Tag : จิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์

3 ผลลัพธ์
สิริ เวนเจอร์ส เชื่อมโยงนวัตกรรม Wind Turbine  พร็อพเทคระดับโลกมาเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยในไทยเป็นครั้งแรก  พร้อมนำทัพ 2 พันธมิตรชั้นนำบินตรงเผยกลยุทธ์ผลักดันสตาร์ทอัพไทยสู่ระดับโลก

สิริ เวนเจอร์ส เชื่อมโยงนวัตกรรม Wind Turbine พร็อพเทคระดับโลกมาเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยในไทยเป็นครั้งแรก พร้อมนำทัพ 2 พันธมิตรชั้นนำบินตรงเผยกลยุทธ์ผลักดันสตาร์ทอัพไทยสู่ระดับโลก

จิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัทสิริ เวนเจอร์ส จำกัด (กลาง) นำทีมคณะผู้บริหารร่วมเสวนาในงาน Siri Ventures Global Connection Platform เพื่อเผยถึงเทรนด์ในการลงทุนและแนวทางการพัฒนา Prop Tech เพื่อตอบโจทย์การเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณแบบ (complete your living experience) ของแสนสิริ พร้อมชวน มร.ชอน เดฮ์พานาฮ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายพันธมิตรองค์กรและนวัตกรรม จากบริษัท Plug and Play จากซิลิคอน วัลเล่ย์ สหรัฐอเมริกา (ซ้าย) และ มร. เบน สตรูว์โก ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมองค์กรจากบริษัท SOSA จากประเทศอิสราเอล (ขวา) ในฐานะพันธมิตรเครือข่ายสตาร์ทอัพระดับโลกบินตรงมาร่วมเปิดกลยุทธ์สำคัญในการเปิดประตูสร้างโอกาสผลักดันสตาร์ทอัพไทยสู่ระดับโลก พร้อมดึงโมเดล Wind Turbine กังหันลมสำหรับผลิตพลังงานไฟฟ้าสำหรับโครงการที่พักอาศัยมานำเสนอครั้งแรกในไทย สะท้อนพันธกิจการลงทุนก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงนวัตกรรมระดับโลกของบริษัทฯ พร้อมด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำอีกมากมาย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง ณ งาน Techsauce Global Summit 2018 โรงแรมเซนทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้
สิริ เวนเจอร์สชิงเกมอสังหาเดินหน้าลงทุนนวัตกรรม เน้นเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ  พร้อมเฟ้นหาสตาร์ทอัพศักยภาพสูง ทะยานสู่เวทีระดับโลก  ที่ศูนย์กลางนวัตกรรม Silicon Valley

สิริ เวนเจอร์สชิงเกมอสังหาเดินหน้าลงทุนนวัตกรรม เน้นเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ พร้อมเฟ้นหาสตาร์ทอัพศักยภาพสูง ทะยานสู่เวทีระดับโลก ที่ศูนย์กลางนวัตกรรม Silicon Valley

“สิริ เวนเจอร์ส” (SIRI VENTURES) บริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริ และธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อทำการวิจัยและลงทุนด้าน Prop Tech อย่างครบวงจรเต็มรูปแบบรายแรกของไทย ตอกย้ำพันธกิจองค์กรในการลงทุนในสตาร์ทอัพ และมุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อการเติมเต็มการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ “Complete Your Living Experience” พร้อมเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แสนสิริจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าธุรกิจในสตาร์ทอัพที่สิริ เวนเจอร์สลงทุน พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องในฐานะ “Global Connecting Platform” แพล็ตฟอร์มเชื่อมโยงธุรกิจไทยสู่ระดับโลก เปิดเวทีเฟ้นหาสตาร์ทอัพด้าน Prop Tech ศักยภาพสูงของไทยในงาน TechSauce Global Summit 2018 เพื่อร่วมลงทุนในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ สร้างและขยายเครือข่ายธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด รวมถึงโอกาสในการเสนอแผนธุรกิจกับนักลงทุนระดับโลกที่ Silicon Valley ศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลก พร้อมดึงเครือข่ายสตาร์ทอัพระดับโลก Plug and Play มาร่วมเสริมสร้างโอกาสและการเติบโตให้กับนวัตกรรม Prop Tech ไทยอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนบนเวทีการแข่งขันระดับโลก   นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี (Chief Technology Officer) บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “ตามนโยบายล่าสุดของรัฐบาลเกี่ยวกกับการผลักดันให้ไทยเป็น Startup Hub ของภูมิภาคเอเชียด้วยแนวคิด Open Innovation Nation ซึ่งยังมีความท้าทายเกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศ ให้เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพ ที่ต้องอาศัยการสนับสนุนทุกภาคส่วน สิริ เวนเจอร์ ในฐานะผู้นำจากภาคเอกชนในการยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย จึงพร้อมเดินหน้าสนับสนุนแนวทางดังกล่าวโดยการผลักดันให้เกิดการพัฒนาด้าน Prop Tech ของไทย และเพื่อสนับสนุนพันธกิจหลักของแสนสิริในการมุ่งเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิต (Complete Your Living Experience) วันนี้ สิริ เวนเจอร์ส เปิดเวทีเฟ้นหาสตาร์ทอัพด้าน Prop Tech เป็นครั้งแรกเพื่อคัดเลือก 20 ทีมศักยภาพในงาน TechSauce Global Summit 2018 ที่สิริ เวนเจอร์สจะให้การสนับสนุนผู้ชนะเลิศหนึ่งเดียวในการเดินทางไปนำเสนอแผนธุรกิจกับนักลงทุนระดับโลกในไตรมาสที่ 4 ที่ Silicon Valley ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกที่สามารถผลักดันให้นวัตกรรมที่มีศักยภาพนั้นต่อยอดได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมสานต่อความร่วมมือกับเครือข่ายสตาร์ทอัพระดับโลก Plug and Play หนึ่งในบริษัทร่วมทุน Ventures Capital ที่เติบโตมากที่สุดใน Silicon Valley และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลากหลายบริษัท อาทิ เดนเจอร์, ดร็อพบ็อกซ์, เลนดิง คลับ, เพย์พาล, ซาวด์ฮาวด์ และซูสค์ ทั้งนี้เพื่อเชื่อมโยงแสนสิริ และสตาร์ทอัพกับนักลงทุนและองค์กรที่มีศักยภาพจากทั่วโลก รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านคำแนะนำ ความรู้ และแบ่งปันประสบการณ์กับสตาร์ทอัพไทย นับเป็นการเปิดประตูเชื่อมโยงธุรกิจ Prop Tech ไทยสู่การแข่งขันในระดับโลก และเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัพด้าน Prop Tech ที่แข็งแกร่งให้เกิดขึ้นในประเทศไทย”   “นอกจากเหนือจากทีมที่ชนะเลิศในเวที SIRI VENTURES ที่จะได้ไป Silicon Valley แล้วทีมสตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 20 ทีมจะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ SIRI VENTURES Connection Platform ซึ่งทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญที่พร้อมผลักดันให้แนวคิดธุรกิจ Prop Tech เกิดขึ้นและเติบโตได้จริงอย่างรอบด้านในทุกขั้นตอน ทั้งการสนับสนุนด้านเงินทุน คำแนะนำและการเข้าร่วมเวิร์คช็อปจากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Prop Tech ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ตลอดจนโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยแสนสิริพร้อมที่จะบ่มเพาะเพื่อมองหาโอกาสการลงทุนในสตาร์ทอัพ Prop Tech จำนวนประมาณ 5 ทีมจาก 20 ทีมสุดท้ายที่สามารถพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ธุรกิจของแสนสิริในการเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ (Complete your living experience) หรือเป็นนวัตกรรมที่สิริ เวนเจอร์สมองเห็นโอกาสในการลงทุนจากศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจในอนาคต”   สำหรับ SIRI VENTURES Global Connecting Platform เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญเพื่อตอกย้ำเป้าหมายด้านการลงทุนในสตาร์ทอัพของสิริ เวนเจอร์ส ในการพัฒนานวัตกรรมที่ยกระดับการอยู่อาศัยอย่าง ครบวงจรของลูกบ้านแสนสิริ เพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้กับบริษัทสตาร์ทอัพที่ร่วมลงทุน พร้อมยกระดับกระบวนการทำงาน บริหารจัดการธุรกิจของแสนสิริ ครอบคลุมเทคโลยีสำหรับการทำธุรกิจด้านที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร (Holistic Property Technology Landscape) ตั้งแต่การบริหารระบบข้อมูลการออกแบบโครงการ การก่อสร้าง การสนับสนุนการซื้อขาย การบริหาร และให้บริการภายในโครงการ และเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่สอดรับกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัยแบบองค์รวม ภายใต้การสนับสนุนจากสิริ เวนเจอร์ส นวัตกรรมจากทีมสตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือกจะนำมาทดสอบความเป็นไปได้ทางธุรกิจกับกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้งานจริง การสนับสนุนทั้งด้านการขายและการขยายตลาด ซึ่งไม่จำกัดเพียงเฉพาะลูกค้าของแสนสิริ แต่ยังมุ่งสร้างโอกาสในการเติบโตสู่กลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัยพ์รายอื่น ๆ ไปจนถึง ตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างความก้าวหน้าทางธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมทั้งร่วมกันผลักดันนวัตกรรมนั้น ให้ได้รับการจดสิทธิบัตรต่อไป     สำหรับสตาร์ทอัพรายล่าสุดที่สิริ เวนเจอร์สเข้าลงทุนคือ Semtive ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Wind Turbineกังหันลมเพื่อเปลี่ยนพลังงานลมเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยกระแสลมแรงเหมือน Wind Farm และใช้ได้บนพื้นที่จำกัดในเมือง เช่น บนหลังคาบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ด้วยเงินลงทุนกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นการพัฒนาด้าน Living Tech นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้ลูกบ้านควบคุมการ ใช้ไฟฟ้า และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันการใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกันในชุมชน ซึ่งจะพร้อมใช้งานจริงในโครงการนำร่องของแสนสิริภายในไตรมาส 3 ปี 2561   สิริ เวนเจอร์ส จะเปิดรับสมัครทีมสตาร์ทอัพที่จะเข้าร่วม SIRI VENTURES Global Connection Platform บนเว็บไซต์ www.siriventurespitching.com ไปจนถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2561 โดย สิริ เวนเจอร์สจะทำการคัดเลือกเหลือ 20 ทีมสตาร์ทอัพสุดท้ายที่มีศักยภาพเพื่อนำเสนอแผนธุรกิจในงาน TechSauce Global Summit 2018 ระหว่างวันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2561 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัล เวิลด์ ซึ่งในงานนี้ ยังมีช่วงเสวนาพิเศษเกี่ยวกับเทรนด์ Prop Tech ระดับโลกบนเวทีโดยวิทยากรจากสิริ เวนเจอร์ส, Plug and Play และ SOSA เกี่ยวกับแนวทางการสร้างความร่วมมือ กรณีตัวอย่างของความสำเร็จทางธุรกิจ และการนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิตจาก Siri LifeTech อาทิ SAN:DEE Delivery Bot หรือน้องแสนดี หุ่นยนต์ไฮเทคส่งของถึงหน้าห้องพัก, นวัตกรรม Wind Turbine กังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าในที่พักอาศัย, Home Service App พร้อมฟังค์ชั่นรองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย   ทั้งนี้ภารกิจเฟ้นหาสตาร์ทอัพศักยภาพสูงเพื่อเข้าร่วม SIRI VENTURES Connection Platform ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ 3 ปีของ สิริ เวนเจอร์ส ภายใต้งบประมาณทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท โดยจะเน้นการดำเนินงาน 3 ด้าน คือ การลงทุนในสตาร์ทอัพ ความร่วมมือในการผลักดันการสร้างระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพร่วมกับเครือข่ายสตาร์ทอัพจากหลากหลายสาขาทั่วโลก รวมถึงการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมสำหรับอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยเพื่อมาร่วมพัฒนาต่อยอดให้เกิดได้จริงในด้านธุรกิจ โดยตั้งเป้าสร้างเครือข่ายกับผู้พัฒนานวัตกรรมใหม่ด้าน Prop Tech อย่างน้อย 200 รายภายในปี 2020  
สิริเวนเจอร์สรุกจับมือ GDG Thailand พัฒนาแอพพลิเคชั่นรองรับ   Google Assistant เวอร์ชั่นไทยเจ้าแรก ต่อยอดสมาร์ทโฮมสุดล้ำตอบโจทย์   ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยยุคใหม่

สิริเวนเจอร์สรุกจับมือ GDG Thailand พัฒนาแอพพลิเคชั่นรองรับ Google Assistant เวอร์ชั่นไทยเจ้าแรก ต่อยอดสมาร์ทโฮมสุดล้ำตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยยุคใหม่

สิริเวนเจอร์ส ดึง GDG พัฒนาระบบสมาร์ทโฮม จากแพลตฟอร์ม Google Assistant หวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยด้วยเวอร์ชั่นคำสั่งภาษาไทยรายแรกในประเทศ พร้อมเปิดแผนพัฒนาล้ำหน้ามากกว่าการทำงานพื้นฐานเปิด-ปิดไฟ เตรียมเปิดตัว Home Service Application   นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (SIRI VENTURE) บริษัทร่วมทุนในรูปแบบ Corporate Venture Capital ในเครือแสนสิริทำการวิจัยและลงทุน เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ (R&D) ด้าน Property Technology อย่างเต็มรูปแบบเป็นรายแรกของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ GDG Thailand ( Google Developer Group) กลุ่มนักพัฒนาที่สนใจเทคโนโลยีของกูเกิลในประเทศไทย พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะจากค่าย Google ที่พัฒนาขึ้นมาใช้งานกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เช่นลำโพง Google Home, แอพพลิเคชั่น Google Assistant ในระบบแอนดรอยด์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยในทุกแพลตฟอร์มให้กับผู้อยู่อาศัย ให้ผู้ใช้งานใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น โดยในการพัฒนาครั้งนี้ได้ต่อยอดฟังก์ชั่นการสั่งงานภาษาไทย ที่เล็งเห็นความสำคัญในการตอบโจทย์ผู้ใช้งานชาวไทยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนอกจากการร่วมสนับสนุนนักพัฒนาให้สร้างแอพบนแพลตฟอร์มแล้ว ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อป และการแข่งขัน Hackathon อีกด้วย     สำหรับการพัฒนาร่วมกันในครั้งนี้จะมีการเปิดตัว Home Service Application บนแพลตฟอร์ม Google Assistant Google Home ที่รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ ในงาน Techsauce Global Summit 2018 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 22-23 มิถุนายน 2561 และตั้งเป้าเปิดให้ใช้กับโครงการของแสนสิริในไตรมาส 3/2561 ซึ่งนอกเหนือจากฟังก์ชั่นรองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยแล้ว ยังได้ร่วมมือกับ GDG ประเทศไทย เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้ Start up ไทยเข้ามาร่วมพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เพิ่มคุณสมบัติการใช้งาน Google Assistant เวอร์ชั่นภาษาไทย เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านในโครงการของแสนสิริ อาทิ การเช็คข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของโครงการ รวมถึงการส่งพัสดุ การส่งข้อความหานิติบุคคล และการแจ้งซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านเป็นต้น ซึ่งการพัฒนาในครั้งนี้จะทำให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ และใช้งานจริงได้กับ Google Home ถือเป็นการต่อยอดให้เหมาะกับการใช้งานของคนไทยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีดิจิทัลตลอดเวลา รวมถึงทิศทางของทั่วโลกก็มีการพัฒนาด้านสมาร์ทโฮมและเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ประเทศไทยยังมีการเข้าถึงไม่มากนัก ส่วนหนึ่งคาดว่ามาจากข้อจำกัดในด้านการสื่อสารกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ยังไม่ค่อยรองรับคำสั่งภาษาไทย   นอกจากนี้สิริเวนเจอร์สยังคงพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทรนด์การใช้ Smart home assistant เช่น ลำโพงสั่งการด้วยเสียงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และถือว่าเป็นเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัยที่เติบโตเร็วที่สุด โดยมีจำนวนผู้ใช้งานเกินกว่า 50 ล้านรายในปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากปีก่อนหน้า โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะมีผลต่อพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมการสั่งงานด้วยเสียงนั้นจะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากการเก็บข้อมูลการใช้งานจริงจากผู้ใช้งาน Google จำนวนมากในประเทศไทยด้วยระบบAI ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้ตอบโจทย์ในสิ่งที่ผู้อยู่อาศัยต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ     “ในต่างประเทศเองได้มีการพัฒนาไปจนถึงจุดที่ Google Assistant สามารถทำงานร่วมกับ Third party หรือบริการต่างๆ ที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ด้วยการสั่งการผ่าน Google Home ได้โดยตรง เช่น การเรียกดูข้อมูลข่าวสารจาก CNBC , การเลือกดูหนังจาก Netflix, การสั่งอาหาร หรือการเรียกใช้บริการขนส่งสาธารณะออนไลน์ ซึ่งฟังก์ชั่น เหล่านี้ สามารถใช้งานด้วยการสั่งการด้วยเสียงได้ทันที เราคาดหวังว่าจะมีสตาร์ทอัพไทยรายใหม่ๆ เห็นโอกาสและอยากเข้ามาพัฒนาฟังก์ชั่นนี้ โดยใช้ประโยชนจากการเก็บข้อมูลของ Google Assistant มาพัฒนาต่อยอด” นายจิรพัฒน์กล่าว   สำหรับโรดแมปในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฮมร่วมกับสิริเวนเจอร์สนั้น เราได้แบ่งออกเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นจะเป็นการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Home Service App ให้สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยผ่าน Google Home ได้โดยตรง โดยจะสามารถใช้งานได้จริงภายต้นไตรมาส 3ปีนี้ และในอนาคตจะพัฒนาเพื่อรองรับระบบ Internet of Things คือการใช้งานอย่างครอบคลุมสามารถสื่อสารเชื่อมโยงระหว่างสิ่งของกับสิ่งของด้วยกัน ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีกับผู้บริโภคอย่างมหาศาล   นายวิทยา อัศวเสถียร Community Manager ของ Google Developer Group Thailand กล่าวว่า GDG ประเทศไทย คือกลุ่มนักพัฒนาที่สนใจเทคโนโลยีของกูเกิล โดยการร่วมมือครั้งนี้มีขึ้นเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่อยอดการใช้งาน Google Assistant เวอร์ชั่นภาษาไทยรายแรกของประเทศ จากการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องพบว่าจุดเด่นของ Google Assistant ที่ได้ร่วมมือพัฒนากับสิริเวนเจอร์ส คือ การเปิดกว้างให้ Start up ไทยสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาให้เกิดฟังก์ชั่นใหม่ๆ แบบไร้ขีดจำกัด