Tag : ทาวน์โฮม 3 ชั้น

13 ผลลัพธ์
เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว–นวมินทร์  เปิดจองครั้งแรกในงาน VVIP รับส่วนลดสูงสุด 450,000 บาท

เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว–นวมินทร์ เปิดจองครั้งแรกในงาน VVIP รับส่วนลดสูงสุด 450,000 บาท

เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว–นวมินทร์ ทาวน์โฮมความสุขไซส์ XL ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง เปิดจองครั้งแรกในงาน VVIP Day 23 กุมภาพันธ์นี้ รับส่วนลดสูงสุด 450,000 บาท   โครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว – นวมินทร์ โครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น ภายใต้แนวคิด “XL สเปซ XL ความสุข” พัฒนาโดย บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ฉีกทุกกฎของทาวน์โฮมแบบเดิมๆ ด้วยแนวคิดและการออกแบบ เพื่อให้เหมาะกับชีวิตคนเมือง และครบทุกฟังก์ชั่นของการอยู่อาศัย ด้วยถนนภายในโครงการกว้าง 12 เมตร พื้นที่ใช้สอยในบ้านเทียบเท่าบ้านเดี่ยวสูงสุด 220 ตารางเมตร การออกแบบห้องผู้สูงอายุชั้น 1 พร้อมหน้าต่างระบายอากาศกว้างพิเศษเพื่อรับแสงและลมประหยัดพลังงาน พร้อมคลับเฮ้าส์สระว่ายน้ำและสวนสาธารณะขนาดใหญ่   พบกับทาวน์โฮมที่ตอบโจทย์ “สเปซแห่งความสุข” ของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริงได้ที่ โครงการเดอะ วิชั่น ลาดพร้าว - นวมินทร์ บนพื้นที่ 33 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 85 ในราคาเริ่มต้นที่ 2.79 ล้านบาท ครบทุกฟังก์ชั่น เหมาะสำหรับลูกค้าที่มองหาบ้านหลังแรกหรือการขยับขยายครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น บนทำเลที่การเดินทางสะดวกสบาย ใกล้ทางด่วน รามอินทรา–อาจณรงค์และวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้ศูนย์การค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พบข้อเสนอพิเศษ ส่วนลดสูงสุดถึง 450,000 บาท ในงาน VVIP Day กับการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 – 24 กุมภาพันธ์ 2562 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02 029 9999 หรือ www.allinspire.co.th      
‘เอพี ไทยแลนด์’ จัดแคมเปญ “21 Destiny” เดินเกมรุกบุกตลาดแนวราบไตรมาส 4 เปิดจองทาวน์โฮมใหม่ 21 ทำเลพร้อมกัน พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษแรงเกินห้ามใจ

‘เอพี ไทยแลนด์’ จัดแคมเปญ “21 Destiny” เดินเกมรุกบุกตลาดแนวราบไตรมาส 4 เปิดจองทาวน์โฮมใหม่ 21 ทำเลพร้อมกัน พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษแรงเกินห้ามใจ

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง สานต่อความสำเร็จครั้งใหญ่จากยอดขายรวมแนวราบเครือเอพี โชว์ตัวเลขยอดขายแนวราบ 9 เดือน พุ่งแตะ 15,620 ล้านบาท โตกว่า 34%  ล่าสุด จัดแคมเปญใหญ่กระตุ้นตลาดทาวน์โฮมพร้อมอยู่ไตรมาส 4 อีกครั้ง ยกทัพทาวน์โฮมเครือเอพีแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง’ และ ‘พลีโน’ 21 โครงการใหม่ ชูไฮไลท์ ‘นวัตกรรมดีไซน์ และ สเปซฟังก์ชั่น’ การดีไซน์พื้นที่รองรับและตอบโจทย์การขยับขยายของครอบครัวเมืองในอนาคต เปิดจองครั้งแรกในราคาพรีเซล พิเศษส่วนลดสูงสุด 21 เท่า ราคาเริ่มต้น 1.99-9 ล้านบาท พร้อมจับมือพันธมิตรธุรกิจ ‘ธนาคารกสิกรไทย’ มอบข้อเสนอพิเศษทางการเงินที่ดีที่สุดแห่งปี-ดอกเบี้ยพิเศษ นาน 2 ปี และลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 100,000 บาท รวมทั้งสิทธิพิเศษอื่นๆ มากมาย สำหรับลูกค้าทาวน์โฮมเอพีที่จองซื้อในช่วงเวลาแคมเปญ 21 Destiny ระหว่างวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้เท่านั้น ณ เซลล์ แกลเลอรี่ ‘บ้านกลางเมือง’ และ ‘พลีโน่’ รวม 21 โครงการใจกลางเมืองทั่วกรุงเทพฯ นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจแนวราบ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจบปี ความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่พร้อมอยู่ของครอบครัวเมืองมีอยู่มาก โดยเฉพาะตลาดทาวน์โฮมระดับกลางบนถึงไฮเอนด์ ทำเลใจกลางเมืองเครือเอพีที่ยังคงได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการมุ่งสานต่อเป้าหมายในการรักษาความเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมระดับกลางบนในเมือง เอพีจึงยกระดับการรุกตลาดมากขึ้น โดยคิดค้นและนำเสนอสินค้าทาวน์โฮมที่แตกต่าง ทั้งในเรื่องของโมเดลบ้านและจำนวนโครงการที่ครอบคลุมในทุกทำเลใจกลางและรอบกรุงเทพฯ เพื่อให้ทาวน์โฮมในเครือเอพีภายใต้แบรนด์ 'บ้านกลางเมือง' และ 'พลีโน่' เป็นคำตอบที่ดีที่สุดในทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งในเรื่องของโลเคชั่น คุณภาพของทาวน์โฮม สังคม นวัตกรรมดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานของพื้นที่ รวมถึงการให้บริการหลังการขาย”   “สำหรับแคมเปญ 21 Destiny วางเป้าหมายสำหรับลูกค้าครอบครัวเมืองที่มองหาทาวน์โฮมใหม่พร้อมอยู่ ทั้งในทำเลใจกลางเมืองและรอบกรุงเทพฯ โดยเราได้รวบรวมทาวน์โฮมเครือเอพี 21 โครงการใหม่ แบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง-ไฮเอนด์ทาวน์โฮม 3 ชั้น’ (9 โครงการ) และ ‘พลีโน่-พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น’ (12 โครงการ) มาพร้อมคลับเฮ้าส์หรูบนที่สุดของทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อรถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่ และใกล้ทางด่วน ที่จะสามารถเติมเต็มรูปแบบชีวิตในฝันของคนเมือง นอกจากนี้ เอพียังคงเดินหน้าในการเป็นผู้นำตลาดที่ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาต่อยอดและนำเสนอความต่างในการพัฒนาทาวน์โฮมของเอพี กับทาวน์โฮมโมเดลใหม่ ทั้งในมิติของ ‘นวัตกรรมดีไซน์’ และ ‘สเปซฟังก์ชั่น’ ที่รองรับการขยับขยายของครอบครัวในอนาคต ให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องของพื้นที่ที่กว้างขวาง สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับการใช้งานตามความต้องการอย่างคุ้มค่า รวมถึงสังคมรอบข้างที่ดีที่สามารถเกิดขึ้นจากพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่พัฒนามาอย่างครบครันและสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยบ่มเพาะทักษะการเรียนรู้ และมนุษยสัมพันธ์ของสมาชิกตัวน้อยในครอบครัวได้เป็นอย่างดี” นายภมร กล่าวเสริม “นอกจากจะพัฒนาพื้นที่ให้รองรับกับความต้องการของครอบครัวขยาย ทาวน์โฮมแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง’ และ ‘พลีโน่’ ของเอพี ยังถูกพัฒนาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างในแต่ละโลเคชั่น เพราะเราเข้าใจถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน เราจึงตั้งใจพัฒนาสเปซฟังก์ชั่นให้ตรงกับความต้องการเพื่อให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วในทาวน์โฮมเครือเอพีสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างลงตัว และเข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคู่รักที่กำลังเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน ผู้ที่รักความสงบและความเป็นส่วนตัว และผู้ที่มองหาทำเลคุณภาพเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย และเพื่อความสำเร็จของธุรกิจในอนาคต” นายภมร กล่าวสรุป   พลาดไม่ได้กับแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “บ้านกลางเมือง-พลีโน่ 21 Destiny” เปิดจองทาวน์โฮมใหม่ 21 ทำเลพร้อมกัน ทั่วกรุงเทพฯ กับข้อเสนอพิเศษสุด คัดเฉพาะแปลงสวย พบราคาพรีเซล พร้อมส่วนลดสูงสุด 21 เท่า ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 100,000 บาท และดอกเบี้ยพิเศษ นาน 2 ปี จากธนาคารกสิกรไทย สำหรับผู้ที่ยื่นขอกู้สินเชื่อบ้านกสิกรไทยตั้งแต่วันนี้และจดจำนองภายใน 28 ธันวาคม 2561 เท่านั้น และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย เฉพาะลูกค้าที่จองซื้อในวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้ ณ เซลล์ แกลเลอรี่ ‘บ้านกลางเมือง’ และ ‘พลีโน่’ รวม 21 โครงการทั่วกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้น 1.99-9 ล้านบาท   โครงการที่เข้าร่วมแคมเปญ ’21 Destiny’ คัดสรรทาวน์โฮมบนสุดยอดทำเลที่ดีที่สุดทั่วกรุงเทพฯ จำนวน 21 โครงการ ประกอบด้วย บ้านกลางเมือง ไฮเอนด์ทาวน์โฮม 3 ชั้น รวม 9 ทำเลไฮไลท์ ได้แก่ 1) บ้านกลางเมือง วัชรพล 2) บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์ 3) บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ 4) บ้านกลางเมือง THE ERA ปิ่นเกล้า-จรัญฯ 5) บ้านกลางเมือง THE EDITION บางนา-วงแหวน 6) บ้านกลางเมือง THE EDITION บางนา-วงแหวน (Business District) 7) บ้านกลางเมือง THE EDITION พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา 8) บ้านกลางเมือง พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา และ 9) บ้านกลางเมือง THE EDITION พระราม 9-พัฒนาการ พลีโน่ พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น รวม 12 ทำเลไฮไลท์ ได้แก่ 1) พลีโน่ พหลโยธิน-วัชรพล 2 2) พลีโน่ รังสิตคลอง 4-วงแหวน 3) พลีโน่ รามอินทรา 4) พลีโน่  ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 2 5) พลีโน่ ชัยพฤกษ์ 6) พลีโน่ เวสต์เกต 7) พลีโน่ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ 8) พลีโน่ ปิ่นเกล้า-จรัญฯ 9) พลีโน่ บางนา-อ่อนนุช 10) พลีโน่ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา 11) พลีโน่ สุขสวัสดิ์ 70 และ 12) แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม3    “เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง”
The Nice Rangsit Klong 3 – เดอะ นีซ รังสิต คลอง 3 : รีวิวทาวน์โฮม

The Nice Rangsit Klong 3 – เดอะ นีซ รังสิต คลอง 3 : รีวิวทาวน์โฮม

รายละเอียดโครงการ ชื่อโครงการ : The Nice Rangsit Klong 3 (เดอะ นีซ รังสิต คลอง 3 ) เจ้าของโครงการ : บริษัท วี.เอส.เค เอสเตท จำกัด ที่ตั้งโครงการ : ถนนชลมาร์คพิจารณ์ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พื้นที่โครงการ : 27-0-14 ไร่ ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น ,โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น จำนวนยูนิต : 257 ยูนิต     ขนาดบ้าน : - ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัวแยกส่วน และที่จอดรถ 2 คัน - แบบบ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัวแยกส่วน และที่จอดรถ 2 คัน - โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง : - สระว่ายน้ำ - ฟิตเนส - สวนส่วนกลาง - กล้อง CCTV - ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคา : เริ่มต้น 1,990,000 บาท จุดเด่นโครงการ : The Nice รังสิต คลอง 3 ทาวน์โฮมหรูสไตล์ฝรั่งเศษ โซนรังสิต-ลำลูกกา-คลอง 3 ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก, ดอนเมืองโทลล์เวย์ และ รถไฟฟ้า 2 สาย ระบบขนส่งสาธารณะใกล้เคียง : ถนนกาญจนาภิเษก , ดอนเมืองโทลล์เวย์ , รถไฟฟ้าสายสีเขียว , รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานที่ใกล้เคียง : เซียร์ รังสิต , ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต , เมเจอร์รังสิต , โรงเรียนโชคชัย รังสิต , โรงเรียนแย้มสะอาด , โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย , โรงเรียนนานาชาติสยาม , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี , มหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต , มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเซีย , โรงพยาบาลปทุมเวช , โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต , โรงพยาบาลเปาโล รังสิต
บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ความเป็นส่วนตัวของครอบครัว : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 ความเป็นส่วนตัวของครอบครัว : รีวิวทาวน์โฮม

รีวิวฉบับนี้ เราอยากให้ทุกคนลองนึกถึงภาพครอบครัวเล็กๆ ของเรากันก่อนค่ะ เพราะเมื่อเราคิดถึงครอบครัวอันอบอุ่นแล้ว ภาพที่ตามมาก็ย่อมจะต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองสักหลังที่มีขนาดกำลังพอเหมาะพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มีสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่รอบตัว ซึ่งคำตอบของภาพที่เราเห็นนี้ก็เป็นทาวน์โฮมนี่แหละค่ะที่มีความลงตัวทั้งพื้นที่ ราคา รวมถึงทำเลที่เราจะพาไปชมกันกับหนึ่งในโครงการคุณภาพ “บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5”       ทำเล   ถ้าพูดถึง จ.นนทบุรี บางคนอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก แม้ว่าจะมีพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ อย่างแยกกันแทบไม่ออก แต่ทราบไหมคะว่า ย่านนี้เป็นอีกแหล่งของอร่อยขึ้นชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารข้างทางเจ้าเก่าสูตรดั้งเดิม ร้านคาเฟ่สวยๆ ไปจนถึงร้านอาหารบรรยากาศดีหลายแห่ง โดยเฉพาะท่าน้ำนนท์, ถนนนครอินทร์, ถนนราชพฤกษ์ ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นแหล่งสำนักงานทางราชการ รัฐวิสาหกิจหลายแห่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายไม่ต่างจาก จ.กรุงเทพฯ มากเท่าไรนัก ย่านนี้จึงเป็นอีกทำเลที่เรามักจะได้เห็นโครงการแนวราบมาจับจองพื้นที่พัฒนาโครงการดีๆ ให้เห็นกันอยู่พอสมควร ซึ่งตัวโครงการบ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 นี้อยู่ใกล้กับสะพานพระราม 5 หากใช้รถยนต์ส่วนตัวก็จะไม่ไกลจากทางพิเศษศรีรัช ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 15 นาทีก็จะถึงรัชดาภิเษก สามารถต่อไปยังสาทรได้ หากใช้รถสาธารณะก็สามารถเดินทางโดยข้ามสะพานพระราม 5 ไปแล้วผ่านสี่แยกติวานนท์ก็จะพบกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข และสามารถเลือกโดยสารทางเรือที่ท่าเรือบางศรีเมือง แล้วข้ามฝากไปท่าน้ำนนท์เพื่อต่อเรือด่วนเจ้าพระยาได้อย่างสะดวกสบาย     จุดเด่นของโครงการนี้อย่างหนึ่งคือ ตั้งอยู่ในซอยที่สามารถทะลุไปสู่ถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นจากถนนนครอินทร์ ถนนบางศรีเมือง ถนนบางกรวย-ไทรน้อย และถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนราชพฤกษ์ได้ แต่ทางเข้าหลักที่เราแนะนำ คือ หากข้ามสะพานพระราม 5 ฝั่งขาออกมาแล้วตามถนนนครอินทร์ ให้กลับรถใต้สะพานข้ามแยกบางสีทอง ขับต่อไปประมาณ 500 เมตร ให้เข้าทางคู่ขนาน เมื่อผ่านหน้า Makro นนทบุรี ให้เลี้ยวซ้ายตามแนวรั้วของ Makro ตรงเข้าไปประมาณ 700 เมตร เข้าสู่ซอยบางไผ่ 21 ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ     ภาพรวมโครงการ   บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5 เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ หน้ากว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน ตัวทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์ URBANIST เหมาะกับการใช้ชีวิตในแบบคนยุคปัจจุบันที่ต้องการทั้งความเป็นส่วนตัวไปพร้อมกับพื้นที่ Common Area เพื่อใช้ช่วงเวลาพักผ่อนกับครอบครัวไปด้วย โครงการมีทั้งหมด 271 ยูนิต บนพื้นที่ 22–2–10.73 ไร่ มาในคอนเซป “LIFE IN FULL BLOOM” ใช้ชีวิตบนความสมบูรณ์แบบ โอบล้อมด้วยบรรยากาศความร่มรื่นและความงดงามจากธรรมชาติ   เปิดห้องตัวอย่าง   วันนี้เราพามาเยี่ยมชมกันถึงตัวโครงการจริงเลยค่ะ ถ้าไม่คุ้นเคยเส้นทางก็แนะนำให้หาจาก Google Maps ว่าบางไผ่ซอย 21 ก็เดินทางมาได้ไม่ยากค่ะ ปัจจุบันทาวน์โฮมสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้วนะคะ ลูกบ้านที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนที่ย้ายมาจากคอนโดมิเนียมกลางเมือง เพราะต้องการขยับขยายพื้นที่มากขึ้นแล้วเลือกมาอยู่ทาวน์โฮม เพราะทำเลยังไม่ออกไปไกลตัวเมืองมากแบบบ้านเดี่ยว และยังคงได้ความเงียบสงบเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น เกิดเป็นสังคมคุณภาพในโครงการ “บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม 5” เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าโครงการกันเลยค่ะ Main Gate สีขาวขนาดใหญ่ สังเกตได้ง่าย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV รั้วด้านหน้าเป็นเหล็กโปร่งสีดำ ใช้ระบบเข้า-ออก แบบ EASY CARD คือเมื่อติดตั้งระบบที่รถก็สามารถขับเข้าไปได้เลยค่ะ รั้วจะเลื่อนเองด้วยระบบไฟฟ้า ภายในโครงการถนนหลักกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนตามซอยกว้าง 8 เมตร เมื่อผ่าน Main Gate เข้าไปในตัวโครงการแล้วทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สีเขียวตลอดแนวจนไปถึงส่วนกลางอื่นๆ มีฟุตบาทที่ปูด้วยหญ้าจริงสลับกับทางเดิน โดยจะถูกออกแบบตามเส้นสายของธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลาย เป็นสิ่งที่ทางโครงการตั้งใจให้กับลูกบ้านค่ะ ตรงกลางสวนมีส่วนที่ถูกจัดให้เป็นสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง มีทางเชื่อมต่อไปยัง Club House โดยเราจะสามารถสังเกตเห็นรั้วทึบรอบโครงการทางซ้ายมือของภาพซึ่งจะสูง 3 เมตร เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน Club House 2 ชั้นของโครงการเน้นโทนสีขาวสบายตา ชั้นล่างจัดพื้นที่โปร่งมีลมเข้าอยู่ตลอด ส่วนชั้นบนล้อมรอบด้วยกระจกสูงดูแล้วไม่อึดอัด มองภาพรวมแล้วสวยทีเดียวค่ะ ชั้นล่างของ Club House แห่งนี้จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ และระบบน้ำล้น ขนาด 6*15 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีสระเด็กแยกอยู่ข้างๆ กันด้วยนะคะ โดยสระเด็กจะมีความลึก 0.5 เมตร อยู่ใกล้กับเก้าอี้พักผ่อนที่อยู่บริเวณน้ำตื้นริมสระ ตรงนี้ผู้ปกครองสามารถดูแลบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิดด้วยค่ะ มีพื้นที่ล้างตัวแยกเป็นฝั่งเด็กกับฝั่งผู้ใหญ่อยู่ใกล้กับห้องน้ำแยกชาย-หญิง ด้านขวามือของภาพค่ะ ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดมีราวจับแบบกระจกนิรภัย ดูกลมกลืนกับการออกแบบโทนสีขาวดีค่ะ ที่ชั้น 2 จะมีฟิตเนสค่ะ เปิดให้ใช้บริการทุกวันตั้งแต่ 8.00-20.00 น. ฟิตเนสจะถูกล้อมรอบไปด้วยกระจกสูงสลับกับหน้าต่างเป็นบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศออกไปได้ ภายในฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังกายอยู่พอสมควร มีโฟซาสำหรับนั่งพักผ่อนอยู่ภายในฟิตเนสด้วยค่ะ ภาพมุมสูงจากฟิตเนสค่ะ พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดนี้รวมแล้วประมาณ 1 ไร่ พาดูส่วนกลางกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าไปชมบ้านตัวอย่างกันบ้างค่ะ โดยทาวน์โฮมจริงจะมีรั้วหน้าบ้านเป็นเหล็กโปร่งสีดำสูง กำแพงด้านข้างกั้นแต่ละหลังเป็นแบบทึบสีเทาสูง 1.5 เมตร แต่สำหรับทาวน์โฮมตัวอย่างนี้จะไม่ได้กั้นมาให้เห็นค่ะ และทาวน์โฮมที่จะได้เป็นบ้านเปล่านะคะ ซึ่งบ้านตัวอย่างนี้จะถูกตกแต่งขึ้นมาเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นค่ะ ก่อนจะเข้าไปดูในตัวทาวน์โฮมเรามาดูกันที่พื้นที่ด้านข้างกันก่อนค่ะ โดยพื้นที่ด้านข้างแบบนี้จะได้เฉพาะแปลงมุมนะคะ เราสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้จัดสวนได้เพิ่มมากขึ้น พื้นที่ด้านข้างนี้จะเชื่อมกับพื้นที่หลังบ้านค่ะ มีประตูกระจกที่สามารถเดินออกจากทาวน์โฮมมาที่สวนด้านข้างนี้ได้เลย ด้านหน้าทาวน์โฮมทุกหลังทางโครงการจะติดตั้งกันสาดมาให้ด้วยนะคะ ซึ่งเป็นผ้าใบสีน้ำตาล สามารถพับเก็บได้ หน้าบ้านมีเฉลียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สำหรับวางชั้นวางรองเท้าและเก็บร่มค่ะ ประตูใช้เป็นกระจกบานเลื่อน ซึ่งทั้งประตูและหน้าต่างที่เป็นกระจกจะใช้กระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียมสีดำทั้งหมดค่ะ ประตูด้านหน้าใช้ระบบล็อคแบบลูกกุญแจปกติค่ะ ด้านในมีตัวจับแน่นหนาพอสมควร ระบบล็อคแบบ Double Lock ที่มีทั้งลูกกุญแจกับก้นหอยแบบนี้ค่ะ ซึ่งระบบล็อคแบบก้นหอยนี้จะใช้กับประตูและหน้าต่างบานกระจกทุกบานในบ้านค่ะ เปิดประตูบ้านเข้ามาก็จะพบกับห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรกค่ะ ภายในใช้ไฟ Downlight ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.6 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60*60 พื้นที่ส่วนแรกของบ้านนี้เราสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางได้ มีพื้นที่เหลือสบายๆ ค่ะ ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวี อยู่ระหว่างบันไดกับห้องน้ำ ต่อจากห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ห้องครัวค่ะ ห้องครัวถูกจัดให้อยู่ด้านในสุด มีพื้นที่สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวแบบ L Shape พร้อมตู้เย็นได้ และมีห้องน้ำอยู่ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น เข้าไปดูที่ห้องน้ำแรกของบ้านกันค่ะ ใช้ประตูบานเลื่อน และด้วยความที่เป็นห้องน้ำสำหรับรับแขกจึงไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ ส่วนพื้นกับผนังบางส่วนปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ห้องน้ำทุกห้องใช้สุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard ค่ะ ด้านข้างเหนือโถสุขภัณฑ์จะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง สำหรับเพิ่มแสงสว่างและช่วยระบายอากาศค่ะ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อมกระจกค่ะ ถัดจากโซฟาจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง หากเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมแบบนี้จะได้ประตูกระจกบานเลื่อนข้างโต๊ะทานอาหาร เพื่อออกไปยังพื้นที่สวนข้างบ้าน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มแสงสว่าง และรับลมจากภายนอกได้มากขึ้นด้วยค่ะ พื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ครัวมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ซึ่งจุดนี้เหมาะสำหรับการวางซิงค์ล้างจานตามแบบบ้านตัวอย่างเลยค่ะ เพราะตรงนี้เสี่ยงที่จะเกิดเชื้อราได้ง่าย หากได้หน้าต่างจะช่วยระบายความอับชื้นที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนออกไปทางหลังบ้านค่ะ หลังบ้านมีบริเวณเหลือสำหรับเป็นลานซักล้างค่ะ หรือจะทำเป็นที่นั่งพักผ่อนรับลมนอกบ้านแบบที่บ้านตัวอย่างนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน ถัดจากประตูหลังบ้านก็จะพบกับพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า จุดนี้ทางโครงการได้ต่อท่อน้ำพร้อมรูปลั๊กไฟเอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ กลับเข้ามาเดินชมในตัวบ้านกันต่อค่ะ ขึ้นไปชมชั้น 2 กันค่ะ บันไดอยู่ข้างเคาน์เตอร์ทีวี ถัดจากประตูหน้าบ้านเลยค่ะ บันไดใช้แบบโครงเหล็ก ราวจับเหล็กโปร่งสีขาว ตรงที่พักบันไดมีหน้าต่างทรงสูงเพิ่มแสงสว่างได้ดี เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นปูด้วยลามิเนต โดยเราจะเริ่มจากห้องทางขวามือกันก่อนค่ะ ห้องนอนแรกของบ้านอยู่ทางฝั่งหลังบ้านค่ะ ห้องนี้ถูกตกแต่งให้เตียงขนาด 3.5 ฟุต อยู่ชิดกับกำแพง แล้วมีพื้นที่เหลือกลางห้อง แต่เราสามารถวางเตียงได้ 5-6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะทำงานได้อีกสบายๆ เลยค่ะ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ให้แสงสว่างเข้ามาได้อย่างเพียงพอ อีกด้านหนึ่งของห้องมีช่องที่สามารถ Build In ตู้เสื้อผ้าได้พอดี ต่อมาเป็นห้องน้ำของชั้น 2 ซึ่งจะอยู่ตรงกลางของชั้นค่ะ ความสูงภายในห้องน้ำ 2.4 เมตร พื้นกับผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง มีปูนก่อออกมาเล็กน้อยเพื่อทำเป็นชั้นวางของ เหนือโถสุขภัณฑ์มีหน้างต่างบานกระทุ้งเพื่อเพิ่มแสงสว่างและระบายอากาศค่ะ แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบธรณีประตูขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำล้นออกไปส่วนพื้นแห้ง ห้องนอนที่ 2 อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องนอนทางด้านหลังบ้านขึ้นมาอีกนิด สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้ววางโต๊ะหัวเตียงของทั้งสองข้างของเตียงได้ ปลายเตียงเหลือพื้นที่สำหรับ Build In ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ข้างเตียงมีระเบียงออกไปทางหน้าบ้าน ระหว่างห้องนอนกับระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ และ Condensing Unit วางเอาไว้ตรงมุมระเบียงหันออกนอกตัวบ้าน ขึ้นมาดูกันที่ชั้น 3 ค่ะ ชั้นนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากท่ี่สุด เพราะมีเพียง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์ เริ่มจากทางขวามือจากบันไดค่ะ ตรงนี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แล้วแต่จะดีไซน์ออกมาเป็นพื้นที่ใช้สอยอะไรก็ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน บ้านตัวอย่างจะตกแต่งพื้นที่ตรงนี้ให้เป็น Walk-In Closet หรืออาจจะตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่นส่วนตัวก็ได้ค่ะ พื้นที่อเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงหลังบ้านค่ะ โดยจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นเคย ระเบียงหันออกไปทางหลังบ้านค่ะ มีพื้นที่พอที่จะสามารถวางเก้าอี้พร้อมโต๊ะขนาดเล็กได้ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำแบบเดียวกันกับระเบียงทางหน้าบ้าน จากพื้นที่อเนกประสงค์เดินต่อตรงโถงทางเดินเพื่อเชื่อมต่อกับห้องน้ำ และ Master Bedroom ขวามือของโถ่งทางเดินเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำของชั้น 3 จะเห็นได้ว่ามีหน้าตาที่คล้ายกันกับห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ เพียงแค่ช่องระบายอากาศจะอยู่เหนือโซนอาบน้ำ และอ่างล้างหน้าจะมีช่องเก็บของเอาไว้ข้างใต้ด้วย จากภาพนี้จะเห็นได้ชัดขึ้นค่ะว่าห้องน้ำชั้น 3 จะเป็นประตูแบบ Double Access เชื่อมระหว่างโถงทางเดินกับ Master Bedroom สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom ค่ะ มีขนาดใหญ่พอๆ กันกับห้องนอนชั้น 2 ภายในห้องสามารถวางเตียงได้ 5-6 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่ใช้สอยกลางห้อง ปลายเตียงสามารถ Build In ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ หรือจะจัดให้เป็น Walk-In Closet ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ ระเบียงชั้น 3 มีขนาดเท่ากันกับระเบียงชั้น 2 ค่ะ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ Condensing Unit วางเอาไว้ตรงมุมระเบียงหันออกนอกตัวบ้าน   17-18 พ.ย.นี้! “SPECIAL ONE PRICE!” พบแปลงสวยราคาพิเศษ ราคาปรกติ 3.79* ล้าน พิเศษ 3.59 ล้าน*! ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอนฯ* (จำนวนจำกัด) 2 วันเท่านั้น! พิเศษยิ่งขึ้น #MillionAttack ลุ้นรับทองคำมูลค่าสูงสุด 1,000,000 บาท* พร้อมรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 2 ล้านบาท*   บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-พระราม5 ทาวน์โฮมใหญ่ 3 ชั้น พร้อมคลับเฮ้าส์หรู และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วนศรีรัช และรถไฟฟ้า เชื่อมต่อจตุจักร-บางซื่อเพียง 10 นาที* ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท* คลิก ➤ https://goo.gl/cyhKfH      
Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 ทาวน์โฮมที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว : รีวิวทาวน์โฮม

ทาวน์โฮมดีไซน์สไตล์โมเดิร์นโดดเด่น ทำเลดีเดินทางง่าย สิ่งเหล่านี้เราจะไม่นึกถึงเนอวานาคงไม่ได้ค่ะ รีวิวฉบับนี้เราจะพาไปชมโครงการเนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม 9 ทาวน์โฮมสวยๆ ที่อยากจะให้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง บนทำเลที่น่าสนใจบนถนนตัดใหม่ล่าสุดในกรุงเทพฯ อย่างถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า ซึ่งในอนาคตหลายคนคาดการณ์กันว่าถนนเส้นนี้จะพัฒนากลายเป็นศูนย์กลางสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งหนึ่งตามแบบถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา       ทำเล ถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า เป็นถนนตัดใหม่ที่เพิ่งเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปีนี้ เพราะเหลือเพียงช่วงที่เป็นทางยกระดับข้ามถนนกาญจนาภิเษกที่ยังเร่งก่อสร้างกันอยู่ โดยถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้าเป็นถนนที่มีความยาวทั้งหมด 12 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างถนนศรีนครินทร์บริเวณแยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมาก ตรงข้ามถนนกาญจนาภิเษกแล้วไปสิ้นสุดที่ถนนเจ้าคุณทหาร ซึ่งถนนสายนี้เกิดขึ้นมาด้วยความคาดหวังในการลดความหนาแน่นของการจราจรในย่านนี้ลงได้ด้วยความกว้างของถนนถึง 8-10 เลน และยังเป็นที่คาดการณ์กันด้วยว่าในอนาคตถนนเส้นนี้จะพัฒนาเทียบเท่าถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราในปัจจุบัน   ย่านนี้ใกล้กับทางด่วนสายสำคัญหลายสายทำให้เชื่อมต่อการเดินทางไปได้ทั่วกรุงเทพฯ และยังออกต่างจังหวัดได้อย่างง่ายดาย โดยหากเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 ก็สามารถเดินทางได้ง่ายที่สุดด้วยถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกแล้วกลับรถลงมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้าก็สามารถขึ้นทางด่วนศรีรัชได้เลย ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้นก็จะถึง New CBD อย่างพระราม 9 อีกทั้งยังใช้เวลาประมาณ 20 นาทีถึงสนามบินสุวรรณภูมิ      ช่วงแยกกรุงเทพกรีฑา - หัวหมาก ในอนาคตกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา ผ่านตรงบริเวณสี่แยกพอดี ซึ่งสายสีเหลืองนี้มีความสำคัญต่อโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ เพราะจากต้นสายที่เป็น Interchange กับ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว ตรงยาวบนถนนลาดพร้าว ผ่านเดอะมอลล์บางกะปิ เลี้ยวขวาเข้าสี่แยกลำสาลี ซึ่งในอนาคตก็จะเป็นจุด Interchange กับสายสีส้ม สถานีลำสาลี แล้วตรงเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ผ่านอีกจุด Interchange กับแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีหัวหมาก จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกศรีเทพา ปลายสายเป็น Interchange กับ BTS สายสีเขียว สถานีสำโรงในปัจจุบัน โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ได้เริ่มการก่อสร้างได้ระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2563            นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ไม่ไกล โดยส่วนใหญ่จะอยู่แนวถนนศรีนครินทร์ และถนนรามคำแหง เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก, ราชมังคลากีฬาสถาน, โรงพยาบาลรามคำแหง, เดอะพาสิโอ้ทาวน์ รามคำแหง, ซีคอนสแควร์, ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์, พาราไดซ์พาร์ค หรือจะใช้ถนนกาญจนาภิเษกตรงสู่เมกาบางนาก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที       ภาพรวมโครงการ Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9 เป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีแบบให้เลือกทั้งหมด 4 Type พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 190-350 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.5 เมตร เท่ากันทุกยูนิต มี Facility จัดโซนไว้ให้ทั้งสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก โซนบาร์บีคิว คลับเฮ้าส์สำหรับพักผ่อน ครบครันด้วยสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศความร่มรื่นจากสวนสีเขียวกลางโครงการ โดยทั้งโครงการจะแบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน แต่ความร้อนแรงของโครงการนี้ ทำให้ Sold Out ตั้งแต่วันเปิด Exclusive Sales ในส่วนของเฟสแรก สิ่งนี้เป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพของเนอวานาที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี   ดีไซน์สไตล์โมเดิร์นอันเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างด้วยฟังก์ชั่น Double volume space เชื่อมพื้นที่ให้ความโปร่งสบาย จัดโซน Common Area อย่างเป็นสัดส่วน ห้องนอนกว้างขวางมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง เพิ่มช่องเปิดรับแสงแดดและลมธรรมชาติให้มากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ภายนอกดีไซน์สวยงาม แต่ยังตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยจริงได้ดีที่สุดตามแบบฉบับเนอวานา             Unit Plan Type A พื้นที่ใช้สอย 350 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 31.3 – 63 ตารางวา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน Type B  พื้นที่ใช้สอย 258 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 30-34 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน Type C  พื้นที่ใช้สอย 230 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 21.1-43.7 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Type D   พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 20.8-23.7 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ   เดินชมโครงการ เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม 9 โครงการตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ทั้ง Main Gate และดีไซน์ของตัวโครงการเองแล้วทำให้สังเกตได้ง่ายมากค่ะ  ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตรค่ะ เมื่อผ่าน Main Gate มาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ โดยจะเป็นมีลานกว้างๆ สำหรับเป็นลานอเนกประสงค์ มุมสนามเด็กเล่นจะปูด้วยหญ้าเทียมค่ะ มุมสำหรับสังสรรค์จัดปาร์ตี้บาร์บีคิว แม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางแต่ก็มีต้นไม้สูงล้อมรอบให้ความเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ มีเตาปิ้งย่างพร้อมซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย ถัดมาเป็นพื้นที่คลับเฮ้าส์ทั้งหมดค่ะ มีสระว่ายน้ำระบบเกลืออยู่ตรงกลาง ชั้นล่างจะมีห้องที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนอยู่ค่ะ มีมุมสำหรับล้างตัวและห้องน้ำส่วนกลาง ด้านในห้องกระจกชั้นล่าง ปัจจุบันนี้คือ Sale Gallery ค่ะ แต่ในอนาคตจะทำเป็นคลับเฮ้าส์สำหรับนั่งพักผ่อน ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันบ้างค่ะ ชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ค่ะ เป็นห้องที่ล้อมรอบด้วยกระจก High Ceiling ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งมาถึงตรงนี้เราเดินชมส่วนกลางของโครงการกันแล้วก็ถึงเวลาไปชมบ้านตัวอย่างกันค่ะ   เปิดทาวน์โฮมตัวอย่าง หน้าตาของทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นแบบเนอวานาค่ะ ซึ่งทางโครงการมีตัวอย่างให้ดู 2 หลัง Type C กับ Type D และจะสังเกตได้ว่าหลังคาแต่ละหลังจะไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นจะไม่สามารถเดินใต้ฝ้าได้ค่ะ ทาวน์โฮมตัวอย่างหลังแรก Type D เริ่มตั้งแต่รั้วกันก่อนเลยค่ะ เป็นเหล็กโปร่งสีดำแบบพับฝั่งละ 3 ตอน สูง 1.5 เมตร หน้าทาวน์โฮมแต่ละหลังจะติดตั้ง Mail Box หน้าตาแบบนี้เอาไว้ให้ค่ะ และด้านล่างมีช่องประตูเล็กๆ ซึ่งเป็นช่องสำหรับเก็บขยะจากด้านนอกได้เลย ทุกหลังจะได้หน้ากว้าง 6.5 เมตรเท่ากัน สามารถจอดรถได้ 2-3 คัน หลังรั้วหน้าบ้านจะเห็นว่ามีถังขยะพร้อมฝาปิดด้านบนให้เรียบร้อย เชื่อมต่อกับประตูสำหรับเก็บขยะด้านหน้า พร้อมก๊อกน้ำและปลั๊กไฟสำหรับเป็นพื้นที่ซักล้าง ถัดเข้ามาเราจะพบประตูบานสวิงสีขาวอยู่บริเวณพื้นที่จอดรถค่ะ ส่วนเพดานบริเวณจอดรถมีการติดตั้งไฟแบบ Downlight เอาไว้ให้ด้วย หน้าบ้านมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ซึ่งกระจกทุกบานของโครงการนี้จะใช้กระจก LOW - E ที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยให้บ้านของเราไม่ร้อนจนเกินไป โดยเวลาเปิดเครื่องปรับอากาศจะช่วยให้เย็นเร็วกว่าปกติ ประหยัดพลังงานได้อีกทางค่ะ ประตูหน้าบ้านใช้เป็นประตูไม้สักสวิงค่ะ ดีกว่าทาวน์โฮมทั่วไปที่ใช้ประตูกระจกบานเลื่อนธรรมดา เพราะจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า มีความทนทาน และดูแน่นหนาได้ความปลอดภัยมากกว่าค่ะ เปิดประตูเข้าไปดูในบ้านกันค่ะ พื้นที่แรกจะเป็นพื้นที่สำหรับห้องรับแขก ลึกเข้าไปเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร และห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนทางขวามือค่ะ พื้นชั้นแรกนี้จะปูด้วยแกรนิตโต้ ใช้ไฟแบบ Downlight โดยโครงการนี้เราจะได้บ้านเปล่านะคะ ซึ่งทางโครงการจะมีการติด wallpaper มีเครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง Master Bedroom  ติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบอินฟาเรด ที่สำคัญติดตั้ง Wifi ให้สำหรับทุกหลังได้ใช้กันฟรีๆ เลยค่ะ ลึกเข้าไปจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่ง แล้วแต่เราจะจัดการพื้นที่ได้เลยค่ะ เพราะด้วยพื้นที่ใช้สอยแล้วถือว่าได้มาเยอะกว่าทาวน์โฮมทั่วไป หลังบ้านกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมสีดำค่ะ ทั้งประตูกระจกและหน้าต่างทุกบานจะติดตั้งระบบล็อค TosTem คุณภาพสูงจากญี่ปุ่น   ตรงลานซักล้างมีกระจกบานเลื่อนตรงส่วนครัวสำหรับระบายอากาศด้วยค่ะ กลับเข้ามาดูในบ้านกันต่อค่ะ ถัดจากพื้นที่วางเคาน์เตอร์ทีวีแล้วก็จะเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนค่ะ ภายในห้องครัวจะมีพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ครัว L Shape ได้ค่ะ มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศและความชื้นไปทางหลังบ้าน โดยทั่วไปแล้วทาวน์โฮมจะได้มาเป็นครัวเปิดที่มีพื้นที่เดียวกันกับห้องนั่งเล่น ซึ่งหากบ้านไหนชอบทำครัวก็คงไม่เหมาะใช่ไหมคะ แต่สำหรับเนอวานา ดีฟายน์ ให้ห้องครัวปิดที่มีพื้นที่กว้างพอสมควรมาด้วยเลยค่ะ ภายในห้องครัวมีห้องน้ำมาให้ด้วยนะคะ ห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนลายเดียวกันทั้งหมดค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างแบบนี้จะไม่มีส่วนเปียกค่ะ เพราะเน้นสำหรับรับแขกเท่านั้น ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้แบรนด์ American Standard อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมีตู้สำหรับเก็บของไว้ด้านล่างด้วยค่ะ ได้กระจกเงาบานใหญ่แบบนี้มาด้วยค่ะ สำรวจชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นไปชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ โครงสร้างของบันไดใช้แบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เวลาเดินไม่เกิดเสียงดังแบบโครงสร้างที่ใช้เหล็กเพียงอย่างเดียวค่ะ โดยขั้นบันไดใช้ไม้เอ็นจิเนียร์ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องนอนเพียงห้องเดียวค่ะ สัญญาณกันขโมยระบบอินฟาเรด โครงการติดตั้งแบบนี้มาให้เหมือนกันทุกหลังค่ะ สไตล์ของเนอวานาอย่างหนึ่ง คือการเอา Master bedroom มาไว้ที่ชั้น 2 ของทาวน์โฮมค่ะ เพื่อผู้ใหญ่ของบ้านจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดมาก แต่จะเปลี่ยนให้ห้องนอนของเด็กๆ ขึ้นไปไว้ชั้นบนสุดแทน Master bedroom มีพื้นที่กว้างขวางมากพอให้วางเตียง king size ได้ และยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียง สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีก ปลายเตียงเป็นผนังว่าง สำหรับ Built in เคาน์เตอร์วางทีวี ด้านข้างของเตียงเป็นระเบียงทางฝั่งหน้าบ้าน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ระเบียงของห้อง Master bedroom ทางฝั่งหน้าบ้าน มีพื้นที่มากพอสำหรับวางโต๊ะ-เก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนรับลมด้านนอก ราวกันตกใช้กระจกนิรภัยใสรอบด้าน วิวจากระเบียงห้อง มองเห็นภาพรวมของส่วนกลางค่ะ กลับเข้ามาในห้อง ไปดูอีกฝั่งของห้องกันต่อค่ะ พื้นที่ข้างเตียงยังสามารถวางโต๊ะทำงาน หรือโซฟาเพิ่มเติมก็ได้นะคะ ส่วนห้องน้ำในตัวทางขวามือจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ภายในห้องน้ำปูพื้นเเละผนังทั้งหมดด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน และสุขภัณฑ์จาก American Standard อ่างล้างหน้าแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ช่วยป้องกันน้ำกระเด็กออกมาได้ส่วนหนึ่ง มาพร้อมกับพื้นที่บนเคาน์เตอร์สำหรับวางของได้อีกมาก มีอ่างอาบน้ำถัดจากอ่างล้างหน้า อีกฝั่งของห้องน้ำเป็นโถสุขภัณฑ์ และส่วนเปียก มีทั้งฝักบัว และ Rain shower ติดตั้งมาให้ ขวามือด้านบนมีหน้าต่าง สำหรับเพิ่มแสงสว่างจากภายนอก และยังช่วยระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำ ออกจากห้องน้ำจะมีพื้นที่ห้องเล็กอีก 1 ห้องซ่อนอยู่ค่ะ พื้นที่ของส่วนนี้ ทางโครงการจัดมาให้เป็น Walk In Closet เราสามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าได้ตลอดแนวผนัง หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้นะคะ ไปดูกันที่ชั้น 3 กันต่อค่ะ บริเวณโถงบันได มีกระจกทรงสูงเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับทางเดิน และมีตู้ไฟซ่อนมาให้ในผนังเรียบร้อยค่ะ ขึ้นมาที่ชั้น 3 ตรงโถงบันไดก็จะมีกระจกทรงสูงติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกันค่ะ ที่ชั้น 3 จะมีห้องนอนทั้งหมด 2 ห้อง เราเข้าไปดูกันที่ห้องตรงกลางกันก่อนค่ะ ห้องนอนที่ 2 ของบ้านอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ทางขวามือจะเป็นห้องน้ำในตัว ตามที่โครงการตกแต่งมาให้นั้นเป็นเตียง 5 ฟุต แต่ด้วยขนาดพื้นที่จริงเราสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้เลยค่ะ ด้านข้างเตียงมีระเบียงขนาดใหญ่ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่ตรงระเบียงมีราวกันตกที่ทำจากเหล็กโปร่งสีดำ ระเบียงของห้องนี้จะเป็นวิวทางด้านหน้าของตัวบ้านค่ะ อีกด้านของห้องเป็นห้องน้ำในตัว พื้นที่เเรกของห้องน้ำเป็นส่วนแห้ง ในบริเวณพื้นที่ส่วนแห้งจะมีอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง ถัดจากโถสุขภัณฑ์เป็นส่วนเปียก ด้านข้างฝักบัวมีการเจาะผนังลึกเข้าไปสำหรับวางของ ห้องนอนสุดท้าย ของทาวน์โฮม  Type D ค่ะ ห้องนอนนี้มีขนาดเท่าๆกัน กับห้องนอนที่ 2 ค่ะ ตามห้องตัวอย่างจะวางเตียง 5 ฟุตชิดผนัง แต่ด้วยพื้นที่จริงสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้ โดยยังมีพื้นที่ข้างหน้าต่างเหลืออยู่ค่ะ หรือจะเลือกวางเตียงเอาไว้ตรงกลางห้องแล้วมีพื้นที่ทางเดินเหลือรอบเตียงก็ได้ ปลายเตียงมีห้องน้ำในตัว ภายในห้องน้ำจะพบกับส่วนแห้งอยู่ทางด้านขวาก่อน อ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง กระจกบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ ทางโครงการจะให้มาทั้งหมดนี้เลยค่ะ เหนือโถสุขภัณฑ์เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งทรงสูงค่ะ หน้าต่างบานกระทุ้งก็ใช้ระบบล็อคจาก TosTem เช่นเดียวกันค่ะ ฝั่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์เป็นส่วนเปียกลึกเข้าไปค่ะ มาถึงทาวน์โฮมตัวอย่างหลังที่ 2 Type C ซึ่งเป็นหลังสุดท้ายของโครงการนี้กันค่ะ ด้วยความที่หลังตัวอย่างนี้เป็นแปลงมุมก็จะมีพื้นที่สวนข้างบ้านยาวไปจนถึงหลังบ้านเพิ่มขึ้นมาแบบนี้ค่ะ ลานซักล้างหน้าบ้าน ข้างพื้นที่จอดรถค่ะ หน้าบ้านทุกหลังจะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่แบบนี้ และประตูไม้สัก ก่อนเข้าบ้านก็จะมีห้องเก็บของไว้ให้เหมือนกันทุกหลังค่ะ เปิดประตูเข้าไปดูในบ้านกันเลยค่ะ ชั้น 1 ของ Type C นี้ จะถูกจัดให้เป็นพื้นที่โต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งเอาไว้กลางบ้าน โดยจะปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ ใช้ไฟแบบ Downlight ด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวางมากคล้ายกับบ้านเดี่ยว ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวได้ ทาวน์โฮมแปลงมุมจะได้หน้าต่างข้างบ้านเพิ่มขึ้น ทำให้ดูสว่างมากขึ้นค่ะ กั้นส่วนครัวปิดเอาไว้อีกฝั่ง มองขึ้นไปจะเห็นว่า Type C มีชั้นลอยที่สามารถมองทะลุเห็นกันได้ ทำให้เพดานดูสูงโปร่งขึ้นเยอะเลยค่ะ ห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องครัวทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ เป็นห้องครัวที่เหมาะสำหรับการอยู่กับครอบครัวจริงๆ ค่ะ เพราะเป็นครัวปิดแยกเป็นสัดส่วนแบบที่หาได้ยากในโครงการทาวน์โฮม จุดที่เป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน แนะนำให้วางซิงค์ล้างจานตามแบบโครงการค่ะ เพราะจะช่วยเรื่องระบายความอับชื้นได้ดี หันกลับมาดูที่ห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างจะมีแค่ส่วนแห้งค่ะ แต่จะมีโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ และอ่างล้างหน้ามาให้ครบ มีประตูกระจกออกไปทางหลังบ้านค่ะ และยังมีส่วนที่เป็นหน้าต่างกระจกด้านบนเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับส่วนชั้นลอยก็ยิ่งทำให้บ้านดูโปร่งสบายเข้าไปอีก   มุมสวนหลังบ้านที่ยาวเชื่อมต่อมาจากหน้าบ้านค่ะ ดูชั้นแรกกันเสร็จแล้วก็ขึ้นไปดูชั้นต่อไปกันเลยค่ะ โดยบันไดจะอยู่ทางซ้ายมือของประตูบ้าน โถงบันไดมีหน้าต่างกระจกทรงสูงทำให้ไม่ดูทึบจนเกินไป ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่จะถูกจัดให้เป็นเพียงชั้นลอยนะคะ ซึ่งพื้นชั้นบนจะถูกปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. พื้นที่ชั้นลอยกว้างขวางมากพอที่จะจัดให้เป็นห้องรับแขกตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ได้เลยค่ะ หากเราตกแต่งพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องนั่งเล่นก็จะสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้พร้อมโต๊ะกลาง ยังมีพื้นที่เหลือระหว่างเคาน์เตอร์วางทีวีได้สบายๆ แม้จะเป็นชั้นลอย แต่ก็มีระเบียงหน้าบ้านเอาไว้เปิดรับลมธรรมชาติได้แทนการเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ซึ่งจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ระเบียงติดตั้งราวกันตกด้วยกระจกนิรภัย และด้วยขนาดของระเบียงก็มากพอที่จะใช้งานได้จริง กลับเข้ามาดูอีกส่วนหนึ่งของชั้นลอยนี้ค่ะ โดยลึกเข้าไปด้านในสุดก็จะมีที่พักบันได ซึ่งมีพื้นที่พอสมควรเหมือนเป็นห้องเล็กๆ อีกห้องหนึ่งให้ได้ใช้เป็นประโยชน์ ตามบ้านตัวอย่างนี้จะถูกตกแต่งให้เป็นห้องทำงานเล็กๆ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเห็นวิวทางฝั่งหลังบ้าน ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ส่วนนี้ใช้งานได้จริง ที่ชั้นลอยนี้สามารถมองลงไปด้านล่างได้ ทำให้โซน Common Area ทั้งหมดนี้มีเพดานที่สูงโปร่ง ในสไลต์ Double volume space ที่ทางเนอวานาออกแบบมาเพื่อเอื้อต่อการอยู่อาศัยระยะยาว และสามารถรองรับสมาชิกใหม่ในอนาคตได้ จากชั้นโซน Double volume space ขึ้นไปดูอีกชั้นหนึ่งของบ้าน ซึ่งจะเป็นส่วน Private ชั้น 2 มีห้องนอนที่เป็น Master Bedroom อยู่ชั้นนี้เพียงห้องเดียวค่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็น Master Bedroom ก็จะมีพื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษกว่าห้องอื่น สามารถวางเตียงขนาด 6 ตามห้องตัวอย่างนี้ได้ ไปจนถึงวางเตียง king size ได้ แถมยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่นได้อีก ข้างเตียงมีประตูกระจกกั้นระหว่างห้องนอนกับระเบียงส่วนตัวค่ะ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำ วิวจากระเบียงฝั่งด้านหน้าโครงการทางทิศเหนือค่ะ พื้นที่แถวนี้ยังมีสิ่งปลูกสร้างขึ้นน้อยทำให้มีลมพัดผ่านได้ดีทีเดียวค่ะ กลับเข้ามาในห้องกันต่อค่ะ ยังมีพื้นที่ภายในห้องอีกฝั่งให้ชมกันอีก ถัดจากเตียงตรงนี้ยังมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน หรือจะวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งก็ยังได้นะคะ ห้องน้ำในตัวจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขอบอลูมิเนียมสีดำเข้าชุดแบบเดียวกันทั้งหลังค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเหมือนกันทุกห้องน้ำเลยค่ะ ห้องน้ำนี้จะถูกแบ่งส่วนแห้งอยู่ก่อนส่วนเปียกด้านในสุด เริ่มจากทางขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ และส่วนเปียกที่ติดตั้งมาทั้งฝักบัวและ Rain Shower มีการเจาะช่องผนังลึกเข้าไปเพื่อเป็นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ ซ้ายมือเป็นอ่างล้างหน้าแบบฝังใต้เคาน์เตอร์พร้อมกระจกเงา และอ่างอาบน้ำค่ะ ออกมาจากห้องน้ำไปดูพื้นที่ส่วนสุดท้ายของ Master Bedroom อยู่ถัดจากประตูห้องค่ะ ห้องนี้ถูกจัดให้เป็น Walk In Closet สำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะก็สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ทั้งห้องนี้เลยค่ะ หรือจะจัดเป็นห้องทำงานก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีหน้าต่างกระจกบานสไลด์ติดตั้งอยู่ทำให้ส่วนนี้ดูไม่มืดทึบจนเกินไป มองจากมุมนี้จะเห็นว่าเป็นห้องที่แม้จะเชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกันกับ Master Bedroom แต่มีการแบ่งโซนออกมาเป็นสัดส่วน ขึ้นไปดูที่ชั้นบนสุดของทาวน์โฮม Type C นี้กันค่ะ ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดจะมีมุมที่เป็นโถงบันไดอยู่ สามารถเพิ่ม Built in ตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ เพิ่มเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกค่ะ หันมาทางขวามือจะพบกับห้องนอนอีก 2 ห้อง เราเดินเข้าไปดูห้องตรงกลางกันก่อนค่ะ ห้องนอนที่ 2 นี้จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ ตามห้องตัวอย่างที่วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต พร้อมวางโต๊ะทำงานเอาไว้ด้วย แต่พื้นที่จริงตรงนี้สามารถวางเตียงได้ถึง 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ทางเดินได้รอบเตียงเลยค่ะ ปลายเตียงเราสามารถ Built in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ เคาน์เตอร์วางทีวี หรือหากจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตในห้องนี้ เราก็สามารถย้ายโต๊ะทำงานมาไว้พื้นที่ปลายเตียงนี้ก็ได้นะคะ มีห้องน้ำในตัวถัดจากพื้นที่ปลายเตียงค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค วางพื้นที่ส่วนแห้งก่อนพื้นที่ส่วนเปียกด้านใน เริ่มจากอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ และพื้นที่อาบน้ำค่ะ ส่วนเปียกมีการเจาะช่องผนังให้เป็นที่วางของได้ด้วยค่ะ ข้างเตียงมีระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน โดยประตูกระจกลักษณะนี้จะใช้สเปคเดียวกันทั้งโครงการเลยค่ะ คือเป็นกระจกแบบ LOW - E มีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนได้ดีกว่ากระจกเขียวตัดแสงทั่วไปค่ะ ระแนงไม้ตรงระเบียงที่เห็นนี้ไม่เพียงแต่จะให้ความสวยงามเท่านั้นนะคะ แต่ยังช่วยเรื่องการใช้งานจริงจากระเบียงได้ ทั้งการบังแดด เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการออกมาใช้งานที่ระเบียงชมวิวได้กว้างขึ้น วิวจากระเบียงห้องฝั่งหน้าโครงการค่ะ จะเห็นได้ชัดขึ้นว่ารอบๆ โครงการยังเป็นพื้นที่โล่งอยู่ ออกจากห้องนอนที่ 2 เข้าไปดูกันที่ห้องสุดท้ายทางซ้ายมือฝั่งหลังบ้านกันค่ะ ห้องนอนที่ 3 ค่ะ เป็นห้องสุดท้ายแล้วที่เราจะพามาชมในรีวิวฉบับนี้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัวค่ะ ส่วนห้องนอนที่นอกเหนือจาก Master Bedroom ก็มีพื้นที่กว้างขวางเท่าๆ กัน สามารถวางเตียงใหญ่ได้พร้อมกับโต๊ะทำงานของตัวเอง ไม่เล็กจนดูอึดอัดค่ะ ห้องนอนที่ 3 ของ Type C นี้ จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้านค่ะ พื้นที่ปลายเตียงเหมาะสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ตลอดแนวผนัง เพราะมีหน้าต่างอยู่ด้านข้างถึง 2 ด้านให้แสงสว่างเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยยังเหลือพื้นที่ทางเดินอยู่ทั้งสองฝั่ง แต่ถ้าชอบเตียงใหญ่ๆ ขนาด 6 ฟุต ก็สามารถวางชิดกำแพงได้เลยค่ะ ส่วนห้องน้ำในตัวของห้องนี้จะถัดจากพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งเอาไว้ด้านในสุดค่ะ ส่วนเปียกจะอยู่ทางซ้ายมือเลย และแม้จะเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอนปกติก็ยังได้พื้นที่ขนาดกำลังพอดี เหนือพื้นที่ส่วนเปียกจะถูกออกแบบมาให้มีหน้าต่างสำหรับเพิ่มแสงสว่างและระบายความอับชื้นอยู่เสมอค่ะ   มาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อเหลือเกินค่ะว่าคงไม่มีใครสงสัยว่าทำไมเฟสแรกของโครงการนี้ถึงได้ Sold Out ไปตั้งแต่วันแรกที่ Exclusive Sales ทั้งทำเล พื้นที่ใช้สอย สเปคที่ได้ ไปจนถึงการดีไซน์ดีเทลต่างๆ เพื่อผู้อยู่อาศัยจริงได้ความสะดวกสบายที่สุดสมกับคำว่า “ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว”   เตรียมพบกับงาน Pre-SALE วันเดียว 23 มิ.ย. 2561นี้ พร้อมรับสิทธิ์พิเศษเฉพาะในงานเท่านั้น!!  
PLENO พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ระดับ Professional ผู้นำแห่งการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบกว่า 10 ปี [Advertorial] : รีวิวทาวน์โฮม

PLENO พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ระดับ Professional ผู้นำแห่งการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบกว่า 10 ปี [Advertorial] : รีวิวทาวน์โฮม

พักหลังๆ มานี้ตลาดซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์บ้านเรามีประเภทที่อยู่อาศัยให้ผู้บริโภคได้เลือกกันหลากหลาย ซึ่งหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ “ทาวน์โฮม” เพราะจับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางแถมยังมีราคาให้เลือกหลายระดับ ดังนั้นจึงจะเห็นว่าผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากมายต่างเปิดตัวโครงการทาวน์โฮมในหลายทำเล  เพื่อตอบโจทย์และดึงดูดความสนใจผู้บริโภคให้มากที่สุด ซึ่งเมื่อพูดถึงทาวน์โฮมคุณภาพในสังคมมีระดับขึ้นมาในนาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น เจ้าตลาดทาวน์โฮมอันดับหนึ่งของไทย จากผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมืองยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาทุกโครงการให้ออกมาตอบโจทย์ตรงใจผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พรีเมียมทาวน์โฮม “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ครองใจผู้อยู่อาศัยมากกว่า 30 โครงการ 30,000 ครอบครัวในระยะเวลายาวนานกว่า 10 ปี   และในปี 2018 นี้ แบรนด์แนวราบอย่าง “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น รูปแบบใหม่ 2018 ก็ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของความเป็น Professional จากการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างมาตรฐานใหม่ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ทางแบรนด์ก็ได้สร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งจนเหนือกว่าคู่แข่งทั้งหมดในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดที่ต้องการให้ “บ้านเป็นได้มากกว่าแค่การอยู่อาศัย” โดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของทุกคนในบ้านเสมอ กล่าวคือเป็นบ้านที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานได้จริงของทุกคนในทุก Generation ยึดหลักการออกแบบ universal design คำนึงถึงการใช้งานของทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ กลุ่มคนวัยรุ่น ก็ต่างอยู่ด้วยกันได้อย่างไม่ขัดเขิน แถมยังใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การหาทำเลที่ตั้งของโครงการที่ผสานทุกไลฟ์สไตล์ให้หลากหลายบนทำเลครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ เชื่อมต่อทุกการเดินทางให้เป็นเรื่องง่ายและสะดวก ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน และถนนใหญ่ แวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายรอบโครงการ อาทิ วัดวาอาราม, สถานศึกษา, สถานพยาบาลชั้นนำ, ร้านอาหาร และแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่อยู่ในรัศมีใกล้กับโครงการ   ทั้งนี้ทางแบรนด์ก็ยังคงใส่ใจในเรื่องการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง สำหรับการวางผังของโครงการก็ยังคำนึกถึงหลักภูมิศาสตร์ทางแสงแดดและลม รวมถึงแปลนบ้านที่พัฒนาให้สอดรับกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ ดูโดดเด่นแบบ UNIQUE DESIGN แตกต่างทั้งด้านพื้นที่ใช้สอย และดีไซน์ที่โดดเด่นสวยงามไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังหยิบเอาเสน่ห์และเอกลักษณ์ท้องถิ่นมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบส่วนต่างๆ ผสมผสานกับนวัตกรรมการออกแบบที่ล้ำสมัย เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าโครงการที่ดูโออ่าใหญ่โตและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวบ่งบอกถึงความพรีเมียมของโครงการ นอกจากนี้พื้นที่บริเวณคลับเฮาส์ยังจัดเต็มแบบสุดขีด โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตั้งแต่สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, พื้นที่รับแขก และสวน โดยออกแบบให้เกิดเป็นมิติไม่เหมือนใคร สนามหญ้าก็ไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่พักผ่อน เดินเล่นเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นพื้นที่กิจกรรมเชื่อมต่อทุกชีวิตของครอบครัวให้เป็นหนึ่งเดียว นอกเหนือจากนั้นก็หมดห่วงไร้กังวลด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั่วทั้งโครงการอย่างเป็นมิตรกับลูกบ้าน และนี่คือข้อพิสูจน์ที่ทำให้เห็นแล้วว่า “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ครองใจลูกบ้านและมัดใจผู้ซื้อมายาวนานกว่า 10 ปีได้อย่างไร   10 ความพรีเมียมที่ PLENO (พลีโน่) พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น มอบให้ลูกบ้านมาตลอด 10 ปี และเพื่อเป็นการเน้นย้ำจุดแข็งของผู้เชี่ยวชาญ Professional ในด้าน SPACE SPECIALIST ทั้งในด้านหลักการ “คิด” และ “สร้าง” ที่อยู่อาศัย ดังนั้นเรามาดูกันว่า 10 ความพรีเมี่ยมที่แบรนด์ “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น มอบให้กับลูกบ้านในสังคมคุณภาพที่สามารถสัมผัสได้ตั้งแต่ทำเล จุดทางเข้าออกของโครงการจนไปถึงรายละเอียดของพื้นที่ภายในบ้าน จนขึ้นแท่นก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดอทาวน์โฮมอย่างแท้จริงนั้นมีอะไรบ้าง..   1. Premium Location EASY-ACCESSING ทำเลถูกผสมผสานไปกับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายบนทำเลที่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ เชื่อมต่อทุกเดินทาง ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน และถนนใหญ่   2. Premium Facility IMMAGINATION MAXIMIZE ให้ทุกกิจกรรมเป็นไปได้สำหรับคนทุกวัย บนส่วนกลางขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำสำหรับลูกน้อย ฟิตเนสสำหรับคุณพ่อคุณแม่ และสวนสีเขียวเต็มพื้นที่ที่กลายเปนปอดแห่งใหม่ใจกลางเมือง   3. Premium Security SAFE & SOUND อบอุ่นและมั่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ที่ Pleno มุ่งมั่นให้ความใส่ใจมาเสมอ   4. Premium Innovation INNOVATION IS A MUST แบบแปลนบ้านที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งมีการคิด พัฒนา เรื่องดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สอดรับกับความต้องการของคนรุ่นใหม่อยู่อย่างเสมอ เช่น เพดานโปร่ง สูงกว่า 3 เมตร, Double Garden การนำพื้นที่สีเขียวเข้ามาอยู่ในบ้าน รวมไปถึงการวางแผนผังโครงการที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ ทิศทางลมและแสงแดด   5. Premium Living PROUD & GOOD SOCIETY เพราะสภาพสังคมที่ดีถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง สภาพแวดล้อมและสังคมเพื่อนบ้านที่ดีคือสิ่งหนึ่งที่ทาง “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ได้หล่อหลอมให้ลูกบ้านทุกคนไม่เพียงแต่มีความสุขในการใช้ชิวิตภายในครอบครัวแล้ว การได้รู้จักแบ่งปันความสุขและคำนึงถึงเพื่อนบ้านเป็นสำคัญ คือสิ่งที่ทำให้สังคมคุณภาพของพลีโน่นั้นได้รับการยอมรับ สัมผัส และพิสูจน์ได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เข้าอยู่ ทุกๆ วันของการใช้ชีวิต และต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่นไม่รู้จบ   6. Premium Technology SMART LIVING คิดค้นและเติมเต็มอยู่เสมอ ในปี 2018 นอกจากทาง “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น จะพัฒนาตัวบ้านเพื่อสอดรับกับคนรุ่นใหม่อยู่ตลอด ยังพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัยด้วย Digital Series & Smart Function เพื่อให้ทุกตารางนิ้วของบ้านนั้นเกิดประโยชน์และอำนวยความสะดวกสูงสุด กลายเป็นทาวน์โฮมนวัตกรรมใหม่ ล้ำสมัยตอบโจทย์คนปัจจุบัน   7. Premium Design   UNIQUE DESIGN งานออกแบบและศิลปะเป็นสิ่งที่ทาง “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น เลือกนำเสนอให้กับลูกบ้านอยู่เสมอ การหยิบเอาเสน่ห์และเอกลักษณ์ท้องถิ่นมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบส่วนต่างๆ ของโครงการก็เช่นกัน เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าโออ่า คลับเฮ้าส์ดีไซน์เท่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังยึดหลักการออกแบบ universal design คำนึงถึงการใช้งานของทุกเพศ ทุกวัย โดดเด่นด้วยการออกแบบให้ใช้งานได้จริง โดยได้คำนึงถึงคนในทุก Generation ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ กลุ่มคนวัยรุ่น   8. Premium Material พิถีพิถันในทุกรายละเอียดที่สัมผัสได้ วัสดุที่ใช้ผนวกเข้ากับงานดีไซน์ที่ทำให้ “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น มีความสวยงามทั้งภายใน และภายนอก   9. Premium Park สวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติเต็มพื้นที่ กลายเป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางเมือง   10. Premium Space แบบบ้านที่หลากหลายไม่เคยหยุดพัฒนา กว่า 50 แบบบ้านที่ส่งมอบความสุขในการอยู่อาศัยให้กับลูกบ้านกว่า 30,000 กว่าครอบครัว ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่มุ่งมอบความสบายของการอยู่อาศัยให้กับลูกบ้านทุกครัวเรือน   สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ทาวน์โฮมแบรนด์ “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ทุกโมเดลได้รับการตอบรับที่ดี จากความใส่ใจ และจริงจังในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยครอบคลุมทั่วทุกโซนรอบกรุงเทพ ด้วยราคาที่คุ้มค่าสามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย และทำเลที่ตั้งอยู่ในจุดแหล่งการค้าไลฟ์สไตล์ ศูนย์การค้า เชื่อมต่อการเดินทาง ในแต่ละโซนทั่วกรุงเทพฯ ประกอบกับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้โครงการปิดการขายได้เพียงไม่กี่วันหลังจากสร้างเสร็จ ซึ่งนอกจากแบรนด์ PLENO พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่รู้จักกันดีแล้ว ยังมีแบรนด์ GRANDE PLENO รูปแบบบ้านดีไซน์ใหม่* ที่กำลังมาแรงสร้างความแตกต่างระดับเหนือกว่าทาวน์โฮมรูปแบบเดิมๆ อีกด้วย   และในปี 2018 ทางแบรนด์ “PLENO (พลีโน่)” พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ได้เตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ พร้อมกับงาน #goodsociety ตลอดเดือน พ.ค. นี้ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษกับ 12 โครงการพร้อมอยู่ในงาน โดย 2 โครงการใหม่ที่ว่าก็คือ..   1. PLENO รังสิต-คลอง 4 โครงการใหม่ PLENO รังสิต-คลอง 4 เปิดมุมมองใหม่ของการใช้ชีวิต... ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติรอบตัวคุณ ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน วงแหวนเพียง 5 นาที ราคาเริ่ม 1.89 ล้าน   2. PLENO ปิ่นเกล้า-จรัญ โครงการใหม่ PLENO ปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ สัมผัสชีวิตที่สมบูรณ์แบบในทำเลเด่น ใกล้เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และทางด่วนมีส่วนลด 300,000 บาท ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้าน   สุดท้าย..ใครที่กำลังมองหาบ้านดีๆ สักหลังในราคาไม่แพงเกินเอื้อม และอยากที่จะคว้ามาเป็นรางวัลให้กับชีวิต Review Your  Living ไม่อยากให้คุณพลาดโอกาสดีๆ ในการเป็นเจ้าของทาวน์โฮมที่จะมาตอบทุกโจทย์ให้กับชีวิต พร้อมสร้างความสุขได้แบบไม่รู้จบไปพบกันได้ที่ งาน #goodsociety ตลอดเดือน พ.ค.นี้ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษในงาน เริ่มต้นเพียง 1.89 ล้าน รับเต็มแม็ค พร้อมอยู่ฟรี! ไม่ต้องผ่อน* รับของเพิ่ม X5* ส่วนลด 300,000 บาท*
บ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง [Advertorial] : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง [Advertorial] : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช เชื่อมต่ออย่างลงตัว ง่ายทุกการเดินทาง ทำเล คือปัจจัยของคนมองหาที่อยู่อาศัยจะพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยว ซึ่งแน่นอนว่าทำเลที่ทั้งสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกทั้งเข้าเมืองไปทำงาน ทั้งออกนอกเมืองไปสนามบินหรือไปต่างจังหวัดไปพร้อมๆ กันนั้นหาได้ยากมากใช่ไหมคะ แต่คำว่าหายากนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีค่ะ   เราคงรู้จัก New CBD กันมาระยะหนึ่งแล้วใช่ไหมคะ ด้วยความเพียบพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ตอบโจทย์ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่อยู่เกือบ 24 ชม. ทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ไฮเปอร์มาร์เก็ต ไนท์มาร์เก็ต แหล่งรวมร้านแฮงเอ้าท์ รวมถึงอาคารออฟฟิศเกรด A หลายแห่ง ส่วนทำเลที่มีทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกับแอร์พอร์ตลิงค์ผ่าน สามารถใช้ทางด่วนได้หลายสายอย่างทางยกระดับอุตราภิมุข ทางพิเศษศรีรัชจนไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์(กรุงเทพ-ชลบุรี) ซึ่งง่ายต่อการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมต่อสู่ภาคตะวันออกโซน EEC ที่กำลังมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในอนาคต เรียกได้ว่าไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะก็ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้ย่านพระราม 9 แห่งนี้สมบูรณ์มากจนเกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งระยะหลังเราจะเห็นชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ย่านนี้ก็ไม่น้อยทีเดียว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับย่าน CBD เดิมแล้วจะพบว่าความสะดวกสบายไม่ต่างกันมาก เพียงแต่สีลม-สาทรนั้นทุกวันนี้มีความหนาแน่นอยู่มากทีเดียวค่ะ ทั้งจำนวนของผู้คนตามมาด้วยการจราจรที่ติดขัดไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนการเดินทางไปสนามบินหรือออกนอกเมืองก็ค่อนข้างไกล ที่สำคัญราคาของที่อยู่อาศัยก็ไม่เบาทีเดียว         เมื่อเอ่ยถึงสนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นสนามบินหลักของบ้านเราแล้ว ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะตั้งอยู่นอกตัวเมืองเหมือนในหลายๆ ประเทศ ซึ่งก็มักจะห่างไกลจากตัวเมืองตามไปด้วย แต่ไม่ใช่กับโซน New CDB อย่างพระราม 9 เพราะไม่ว่าจะใช้รถยนต์เดินทางด้วยถนนมอเตอร์เวย์ตรงเชื่อมต่อถนนพระราม 9 หรือจากถนนมอเตอร์เวย์แล้วขึ้นทางพิเศษศรีรัชก็เป็นเรื่องง่ายมากแถมยังใช้เวลาไม่กี่นาที ยิ่งหากเลือกใช้บริการจากแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางสำคัญของโซนที่ถือได้ว่าเป็นกึ่งกลางระหว่างตัวเมืองกับนอกเมืองแบบย่านลาดกระบัง-อ่อนนุช ก็จะยิ่งลดระยะเวลาการเดินทางได้มากขึ้นไปอีก    แหล่งออฟฟิศเกรด A สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย การเดินทางที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว   บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ทุกหลังหน้ากว้าง 5 เมตร ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป พื้นที่ใช้สอยมากถึง 146 ตร.ม. สามารถปรับเปลี่ยน Function ของทุกสัดส่วนภายในบ้านของเราได้ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อย่างลงตัว ท่ามกลางพื้นที่ทั้งหมดกว่า 17 ไร่ ให้สามารถใช้ชีวิตในทุกด้านได้อย่างเต็มที่ ภายในโครงการให้ความเป็นส่วนตัว สงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้รอบโครงการ แม้ในขณะเดียวกันจะมีความวุ่นวายบนท้องถนนมอเตอร์เวย์หลังโครงการ สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือระดับของการใช้ชีวิตได้อย่างน่าหลงใหลและไร้ขีดจำกัด    ได้พื้นที่มากกว่า และยืดหยุ่นได้ตามไลฟ์สไตล์ เรียบง่าย มีความเป็นส่วนตัว   สังคมคุณภาพที่บ้านกลางเมือง Facility เพื่อการพักผ่อนในบ้านของตัวเองที่คลับเฮ้าส์ พร้อมสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ล้อมรอบไปด้วยสวนสาธารณะที่มีบริเวณพักผ่อน ได้ความอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมกล้องวงจรปิดทางเข้า-ออก โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ความสงบร่มรื่น คลับเฮ้าส์ที่ครบครัน   ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานวงแหวน ติดกับมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้า  ทำให้การเดินทางสะดวกสบายทั้งเข้าเมืองสู่ใจกลาง New CBD ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที และออกนอกเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที หรือจะเลือกใช้แอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้างก็อยู่ห่างจากโครงการแค่ 5 นาที ซึ่งช่วงจุดกึ่งกลางระหว่างย่านพระราม 9 กับสนามบินคือช่วงอ่อนนุชปลายๆ เชื่อมต่อกับลาดกระบัง โดยมีแอร์พอร์ตลิงค์เป็นระบบขนส่งสาธารณะสำคัญของคนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ในการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้รวดเร็วที่สุด ใกล้ทั้งทางด่วนและแอร์พอร์ตลิงค์ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีถึง New CBD 5 นาที ถึงสุวรรณภูมิ   การเดินทางไปยังโครงการ    สามารถเข้าได้หลายทาง หลักๆ แล้วแนะนำ 2 เส้นทาง ได้แก่     1. หากมาจากพระราม 9 ด้วยทางพิเศษศรีรัช เมื่อข้ามถนนศรีนครินทร์แล้วให้ออกทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เพื่อกลับรถบนสะพานเกือกม้า เมื่อลงจากเกือกม้าให้รีบชิดซ้ายเพื่อกลับรถอีกครั้ง เข้าสู่ทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าไปทางอ่อนนุช วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ ผ่านมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด  แอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง และรอดใต้วงแหวนไปอีก 200 เมตร ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือ     2. หากมาจากซอยสุขุมวิท 77 ฝั่งขาออกมุ่งหน้าลาดกระบัง เมื่อถึงแยกประเวศเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเฉลิมพระเกียรติ ผ่านสน.ประเวศ เมื่อเจอสามแยกที่มีดี คอนโด ให้เลี้ยวขวา และเลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อเข้าสู่คู่ขนานวงแหวนขับตามทางไปอีกเล็กน้อยก็จะพบกับโครงการ(หากเลี้ยวซ้ายจะไปออกทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์)    สำหรับโครงการบ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช ถือเป็นทาวน์โฮมในระดับ Hi-End Townhome เพราะเรื่องสภาพแวดล้อมภายในโครงการที่ดี ได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือเรื่องของศักยภาพเฉพาะตัวของทำเลที่ไม่ไกลจากแหล่งสำคัญ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกสบายไม่ว่าจะโดยรถยนต์ส่วนตัวเชื่อมต่อกับทางด่วนเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงค์ที่อยู่ใกล้กับโครงการ ด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างใจกลางเมืองกับชานเมืองจึงทำให้บ้านกลางเมือง พระราม 9 - อ่อนนุช กลายเป็นหนึ่งในโครงการคุณภาพจาก AP       
Nirvana Define Srinakarin – Rama 9 เพิ่มความสุขในชีวิตที่มากกว่า.. : รีวิวทาวน์โฮม

Nirvana Define Srinakarin – Rama 9 เพิ่มความสุขในชีวิตที่มากกว่า.. : รีวิวทาวน์โฮม

ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะว่าที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคในปัจจุบันก็คือ “ทาวน์โฮม” จุดเริ่มต้นก็มาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนอยากขยับขยายพื้นที่เพื่อรองรับชีวิต จึงเริ่มมองหาที่อยู่ใหม่ให้ตอบสนองความต้องการทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้ง พื้นที่ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หากเลือกที่อยู่เป็นคอนโดมิเนียมทำเลดีก็จะติดตรงพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของจำนวนสมาชิก หรือหากจะเลือกเป็นบ้านเดี่ยวสักหลังบางทีก็มีราคาสูงเกินกว่าจะรับไหว ดังนั้นทาวน์โฮมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวยุคใหม่ในตอนนี้ค่ะ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งพื้นที่ใช้สอยและเรื่องของราคา   แต่จะดีแค่ไหน..ถ้ามีทาวน์โฮมฟังก์ชั่นเหมือนบ้านเดี่ยว เช่นเดียวกับโครงการ “Nirvana DEFINE Srinakarin - Rama 9 (เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ - พระราม9)” ของ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช้อยส์ให้แก่คุณผู้อ่านที่กำลังคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แถมยังปักหมุดบนทำเลที่เอื้อต่อการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย ซึ่งเราจะพาไปทำความรู้จักกันในวันนี้..     ปักหมุดทำเลศักยภาพแห่งใหม่ ใกล้ CBD พระราม 9 คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มีที่พักอาศัยอยู่ไม่ไกลใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนหลายสาย และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งโครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” ก็ตอบโจทย์ทุกข้อที่กล่าวมาได้เป็นอย่างดี ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพแห่งใหม่ของฝั่งกรุงเทพตะวันออก ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่เพิ่งเปิดใช้บริการเมื่อไม่นานมานี้ ความพิเศษของถนนเส้นนี้นอกจากจะมีช่องจราจร ถึง 6-8 ช่อง ระยะทางรวมกว่า 16 กม. แล้ว ในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตเท่าถนนเลียบทางด่วน-รามอินทรา อีกด้วยนะคะ เพราะเป็นถนนขนาดใหญ่ มีระยะทางยาวตัดผ่านถนนเส้นหลักหลายสาย ทั้งถนนพระราม 9-ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ   นอกจากจะเป็นทำเลศักยภาพใหม่ที่น่าสนใจแล้ว ยังเป็นที่ดินฝั่งที่มูลค่าสูงมาก เหมาะแก่การลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งโซนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งเป็นโซนฝั่งก่อนข้ามถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก นับว่าเป็นโซนที่พักอาศัยที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะอยู่ติดย่านพระราม 9 และศรีนครินทร์ สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงใจกลาง CBD ได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น จึงทำให้เหล่า Developer ต่างหมายปองครอบครองที่ดินเพื่อผุดโครงการใหม่ๆ ในย่านนี้ เนื่องจากเป็นโซนที่ถูกรายล้อมไปด้วยที่อำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วนพระราม 9, ทางด่วนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี ที่ทำให้การเดินทางเข้านอกออกเมืองเป็นเรื่องที่ง่าย นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็จัดว่าสะดวกสบายไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะมีทั้งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิ้งก์, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีครีกรีฑา (ทางฝั่งศรีนครินทร์) และสายสีส้ม (ทางฝั่งรามคำแหง) ในระยะที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการเลย   หรือถ้าลูกบ้านคนใดเป็นสายช็อป ชิม และชิลล์ก็น่าจะถูกใจที่สุด เพราะอย่างที่บอกว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใหม่  การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายสามารถเชื่อมผู้อยู่อาศัยไปยังสถานที่สำคัญโดยรอบได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะไปห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เดอะมอลล์บางกะปิ, ซีคอนสแควร์, เดอะไนน์ พระราม 9 หรือ พาราไดซ์ปาร์ค ที่มีร้านค้าร้านอาหารรวมถึงร้านนั่งชิลล์ให้เลือกมากมาย หากเจ็บไข้ได้ป่วยก็สามารถไปโรงพยาบาลชั้นนำในพิกัดใกล้ๆ อย่าง โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลรามคำแหง หรือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ได้สะดวก ยิ่งในเรื่องของการศึกษาก็นับว่าตอบโจทย์ครอบครัวขยายที่มีสมาชิกเพิ่มได้ดี เพราะใกล้สถานศึกษา อาทิ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ, มหาวิทยาลัยเอแบค, มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสถาบันนิด้า เป็นต้น   ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว   โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” คือพื้นที่ใช้ชีวิตที่ครบครันทุกฟังก์ชั่น เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่มองหาความหรูหราเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายมาเติมเต็มชีวิต เริ่มจากการออกแบบทาวน์โฮมในสไตล์โมเดิร์นให้มีเอกลักษณ์ในรูปทรงกล่อง ผสานกับงานไม้โทนสีอบอุ่นและการจัดวางที่แสนลงตัว ให้ความรู้สึกเรียบหรูมีระดับ แบ่งออกเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น และ 3 ชั้นครึ่ง ที่มีเพียง 173 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นโครงการบ้านในแนวราบสร้างใหม่ที่โดดเด่นและน่าสนใจในแถบนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับบ้านมีให้เลือก 4 แบบตามพื้นที่ใช้สอยดังต่อไปนี้..   Type A ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 31.3-63 ตารางวา Type B ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30.9 ตารางวา Type C ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 21.1-43.7 ตารางวา Type D ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 20.8-23.7 ตารางวา   ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในก็ถูกจัดสรรให้แตกต่าง Full Function มากกว่าบ้านเดี่ยว ด้วยการใช้ช่องแสงธรรมชาติมากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป โดยคำนึงถึงความโปร่งโล่ง อยู่สบาย อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่หน้าบ้านให้กว้างกว่าใครด้วยดีไซน์กว้างกว่า 6.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2-3 คัน ก็นับว่าตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด             เติมเต็มความสุขกับทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง อีกหนึ่งความพิเศษของ โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” คือการคำนึงถึงช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกบ้าน ไม่ว่าจะวันหยุด วันธรรมดา หรือช่วงเวลาพักผ่อน เพราะทางโครงการได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยที่แตกต่างได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสวนส่วนกลาง, คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่, ฟิตเนส ที่มาพร้อมกับ Public Wi-Fi และยังสร้างความอุ่นใจไปกับระบบระบบกล้อง CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.     จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า โครงการ “เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์-พระราม9” เป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบทาวน์โฮมสำหรับกลุ่มคนที่เบื่อการอยู่อาศัยแบบแนวสูง อยากมีพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังอยากได้ความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางแบบชาวคอนโดมีเนียมอยู่ จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำแหน่งที่ตั้งของตัวโครงการนั้น เป็นทำเลศักยภาพที่ทำให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่ายจนไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเดินทางเข้านอกหรือออกเมือง เพราะใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึงทางด่วนแล้ว แถมใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็ถึงใจกลาง CBD ย่านพระราม 9 ด้วยค่ะ ที่สำคัญคืออยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีเหลือง (สถานีศรีกรีฑา) เพียง 4 กม. และใกล้ Airport Link (สถานีหัวหมาก) เพียง 5.5 กม. เท่านั้น ดังนั้น Location จึงกลายเป็นจุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท*   พิเศษ! สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปร่วมงาน EXCLUSIVE SALES ในวันที่ 24 มีนาคม 2561 นี้ พร้อมรับสิทธิพิเศษเหนือใครด้วยราคาสุดว้าวก่อน Pre-Sales ได้ที่ Sales Gallery ลงทะเบียนได้ที่ goo.gl/RfZ2Qn งานดีๆ แบบนี้บอกได้คำเดียว "ไม่ควรพลาดนะคะ"   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1787
บ้านกลางเมืองรามอินทรา-วัชรพล ทาวน์โฮมบนทำเลที่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัว : รีวิวทาวน์โฮม

บ้านกลางเมืองรามอินทรา-วัชรพล ทาวน์โฮมบนทำเลที่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัว : รีวิวทาวน์โฮม

ว่ากันว่าปี 2561 นี้ ทาวน์โฮมจะเป็นที่พักอาศัยที่ถูกจับตามองว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยราคาที่พอๆ กันกับคอนโดมิเนียม 1 ยูนิต แต่ข้อดีของทาวน์โฮมคือจะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าเหมาะสำหรับการอยู่กับครอบครัว หรือผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่า และไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถ ซึ่งหากเราพูดถึงแบรนด์ทาวน์โฮมดีๆ สักโครงการก็เชื่อว่าจะต้องมีชื่อ “บ้านกลางเมือง” ขึ้นมาในใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน เพราะกว่า 20 ปีที่บ้านกลางเมืองได้สร้างสรรค์ทาวน์โฮมดีไซน์ตามยุคสมัยมาโดยตลอด จนทำให้กลายเป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค โดยรีวิวฉบับนี้เราจะพาไปชมกันที่โครงการล่าสุดอย่าง “บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล”   ทำเล ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับทำเลย่านนี้กันก่อนค่ะ ทำเลบริเวณนี้ส่วนมากจะแวดล้อมไปด้วยบ้านเดี่ยวที่มีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวสูงมากทีเดียวค่ะ ฉะนั้นสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย แต่ยังคงเดินทางสะดวกไม่ว่าจะเข้าไปใจกลางเมืองหรือออกนอกเมืองก็เป็นเรื่องง่าย โดยโซนนี้จะใช้เส้นทางเข้า-ออก เมืองหลักๆ คือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษศรีรีชเพื่อเข้าสู่ย่านพระราม 9 ใช้เวลาเพียง 15 นาที และสามารถต่อไปยังทางพิเศษเฉลิมมหานครไปลงสาทร-สีลมก็ได้ หรือหากจะเดินทางออกนอกเมืองไปอีกก็ไม่ไกลนะคะ แค่ขึ้นทางด่วนจากจุดเดิมก็สามารถไปลงถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออกได้เช่นกัน   ส่วนเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกย่านนี้ก็มีให้เลือกไม่น้อยค่ะ ที่ใกล้ที่สุดก็มี Big C ริมถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งมีทั้งธนาคาร ร้านอาหารหลายร้าน และบริเวณนั้นยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านคาเฟ่สวยๆ ไปจนถึงร้านแฮงค์เอ้าท์ ห่างจากโครงการเพียงกิโลเมตรกว่าๆ หรือจะไปที่ถนนหลักอย่างรามอินทราก็จะมีห้างสรรพสินค้าอย่าง Fashion Island, The Promenade, Central Ramintra รวมไปถึงโรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลสายไหม แต่ถ้าจะเลือกแบบเดินทางสะดวกจะขึ้นทางด่วนจุดเดิมแล้วไปที่ CDC, Crystal Park, Central Eastville และร้านอาหารชื่อดังเรียงรายอยู่ตามเส้นทางรามอินทรา-อาจณรงค์   ลูกศรสีแดง คือ ทางเข้าโครงการ ส่วนลูกศรสีน้ำเงิน คือ ออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วน ด่านสุขาภิบาล 5   หากดูจากแผนที่ชัดๆ จะเห็นว่าถนนบริเวณโครงการนั้นจะเป็นทางสำหรับขึ้น-ลงทางด่วน ด่านสุขาภิบาล 5 โดยเฉพาะ ถ้ามาจากถนนสุขาภิบาล 5 ฝั่งขาออกไปถนนสายไหมจะพบกับสามแยกที่เป็นจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โครงการจะอยู่บริเวณนี้พอดีค่ะ หรือถ้าจะออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วนเพียงแค่กลับรถก่อนถึงสามแยกก็ขึ้นทางด่วนได้เลยประมาณ 800 เมตรเท่านั้นเองค่ะ แบบนี้คงหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมโครงการนี้ถึงเปรียบเสมือนมีทางขึ้น-ลงทางด่วนแบบส่วนตัวอยู่หน้าบ้านของตัวเอง   ภาพรวมโครงการ บ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ตั้งอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลง ทางด่วน สุขาภิบาล 5 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น 145 ยูนิต บนพื้นที่ 14-0-52.60 ไร่ มาพร้อมกับคอนเซป “Connectivity of Perfect Living การเชื่อมต่อสู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ” เป็นคอนเซปที่เข้ากับตัวโครงการไม่ว่าจะในแง่ของการเดินทาง หรือการวางแปลนภายในบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว สำหรับโครงการนี้จะมีทาวน์โฮมแบบเดียวเหมือนกันหมดทุกยูนิตนะคะ คือ พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถได้ 2 คัน หลังที่ลูกบ้านจะได้รับจริงๆ เป็นบ้านเปล่า แต่มีการติดตั้งสาธารณูปโภคมาให้เรียบร้อยค่ะ โดยทาง AP เรียกแบบทาวน์โฮมสไตล์นี้ว่า New Urbanist ชั้นแรก ภายในบ้านจมีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ ชั้น 2 ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ชั้น 3 ประกอบไปด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 พื้นที่ใช้สอย Facility ของโครงการก็มีมาให้ครบค่ะ ทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนสชั้นบนที่มีกระจก High Ceiling ให้ได้ออกกำลังกายพร้อมชมวิวสวนสีเขียวสวยๆ ของโครงการ บ้านตัวอย่าง ครั้งนี้เราพามาชมกันที่ตัวโครงการเลยค่ะ ซึ่งใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะเห็นว่าหน้าโครงการจะติดกับทางขึ้น-ลง ทางด่วนเลย หน้าโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ประจำอยู่ที่ Gate ค่ะ โดยการเข้า-ออกโครงการจะใช้ระบบ Access Card พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยค่ะ เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วจะเห็นว่าตัวทาวน์โฮมจะใช้โทนสีขาวตัดกับสีเทา-น้ำตาล บวกกับส่วนที่เป็นเหล็กสีดำในสไตล์โมเดิร์น ด้วยหน้าบ้านกว้างถึง 5 เมตร เท่ากันทุกหลังทำให้จอดรถได้ถึง 2 คันค่ะ รั้วหน้าบ้านใช้เหล็กโปร่งสีดำ ซึ่งบริเวณลานจอดหน้าบ้านนี้ก็จะติดตั้งทั้งปลั๊กไฟ ก๊อกน้ำมาให้ พร้อมกับติดตั้งผ้าใบกันสาดสีน้ำตาลที่สามารถผับเก็บได้อย่างที่เห็นในภาพค่ะ มาชมที่บ้านตัวอย่างกันค่ะ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 145.017 ตร.ม. อย่างที่บอกกันไปค่ะว่าโครงการติดตั้งผ้าใบกันสาดหน้าบ้านเอาไว้ให้ทุกหลังด้วย ซึ่งตัวผ้าใบนี้สามารถผับเก็บได้ด้วย ประตูหน้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน โดยกระจกที่เป็นประตู-หน้าต่างทุกบานจะใช้กระจกเขียวตัดแสงค่ะ ขอบกระจกเป็นอลูมิเนียมสีดำค่ะ ใช้ระบบ Double Lock คือมีทั้งการล็อคแบบกุญแจล็อคนอกบ้านกับแบบก้นหอยจากในบ้านค่ะ ภายในบ้านมีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.7 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ใช้ไฟซาลาเปา Common Area ชั้นล่าง โซนแรกเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้ เหลือพื้นที่อีกเยอะมากค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามโซฟาก็มีพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวีอยู่ระหว่างบันไดกับห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ ติดกับบริเวณวางเคาน์เตอร์วางทีวีเรามาดูที่ห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ โดยห้องเก็บของนี้ใช้บานประตูแบบกดตัวบานประตูเพื่อเปิด-ปิด มองผ่านๆ แล้วจะคล้ายกับเป็นกำแพงโล่งค่ะ ทำให้ดูแล้วสวยกว่าที่จะเป็นบานแบบมีลูกบิดประตู ภายในเป็นห้องใต้บันไดใช้เก็บของขนาดเล็กได้ค่ะ เช่น เก็บรองเท้า, อุปกรณ์ทำความสะอาด ถัดจากห้องใต้บันไดเป็นห้องน้ำขนาดเล็กสำหรับรับแขก ใช้ประตูบานเลื่อนค่ะ ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ใช้ไฟแบบ Downlight และใช้สุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard ทั้งหมดค่ะ ด้านบนข้างสุขภัณฑ์มีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาาศ อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังพร้อมพื้นที่วางของตรงผนังหน้ากระจก ต่อมาที่พื้นที่ครัวซึ่งจะเชื่อมต่อลึกเข้าไปจากห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนครัวเราสามารถวางเคาน์เตอร์แบบ L Shape พร้อมกับวางตู้เย็นไว้ด้านข้างได้ค่ะ มีหน้าต่างแบบกระจกบานเลื่อน 2 ตอน สำหรับระบายกลิ่นและความชื้นสำหรับห้องครัวได้อย่างลงตัวทีเดียวค่ะ ถัดจากโซฟาสามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง ข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นประตูออกไปทางหลังบ้าน ใช้ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ใช้ระบบ Double Lock แบบล็อคตรงมือจับกับแบบก้นหอยค่ะ เดินออกมาตรงพื้นที่หลังบ้านมีบริเวณให้สำหรับเป็นลานซักล้างหรือจะดัดแปลงเป็นสวนหลังบ้าน, ครัวไทยได้ตามสะดวกค่ะ โดยมีการวางช่องลึกเข้าไปแล้วปูพื้นกระเบื้องเซรามิคพร้อมต่อระบบน้ำเอาไว้ให้เรียบร้อยสำหรับวางเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ กลับเข้ามาเดินชมในบ้านที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดบ้านใช้แบบโครงเหล็กมีราวจับสีขาว มีหน้าต่างกระจกทรงสูงตรงที่พักบันไดเพื่อเพิ่มแสงสว่างค่ะ ซึ่งหน้าต่างตรงนี้จะไม่สามารถเปิดได้นะคะ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีทั้งหมด 3 ห้องค่ะ เป็น 2 ห้องนอนทางซ้ายกับขวา ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำ 1 ห้อง พื้นของชั้น 2 จะถูกพื้นห้องปูด้วยลามิเนต เข้าไปดูที่ห้องทางขวามือทางหลังบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีพื้นที่มีขนาดน้อยที่สุดของบ้าน แต่ฝั่งขวามือของห้องมีพื้นที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้เลยนะคะ แต่ในห้องตัวอย่างนี้จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตเอาไว้ชิดกำแพง แล้วเหลือพื้นที่กว้างๆ ตรงกลางห้องค่ะ มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดใหญ่ตรงกลางห้อง ตรงนี้เหมาะสำหรับวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ หรือจะวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้นะคะ เพราะมีแสงสว่างเข้ามามากเพียงพอแน่นอน อีกด้านของห้องจะมีพื้นที่ขนาดกำลังพอดีสำหรับ Built In ตู้เสื้อผ้า ต่อไปที่ห้องน้ำด้านขวามือจากในภาพค่ะ ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งพื้นและผนัง สุขภัณฑ์ทั้งหมดจากแบรนด์ American Standard แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบธรณีกั้นสูงขึ้นมาเล็กน้อย อ่างล้างหน้าใช้แบบแขวนผนัง โดยมีการก่อผนังออกมาเล็กน้อยเพื่อใช้เป็นที่วางของได้ค่ะ ไปดูต่อกันที่ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านของชั้น 2 ค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้โดยยังมีพื้นที่ของทั้ง 2 ข้างของเตียงเหลืออยู่ และยังสามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ด้วย ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับ Built In ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ตลอดแนวผนัง ห้องนี้มีระเบียงส่วนตัวออกไปทางหน้าบ้านด้วยนะคะ โดยจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขึ้นไปดูที่ชั้น 3 ต่อค่ะ ชั้น 3 จะมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์ หันไปดูทางขวากันก่อนค่ะ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ว่างสำหรับจัดเป็นพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น ห้องนั่งเล่นส่วนตัว, ห้องทำงาน เป็นต้น ส่วนห้องตัวอย่างนี้ทางโครงการตกแต่งออกมาให้เป็นห้องนั่งเล่นอีกห้องที่จะได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ข้างๆ พื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวีจะเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค แยกส่วนเปียก-แห้ง แบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ มีหน้างต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศ สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ American Standard อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังมีช่องเก็บของด้านล่างพร้อมพื้นที่วางหน้ากระจก ความพิเศษของชั้นนี้คือห้องน้ำมีประตู 2 ฝั่ง เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่อเนกประสงค์ด้านนอกกับ Master Bedroom ในส่วน walk in closet ตรงนี้เหมาะมากต่อการอยู่อาศัยจริงค่ะ เราออกมาดูกันที่ห้อง Master Bedroom จากทางประตูเข้าหลักของห้องทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ ภายในห้อง Master Bedroom มีพื้นที่กว้างขวางที่สุด สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมเหลือพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ข้าง ปลายเตียงมีพื้นที่สามารถ Built In ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งไปจนถึงโซน walk in closet ได้ ใครที่มีเสื้อผ้า เครื่องประดับเยอะๆ ตรงนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ ด้านข้างเตียงมีระเบียงส่วนตัวออกไปทางหน้าบ้าน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งสีดำเช่นเดียวกันกับระเบียงชั้น 2 สำหรับทาวน์โฮมโครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล นอกจากจะอยู่ในทำเลที่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนมาก ไม่ต้องฝ่ารถติดเพื่อไปขึ้นทางด่วน แต่เหมือนมีทางด่วนส่วนตัวที่ส่งผลให้เดินทางสะดวก เชื่อมต่อเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองได้อย่างรวดเร็วแล้วยังได้พื้นที่สำหรับคนในครอบครัวทั้งในส่วนที่เป็น Common Area และพื้นที่ในห้องส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศรอบๆ ของย่านนี้ที่มีความเงียบสงบไม่วุ่นวายมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ก็มีแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้ตัวที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของถนนสุขาภิบาล 5 อีกด้วย   Pre Sale 10-11 มีนาคม 2561 กับแคมเปญสุดร้อนแรง “ซื้อบ้านไม่มีดอกเบี้ยนาน 2 ปี” ผ่อนพิเศษ 9,999 บาท และลงทะเบียนรับเพิ่ม 50,000 บาท >>> http://www.apthai.com
ปักหมุด “สุขสวัสดิ์” ทำเลน่าอยู่บนฝั่งธนฯ : รีวิวทาวน์โฮม

ปักหมุด “สุขสวัสดิ์” ทำเลน่าอยู่บนฝั่งธนฯ : รีวิวทาวน์โฮม

“สุขสวัสดิ์” ทำเลย่านชุมชนเก่าขนาดใหญ่ฝั่งธนฯ ที่มักเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งถือว่าเป็นย่านที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากเพราะเป็นโซนที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของเขตเมืองกรุงเทพฯ ออกมาสู่รอบนอกมากขึ้น จุดเด่นของทำเลในย่านนี้คือระยะทางที่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองเลย โดยเฉพาะย่านธุรกิจอย่างสาทร รวมทั้งยังมีโครงข่ายคมนาคมที่หลากหลาย ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย นอกจากนี้ยังรองรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่จะมีขึ้นในอนาคตอีกด้วย วันนี้เราเลยเลือกปักหมุดทำเลย่าน “สุขสวัสดิ์” เพื่อจะพาทุกคนไปดูเรื่องของศักยภาพ ตลอดจนการเดินทาง รวมถึงไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกของคนในย่านนี้ว่าจะน่าอยู่ขนาดไหน ทำไมต้องเป็น “สุขสวัสดิ์” อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า “สุขสวัสดิ์” เป็นชื่อของถนนที่มีระยะทางยาวประมาณ 28 กิโลเมตร ตั้งแต่แยกจอมทองจนถึงแยกพระสมุทรเจดีย์ซึ่งถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีความเจริญเป็นอันดับต้นๆ ในกรุงเทพตอนใต้ และมีการเดินทางสะดวกสบาย ประกอบกับความเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยมานาน แนวโน้มการพัฒนาทำเลดังกล่าวจึงเจิรญขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้มีแหล่งพาณิชยกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสาธารณูปการหลักรองรับการใช้ชีวิตที่เพียบพร้อม นับได้ว่าเป็นย่านที่มีศักยภาพอยู่แล้วในปัจจุบัน และจะมีการพัฒนาที่ดินเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต นอกจากนี้ทำเลสุขสวัสดิ์ยังอยู่ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก หรือถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีระยะทางส่วนใหญ่เป็นทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เป็นถนนสายสำคัญที่มีเส้นทางเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองกรุงเทพมหานคร และเชื่อมต่อได้ถึง 4 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็เป็นเงื่อนไขของความอุดมสมบูรณ์อันดับต้นๆ ที่ทำให้ใครหลายคนตัดสินใจอยากขยับขยายครอบครัวจากถิ่นฐานเดิมมาอยู่อาศัยในย่านนี้ เดินทางสะดวกรวดเร็ว เลือกได้หลากหลายเส้นทาง เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าถนนสายหลักอย่างสุขสวัสดิ์ สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ทั้งถนนพุทธบูชา, พระราม 2, ประชาอุทิศ, จอมทอง, เอกชัย, บางขุนเทียน, สมเด็จพระเจ้าตากสิน และพระราม 3 ซึ่งเป็นถนนที่เข้านอกออกเมืองได้ง่ายมากๆ ค่ะ แถมยังมีถนนหนทางในซอกซอยต่างๆ อีกเพียบที่จะลัดเลาะหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นได้หายห่วง นอกจากนี้ยังเดินทางได้สะดวกมากขึ้นด้วยทางด่วนที่เชื่อมต่อกับถนนสุขสวัสดิ์อย่างทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยทางด่วนเส้นนี้จะเชื่อมไปยังจุดต่างๆ ในกรุงเทพด้วย เช่น วิภาวดีรังสิต, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สะพานเหลืองหัวลำโพง, สุขุมวิท, โซนบางนา และท่าเรือคลองเตย เป็นต้น ซึ่งสามารถเดินทางไปพระราม 3 สาทร ได้อย่างรวดเร็ว เพราะใกล้จุดขึ้น-ลง ด่านดาวคะนอง และด่านสุขสวัสดิ์ ทำให้เดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจได้ภายในไม่กี่นาที และยังสามารถเลือกเดินทางด้วยถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ข้ามสะพานภูมิพล 1 เพื่อเชื่อมต่อกับพระราม 3 โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าทางด่วน หรือหากข้ามสะพานภูมิพล 2 ไปก็สามารถเชื่อมต่อกับถนนปู่เจ้าสมิงพราย และถนนสุขุมวิทได้สะดวก หรือจะไปเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษกก็สามารถเดินทางออกต่างจังหวัดได้เช่นกัน ในส่วนของการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนก็ถือว่าสะดวกไม่ใช่น้อยเลยนะคะ เพราะอีกไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า ถนนสุขสวัสดิ์จะเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ที่เป็นส่วนต่อขยายมาจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน) ซึ่งพื้นที่ย่านสุขสวัสดิ์มีสถานีที่ใกล้ๆ คือ สถานีดาวคะนอง, สถานีบางปะกอก, สถานีประชาอุทิศ โดย Interchange Station อยู่ที่สถานีวงเวียนใหญ่ เชื่อมต่อกับรถไฟสายชานเมืองสีแดงเข้มช่วงหัวลำโพง-บางบอน-มหาชัย ทำให้การเดินทางในอนาคตจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้น และเชื่อมโยงไปสู่ใจกลางเมืองได้มากขึ้น และการมาถึงของรถไฟฟ้าเหล่านี้จะทำให้แนวโน้มพื้นที่สุขสวัสดิ์มีการพัฒนาและเจริญมากขึ้นอีกแน่นอนค่ะ ล้อมรอบด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน จุดเด่นของย่าน “สุขสวัสดิ์” นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายเชื่อมต่อตัวเมืองได้หลากหลายเส้นทาง ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าอย่าง เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2 และ 3, บิ๊กซี สุขสวัสดิ์, เทสโก้โลตัส สุขสวัสดิ์และโฮมโปร ไม่เพียงเท่านี้ยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์สุดชิคแห่งใหม่อย่าง The Up Rama 3 คอมมูนิตี้มอลล์ย่านพระราม 3 ที่รวมร้านอาหารพร้อมด้วยร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมายเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัว หรือถ้าอยากใกล้ชิดธรรมชาติก็สามารถไปเที่ยวบางกระเจ้า สถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนปอดของคนกรุงเทพได้ในพิกัดที่ง่ายต่อการไปถึง นอกจากนี้ยังมีสวนสาธาระณะขนาดใหญ่อย่างสวนสุขภาพลัดโพธิ์บริเวณใต้สะพานภูมิพลอีกด้วย เรียกว่าผู้อาศัยในย่านนี้มีตัวเลือกในเรื่องของการพักผ่อนรวมถึงอาหารการกินที่เยอะและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพทีเดียวค่ะ เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 3 เทสโก้ โลตัส พระราม 3 The Up พระราม 3 บางกระเจ้า ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง บางกระเจ้าพื้นที่ปั่นจักรยานที่เปรียบเสมือนปอดของคนกรุงเทพ บรรยากาศสบายๆ ที่บางกระเจ้า นอกจากแหล่งไลฟ์สไตล์ที่เรายกตัวอย่างไปแล้วนั้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลนครธน, โรงพยาบาลบางปะกอก 3 และ 9, โรงพยาบาลบางมด และสถานศึกษาชื่อดังตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมหาวิทยาลัยเลยค่ะ เพราะมีทั้ง โรงเรียนสารสาสน์ สุขสวัสดิ์, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี, โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม, โรงเรียนเลิศหล้า และมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทำให้เป็นทำเลที่มีชีวิตและสามารถอยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากทำเลสุขสวัสดิ์มีเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อด้วยการคมนาคมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางสัญจรทางบก หรือแนวโน้มระบบขนส่งมวลชนทางรถไฟฟ้า ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายรายเข้ามาปักหมุดทำเลในย่านนี้ แต่แบรนด์ที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับดีที่สุดก็คือ “บ้านกลางเมือง” ของ บริษัท เอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ AP Thai ผู้นำและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ โดยชูคอนเซ็ปต์ทาวน์โฮมที่เดินทางง่ายใกล้ใจกลางเมือง ฟังก์ชั่นครบสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ถึง 2 โครงการ ได้แก่ บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39 และ บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ค่ะ บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39 โครงการ บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39 เป็นโครงการ ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นที่เกิดขึ้นใหม่แห่งเดียวในย่านนี้ ซึ่งจุดประสงค์ของกลุ่มผู้ใช้งานคืออยู่อาศัยเป็นครอบครัว จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนเมืองที่ต้องการบ้านอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวมากกว่าการเลือกอยู่คอนโด โดยไม่ลืมใส่ความหรูหราและเลือกคุณภาพให้แก่ลูกบ้าน ซึ่งมีทั้งหมดจำนวน 328 หลัง ขนาดเริ่มต้นอยู่ที่  18 - 20 ตร.ว. นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สวนสาธารณะ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย มีรูปแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกัน   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น : 5.99 - 7.99 ล้านบาท เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น และทาวน์โฮม 3 จำนวน 328 ยูนิต ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ แบบบ้าน Iconic ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 193 ตารางเมตร แบบบ้าน Urbanist ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร แบบบ้าน Iconic ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. 3.5 ชั้น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน โดดเด่นด้วย Double Volume Space และ Sky Living Room แบบบ้าน Urbanist ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 145 ตรม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น Triple Bedroom และ Multi-purpose Room พร้อมระเบียงส่วนตัวบนชั้น 3 บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ สำหรับโครงการ บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์  เป็นโครงการทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เน้นการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่อยู่อาศัย จุดเด่นอยู่ที่ทำเลศักยภาพ ทำให้เกิดความคล่องตัวสามารถเชื่อมโยงการใช้ชีวิตในเมืองได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือจับจ่ายใช้สอย ซึ่งนับว่าเป็นโครงการบ้านที่น่าสนใจที่สุดในย่านนี้ จุดประสงค์ของกลุ่มผู้ใช้งานคือ ครอบครัวที่จะขยายมาจากครอบครัวใหญ่ เป็นวัยทำงาน เนื่องจากสามารถเข้าถึงโซนออฟฟิศชั้นนำได้อย่างสะดวก และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ทาวน์โฮมแบรนด์ “บ้านกลางเมือง” ยังถูกพัฒนาต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งโมเดลใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาก็คือ “Terraria Model” ออกแบบภายใต้วิธีคิดนวัตกรรมดีไซน์พื้นที่แห่งอนาคต (Innovation for Future Living) โดยมีจุดเด่น คือ 1. การออกแบบพื้นที่ สีเขียว (Design for Green Living) ซึ่งนอกจากจะให้ความสำคัญกับการนำต้นไม้เข้ามาอยู่ในตัวอาคารในรูปแบบ Pocket Garden เข้ามาไว้ในทาวน์โฮมถึง 2 จุดในชั้น 2 และชั้น 3 แล้วนั้น ยังคำนึงถึงการออกแบบมุมมอง (Design Approach) ทั้งจากภายในและภายนอก 2. การออกแบบพื้นที่รองรับการปรับเปลี่ยน (Design for Flexible Living) ตามความต้องการใช้พื้นที่ที่หลากหลาก ด้วย Flexible Wall ผนังภายในแบบ พิเศษที่รองรับการปรับเปลี่ยน ขยับขยายได้จริง ยืดหยุ่นได้หลากหลายรูปแบบโดยไม่กระทบโครงสร้าง หลักของบ้าน ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้อาศัย ขณะที่ความลงตัวเชิงฟังก์ชั่นและความคุ้มค่าทุกตารางนิ้วของพื้นที่ใช้สอยภายในทั้ง 3 ชั้น ยังเชื่อมต่อการใช้งานได้อย่างไม่จำกัด อาทิ เพิ่มพื้นที่เก็บของ (ด้านหน้าและใต้บันได) การบริหารพื้นที่ครัวแบบเข้ามุม และเพิ่มพื้นที่พักผ่อนพิเศษ ที่สามารถรองรับ ทั้งการเป็นส่วนนั่งเล่นของครอบครัวหรือพื้นที่ทำงานได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยดีไซน์โมเดิร์นอย่างเป็นเอกลักษณ์ของโครงสร้างสถาปัตยกรรมดีไซน์ภายนอก ซึ่งด้วยวิธีคิดการออกแบบพื้นที่แห่งอนาคตทั้งหมดนี้ นับเป็นการพลิกประวัติศาสตร์การดีไซน์ ฉีกกรอบคำจำกัดความของทาวน์โฮมแบบเดิมๆ ได้อย่างโดดเด่นและน่าสนใจเป็นอย่างมาก   รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น : 4.99 - 9.29 ล้านบาท เจ้าของโครงการ : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด ลักษณะโครงการ : บ้านแฝด 3 ชั้น และ ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร จำนวน 168 ยูนิต พื้นที่โครงการ : 20-1-41.2 ไร่ ที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ใกล้ทางขึ้น-ลง ทางด่วน และวงแหวนรอบนอก แบบบ้านแฝด 3 ชั้น  MAJESTIC ขนาดพื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. แบบบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น  MARQUE ขนาดพื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. แบบบ้าน MAJESTIC ขนาดพื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. เป็นบ้านแฝด 3 ชั้นแนวคิดใหม่ตอบรับทุกไอเดียสร้างสรรค์ได้ อย่างเต็มรูปแบบด้วยพื้นที่และฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้น ภาพจำลองแปลนพื้นที่ชั้น 1 ของบ้านแฝดแบบ MAJESTIC ภาพจำลองแปลนพื้นที่ชั้น 2 ของบ้านแฝดแบบ MAJESTIC ภาพจำลองแปลนพื้นที่ชั้น 3 ของบ้านแฝดแบบ MAJESTIC แบบบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น MARQUE ขนาดพื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ เติมเต็ม ความสุขให้เพิ่มขึ้นด้วย DOUBLE GARDEN, FLEXIBLE SPACE, EXTRA SPACE ภาพบรรยากาศจำลองการตกแต่งห้องนั่งเล่นที่ดูหรูหรา น่าใช้งาน ภาพบรรยากาศจำลองการตกแต่งห้องนอนที่เอื้อต่อการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณคลับเฮ้าส์ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เหตุผลที่ควรเลือกซื้อบ้านจาก AP Thai ต้องบอกเลยว่าทำเลของโครงการทั้งสองนี้มีความโดดเด่นมากๆ ค่ะทั้ง “บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39” และ “บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์” เพราะตั้งอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ส่วนต่อขยายในอนาคต เตาปูน-ราษฏร์บูรณะ) รอบๆ โครงการทั้งสองโครงการเดินทางได้สะดวกมากๆ ไม่ว่าเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หรือจะเป็นการเข้าสู่ใจกลางเมืองด้วยรถส่วนตัว ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร, สะพานภูมิพล รวมถึงถนนวงแหวน กาญจนา ก็ถือว่าเป็นเส้นทางสายสำคัญที่จะทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิมค่ะ แถมยังแวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งแหล่งช็อปปิ้ง สถาบันการศึกษาชั้นนำ รวมถึงสถานพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นที่สุดค่ะ ใครที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อบ้านในย่านนี้ แนะนำให้พิจารณาจาก 2 โครงการนี้เลยค่ะ ว่าโครงการไหนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณในกระเป๋ามากกว่ากัน ถ้างบประมาณเริ่มต้นจำกัดหน่อย “บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39” อาจจะเป็นคำตอบที่ดี ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 5.89 ล้านบาทเท่านั้น กับทำเลที่เดินทางได้สะดวก มีรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกล แต่ถ้าอยากได้บ้านที่มีพื้นที่ใช้มากขึ้นจะขยับมาที่ “บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์” ก็เป็นความคิดที่ดีทีเดียวค่ะ เพราะมีแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือบ้านแฝดที่เน้นพื้นที่ใช้สอยเยอะสุดๆ และบ้านทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ล่าสุดของบ้านกลางเมือง ซึ่งเพิ่มฟังก์ชั่นให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยได้ตามต้องการ ด้วยราคาเริ่มต้น 9.29 ล้านบาท อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่า นอกจากเรื่องทำเลย่านสุขสวัสดิ์ที่น่าสนใจแล้ว หลายคนคงกำลังอยากเป็นเจ้าของบ้าน บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 39 และ บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ แล้วใช่ไหมคะ? ลองคลิกเข้าไปดูรายละเอียดโครงการทั้งสองได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ www.apthai.com/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. Call Center 1623 ล่าสุด! ได้ยินมาว่า โครงการ บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ และบ้านกลางเมือง สาทร สุขสวัสดิ์ มี campaign ร่วมกัน Smart Living @sathorn สามารถลงทะเบียน รับส่วนลดเพิ่ม 100,000 บาท โดยราคาเริ่มต้น 4.99 - 9.29 ล้านบาทเท่านั้น
Baan Klang Muang Sathorn-Suksawat – บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ : รีวิวทาวน์โฮม

Baan Klang Muang Sathorn-Suksawat – บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ : รีวิวทาวน์โฮม

Baan Klang Muang Sathorn-Suksawat (บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์) - ทาวน์โฮมใหม่ ใกล้ทางด่วนสะพานภูมิพล, เส้นวงแหวนกาญจนาภิเษก และรถไฟฟ้าสายเตาปูน-ราษบูรณะ เดินทางสะดวกเพียง 15 นาทีถึงสาทร     รายละเอียดโครงการ ราคาเริ่มต้น    4,990,000 บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาด 152 ตร.ม. จำนวน 168 ยูนิตและบ้านแฝด 3 ชั้น ขนาด 222 ตร.ม. จำนวน 36 ยูนิต พื้นที่โครงการ   20-1-41.2 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ คาดว่าจะแล้วเสร็จ     ปี 2562 สถานที่สำคัญใกล้เคียง มหาวิทยาลัย เทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี โรงเรียนรุ่งอรุณ โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา โรงเรียนปัญญาศักดิ์ บิ๊กซี พระประแดง เซ็นทรัลพระราม 3 โรงพยาบาลกรุงเทพ พระประแดง โรงพยาบาลราษฏ์รบูรณะ โรงพยาบาลบางปะกอก 3 โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาด 152 ตร.ม. จำนวน 168 ยูนิตและบ้านแฝด 3 ชั้น ขนาด 222 ตร.ม. จำนวน 36 ยูนิต สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮาส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือ เพิ่มความพิเศษด้วย Bubble Jet & Jet Spa บริเวณพักผ่อนสวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1623 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  www.apthai.com/ทาวน์โฮม/บ้านกลางเมือง/บ้านกลางเมือง-สาทร-สุขสวัสดิ์/
TOWN AVENUE COCOS RAMA 2 SOI 50 – ทาวน์ อเวนิว โคโคส พระราม 2 ซอย 50 : รีวิวทาวน์โฮม

TOWN AVENUE COCOS RAMA 2 SOI 50 – ทาวน์ อเวนิว โคโคส พระราม 2 ซอย 50 : รีวิวทาวน์โฮม

TOWN AVENUE COCOS RAMA 2 SOI 50 (ทาวน์ อเวนิว โคโคส พระราม 2 ซอย 50) - ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ใกล้เซ็นทรัลพระราม 2 เดินทางสะดวกสบาย ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน พระราม 2 เพียง 3 กม. เชื่อมสู่ใจกลางย่านธุรกิจอย่าง สีลม สาทร พระราม 3 และสุขุมวิทได้อย่างรวดเร็ว จากแสนสิริ     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    4,290,ooo บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะโครงการ    ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ขนาด 22.8-38 ตร.วา จำนวน  186 หลัง พื้นที่โครงการ    18-1-41 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    พระราม 2 ซอย 50 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   เซ็นทรัล พระราม 2 โลตัส พระราม 2 บิ๊กซี พระราม 2 เดอะมอลล์ ท่าพระ แม็คโคร แม็กซ์ แวลู โฮมโปร พระราม 2 รพ.บางปะกอกอินเตอร์ รพ.บางมด รพ.นครธน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนสารสาสน์โปลีเทคนิค แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมห้องพักผ่อน ห้องรับแขก และ Pantry ที่จอดรถ 2 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก สวนส่วนกลาง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส คลับเฮาส์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  1685 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  https://www.sansiri.com/townhouse/town-avenue-cocos/th/
HAUS 35 CHAENGWATTANA – เฮ้าส์ 35 แจ้งวัฒนะ : รีวิวทาวน์โฮม

HAUS 35 CHAENGWATTANA – เฮ้าส์ 35 แจ้งวัฒนะ : รีวิวทาวน์โฮม

HAUS 35 CHAENGWATTANA (เฮ้าส์ 35 แจ้งวัฒนะ) - ทาวน์โฮมสไตล์  Modern Cultural Loft ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่มีอัตราการเติบโตสูงในย่านแจ้งวัฒนะ     รายละเอียดโครงการ   ราคาเริ่มต้น    4,990,ooo บาท เจ้าของโครงการ    บริษัท  พีช พลัส พร๊อพเพอตี้ จำกัด ลักษณะโครงการ    ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมห้องใต้หลังคา จำนวน 255 แปลง พื้นที่โครงการ    18-0-66.3 ไร่ ที่ตั้งโครงการ    10/187 ซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 35 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี   สถานที่สำคัญใกล้เคียง   Central แจ้งวัฒนะ Makro แจ้งวัฒนะ Big C แจ้งวัฒนะ โฮมโปร แจ้งวัฒนะ IT Square Impact เมืองทองธานี เทสโก้ โลตัส ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โรงเรียนนานาชาติ ISB โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ โรงพยาบาล World Medical Center ม.ธุรกิจบัณฑิต ม.สุโขทัย แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย แบบ MAGICLE ขนาดพื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 1 คัน แบบ MIRACLE ขนาดพื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน แบบ MAJESTIC ขนาดพื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำพร้อมห้องทำงานและห้องพักผ่อนส่วนตัวจอดรถได้ 3 คัน สิ่งอำนวยความสะดวก คลับเฮ้าส์ สวน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส จ๊อกกิ้งแทร็ค ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร :  02-907-5544 , 02-115-7055 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม :  http://www.haus.co.th/