Tag : คอนโด สาทร

6 ผลลัพธ์
‘อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร’ เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้ว

‘อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร’ เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้ว

‘อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร’ โครงการคอนโดมิเนียม Luxury Riverview Condominium ใน CBD ที่สุดแห่งทำเลใจกลางย่านเจริญกรุงโดยบริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ ที่โครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง สาทร บนถนนจันทน์ 44 ซึ่งโครงการออกแบบใน สไตล์โคโลเนียล คอนเทมโพรารี่ (Colonial Contemporary Design)  สะท้อนรสนิยมและความภาคภูมิใจ ผ่านการเลือกสรรที่บ่งบอกถึงตัวตน สุนทรียะแห่งการอยู่อาศัย บนพื้นที่เพื่อการใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับครอบครัวและเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของชีวิตในเมือง   โครงการ ‘อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร’  ใกล้ถนนเส้นหลักอย่าง ถนนเจริญกรุง, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนพระราม 3 และถนนสาทร ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ด่านถนนจันทน์ เพียง 2 นาที มีเส้นทางลัดให้ได้ใช้หลายทาง รวมถึงเป็นโครงการที่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สถานี นั่นก็คือรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และ BTS สะพานตากสิน อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งงาน โรงเรียน โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้าขาดใหญ่ โดยห่างจากโรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่ เพียง 400 เมตร รร.กรุงเทพคริสเตียน และ รร.อัสสัมชัญ บางรัก รวมถึงเป็นโครงการที่ใกล้กับ Asiatique The Riverfront แหล่งท่องเที่ยวบนถนนเจริญกรุง และ Four Seasons Hotel Bangkok โรงแรมระดับ 5 ดาว ในระยะที่สามารถเดินเท้าไปได้   โครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร ตั้งอยู่บนถนนจันทน์ 44 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม เนื้อที่ 369 ตารางวา มี Triple facilities ส่วนกลางถึง 3 ชั้น โดยมีจำนวนเพียง 99 ยูนิต 1 อาคาร 21 ชั้น พร้อมสวนบนชั้นดาดฟ้า และที่จอดรถแบบระบบอัตโนมัติ ในชั้นใต้ดิน 4 ชั้น พร้อมชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์  https://altitudesymphony.com สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel. 095 247 8999          
Altitude Symphony Charoenkrung-Sathorn-อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร : รีวิวคอนโด

Altitude Symphony Charoenkrung-Sathorn-อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร : รีวิวคอนโด

ชื่อโครงการ Altitude Symphony Charoenkrung-Sathorn (อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร) เจ้าของโครงการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ตั้งโครงการ ซ.จันทน์ 44 เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ พื้นที่โครงการ  0-3-69  ไร่ ลักษณะโครงการ High Rise จำนวนอาคาร 1 อาคาร จำนวนชั้น 21 ชั้น จำนวนยูนิต 99 ยูนิต ขนาดห้อง Type A 1 Bedroom  30.01-30.10 ตร.ม. Type B 1 Bedroom 39.35 ตร.ม. Type C 2 Bedroom 61.90-73.36 ตร.ม. Loft 42.17-125.55 ตร.ม. Duplex 95.62 ตร.ม. Penthouse 104.24-147.95 ตร.ม. ที่จอดรถ 80% สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง Auto parking system, EV Charging, Lounge, Meeting Room, Kids Club, 360 Swimming pool 80 m., Jet Spa, Bubble Show, Water Foundation Pool, Panorama View Fitness, Music Practice Room, Roof Top Garden & BBQ Pantry ปีที่สร้างเสร็จ Q4 2563 ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม. ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.ม. ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม. จุดเด่นโครงการ ทำเลใจกลางเมือง ราคาเฉลี่ยไม่แพงสำหรับทำเลนี้ ไม่ไกลจากทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า จำนวนยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว           ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง BTS สถานีสะพานตากสิน, BTS สถานีสุรศักดิ์, ท่าเรือสาทร สถานที่ใกล้เคียง เอเชียทีค, เซ็นทรัลพระราม 3, ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน, ร.ร.อัสสัมชัน, ร.ร.นานาชาติ โชรส์เบอรี่ กรุงเทพ, รพ.เซนต์หลุยส์ ฯลฯ                      
MAESTRO 01 SATHORN-YENAKAT (มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ) ความพรีเมี่ยมที่ซ่อนอยู่ท่ามกลาง CBD : รีวิวคอนโด

MAESTRO 01 SATHORN-YENAKAT (มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ) ความพรีเมี่ยมที่ซ่อนอยู่ท่ามกลาง CBD : รีวิวคอนโด

ใครๆ ก็ทราบกันดีค่ะว่าคอนโดมิเนียมจากเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นขวัญใจอันดับหนึ่งของคนรักสัตว์ เพราะทุกโครงการ ทุกยูนิตสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ แถมยังมีส่วนกลางรองรับสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วยอีกต่างหาก ซึ่งหนึ่งในแบรนด์คอนโดมิเนียมของค่ายนี้ก็คือ Maestro คอนโดมิเนียม Low Rise ที่มีความโดดเด่นด้านทำเลดี เพราะทุกโครงการมีทางเข้า-ออกได้หลายทาง เน้นความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตที่มีไม่มาก ดีไซน์หรูหราโดดเด่น ได้ฟังก์ชั่นครบ     ทำเล   ถ้าพูดถึง CBD ในบ้านเราแล้ว ทุกคนก็จะทราบดีว่านั่นคือย่านสีลม-สาทร ใจกลางแหล่งเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ศูนย์รวมของทุกสิ่งอย่างเพียบพร้อมในระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ออฟฟิศเกรด A โรงพยาบาลระดับคุณภาพ โรงแรมห้าดาว สถาบันการศึกษาชื่อดัง เช่น  เซ็นทรัลพระราม 3, ท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต สาขานางลิ้นจี่, สีลม คอมเพล็กซ์, โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์, โรงเรียนอัสสัมชัญ, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย, โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช, โรงแรมบันยันทรี, โรงแรมโซ โซฟิเทลแบงค็อก, โรงแรมดุสิตธานี เป็นต้น รวมถึงการเดินทางที่เชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญมากมาย ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนอย่างทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร      ในทางกลับกันหากพูดถึงถนนเย็นอากาศกลับไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก ทั้งที่ถนนเย็นอากาศนั้นถือเป็นทำเลที่แอบซ่อนขุมทรัพย์แห่งความสงบร่มรื่นเอาไว้ท่ามกลางแหล่งเศรษฐกิจในเมืองใหญ่แห่งนี้ โดยถนนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนมากแถวนี้จึงเป็นที่อยู่ลักษณะบ้านเดี่ยวอันเก่าแก่คงเสน่ห์เอาไว้จวบจนทุกวันนี้ ซึ่งชวนให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศ เพราะตลอดสองข้างทางมีร้านอาหารไทย อีสาน ญี่ปุ่น อิตาเลียน เยอรมัน ร้านคาเฟ่สวยๆ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เรียงรายกันอยู่บนนถนนแห่งนี้ไม่น้อยเลย แต่ละร้านก็มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งด้านรสชาติและบรรยากาศดึงดูดให้เข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง      ตัวโครงการ มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ นั้นตั้งอยู่ริมถนนเย็นอากาศ บริเวณตรงข้ามกับปากซอยประสาทสุข มีทางเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทาง ทำให้สามารถหลบหลีกวางแผนการเดินทางตามสภาพการจราจรในแต่ละวันได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่      ถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้า เมื่อเลยสี่แยกใต้ทางด่วนพระราม 4 มาแล้ว ให้เข้าซอยงามดูพลีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยศรีบำเพ็ญ และเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเย็นอากาศ โครงการจะอยู่ทางขวามือ   ถนนเชื้อเพลิง เป็นถนนเลียบทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างถนนพระราม 4 ตรงจุดขึ้น-ลงทางพิเศษมหานครกับถนนพระราม 3 ซึ่งสามารถเข้าโครงการจากถนนเส้นนี้ได้โดยจากถนนเชื้อเพลิงฝั่งมุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 4 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเชื้อเพลิง 4 จะสามารถเชื่อมต่อกับซอยศรีบำเพ็ญ แล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเย็นอากาศ โครงการจะอยู่ทางขวามือ   ถนนพระราม 3 ฝั่งมุ่งหน้าเข้าพระราม 4 เมื่อถึงสามแยกนางลิ้นจี่ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนนางลิ้นจี่ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเย็นอากาศ โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ   ถนนสาทร ฝั่งสาทรใต้ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสาทร 1 หรือจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสวนพลูก็ได้ ทะลุออกซอยงามดูพลี แล้วจะเลือกเข้าสู่ซอยศรีบำเพ็ญหรือถนนนางลิ้นจี่ก็ได้ เพราะสามารถเข้าสู่ถนนเย็นอากาศได้ทั้งสองเส้นทาง    ถนนนราธิวาสฯ ฝั่งขาออก เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนราธิวาสฯ 17 หรือถนนจันทน์ แล้วเข้าสู่ถนนนางลิ้นจี่ก็เข้าสู่ถนนเย็นอากาศได้เช่นกัน   ถนนจันทน์ จุดที่เป็นสามแยกตัดกับถนนนางลิ้นจี่ ให้เลี้ยวซ้ายแล้วรีบชิดขวาเพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนเย็นอากาศ         ถนนนางลิ้นจี่ เป็นถนนหลักในการเข้าสู่ถนนเย็นอากาศเลยค่ะ เพราะเป็นตัวเชื่อมกับหลายถนนที่กล่าวไว้ข้างต้น คือ ถนนพระราม 3 ถนนจันทน์ ถนนนราธิวาสฯ เป็นต้น    ระบบขนส่งสาธารณะก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน เพราะทางโครงการจะมี Shuttle Service บริการรับ-ส่งลูกบ้านที่ MRT ลุมพินี เรียกได้ว่าการเดินทางไม่ว่าจะเส้นทางไหนก็หายห่วงได้เลยค่ะ   ภาพรวมโครงการ MAESTRO 01 SATHORN-YENAKAT คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น บนพื้นที่ 0-3-98 ไร่ ที่จอดรถ 79% ได้ความเงียบสงบด้วยทำเลและยูนิตที่จำกัดเพียง 88 ยูนิตเท่านั้น อีกทั้งยังครบครันทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และ Built-in ให้มาเต็มที่แบบ Fully Furnished ที่ดีไซน์แนว MEDELINE STYLE  สถาปัตยกรรมดีไซน์คอนเซ็ปต์ Modern-Classic ให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในเมืองใหญ่โซนยุโรป ซึ่งผสมผสานระหว่างความคลาสสิคแต่อยู่ท่ามกลางความทันสมัยของเมืองยุคนี้ได้อย่างลงตัว      ส่วนกลางของโครงการแบ่งออกเป็น 3 ชั้นด้วยกันค่ะ คืออยู่ที่ชั้น 1 ต้อนรับลูกบ้านด้วยล็อบบี้เพดานสูงโปร่ง ห้องเมลบ็อกซ์ ห้องซักผ้า แร็คจอดจักรยาน ป้อมรักษาความปลอดภัย ต่อมาที่ชั้น 2 จะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องสตรีม ห้องซาวน่า ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมล็อคเกอร์ และชั้น 9 ซึ่งเป็น Roof Top ของโครการ มีทั้ง tranquil pavilion ห้องฟิตเนส ลานโยคะ สนามเด็กเล่น ลานบาร์บีคิว ห้องสันทนาการ และพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ท่ามกลางวิวใจกลางเมืองสวยๆ  รวมถึงบริการอื่นๆ จากทางโครงการ ได้แก่ Shuttle Service บริการรับ-ส่งลูกบ้านที่ MRT ลุมพินี, Wifi ตลอด 24 ชม. และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.      มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ นอกจากจะน่าอยู่อาศัยเองด้วยความเงียบสงบของตัวโครงการ และการดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ด้วยทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งออฟฟิศก็ยังเหมาะแก่การลงทุนปล่อยเช่าได้ราคาดี สะดวกด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาครบครันทำให้งบประมาณในการตกแต่ง และซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นเข้ามาเพิ่มเติมก็จะไม่บานปลายมากอีกด้วยค่ะ     แม้ว่าทางโครงการนั้นจะอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ แต่เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเพื่อการอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขทั้งเจ้าของสัตว์เลี้ยงกับลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ จึงต้องมีกฎระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดเกิดขึ้นค่ะ โดยมีข้อกำหนดดังนี้   1. การนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาเลี้ยง จะต้องขออนุญาตฝ่ายบริหารอาคารฯ และลงทะเบียนประวัติสัตว์เลี้ยงไว้เป็นข้อมูล โดยชำระค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียน จำนวน 3,600 บาท/ต่อตัว/ต่อปี(ค่าใช้จ่ายนี้จะนำมาเป็นกองทุนในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและลงน้ำยาฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์) 2. ชำระเงินประกันความเสียหายจำนวน 5,000 บาท/ต่อตัว (เรียกเก็บครั้งแรกครั้งเดียว) และจะคืนให้เมื่อเจ้าของห้องชุดเลิกเลี้ยงสัตว์/สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต และไม่พบการกระทำผิดระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดและ/หรือพบความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับเจ้าของห้องชุด/เจ้าของร่วม/อาคารชุด รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง 3. สัตว์เลี้ยงที่เจ้าของห้องชุดจะเลี้ยง จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม เมื่อโตเต็มที่ เจ้าของห้องชุดสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เกินจำนวนดังต่อไปนี้ - 1 ตัว / พื้นที่น้อยกว่า 50 ตร.ม. และไม่เกิน 50 ตร.ม. - 2 ตัว / พื้นที่ 100 ตารางเมตร - 3 ตัว / พื้นที่ 150 ตารางเมตร เป็นต้นไป (จำนวนสูงสุดของสัตว์เลี้ยงจะมีได้ไม่เกิน 3 ตัวต่อ 1 ห้องชุดเท่านั้น) 4. สัตว์เลี้ยงจะต้องมีสายผูก/จูงและมีผู้ดูแลตลอดเวลาที่อยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง กฎระเบียบ ข้อห้าม ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ รวมถึงบทลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามกฎ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำโครงการ   Floor Plan อาคารของมาเอสโตร 01 วางเป็นรูปตัว U จัดยูนิตแบบ Double Corridor จำนวนยูนิต 5-13 ยูนิต/ชั้น มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวกลางอาคาร ใช้ระบบล็อคชั้นเพื่อความปลอดภัย บันไดหนีไฟ 2 จุดกระจายอยู่คนละฝั่งของอาคาร ส่วนที่จอดรถมีทั้งชั้นใต้ดินและชั้น 1 ของอาคาร Ground Plan ตัวโครงการมีทางเข้า-ออกทางเดียว หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันออก มียูนิตพักอาศัยตั้งแต่ชั้นแรกอยู่ 5 ยูนิต โดยจะมีประตูคีย์การ์ดกั้นระหว่าง Lobby ตรงกลางอาคาร เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มความเป็นส่วนตัว และปลูกต้นไม้เอาไว้ระหว่างระเบียงห้องกับรั้วโครงการ เพื่อป้องกันสายตาจากด้านนอก เพิ่มความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังส่งผลต่อความรู้สึกผู้อยู่อาศัยไม่ให้รู้สึกอึดอัดจนเกินไปด้วยค่ะ Plan ชั้น 2 เป็นยูนิตพักอาศัย รวมถึงส่วนกลางที่เป็นสระว่ายน้ำ ซึ่งหันออกทางทิศเหนือ มีห้องน้ำแยกฝั่งชาย-หญิง พร้อมกับห้องสตรีม-ซาวน่าอยู่ภายในห้องน้ำ ซึ่งหากใครเลือกอยู่ชั้นนี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะวุ่นวายค่ะ เพราะมีประตูคีย์การ์ดกั้นแยกโซนที่พักอาศัยจากโถงลิฟท์ที่เชื่อมต่อสู่สระว่ายน้ำอีกที Plan ชั้นที่อยู่อาศัย ดูจากแปลนนี้แล้วจะเห็นภาพมากขึ้นค่ะว่าตัวอาคารวางคล้ายรูปตัว U Roof Top Plan เป็น Facility อีกชั้นหนึ่งของโครงการค่ะ โดยจะมีทั้งฟิตเนส ลานโยคะ ลานบาร์บีคิว ลานสำหรับสัตว์เลี้ยง และพื้นที่สำหรับพักผ่อนหลากหลายมุม   Unit Plan ตอกย้ำความพรีเมี่ยมเฉพาะตัวด้วย Unit Plan ที่แม้ห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดของโครงการก็ยังเริ่มต้นถึงขนาด 33.56 ตร.ม. เป็นขนาดที่อยู่อาศัยได้จริงโดยไม่รู้สึกคับแคบจนเกินไป โดยทุกยูนิตมาพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษด้วยการเพิ่มพื้นที่ให้กับห้องของเราด้วยฟังก์ชั่นพื้นที่อเนกประสงค์ เพื่อขยายห้องนั่งเล่นของเราให้สามารถรองรับการใช้งานได้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นสำหรับกลุ่มเพื่อนๆ หรือใช้เป็นระเบียงตากอากาศก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์   Type A1 33.77 ตร.ม. ห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ   Type B1 68.90 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  Type D3 Lower 112.66 ตร.ม. ห้องแบบดูเพล็กซ์ชั้นล่าง ทั้งหมด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  Type D3 Upper 112.66 ตร.ม. ห้องแบบดูเพล็กซ์ชั้นบน   Type D4 Lower 182.18 ตร.ม. ห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ แบบดูเพล็กซ์ ทั้งหมด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ   Type D4 Upper 182.18 ตร.ม. ห้องแบบดูเพล็กซ์ชั้นบน    เดินชมโครงการ MAESTRO 01 SATHORN-YENAKAT ตอนนี้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วนะคะ เราเริ่มเดินชมภายในโครงการตั้งหน้าทางเข้า-ออกที่ใช้ระบบ Keycard Access ลอดใต้อาคารเพื่อลงลานจอดรถชั้นใต้ดินค่ะ ถัดกันเป็นทางเข้าจากหน้าโครงการ ประตูกระจกใสกรอบสีทองแดงให้ความคลาสสิคตามคอนเซป เปิดประตูเข้าไปดูในโครงการกันเลยค่ะ มีฉากทรงรังผึ้งสีขาวกั้น ทางขวามือเป็นประตูคีย์การ์ดอีกชั้นสำหรับลูกบ้านที่พักอาศัยอยู่ชั้น 1 นี้ค่ะ หลังฉากกั้นสีขาวเมื่อสักครู่ก็จะเป็น Lobby ตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ดำ เป็นหลัก เพดานเปิดสามารถมองเห็นขึ้นไปที่ชั้น 2 ทำให้รู้สึกโล่งขึ้น ส่วนด้านหลังเคาน์เตอร์คือโถงลิฟท์ค่ะ หันมาทางขวาของ Lobby จะพบกับโซน Mail Box ที่ล้อมรอบด้วยกระจกใส ดูจากจำนวน Mail Box แล้วก็รู้สึกเลยค่ะว่าโครงการนี้ยูนิตน้อยจริงๆ สำหรับคอนโด Low Rise ให้ความเป็นส่วนตัวมาก เราขึ้นมาดูที่ชั้น 2 กันค่ะ Facility ส่วนแรกเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.5 x 12.5 เมตร และด้วยความที่สระว่ายน้ำหันไปทางทิศเหนือที่แทบจะไม่ค่อยโดนแดดเท่าไรนัก ก็ทำให้สามารถลงว่ายน้ำในช่วงกลางวันก็ได้ค่ะ ที่ชั้น 2 จะมีห้องที่ได้วิวใกล้ชิดกับสระว่ายน้ำเลยค่ะ แต่ทางโครงการทำกระจกสูงขึ้นมาประมาณ 1.5 เมตร แล้วปลูกต้นไม้ไว้ด้านในชิดกระจกอีกทีเพื่อความเป็นส่วนตัวขึ้น และยังช่วยบังสายตาจากนอกห้องด้วยค่ะ ห้องทางฝั่งทิศเหนือนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำค่ะ ด้านข้างสระจะมีห้องน้ำแยกหญิง-ชายเอาไว้ เข้าไปดูที่ห้องน้ำหญิงทางฝังขวากันก่อนค่ะ ภายในมีล็อคเกอร์สำหรับเก็บของไว้ให้ และยังมีห้องสตรีมอยู่ด้วยค่ะ อีกฝั่งเป็นห้องน้ำชายที่มีห้องซาวน่าในตัว มีโซนล้างตัวแยกอยู่อีกด้านหนึ่งของสระว่ายน้ำค่ะ มีลักษณะเป็นช่องลึกเข้าไปตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวล้อมรอบ จากนั้นเราขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 9 ซึ่งเป็น Roof Top มีส่วนกลางแยกเป็นสองฝั่ง โดยเมื่อออกจากลิฟท์แล้วหันไปทางซ้ายก่อนก็จะพบกับฟิตเนสค่ะ ห้องฟิตเนสอยู่ตรงกลางตรงข้ามกับโถงลิฟท์พอดีค่ะ เมื่อเข้าไปในห้องฟิตเนสจะมีการยกพื้นสูงขึ้น ห้องฟิตเนสล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling ซึ่งด้วยความที่อยู่บนชั้น Roof Top จึงสามารถรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามาได้เต็มๆ ลู่วิ่งที่สามารถชมวิวสวนสีเขียวด้านนอกพร้อมกับวิวเมืองไปด้วย   ออกมาดูที่สวนสีเขียวรอบๆ กันบ้างค่ะ มีที่นั่งเบาะสีขาวไว้ให้นั่งพักผ่อน มีการแยกโซนหลายๆ มุม เดินเข้ามาสุดทางเป็นโซน BBQ แยกเอาไว้ค่ะ มีมุมเตาปิ้งพร้อมซิงค์ล้างจานให้เรียบร้อย เป็นโซนที่เหมาะสำหรับการจัดปาร์ตี้เล็กๆ กับกลุ่มเพื่อนในช่วงเย็น-ค่ำ ที่ให้ความเป็นส่วนตัวพร้อมรับลมจากชั้น Roof Top ไปด้วย อีกฝั่งหนึ่งของชั้น 9 มีหลายมุมให้ได้นั่งเล่นรับลมกันค่ะ ตรงกลางเป็นลานโยคะ Pet Zone สำหรับพาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้ เป็นลานที่อยู่ทางทิศตะวันออกด้านหน้าของโครงการ เพราะฉะนั้นถ้าพาน้องหมา น้องแมวมาวิ่งเล่นช่วงเย็นๆ ก็เหมาะทีเดียวค่ะ   เปิดห้องตัวอย่าง สำหรับมาเอสโตร 01 นั้นมีห้องตัวอย่างทั้งหมด 3 ห้องด้วยกันค่ะ เรามาเริ่มกันที่ห้องแรก Type A2-2 ขนาด 34.12 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เริ่มจากห้องครัวเปิด เชื่อมต่อด้วยห้องนั่งเล่นต่อด้วยพื้นที่อเนกประสงค์ กั้นห้องนอนด้วยประตูบานสวิง ซึ่งภายในห้องนอนมีมุมโซฟา และห้องน้ำในตัว โดยทุกอย่างที่เห็นในแปลนทางโครงการให้ทุกอย่างมาครบเลยค่ะ เปิดห้องตัวอย่างแรกกันเลยค่ะ เราจะเจอส่วนครัวเปิดก่อนเลย โดยความสูง Floor To Ceiling 2.45 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ ใช้ไฟ Downlight เคาน์เตอร์ครัววางแบบ L shape เพื่อให้ดูแยกเป็นสัดส่วนกับพื้นที่อื่นของห้อง ด้านขวาเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ด้านซ้ายมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ บานตู้และลิ้นชักทั้งหมดมีระบบ Soft Close Top ครัวใช้หินสังเคราะห์ ผนังครัวกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคเพื่อช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นกว่าการเป็นผนังธรรมดา ซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออก เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันจากแบรนด์ Electrolux ทั้งหมดนี้ทางโครงการให้มาครบเลยค่ะ ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะได้ Built in ตู้เก็บของมาด้วยค่ะ ติดกันด้านหลังประตูห้องจะมีช่องสำหรับวางตู้เย็นได้ ติดกับเคาน์เตอร์ครัวอีกด้านถูกจัดให้เป็นโต๊ะทานข้าวแบบเคาน์เตอร์บาร์ค่ะ แบบนี้ประหยัดพื้นที่ได้มากกว่าโต๊ะลอยปกติพอสมควรเลยค่ะ หันกลับไปดูพื้นที่ส่วนครัวทั้งหมดค่ะ ดูเป็นครัวที่เหมาะกับการทำอาหารเบาๆ และยังมีพื้นที่ทำครัวกว้างพอสมควร ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ มีโซฟาสีขาวขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และเคาน์เตอร์วางทีวีแบบที่เห็นนี้ทางโครงการก็ให้มาด้วยนะคะ สองข้างของโซฟามีพื้นที่เหลือไม่ชิดกับเก้าอี้ทานข้าวจนเกินไป ส่วนเครื่องปรับอากาศใช้แบรนด์ Trane ติดตั้งเอาไว้ด้านบนโต๊ะทานข้าว ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นพอดีค่ะ สิ่งที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของโครงการนี้ คือ ทุกยูนิตจะได้พื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น แต่จะมีการกั้นด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง เป็นบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมสีขาว 2 ตอน เมื่อเปิดประตูกระจกออกจะช่วยเพิ่มพื้นที่ห้องนั่งเล่นได้กว้างขึ้นค่ะ พื้นที่อเนกประสงค์นี้จะมีลักษณะเหมือนระเบียงแบบ Double Skin คือมีกระจกสูงด้านนอกกั้นอีกชั้น ทำให้เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนแล้วก็จะเพิ่มพื้นที่ภายในห้องได้แบบไม่เสียความเย็นจากเครื่องปรับอากาศค่ะ กลับเข้ามาในห้อง เดินไปดูห้องทางซ้ายมือกันต่อค่ะ เปิดประตูห้องนอนเข้าไปแล้วจะพบกับเตียงอยู่ทางซ้ายมือ ทางขวาเป็นตู้เสื้อผ้า Built in ในส่วนของพื้นห้องนอนจะเปลี่ยนมาปูด้วยลามิเนตค่ะ ข้างเตียงวางโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้ ไม่ติดกับเตียงจนเกินไปค่ะ เตียงขนาด 5 ฟุต วางไว้กลางห้องมีทางเดินอยู่รอบเตียงค่ะ เครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนถูกติดตั้งไว้ที่ปลายเตียงค่ะ อีกด้านของเตียงมีทั้งโต๊ะหัวเตียง และโซฟาข้างหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ครบเลยค่ะ แทบจะไม่ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์มาเพิ่มแล้ว มองจากมุมนี้เราจะเห็นว่าหลังประตูห้องนอนจะเป็นห้องน้ำในตัวค่ะ ตู้เสื้อผ้าของทุกห้องเมื่อเปิดบานสวิงออกมาแล้วจะมีสวิทช์สำหรับเปิดไฟในตู้เสื้อผ้า ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ใช้งานได้อย่างสะดวกขึ้นค่ะ เข้าไปดูในห้องน้ำค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ผนังปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนโทนสีขาว อ่างหน้าหน้าใช้แบบแขวนผนังของแบรนด์ LAVENZ มีตู้เก็บของไว้ให้ข้างใต้ค่ะ ส่วนหัวก๊อกใช้แบรนด์ Hafele โถสุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Kohler พร้อมสายชำระ ด้านข้างสุขภัณฑ์มีการเจาะผนังไว้สำหรับวางของได้ด้วยนะคะ เช่นเดียวกันกับด้านในส่วนเปียกที่มีการเจาะช่องผนังเอาไว้ด้านข้าง และฝักบัวใช้แบรนด์ Kohler ค่ะ ซึ่งทั้งหมดที่เห็นในห้องน้ำจะได้มาแบบนี้เลยค่ะ   ห้องตัวอย่างถัดไปเป็น Type B3 ขนาด 70.82 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เริ่มจากส่วนห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่รวมส่วนโต๊ะทานข้าวและพื้นที่อเนกประสงค์เอาไว้ด้วยกัน ครัวเปิดที่แยกออกมาเป็นสัดส่วน และโซนห้องนอน-ห้องน้ำ แปลนนี้เป็นการแยกพื้นที่ Common Area กับ Private Zone ออกจากกันอย่างชัดเจนค่ะ เปิดประตูเข้าไปในห้องค่ะ พื้นที่ Common Area ที่เห็นกว้างขวางทีเดียวค่ะ พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องลายไม้ ใช้ไฟ Downlight ส่วนแรกของห้องนี้เป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งค่ะ เครื่องปรับอากาศตัวแรกติดไว้ด้านบนเหนือโต๊ะพอดี เหลือพื้นที่ทางเดินหลังโต๊ะทานข้าวได้กว้างขวาง หากมีคนนั่งทานข้าวอยู่ก็สามารถเดินผ่านได้ ไม่คับแคบค่ะ ตรงข้ามโต๊ะทานข้าวมีตู้เก็บของมาให้ค่ะ จะดัดแปลงเป็นตู้เก็บรองเท้าก็ได้ โดยบานตู้ติดตั้งระบบ Soft Close เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น และเวลาปิดตู้จะไม่เกิดเสียงดังค่ะ เชื่อมต่อด้วยห้องนั่งเล่นและพื้นที่อเนกประสงค์ค่ะ ห้องขนาด 2 ห้องนอนจะได้โซฟาแบบ L Shape พร้อมโต๊ะกลาง เพราะพื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างมากพอที่จะรับแขกเป็นกลุ่มได้ค่ะ ลองสังเกตที่เพดานห้องนั่งเล่นดูค่ะ มีการตีขอบคิ้วบัวเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเป็นสีเดียวกันกับประตูห้อง เพิ่มลูกเล่นความน่าสนใจให้กับห้องของเราดูสวยเก๋ขึ้นไปอีก ข้างโซฟามีประตูกระจกเขียวตัดแสงแบบบานเลื่อน 3 ตอนกั้นพื้นที่อเนกประสงค์ไว้หากไม่ได้ใช้งานค่ะ กระจกด้านนอกเป็นกระจกบานเลื่อน สามารถเปิดออกได้ค่ะ โดยถ้าเปิดออกก็จะมีราวเหล็กโปร่งกั้นไว้อีกที อีกฝั่งของห้องอเนกประสงค์จะมีประตูที่เรียบไปกับผนัง ซึ่งเป็นห้องสำหรับเก็บ Condensing Unit แยกออกไว้เป็นสัดส่วน จะได้ไม่มีลมร้อนมาเป่าถึงในห้องให้กวนใจค่ะ หลังเคาน์เตอร์ทีวีมีทางเดินเชื่อมไปยังอีกส่วนหนึ่งของห้องค่ะ เรามาดูกันที่อีกโซนของห้องค่ะ ซ้ายมือสุดเป็นห้องครัว ถัดไปทางซ้ายเป็นห้องน้ำ ห้องตรงกลางและห้องทางขวามือเป็นห้องนอนค่ะ เรามาดูกันที่ห้องครัวก่อนค่ะ เป็นครัวลักษณะ U Shape และถึงแม้ว่าจะเป็นครัวเปิด แต่ด้วยการวางแปลนไว้เป็นสัดส่วนหากใครชอบทำครัวหนักๆ ก็สามารถติดตั้งบานประตูเพิ่มได้นะคะ ป้องกันกลิ่นและควันเข้าสู่ตัวห้อง ฝั่งซ้ายของครัวเริ่มด้วยตู้เก็บของบานสวิง มีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ส่วนฝั่งขวามีช่องสำหรับวางตู้เย็น ถัดไปเป็นเคาน์เตอร์ครัวที่มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ แต่สิ่งที่เราจะได้ คือ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควันจากแบรนด์ Electrolux ซึ่งมีการกรุกระเบื้องตลอดแนวผนังครัวด้านนี้มาให้ด้วย และซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์   ลิ้นชักใต้ช่องวางไมโครเวฟมีการกั้นช่องสำหรับวางช้อนส้อมมาให้ และตู้ใต้ซิงค์ล้างจานที่มีถังขยะมาให้พร้อมเลยค่ะ ออกจากครัวไปดูห้องต่อไปทางซ้ายมือค่ะ ห้องน้ำปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ผนังปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน โดยเริ่มจากส่วนแห้งก่อนค่ะ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมีตู้เก็บของไว้ข้างใต้ ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ อีกทั้งยังได้กระจกเงาบานใหญ่เก็บขอบอลูมิเนียมให้เรียบร้อยแบบนี้ด้วยนะคะ ส่วนเปียกถูกกั้นไว้ด้วยกระจก Tempered แบบประตูบานสวิง และมีธรณีสูงขึ้นมาเล็กน้อย ภายในส่วนเปียกข้างฝักบัวมีเจาะช่องผนังสำหรับวางของได้ด้วย ถัดมาจากห้องน้ำก็เป็นห้องนอนแรกของห้องค่ะ พื้นที่ปลายเตียงมีการวางโต๊ะทำงานเอาไว้ เตียงขนาด 5 ฟุต วางไว้กลางห้อง หน้าต่างข้างเตียงเป็นกระจกทรงสูงบานกระทุ้ง ขอบอลูมิเนียมสีขาวค่ะ มีพื้นที่เล็กๆ วางโต๊ะหัวเตียงได้ค่ะ ถัดจากประตูเป็น Built In ตู้เสื้อผ้ามาให้ ส่วนเครื่องปรับอากาศนั้นถูกติดตั้งไว้ข้างตู้เสื้อผ้าหันหน้าเข้าเตียงค่ะ มาถึง Master Bedroom กันแล้วนะคะ โดยห้องนี้จะมีความพิเศษตรงที่แบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วนออกจากกันอย่างชัดเจนค่ะ คือ ส่วนเตียงนอนด้านซ้ายมือ ส่วน Walk In Closet ตรงกลางห้อง และห้องน้ำในตัวด้านขวามือหลังประตูห้องนอนค่ะ ด้านในสุดของ Walk In Closet วางโต๊ะทำงานเอาไว้ค่ะ ตรงนี้จะดัดแปลงเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็เหมาะนะคะ เพราะมีหน้าต่างทรงสูงทำให้มีแสงสว่างเข้ามาถึงด้านในสุดนี้ได้อย่างพอดีค่ะ ตู้เสื้อผ้า Built In เป็นประตูบานสวิงถึง 4 บานค่ะ ถัดมาเป็นห้องน้ำ โดยเราสามารถอาบน้ำเสร็จก็ค่อยเดินมาแต่งตัวตรงส่วน Walk In Closet ใกล้กันนี้ได้เลย ซึ่งจุดนี้ถือว่าวางแปลนออกมาได้คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยจริงค่ะ ภายในห้องน้ำปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมตู้เก็บของข้างใต้ ตรงขอบอ่างมีพื้นที่ให้วางอุปกรณ์ได้ ส่วนเปียกข้างฝักบัวเจาะผนังสำหรับวางของมาให้ค่ะ ออกไปดูกันที่ส่วนสุดท้ายของห้องกันค่ะ ตรงกลางห้องวางเตียงขนาด 5 ฟุตเอาไว้พร้อมกับโต๊ะหัวเตียงทั้งสองฝั่ง พื้นที่ว่างตรงนี้วางโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนเอาไว้ โดยยังมีพื้นที่ทางเดินเหลือๆ ค่ะ ทั้งด้านข้างและปลายเตียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องแสงสว่างภายในห้องเลย ประตูกระจกบานเลื่อนนี้สามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศจากด้านนอกได้นะคะ แต่จะไม่มีระเบียงยื่นออกไป เพราะถูกกั้นอีกชั้นเอาไว้ด้วยเหล็กโปร่ง เครื่องปรับอากาศติดตั้งไว้เหนือโซฟาค่ะ   มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายค่ะ Type B1-3 ขนาด 67.76 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แปลนนี้แบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ค่ะ คือ พื้นที่กลางห้องเป็น Common Area เริ่มตั้งแต่ครัวเปิด ห้องนั่งเล่น โต๊ะทานข้าว พื้นที่อเนกประสงค์ ส่วนห้องนอนจะถูกแยกออกคนละฝั่ง Type นี้จะแบ่งฟังก์ชั่นห้องนอนออกเป็น 2 ฝั่งแยกออกจากกันค่ะ ส่วนตรงกลางห้องจะเป็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น และโต๊ะทานข้าว เข้าไปดูที่ส่วนครัวกันก่อนค่ะ อยู่ทางขวามือของห้อง ครัว U Shape โดยเป็นครัวเปิดค่ะ เริ่มจากซิงค์ล้างจานอยู่ทางซ้ายมือของเคาน์เตอร์ก่อนเลยค่ะ มุมทำครัวมาพร้อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน กรุผนังด้วยกระเบื้องช่วงสั้นๆ ช่วงหัวเตาค่ะ ตู้ใต้ซิงค์ล้างจานมีถังขยะติดอยู่กับบานตู้ เมื่อเปิดตู้ออกมาถังขยะก็จะออกมาด้วยแบบนี้ค่ะ ฝั่งตรงข้ามกับครัว หลังประตูห้องมี Built In ตู้เก็บของ ถัดไปเป็นห้องน้ำค่ะ โครงการนี้วางฟังก์ชั่นในห้องน้ำเอาไว้คล้ายกันค่ะ คือเริ่มต้นด้วยอ่างล้างหน้า ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ และส่วนเปียกอยู่ด้านในสุดกั้นด้วยฉากกระจกประตูบานสวิง อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ สายชำระ กระจกเงา ได้ทุกอย่างมาครบครัน ข้างโถสุขภัณฑ์มีช่องสำหรับวางของค่ะ ในส่วนเปียกก็มีช่องสำหรับวางของมาให้เช่นกันค่ะ เราไปดูตรงกลางห้องกันต่อเลยค่ะ เป็นห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง พร้อมเคาน์เตอร์วางทีวีมาให้ เคาน์เตอร์วางทีวีเป็น Built In มีช่องสำหรับเก็บของอยู่ด้านล่าง จากห้องนั่งเล่นก็เป็นพื้นที่อเนกประสงค์กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีขาว เก้าอี้ยาวตรงพื้นที่อเนกประสงค์นี้ได้มาแบบเดียวกันทุกห้องค่ะ นอกจากจะขยายพื้นที่สำหรับรับแขก สำหรับพักผ่อนได้มากขึ้นแล้วก็ยังสามารถดัดแปลงเป็นพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงก็ได้เหมือนกันนะคะ หลังโซฟาเชื่อมต่อด้วยโต๊ะทานข้าวค่ะ โต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง ติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้เหนือที่นั่งของโต๊ะทานข้าว ระหว่างโต๊ะทานข้าวกับห้องครัวจะมีประตูห้องนอนค่ะ ห้องนี้เป็น Master Bedroom ค่ะ โดยแบ่งฟังก์ชั่นของห้องออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ ซ้ายมือเป็นห้องนอน ตรงกลางมีพื้นที่ตู้เสื้อผ้ากั้น ส่วนขวามือเป็น Walk In Closet และห้องน้ำ ดูทางซ้ายมือก่อนค่ะ เตียง 5 ฟุตวางไว้ตรงกลาง มีทางเดินได้รอบเตียงพร้อมกับมีโต๊ะหัวเตียงทั้งสองฝั่ง ติดกับหน้าต่างมีโซฟาวางชิดกระจกเอาไว้ โซฟาสามารถย้ายไปไว้ปลายเตียงก็ได้นะคะ มีพื้นที่เหลือพอๆ กัน หน้าต่างทรงสูงเป็นกระจกบานกระทุ้งเปิดได้ 2 บาน เครื่องปรับอากาศติดตั้งไว้ด้านข้างเตียงค่ะ ตรงกลางห้องเชื่อมต่อไปถึงอีกด้านเป็นพื้นที่ Walk In Closet ที่ Built In ตู้เสื้อผ้ามาให้อย่างจุใจเลยค่ะ ใครที่มีเสื้อผ้าเยอะจะต้องชอบห้องนี้แน่นอนค่ะ ห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับ Walk In Closet อ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง ฝั่งขวาเป็นโถสุขภัณฑ์ กระจกเงาแบบนี้ก็ได้มาด้วยนะคะ ส่วนเปียกมีพื้นที่กว้างขวาง เวลาใช้งานจริงจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ ซ้ายสุดมีการเจาะช่องสำหรับวางของ ออกมาจาก Master Bedroom ไปดูที่ห้องฝั่งตรงข้ามกันบ้างค่ะ ห้องนี้อยู่ระหว่างเคาน์เตอร์ทีวีกับห้องน้ำ ห้องนอนที่ 2 ซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้า ขวามือเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุตค่ะ ระหว่างตู้เสื้อผ้ากับเตียงมีโต๊ะทำงานวางไว้ด้วยค่ะ อีกด้านของเตียงมีโต๊ะหัวเตียงต่อด้วยโซฟาค่ะ ภายในห้องนอน นอกจากจะต้องมีเตียงอยู่แล้ว แต่ทางมาเอสโตร 01 ก็ยังให้โซฟาเพิ่มขึ้นมาอีก เพื่อการพักผ่อนหลากหลายมุม และรู้สึกสบายที่สุดเมื่ออยู่ในห้องของตัวเอง   โครงการมาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ เป็นคอนโดลักษณะ Low Rise ที่ให้ความรู้สึกหรูหราสไตล์ยุโรปยุคเก่าผสมผสานกับความโมเดิร์นทันสมัยทำให้ดูไม่น่าเบื่อ ตั้งแต่สถาปัตยกรรมภายนอกไปจนถึงการออกแบบภายในที่เพิ่มฟังก์ชั่นพื้นที่อเนกประสงค์ให้ผู้อยู่อาศัยได้พื้นที่เพื่อการใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ใจกลางแหล่งเศรษฐกิจสำคัญ แต่กลับมีความเป็นส่วนตัวควบคู่กันด้วยถือเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในย่าน CBD แห่งนี้
สีลม-สาทร น่าลงทุนอย่างไร

สีลม-สาทร น่าลงทุนอย่างไร

ทุกประเทศย่อมจะต้องมีย่านที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ซึ่งย่านนั้นก็จะมีภาพของความเป็นเมืองหลวงอย่างชัดเจน มีตึกสูงระฟ้า มีรถสาธารณะผ่านหลายเส้นทาง เดินทางง่าย สิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำรายล้อม ในประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นแถวสีลม-สาทร ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศไทย     ช่วงถนนสีลม-สาทร ไม่ได้มีเพียงความทันสมัย หรูหราใจกลางเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ เพียงเท่านั้น แต่ยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราวตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีผ่านมาที่การสัญจรทางเรือยังเป็นหัวใจหลักของการไปมาหาสู่และการค้าขายเชิงพาณิชย์กันกับพ่อค้าชาวจีนและชาวยุโรป โดยอาศัยคลองสาทร คลองช่องนนทรี ซึ่งเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านนี้จึงเป็นที่อยู่อาศัยของคนหลากหลายกลุ่มทั้งขุนนาง ชนชั้นสูง ไปจนถึงชนชั้นแรงงานในสมัยนั้น ที่ดินก็ถูกจับจองเอาไว้ตั้งแต่สมัยยังเป็นทุ่งนาโล่งและกลายมาเป็นมรดกล้ำค่าในยุคปัจจุบันที่มีราคาสูงมากกว่า 1,450,000 บาท/ตร.ว.   อย่างที่ทราบกันดีว่าราคาที่ดินหลายแห่งถูกปรับสูงขึ้นมาก รวมถึงถนนสีลมที่มีอัตราการเติบโตของราคาที่ดินประมาณ 53% ส่วนถนนสาทรอยู่ที่ 78% ด้วยทำเลที่เรียกได้ว่ามีศักยภาพอันสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ อย่างที่เราเห็นกันว่าเมื่อไหร่ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นใหม่ก็จะถูกจับจองและ Sold out ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แม้จะมีราคาสูงเฉลี่ยแล้ว 200,000-300,000 บาท/ตร.ม. จุดนี้เป็นกระจกสะท้อนภาพให้เห็นอย่างชัดเจนถึงดีมานด์ในย่านนี้ที่ยังคงมีอยู่มากทีเดียวไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน ครอบครัวที่มีลูกเรียนอยู่ในโรงเรียนย่านนี้ คนในพื้นที่เดิม และกลุ่มผู้ลงทุนอสังหาฯ เนื่องจากอยู่ใกล้กับออฟฟิศขนาดใหญ่ทั้งสัญชาติไทยและต่างชาติหลายแห่ง การเดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้าและรถยนต์ส่วนตัวที่มีจุดขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ไม่ไกล สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครัน เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา สถานทูต ร้านอาหาร สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ฯลฯ วันทำงานไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดไปไหนไกล ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ จำนวนผู้คนก็เบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งถ้าได้คอนโดมิเนียมโครงการที่ดีมีความเป็นส่วนตัวสูงก็เหมาะมากสำหรับการมีที่อยู่อาศัยทำเลดีใกล้ออฟฟิศและยังมีพื้นที่ส่วนตัวเพื่อการพักผ่อนในวันหยุด   สำหรับการลงทุนในคอนโดมิเนียมย่านนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ในความคุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนไป ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่เพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค่ายใหญ่ที่ต่างก็ยังคงมองหาที่ดินในย่านนี้อยู่เสมอ แม้จะเหลือที่ดินที่เหมาะแก่การนำไปพัฒนาต่อน้อยลงไปทุกที ราคาที่ดินก็สูงตาม แต่เมื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการในระดับลักชัวรี่ให้เหมาะสมกับดีมานด์ของย่านนี้ที่ยังมีค่อนข้างสูง ในขณะที่ซัพพลายยังถือว่าไม่ล้นก็ถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการใหม่ไปเพียง 5-6 โครงการ ขณะที่ความต้องการยังมีสูงมากกว่า 6,000 ยูนิต  เรื่องของการสร้างผลตอบแทนสำหรับผู้ลงทุนปล่อยเช่าก็ยิ่งได้ราคาดี โดยเฉพาะการปล่อยเช่าชาวต่างชาติที่มีดีมานด์เพิ่มสูงเรื่อยๆ อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 5%/ปี โดยคอนโดที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าจะได้ค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 700-1,000 บาท/ตร.ม. หรือประมาณ 30,000 บาท/เดือน(สำหรับคอนโดมิเนียมในระดับราคา 6.5 ล้านบาทขึ้นไป) และด้วยราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นส่งให้ราคารีเซลจะเพิ่มสูงขึ้นจากราคาตอนเปิดตัวประมาณ 7%   ไม่แปลกที่สีลม-สาทร ยังคงเนื้อหอมเป็นที่หมายปองของทั้งผู้ที่อยู่อาศัยเองและนักลงทุนอยู่เสมอ ด้วยความเพียบพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกรอบตัว การเดินทางง่ายใกล้ออฟฟิศ สามารถพลิกจากชีวิตที่เร่งรีบตามสไตล์คนเมืองกรุงมาเป็นชีวิตอันแสนง่าย ไม่ต้องเร่งรีบเดินทางไปทำงานทุกวัน วันหยุดก็มีสถานที่พักผ่อนอยู่ไม่ไกล ทั้งที่อยู่ใจกลางเมือง น่าคิดนะคะว่าการอยู่ใจกลางเมืองใกล้ที่ทำงานอาจจะตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้มากกว่าการออกไปอยู่ชานเมือง        
THE ROOM สาทร : รีวิวคอนโด

THE ROOM สาทร : รีวิวคอนโด

จากพรีวิวฉบับก่อนที่เราพาไปดูบรรยากาศรอบๆ โครงการ The Bangkok สาทร กันไปแล้ว ฉบับนี้เรายังคงอยู่ในทำเลย่านสาทร แต่จะพาข้ามไปดูอีกหนึ่งโครงการในเครือ Land and House ซึ่งก็คือ The Room สาทร-ถนนปั้นนั่นเอง อีกคอนโด ​High Rise ที่ยังคงอยู่ในศูนย์กลางแหล่งธุรกิจของเมืองกรุง และเกาะติดแนวรถไฟฟ้าด้วย การเดินทาง โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น ตั้งอยู่กลางๆ ซอยถนนปั้น ซอยนี้จะเชื่อมถนนสาทรและถนนสีลมไว้ด้วยกัน ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกเส้นทางเข้าออกได้สองทาง ถ้ามาจากแยกสุรศักดิ์ก็เลยมาอีก 500 เมตรโดยประมาณ ก็จะเห็นซอยถนนปั้นอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้ามาทางถนนสีลมก็ให้สังเกตุวัดพระศรีมหาอุมาเทวีหรือวัดแขกให้ดี เจอวัดแขกก็เลี้ยวเข้าซอยถนนปั้นไปได้เลยครับ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ดูจะสะดวกมาก เพราะเราสามารถเลือกใช้ถนนสายหลักได้ทั้งสองเส้นทาง ด่านทางด่วนก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ทั้งทางฝั่งสีลม และทางแยกสุรศักดิ์ จะไปไหนมาไหนก็ไม่ยากเลย ข้ามไปฝั่งธนบุรีแค่กลับรถก็มีสะพานตากสินอยู่ใกล้ๆ หรือวิ่งตามถนนสาทรไปก็เลี้ยวไปพระราม 3 แยกไปออกพระราม 4 หรือจะตรงไปเข้าถนนวิทยุก็ได้อีก แต่ที่ต้องกังวลมากหน่อยก็คือ ปัญหารถติดบนถนนสาทรที่ติดขึ้นชื่อ โดยเฉพาะในช่วงที่เปิดเทอม เวลาเข้าเรียน และตอนเย็นๆ ใกล้เลิกเรียนที่บรรดาผู้ปกครองมาจอดรถรอรับลูกกันเป็นแถวยาว ซึ่งรถก็จะติดต่อเนื่องกันไปอีกหลายช่วงโมง เพราะไหนจะได้เวลาเลิกงานคนแย่งกันกลับบ้านอีก บนท้องถนนจึงเต็มไปด้วยปริมาณรถอันหนาแน่น จะหนีไปทางถนนสีลมก็ยังคงเจอรถติดหนักไม่แพ้กัน เอาเป็นว่าต้องทำใจไว้ล่วงหน้าเลย ยังไงก็ต้องเจอกับปัญหารถติดแน่ๆ สำหรับที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ส่วนการเดินทางที่ง่าย สะดวก และน่าจะช่วยประหยัดเวลาได้มากที่สุดสำหรับคนเมืองก็คือรถไฟฟ้า สถานีรถไฟฟ้า BTS ที่อยู่ใกล้ตัวโครงการที่สุดคือ สถานีสุรศักดิ์ ลงจากตัวสถานีแล้วเดินต่อเข้ามาในซอยถนนปั้นอีกไม่เกิน 500 เมตรเท่านั้น ด้วยระยะทางขนาดนี้ยังถือว่าสะดวกมากครับ ไม่ต้องต่อรถให้ยุ่งยากอีก ถือว่าได้ออกกำลังกายอีกเล็กๆ น้อยๆ เพียงแต่ว่าถ้าเจอช่วงหน้าฝนคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ นอกเหนือจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเช่นกัน แค่เดินออกมาทางปากซอย จะเลือกทางฝั่งถนนสาทร หรือฝั่งถนนสีลมก็ได้ทั้งนั้น ถนนทั้งสองเส้นมีรถเมล์วิ่งผ่านเยอะแยะหลายสาย รถสามล้อ แท็กซี่ก็เยอะ แถมยังมีรถสองแถวแดงอีก แต่ถ้ายังสะดวกรวดเร็วไม่พอก็คงต้องใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างแถวๆ หน้าโครงการกันไปเลย เราเริ่มจาก BTS สุรศักดิ์ เลยนะครับ เราต้องออกมาทางที่ 3 ฝั่งเดียวกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เวลานี้ยังเงียบสงบอยู่ครับ เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน จากตัวสถานี BTS เดินผ่านซอยประมวลมานิดหน่อยก็ถึงถนนปั้นแล้วล่ะครับ ฝั่งตรงข้ามถนนปั้นจะเป็นโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ บรรยากาศในช่วงปากซอยอาจจะดูไม่คึกคักเท่าไหร่นะครับ แต่พอเข้ามาในซอยเรื่อยๆ ก็เริ่มจะมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้น ต้นไม้ในซอยก็ให้ความร่มรื่นดี ก่อนจะถึงโครงการก็มีตึกแถวเปิดเป็นร้านอาหารอยู่ด้านล่าง ถึงแล้วครับ ที่ตั้งโครงการ The Room สาทร ด้านหน้าโครงการกว้างประมาณ 40 เมตร วันนี้เราเข้าไปทำการรีวิว ตัวโครงการก่อสร้างไปได้มากแล้วนะครับ วิเคราะห์ทำเลรอบโครงการ ด้วยความที่โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง บรรยากาศโดยรวมจะค่อนข้างพลุกพล่านในช่วงวันธรรมดา และค่อนข้างเงียบในหยุด แต่โชคดีหน่อยที่ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักอาศัย อพาร์ทเม้นท์ และอาคารสำนักงานอยู่รวมกัน ดังนั้นจึงไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องอาหารการกินเท่าไหร่ เพราะช่วงกลางวันก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน รวมถึงรถเข็น แผงลอยอีกพอสมควร ยิ่งถ้าค่อนออกไปทางฝั่งถนนสีลมด้วยแล้วยิ่งหายห่วง เพราะใกล้ๆ วัดแขกก็มีร้านอาหารเจ้าดังอีกหลายร้าน โดยเฉพาะอาหารแขกก็มีให้เลือกหลายร้านแล้ว ตลาดสดก็อยู่ในซอยฝั่งตรงกันข้าม ในระยะซัก 300 เมตร จากวัดแขกก็มีทั้งโรงแรมนารายณ์ โรงแรมพลูแมน คอมมูนิตี้มอลอย่าง บ้านสีลม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสีลม และร้านอาหารนานาชาติอีกเพียบ เรียกได้ว่าฝั่งสีลมนี่คึกคักพึ่งพาได้ดีที่สุด ส่วนฝั่งถนนสาทรก็จะเน้นไปทางร้านอาหารใหญ่หน่อย ร้านฮิปๆ หรือนั่งกินกันเป็นเรื่องเป็นราว อาหารข้างทาง แผงลอยไม่ค่อยมีให้เห็น ในขณะเดียวกันในซอยถนนปั้นก็มีร้านสะดวกซื้ออยู่เยื้องๆ กับโครงการ ดังนั้นถ้าเอาสะดวกและง่ายเข้าว่า ก็มีที่ให้พึ่งพายามหิวแบบ 24 ชั่วโมง นอกเหนือจากเรื่องอาหารการกินแล้ว สาธารณูปโภคอื่นๆ ก็มีครบครันเช่นกัน โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนก็อยู่ใกล้มากๆ โรงพยาบาลเซนหลุยส์ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามซอยด้านถนนสาทรใต้ ซึ่งมีทั้งโรงเรียนและโบสถ์ สถานฑูตพม่าก็อยู่แค่ปากซอยถนนปั้น อันนี้แค่ในบริเวณรอบๆ ซอยเท่านั้นนะครับ แต่ถ้านับรัศมีให้กว้างออกไปอีก ก็ยังมีสถานที่สำคัญอีกเพียบ เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนเอกชน โรงแรมดัง ห้างสรรพสินค้า และ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ฯลฯ ด้วยทำเลแถบนี้ที่เป็นศูนย์กลางหลายๆ อย่าง จึงเพียบพร้อมมากๆ ในขณะที่บรรยากาศในซอยก็ค่อนข้างเงียบสงบกว่าบริเวณถนนใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อนอาศัยอย่างยิ่ง ซึ่งเราก็ไปเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ มาฝาก เผื่อใครที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับพื้นที่จะได้เห็นภาพได้มากขึ้นครับ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นตึกแถวมีร้านทำฟัน มีแฟมิลี่ มาร์ท อยู่ด้านล่าง เดี๋ยวเราเดินดูบรรยากาศในซอย ฝั่งที่จะทะลุออกไปทางสีลมกันต่อ เลยจากโครงการมานิดหน่อยจะมีคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ชื่อคอนโด ปภาดา สีลม เดินเข้าไปเรื่อยๆ บรรยากาศทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นตึกแถว มีร้านค้า ร้านอาหาร เยอะเลยครับ คอนโดอีกโครงการที่อยู่ในซอยนี้ โครงการ The Treasure เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ออกมาถึงปากซอยด้านถนนสีลม จะมี 7-11 อยู่ด้วย ร้านค้าช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายพวงมาลัย เพราะอยู่ใกล้วัดแขก ออกมาถึงฝั่งถนนสีลมแล้วบรรยากาศจะคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งฝั่งถนนปั้นและฝั่งตรงข้าม เพราะจะมีผู้คนเดินทางมาวัดแขกกันแทบจะตลอดทั้งวัน นอกจากร้านขายดอกไม้แล้ว ก็ยังมีขายอาหารด้วยนะครับ ฝั่งตรงข้ามถนนปั้น คือซอยสีลม 20 จะมีตลาด มีของกินให้เลือกเยอะแยะเลยครับ ตลาดฝั่งตรงข้ามถนนปั้น มีของกินเพียบเลยครับ ทั้งอาหารคาว หวาน และผลไม้ ทางซ้ายจากถนนปั้นออกมาที่ถนนสีลมมุ่งหน้าไปทางถนนเจริญกรุง ทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร โรงแรม และคอมมูนิตี้ มอลล์ อย่างบ้านสีลม ส่วนด้านขวาจะมุ่งหน้าไปทางศาลาแดง ก็มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ ทั้งโรงแรมนารายณ์ โรงแรมฟูราม่า และโรงแรม Pullman ภาพรวมตัวโครงการ โครงการ The Room สาทร-ถนนปั้น เป็นคอนโด High Rise อย่างที่บอกไปแล้ว ตัวตึกสูง 25 ชั้น มีจำนวน 219 ยูนิต แบ่งแบบห้องหลักๆ เป็น 2 Type คือ 1 Bed Room และ 2 Bed Room ซึ่งขนาดห้องเริ่มต้นประมาณ 40 ตร.ม. ไปจนถึง 85 ตร.ม. แน่นอนว่าแต่ละห้องก็มีรายละเอียดปลีกย่อยกันไป อันนี้ก็ต้องไปดูกันตามแปลน และตำแหน่งห้องกันอีกที แบบห้อง Standard 1 ห้องนอน ขนาด 46.8 ตารางเมตร แบบห้อง Extra 1 ห้องนอน ขนาด 50.1 ตารางเมตร แบบห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 78 ตารางเมตร หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันออกนะครับ ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น แล้วก็มีคอนโด / อพาร์ทเม้นท์สูง 7-8 ชั้น และสูงประมาณ 20 ชั้นอีกตึก ซึ่งอยู่เยื้องๆ ไปทางซ้ายและขวา ไม่ได้อยู่ตรงข้ามโครงการเป๊ะ ดังนั้นเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องบังวิวในระยะประชิดเท่าไหร่ ทิศอื่นที่เหลือรอบๆ ก็ไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องถูกบล็อควิว เว้นแต่ฝั่งทิศใต้ ที่กำลังมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานอยู่ ซึ่งน่าจะสูงประมาณ 7 ชั้น ห้องพักทางฝั่งนี้ที่อยู่ต่ำกว่าชั้น 8 หรือ 9 ลงมาก็คงเสียเปรียบเรื่องวิวไปเลยนะครับ เวลาเรื่องตำแหน่งห้องก็ลองพิจารณาให้รอบคอบก่อนก็ดีครับ ในส่วนของ Facilities ทางโครงการก็จัดมาสมน้ำสมเนื้อครับ ตั้งแต่เรื่องที่จอดรถที่จัดไว้ที่ชั้น 1-5 นับรวมจอดซ้อนคันแล้วก็เห็นว่าจอดได้ถึง 80% เลยทีเดียว นับว่าเยอะดีครับ พื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 23-24 ทั้งสระว่ายน้ำที่ทางโครงการว่าเป็นระบบโอโซน ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด และห้องประชุม แถมด้วยพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนในบริเวณชั้น 1 โดยภาพรวมแล้วถือว่าทางโครงการจัดมาเต็มที่เหมือนกันนะครับ แต่ถ้าจะเอาให้ชัวร์ต้องลงไปดูรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งเรื่องขนาดของสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ว่าจะสามารถรองรับลูกบ้านได้มากแค่ไหน นอกเหนือจากนี้ก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบมาตรฐานทั้ง Keycard Access, Digital Door Lock ฯลฯ ส่วนรายละเอียดและภาพเพิ่มเติมเราจะมีรีวิวแบบทุกซอกทุกมุมมาให้ชมกันอีกครั้งครับ ชั้น 6-21 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ชั้น 23 จะเป็นสระว่ายน้ำ และมีส่วนของห้องพักอาศัยอยู่ด้วย ประมาณ 7 ห้อง หน้าตาของสระว่ายน้ำบนชั้น 23 เลื่อนขึ้นมาที่ชั้น 24 จะเป็นส่วนของ Fitness และห้องประชุม จะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย 4 ห้อง ส่วนชั้นบนสุดที่ชั้น 25 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด จำนวน 8 ห้อง
The Room Sathorn : รีวิวคอนโด

The Room Sathorn : รีวิวคอนโด

โครงการ: The Room Sathorn (PREVIEW)   ราคา เริ่มต้น 7,590,000 บาท บาท/ตารางเมตร ประมาณ 155,000 บาท เจ้าของโครงการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จุดเด่น คอนโด High Rise สูง 25 ชั้น บนถนนปั้น จากแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และแหล่งธุรกิจย่านสาทร ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2559 ที่ตั้ง: The Room Sathorn (PREVIEW) ลักษณะคอนโด High Rise เนื้อที่ทั้งหมด 1 - 2 - 73 ไร่ ที่ตั้ง ถนนปั้น แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ พิกัดโครงการ 13.722364,100.523317 ระบบขนส่งสาธารณะ BTS สุรศักดิ์   สถานที่สำคัญใกล้เคียง สถานฑูตพม่า วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์ โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก Baan Silom เซ็นทรัล สีลม โรบินสัน บางรัก สีลม คอมเพล็กซ์ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาล BNH วัดยานนาวา ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ Empire Tower   ลักษณะโครงการ: The Room Sathorn (PREVIEW) ประเภทห้องที่มี 1 Bedroom 2 Bedrooms ขนาดห้องที่มี 1 Bedroom ขนาด 45-50 ตารางเมตร 2 Bedrooms ขนาด 78 ตารางเมตร จำนวนตึก 1 อาคาร จำนวนชั้น 25 ชั้น จำนวนห้อง 219 ยูนิต   ส่วนกลาง: The Room Sathorn (PREVIEW) ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 87% ค่าบำรุงส่วนกลาง(/ตร.ม) 55 บาท ค่ากองทุน(/ตร.ม) 500 บาท สาธารณูปโภค Main Lobby Meeting Room Ozone System Swimming Pool Fitness Sky Reading Lounge Sky Garden   เพิ่มเติม: The Room Sathorn (PREVIEW) สอบถามเพิ่มเติม 1198 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lh.co.th/condo/projects/207?lang=t ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2556