนาแน่นจนถึงขั้นติดขัดอยู่เป็นประจำ จะไปไหนมาไหนก็ต้องเผื่อเวลากันให้มากหน่อย แผนที่โครงการครับ แผนที่รอบๆ โครงการ ตัวโครงการจะอยู่บนถนนสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง ใกล้กับ BTS สถานีแบงริ่ง ระยะทางจากตัวโครงการถึงสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 1.6 กม. ครับ วันนี้ขอเริ่มต้นการเดินทางจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปสมุทรปราการ ให้เบี่ยงซ้ายขึ้นสะพานนะครับ เมื่อลงสะพานมาก็จะเป็นถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ด้านซ้ายมือจะเป็น BITEC บางนา เลยมาอีกหน่อยก็จะเห็น BTS บางนา ให้ขับตรงไปอีกครับ ตรงมาอีกจะเจอ BTS แบริ่งแล้วล่ะครับ ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งครับ จากตัวสถานี BTS แบริ่งมาประมาณ 220 เมตร ก็จะถึงซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ หน้าปากซอยจะมี 7-11 แล้วร้านขายของตามริมฟุตบาทอยู่พอสมควรครับ สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่ด้วยเช่นกัน บรรยากาศภายในซอยครับ ในซอยจะมีคอนโดขึ้นค่อยข้างยเอะสังเกตจากป้ายโฆษณาที่ติดกันเต้มข้างทาง ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ จนถึง ซ.แบริ่ง 13 จะอยู่ทางซ้ายมือนะครับ ในซอยจะค่อยข้างแคบไปสักหน่อยนะครับ ระยะทางจากปากซอยแบริ่ง 13 ถึงตัวโครงการประมาณ 200 เมตร วิเคราะห์ตัวโครงการ Manhattan Park Peninsula เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น โดยที่ชั้นดาดฟ้าเป็นศูนย์รวม Facility ส่วนกลางไว้ทั้งหมด ตั้งแต่สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น สวนหย่อม ลู่วิ่งลอยฟ้า ห้องฟิตเนส และห้องซาวน่า ทุกอย่างนี้อยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมของอาคารรูปทรงหรูหราที่ได้รับแรงบรรดาใจมาจากมหานครนิวยอร์ค นอกจากที่บริเวณชั้น 1 โครงการจัดสวนพร้อมน้ำพุใน Private Garden เพื่อสร้างบรรยากาศแบบ Central Park ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทางโครงการชูเป็นจุดขายอันโดดเด่น เชื่อว่าถ้าใครได้เห็นแผ่นพับและโมเดลของอาคารแล้วคงจินตนาการไปถึง Life Style อันหรูหรากลางมหานครนิวยอร์คได้ไม่ยากเลยครับ บริเวณรอบๆ โครงการเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชุมชน และมีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก แต่ก็ยังคงเงียบสงบอยู่เพราะที่ตั้งโครงการอยู่ลึกเข้ามากลางๆ ซอยแบริ่ง 13 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถออกไปทางซอยลาซาล 24 ได้ด้วยเช่นกัน เรื่องปากท้องความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกินเท่าที่เห็นดูจะมีตัวเลือกไม่มากนัก สู้ทางโซนปากซอยสุขุมวิท 105 และ 107 ไม่ได้ เพราะแถบนั้นมีร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารเพียบ ถ้าต้องการจะจับจ่ายซื้อของใช้จำเป็นอาจจะต้องออกไปไกลซักหน่อย ซึ่งในรัศมีใกล้ๆ ก็มีทั้งเซนทรัลบางนา, บิ๊กซีสำโรง หรือจะเลยไปถึงเมกะบางนาเลยก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ยังมีโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอยู่ใกล้ๆ สำหรับครอบครัวที่มีลูกอยู่ในวัยเรียน จึงค่อนข้างสะดวกถ้าเลือกเข้าเรียนในโรงเรียนเหล่านี้ แต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตค่อนข้างมากนะครับ เฉลี่ยแล้วเกือบๆ 30 ห้องเห็นจะได้ กับการที่มีลิฟท์โดยสารแค่ 2 ตัว อาจจะน้อยไปซักหน่อย รวมถึงที่จอดรถด้วย ซึ่งมีมาแค่ 40% ดูยังไงแล้วก็ไม่พอจอดจริงๆ แน่นอน ลูกบ้านที่มีรถส่วนตัวคงต้องเตรียมรับมือกับปัญหาการแย่งที่จอดรถไว้ด้วยก็ดีนะครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันอาจจะต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกันหน่อย เพราะมีลูกบ้านมากกว่า 200 ห้อง ยังไงส่วนกลางก็ไม่สามารถรองรับได้หมดอยู่แล้ว อาคารรูปทรงหรูหราที่ได้รับแรงบรรดาใจมาจากมหานครนิวยอร์ค ชั้น 2-6 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดนะครับ ตกแล้วจะมียูนิตประมาณ 34 ยูนิตต่อชั้น ส่วนที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 และรอบๆ อาคาร Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 7-8 ทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่สีเขียว ยูนิตจะลดลงเหลือชั้นละประมาณ 24 ยูนิต พาชมห้องตัวอย่าง ห้องตัวอย่างของโครงการ Manhattan Park Peninsula มีให้ชมเพียงแค่แบบเดียว คือห้องแบบ 1 ห้องนอน ในขนาด 31 ตร.ม.  เปิดประตูเข้าห้องมาก็จะเจอในส่วนของ Living Area ก่อน บริเวณนี้วางชุดโซฟาเล็กๆ ได้หนึ่งชุด แล้วยังพอเหลือพื้นที่อีกเล็กน้อยให้วางตู้เก็บของหรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้ ส่วนผนังอีกด้านเป็นชั้นวางทีวีซึ่งอยู่ในระยะที่กำลังดูทีวีได้พอเหมาะพอดี ด้านหลังชั้นวางทีวีเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีการกั้นพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกให้ แต่ทางโครงการไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะครับต้องติดตั้งกันเอง ถ้าประหยัดหน่อยก็เลือกติดเป็นผ้าม่านพลาสติกแทนได้ แต่เรื่องความสวยงามอาจจะลดน้อยลงไป โซนด้านในห้องเป็นพื้นที่ของห้องนอนและห้องครัวซึ่งวางอยู่ในแนวเดียวกัน มาดูที่ห้องนอนกันก่อน ประตูห้องนอนเป็นประตูบานสวิงแบบปกติทั่วไปนะครับ เปิดเข้าห้องมากก็จะเห็นพื้นที่ในห้องที่ค่อนข้างกระทัดรัด วางเตียง 5 ฟุตลงไปแล้วก็แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้ตกแต่งเพิ่มเติมได้อีก ในห้องจึงมีเพียงตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งไว้เป็นมุมแต่งตัวได้อีกนิดหน่อยเท่านั้น ตัวห้องครัวแยกไว้เป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทางโครงการให้ความสำคัญกับห้องครัวด้วยการจัดพื้นที่ของห้องครัวไว้กว้างพอสมควรเลยถ้าเทียบกับขนาดห้อง เพราะนอกจากเคาน์เตอร์ครัวและชั้นวางของที่ติดตั้งมาให้แล้ว ในครัวยังเหลือพื้นที่มากพอให้วางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่ได้อีกชุดโดยที่ยังเหลือที่ให้เดินได้อย่างสบายๆ ห้องตัวมีพื้นที่ติดกับระเบียงจึงสามารถเปิดประตูออกเพื่อช่วยระบายกลิ่นจากการทำอาหารได้ และบริเวณระเบียงก็อีกนิดหน่อยให้พอวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้บ้าง จริงๆ แล้ว Lay out ห้องที่มีโชว์ให้ดู ก็ไม่ได้แปลกแตกต่างจากโครงอื่นๆ มากนัก ถึงจะบอกว่าห้องตัวอย่างนี้มีขนาดกว้างถึง 31 ตร.ม. แล้วก็ตาม แต่บรรยากาศภายในห้องกลับให้ความรู้สึกว่าห้องแคบกว่าที่ควรจะเป็น อาจจะเนื่องด้วยการจัดสรรพื้นที่ หรือการเลือกใช้สีและเฟอร์นิเจอร์ในห้องตัวอย่าง ที่ทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเป็นห้องจริงคงอยู่ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้วทางโครงการขายห้องมาแบบห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อะไรแถมมาให้มากนอกจากชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเฟอร์นิเจอร์จาก SB Furniture เท่านั้น ซึ่งน่าผิดหวังอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะจากความคาดหวังแรกตอนเห็นหน้าตาอาคารของ Manhattan และสำนักงานขายที่ภายนอกดูหรูหราอลังการ แต่แบบห้องและห้องตัวอย่างที่โชว์กลับดูไม่สมฐานะเอาซะเลย งานนี้คงต้องอาศัยไอเดียและทักษะในการตกแต่งห้องตามสไตล์ส่วนตัวของเจ้าของห้องล่ะครับ ว่าจะทำให้ห้องตัวเองสวยสะดุดตาน่าอยู่ได้มากแค่ไหน ห้อง Type A 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับส่วนของ Living Area ก่อนนะครับ มุมนี้จะเป็นมุมที่มองจากโซฟาไปยังชั้นวางทีวี ที่เห็นเป็นห้องอยู่ข้างๆ นั่นคือห้องน้ำนะครับ มองกลับมาฝั่งที่วางโซฟาบ้างนะครับ เสียดายวันที่เข้าไปโครงการไม่ได้เอาโซฟามาวางด้วย จากส่วนของ Living Area ไปด้านในจะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน และห้องครัวครับ มาดูที่ห้องน้ำกันก่อนนะครับ โถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าทรงกลม ส่วนอาบน้ำนะครับ อย่างที่บอกว่าทางโครงการไม่ได้ติดประตูบานเลื่อนมาให้ด้วยนะครับ เพียงเพียงขอบปูนกั้นระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้ง มาต่อกันที่ห้องนอนนะครับ ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ครับ พื้นที่ปลายเตียงจะมีพื้นที่ว่างเหลือเพียงเล็กน้อย หากต้องการวางทีวีอาจจะต้องใช้แบบแขวนเอาครับ ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่ด้านซ้ายของเตียง และสุดท้ายคือห้องครัวนะครับ ห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนปิดกั้นไว้ ฝั่งซ้ายจะเป็นเค้าเตอร์ครัว ส่วนทางขวาจะเป็นโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ท่าน ภายในครัวจะเป็นเค้าเตอร์ทำอาคาร และมีชั้นลอยเก็บของอยู่ด้านบนครับ แต่จะไม่มีช่องใส่ไมโครเวฟให้นะครับ อาจจะต้องวางไว้ข้างๆ ผนัง ตำแหน่งของตู้เย้นอยู่ด้านในสุดติดกับระเบียง ซิ้งค์ล้างจานแบบฝัง เตาไฟฟ้าของ MEX Type B แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 39 ตารางเมตร Type C แบบ 1 ห้องนอนขนาด 24 ตารางเมตร ความคุ้มค่าน่าลงทุน เจ้าของโครงการ Manhattan Park Peninsula ถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบภาพลักษณ์ภายนอกอาคารมีความโดดเด่นมาก ซึ่งถือว่าเป็นตัวดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่การออกแบบภายในห้องพักกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญในการตกแต่งห้องตัวอย่างให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่หรูหราภายนอกเท่าที่ควร ทำให้ความประทับใจแรกที่เห็นจากภายนอกสำนักงานขายลดลงไปอย่างน่าใจหาย เรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ลึกเข้ามาในซอยแบริ่ง 13 ทำให้บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบเป็นส่วนตัวมาก จึงค่อนข้างเหมาะกับการอยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้ามากเกินจะเดินได้สะดวก แถมบริเวณใกล้ๆ ยังไม่ค่อยมีร้านค้า ร้านอาหารให้พึ่งพามากนัก เพราะเป็นแหล่งชุมชนและแหล่งอุตสากรรมขนาดเล็กเสียมากกว่า ต่างจากโซนปากซอยแบริ่งที่มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารให้เลือกหลากหลายมากกว่ามาก ทำให้ทำเลนี้อาจจะหาคนเช่ายากหน่อย เพราะมีโครงการอื่นๆ ที่อยู่ค่อนทางปากซอยสุขุมวิท 107 อีกมากเป็นตัวเปรียบเทียบ การหวังจะลงทุนห้องปล่อยเช่าจึงอาจจะได้ผลตอบแทนช้า หรือไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรก็ได้ครับ
VERY สุขุมวิท 72 : รีวิวคอนโด

VERY สุขุมวิท 72 : รีวิวคอนโด

ปัจจุบันสถานีปลายทางรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ได้รับความสนใจไม่น้อยเลย นอกจากในซอยแบริ่งที่มีคอนโดมิเนียมโครงการต่างๆ เกิดขึ้นมากมายแล้ว ทำเลในซอยฝั่งตรงข้ามอย่างซอยสุขุมวิท 72 ก็มี Very Condo สุขุมวิท 72 อีกหนึ่งโครงการที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายนี้ เราเลยไม่พลาดที่จะเก็บข้อมูลเอามาฝากกันครับ   การเดินทาง   ถ้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า การเดินทางหลักๆ ก็คงหนีไม่พ้นการใช้รถไฟฟ้า BTS เป็นตัวเลือกแรก นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีแบริ่งแล้วออกทางออกที่ 4 เดินต่อไปทางซอยสุขุมวิท 72 และเข้าซอยอีกเล็กน้อย ก็จะถึง Very Condo ระยะทางรวมแล้วไม่เกิน 400 เมตร จัดว่าเป็นระยะที่กำลังเดินได้สบายๆ โดยไม่ต้องพึ่งพารถสองแถว หรือวินมอเตอร์ไซค์เลยก็ได้ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็จัดว่าสะดวกไม่แพ้กัน เพราะถนนหนทางในย่านนี้มีเส้นทางเลี่ยงเข้าออกเมืองได้หลายทาง ทั้งด่านทางด่วนบางนา และทางด่วนสุขสวัสดิ์-บางพลี ถนนวงแหวนรอบนอก สะพานภูมิพล (สะพานอุตสาหกรรม) รวมถึงถนนสายหลักๆ อย่างถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ เรียกได้ว่ามีทางไปได้เยอะ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเส้นทางไหนจะสะดวกมากกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ คือเรื่องปัญหารถติดที่ยังไงก็หนีไม่พ้นทั้งช่วงเช้าและเย็น การเดินทางครั้งนี้เราลงมาจากทางด่วนบางนา แล้วตรงเข้ามาตามถนนสุขุมวิท ซึ่งซอยสุขุมวิท 72 อยู่เยื้องๆ กับซอยแบริ่ง ดังนั้นจึงต้องเลยขึ้นไปอีกเล็กน้อยเพื่อกลับรถมายังซอยสุขุมวิท 72 พอเข้าซอยมาแล้วก็เลี้ยวขวาที่แยกแรก ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้ๆ แยกนี่เลย นับระยะทางจากปากซอยสุขุมวิท 72 เข้ามาถือว่าไม่ไกลเลย ส่วนการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ก็สะดวกเช่นกัน เพราะถนนสุขุมวิทแถบนี้ รถราคึกคักดีทีเดียว เส้นทางระยะใกล้ๆ ก็มีรถสองแถวให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงรถเมล์อีกหลายสาย และแน่นอนว่ารถแท็กซี่ก็มีเยอะแยะมากมาก โดยเฉพาะบริเวณทางลงรถไฟฟ้า ดังนั้นการเดินทางไม่ว่าจะเลือกเดินทางด้วยวิธีไหนก็สะดวกไม่ต่างกันครับ เส้นทางการเดินทางจาก BTS สถานีแบริ่ง ถึงโครงการ VERY Condo เริ่มต้นโดยเดินทางจากอุดมสุขมุ่งหน้าสู่บางนา ให้ตรงไปแยกบางนามุ่งหน้าไปสมุทรปราการ ตรงผ่านแยกบางนา เมื่อผ่านแยกบางนามาแล้ว ทางซ้ายจะเป็น BITEC ด้านหน้าเป็น BTS สถานีแบริ่ง ผ่านสามแยก (ซอยลาซาล) ผ่าน BTS สถานีแบริ่ง วิ่งตรงผ่านสามแยก ผ่านซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบริ่ง) วิ่งมาเรื่อยๆ ทางขวาจะเห็นเต้นท์รถอยู่หน้าซอยสุขุมวิท 72 เมื่อเลยซอยที่อยู่ทางขวา ให้ชิดขวาเพื่อกลับรถ กลับรถมาแล้วก็เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 72 เลยครับ ปากซอยจะมีเต้นท์รถเห็นชัดๆอยู่ เมื่อเข้าซอยมาแล้วให้เข้าซอย ศิริคาม 4 เลี้ยวเข้ามาแล้ว ให้ตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นโครงการ VERY Condo อยู่ด้านหน้า ถึงแล้วครับโครงการ VERY Condo วิเคราะห์ตัวโครงการ ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Very สุขุมวิท 72 ที่อยู่ในย่านแบริ่งนี่เอง ความเจริญของบริเวณแวดล้อมโครงการจัดว่าดีทีเดียวครับ เพราะมีทั้งสาธารณูปโภคต่างๆ ครบครัน ทั้งโรงเรียนนานาชาติรายใหญ่ๆ โรงเรียนเอกชนชื่อดัง รวมถึงโรงเรียนอื่นๆ ในระแวกใกล้เคียงก็มีอยู่หลายแห่งเช่นกัน รวมถึงสถานพยาบาลก็มีเยอะไม่แพ้กัน ทั้งโรงพยาบาลใหญ่ๆ และคลินิคในเขตชุมชน เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาก็สามารถพึ่งพาได้สบายๆ และถ้าจะถามถึงแหล่งช็อปปิ้ง แค่หลับตาก็เห็นภาพเซ็นทรัลบางนา ซีคอนสแควร์ พาราไดซ์พาร์ค และห้างอิมพีเรียลเวิร์ดสำโรงขึ้นมาในหัวแล้วแน่ๆ แถมด้วยโลตัส ศรีนครินทร์ และแมคโครเข้าไปอีก ถือว่ามีห้างใหญ่ๆ ให้จับจ่ายใช้สอยไม่น้อยเลยในระยะ 10 กิโลเมตร และยังมีตลาดสดสำโรงอีกที่เราสามารถพึ่งพาฝากท้องได้ในราคาประหยัด การอาศัยอยู่ในแถวนี้จึงถือว่าอุดสมบูรณ์ดีทีเดียว ขอแค่ไม่ขี้เกียจเดินออกมาจากซอยสุขุมวิท 72 แค่นั้นแหละ รับรองว่าไม่มีคำว่าขาดแคลนแน่นอน ที่ตั้งในซอยสุขุมวิท 72 อาจจะเป็นรองซอยแบริ่งอยู่บ้างในด้านความเจริญ และความพลุกพล่านของร้านค้าต่างๆ เนื่องจากซอยแบริ่งเป็นซอยใหญ่ แต่ในทางกลับกันซอยสุขุมวิท 72 ก็มีความเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อนอาศัยมากกว่า ภายในซอยยังเป็นบ้านอาศัยในแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมีก็เพียงคอนโดเพื่อนบ้านอย่าง Cattleya เพียงอาคารเดียวที่ตั้งอยู่ติดกันในระยะประชิดเนื่องจากเป็นโครงการเก่าที่อยู่มาก่อนแล้ว ห้องในฝั่งนี้จึงถูกบังวิวกันไปแบบเต็มๆ ด้วยตัวโครงการ Very สุขุมวิท 72 ที่เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น เรื่องวิวจึงไม่ใช่จุดเด่นเท่าไหร่ ส่วนของที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 มียูนิตรวมเพียงแค่ 68 ยูนิตเท่านั้น จัดว่าน้อยเหมือนกันครับ เลยค่อนข้างได้เปรียบเรื่องความเป็นส่วนตัวสูงกว่าโครงการอื่นที่มีจำนวนห้องมากๆ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจัดรวมไว้ที่บริเวณดาดฟ้าของอาคารทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และ Roof Top Garden จากที่สังเกตุภาพรวมๆ แล้ว ถือว่าทางโครงการจัดส่วนกลางมาได้ดีพอสมควร ปริมาณความหนาแน่นไม่มากนักลูกบ้านก็น่าจะใช้ส่วนกลางได้จริงจังมากขึ้น เช่นเดียวกันกับลิฟท์โดยสาร ถึงจะมีเพียง 1 ตัว แต่เทียบกับจำนวนห้องแล้วถือว่าใช้ได้สบายๆ ดีทีเดียว กลับกันกับเรื่องที่จอดรถที่ดูจะจำกัดจำเขี่ยอยู่พอสมควร นับรวมจอดซ้อนคันแล้วก็ไม่เกิน 30% เพราะพื้นที่ชั้น G ส่วนหนึ่งถูกแบ่งไว้เป็นส่วนของ Lobby ห้องจดหมาย ห้องซักรีด และห้องนิติบุคคล เลยทำให้พื้นที่จอดรถมีน้อยไปนิด ถ้าต้องมาอยู่อาศัยจริงก็ต้องลุ้นกันหน่อยว่าลูกบ้านแต่ละห้องจะมีรถส่วนตัวกันเยอะแค่ไหน ถึงจะเป็นโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสำหรับทำเลแถบนี้โอกาสที่ลูกบ้านจะมีรถส่วนตัวก็ความเป็นไปได้สูงเหมือนกัน พาชมห้องตัวอย่าง มาถึงห้องของโครงการ Very สุขุมวิท 72 กันบ้าง ซึ่งทางโครงการก็จัดมาทั้งห้องแบบ Studio, ห้องแบบ 1 ห้องนอน และห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นกันที่ 25.8 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้อง Studio เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนของ Pantry ครัวเล็กๆ และห้องน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หรือหลังประตูเข้าห้องพอดี ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ของห้องนอนซึ่งต้องบอกว่าพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัดเหมือนกัน วางเตียงขนาด 5 ฟุตเข้าไปแล้วก็เหลือพื้นที่ว่างไม่มากเท่าไหร่ บริเวณปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้า และชั้นวางทีวีแล้ว ก็เกือบเต็มพื้นที่ห้องพอดี ด้านในสุดของห้องแบ่งเป็นระเบียงเล็กๆ ส่วนอีกด้านติดหน้าต่างเหลือพื้นที่เล็กๆ สำหรับวางโต๊ะทำงาน หรือเดย์เบดได้อีกตัว ขยับมาที่ห้องแบบ 1 ห้องนอนกันบ้าง ซึ่งขนาดพื้นที่ 36 ตร.ม. โดยประมาณ Lay out ของห้องแบบนี้ดูจะค่อนข้างลงตัวและน่าอยู่มากกว่า เพราะมีการจัดสรรพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน เปิดเข้าห้องมาจะเจอพื้นที่ของห้องนั่งเล่นก่อน ส่วนครัวของห้องนี้จะได้เป็นครัวปิด ซึ่งมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นพื้นที่ไว้ให้เรียบร้อย ส่วนอีกด้านของห้องครัวจะมีประตูกระจกอีกทางสำหรับออกไปยังระเบียง ซึ่งระเบียงของห้องนี้จะแคบและมีลักษณะอยู่ในแนวลึก ลักษณะของห้องนี้จึงเสียเปรียบเรื่องวิว เพราะ Lay out ห้องไม่ได้ออกแบบมาให้เปิดรับวิวเท่าไร หันกลับอีกด้านของห้องเป็นพื้นที่ของห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำอยู่ในตัว พื้นที่ใช้สอยภายในก็ค่อนข้างลงตัว ถึงจะไม่ได้กว้างมากแต่ก็กำลังพอใช้งานได้ครับ ห้องทั้งหมดของโครงการขายกันมาแบบ Fully Furnished นะครับ มีทั้งชุดครับ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำตามชุดมาตรฐาน รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ Built in บางชิ้น ซึ่งแนะนำให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่โครงการให้ดีนะครับว่ามีชิ้นไหน และสเปคเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่ดูจากห้องตัวอย่างก็ได้รับแจ้งว่าในห้องจริงอาจจะมีของแถม หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างไม่มากก็น้อย ความคุ้มค่าน่าลงทุน สำหรับเรื่องของความคุ้มค่าน่าลงทุนของโครงการ Very สุขุมวิท 72 ซึ่งดูแล้วน่าจะได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าพอสมควร ด้วยระยะห่างเพียง 400 เมตร จึงทำให้การเดินเท้าต่อไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ไม่ยาก รวมถึงเรื่องสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่คึกคักดีทีเดียว เพราะใกล้ทั้งแหล่งช็อปปิ้งใหญ่ๆ หลายแห่ง แถมยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสดอยู่ใกล้ๆ ด้วย ทำเลย่านนี้จึงอุดมสมบูรณ์ไม่น้อยเลย สำหรับการซื้อหาเพื่ออยู่อาศัย ที่ตั้งโครงการค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของความเงียบสงบ เหมาะกับการพักอาศัย ส่วนการลงทุนเพื่อหวังปล่อยห้องให้เช่า อาจจะมีโอกาสน้อยหน่อย เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงไม่ค่อยมีบริษัทใหญ่ๆ รวมทั้งไม่ได้อยู่ใกล้ย่านธุรกิจเท่าที่ควร กลุ่มคนเช่าส่วนหนึ่งอาจจะต้องเป็นกลุ่มคนที่ทำงานในเมือง ซึ่งอาจจะต้องการที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง แต่จะว่าไปแล้ว คอนโด หรือห้องเช่าที่อยู่เกาะแนวรถไฟฟ้าก็มีตัวเลือกไม่น้อยเหมือนกัน ทำให้มีตัวเปรียบเทียบในตลาดค่อนข้างมาก การลงทุนเรื่องปล่อยห้องเช่าจึงห้องศึกษาข้อมูล และทำการบ้านกันให้ดีๆ ครับ จะได้ไม่เจ็บตัว อ้อ! ข้อด้อยอีกเรื่องของโครงการ Very สุขุมวิท 72 ที่ไม่อาจมองข้ามได้ก็คือ เรื่องของ Developer ที่เป็นรายย่อยในวงการ เรื่องการบริหารงานนิติบุคคลในช่วงแรกๆ รวมถึงคุณภาพงานก่อสร้างอาจจะต้องลุ้นกันหน่อย ยังดีที่ปัจจุบันตัวอาคารสร้างเสร็จพร้อมโอนเข้าอยู่เต็มทีแล้ว เรื่องเจ้าของโครงการทิ้งงานจึงหมดห่วงไปได้เปราะหนึ่งแล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องการรอตรวจรับงานของเจ้าของห้องเท่านั้นครับ ส่วนใครที่สนใจอยากได้เป็นเจ้าของซักห้อง ทางโครงการก็ยังพอมีห้องเหลืออยู่บ้าง ลองแวะเข้าไปดูห้องที่โครงการจริงกันก่อนได้ เผื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการตัดสินใจครับ