Tag : ติวานนท์

4 ผลลัพธ์
Villette Lite ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ : รีวิวทาวน์โฮม

Villette Lite ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ : รีวิวทาวน์โฮม

Villette Lite ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ  ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ในซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 34 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพู สถานีปากเกร็ด จาก พฤกษา เรียลเอสเตท รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น     2,190,000 บาท เจ้าของโครงการ     บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ     ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 113 ยูนิต เนื้อที่ทั้งหมด     ประมาณ 10 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 34 ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จ    พร้อมเข้าอยู่ สถานที่สำคัญใกล้เคียง โรงเรียนอัมพรไพศาล โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี โรงเรียนหอวังนนทบุรี เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เมเจอร์ ฮอลลีวูด โฮมโปร แจ้งวัฒนะ บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ โลตัส แจ้งวัฒนะ แมคโคร แจ้งวัฒนะ ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ โรงพยาบาล World Medical Center อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย Summer/A  หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 110 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ ลู่วิ่งออกกำลังกาย ระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐาน ตลอด 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิด CCTV Double Gate Security สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1739 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  villettelite.pruksa.com
รีวิวคอนโด ติวานนท์ “Amber by Eastern Star”

รีวิวคอนโด ติวานนท์ “Amber by Eastern Star”

เคยผ่านมาดูคอนโดแนวรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงถนนกรุงเทพ - นนท์ ก็หลายครั้งแล้ว ซึ่งทำเลในแถบนี้ยังคงมีคอนโดโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เลยจะพาไปดูอีกโครงการใกล้กับรถไฟฟ้า สายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ ถ้าใครได้ผ่านมาบนถนนสายนี้อาจจะพอคุ้นตากับป้ายโครงการ Amber By Eastern Star กันบ้าง การเดินทาง เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าแยกติวานนท์เพียง 50 เมตรดังนั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ถ้าหากว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานในปี 2559 ในอนาคตอันใกล้การเดินทางเข้าออกเมืองก็จะประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น   ส่วนการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีเส้นทางให้เลี่ยงได้หลายทางเหมือนกัน เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพ-นนท์ ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับถนนหลายเส้น เริ่มตั้งแต่ด่านทางด่วนงามวงศ์วานและด่วนประชานุกูล ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางเข้าออกเมืองให้รวดเร็วกว่าเส้นทางปกติ หรือถ้าจะใช้ถนนรัชดาภิเษกก็วิ่งกันได้ยาวๆ ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำก็มีทั้งสะพานพระราม 7 ข้ามมาฝั่งจรัญสนิทวงศ์ได้ รวมถึงสะพานพระราม 5 ก็เป็นอีกเส้นที่เลี่ยงไปออกถนนราชพฤกษ์ได้เช่นกัน รวมถึงถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนนครอินทร์ ถนนงามวงศ์วาน ถนนประชาชื่น และถนนวิภาวดี ดังนั้นใครที่มีรถส่วนตัวอยู่แล้วก็ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบถ้าเลือกซื้อห้องในทำเลแถบนี้ เพราะยังไงก็มีเส้นทางเข้า-ออกเมืองได้หลากหลาย ติดก็แค่เรื่องการจราจรที่ติดขัดเอาการ ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า หรือตอนเย็น เผลอๆ ติดไม่เว้นวันหยุดอีก จะขับรถไปไหนมาไหนก็ต้องทำใจเผื่อเวลากันมากหน่อย   แต่ถ้าเลือกเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน หรือบริการรถสาธารณะก็สามารถเดินทางได้ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว เพราะมีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย แถมป้ายรถเมล์ก็อยู่หน้าโครงการเลย ไปไหนมาไหนในระยะใกล้ๆ จึงสะดวกมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ถัดออกไปไม่ไกล รวมถึงรถแท็กซี่ก็หาเรียกได้ไม่ยากอีกด้วย เสียแต่ว่าการจราจรบริเวณนี้ค่อนข้างจะติดหนัก ก็ได้แต่ลุ้นว่าถ้ารถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้เมื่อไหร่อะไรๆ ก็จะดีขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย   แผนที่โครงการ คอนโด ติวานนท์ แผนที่รอบๆ โครงการครับ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้ MRT แยกติวานนท์ ประมาณ 50 เมตรนะครับ การเดินทางวันนี้ผมขอเริ่มจากถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาออก มุ่งหน้าแยกวงศ์สว่างนะครับ ตรงนี้จะเป็นสะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง ไม่ต้องขึ้นสะพานนะครับ ให้เบี่ยงออกทางซ้าย เพื่อไปรอเลี้ยวขวาที่แยกวงศ์สว่างนะครับ ตรงนี้คือสี่แยกวงศ์สว่าง ให้เลี้ยวขวาไปทางนนทบุรีนะครับ ถ้าตรงไปจะไปทางสะพานพระราม 7 ถ้าใครขับเลยขึ้นสะพานข้ามแยกนี้ไปต้องไปกลับรถใต้สะพานพระราม 7 เลยนะครับ พอเลี้ยวขวามาแล้วก็จะเจอกับ MRT สถานีวงศ์สว่างเลยนะครับ ให้ขับตรงไปอีก สถานีถัดไปก็จะเป็นสถานีแยกติวานนท์แล้วล่ะครับ ขับตรงมาอีกประมาณ 1.7 กม. ก็จะถึงสถานีแยกติวานนท์แล้วนะครับ แต่สำนักงานขายของโครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ต้องตรงไปอีกหน่อยเพื่อกลับรถนะครับ ถึงแล้วครับ สำนักงานขายโครงการ วิเคราะห์ตัวโครงการ คอนโด ติวานนท์ ทำเลที่ตั้งของโครงการ Amber by Eastern Star ตั้งอยู่ในเขตชุมชนที่อยู่อาศัยเดิม ซึ่งมีอาคารพาณิชย์ และร้านค้ารายล้อมอยู่พอสมควร ถึงจะไม่ได้สะดวกครบครันแต่ก็ไม่ถือว่าลำบากเลย เพราะติดๆ กันกับหน้าโครงการมีทั้งร้านขายของชำ และร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถัดไปในซอยใกล้ๆ ก็มีร้านอาหารแผงลอยเปิดขายในช่วงกลางวัน เพราะในซอยมีโรงงานอยู่ ตอนกลางวันจนถึงเย็นๆ จึงยังพอหาของกินได้ไม่ยาก เลยไปอีกหน่อยบริเวณหน้าปั๊มเชลล์ก็มีรถเข็นขายอาหารในช่วงเย็นถึงค่ำอีกหลายร้าน หรือถ้าอยากซื้อขนมนมเนยและข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ติดๆ กับที่ตั้งโครงการก็มีร้านขายของชำ และร้านสะดวกซื้อให้พึ่งพาได้ ถึงจะไม่ได้อยู่ในทำเลที่ผู้คนพลุกพล่านมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดหาอะไรไม่ได้เลยนะครับ เพราะในบริเวณรอบๆ มีทั้ง The Mall งามวงศ์วาน, Central รัตนาธิเบศร์, Big C  หรือถ้าจะเลยไปถึง Central ลาดพร้าวก็ถือว่าไปได้ไม่ยากนัก อาหารการกินถ้าเลยมาทางหน้ากระทรวงสาธารณสุขก็จะมีให้ร้านค้าให้เลือกมากมายเข้าขั้นอุดมสมบูรณ์มาก รวมถึงโรงพยาบาลนนทเวช โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็อยู่ไม่ไกลนัก ดังนั้นบริเวณรอบๆ นี้จึงถือว่าค่อนข้างพร้อมกับการอยู่อาศัยดีทีเดียว   เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าเลย จึงทำให้โครงการนี้เป็นที่น่าสนใจมากพอสมควร อีกทั้งเจ้าของโครงการยังเป็น Developer รายใหญ่ มีความน่าเชื่อถือสูงจึงไว้วางใจได้ว่าจะไม่มีการทิ้งงาน ถ้าใครเคยเห็นโบรชัวร์โครงการ หรือได้เข้าไปดูโมเดลตึกที่สำนักงานขายแล้ว จะเห็นว่า Amber By Eastern Star มีดีไซน์อาคารที่สะดุดตา น่าสนใจมาก ทั้งการเล่นระดับให้ลดหลั่นลงมา และจัดเป็นสวนลอยฟ้าไว้ในหลายๆ ชั้น รวมถึงหน้าตาอาคารที่เหมือนจรวดดูทันสมัยจึงดึงดูดใจผู้ที่พบเห็นได้ไม่ยาก ตัวตึกเป็นอาคาร High Rise สูง 37 ชั้น มียูนิตรวมทั้งหมด 563 ยูนิต โดยพื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ ซึ่งรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันที่ชั้น 5 ส่วนพื้นที่สีเขียวก็มีทั้งสวนลอยฟ้าที่อยู่ตามชั้นต่างๆ ที่ลดหลั่นกันลงมาตามการออกแบบอาคาร แต่ยังไม่รู้เลยนะครับว่า ถ้าทางโครงการเลือกใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบล็อคชั้น ลูกบ้านแต่ละห้องจะสามารถขึ้นไปใช้สวนที่กระจายอยู่ทั่วทั้งตึกได้หรือไม่ หรือจะขึ้นได้เฉพาะชั้นที่เป็นห้องตัวเอง ส่วนเรื่องที่จอดรถนั้น ทางโครงการจัดพื้นที่ไว้ให้ตั้งแต่ชั้น 1-4 ซึ่งสามารถรองรับรถได้จำนวน 189 คัน (ไม่นับรวมจอดซ้อนคัน) อาจจะเพราะทางโครงการต้องการเน้นกลุ่มคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยติดกับรถไฟฟ้าและใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักในการเดินทาง เรื่องที่จอดรถจึงไม่ค่อยเน้นจำนวนเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่มีรถส่วนตัวต้องใช้อยู่เป็นประจำเรื่องที่จอดรถของโครงการดูจะน่าเป็นห่วงว่าจะต้องแย่งกันจอดกับลูกบ้านคนอื่นๆ ถ้าที่จอดรถไม่พอขึ้นมาจริงๆ อันนี้มีปัญหาตามมาแน่ๆ พิจารณากันให้ดีๆ นะครับ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ที่มีระบบ CCTV ครอบคลุมทุกพื้นที่โครงการ รวมถึง Digital Door Locked ที่มีให้ทุกห้อง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้ ไม่มากไม่น้อยไปจัดว่าแค่เพียงพอต่อการใช้งานขั้นพื้นฐานครับ รูปร่างหน้าตาของอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โมเดลจำลองของโครงการครับ หน้าตาของสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้น 5 ครับ สวนลอยฟ้าที่กระจายกันอยู่ตามชั้นต่างๆ สวนสีเขียวด้านหน้าโครงการ เราเปลี่ยนมาดูรอบๆ โครงการกันบ้างนะครับ ฝั่งตรงข้ามจะเห็นสำนักงานขายของโครงการ Bangkok Horizon ของ CMC ตั้งอยู่ด้วยนะครับ ซึ่งโครงการนี้เป็นคอนโด High Rise สูง 34 ชั้น ความสูงจะพอๆ กับ Amber เลยนะครับ เดินเลยที่ตั้งโครงการมาอีกหน่อย ก็จะมี Family Mart ให้ได้ฝากท้องกันด้วยนะครับ ตั้งอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้านี่เลย ที่ติดกับ Family Mart ก็จะเป็นทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าครับ มีพี่วินไว้ให้บริการด้วยนะครับ เผื่อใครขี้เกียจขับรถไปซื้อของที่บิ๊กซี พาชมห้องตัวอย่าง คอนโด ติวานนท์ Amber By Eastern Star มีห้องให้เลือกด้วยกัน 2 แบบครับ คือ ห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33-37 ตร.ม. และห้องแบบ 2 ห้องนอน ที่ขนาดพื้นที่ 55-76 ตร.ม. จุดเด่นของห้องที่นี่คือ ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร รวมถึงทิศทางของตึกที่วางตัวตามลักษณะที่ดิน ทำให้ห้องส่วนใหญ่หันหน้าไปทางทิศเหนือและใต้ และได้วิวมุมสูงที่ค่อนข้างเต็มตาเลยทีเดียว เราไปดูห้องตัวอย่างในสำนักงานขายกันเลยดีกว่า เริ่มด้วยห้อง Type A4 ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน เปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอพื้นที่ของครัวที่อยู่หลังประตูห้องก่อนเลย Pantry ครัวจะอยู่ทางด้านขวามือ เปิดครัวเปิดเล็กๆ ที่เหมาะกับการเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าการทำครัวแบบจริงจัง ไม่อย่างนั้น กลิ่นกับข้าวคงได้กระจายไปทั่วห้อง ถัดจากครัวเข้ามาก็เป็นพื้นที่นั่งเล่น มุมนี้เอาไว้นั่งดูทีวีสบายๆ ในระยะที่กำลังพอดีสำหรับทีวีขนาดไม่เกิน 42 นิ้ว เพราะระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีมีไม่มากนัก ส่วนพื้นที่ติดหน้าต่างที่เป็นส่วนพิเศษหน่อย เนื่องจากเป็นกระจกเข้ามุมทำให้เปิดรับแสงและวิวได้มากขึ้น มุมนี้สามารถวาง Day Bed ซักตัว หรือจะจัดเป็นมุมนั่งทำงานก็ได้อีกเช่นกัน  ส่วนอีกด้านของห้องเป็นพื้นที่ของห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำในตัว พื้นที่ในห้องนอนค่อนข้างแคบนะครับ วางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้วก็เหลือที่ปลายเตียงอีกนิดเดียวจนแทบจะเดินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หน้าห้องน้ำจัดเป็นมุมแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ได้  ส่วนในห้องน้ำก็จัดแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกไว้เรียบร้อยด้วยกระจกเทมเปอร์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปครับ ไม่ได้หรูหราอย่างที่คาดหวังเอาไว้ ข้อเสียสำคัญของห้อง Type นี้ก็คือ ไม่มีระเบียง!! ในขณะที่ในห้องเตรียมตำแหน่งติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้แล้วที่เคาน์เตอร์ครัว ซึ่งผมยังนึกไม่ออกว่าซักผ้าเสร็จแล้วจะเอาผ้าไปตากที่ไหน   เราไปดูห้อง Type B 2 ซึ่งเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนกันบ้างดีกว่า เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอพื้นที่ครัว และห้องนั่งเล่นแทบไม่ต่างกับห้องแบบแรกเลยทีเดียว  แต่ห้อง Type นี้มีระเบียงนะครับ อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นพอดี ถึงพื้นที่ระเบียงจะไม่ได้กว้างมาก แต่ก็พอจะวางเครื่องซักผ้าได้พอดี ซึ่งทางโครงการก็ทำระแนงเหล็กบังตาไว้ให้เรียบร้อย  ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้อยู่เหนือเครื่องซักผ้าได้พอดี ถัดเข้ามาที่โซนด้านในซึ่งเป็นพื้นที่ของห้องนอน เราจะเจอกับห้องนอนเล็กก่อนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ พื้นที่ของห้องนอนเล็กก็เล็กสมชื่อ ลักษณะห้องออกไปในแนวยาว วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วก็มีที่ให้ตกแต่งได้อีกนิดหน่อย ในห้องตัวอย่างทางโครงการตกแต่งห้องนี้ให้เป็นห้องทำงาน และมุมพักผ่อนเพิ่มเติม โดยผนังห้องส่วนหนึ่งเป็นกระจกใส และไม่มีบานประตู จึงให้ความรู้สึกว่าห้องกว้างขึ้น แต่ของจริงผนังจะเป็นผนังปูนตามปกตินะครับ ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องนอนใหญ่ ซึ่งมีห้องน้ำอยู่ในตัว  พื้นที่ในห้องนอนก็กว้างขึ้นเล็กน้อย แต่ก็แทบจะไม่รู้สึกเท่าไรนัก เพราะมีเหลี่ยมมุมของเสาอาคารที่จำกัดพื้นที่การตกแต่ง พอวางเตียงลงไปแล้ว ปลายเตียงก็เหลือที่ว่างแค่พอให้เดินได้เท่านั้น จะว่างชั้นเก็บของ หรือจะตกแต่งอะไรเพิ่มเติมก็ทำได้ยาก อย่างมากก็ทำได้แค่แขวนทีวีอีกเครื่องเท่านั้น เอาเป็นว่าพื้นที่โดยรวมแค่พอใช้งานได้เท่านั้นนะครับ ถ้ามีสมบัติเยอะเข้าขั้นนักสะสมคงไม่มีที่ให้เก็บของแน่ๆ   จากที่ได้ชมห้องตัวอย่างมาก ต้องบอกว่าการออกแบบภายในยังขาดๆ เกินๆ อยู่ การตกแต่งห้องให้ลงตัวคงทำได้ยากซักหน่อย ที่สำคัญทางโครงการก็ขายห้องมาให้แบบห้องเปล่าๆ นะครับ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ตามแบบห้องตัวอย่างแถมมาให้ด้วย จะมีก็แค่ ชุดครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้นที่ได้มาพร้อมห้อง ซึ่งวัสดุที่ทางโครงการเลือกมานั้นค่อนข้างธรรมดามากเมื่อเทียบกับห้องในระดับนี้ และภาพความหรูหราที่คาดหวังเอาไว้จากที่ได้เห็นรูปแบบอาคารก็ถูกลดทอนลงไปมากเลยทีเดียว เรามาเริ่มกันที่ Type A แบบ 1 ห้องนอนกันก่อนนะครับ เมื่อเปิดประตุเข้ามาแล้ว จะเจอส่วนของครัวก่อนเลย จะเป็นครัวแบบเปิดนะครับ เหมาะกับการเตรียมอาหารมากกว่าการทำทานเอง เคาน์เตอร์ครัวจะค่อนข้างจะเล็กนะครับ อย่างที่บอกว่าเหมาะสำหรับการเตรียมอาหารมากกว่า เพราะไม่มีเตาไฟฟ้า และฮูดดูดควันให้ด้วย มีช่องวางเครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่างนะครับ อีกฝั่งจะเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ท่านครับ ส่วนถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area ที่อยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีไม่มากนะครับ วางทีวีขนาดไม่เกิน 42 นิ้ว กำลังดีครับ มองมุมกลับออกมาหน้าห้องนะครับ เรามาดูที่ห้องนอนกันบ้างนะครับ ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังพอดีนะครับ จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้เดินนิดหน่อย ส่วนทีวีต้องแขวนผนังเหมือนห้องตัวอย่างแทนครับ ตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่หน้าห้องน้ำนะครับ ว่าแล้วเราก็เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่าครับ การจัดวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครับ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard ส่วนอาบน้ำจะแยกเป็นสัดส่วนมีนะครับ กระจกเทมเปอร์กั้นส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ชุดฝักบัวที่ได้ครับ มาดูแบบ 2 ห้องนอนกันบ้างนะครับ เปิดเข้ามาก็จะเจอครัวอีกเหมือนกันครับ จะคล้ายๆ กับ Type A แต่จะไม่มีช่องใส่เครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่างแล้วนะครับ โต๊ะทานอาหารก็จะมาอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัวเลย ตู้เย็นจะวางอยู่ติดผนังเดียวกันกับประตูห้องเลยนะครับ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วน Living Area ส่วน Living Area จะอยู่ติดกับระเบียงเลยนะครับ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีจะพอๆ กับห้อง Type A เลยครับ ส่วนของระเบียงจะกว้างประมาณนี้นะครับ ด้านซ้ายของระเบียงจะเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า คอมเพรสเซอร์แอร์จะวางอยู่เหนือเครื่องซักผ้านี่แหละครับ เรามาดูที่ห้องนอนเล็กกันต่อนะครับ ผนังด้านหน้าห้องจะทำเป็นกระจกเข้ามุม มองออกมาก็จะเห็นส่วนครัวที่อยู่หน้าห้อง แต่ห้องจริงที่ได้จะเป็นผนังปูนปกตินะครับ ดูข้างในแล้วก็เล็กสมชื่อจริงๆ ครับ วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ก็น่าจะพอแล้วนะครับ จะได้มีที่ว่างให้วางอย่างอื่นด้วย แต่ห้องตัวอย่างที่ตกแต่งให้ดู ออกจะเป็นแนวห้องทำงานมากกว่านะครับ ห้องน้ำด้านนอกจะอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กนะครับ การวางสุขภัณฑ์จะคล้ายๆ กับห้อง Type A เลยครับ เดินเลยเข้ามาดูที่ห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ขนาดห้องก็ไม่ได้ใหญ่เหมือนชื่อเท่าไหร่นะครับ วางเตียง 5 ฟุต กำลังเหมาะครับ มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือให้เดินได้นิดหน่อย ทีวีก็คงต้องแขวนผนังเอานะครับ เพราะไม่มีที่เหลือพอให้วาง Sideboard หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบาน Fix นะครับ ข้างเตียงจะมีที่เหลือนิดหน่อยให้วางโต๊ะข้างหรือโคมไฟได้นะครับ ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวอีก 1 ห้องนะครับ ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่หน้าห้องน้ำเลยนะครับ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็จะใช้ของ American Standard เหมือนกับห้อง Type A ครับ ส่วนเปียกก็จะแยกเป็นสัดส่วน มีบานกระจกเทมเปอร์กั้นระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ความคุ้มค่าน่าลงทุน ของคอนโด ติวานนท์ ถึงแม้ตัวโครงการ Amber By Eastern Star จะมีความน่าสนใจอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเลย แต่ด้วยขนาดห้องเริ่มต้นที่ค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้ราคาห้องสูงตามไปด้วย ซึ่งในแง่ของการลงทุนจึงทำให้ผู้ลงทุนมีต้นทุนสูงกว่าการลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกัน กว่าจะเกิด Upside Gain ก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะลงทุนห้องเพื่อขายต่อ หรือลงทุนไว้ปล่อยเช่าคงเหนื่อยหน่อย เพราะการปล่อยห้องเช่า ถ้าเปรียบเทียบกับห้องในโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในทำเลใกล้เคียงก็ไม่ค่อยจะคุ้มค่าการลงทุนเท่าไหร่ แต่ถ้าหากมองห้องเอาไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง ห้องของ Amber ก็จะได้เปรียบเรื่องขนาดห้องที่ใหญ่กว่าทำให้อยู่สบายกว่า แถมบรรยากาศของโครงการก็ดูสงบ ร่มรื่นดี รวมถึงอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ใกล้สาธารณูปโภคต่างๆ อีกด้วย คนที่ทำงานในย่านนี้อยู่แล้ว และกำลังมองหาที่อยู่ใหม่ ที่นี่ก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกที่น่าเก็บไว้พิจารณานะครับ โครงการคอนโดอื่นๆ ที่น่าสนใจ นิช โมโน ติวานนท์ The Politan Rive ยู ดีไลท์ @ บางซ่อน สเตชั่น
Vio ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

Vio ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

มีคอนโดใหม่แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงในชื่อ Vio  ของบริษัท รื่นฤดี ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมกันทีเดียว 2 โครงการไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง ซึ่ง “Vio ติวานนท์” เรียกได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียม High Rise โครงการแรกของบริษัทเลยก็ไม่ผิดนัก ด้วยความที่ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลหัวมุมแยกติวานนท์ตัดกับถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แถมยังอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สถานีในระยะเดินถึงได้ไม่ยาก เราเลยรีบไปเยี่ยมชมโครงการนี้และเก็บข้อมูลมาฝากกันครับ   การเดินทาง   การเดินทางไปที่โครงการ Vio ติวานนท์ เราใช้เส้นทางถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าไปทางสะพานพระนั่งเกล้า พอมาถึงแยกแครายแล้วเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์ ผ่านหน้ากระทรวงสาธาณะสุขมาถึงห้าแยกติวานนท์ตัดกับถนนประชาราษฏร์ (ไปท่าน้ำนนท์) ถนนนครอินทร์ และถนนกรุงเทพ-นนทบุรี พอขับรถมาถึงตรงนี้จะสังเกตุเห็นโครงการ Vio ติวานนท์ ทางด้านซ้ายมือพอดี หรือถ้าเดินทางมาตามถนนกรุงเทพ-นนทบุรี พอมาถึงแยกนี้แล้วก็ต้องเลี้ยวขวาไปกลับรถที่ถนนติวานนท์นะครับ ทางเข้าออกโครงการปัจจุบันมีอยู่เส้นทางเดียวคือฝั่ง ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แต่ในอนาคตทางโครงการจะเปิดทางเข้าออกฝั่งถนนติวานนท์เพิ่มอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกดีเหมือนกัน เพราะมีเส้นทางเลี่ยงได้หลายเส้นทาง ถ้าไม่ติดปัญหารถติดหนักในช่วงเวลาเร่งด่วนนะครับ   แผนที่โครงการ เส้นทางการเดินทาง โดยเริ่มจาก The Mall งามวงศ์วาน จาก The Mall งามวงศ์วาน พอขับมาถึงทางแยกแครายให้เลี้ยวซ้ายเลยครับ จะเห็น Showroom Hyundai อยู่ทางขวา วิ่งมาเรื่อยๆจะเห็นเนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงครับ วิ่งเลยมาเรื่อยๆ จะเห็นสถานีรถไฟฟ้า กระทรวงสาธารณสุข วิ่งไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางแยก ทางซ้ายเป็นทางเข้า กระทรวงสาธารณสุข ส่วนด้านบนก็เป็นสถานีกระทรวงสาธารณสุข วิ่งไปตามแนวรถไฟฟ้าเลยครับ จะเจอสะพาน เราไม่ต้องขึ้นสะพาน ให้วิ่งด้านล่าง พอวิ่งไปเรื่อยๆ จะเห็น Big C อยู่ทางขวา วิ่งมาเรื่อยๆ จะเห็นตัวโครงการ Vio ติวานนท์ อยู่ข้างหน้า ถึงแล้ว ทางโครงการจะล้อมรั้ว เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการเลยครับ สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ก็สามารถทำได้เลือกได้ทั้งสถานีกระทรวงสาธารณสุข ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 400 เมตร และสถานีแยกติวานนท์ ซึ่งห่างออกไปประมาณ 350 เมตร ระทางของทั้ง 2 สถานีนี้แทบไม่ต่างกันเลย เพราะตัวโครงการแทบจะตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างสถานีพอดี อันนี้ใครสะดวกสถานีไหนก็เลือกได้ตามสบายเลยครับ นอกจากนี้การเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะบริเวณใกล้ๆ เป็นแหล่งชุมชน รวมถึงเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางราชการอย่างกระทรวงสาธารณะสุขด้วย ดังนั้นจึงมีรถเมล์ รถแท็กซี่ และพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่เป็นจำนวนมาก ที่ต้องทำก็แค่เดินออกทางโครงการมาทางกระทรวงฯ ให้พ้นจากบริเวณแยกติวานนท์ซักหน่อย ก็จะช่วยให้เรียกรถได้ง่ายขึ้น เส้นทางการเดินจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีกระทรวงสาธารณสุข มาโครงการ ระยะทางประมาณ 400 เมตร เส้นทางการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีแยกติวานนท์ ระยะทางประมาณ 350 เมตร   วิเคราะห์ภาพรวมโครงการ   ทำเลที่ตั้งของโครงการ Vio ติวานนท์จัดว่าเป็นทำเลที่น่าสนเหมือนกัน เพราะอยู่บริเวณหัวมุมแยกติวานนท์พอดี มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน แถมบริเวณรอบๆ ก็มีทั้งกระทรวงสาธารณะสุข โรงพยาบาล มีห้าง Big C อยู่ฝั่งตรงข้ามด้านถนนติวานนท์ รวมทั้งเป็นแหล่งชุมชนที่ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากในเรื่องอาหารการกิน ร้านอาหาร ร้านค้า แผงลอยมีให้เลือกจนละลานตาเลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นแหล่งชุมชน และมีกระทรวงใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ การจราจรโดยรอบจึงติดขัดเอาเรื่องเหมือนกัน ในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการแล้ว รถอาจจะติดน้อยลงกว่านี้ก็ได้ครับ รอบๆ โครงการไม่มีตึกสูงขึ้นในระยะประชิดนะครับ ตึกสูงที่เห็นก็จะมีแค่คอนโดศุภาลัย พาร์ค ที่อยู่อีกมุมของแยกเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีปัญหาเรื่องการบังวิวซักเท่าไหร่ จะมีแค่ห้องบางตำแหน่งทางด้านหน้าโครงการเท่านั้นที่จะถูกบังวิวไปบ้าง ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบจึงไม่น่ากังวลเช่นกัน แต่ที่เห็นจะเป็นปัญหาหนักๆ เลยก็คือ รางรถไฟฟ้าที่พาดผ่านมาทางด้านหลังโครงการในระยะประชิดนี่แหละครับ ที่จะก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงที่ไม่น่าพิศมัยเอาซะเลย แถมยังหลีกเลี่ยงได้ยากอีก โอกาสที่จะเอาตัวรอดได้บ้างก็ต้องหันไปเลือกห้องที่อยู่สูงขึ้นไปบนๆ เลย ซึ่งอาจจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ต้องแลกกับราคาห้องที่สูงขึ้นเป็นเงา ส่วนห้องในชั้นล่างๆ หน่อยก็รับกันไปเต็มๆ ทั้งเสียงดัง ทั้งฝุ่นควันจากถนนด้วย Vio ติวานนท์เป็นคอนโค High Rise อาคารเดี่ยวโดดๆ สูง 36 ชั้น การออกแบบเพิ่มลูกเล่นด้วยการเล่นระดับให้ดูลดหลั่นกันลงมาในบางช่วงของตึก นับรวมทั้งหมดแล้วก็จะมีห้องพักอาศัยจำนวน 623 ยูนิต โดยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 เป็นต้นไป บริเวณชั้น 2-6 จะเป็นพื้นที่จอดรถในสัดส่วน 40% ของจำนวนห้องทั้งหมด ถือว่าไม่เยอะเลยสำหรับโครงการขนาดนี้ที่ลูกบ้านน่าจะมีรถยนต์กันอยู่แล้ว ในส่วนของ Facility ถูกรวบรวมไว้ที่ชั้น 7 เป็นหลัก ซึ่งทางโครงการจัดให้มีทั้ง สระว่ายน้ำขนาด 5x26 เมตร จากุชซี่ Fitness พร้อมห้องซาวน่าแยกชาย-หญิง และห้องเอนกประสงค์ รวมถึงบริการสัญญาณ internet wi-fi ในพื้นที่ส่วนกลางด้วย นอกจากที่ Facility ที่บริเวณชั้น 7 แล้ว บนดาดฟ้ายังมีสวน Roof Top และห้อง Sky Lounge ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน เดินเล่น ชมวิวได้เหมือนกัน ดูจากพื้นที่ Facility ส่วนกลางคร่าวๆ แล้ว ถือว่าทางโครงการจัดมาให้เยอะพอสมควรเลย ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในสัดส่วนที่ไม่หนาแน่นจนเกินไปนัก และที่ลืมไม่ได้ก็คือสัดส่วนของลิฟท์โดยสารที่มีมาให้ 4 ตัว บวกลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ต้องบอกว่าค่อนข้างหนาแน่นนะครับสำหรับลิฟท์ 1 ตัวต่อ 156 ยูนิต แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นปัญหาในการใช้งานเท่าไหร่ น่าจะยังพอใช้กันได้สบายๆ อยู่ Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ชั้น 7 ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือห้องนั่งเล่น Roof Top จะอยู่ชั้น 37 เป็นดาดฟ้า สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยครับ พาชมห้องตัวอย่าง   ห้องของโครงการ Vio ติวานนท์ มีด้วยกันทั้งหมด 4 แบบ มีทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน แต่ที่สำนักงานขายมีแค่ห้องแบบ 1 ห้องนอนให้ชมเท่านั้น โดยมีด้วยกัน 2 Type ซึ่งต่างกันที่ Layout ห้องเล็กๆ น้อยๆ เริ่มกันที่ห้อง Type A ซึ่งจัดสัดส่วนพื้นที่ห้องไว้ค่อนข้างลงตัวดีทีเดียว เปิดเข้ามาจะเจอห้องครัวก่อน ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดและมีพื้นที่เชื่อมต่อไปถึงบริเวณห้องนั่งเล่น ในขณะที่ห้องนอนถูกแยกออกไปโดยใช้ประตูบานเลื่อนแบบทึบที่สามารถเลื่อนปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือเลื่อนเปิดออกเพื่อให้พื้นที่ห้องเชื่อมต่อเนื่องถึงกัน ห้องน้ำของ Layout ห้องแบบนี้ จะเข้าออกได้จากทางห้องนอนเท่านั้น ส่วนห้องแบบ Type A.1 เมื่อเปิดมาจะเจอห้องครัวก่อนเช่นเดียวกัน รวมถึงพื้นที่ของห้องนั่งเล่นก็มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมือนกันกับห้องแบบก่อนหน้านี้ ส่วนที่ต่างกันก็คือ การกั้นห้องด้วยผนังและใช้ประตูบานสวิงเปิดเข้าออกแทนประตูบานเลื่อน ทำให้ห้องนอนของห้อง Type A.1 มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า นอกจากนี้ประตูเข้าออกห้องน้ำก็ย้ายมาฝั่งห้องครัวแทน ซึ่งการใช้งานก็จะมีความสะดวกต่างกันไปครับ โดยรวมแล้วห้องทั้ง 2 แบบไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนักในเรื่องขนาดห้อง ซึ่งเริ่มต้นที่ 30 ตร.ม. และ 31 ตร.ม. ต่างกันเพียง 1 ตร.ม. เท่านั้น เรียกว่าแทบจะไม่รู้สึกเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องวัสดุอุปกรณ์ก็จัดไว้ให้เหมือนกันเป๊ะ เลือกคุณภาพมาตรฐานตามราคาห้อง ในห้องน้ำก็กั้นฉากอาบน้ำมาให้ รวมถึงเครื่องครัวที่มีมาให้พร้อมทั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ราคาที่ทางโครงการเปิดมาเป็นราคาขายแบบ Fully Furnished นะครับ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนแถมจะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้ชัดเจน พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนตในขณะที่พื้นห้องครัวและห้องนั่งเล่นปูด้วยกระเบื้อง หน้าตาเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมาให้ก็เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่ Built-in มาให้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างในห้องจึงดูลงตัวมากเลยครับ ถึงแม้การออกแบบจะเรียบๆ ตามมาตรฐานคอนโดทั่วไป จนไม่มีอะไรแปลกใหม่ก็ตาม   เข้าประตูมาจะเจอ Pantry อยู่ทางซ้าย และตู้รองเท้ากับตู้เย็นจะอยู่ทางขวาครับ มุมนี้จะเห็นโต๊ะทานข้าวอยู่ติดกับ Pantry เลย Pantry ที่โครงการ Built มาให้จะมีเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน มาด้วยครับ เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันครับ ซิ้งค์ล้างจานที่โครงการมีให้ จากประตูมองมาทางขวาจะเห็นตู้รองเท้า ที่ทางโครงการ Built ให้เต็มพื้นที่เลยครับ เดินเลยเข้ามาจะเป็นส่วนนั่งเล่น และจะมีห้องนอนอยู่หลัง โซฟา ซึ่งจะประตูแบ่งส่วนนี้จะเป้นประตูบานเลื่อน มุมนี้จะเห็นชัดว่าเตียงจะอยู่หลังโซฟาเลย เตียงที่โครงการมีให้จะเป็นขนาด 5 ฟุต มองมาทางขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้ จะอยู่หน้าห้องน้ำเลย หน้าห้องน้ำอีกมุมนึง จะเป็นโต๊ะทำงาน และจะมีชั้นให้ด้วย ห้องน้ำ ทางโครงการมีเป็น Rain Shower ให้ มุมนี้มองจากห้องนอน เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนออก จะสามารถดูทีวีได้เลยครับ มุมนี้มองจากที่นั่งเล่น มุมนี้มองทางซ้ายจากห้องนั่งเล่น จะเห็นว่าตู้เย็นจะอยู่ติดกับตู้รองเท้าเลย ส่วนมุมนี้มองทางขวาจากห้องนั่งเล่น ก็จะเจอส่วนครัวกับโต๊ะทานข้าว เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอส่วนที่เป็นครัวอยู่ทางขวา และห้องน้ำอยู่ทางซ้ายครับ มองมาทางขวาจะเห็นส่วนครัวที่โครงการ Built มาให้ และจะเจอโต๊ะทานข้าวที่โครงการก็ให้มาเหมือนกัน Pantry ที่โครงการมีให้จะมีเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ซิ้งค์ล้างจานที่ให้ก็เป็นของ Hafele' ตามมาตรฐาน มุมมองจากพื้นที่นั่งเล่น แล้วมองออกไปทางด้านหน้า เลยเข้ามากก็จะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น จะอยู่ถัดไปจากโต๊ะทานข้าว เมื่อเดินเข้ามายังพื้นที่ส่วนของนั่งเล่นจะเห็นว่าโต๊ะทานข้าวจะอยู่ติดกับโซฟาเลย จากประตูทางเข้ามองไปทางซ้ายก็จะเห็นห้องน้ำ โครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Mogen ครับ ชักโครกก็ใช้ของ Mogen ธรณีประตูระหว่างห้องน้ำกับตัวห้องจะสูงขึ้นมา กันน้ำออกได้ดีทีเดียว โต๊ะหรือชั้นข้างเตียง โครงการก็ Built มาให้ครับ ห้องนอนจะมีเตียง 5 ฟุตมาให้ แต่ถ้าจะทำเป็น 6 ฟุตก็ได้ครับ แต่จะไม่แนะนำเพราะจะดูแน่นไปหมดครับ ตู้เสื้อผ้าที่ Built มาให้เต็มพื้นที่เลย จากเตียงมองออกไปก็จะเห็นส่วนที่เป็นครัว ส่วนขอระเบียงจะอยู่ติดกับส่วนพื้นที่นั่งเล่น ตรงระเบียงจะเป็นที่วางเครื่องคอมเพลสเซอร์แอร์ ความคุ้มค่าการลงทุน พิจารณาในเรื่องการลงทุนกันบ้าง โครงการ Vio ติวานนท์ อาจจะมีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ดี ใกล้สถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี ใกล้สถานที่ราชการสำคัญ และมีเส้นทางการเดินทางที่หลากหลาย ดูข้อมูลคร่าวๆ แล้ว อาจจะเห็นว่า Vio ติวานนท์น่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีศักยภาพในการลงทุนนะครับ แต่ถ้าลองพิจารณาด้านอื่นๆ เพิ่มเติมเข้าไป จะเห็นว่าจุดด้อยที่มีรางรถไฟฟ้าผ่านทางด้านหลังโครงการเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงเป็นอย่างมากจากการที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่านในช่วงทางโค้งนี้ ยิ่งถ้าต้องการซื้อห้องไว้เพื่อการปล่อยเช่า หรือขายต่อแล้วล่ะก็ คงปล่อยห้องได้ยากขึ้นแน่ๆ นอกจากนี้เรื่องทำเลที่ตั้งที่ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งธุรกิจชั้นนำที่จะมีกำลังเช่าห้องในราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเรื่องที่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพิจารณาด้วย ข้อสำคัญที่ข้อที่อาจทำให้เกิดอาการลังเลได้ก็คือ ความเชื่อมั่นในตัวบริษัทผู้พัฒนาโครงการ ที่ถือว่าเป็นมือใหม่มากๆ ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมตึกสูง แถมโครงการ Vio ติวานนท์นี้ก็เป็นตึกแรกที่ทางโครงการสร้างตึกสูงอีก จึงทำให้ความมั่นใจแอบลดลงเล็กๆ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอดูกันไปอีกซักพัก ไม่แน่ว่าบริษัท รื่นฤดี อาจจะเอาอยู่ก็ได้ นะครับ
Bangkok Horizon ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

Bangkok Horizon ติวานนท์ : รีวิวคอนโด

Bangkok Horizon ติวานนท์ โครงการคอนโด High Rise ในเครือ CMC ซึ่งเลือกทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าไปแบบติดๆ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีติวานนท์เพียง 50 เมตร ลงจากสถานีปุ๊ปก็เดินเข้าคอนโดได้ทันทีเลย ไม่ต้องต่อรถราให้เสียเวลาอีก ซึ่งขณะนี้มีกำหนดที่คาดว่าจะสร้างเสร็จและเปิดใช้บริการไม่เกินปี 59 นอกเหนือจากรถไฟฟ้าที่ดูจะเป็นการเดินทางสายหลักแล้ว การเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีเส้นทางเลี่ยงไปได้หลายทางเหมือนกัน ทั้งทางด่วนด่านงามวงศ์วาน และทางด่วนด่านประชานุกูล ส่วนเส้นทางปกติก็สามารถออกถนนรัชดาภิเษก ข้ามสะพานพระราม 7 ไปจรัญสนิทวงศ์ หรือจะข้ามสะพานพระราม 5 ไปออกถนนราชพฤกษ์ รวมถึงเส้นทางถนนรัตนาธิเบศร์ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ก็ทำได้เช่นกัน แต่ปัญหาหลักๆ กลับอยู่ที่การจราจรที่ติดขัด เพราะเส้นทางรอบๆ มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่เกือบทุกเส้น และปริมาณรถในแถบนี้ก็หนาแน่นเกือบทั้งวันอีก การเดินทางด้วยรถส่วนตัวจึงต้องเผื่อเวลากันมากหน่อย แต่ไม่แน่ว่าตอนที่โครงการสร้างเสร็จพอๆ กับที่รถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว การจราจรแถวนี้อาจจะดีขึ้นก็ได้ พื้นที่บริเวณรอบๆ โครงการยังคงเป็นอาคารพาณิชย์ และที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่ที่อยู่กันมานาน ดังนั้นจึงมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงร้านอะไหล่ อู่ซ่อมรถ ก็มีเยอะแยะ พื้นที่ใกล้ๆ ในย่านนี้ยังไม่มีคอนโดโครงการอื่นๆ มากนัก ที่เห็นก็จะต้องเลยออกไปตามถนนรัตนาธิเบศร์นั่นแหละ ถึงจะมีคอนโดให้เลือกมากอีกหน่อย ตัวโครงการออกแบบมาได้หน้าตาทันสมัย ผิดจากคอนโดอื่นๆ ในเครือ CMC ด้วยรูปทรงตึกที่มีความโค้ง เว้า และเล่นระดับ ทำให้โมเดลที่ออกมาดูหรูหรา เกินหน้าเกินตาตึกในย่านเดียวกัน แต่ละชั้นถูกออกแบบมาให้มีเพียง 18 ยูนิต ในขณะที่ตัวตึกมีความสูง 33 ชั้น และมียูนิตรวมทั้งหมด 421 ยูนิต พื้นที่ห้องไม่ได้เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมซะทีเดียว บางห้องมีลักษณะผนังโค้งๆ จนเกือบจะเป็นห้องทรงกลม ในขณะที่ห้องส่วนใหญ่ที่เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม. จะมีลักษณะมีเหลี่ยมมีมุม จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูก็ไม่ใช่ จะสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็ไม่เชิง งานนี้เห็นห้องแล้วก็งงกันไปเล็กน้อย ผนังบางด้านทำมุมเล็กๆ ไม่ได้อยู่ในแนวระนาบ จะมีมุมผนังเฉียงๆ บ้าง การหาเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปมาลงให้เข้ามุมเป๊ะๆ คงเป็นเรื่องยากมาก ถ้าจะเอาให้จบแบบง่ายๆ ก็ต้องใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Build in เท่านั้น แค่คิดถึงต้องตรวจรับห้องก็คงสนุกสนานกันยกใหญ่แล้วครับ ใครเลือกห้องแบบไหนก็ยึดแบบแปลนห้องตัวเองเอาไว้ดีๆ นะครับ จะได้รู้ว่าผนังจะมีเหลี่ยม มีมุมตรงไหนบ้าง ไม่อย่างนั้นได้เถียงกับช่างเรื่องกำแพงเฉียงไม่ได้ระนาบ ตรวจรับไม่ผ่านกันง่ายๆ แน่นอน ในห้องตัวอย่างมีการจัดตกแต่งให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่โชว์อยู่จะมีแถมมาให้เป็นบางชิ้น ซึ่งก็ต้องสอบถามกับเซลล์ให้ดีๆ เพราะเท่าที่คุยมา ของที่จะให้พร้อมห้องจริงกับของที่โชว์ในห้องตัวอย่างหน้าตาจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว เรื่องสเป็คของยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ ต้องระวังกันนิดนึงครับ สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน มีการจัดสรรพื้นที่ไว้ให้แล้ว โดยมีห้องครัวอยู่ด้านในสุด เช่นเดียวกันกับห้องนอน ซึ่งอยู่ติดกับหน้าต่างกระจกบานใหญ่ตั้งแต่เพดานจรดพื้นซึ่งเปิดรับแสงได้เต็มๆ แต่การเลือกห้องก็ต้องดูทิศทางแดดกันให้ดีๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะเจอปัญหาห้องร้อน และแอร์ต้องทำงานหนักให้เปลืองค่าไฟอีก ในส่วนพื้นที่ห้องครัวมีประตูกระจกบานเลื่อนปิดไว้ป้องกันกลิ่นเข้ามารบกวนห้องส่วนอื่นๆ ส่วนห้องนอนเป็นประตูบานสวิงธรรมดา ส่วนห้องน้ำก็มีพื้นที่ขนาดพอใช้งาน มีการแบ่งส่วนอาบน้ำออกจากส่วนแห้ง วัสดุสุขภัณฑ์ต่างๆ ก็เลือกมาได้มาตรฐานเหมือนกัน ห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายมีให้ดู 2 แบบ และเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเท่านั้น ต่างกันที่ตำแหน่งห้องและรูปทรงพื้นที่ห้อง อีกห้องเป็นห้องหัวมุมซึ่งได้รูปห้องเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู จึงมี Lay out ห้องที่ต่างกันออกไป ส่วนใครจะถูกใจแบบไหนก็แล้วแต่จะเลือกครับ นอกจากห้องแบบ 1 ห้องนอนแล้ว ทางโครงการยังมีห้องแบบ 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอนที่มีพื้นที่ใหญ่สุดที่ขนาด 85 ตร.ม.เลยทีเดียว ถือว่าเป็นขนาดห้องที่ใหญ่มากๆ สำหรับการอยู่อาศัยแบบคอนโดในระดับนี้ เรื่อง Facility ที่ทางโครงการมีให้ก็เยอะทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องซาวน่าแยกชาย-หญิง สวนหย่อมที่ชั้น 5 ร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตใต้โครงการ ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานของจำนวนคนที่อาศัย นอกจากนี้ยังมี สนามสควอช ห้อง Game Room พร้อมเครื่อง Golf Simulator ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ใช้งานจริงรึเปล่า เพราะอาจจะไม่ถูกตาม Life Style ของคนไทยเท่าไร ส่วนเรื่องที่จอดรถมีตั้งแต่ชั้นใต้ดินไปจนถึงชั้น 4 นับรวมจอดซ้อนคันแล้วก็มีเพียง 40% เท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงลูกบ้านอาจจะมีที่ไม่พอจอดรถก็ได้ครับ สำหรับโครงการ Bangkok Horizon ติวานนท์ ที่ราคาต่อตารางเมตรในตอนนี้อยู่ในระดับเกือบๆ แสน ยังถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน แต่ถ้าเป็นห้องขนาดใหญ่ราคาจะโดดสูงไปเกือบ 7-8 ล้านเลยทีเดียว ส่วนในแง่ของการลงทุนนั้น การจะซื้อไว้ปล่อยเช่าอาจจะยากซักหน่อย เพราะพื้นที่ใกล้ๆ เคียงไม่มีสำนักงานใหญ่ ศูนย์ราชการ หรือไม่ได้อยู่ในย่านธุรกิจเลยทำให้การหาผู้เช่าเป็นไปได้ยาก โอกาสที่ราคาจะขยับตัวสูงขึ้นจนได้กำไรเป็นเรื่องเป็นราวคงต้องใช้เวลากันนานหน่อย เพราะในบริเวณใกล้เคียงยังไม่มีโครงการอื่นของ Developer ใหญ่ๆ มาลงทุนเลย ทำให้ทำเลในแถบนี้ยังไม่ค่อยมีการแข่งขันกันดุเดือดนัก การตัดสินใจซื้อควรพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ให้รอบคอบด้วย