Tag : งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37

5 ผลลัพธ์
มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 ปิดฉาก ผลสำรวจชี้ยอดซื้อหลักมาจากกลุ่มเรียลดีมานด์ ไร้ผลกระทบจากมาตรการของธปท.

มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 ปิดฉาก ผลสำรวจชี้ยอดซื้อหลักมาจากกลุ่มเรียลดีมานด์ ไร้ผลกระทบจากมาตรการของธปท.

ผลสำรวจหลังจบงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 ชี้ความต้องการที่อยู่อาศัยจากกลุ่มเรียลดีมานด์ยังอยู่ในระดับสูง สินค้าประเภท คอนโดมิเนียมยังคงครองความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง   นายณพงศ์ ปริพนธ์พจน์พิสุทธิ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 เปิดเผยถึงผลสำรวจหลังการจัดงานฯ ตลอด 4 วัน ตั้งแต่ 21-24 มีนาคม ซึ่งวันสุดท้ายตรงกับเลือกตั้ง แต่ยังมีลูกค้าเข้ามาชมงานและเลือกซื้อที่อยู่อาศัย เมื่อเทียบกับการจัดงานครั้งที่ 39 มีสัดส่วนผู้ลงทะเบียนและเข้าชมงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.84 ส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.58  โดยมียอดจองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานแยกประเภทโครงการดังนี้ คอนโดมิเนียม คิดเป็น 52.20% รองลงมาเป็น บ้านเดี่ยว คิดเป็น 16.87% และ ทาวน์เฮ้าส์คิดเป็น 10.71% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทที่ดินเปล่าและอื่นๆ 9.31%  นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าขอสินเชื่อภายในงานกว่า 10,000 ล้านบาท   “ผลสำรวจปรากฏว่ามีผู้ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในงานประมาณ 80% ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และอีก 20 % ซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งมองว่ามาตรการคุมสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อมากนัก ทั้งนี้เนื่องจากมาตรการดังกล่าว เน้นไปที่บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาท และบ้านหลังที่ 2  จึงไม่ใช่ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคกลุ่มนี้ สำหรับผู้เข้าชมงานกว่า 61.01 % เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมฯ เป็นครั้งแรก และอีกประมาณ 38.99% เป็นผู้ที่เคยมางานแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง โดยผู้เข้าชมงานกว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Y ในช่วงอายุ 21-30 ปี 33.15% รองลงมาจะอยู่ในช่วงอายุ 31-40 ปี คิดเป็น 30.50% และ 15.45% เป็นกลุ่ม Gen X ในช่วงอายุ 41-50 ปี ส่วนผลสำรวจด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือนชี้ว่าผู้เดินงาน 34.09% มีรายได้อยู่ไม่เกิน 30,000 บาท และ 29.50% มีรายได้ ระหว่าง 30,000 - 50,000 บาท ส่วนที่มีรายได้เกิน 50,000 บาท จะอยู่ที่ 11.55%”   “ด้านระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี จะอยู่ที่ 24.91% ขณะที่ระยะเวลา 6-12 เดือน อยู่ที่ 16.37% และระยะเวลา 1-3  เดือน อยู่ที่ 15.57% ส่วนด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทระบุว่าผู้เข้าชมงาน 30.73% ต้องการที่อยู่อาศัยระดับ ราคา 2-3 ล้านบาท และ 23.99% ต้องการระดับ 1-2 ล้านบาท และอีก 18.31% ต้องการราคา 3-4 ล้านบาท มีเพียง 5.07% ที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท”   สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2562 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน โดยมีนายชูรัชฏ์ ชาครกุล สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เป็นประธานในการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41      
เปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40

เปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40

ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี เปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 พร้อมย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการภาครัฐและเมกะโปรเจคมากมาย ขณะที่สามสมาคมผู้จัดงานมั่นใจตลาดอสังหาฯ ปี 62 จะเห็นยอดซื้อเพิ่มขึ้น   ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “งานมหกรรมบ้านและคอนโดเป็นกิจกรรมที่มีความ สำคัญ ไม่ใช่เฉพาะแต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นับเป็นงานแสดง สินค้าที่อยู่อาศัยใหญ่ที่สุด โดยมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก พร้อมกันนำสินค้าหลาก หลายโครงการมาจัดแสดง เพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปที่กำลังเลือกซื้อที่อยู่อาศัย โดยสามสมาคมผู้จัดงาน ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ได้ทำให้เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย มาที่ เดียวจบทุกราคา ทุกประเภท ทุกทำเล ตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ ผู้ซื้อยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งจาก ผู้ประกอบการและแคมเปญกระตุ้นยอดขายจากผู้จัดงานอีกมากมาย”   “ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจอื่นๆ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ โดยเฉพาะโครงสร้างสาธารณูปโภคด้านการคมนาคมกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นสิ่งคู่กัน ตลอดมา พื้นที่ใดถนนตัดผ่านย่อมเกิดการขยายตัวสร้างความเจริญสู่ชุมชนใหม่ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศไทย ให้ก้าวสู่การเป็นประเทศผู้มีรายได้สูง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายความเจริญไปทั่วประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการ ดังนั้น โครงการเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนของการพัฒนาประเทศ เนื่องจากการเกิด Smart City มีลักษณะความอัจฉริยะใน 7 ด้าน ซึ่งครอบคลุมทั้งด้าน เศรษฐกิจ การขนส่ง พลังงาน สิ่งแวดล้อม การดำรงชีพ พลเมือง และการบริหารงานภาครัฐ ในปีที่ผ่านมารัฐบาลได้เปิด โครงการนำร่องเมืองอัจฉริยะ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น กรุงเทพฯ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา สำหรับปีนี้จะขยายแผนงานไปยัง 24 จังหวัด และคาดว่าภายในเวลา 5 ปีจะขยายไปทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้ทำการเปิด รับสมัครเมืองทั่วประเทศ เพื่อนำมาพัฒนาเป็น Smart City เมื่อผ่านเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด เมืองเหล่านั้นก็จะได้รับ ตราสัญลักษณ์ Smart City สามารถขอรับสิทธิส่งเสริมการลงทุน จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้”   “นอกจากนี้ ภายใต้แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ตั้งแต่ปี 2558 – 2565 กระทรวงคมนาคม ยังมุ่งพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทุกโครงข่าย ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ให้เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศ รวมถึงการ สร้างสถานีขนส่ง หรือจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางด้วยการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน หรือ Transit Oriented Development เพื่อช่วยกระจายความเจริญไปยังภูมิภาคตามแนวสายทางการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเอื้อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรม แหล่งงาน และแหล่งที่อยู่อาศัย เป็นต้น”   “สำหรับในส่วนกรุงเทพมหานคร โครงการรถไฟฟ้าเฟส 1 จำนวน 10 สาย และพร้อมจะเปิดให้บริการครบทุกสายภายใน ระยะเวลา 5 - 6 ปี สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นวันละราว 2.7 ล้านคน ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เริ่มวางแผน งานพัฒนาเฟส 2 เพื่อขยายรัศมีโครงข่ายรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเน้นไปที่พัฒนาสถานีเพื่อเชื่อมต่อการขนส่งทุกรูปแบบ ทั้งรถเมล์ เรือโดยสาร และท่าอากาศยาน และเชื่อว่ายังมีงานอีกมากมายที่จะดำเนินการต่อ เพื่อให้การพัฒนาประเทศ มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบต่อไป” ดร.ไพรินทร์ กล่าว   ด้านนายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 เปิดเผยว่า “ปี 2562 นี้ มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างมากกับตลาดอสังหาฯ ไทยอยู่หลายประการ อาทิ มาตรการควบคุมสินเชื่อบ้านแบบใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายนนี้ ทำให้ผู้ประกอบการต่างเร่งระบายสต๊อกสินค้าและออกโปรโมชั่นพิเศษมากมาย จึงเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มเรียลดีมานด์ที่จะได้เลือกซื้อสินค้าที่ต้องการพร้อมได้รับสิทธิพิเศษทั้งด้านส่วนลดราคาและของแถมมากมาย โดยคาดการณ์ว่าจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนปัจจัยด้านการเมือง ซึ่งหากรัฐบาลชุดใหม่มีเสถียรภาพ สถานการณ์ทางการเมืองนิ่ง เศรษฐกิจของประเทศก็น่าจะกลับมาฟื้นตัว และเชื่อว่าตลาดอสังหาฯ ในครึ่งปีหลังก็จะกลับมาคึกคักยิ่งขึ้น ทั้งยังต้องรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาฯ”   “ทางคณะผู้จัดงานคาดการณ์ว่างานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 นี้ จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยมีผู้มาร่วมงานอยู่ที่เกือบ 1 แสนคน และมียอดจองและขายทั้งภายในงานและต่อเนื่องหลังงานรวมกว่า 6 พันล้านบาท สำหรับงานครั้งนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 150 ราย และมีโครงการมากกว่า 1,000 โครงการให้ลูกค้าได้เลือก”   “คณะกรรมการจัดงานได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ “7 Weeks 7 Flash Deal” เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรื่องเป็นอยู่เป็นเรื่องง่าย โดยแคมเปญนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และจะสิ้นสุดในวันที่ 24 มีนาคม ซึ่ง เป็นวันสุดท้ายของการจัดงานฯ ลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนออนไลน์หรือจองซื้อภายในงานจะได้รับสิทธิ์ลุ้นรับดีลพิเศษ 7 ดีล ตลอด 7 สัปดาห์ ได้แก่ ฟรีผ่อน 1 ปี ฟรีดาวน์ ฟรีโอน ฟรีค่าส่วนกลาง ฟรี   บิวท์อิน ฟรีเครื่องใช้ ไฟฟ้า และฟรีเฟอร์นิเจอร์ แต่ละดีลจะมีมูลค่าถึง 120,000 บาท นอกจากนี้ คณะกรรมการจัดงานยังได้ทำ HC SOLUTION เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจหาข้อมูลโครงการที่สนใจจากระบบฐานข้อมูล ซึ่งรวบรวมข้อมูลทุกอย่างจากผู้ประกอการทุกรายที่ร่วมจัดแสดงสินค้าในครั้งนี้ ตั้งแต่ตำแหน่งที่ตั้งบูธภายในงาน ประเภทโครงการ ทำเล ราคา และโปรโมชั่นต่างๆ ไปจนถึงการคำนวณความสามารถในการขอสินเชื่อ ทั้งยังสามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินชั้นนำมากมาย ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษมากมายไว้ต้อนรับลูกค้าภายในบูธของแต่ละแบรนด์อีกด้วย” นายณพงศ์ กล่าว   งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 24 มีนาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริเวณโซนซี ชั้น 1 ชั้น 2 และโซนเอเทรียม ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าได้ทาง www.housecondoshow.com หรือติดตามรายละเอียดข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ทางเฟสบุ๊ค housecondoshow - งานมหกรรมบ้านและคอนโด, อินสตาแกรม housecondoshow  หรือช่องทางไลน์ @housecondoexpo เพื่อรับข้อมูลโครงการและโปรโมชั่นจากผู้ประกอบ การได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็ว      
มหกรรมบ้านและคอนโด เดินหน้าขับเคลื่อนอสังหาฯ ไทย ปลุกกระแสตลาดให้คึกคัก

มหกรรมบ้านและคอนโด เดินหน้าขับเคลื่อนอสังหาฯ ไทย ปลุกกระแสตลาดให้คึกคัก

สามบิ๊กสมาคมอสังหาฯ ยังคงเดินหน้าจัดมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 คาดว่าตลาดยังมีกำลังซื้อ ด้วยมีปัจจัยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค การจัดงานมหกรรมฯ เป็นการตอกย้ำความต้องการด้านที่อยู่อาศัย และขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงต้นปี 2562   นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 เปิดเผยว่า “ถึงแม้จะมีปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ อาทิ มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้ จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมากขึ้น งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้ นับเป็นโอกาสของผู้บริโภคที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย ด้านผู้ประกอบการต่างเร่งระบายสินค้าในสต๊อกภายในงานมหกรรมฯ โดยแข่งขันการจัดแคมเปญและโปรโมชั่นพิเศษ ตลอดจนผู้จัดงานฯ ได้มีการออกแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในงานด้วย และคาดว่าหลังการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ น่าจะมีแนวนโยบายต่างๆ ในการกระตุ้นธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเปรียบเสมือนฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ”   งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริเวณโซนซี ชั้น 1 ชั้น 2 และโซนเอเทรียม “โดยมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมแสดงสินค้าภายในงานกว่า 150 บริษัท และมีโครงการมากกว่า 1,000 โครงการ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อพร้อมรับแคมเปญภายในงานมากมาย โดยสินค้าที่นำมาแสดง ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 32.8%  บ้านเดี่ยว 19.7% ทาวน์เฮ้าส์ 16.4% และอื่นๆ เป็นต้น และตลอดการจัดแสดงงาน 4 วัน คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคเข้ามาชมงานเกือบ 1 แสนคน และมียอดจองและยอดขายทั้งภายในงานและต่อเนื่องหลังงานมากกว่า 6 พันล้านบาท”   ภายในงานครั้งนี้ คณะกรรมการจัดงานได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ “7 Weeks 7 Flash Deal” เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรื่องเป็นอยู่เป็นเรื่องง่าย โดยแคมเปญนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และจะสิ้นสุดในวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานฯ ลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนออนไลน์หรือจองซื้อภายในงานจะได้รับสิทธิ์ลุ้นรับดีลพิเศษ 7 ดีล ได้แก่ ฟรีผ่อน 1 ปี ฟรีดาวน์ ฟรีโอน ฟรีค่าส่วนกลาง ฟรีบิวท์อิน ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า และฟรีเฟอร์นิเจอร์ มูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้จัดโซนพื้นที่ HC SOLUTIONS เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจหาข้อมูลโครงการที่สนใจจากระบบฐานข้อมูล ซึ่งรวบรวมข้อมูลทุกอย่างจากผู้ประกอบการทุกรายที่มาร่วมออกบูธแสดงสินค้า ตั้งแต่ตำแหน่งที่ตั้งบูธ ประเภทโครงการ ทำเล ราคา และโปรโมชั่นต่างๆ ไปจนถึงการคำนวณความสามารถในการขอสินเชื่อ พร้อมขอรับคำปรึกษาเรื่องการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินชั้นนำมากมาย ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น   ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าได้ทาง www.housecondoshow.com หรือติดตาม รายละเอียดข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ทางเฟสบุ๊ค housecondoshow - งานมหกรรมบ้านและคอนโด, อินสตาแกรม housecondoshow  หรือช่องทางไลน์ @housecondoexpo เพื่อรับข้อมูลโครงการและโปรโมชั่นจากผู้ประกอบการได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็ว    
ซีเอ็มซี กรุ๊ป รุกหนักตลาดคอนโดทุกโซน หลังกวาดยอดขายมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 38 กว่า 467 ล้านบาท

ซีเอ็มซี กรุ๊ป รุกหนักตลาดคอนโดทุกโซน หลังกวาดยอดขายมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 38 กว่า 467 ล้านบาท

นายศตกร  หงส์จรรยา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด (แถวหน้า ที่ 3 จากซ้าย) บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 38 ที่ผ่านมา ซีเอ็มซี กรุ๊ป สามารถทำยอดขายได้สูงกว่าที่คาดการณ์มียอดขายโครงการรวมมูลค่ากว่า 467 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของยอดขายรวมทั้งหมดในงาน ดีที่สุดในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ซึ่งในงานดังกล่าวมีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานจำนวนทั้งสิ้นกว่า  93 ราย โดยหลังจากนี้ ซีเอ็มซี กรุ๊ป ยังคงรุกหนักด้วยการทำการตลาดคอนโดมิเนียมกว่า 20 โครงการ บนทำเลย่าน CBD สาทร-ตากสิน-นราธิวาส และสุขุมวิท ตลอดจนทำเลต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ อาทิ บางแค เพชรเกษม ท่าพระ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า-พระราม 8 และรามคำแหง ผ่านแบรนด์ที่พักอาศัย แบงค์คอก ฮอไรซอน, แบงค์คอก เฟลิซ และชาโตว์ อินทาวน์ ปัจจุบันได้จัดโปรโมชั่นพิเศษทางการเงินร่วมกับธนาคารUOB กับแคมเปญฟรีดอกเบี้ย 0% ระยะเวลานาน 3 ปี ซึ่งมีระยะเวลาแคมเปญไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 นอกจากนี้ยังมีแผนการที่จะรุกหนักทั้งการจัดอีเว้นท์ และโปรโมชั่นแคมเปญสุดเร้าใจอีกหลายรายการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการที่พักอาศัยคุณภาพ และมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่www.cmc.co.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 1172 และติดตามสื่อสังคมออนไลน์ได้ที่ www.facebook.com/cmc.co.th
3 สมาคมอสังหาฯ ปลื้มมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 38 ยอดจองทะลุเป้า

3 สมาคมอสังหาฯ ปลื้มมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 38 ยอดจองทะลุเป้า

สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ประกาศความสำเร็จหลังการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 38 หลังยอดขาย ยอดขอสินเชื่อ และยอดคนเดินงานทะลุเกินเป้า นายวรัทภพ แพทยานันท์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 38 เปิดเผยถึงความสำเร็จของงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 38 ว่า ตลอดการจัดงาน 4 วัน ตั้งแต่ 15 - 18 มีนาคมที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กำจัดทุกข้อจำกัด ให้เรื่องเป็นอยู่เป็นเรื่องง่าย” รวมเหล่าผู้ประกอบการเกือบ 200 บริษัทจากทั่วประเทศที่นำโครงการที่มีอยู่เดิม และกำลังเปิดใหม่มาเปิดจองขายกว่า 1,000 โครงการ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ อีกทั้งยังมีบริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินชั้นนำเสนอแก่ลูกค้า ซึ่งตลอด 4 วัน มีผู้เข้างานกว่า 100,000 คน และมียอดจองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจบงานจะมียอดขายตามมาอีก ไม่ต่ำกว่าแปดพันล้านบาท โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจองซื้อภายในงานมากที่สุด 3 ลำดับแรกได้แก่ คอนโดมิเนียม รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ นอกจากนี้ ยังมียอดขอสินเชื่อกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท “จากผลสำรวจภายในงานสำรวจว่าเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์มากว่านักลงทุน และจากตัวเลขยอดจองภายในงานที่เพิ่มขึ้นน่าจะมาจากปัจจัยหลายประการ ทั้งจากการที่สภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเงินกู้ในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากนัก ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา การที่ผู้ประกอบการนำโครงการใหม่มาเปิดตัว เปิดพื้นที่ทำเลใหม่ ตลอดจนโปรโมชั่นที่หลากหลายรูปแบบอาทิเช่น ส่วนลด ของแถม ฟรีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการให้อยู่ฟรีได้หลายปี เป็นต้น อีกทั้งสถาบันการเงินยังนำแพ็คเกจสินเชื่อมานำเสนอเพื่อช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น” นายวรัทภพ กล่าว สำหรับการประมวลผลข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจจองซื้อมากที่สุดเป็นสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวคิดเป็น 42.56% รองลงมาเป็นคอนโดมิเนียม 31.69% ทาวเฮ้าส์ 15.31% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝดและอื่นๆ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งผู้เข้าชมงานกว่า 55.28% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมฯ เป็นครั้งแรก และอีกประมาณ 43.72% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อน ผู้เข้าชมงานกว่า 35.04% อยู่ในช่วงอายุ 21-30 ปี รองลงมา 32.47% อยู่ในช่วงอายุ 31-40 ปี และ15.14% อยู่ในช่วงอายุ 41-50 ปี ด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท 35.37%  มีรายได้ ระหว่าง 30,000 – 50,000 บาท 26.09% และมีรายได้เกิน 50,000 บาท 12.94% ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี อยู่ที่ 20.32% ระยะเวลา 6-12 เดือน 19.27% และซื้อภายในงาน 13.40% ผลสำรวจด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทระบุว่า ผู้เข้าชมงาน 27.33% ต้องการที่อยู่อาศัยระดับ ราคา 2-3 ล้านบาท 26.46% ต้องการระดับ 1-2 ล้านบาท 18.96% ต้องการราคา 3-4 ล้านบาท และมีเพียง 6.25% ที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 39 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ตุลาคม 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีคุณปิติพัฒน์ ปรีดานนท์ สมาคมอาคารชุดไทย ได้รับเกียรติเป็นประธานในการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 39