Tag : ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน

4 ผลลัพธ์
บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ความเป็นส่วนตัวของครอบครัว : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ความเป็นส่วนตัวของครอบครัว : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้ เราอยากให้ทุกคนลองนึกถึงภาพครอบครัวเล็กๆ ของเรากันก่อนค่ะ เพราะเมื่อเราคิดถึงครอบครัวอันอบอุ่นแล้ว ภาพที่ตามมาก็ย่อมจะต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองสักหลังที่มีขนาดกำลังพอเหมาะพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มีสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่รอบตัว ซึ่งคำตอบของภาพที่เราเห็นนี้ก็เป็นทาวน์โฮมนี่แหละค่ะที่มีความลงตัวทั้งพื้นที่ ราคา รวมถึงทำเลที่เราจะพาไปชมกันกับหนึ่งในโครงการคุณภาพ “บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5”       ทำเล   ถ้าพูดถึง จ.นนทบุรี บางคนอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก แม้ว่าจะมีพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ อย่างแยกกันแทบไม่ออก แต่ทราบไหมคะว่า ย่านนี้เป็นอีกแหล่งของอร่อยขึ้นชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารข้างทางเจ้าเก่าสูตรดั้งเดิม ร้านคาเฟ่สวยๆ ไปจนถึงร้านอาหารบรรยากาศดีหลายแห่ง โดยเฉพาะท่าน้ำนนท์, ถนนนครอินทร์, ถนนราชพฤกษ์ ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นแหล่งสำนักงานทางราชการ รัฐวิสาหกิจหลายแห่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายไม่ต่างจาก จ.กรุงเทพฯ มากเท่าไรนัก ย่านนี้จึงเป็นอีกทำเลที่เรามักจะได้เห็นโครงการแนวราบมาจับจองพื้นที่พัฒนาโครงการดีๆ ให้เห็นกันอยู่พอสมควร ซึ่งตัวโครงการบ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 นี้อยู่ใกล้กับสะพานพระราม 5 หากใช้รถยนต์ส่วนตัวก็จะไม่ไกลจากทางพิเศษศรีรัช ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 15 นาทีก็จะถึงรัชดาภิเษก สามารถต่อไปยังสาทรได้ หากใช้รถสาธารณะก็สามารถเดินทางโดยข้ามสะพานพระราม 5 ไปแล้วผ่านสี่แยกติวานนท์ก็จะพบกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข และสามารถเลือกโดยสารทางเรือที่ท่าเรือบางศรีเมือง แล้วข้ามฝากไปท่าน้ำนนท์เพื่อต่อเรือด่วนเจ้าพระยาได้อย่างสะดวกสบาย     จุดเด่นของโครงการนี้อย่างหนึ่งคือ ตั้งอยู่ในซอยที่สามารถทะลุไปสู่ถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นจากถนนนครอินทร์ ถนนบางศรีเมือง ถนนบางกรวย-ไทรน้อย และถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนราชพฤกษ์ได้ แต่ทางเข้าหลักที่เราแนะนำ คือ หากข้ามสะพานพระราม 5 ฝั่งขาออกมาแล้วตามถนนนครอินทร์ ให้กลับรถใต้สะพานข้ามแยกบางสีทอง ขับต่อไปประมาณ 500 เมตร ให้เข้าทางคู่ขนาน เมื่อผ่านหน้า Makro นนทบุรี ให้เลี้ยวซ้ายตามแนวรั้วของ Makro ตรงเข้าไปประมาณ 700 เมตร เข้าสู่ซอยบางไผ่ 21 ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ     ภาพรวมโครงการ   บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ หน้ากว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน ตัวทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์ URBANIST เหมาะกับการใช้ชีวิตในแบบคนยุคปัจจุบันที่ต้องการทั้งความเป็นส่วนตัวไปพร้อมกับพื้นที่ Common Area เพื่อใช้ช่วงเวลาพักผ่อนกับครอบครัวไปด้วย โครงการมีทั้งหมด 271 ยูนิต บนพื้นที่ 22–2–10.73 ไร่ มาในคอนเซป “LIFE IN FULL BLOOM” ใช้ชีวิตบนความสมบูรณ์แบบ โอบล้อมด้วยบรรยากาศความร่มรื่นและความงดงามจากธรรมชาติ   เปิดห้องตัวอย่าง   วันนี้เราพามาเยี่ยมชมกันถึงตัวโครงการจริงเลยค่ะ ถ้าไม่คุ้นเคยเส้นทางก็แนะนำให้หาจาก Google Maps ว่าบางไผ่ซอย 21 ก็เดินทางมาได้ไม่ยากค่ะ ปัจจุบันทาวน์โฮมสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้วนะคะ ลูกบ้านที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนที่ย้ายมาจากคอนโดมิเนียมกลางเมือง เพราะต้องการขยับขยายพื้นที่มากขึ้นแล้วเลือกมาอยู่ทาวน์โฮม เพราะทำเลยังไม่ออกไปไกลตัวเมืองมากแบบบ้านเดี่ยว และยังคงได้ความเงียบสงบเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น เกิดเป็นสังคมคุณภาพในโครงการ “บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5” เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าโครงการกันเลยค่ะ Main Gate สีขาวขนาดใหญ่ สังเกตได้ง่าย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV รั้วด้านหน้าเป็นเหล็กโปร่งสีดำ ใช้ระบบเข้า-ออก แบบ EASY CARD คือเมื่อติดตั้งระบบที่รถก็สามารถขับเข้าไปได้เลยค่ะ รั้วจะเลื่อนเองด้วยระบบไฟฟ้า ภายในโครงการถนนหลักกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนตามซอยกว้าง 8 เมตร เมื่อผ่าน Main Gate เข้าไปในตัวโครงการแล้วทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สีเขียวตลอดแนวจนไปถึงส่วนกลางอื่นๆ มีฟุตบาทที่ปูด้วยหญ้าจริงสลับกับทางเดิน โดยจะถูกออกแบบตามเส้นสายของธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลาย เป็นสิ่งที่ทางโครงการตั้งใจให้กับลูกบ้านค่ะ ตรงกลางสวนมีส่วนที่ถูกจัดให้เป็นสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง มีทางเชื่อมต่อไปยัง Club House โดยเราจะสามารถสังเกตเห็นรั้วทึบรอบโครงการทางซ้ายมือของภาพซึ่งจะสูง 3 เมตร เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน Club House 2 ชั้นของโครงการเน้นโทนสีขาวสบายตา ชั้นล่างจัดพื้นที่โปร่งมีลมเข้าอยู่ตลอด ส่วนชั้นบนล้อมรอบด้วยกระจกสูงดูแล้วไม่อึดอัด มองภาพรวมแล้วสวยทีเดียวค่ะ ชั้นล่างของ Club House แห่งนี้จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ และระบบน้ำล้น ขนาด 6*15 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีสระเด็กแยกอยู่ข้างๆ กันด้วยนะคะ โดยสระเด็กจะมีความลึก 0.5 เมตร อยู่ใกล้กับเก้าอี้พักผ่อนที่อยู่บริเวณน้ำตื้นริมสระ ตรงนี้ผู้ปกครองสามารถดูแลบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิดด้วยค่ะ มีพื้นที่ล้างตัวแยกเป็นฝั่งเด็กกับฝั่งผู้ใหญ่อยู่ใกล้กับห้องน้ำแยกชาย-หญิง ด้านขวามือของภาพค่ะ ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดมีราวจับแบบกระจกนิรภัย ดูกลมกลืนกับการออกแบบโทนสีขาวดีค่ะ ที่ชั้น 2 จะมีฟิตเนสค่ะ เปิดให้ใช้บริการทุกวันตั้งแต่ 8.00-20.00 น. ฟิตเนสจะถูกล้อมรอบไปด้วยกระจกสูงสลับกับหน้าต่างเป็นบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศออกไปได้ ภายในฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังกายอยู่พอสมควร มีโฟซาสำหรับนั่งพักผ่อนอยู่ภายในฟิตเนสด้วยค่ะ ภาพมุมสูงจากฟิตเนสค่ะ พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดนี้รวมแล้วประมาณ 1 ไร่ พาดูส่วนกลางกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าไปชมบ้านตัวอย่างกันบ้างค่ะ โดยทาวน์โฮมจริงจะมีรั้วหน้าบ้านเป็นเหล็กโปร่งสีดำสูง กำแพงด้านข้างกั้นแต่ละหลังเป็นแบบทึบสีเทาสูง 1.5 เมตร แต่สำหรับทาวน์โฮมตัวอย่างนี้จะไม่ได้กั้นมาให้เห็นค่ะ และทาวน์โฮมที่จะได้เป็นบ้านเปล่านะคะ ซึ่งบ้านตัวอย่างนี้จะถูกตกแต่งขึ้นมาเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นค่ะ ก่อนจะเข้าไปดูในตัวทาวน์โฮมเรามาดูกันที่พื้นที่ด้านข้างกันก่อนค่ะ โดยพื้นที่ด้านข้างแบบนี้จะได้เฉพาะแปลงมุมนะคะ เราสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้จัดสวนได้เพิ่มมากขึ้น พื้นที่ด้านข้างนี้จะเชื่อมกับพื้นที่หลังบ้านค่ะ มีประตูกระจกที่สามารถเดินออกจากทาวน์โฮมมาที่สวนด้านข้างนี้ได้เลย ด้านหน้าทาวน์โฮมทุกหลังทางโครงการจะติดตั้งกันสาดมาให้ด้วยนะคะ ซึ่งเป็นผ้าใบสีน้ำตาล สามารถพับเก็บได้ หน้าบ้านมีเฉลียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สำหรับวางชั้นวางรองเท้าและเก็บร่มค่ะ ประตูใช้เป็นกระจกบานเลื่อน ซึ่งทั้งประตูและหน้าต่างที่เป็นกระจกจะใช้กระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียมสีดำทั้งหมดค่ะ ประตูด้านหน้าใช้ระบบล็อคแบบลูกกุญแจปกติค่ะ ด้านในมีตัวจับแน่นหนาพอสมควร ระบบล็อคแบบ Double Lock ที่มีทั้งลูกกุญแจกับก้นหอยแบบนี้ค่ะ ซึ่งระบบล็อคแบบก้นหอยนี้จะใช้กับประตูและหน้าต่างบานกระจกทุกบานในบ้านค่ะ เปิดประตูบ้านเข้ามาก็จะพบกับห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรกค่ะ ภายในใช้ไฟ Downlight ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.6 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60*60 พื้นที่ส่วนแรกของบ้านนี้เราสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางได้ มีพื้นที่เหลือสบายๆ ค่ะ ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวี อยู่ระหว่างบันไดกับห้องน้ำ ต่อจากห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ห้องครัวค่ะ ห้องครัวถูกจัดให้อยู่ด้านในสุด มีพื้นที่สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวแบบ L Shape พร้อมตู้เย็นได้ และมีห้องน้ำอยู่ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น เข้าไปดูที่ห้องน้ำแรกของบ้านกันค่ะ ใช้ประตูบานเลื่อน และด้วยความที่เป็นห้องน้ำสำหรับรับแขกจึงไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ ส่วนพื้นกับผนังบางส่วนปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ห้องน้ำทุกห้องใช้สุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard ค่ะ ด้านข้างเหนือโถสุขภัณฑ์จะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง สำหรับเพิ่มแสงสว่างและช่วยระบายอากาศค่ะ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อมกระจกค่ะ ถัดจากโซฟาจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง หากเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมแบบนี้จะได้ประตูกระจกบานเลื่อนข้างโต๊ะทานอาหาร เพื่อออกไปยังพื้นที่สวนข้างบ้าน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มแสงสว่าง และรับลมจากภายนอกได้มากขึ้นด้วยค่ะ พื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ครัวมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ซึ่งจุดนี้เหมาะสำหรับการวางซิงค์ล้างจานตามแบบบ้านตัวอย่างเลยค่ะ เพราะตรงนี้เสี่ยงที่จะเกิดเชื้อราได้ง่าย หากได้หน้าต่างจะช่วยระบายความอับชื้นที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนออกไปทางหลังบ้านค่ะ หลังบ้านมีบริเวณเหลือสำหรับเป็นลานซักล้างค่ะ หรือจะทำเป็นที่นั่งพักผ่อนรับลมนอกบ้านแบบที่บ้านตัวอย่างนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน ถัดจากประตูหลังบ้านก็จะพบกับพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า จุดนี้ทางโครงการได้ต่อท่อน้ำพร้อมรูปลั๊กไฟเอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ กลับเข้ามาเดินชมในตัวบ้านกันต่อค่ะ ขึ้นไปชมชั้น 2 กันค่ะ บันไดอยู่ข้างเคาน์เตอร์ทีวี ถัดจากประตูหน้าบ้านเลยค่ะ บันไดใช้แบบโครงเหล็ก ราวจับเหล็กโปร่งสีขาว ตรงที่พักบันไดมีหน้าต่างทรงสูงเพิ่มแสงสว่างได้ดี เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นปูด้วยลามิเนต โดยเราจะเริ่มจากห้องทางขวามือกันก่อนค่ะ ห้องนอนแรกของบ้านอยู่ทางฝั่งหลังบ้านค่ะ ห้องนี้ถูกตกแต่งให้เตียงขนาด 3.5 ฟุต อยู่ชิดกับกำแพง แล้วมีพื้นที่เหลือกลางห้อง แต่เราสามารถวางเตียงได้ 5-6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานได้อีกสบายๆ เลยค่ะ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ให้แสงสว่างเข้ามาได้อย่างเพียงพอ อีกด้านหนึ่งของห้องมีช่องที่สามารถ Build In ตู้เสื้อผ้าได้พอดี ต่อมาเป็นห้องน้ำของชั้น 2 ซึ่งจะอยู่ตรงกลางของชั้นค่ะ ความสูงภายในห้องน้ำ 2.4 เมตร พื้นกับผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง มีปูนก่อออกมาเล็กน้อยเพื่อทำเป็นชั้นวางของ เหนือโถสุขภัณฑ์มีหน้างต่างบานกระทุ้งเพื่อเพิ่มแสงสว่างและระบายอากาศค่ะ แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบธรณีประตูขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำล้นออกไปส่วนพื้นแห้ง ห้องนอนที่ 2 อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องนอนทางด้านหลังบ้านขึ้นมาอีกนิด สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้ววางโต๊ะหัวเตียงของทั้งสองข้างของเตียงได้ ปลายเตียงเหลือพื้นที่สำหรับ Build In ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ข้างเตียงมีระเบียงออกไปทางหน้าบ้าน ระหว่างห้องนอนกับระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ และ Condensing Unit วางเอาไว้ตรงมุมระเบียงหันออกนอกตัวบ้าน ขึ้นมาดูกันที่ชั้น 3 ค่ะ ชั้นนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากท่ี่สุด เพราะมีเพียง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์ เริ่มจากทางขวามือจากบันไดค่ะ ตรงนี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แล้วแต่จะดีไซน์ออกมาเป็นพื้นที่ใช้สอยอะไรก็ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน บ้านตัวอย่างจะตกแต่งพื้นที่ตรงนี้ให้เป็น Walk-In Closet หรืออาจจะตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่นส่วนตัวก็ได้ค่ะ พื้นที่อเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงหลังบ้านค่ะ โดยจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นเคย ระเบียงหันออกไปทางหลังบ้านค่ะ มีพื้นที่พอที่จะสามารถวางเก้าอี้พร้อมโต๊ะขนาดเล็กได้ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำแบบเดียวกันกับระเบียงทางหน้าบ้าน จากพื้นที่อเนกประสงค์เดินต่อตรงโถงทางเดินเพื่อเชื่อมต่อกับห้องน้ำ และ Master Bedroom ขวามือของโถ่งทางเดินเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำของชั้น 3 จะเห็นได้ว่ามีหน้าตาที่คล้ายกันกับห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ เพียงแค่ช่องระบายอากาศจะอยู่เหนือโซนอาบน้ำ และอ่างล้างหน้าจะมีช่องเก็บของเอาไว้ข้างใต้ด้วย จากภาพนี้จะเห็นได้ชัดขึ้นค่ะว่าห้องน้ำชั้น 3 จะเป็นประตูแบบ Double Access เชื่อมระหว่างโถงทางเดินกับ Master Bedroom สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom ค่ะ มีขนาดใหญ่พอๆ กันกับห้องนอนชั้น 2 ภายในห้องสามารถวางเตียงได้ 5-6 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่ใช้สอยกลางห้อง ปลายเตียงสามารถ Build In ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ หรือจะจัดให้เป็น Walk-In Closet ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ ระเบียงชั้น 3 มีขนาดเท่ากันกับระเบียงชั้น 2 ค่ะ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ Condensing Unit วางเอาไว้ตรงมุมระเบียงหันออกนอกตัวบ้าน   17-18 พ.ย.นี้! “SPECIAL ONE PRICE!” พบแปลงสวยราคาพิเศษ ราคาปรกติ 3.79* ล้าน พิเศษ 3.59 ล้าน*! ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอนฯ* (จำนวนจำกัด) 2 วันเท่านั้น! พิเศษยิ่งขึ้น #MillionAttack ลุ้นรับทองคำมูลค่าสูงสุด 1,000,000 บาท* พร้อมรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 2 ล้านบาท*   บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม5 ทาวน์โฮมใหญ่ 3 ชั้น พร้อมคลับเฮ้าส์หรู และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วนศรีรัช และรถไฟฟ้า เชื่อมต่อจตุจักร-บางซื่อเพียง 10 นาที* ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท* คลิก ➤ https://goo.gl/cyhKfH      
บ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง [Advertorial] : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง [Advertorial] : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง ทำเล คือปัจจัยของคนมองหาที่อยู่อาศัยจะพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยว ซึ่งแน่นอนว่าทำเลที่ทั้งสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกทั้งเข้าเมืองไปทำงาน ทั้งออกนอกเมืองไปสนามบินหรือไปต่างจังหวัดไปพร้อมๆ กันนั้นหาได้ยากมากใช่ไหมคะ แต่คำว่าหายากนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีค่ะ   เราคงรู้จัก New CBD กันมาระยะหนึ่งแล้วใช่ไหมคะ ด้วยความเพียบพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ตอบโจทย์ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่อยู่เกือบ 24 ชม. ทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ไฮเปอร์มาร์เก็ต ไนท์มาร์เก็ต แหล่งรวมร้านแฮงเอ้าท์ รวมถึงอาคารออฟฟิศเกรด A หลายแห่ง ส่วนทำเลที่มีทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกับแอร์พอร์ตลิงค์ผ่าน สามารถใช้ทางด่วนได้หลายสายอย่างทางยกระดับอุตราภิมุข ทางพิเศษศรีรัชจนไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์(กรุงเทพ-ชลบุรี) ซึ่งง่ายต่อการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมต่อสู่ภาคตะวันออกโซน EEC ที่กำลังมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในอนาคต เรียกได้ว่าไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะก็ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้ย่านพระราม 9 แห่งนี้สมบูรณ์มากจนเกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งระยะหลังเราจะเห็นชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ย่านนี้ก็ไม่น้อยทีเดียว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับย่าน CBD เดิมแล้วจะพบว่าความสะดวกสบายไม่ต่างกันมาก เพียงแต่สีลม-สาทรนั้นทุกวันนี้มีความหนาแน่นอยู่มากทีเดียวค่ะ ทั้งจำนวนของผู้คนตามมาด้วยการจราจรที่ติดขัดไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนการเดินทางไปสนามบินหรือออกนอกเมืองก็ค่อนข้างไกล ที่สำคัญราคาของที่อยู่อาศัยก็ไม่เบาทีเดียว         เมื่อเอ่ยถึงสนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นสนามบินหลักของบ้านเราแล้ว ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะตั้งอยู่นอกตัวเมืองเหมือนในหลายๆ ประเทศ ซึ่งก็มักจะห่างไกลจากตัวเมืองตามไปด้วย แต่ไม่ใช่กับโซน New CDB อย่างพระราม 9 เพราะไม่ว่าจะใช้รถยนต์เดินทางด้วยถนนมอเตอร์เวย์ตรงเชื่อมต่อถนนพระราม 9 หรือจากถนนมอเตอร์เวย์แล้วขึ้นทางพิเศษศรีรัชก็เป็นเรื่องง่ายมากแถมยังใช้เวลาไม่กี่นาที ยิ่งหากเลือกใช้บริการจากแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางสำคัญของโซนที่ถือได้ว่าเป็นกึ่งกลางระหว่างตัวเมืองกับนอกเมืองแบบย่านลาดกระบัง-อ่อนนุช ก็จะยิ่งลดระยะเวลาการเดินทางได้มากขึ้นไปอีก    แหล่งออฟฟิศเกรด A สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย การเดินทางที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว   บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ทุกหลังหน้ากว้าง 5 เมตร ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป พื้นที่ใช้สอยมากถึง 146 ตร.ม. สามารถปรับเปลี่ยน Function ของทุกสัดส่วนภายในบ้านของเราได้ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อย่างลงตัว ท่ามกลางพื้นที่ทั้งหมดกว่า 17 ไร่ ให้สามารถใช้ชีวิตในทุกด้านได้อย่างเต็มที่ ภายในโครงการให้ความเป็นส่วนตัว สงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้รอบโครงการ แม้ในขณะเดียวกันจะมีความวุ่นวายบนท้องถนนมอเตอร์เวย์หลังโครงการ สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือระดับของการใช้ชีวิตได้อย่างน่าหลงใหลและไร้ขีดจำกัด    ได้พื้นที่มากกว่า และยืดหยุ่นได้ตามไลฟ์สไตล์ เรียบง่าย มีความเป็นส่วนตัว   สังคมคุณภาพที่บ้านกลางเมือง Facility เพื่อการพักผ่อนในบ้านของตัวเองที่คลับเฮ้าส์ พร้อมสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ล้อมรอบไปด้วยสวนสาธารณะที่มีบริเวณพักผ่อน ได้ความอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมกล้องวงจรปิดทางเข้า-ออก โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ความสงบร่มรื่น คลับเฮ้าส์ที่ครบครัน   ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานวงแหวน ติดกับมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้า  ทำให้การเดินทางสะดวกสบายทั้งเข้าเมืองสู่ใจกลาง New CBD ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที และออกนอกเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที หรือจะเลือกใช้แอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้างก็อยู่ห่างจากโครงการแค่ 5 นาที ซึ่งช่วงจุดกึ่งกลางระหว่างย่านพระราม 9 กับสนามบินคือช่วงอ่อนนุชปลายๆ เชื่อมต่อกับลาดกระบัง โดยมีแอร์พอร์ตลิงค์เป็นระบบขนส่งสาธารณะสำคัญของคนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ในการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้รวดเร็วที่สุด ใกล้ทั้งทางด่วนและแอร์พอร์ตลิงค์ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีถึง New CBD 5 นาที ถึงสุวรรณภูมิ   การเดินทางไปยังโครงการ    สามารถเข้าได้หลายทาง หลักๆ แล้วแนะนำ 2 เส้นทาง ได้แก่     1. หากมาจากพระราม 9 ด้วยทางพิเศษศรีรัช เมื่อข้ามถนนศรีนครินทร์แล้วให้ออกทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เพื่อกลับรถบนสะพานเกือกม้า เมื่อลงจากเกือกม้าให้รีบชิดซ้ายเพื่อกลับรถอีกครั้ง เข้าสู่ทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าไปทางอ่อนนุช วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ ผ่านมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด  แอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง และรอดใต้วงแหวนไปอีก 200 เมตร ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือ     2. หากมาจากซอยสุขุมวิท 77 ฝั่งขาออกมุ่งหน้าลาดกระบัง เมื่อถึงแยกประเวศเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเฉลิมพระเกียรติ ผ่านสน.ประเวศ เมื่อเจอสามแยกที่มีดี คอนโด ให้เลี้ยวขวา และเลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อเข้าสู่คู่ขนานวงแหวนขับตามทางไปอีกเล็กน้อยก็จะพบกับโครงการ(หากเลี้ยวซ้ายจะไปออกทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์)    สำหรับโครงการบ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช ถือเป็นทาวน์โฮมในระดับ Hi-End Townhome เพราะเรื่องสภาพแวดล้อมภายในโครงการที่ดี ได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือเรื่องของศักยภาพเฉพาะตัวของทำเลที่ไม่ไกลจากแหล่งสำคัญ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกสบายไม่ว่าจะโดยรถยนต์ส่วนตัวเชื่อมต่อกับทางด่วนเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงค์ที่อยู่ใกล้กับโครงการ ด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างใจกลางเมืองกับชานเมืองจึงทำให้บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช กลายเป็นหนึ่งในโครงการคุณภาพจาก AP       
Nirvana Define Srinakarin – Rama 9 เพิ่มความสุขในชีวิตที่มากกว่า.. : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana Define Srinakarin – Rama 9 เพิ่มความสุขในชีวิตที่มากกว่า.. : รีวิวทาวน์โฮม

ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะว่าที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคในปัจจุบันก็คือ “ทาวน์โฮม” จุดเริ่มต้นก็มาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนอยากขยับขยายพื้นที่เพื่อรองรับชีวิต จึงเริ่มมองหาที่อยู่ใหม่ให้ตอบสนองความต้องการทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้ง พื้นที่ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หากเลือกที่อยู่เป็นคอนโดมิเนียมทำเลดีก็จะติดตรงพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของจำนวนสมาชิก หรือหากจะเลือกเป็นบ้านเดี่ยวสักหลังบางทีก็มีราคาสูงเกินกว่าจะรับไหว ดังนั้นทาวน์โฮมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวยุคใหม่ในตอนนี้ค่ะ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งพื้นที่ใช้สอยและเรื่องของราคา   แต่จะดีแค่ไหน..ถ้ามีทาวน์โฮมฟังก์ชั่นเหมือนบ้านเดี่ยว เช่นเดียวกับโครงการ “Nirvana DEFINE Srinakarin - Rama 9 (เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ - พระราม9)” ของ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช้อยส์ให้แก่คุณผู้อ่านที่กำลังคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แถมยังปักหมุดบนทำเลที่เอื้อต่อการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย ซึ่งเราจะพาไปทำความรู้จักกันในวันนี้..     ปักหมุดทำเลศักยภาพแห่งใหม่ ใกล้ CBD พระราม 9 คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มีที่พักอาศัยอยู่ไม่ไกลใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนหลายสาย และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งโครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” ก็ตอบโจทย์ทุกข้อที่กล่าวมาได้เป็นอย่างดี ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพแห่งใหม่ของฝั่งกรุงเทพตะวันออก ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่เพิ่งเปิดใช้บริการเมื่อไม่นานมานี้ ความพิเศษของถนนเส้นนี้นอกจากจะมีช่องจราจร ถึง 6-8 ช่อง ระยะทางรวมกว่า 16 กม. แล้ว ในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตเท่าถนนเลียบทางด่วน-รามอินทรา อีกด้วยนะคะ เพราะเป็นถนนขนาดใหญ่ มีระยะทางยาวตัดผ่านถนนเส้นหลักหลายสาย ทั้งถนนพระราม 9-ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ   นอกจากจะเป็นทำเลศักยภาพใหม่ที่น่าสนใจแล้ว ยังเป็นที่ดินฝั่งที่มูลค่าสูงมาก เหมาะแก่การลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งโซนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งเป็นโซนฝั่งก่อนข้ามถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก นับว่าเป็นโซนที่พักอาศัยที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะอยู่ติดย่านพระราม 9 และศรีนครินทร์ สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงใจกลาง CBD ได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น จึงทำให้เหล่า Developer ต่างหมายปองครอบครองที่ดินเพื่อผุดโครงการใหม่ๆ ในย่านนี้ เนื่องจากเป็นโซนที่ถูกรายล้อมไปด้วยที่อำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วนพระราม 9, ทางด่วนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี ที่ทำให้การเดินทางเข้านอกออกเมืองเป็นเรื่องที่ง่าย นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็จัดว่าสะดวกสบายไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะมีทั้งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิ้งก์, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีครีกรีฑา (ทางฝั่งศรีนครินทร์) และสายสีส้ม (ทางฝั่งรามคำแหง) ในระยะที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการเลย   หรือถ้าลูกบ้านคนใดเป็นสายช็อป ชิม และชิลล์ก็น่าจะถูกใจที่สุด เพราะอย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใหม่  การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายสามารถเชื่อมผู้อยู่อาศัยไปยังสถานที่สำคัญโดยรอบได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะไปห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เดอะมอลล์บางกะปิ, ซีคอนสแควร์, เดอะไนน์ พระราม 9 หรือ พาราไดซ์ปาร์ค ที่มีร้านค้าร้านอาหารรวมถึงร้านนั่งชิลล์ให้เลือกมากมาย หากเจ็บไข้ได้ป่วยก็สามารถไปโรงพยาบาลชั้นนำในพิกัดใกล้ๆ อย่าง โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลรามคำแหง หรือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ได้สะดวก ยิ่งในเรื่องของการศึกษาก็นับว่าตอบโจทย์ครอบครัวขยายที่มีสมาชิกเพิ่มได้ดี เพราะใกล้สถานศึกษา อาทิ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ, มหาวิทยาลัยเอแบค, มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสถาบันนิด้า เป็นต้น   ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว   โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” คือพื้นที่ใช้ชีวิตที่ครบครันทุกฟังก์ชั่น เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่มองหาความหรูหราเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายมาเติมเต็มชีวิต เริ่มจากการออกแบบทาวน์โฮมในสไตล์โมเดิร์นให้มีเอกลักษณ์ในรูปทรงกล่อง ผสานกับงานไม้โทนสีอบอุ่นและการจัดวางที่แสนลงตัว ให้ความรู้สึกเรียบหรูมีระดับ แบ่งออกเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น และ 3 ชั้นครึ่ง ที่มีเพียง 173 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นโครงการบ้านในแนวราบสร้างใหม่ที่โดดเด่นและน่าสนใจในแถบนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับบ้านมีให้เลือก 4 แบบตามพื้นที่ใช้สอยดังต่อไปนี้..   Type A ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 31.3-63 ตารางวา Type B ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30.9 ตารางวา Type C ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 21.1-43.7 ตารางวา Type D ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 20.8-23.7 ตารางวา   ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในก็ถูกจัดสรรให้แตกต่าง Full Function มากกว่าบ้านเดี่ยว ด้วยการใช้ช่องแสงธรรมชาติมากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป โดยคำนึงถึงความโปร่งโล่ง อยู่สบาย อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่หน้าบ้านให้กว้างกว่าใครด้วยดีไซน์กว้างกว่า 6.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2-3 คัน ก็นับว่าตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด             เติมเต็มความสุขกับทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง อีกหนึ่งความพิเศษของ โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” คือการคำนึงถึงช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกบ้าน ไม่ว่าจะวันหยุด วันธรรมดา หรือช่วงเวลาพักผ่อน เพราะทางโครงการได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยที่แตกต่างได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสวนส่วนกลาง, คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่, ฟิตเนส ที่มาพร้อมกับ Public Wi-Fi และยังสร้างความอุ่นใจไปกับระบบระบบกล้อง CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.     จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” เป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบทาวน์โฮมสำหรับกลุ่มคนที่เบื่อการอยู่อาศัยแบบแนวสูง อยากมีพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังอยากได้ความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางแบบชาวคอนโดมีเนียมอยู่ จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำแหน่งที่ตั้งของตัวโครงการนั้น เป็นทำเลศักยภาพที่ทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่ายจนไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเดินทางเข้านอกหรือออกเมือง เพราะใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึงทางด่วนแล้ว แถมใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็ถึงใจกลาง CBD ย่านพระราม 9 ด้วยค่ะ ที่สำคัญคืออยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีเหลือง (สถานีศรีกรีฑา) เพียง 4 กม. และใกล้ Airport Link (สถานีหัวหมาก) เพียง 5.5 กม. เท่านั้น ดังนั้น Location จึงกลายเป็นจุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท*   พิเศษ! สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปร่วมงาน EXCLUSIVE SALES ในวันที่ 24 มีนาคม 2561 นี้ พร้อมรับสิทธิพิเศษเหนือใครด้วยราคาสุดว้าวก่อน Pre-Sales ได้ที่ Sales Gallery ลงทะเบียนได้ที่ goo.gl/RfZ2Qn งานดีๆ แบบนี้บอกได้คำเดียว "ไม่ควรพลาดนะคะ"   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1787
บ้านกลางเมืองรามอินทรา-วัชรพล ทาวน์โฮมบนทำเลที่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัว : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมืองรามอินทรา-วัชรพล ทาวน์โฮมบนทำเลที่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัว : รีวิวทาวน์โฮม

ว่ากันว่าปี 2561 นี้ ทาวน์โฮมจะเป็นที่พักอาศัยที่ถูกจับตามองว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยราคาที่พอๆ กันกับคอนโดมิเนียม 1 ยูนิต แต่ข้อดีของทาวน์โฮมคือจะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าเหมาะสำหรับการอยู่กับครอบครัว หรือผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่า และไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถ ซึ่งหากเราพูดถึงแบรนด์ทาวน์โฮมดีๆ สักโครงการก็เชื่อว่าจะต้องมีชื่อ “บ้านกลางเมือง” ขึ้นมาในใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน เพราะกว่า 20 ปีที่บ้านกลางเมืองได้สร้างสรรค์ทาวน์โฮมดีไซน์ตามยุคสมัยมาโดยตลอด จนทำให้กลายเป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค โดยรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปชมกันที่โครงการล่าสุดอย่าง “บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล”   ทำเล ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับทำเลย่านนี้กันก่อนค่ะ ทำเลบริเวณนี้ส่วนมากจะแวดล้อมไปด้วยบ้านเดี่ยวที่มีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวสูงมากทีเดียวค่ะ ฉะนั้นสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย แต่ยังคงเดินทางสะดวกไม่ว่าจะเข้าไปใจกลางเมืองหรือออกนอกเมืองก็เป็นเรื่องง่าย โดยโซนนี้จะใช้เส้นทางเข้า-ออก เมืองหลักๆ คือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษศรีรีชเพื่อเข้าสู่ย่านพระราม 9 ใช้เวลาเพียง 15 นาที และสามารถต่อไปยังทางพิเศษเฉลิมมหานครไปลงสาทร-สีลมก็ได้ หรือหากจะเดินทางออกนอกเมืองไปอีกก็ไม่ไกลนะคะ แค่ขึ้นทางด่วนจากจุดเดิมก็สามารถไปลงถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออกได้เช่นกัน   ส่วนเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกย่านนี้ก็มีให้เลือกไม่น้อยค่ะ ที่ใกล้ที่สุดก็มี Big C ริมถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งมีทั้งธนาคาร ร้านอาหารหลายร้าน และบริเวณนั้นยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านคาเฟ่สวยๆ ไปจนถึงร้านแฮงค์เอ้าท์ ห่างจากโครงการเพียงกิโลเมตรกว่าๆ หรือจะไปที่ถนนหลักอย่างรามอินทราก็จะมีห้างสรรพสินค้าอย่าง Fashion Island, The Promenade, Central Ramintra รวมไปถึงโรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลสายไหม แต่ถ้าจะเลือกแบบเดินทางสะดวกจะขึ้นทางด่วนจุดเดิมแล้วไปที่ CDC, Crystal Park, Central Eastville และร้านอาหารชื่อดังเรียงรายอยู่ตามเส้นทางรามอินทรา-อาจณรงค์   ลูกศรสีแดง คือ ทางเข้าโครงการ ส่วนลูกศรสีน้ำเงิน คือ ออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วน ด่านสุขาภิบาล 5   หากดูจากแผนที่ชัดๆ จะเห็นว่าถนนบริเวณโครงการนั้นจะเป็นทางสำหรับขึ้น-ลงทางด่วน ด่านสุขาภิบาล 5 โดยเฉพาะ ถ้ามาจากถนนสุขาภิบาล 5 ฝั่งขาออกไปถนนสายไหมจะพบกับสามแยกที่เป็นจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โครงการจะอยู่บริเวณนี้พอดีค่ะ หรือถ้าจะออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วนเพียงแค่กลับรถก่อนถึงสามแยกก็ขึ้นทางด่วนได้เลยประมาณ 800 เมตรเท่านั้นเองค่ะ แบบนี้คงหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมโครงการนี้ถึงเปรียบเสมือนมีทางขึ้น-ลงทางด่วนแบบส่วนตัวอยู่หน้าบ้านของตัวเอง   ภาพรวมโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ตั้งอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลง ทางด่วน สุขาภิบาล 5 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น 145 ยูนิต บนพื้นที่ 14-0-52.60 ไร่ มาพร้อมกับคอนเซป “Connectivity of Perfect Living การเชื่อมต่อสู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ” เป็นคอนเซปที่เข้ากับตัวโครงการไม่ว่าจะในแง่ของการเดินทาง หรือการวางแปลนภายในบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว สำหรับโครงการนี้จะมีทาวน์โฮมแบบเดียวเหมือนกันหมดทุกยูนิตนะคะ คือ พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถได้ 2 คัน หลังที่ลูกบ้านจะได้รับจริงๆ เป็นบ้านเปล่า แต่มีการติดตั้งสาธารณูปโภคมาให้เรียบร้อยค่ะ โดยทาง AP เรียกแบบทาวน์โฮมสไตล์นี้ว่า New Urbanist ชั้นแรก ภายในบ้านจมีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ ชั้น 2 ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ชั้น 3 ประกอบไปด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 พื้นที่ใช้สอย Facility ของโครงการก็มีมาให้ครบค่ะ ทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนสชั้นบนที่มีกระจก High Ceiling ให้ได้ออกกำลังกายพร้อมชมวิวสวนสีเขียวสวยๆ ของโครงการ บ้านตัวอย่าง ครั้งนี้เราพามาชมกันที่ตัวโครงการเลยค่ะ ซึ่งใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะเห็นว่าหน้าโครงการจะติดกับทางขึ้น-ลง ทางด่วนเลย หน้าโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ประจำอยู่ที่ Gate ค่ะ โดยการเข้า-ออกโครงการจะใช้ระบบ Access Card พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยค่ะ เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วจะเห็นว่าตัวทาวน์โฮมจะใช้โทนสีขาวตัดกับสีเทา-น้ำตาล บวกกับส่วนที่เป็นเหล็กสีดำในสไตล์โมเดิร์น ด้วยหน้าบ้านกว้างถึง 5 เมตร เท่ากันทุกหลังทำให้จอดรถได้ถึง 2 คันค่ะ รั้วหน้าบ้านใช้เหล็กโปร่งสีดำ ซึ่งบริเวณลานจอดหน้าบ้านนี้ก็จะติดตั้งทั้งปลั๊กไฟ ก๊อกน้ำมาให้ พร้อมกับติดตั้งผ้าใบกันสาดสีน้ำตาลที่สามารถผับเก็บได้อย่างที่เห็นในภาพค่ะ มาชมที่บ้านตัวอย่างกันค่ะ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 145.017 ตร.ม. อย่างที่บอกกันไปค่ะว่าโครงการติดตั้งผ้าใบกันสาดหน้าบ้านเอาไว้ให้ทุกหลังด้วย ซึ่งตัวผ้าใบนี้สามารถผับเก็บได้ด้วย ประตูหน้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน โดยกระจกที่เป็นประตู-หน้าต่างทุกบานจะใช้กระจกเขียวตัดแสงค่ะ ขอบกระจกเป็นอลูมิเนียมสีดำค่ะ ใช้ระบบ Double Lock คือมีทั้งการล็อคแบบกุญแจล็อคนอกบ้านกับแบบก้นหอยจากในบ้านค่ะ ภายในบ้านมีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.7 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ใช้ไฟซาลาเปา Common Area ชั้นล่าง โซนแรกเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้ เหลือพื้นที่อีกเยอะมากค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามโซฟาก็มีพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวีอยู่ระหว่างบันไดกับห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ ติดกับบริเวณวางเคาน์เตอร์วางทีวีเรามาดูที่ห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ โดยห้องเก็บของนี้ใช้บานประตูแบบกดตัวบานประตูเพื่อเปิด-ปิด มองผ่านๆ แล้วจะคล้ายกับเป็นกำแพงโล่งค่ะ ทำให้ดูแล้วสวยกว่าที่จะเป็นบานแบบมีลูกบิดประตู ภายในเป็นห้องใต้บันไดใช้เก็บของขนาดเล็กได้ค่ะ เช่น เก็บรองเท้า, อุปกรณ์ทำความสะอาด ถัดจากห้องใต้บันไดเป็นห้องน้ำขนาดเล็กสำหรับรับแขก ใช้ประตูบานเลื่อนค่ะ ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ใช้ไฟแบบ Downlight และใช้สุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard ทั้งหมดค่ะ ด้านบนข้างสุขภัณฑ์มีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาาศ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมพื้นที่วางของตรงผนังหน้ากระจก ต่อมาที่พื้นที่ครัวซึ่งจะเชื่อมต่อลึกเข้าไปจากห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนครัวเราสามารถวางเคาน์เตอร์แบบ L Shape พร้อมกับวางตู้เย็นไว้ด้านข้างได้ค่ะ มีหน้าต่างแบบกระจกบานเลื่อน 2 ตอน สำหรับระบายกลิ่นและความชื้นสำหรับห้องครัวได้อย่างลงตัวทีเดียวค่ะ ถัดจากโซฟาสามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง ข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นประตูออกไปทางหลังบ้าน ใช้ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ใช้ระบบ Double Lock แบบล็อคตรงมือจับกับแบบก้นหอยค่ะ เดินออกมาตรงพื้นที่หลังบ้านมีบริเวณให้สำหรับเป็นลานซักล้างหรือจะดัดแปลงเป็นสวนหลังบ้าน, ครัวไทยได้ตามสะดวกค่ะ โดยมีการวางช่องลึกเข้าไปแล้วปูพื้นกระเบื้องเซรามิคพร้อมต่อระบบน้ำเอาไว้ให้เรียบร้อยสำหรับวางเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ กลับเข้ามาเดินชมในบ้านที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดบ้านใช้แบบโครงเหล็กมีราวจับสีขาว มีหน้าต่างกระจกทรงสูงตรงที่พักบันไดเพื่อเพิ่มแสงสว่างค่ะ ซึ่งหน้าต่างตรงนี้จะไม่สามารถเปิดได้นะคะ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีทั้งหมด 3 ห้องค่ะ เป็น 2 ห้องนอนทางซ้ายกับขวา ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำ 1 ห้อง พื้นของชั้น 2 จะถูกพื้นห้องปูด้วยลามิเนต เข้าไปดูที่ห้องทางขวามือทางหลังบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีพื้นที่มีขนาดน้อยที่สุดของบ้าน แต่ฝั่งขวามือของห้องมีพื้นที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้เลยนะคะ แต่ในห้องตัวอย่างนี้จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตเอาไว้ชิดกำแพง แล้วเหลือพื้นที่กว้างๆ ตรงกลางห้องค่ะ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดใหญ่ตรงกลางห้อง ตรงนี้เหมาะสำหรับวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ หรือจะวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้นะคะ เพราะมีแสงสว่างเข้ามามากเพียงพอแน่นอน อีกด้านของห้องจะมีพื้นที่ขนาดกำลังพอดีสำหรับ Built In ตู้เสื้อผ้า ต่อไปที่ห้องน้ำด้านขวามือจากในภาพค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งพื้นและผนัง สุขภัณฑ์ทั้งหมดจากแบรนด์ American Standard แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบธรณีกั้นสูงขึ้นมาเล็กน้อย อ่างล้างหน้าใช้แบบแขวนผนัง โดยมีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้เป็นที่วางของได้ค่ะ ไปดูต่อกันที่ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านของชั้น 2 ค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้โดยยังมีพื้นที่ของทั้ง 2 ข้างของเตียงเหลืออยู่ และยังสามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ด้วย ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับ Built In ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ตลอดแนวผนัง ห้องนี้มีระเบียงส่วนตัวออกไปทางหน้าบ้านด้วยนะคะ โดยจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขึ้นไปดูที่ชั้น 3 ต่อค่ะ ชั้น 3 จะมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์ หันไปดูทางขวากันก่อนค่ะ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ว่างสำหรับจัดเป็นพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น ห้องนั่งเล่นส่วนตัว, ห้องทำงาน เป็นต้น ส่วนห้องตัวอย่างนี้ทางโครงการตกแต่งออกมาให้เป็นห้องนั่งเล่นอีกห้องที่จะได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ข้างๆ พื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ มีหน้างต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศ สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ American Standard อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมีช่องเก็บของด้านล่างพร้อมพื้นที่วางหน้ากระจก ความพิเศษของชั้นนี้คือห้องน้ำมีประตู 2 ฝั่ง เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่อเนกประสงค์ด้านนอกกับ Master Bedroom ในส่วน walk in closet ตรงนี้เหมาะมากต่อการอยู่อาศัยจริงค่ะ เราออกมาดูกันที่ห้อง Master Bedroom จากทางประตูเข้าหลักของห้องทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ ภายในห้อง Master Bedroom มีพื้นที่กว้างขวางที่สุด สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมเหลือพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ข้าง ปลายเตียงมีพื้นที่สามารถ Built In ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งไปจนถึงโซน walk in closet ได้ ใครที่มีเสื้อผ้า เครื่องประดับเยอะๆ ตรงนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ ด้านข้างเตียงมีระเบียงส่วนตัวออกไปทางหน้าบ้าน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำเช่นเดียวกันกับระเบียงชั้น 2 สำหรับทาวน์โฮมโครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล นอกจากจะอยู่ในทำเลที่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนมาก ไม่ต้องฝ่ารถติดเพื่อไปขึ้นทางด่วน แต่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัวที่ส่งผลให้เดินทางสะดวก เชื่อมต่อเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองได้อย่างรวดเร็วแล้วยังได้พื้นที่สำหรับคนในครอบครัวทั้งในส่วนที่เป็น Common Area และพื้นที่ในห้องส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศรอบๆ ของย่านนี้ที่มีความเงียบสงบไม่วุ่นวายมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ก็มีแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้ตัวที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของถนนสุขาภิบาล 5 อีกด้วย   Pre Sale 10-11 มีนาคม 2561 กับแคมเปญสุดร้อนแรง “ซื้อบ้านไม่มีดอกเบี้ยนาน 2 ปี” ผ่อนพิเศษ 9,999 บาท และลงทะเบียนรับเพิ่ม 50,000 บาท >>> http://www.apthai.com