Tag : คอนโด ทําเลดี

2 ผลลัพธ์
Niche MONO Tiwanon ครั้งแรกของคอนโดพร้อม CO-CREATION SPACE ครบวงจร : รีวิวคอนโด

Niche MONO Tiwanon ครั้งแรกของคอนโดพร้อม CO-CREATION SPACE ครบวงจร : รีวิวคอนโด

คอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนเมือง เพราะตอบโจทย์ชีวิตได้อย่างลงตัว และเมื่อตัดสินใจจะซื้อคอนโดฯ แล้ว เรื่องของการเลือกทำเล, แบรนด์, พื้นที่ส่วนกลาง ตลาดจนไปถึงการออกแบบตกแต่งถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเจ้าของก็ว่าได้ นั่นเพราะการได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เรารัก ดูสวยงามในสไตล์ที่เราชอบและอยากให้เป็นในแบบที่ต้องการมันคือความสุขทางใจอย่างหนึ่ง ซึ่งคอนโดที่เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างในวันนี้คือ โครงการ “Niche MONO Tiwanon (นิช โมโน ติวานนท์)” จาก เสนา ดีเวลลอปเมนท์ คอนโดมิเนียมแบรนด์หรูใหม่ล่าสุดในย่านติวานนท์ที่มี Co-Creation Space แบบครบวงจร อีกทั้งยังอยู่ใกล้ MRT สายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข เพียง 50 เมตร เรียกได้ว่าเดินทางสะดวกสบายเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย โครงการ “นิช โมโน ติวานนท์” ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ตัวโครงการอยู่ติดถนนถนนติวานนท์ ฝั่งเลขคู่ ซอยติวานนท์ 8 อยู่ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุข และ MRT สถานีกระทรวงสาธารณสุขเลยค่ะ ซึ่งก็สะดวกทั้งคนมีรถส่วนตัวและไม่มี สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์นั้นถือมีตัวเลือกมากมายทีเดียวค่ะ เพราะมีถนนสายสำคัญให้เลือกใช้อยู่หลายสายทั้งถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนงามวงศ์วาน หากอยากหลบหนีช่วงเวลาที่จราจรติดขัดบริเวณแยกแครายก็สามารถใช้ทางด่วนพิเศษศรีรัช ขั้นที่ 2 (ถนนงามวงศ์วาน) โดยวิ่งผ่านเข้าไปในกระทรวงสาธารณสุขได้เลย หรือถ้าใครอยากจะเข้าเมืองไปแถวๆ ย่านรัชดาก็สามารถใช้ถนนกรุงเทพนนท์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เส้นทางสะพานพระราม 5 วิ่งไปราชพฤกษ์ได้อีกด้วย แถมถ้าอยากออกนอกเมืองก็สามารถวิ่งไปปทุมธานีโดยใช้ถนนติวานนท์วิ่งผ่านปากเกร็ดก่อน ซึ่งเส้นนี้ก็ไปแจ้งวัฒนะได้ด้วยนะคะ แต่ถ้าจะไปบางใหญ่ หรือบางบัวทองก็ต้องใช้เส้นรัตนาธิเบศร์เป็นหลักค่ะ มาต่อกันที่การเดินทางด้วยรถสาธารณะนับว่าเป็นเรื่องสะดวกมากๆ เนื่องจากตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ บรรยากาศจึงค่อนข้างคึกคัก มีรถโดยสารวิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็น รถเมล์, แท็กซี่ และมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ทั้งนี้ตัวโครงการยังอยู่แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งห่างจากบันไดทางขึ้น MRT กระทรวงสาธารณสุข เพียง 50 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินเท้าได้สบายๆ หรือถ้าใครอยากโดยสารทางน้ำก็สามารถเลือกใช้เรือที่ท่าน้ำนนท์ ต้นทางของเรือด่วนเจ้าพระยา โดยท่าเรือที่อยู่ใกล้ตัวโครงการที่สุดคือท่าเรือพิบูลย์สงครามแค่ 2.9 กิโลเมตร ซึ่งก็ตอบโจทย์คนไม่มีรถส่วนตัวได้ดีทีเดียว ในส่วนของอาหารการกินก็จัดว่าสะดวกสบายไม่แพ้กัน ด้วยความที่เป็นแหล่งงานและชุมชนจึงมีร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปจนถึงตลาดสดให้เลือกจับจ่ายใช้สอยมากมายทั้งตลาดกระทรวงสาธารณสุข และตลาดพระราม 5 แถมพิกัดของห้างสรรพสินค้าชั้นนำยังอยู่ไม่ไกลเลยทั้ง Big C ติวานนท์, Lotus รัตนาธิเบศร์, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เซ็นทรัลพลาซ่า รัตนาธิเบศร์ และ Esplanade งามวงศ์วาน  แถมบริเวณโดยรอบยังแวดล้อมไปด้วยสถานศึกษา, สถานพยาบาลชั้นนำ รวมไปจนถึงสวนสาธารณะมากมาย อาทิ อุทยานมกุฏรมยสราญ, สวนสาธารณะในกระทรวงสาธารณสุขที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เป็นต้น 1. เริ่มต้นการเดินทางวันนี้เรานั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง มาลงที่สถานีกระทรวงสาธารณะสุข สำหรับทางออกไปโครงการจะอยู่ที่ทางออก 1 นะคะ 2. เมื่อเดินลงมาด้านล่างแล้วจะเจอกับถนนใหญ่ค่ะ ซึ่งทางไปโครงการนั้นต้องเดินไปทางฝั่งขวามือคือซอยติวานนท์ 6 ค่ะ 3. ระหว่างทางเดินไปโครงการก็จะมีร้านซ่อมรถและติดตั้งอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ต่างๆ 4. เดินถัดมาอีกนิดก็พบกับร้านค้าอยู่หลายร้านเหมือนกันค่ะ 5. นอกจากร้านค้าแล้วยังมีร้านอาหารให้ฝากท้องอยู่หลายร้านเลย 6. เดินตรงไปเรื่อยๆ ข้ามคลองเล็กๆ มานิดเดียว สังเกตป้ายซอยติวานนท์ 8 ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ 7. ตอนนี้ตัวโครงการยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างนะคะ จะเป็นส่วนของ Sales Gallery ก่อน 8. บริเวณหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์พอดิบพอดี ซึ่งสะดวกมากสำหรับลูกบ้านที่ไม่ใช้รถส่วนตัว แถมยังมีจุดกลับรถในระยะใกล้ๆ อีกด้วย   ภาพรวมโครงการ โครงการ “นิช โมโน ติวานนท์” เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จำนวน  1 อาคาร บนพื้นที่ 2 ไร่กว่า แบ่งออกเป็นที่พักอาศัย 526 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต รองรับที่จอดรถได้ประมาณ 39% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เรียกว่าเป็นที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทยยุคใหม่ได้ดีที่สุดและสมบูรณ์ในทุกด้าน เพราะสิ่งที่ทำให้โครงการแห่งนี้น่าจับตามองนอกจากเรื่องทำเลที่ดีแสนสะดวกสบาย สามารถเดินจากประตูโครงการเพียงแค่ 50 เมตร ก็ถึงรถไฟฟ้า MRT สถานีกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ทางโครงการยังนำประสบการณ์ในด้านพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยเข้าใจความต้องการของลูกบ้านอย่างแท้จริง มาผสานเข้ากับความช่ำชองในการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้อยู่อาศัย โดยติดตั้งโซลาร์ และ EV Charger ไว้ในโครงการ ในขณะที่ห้องชุดและรูปแบบของตัวตึกถูกออกแบบด้วยรสนิยมที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในย่านติวานนท์ จากการคำนึงถึงความนำสมัยที่มีแบบฉบับเฉพาะตัว ด้วยการใช้โทนสี Monochrome ไล่เฉดสีขาว ดำ เทาเป็นหลัก ในขณะที่ห้องพักอาศัยก็ชูจุดเด่นด้วยการดีไซน์สไตล์ MOFF ขยายความสูงของห้องด้วยเพดานสูง 4.5 เมตร เพื่อให้ลูกบ้านได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้น แถมยังสามารถดีไซน์ได้ในแบบของตัวเอง ซึ่งก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ห้อง Penthouse ในราคาที่เอื้อมถึงได้ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางบอกได้คำเดียวว่าจัดเต็มแบบสุดๆ ไปเลยค่ะ เรียกว่าครบครันมากทีเดียว ซึ่งคอนเซ็ปต์ของพื้นที่ส่วนกลางถูกออกแบบโดยหลอมรวมความต้องการของลูกบ้านผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มักใช้ชีวิตแบบสังคมเข้ากับความเป็นส่วนตัว สู่รูปแบบของ Facility ครั้งแรกของคอนโดที่มี Co-Creation Space แบบครบวงจร ถึง 5 ชั้น ที่มีทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานร่วมกัน และแยกเป็นส่วนตัว เริ่มตั้งแต่ชั้นบริเวณชั้นล่างทำเป็น Private Lobby สุดหรูโดยแบ่งออกเป็น Lobby ส่วนของ Residence และ Lobby ส่วนของทำงาน มาพร้อมร้านค้า, ห้อง Mail Box, ห้องนิติ, ห้อง First Aid, Locker, Laundry, Vending Machine ต่อเนื่องมายังพื้นที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Co-Creation Space, Workshop Space, Co-Meeting Space, Mind Space และ Media Hub Space สำหรับที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 9 ในขณะที่ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9 โดยบริเวณชั้น 10 จะมีสวนสีเขียวขจี พร้อมโต๊ะทำงาน Outdoor ได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกไว้ด้วย ส่วน Facility หลักๆ จะถูกยกไปอยู่บริเวณชั้น 35-36 ประกอบด้วย Sky Fitness ห้องออกกำลังกายลอยฟ้าพร้อม Boxing Room และ Yoga อีกทั้งยังมี BBQ Terrace, Game Room, Party Room ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 36 โดยมาพร้อมสระเด็กและจากกุชชี่ นอกจากนี้ยังมี Hydro Pool ที่ลูกบ้านสามารถออกกำลังกายแบบ Extremes ได้ อีกทั้งยังมี Sky Lounge และ Sunken Lounge เรียกว่าจัดเต็มเพื่อรองรับความสุขของลูกบ้านอย่างเต็มเปี่ยมก็ว่าได้ แถมยังมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และยังมีบริการ After Sales Services ซ่อม-เช่า-ขายต่อ ด้วยนะคะ Master Plan ของโครงการ แปลนพื้นที่ชั้นล่างสุด แบ่งออกเป็นสวนสวย, จุด Drop-off ก่อนจะเข้าสู่ Lobby ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายคอนเทมโพรารี   แปลนของพื้นที่ชั้น 2 ที่มีส่วนกลางกระจายอยู่ภายในมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Co-Creation Space, Workshop Space, Co-Meeting Space, Media-Hub Space และ Mind Space เป็นต้น ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Co-Creation Space ชั้น 2 ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Co-Creation Space ชั้น 2 ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้น 1 โดยมีบันไดวนเป็นจุดเชื่อมกลาง ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Meeting Space ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Media-Hub Space ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Mind Space ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง WORKSHOP & ENTERTAINMENT SPACE แปลนอาคารชั้น 3-9 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมดเลยนะคะ แปลนของพื้นที่ชั้น 10 จะเริ่มเป็นยูนิตพักอาศัยแล้วนะคะ ซึ่งที่ชั้นนี้จะมีสวนส่วนกลางมาให้ด้วย แปลนของพื้นที่ชั้น 35 นะคะ ซึ่งความพิเศษนอกจาก Facility ที่จัดเต็มแล้ว ยังมีสวนสวยพร้อมมุม BBQ Terrace อีกด้วย ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง CO-KITCHEN & BBQ TERRACE ภายบรรยากาศจำลองภายในห้อง SKY FITNESS แปลนของพื้นที่ชั้น 36 นะคะ ซึ่งจะรวม Facilities ส่วนกลางหลักๆ โดยจัดไว้ชั้นบนของอาคาร ต่อจากพื้นที่ส่วนกลางที่กระจายอยู่ในหลายๆ ชั้น ภาพบรรยากาศจำลอง SKY INFINITY EDGE POOL สระว่ายน้ำลอยฟ้าแบบในร่ม ภาพบรรยากาศจำลองจะเห็นได้ชัดเลยว่าตัวอาคารเห็นวิวเมืองชัดเจน ไม่มีตึกไหนมาบดบังวิว ทำให้ลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางพร้อมชมวิวได้อย่างเต็มตา   เปิดประตูห้องตัวอย่าง โครงการ “นิช โมโน ติวานนท์” มีแบบห้องหลักๆ อยู่ 3 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 26.00 - 35.00 ตร.ม., 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 55.00 ตร.ม. และแบบ Moff ดีไซน์ใหม่มาพร้อมห้องเพดานสูงถึง 4.5 เมตร ให้ลูกบ้านสามารถใช้ฟังก์ชั่นอย่างคุ้มค่าในทุกตารางเมตร มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 26.00 - 35.00 ตร.ม. โดยทุกยูนิตขายแบบ Fully Furnished มาพร้อมวัสดุและสุขภัณฑ์คุณภาพที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นชุดครัวพร้อมเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน ซึ่งถ้าหากลูกบ้านตัดสินใจซื้อ ก็เห็นจะขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าและพร็อพตกแต่งเท่านั้นเองค่ะ ทั้งนี้ทุกยูนิตจะได้เครื่องปรับอากาศเหมือนกันหมดเลยนะคะ โดยห้อง 1 Bedroom จะได้เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว และห้อง 2 Bedroom จะได้เครื่องปรับอากาศ 3 ตัว   สำหรับห้องตัวอย่างที่เราได้ชมคือ ห้อง 1 Bedroom Type B2 ขนาด 28 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องพักอาศัยแบบ Standard ค่ะ ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าห้องมา ต้องบอกว่าภายในห้องไม่ได้รู้สึกเล็กอย่างที่คิดเลยค่ะ ด้วยการจัดวาง Layout ให้ทุกพื้นที่สามารถใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ครบทุกฟังก์ชั่น ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ที่จัดแบ่งพื้นที่แยกไว้อย่างเป็นสัดส่วน พร้อมแบ่งมุมรับประทานอาหารไว้อีกด้วย ในขณะที่ห้องครัวจะเป็นแบบปิด ซึ่งป้องกันเรื่องกลิ่นรบกวนได้มากขึ้นเพราะครัวอยู่ติดระเบียง สามารถเปิดประตูระเบียงช่วยระบายกลิ่นได้ดี แปลนห้อง 1 Bedroom Type B2 ขนาด 28 ตร.ม. นะคะ สำหรับประตูของห้องพักอาศัยจะเป็นแบบ Digital Door Lock ทุกยูนิตเลยค่ะ เมื่อเข้าห้องมาจะเจอห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่อยู่ติดกับมุมรับประทานอาหารเลยนะคะ ถัดเข้าไปเป็นห้อครัวแบบปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อนสามารถประกอบอาหารได้สบาย แถมยังมีระบายอากาศได้ดีเนื่องจากจากมีระเบียงอยู่ติดกับครัวนั่นเอง ส่วนห้องนอนจะเป็นประตูทึบและมีห้องน้ำอยู่ด้านในค่ะ บริเวณคอนโซลทีวี ทางโครงการจะบิลต์อินตู้เก็บของสูงจรดเพดานมาให้แล้วนะคะ จากภาพจะเห็นชัดเจนเลยว่าทางโครงการแบ่งฟังก์ชั่นใช้งานไว้อย่างลงตัว เพราะสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้สบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ ด้วย สำหรับเคาน์เตอร์ครัวโครงการจะให้มาแบบนี้เลยนะคะ ผนังเหนือเคาน์เตอร์จะเป็นกระจกเคลือบสีเทาดำ ข้อดีคือสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดง่ายเวลาประกอบอาหาร เคาน์เตอร์ครัวมีลิ้นชักที่มีตัวแบ่งช่องสำหรับเก็บช้อนส้อม ส่วนชั้นล่างลิ้นชั้นนั้นจะเป็นช่องสำหรับวางไมโครเวฟค่ะ ด้านบนออกแบบให้เป็นตู้ลอยแบบบานเปิดไว้สำหรับเก็บของค่ะ ซึ่งมีความพิเศษตรงที่สามารถเลื่อนออกมาเก็บจานชามได้ ด้านในสุดของครัวจะติดระเบียงนะคะ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น ข้อดีที่ระเบียงอยู่ติดครัวก็สามารถลดกลิ่นและระบายอากาศเวลาประกอบอาหารได้ดี พื้นที่ระเบียงด้านนอกค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางราวตากผ้าได้สบายๆ โดยทางโครงการจะติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่ด้านบนนะคะ ข้อดีคือไม่เปลืองเนื้อที่นั่นเองค่ะ ออกมาจากครัวมาต่อที่ห้องนอนกันบ้าง ภายในห้องนอนถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่พักผ่อนอย่างเต็มที่เลยนะคะ จะเห็นได้ว่าพื้นที่โดยรอบเตียงนั้นสามารถเดินได้อย่างสบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้เป็นมุมทำงานอีกด้วย มุมมองกลับเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดนะคะ จะเห็นว่าทางโครงการกรุหน้าต่างกระจกใสเชื่อมกับห้องนอนเพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งให้แก่ห้องมากขึ้น แถมยังบิลต์อินตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อยแล้ว ติดกับตู้เสื้อผ้านั้นเป็นห้องน้ำค่ะ สำหรับตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นนะคะ คือนอกจากจัดเก็บเสื้อผ้าได้แล้วยังสามารถเก็บเครื่องประดับได้ด้วย ภายในห้องน้ำแบ่งแยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน ส่วนเปียกจะเป็นกระจกกั้นนะคะ ซึ่งทางโครงการได้ยกธรณีสูงขึ้นประมาณนึงเพื่อกันน้ำเปียกมายังโซนแห้ง บริเวณโซนเปียก ทางโครงการเจาะช่องด้านในไว้ให้ลูกบ้านได้วางของใช้ส่วนตัว และกรุที่นั่งอาบน้ำตามสไตล์คนญี่ปุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว   ห้องตัวอย่างถัดมาที่เราได้ชมคือ ห้อง 1 Bedroom Type B2 ขนาด 28 ตร.ม. ห้องพักอาศัยแบบ MOFF ดีไซน์ใหม่มาพร้อมเพดานสูงถึง 4.5 เมตร ภายในแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างชัดเจน สำหรับห้องนี้เปิดประตูมาจะเจอส่วนครัวก่อน ตรงข้ามครัวจะเป็นตู้เก็บของและห้องน้ำ ก่อนจะมีประตูบานเลื่อนต่อเนื่องไปยังโถงกลางที่กว้างพอสำหรับวางวางโซฟาตัวยาวในส่วนของ Living Area ได้สบายๆ อีกทั้งยังสามารถแบ่งพื้นที่สำหรับมุมทำงานหรือมุมรับประทานอาหาร และระเบียงได้ด้วย ในขณะที่ห้องนอนจะมีบันไดทำหน้าที่เชื่อมต่อไปถึงด้านบน ซึ่งจัดพื้นที่มาให้แบบกำลังดี สามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้ แต่ทางโครงการจะให้เตียงขนาด 5 ฟุตมาแล้วค่ะ ขาดแต่ฟูกเท่านั้น ซึ่งยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือสบายๆ แถมยังวางโต๊ะข้าง, ตู้เสื้อผ้า และมีห้องเก็บของเล็กๆ ให้ด้วยค่ะ แปลนห้อง 1 Bedroom Type B2 ขนาด 28 ตร.ม. แบบ MOFF นะคะ เปิดประตู Digital Door Lock เข้ามาจะเจอส่วนครัวก่อนเลยค่ะ ซึ่งชุดเคาน์เตอร์ครัวลูกบ้านจะได้ทุกอย่างตามนี้เลยนะคะ จะเว้นก็เพียงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น สำหรับเคาน์เตอร์ครัวโครงการจะให้มาแบบนี้เลยนะคะ ผนังเหนือเคาน์เตอร์จะเป็นกระจกเคลือบสีเทา ข้อดีคือสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดง่ายเวลาประกอบอาหาร ทางโครงการบิลต์อินตู้ลอย พร้อมออกแบบที่เก็บจานมาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ นอกจากเว้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็น และช่องไมโครเวฟแล้ว ลิ้นชักยังมีช่องเก็บช้อนส้อมรวมถึงอุปกรณ์ครัวด้วยนะคะ พื้นที่ตรงข้ามกับ Pantry ครัว ทางโครงการจะบิลต์อินตู้เก็บของสูงจรดเพดานไว้บริเวณหน้าห้องน้ำนะคะ มาในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง เดินเข้ามาจะพบกับอ่างล่างมือก่อนเลยค่ะ ตรงกลางจะเป็นสุขภัณฑ์ มีกระจกเงาบานใหญ่มาให้ ฝั่งด้านขวามือเป็นพื้นที่อาบน้ำ กั้นกลางด้วยกระจกใส ผนังภายในห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนนะคะ บริเวณโซนเปียก ทางโครงการก็ได้เจาะช่องด้านในไว้ให้ลูกบ้านได้วางของใช้ส่วนตัว และกรุที่นั่งอาบน้ำตามสไตล์คนญี่ปุ่นมาให้เช่นเดียวกับห้องตัวอย่างแรก ออกมาจากห้องน้ำ เปิดประตูบานเลื่อน 3 ตอนเข้ามาในบริเวณนั่งเล่นกันบ้างดีกว่าค่ะ ซึ่งเป็นแบบ Double Volume มีความสูง 4.5 เมตร จากภาพจะเห็นว่าระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีนั้นกำลังดีเลยนะคะ แถมยังเหลือพื้นที่ตรงกลางอีกเยอะเลย ในส่วนของคอนโซลทีวี ทางโครงการได้บิลต์อินให้อยู่ติดกับบันไดทางขึ้นไปห้องนอนค่ะ พื้นที่ติดกันนั้นเป็นห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ มุมนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้สบายๆ แถมยังมีความโปร่งโล่งชวนพักผ่อนเนื่องจากโอบล้อมด้วยประตูและหน้าต่างกระจกใสนะคะ ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนสามารถเปิดไปรับลมที่ระเบียงได้ ระเบียงมีขนาดกว้างกำลังดี สามารถวางราวตากผ้าได้ โดยทางโครงการจะติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่ด้านบนไม่ให้เปลืองเนื้อที่นะคะ กลับเข้ามาด้านใน พื้นที่ใกล้กับบันไดสามารถจัดเป็นมุมรับประทานอาหารได้สบายๆ มุมมองจากโต๊ะรับประทานอาหารกลับเข้าไปด้านในห้องนะคะ จะเห็นว่าภายในห้องดูสูงโปร่ง แบ่งฟังก์ชั่นใช้งานเป็นสัดส่วนชัดเจน เหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง เดินไต่บันไดขึ้นมาจะพบกับตู้เสื้อผ้าก่อนเลยค่ะ ซึ่งทางโครงการบิลต์อินมาให้เรียบร้อยแล้ว แถมยังออกแบบให้สามารถจัดเก็บได้ตั้งแต่เสื้อผ้า, รองเท้า และเครื่องประดับ บริเวณเตียงนอนได้รับการออกแบบให้ดูโปร่งโล่ง สบาย ชวนพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ผนังด้านหลังเตียงเป็นเพียงการตกแต่งนะคะ ห้องจริงจะได้เป็นผนังฉาบเรียบเท่านั้น นอกจากนี้พื้นที่รอบเตียงสามารถเดินได้โดยรอบเลยนะคะ แถมยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงอีกด้วย พื้นที่ลึกเข้าไปด้านในทางโครงการออกแบบให้เป็นห้องเก็บของนะคะ ซึ่งก็เหมาะสำหรับหนุ่มสาวที่มีของใช้เยอะ เพราะสามารถจัดเก็บได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เรียกว่าใช้พื้นที่คุ้มค่าจริงๆ ค่ะ มุมมองกลับลงมาจากส่วนพักผ่อนนะคะ   สำหรับห้องตัวอย่างสุดท้ายที่เราจะพาไปดู เป็นห้อง 1 Bedroom Type D1 ขนาด 35.00 ตร.ม. ลักษณะแปลนเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เมื่อเดินเข้าไปด้านในให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายตา การจัดแบ่งพื้นที่ก็เป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดห้องเข้ามาเจอส่วนครัวก่อนเลย และมีประตูบานเลื่อนที่กั้นไว้ก่อนเข้าห้องด้านใน พื้นที่ภายในเป็นส่วนพักผ่อนอย่างห้องนอนและมุมนั่งเล่น พื้นที่ในสุดเป็นระเบียง ประตูห้องนอนจะได้แบบบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเปิดปิดแยกส่วนจากห้องนั่งเล่นได้ ในห้องนอนมีพื้นที่วางโต๊ะ, ตู้, เตียง ได้ครบ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนนะคะ ซึ่งในห้องตัวอย่างทางโครงการก็ตกแต่งแบบจัดเต็มเพื่อให้เราได้เห็นฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องได้อย่างชัดเจนมากขึ้น แต่ห้องที่ขายจริงจะเป็นห้องโล่งๆ ที่ได้เพียงผนังฉาบเรียบสีขาว กับ Fully Furnished ตามมาตรฐานที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้นค่ะ แปลนห้อง 1 Bedroom Type D1 ขนาด 35.00 ตร.ม. สำหรับไทป์นี้เปิดประตู Digital Door Lock เข้ามาจะเจอครัวก่อนเหมือนห้องตัวอย่างที่สองเลยค่ะ โดยครัวจะเป็นแบบ One Wall-Kitchen นะคะ โดยโครงการจะเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและไมโครเวฟมาให้แล้วด้วย ด้านบนออกแบบให้เป็นตู้ลอยแบบบานเปิดไว้สำหรับเก็บของค่ะ ซึ่งก็มีที่เก็บจานและอุปกรณ์ได้มากมาย รวมถึงการออกแบบที่สามารถยืดอุปกรณ์ออกมาใช้งานได้ด้วย พื้นที่ฝั่งตรงข้ามบริเวณข้างประตูเข้าออกจะเป็นตู้เก็บของบิลต์อินจรดเพดานเลยนะคะ ซึ่งก็มีพื้นที่ด้านข้างเหลือพอสำหรับติดราวแขวน เปิดประตูบานเลื่อนเข้ามาด้านในส่วนพักผ่อนจะเจอส่วนนั่งเล่นก่อนเลยนะคะ ติดกับประตูบานเลื่อนจะเป็นมุมรับประทานอาหารเล็กๆ ก่อนจะถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนนั่งเล่นที่มาพร้อมคอนโซลทีวี แถมมีระยะห่างกำลังดี สามารถวางโต๊ะกลางได้ พื้นที่ในสุดทางขวาจะเป็นมุมทำงานค่ะ พื้นที่ติดกับมุมนั่งเล่นจะเป็นห้องนอนนะคะ โดยมีประตูบานเลื่อนกั้นกลางเมื่อเลื่อนมาปิดก็จะให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวขึ้นมาทันที โซฟาจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นนะคะ คือนอกจากใช้นั่งพักผ่อนแล้ว ยังถูกออกแบบมาให้เก็บของได้อีกด้วย พื้นที่ต่อเนื่องจากมุมนั่งเล่นเข้าไปข้างในจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำนะคะ ซึ่งภายในห้องโอบล้อมด้วยหน้าต่างกระจกใส ทำให้มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามามากพอ ไม่ต้องพึ่งแสงประดิษฐ์ในเวลากลางวัน บริเวณหน้าห้องน้ำจะเป็นมุมแต่งตัวนะคะ ตู้เสื้อผ้าจะบิลต์อินสูงจรดเพดานเลยคะซึ่งลูกบ้านจะได้มาพร้อมกับห้องเลยค่ะ ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจนนะคะ ตกแต่งห้องน้ำโทนสีสว่างให้ความรู้สึกอบอุ่น จากรูปจะเห็นได้ว่าพื้นที่ส่วนเปียกนั้นยกธรณีสูงขึ้นมาหนึ่งเสต็ปนะคะเพื่อกันน้ำกระเด็นนั่นเอง พื้นที่ส่วนเปียกถูกออกแบบไว้รองรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ เพราะทางโครงการเจาะช่องวางของไว้ให้ที่ผนังถึงสองด้าน แถมยังกรุที่นั่งอาบน้ำแบบชาวญี่ปุ่นไว้ให้แล้วเรียบร้อย พื้นที่ห้องนอนมีขนาดกว้างกำลังดีเลยนะคะ สามารถจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบาย โดยเหลือพื้นที่เดินได้โดยรอบด้วยค่ะ ซึ่งพื้นที่ติดกับเตียงนั้นจะเป็นระเบียงให้ออกไปสัมผัสธรรมชาติยามเช้าได้ พื้นที่ระเบียงด้านนอกค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าได้สบายๆ เพราะทางโครงการติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่ด้านบนเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่เปลืองเนื้อที่และใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่านั่นเองค่ะ   ด้วยทำเลใกล้ MRT สายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข เพียง 50 เมตร ติดถนนติวานนท์ ย่านชุมชนและแหล่งงานสำคัญของเมืองไทย อีกทั้งยังรายล้อมด้วยสาธารณูปโภคครบครันทั้ง สถานศึกษาชั้นนำ, สถานพยาบาลชั้นนำ, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และสวนสาธารณะสีเขียวขจีที่นับวันยิ่งหายากในเมืองหลวงแบบนี้ โครงการ “นิช โมโน ติวานนท์” จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพที่ถูกจับตามองมากที่สุดโครงการหนึ่ง อย่างที่แจ้งไปแล้วว่าทางโครงการจะขายห้องมาให้แบบ Fully Furnished ดังนั้นห้องพักอาศัยทุกยูนิตก็จะมี ชุดครัวที่มาพร้อมเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, อ่างล้างจาน รวมถึงสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ, เฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน และเครื่องปรับอากาศถึง 2 ตัว แถมยังจัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางโดยมี Co-Creation Space แบบครบวงจรแห่งแรกในย่านติวานนท์ ซึ่งทางโครงการประกาศราคาเริ่มต้นมาที่ 2.4 ล้านบาท ถ้าเทียบกับคอนโดมิเนียมในย่านเดียวกันแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าแก่การลงทุนมากเลยนะคะ เพราะแนวโน้มในการเติบโตของทำเลค่อนข้างดีในอนาคต ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองหรือเก็งกำไรยังไงก็คุ้มค่า
พหลโยธิน-เกษตร ทำเลฮอตแห่งปี

พหลโยธิน-เกษตร ทำเลฮอตแห่งปี

คำว่า “ทำเลดี” ในยุคนี้คงต้องหมายถึงที่ดินติดกับสถานีรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า, ซุปเปอร์มาร์เก็ต, โรงพยาบาล, สถานศึกษา ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้ก็มักกระจุกตัวอยู่ใจกลางเมืองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้ทำเลแบบนี้มีอยู่อย่างจำกัด สิ่งหนึ่งที่จะตามมาแน่นอนคือเรื่องของราคาที่สูงอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ส่งผลต่อชีวิตของคนในกรุงเทพฯ ที่จำเป็นต้องพักอาศัยอยู่ออกไปทางชานเมืองสักหน่อย แล้วฝ่าปัญหารถติดเรื้อรังเข้าสู่ในตัวเมืองเพื่อไปทำงาน หรือไปเรียนให้ทันเวลา   ปัจจุบันด้วยแผนพัฒนาทางคมนาคม โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่กำลังขยายเส้นทางกระจายออกไปทั่วกรุงเทพฯ จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาเมือง ก่อให้เกิดการเติบโตขยายตัวเมืองออกไปมากยิ่งขึ้น ประชาชนทั่วไปอย่างเราๆ ก็ย่อมมีตัวเลือกในเรื่องของทำเลที่ดีในการอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดที่สุดคงหนีไม่พ้นช่วงถนนที่กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งสองข้างทางต่างก็เริ่มถูก ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จับจองแล้วพัฒนาเป็นโครงการใหม่ เป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น นี่เป็นอีกหนึ่งทางออกของการย้ายที่อยู่มาอาศัยอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เพื่อสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น   รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต  ถนนพหลโยธิน หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 เป็นถนนสายหลักสายสำคัญสายหนึ่งของประเทศไทย ด้วยความที่เป็นถนนจากใจกลางกรุงเทพฯ ผ่านจุดสำคัญมากมาย และมุ่งสู่ภาคเหนือของประเทศไทยไปสุดทางที่พรมแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 994 กิโลเมตร โดยช่วงเริ่มต้น ตั้งแต่ กม. ที่ 0 จากอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปจนถึงจตุจักร ทุกคนจะเห็นว่ามีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนผ่านตลอดช่วงแล้ว ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียวกำลังสร้างส่วนต่อขยายเพิ่มเติมออกไปอีก จากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตไปตามถนนพหลโยธิน ผ่านช่วงห้าแยกลาดพร้าว-รัชโยธิน-มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์-สะพานใหม่-พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ แล้วเบี่ยงขวาเข้าสู่ถนนลำลูกกา สุดสายที่สถานีคูคต รวมแล้วเป็นระยะทางทั้งสิ้น 19 กิโลเมตร ทั้งหมด 16 สถานี คาดว่าเปิดให้บริการในปี พ.ศ.2563 นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างสถานีเพิ่มจากสถานีคูคตอีก 4 สถานี ต่อออกไปอีกตามถนนลำลูกกา จนถึงสถานีวงแหวนตะวันออกบริเวณบิ๊กซี ลำลูกกา คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี พ.ศ.2565 แน่นอนว่าเมื่อมีรถไฟฟ้าขยายไปถึงบริเวณไหนก็จะส่งผลให้เกิดความเจริญของเมืองตามไปด้วย โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนแล้ว สองข้างทางก็ยิ่งคึกคักมากขึ้น เกิดสิ่งปลูกสร้างมากมายเพื่อจับจองทำเลที่ดีที่สุด ก่อนราคาที่ดินจะพุ่งตัวสูงขึ้นอีกกว่าเท่าตัวเมื่อรถไฟฟ้าสร้างแล้วเสร็จ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นการทำโครงการคอนโดมิเนียม ที่เน้นการเดินทางอย่างสะดวกสบายที่สุดด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งเหล่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็ย่อมที่จะกระโดดลงไปแข่งขันในสนามนี้กันอย่างดุเดือด นอกจากรถไฟฟ้าที่เป็นปัจจัยหลักในการนำพาความเจริญให้เกิดขึ้น เมื่อมีความสะดวกในการเดินทางแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ก็เป็นเรื่องสำคัญในการตัดสินใจอยู่อาศัยคือ สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน โรงพยาบาล แหล่งออฟฟิศ และสถาบันการศึกษา หากทุกสิ่งที่กล่าวถึงมีอยู่รายล้อมนั่นก็จะหมายถึงการเป็น “ทำเลที่ดี” ซึ่งถนนพหลโยธิน ช่วงห้าแยกลาดพร้าวไปจนถึงสะพานใหม่มีทุกสิ่งครบครัน ไล่มาตั้งแต่เซ็นทรัลลาดพร้าว, โรงเรียนหอวัง, เทสโก้โลตัส, อเวนิว, เมเจอร์รัชโยธิน, โรงพยาบาลเปาโล, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, บิ๊กซี, ตลาดยิ่งเจริญ, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เป็นต้น จึงไม่แปลกที่ทุกวันนี้จะกลายเป็นทำเลสุดฮอตของเหล่าคอนโดมิเนียม   คอนโดมิเนียม ย่านพหลโยธิน-เกษตร หากใครที่ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของเหล่าคอนโดมิเนียม จะพบว่าในปีนี้นั้นมีการเปิดตัวโครงการไปหลายแห่ง รวมถึงโครงการที่เตรียมเปิดตัวเพิ่มอีกในปีต่อไปจากหลากหลาย Developer ทั้งเจ้าใหญ่ เจ้าเล็กมากหน้าหลายตา ทั้งทำเลที่ติดกับถนนพหโยธิน และทำเลที่เข้าไปตามซอยพหลโยธิน ทั้งสองฝั่งถนน เราลองมาดูตัวอย่างคอนโดมิเนียมในบางโครงการที่ตั้งอยู่ย่านนี้กันดู เช่น Life Ladprao - ไลฟ์ ลาดพร้าว คอนโดมิเนียม 2 อาคาร สูง 45-46 ชั้น มีจุดขายอยู่ตรงทำเลที่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าวเพียง 1 ก้าว แถมฝั่งตรงข้ามก็ยังเป็นเซ็นทรัล ลาดพร้าว กับโรงเรียนหอวัง และยังเป็นจุด interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม. 140,000 บาท ราคาเริ่มต้นตอนเปิดตัวอยู่ที่ 2.9 ล้านบาท ซึ่งช่วงเปิดพรีเซลก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเลยทีเดียว Poly Place Condo @Phaholyothin 23 - โพลี เพลส คอนโด แอท พหลโยธิน 23 คอนโดมิเนียม 3 อาคาร 8 ชั้น อยู่เข้าไปในซอยพหลโยธินประมาณ 800 เมตร แม้จะเข้าซอยไปสักหน่อย แต่ก็มีทางเข้า-ออก ได้หลายเส้นทาง ทั้งทางถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวิดีรังสิต และถนนรัชดาภิเษก ช่วงหลังอาคาร SCB Park ได้ ที่น่าสนใจคือเรื่องของราคาเริ่มต้น เพียง 1.8 ล้านบาท เฉลี่ยต่อ ตร.ม. 62,000 บาท (ราคาตอนเปิดตัว) Lyss Ratchayothin - เดอะลิสส์ รัชโยธิน คอนโดมิเนียม Low rise 1 อาคาร อยู่ภายในซอยพหลโยธิน 27 เข้าไปเพียง 200 เมตร ใกล้สถานีรถไฟฟ้าพหลโยธิน 24 เป็นซอยที่ขนาดเล็กไม่ลึกมาก แต่เงียบสงบเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว แต่ถือว่ายังใกล้รถไฟฟ้าอยู่ ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท เฉลี่ย 105,000 บาท/ตร.ม. Lumpini Park Phahon 32 - ลุมพินี พาร์ค พหล 32 คอนโดมิเนียม 30 ชั้น 1 อาคาร ออกแบบตัวอาคารมาได้สวยไม่แพ้เจ้าอื่นๆ ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ใกล้กับซอยเสนานิคม ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเสนานิคม 200 เมตร เน้นความใกล้ชิดธรรมชาติ Facilities อยู่บนชั้น 24 เราสามารถว่ายน้ำในสระแบบ Infinity Edge พร้อมเทควิวมุมสูงได้ไม่แพ้ในเมือง ราคาเฉลี่ย 135,000 บาท/ตร.ม. เริ่มต้นที่ 3.02 ล้านบาท Premio Quinto – พริมิโอ ควินโต คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร มาในสไตล์ Modern Classic  ริมถนนพหลโยธิน ติด BTS สถานีเสนานิคม ใกล้ตลาดบางเขน กับโรงพยาบาลเปาโล แถวนี้หาของกินอร่อยๆ ได้ง่ายมาก ราคาเฉลี่ย 113,000 บาท/ตร.ม. เริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท Knightsbridge Kaset Society - ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้ คอนโดมิเนียม High Rise 20 ชั้น 2 อาคาร 16 ชั้น 1 ตัวนี้ทำเลน่าสนใจมาก แล้วก็ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน เพราะอยู่ใกล้กับแยกเกษตรชนิดที่สามารถเดินไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ไม่ไกล และยังใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสถานีเสนานิคม ประมาณ 40 เมตร ตัวอาคารออกแบบมาสวยโดดเด่น สมกับเป็นตัวท็อปของออริจิ้น ราคาเฉลี่ย 115,450 บาท/ตร.ม. เริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาท   จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน หากเราต้องการที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกก็ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินก้อนโตมากมาย เพื่อไปอาศัยอยู่ใจกลางเมืองให้ประหยัดเวลาการเดินทาง เราก็เริ่มมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นในการอยู่อาศัยออกห่างจากใจกลางเมืองไปไม่ไกล มีความหนาแน่นของผู้คนน้อยกว่าที่สำคัญมีราคาค่างวดถูกกว่ากันมาก แต่ยังคงแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นกัน เชื่อว่าทำเลย่านพหลโยธิน-เกษตร นี้ จะกลายเป็นอีกแหล่งสำคัญที่หลายคนต่างจับจองอยู่อาศัยกันไม่น้อย ด้วยศักยภาพที่เต็มเปี่ยมในอนาคตอันใกล้