Tag : นารายณ์ พร็อพเพอตี้

2 ผลลัพธ์
นารายณ์ พร็อพเพอตี้ฯ ส่งท้ายไตรมาส 4 เปิดขายเดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า  ตึกใหม่ด้านหน้าติดหน้าสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน เขย่าตลาดคอนโดย่านธนฯ

นารายณ์ พร็อพเพอตี้ฯ ส่งท้ายไตรมาส 4 เปิดขายเดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า ตึกใหม่ด้านหน้าติดหน้าสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน เขย่าตลาดคอนโดย่านธนฯ

“นารายณ์ พร็อพเพอตี้” ส่งท้ายไตรมาส 4 เปิดขายโครงการ“เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า” เขย่าตลาดคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนบุรี ที่สุดของ Facility พร้อมสวนขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ ได้ฤกษ์เปิดขายตึกใหม่ ทาวเวอร์ A อาคารสุดท้ายติดหน้าสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน ราคาห้องโปรโมชั่นเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท  “Big Day” วันที่ 4 พ.ย.นี้ ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท   นายเจนต์ชัย ลิ้มวัฒนะกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ว่า บริษัทมีแผนเปิดจองโครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัยโครงการเดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ A ซึ่งมีจำนวน ยูนิตทั้งสิ้น 542 ยูนิต ราคาห้องโปรโมชั่นเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท เป็นอาคารที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของโครงการ ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ หน้าสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน ใกล้สี่แยกปิ่นเกล้า ภายใต้แนวคิด “Sustainable Living” การมีคุณภาพชีวิต ในการอยู่อาศัยที่ดี และมีความสุข อย่างยั่งยืน” ทั้งนี้ได้กำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการ “Big Day” ในวันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน นี้ โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อรับสิทธิ์ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท เมื่อทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดภายในระยะเวลาที่กำหนด      โครงการเดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า มีพื้นที่โครงการกว่า 11 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 42 ซึ่งถือเป็นถนนสายหลักของคนในย่านนี้ และอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำ สถานีบางยี่ขัน (โดยคาดว่าเปิดให้บริการได้ในปี 2563)  มูลค่าโครงการประมาณ 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารสูง 22 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ จำนวนทั้งสิ้น 1,784 ยูนิต ขนาด 1 และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย เริ่มตั้งแต่ 24 -75 ตารางเมตร โดยมี Room types ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต่างกัน  จัดเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันที่สุด ได้แก่ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดใหญ่กว่า Half Olympic และ Sport Facilities 3 ชั้น ประกอบไปด้วย Yoga Fly, lounge, Boxing Corner, Fitness, Sauna room แยกชาย-หญิง และ Double Sky Lounge ประกอบไปด้วย Social club, Mini-theater room, Golf simulator room, Co-working space,  Meeting room, Lounge และ Roof Top Garden ที่สามารถมองเห็นวิวสะพานพระรามแปดได้ 360องศา และวิวเกาะรัตนโกสินทร์ได้อย่างงดงาม พร้อมด้วยสวนส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ มีที่จอดรถรองรับได้จำนวน 925 คัน การเดินทางสะดวกสบายทั้งรถไฟฟ้า และรถยนต์ส่วนตัวเพราะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก อยู่ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ โรงพยาบาล และ มหาวิทยาลัย เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า, โรงภาพยนตร์เมเจอร์ปิ่นเกล้า, โรงพยาบาลศิริราช และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จเดือน เมษายน 2562     “ปัจจุบันการที่จะหาที่ดินผืนใหญ่กว่า 10 ไร่ ในเมืองและใกล้หน้าสถานีรถไฟฟ้า คงหาได้ยากแล้ว แต่โครงการนี้เพราะด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ และโครงการมีขนาดใหญ่ จึงทำให้โครงการของเราโดดเด่นและครบสมบูรณ์ทุกด้าน ทั้งในเรื่องของ Location, Product และ facility ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง ที่เรากล้าให้ในสิ่งที่มากกว่า ซึ่งขณะนี้จากที่เปิดขายไปแล้ว 2 ตึกก่อนหน้านี้มียอดขายแล้วประมาณ 86% ทั้งนี้บริษัทฯมีโครงการที่พัฒนาในแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ณ ปัจจุบัน จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย เดอะพาร์แลนด์ บางแค , เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม-ท่าพระ ,เดอะพาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า และเดอะพาร์แลนด์ เพชรเกษม 56” นายเจนต์ชัย กล่าวต่อว่า   นายเจนต์ชัย กล่าวต่อว่า  ในส่วนภาพรวมตลาดอสังหาฯ เมื่อเทียบกับ 4-5 ปีก่อน จะเห็นว่ากำลังซื้อภายในประเทศลดลง โดยเฉพาะกำลังซื้อเพื่อการลงทุน ผู้ประกอบการจึงควรปรับแผนการดำเนินงานเข้าสู่โหมดใหม่ (new normal) ซึ่งต้องวางแผนปรับอัตราการขยายตัว อัตราการขาย และอัตราการหมุนเวียนเงินทุนให้เหมาะสมกับภาวะตลาดจริง และสำหรับมาตรการคุมเข้มสินเชื่อบ้านที่ทางแบงค์ชาติ กำลังพิจารณาอยู่นั้น  โดยส่วนตัวเห็นว่าควรออกมาก่อนหน้านี้นานแล้ว เพื่อชะลอการปรับตัวขึ้นของราคาอสังหาฯ ที่เป็นไปอย่างรวดเร็วเกินกว่ากำลังซื้อของผู้บริโภค เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและ ผู้ประกอบการในระยะยาว  อย่างไรก็ตามการออกมาบังคับใช้มาตรการที่ช้าเกินไป และเข้มงวดเกินไปอาจมีผลกระทบกับ Real Demand มากกว่าชะลอความต้องการเพื่อการลงทุน ซึ่งปรับตัวลดลงกว่าแต่ก่อนเองอยู่แล้ว มาตรการควรต้องหาสมดุล ระหว่างผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบให้ดี ทั้งนี้กลยุทธ์ของผู้ประกอบการ ที่ควรต้องนำมาใช้ในภาวะนี้ คือ Product ต้องดีจริง Location ต้องใช่ ราคาต้องสมเหตุสมผล สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวปกป้องความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตที่ดีที่สุด โครงการที่มีพร้อมตามที่กล่าวมายังขายได้อยู่แน่นอน     บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวน 6 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการการฟลอรา ติวานนท์ และ โครงการพาร์ค พรีว่า ถ.เทียมร่วมมิตร และ โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม-ท่าพระ, เดอะ พาร์คแลนด์ ระยอง, เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 ,เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า
นารายณ์ ฯ ผุดเมกกะโปรเจ็ค เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56

นารายณ์ ฯ ผุดเมกกะโปรเจ็ค เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56

“นารายณ์ พร็อพเพอตี้”เปิดบิ๊กโปรเจ็คช่วงครึ่งปีหลัง “เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56” ยึดทำเลทองรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ภายใต้แนวคิด "Never Before No More Again"อัดแน่น จัดเต็ม ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันกว่า 30 รายการ พร้อมสวนขนาดใหญ่  Mega Park, อยู่หน้าห้างและ หน้าสถานีรถไฟฟ้า ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบายรอบด้าน ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท พบข้อเสนสุดพิเศษในงาน Exclusive sales  26  สิงหาคมนี้ นายเจนต์ชัย ลิ้มวัฒนะกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด เปิดเผย ถึงแผนการดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ว่า บริษัทมีแผนงานที่จะเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่อีกหนึ่งโครงการ ได้แก่ โครงการเดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 นับเป็นโครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่โครงการที่สองของปีนี้  ต่อจากโครงการเดอะพาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้าที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้  โดยมีขายไปแล้วกว่า 60 % มูลค่าโครงการรวมทั้ง 2 โครงการกว่า 12,000 ล้านบาท "ภาวะตลาดอสังหาฯในปีนี้ ไม่น่าจะโตได้มากเหมือนปีก่อนๆ การแข่งขันจะสูงทุก segment การทำอสังหาฯ ไม่ได้ดูเทียบปีต่อปี จะต้องอ่านตลาดไปล่วงหน้าอีก 2 ปี  ภาวะตลาดแบบนี้ต้องอ่านตลาดดีๆ ของต้องดีจริง ตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งที่มีอัตราการเติบโตสูง โปรดักส์แตกต่างจากท้องตลาด ให้คุณภาพชีวิตที่ดีกับผู้ซื้อจริงเท่านั้นถึงจะอยู่ได้" นายเจนต์ชัย กล่าว โครงการเดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 เป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัยที่ถูกพัฒนาขึ้นในย่านทำเลที่ดีที่สุดอีกโครงการหนึ่ง บนเนื้อที่ 13-3-12.3ไร่ จำนวนยูนิต 2,047 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 6,000ล้านบาท พัฒนาภายใต้แนวคิด "Never Before No More Again" ด้วยจุดเด่นของโครงการที่มากด้วยสวนขนาดใหญ่Mega Parkไม่ต่ำกว่า 3 ไร่ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในโครงการแบบที่ไม่มีที่ไหนเคยทำมาก่อน โครงการตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษมซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2562โครงการอยู่ติด MRT สถานีภาษีเจริญเพียง 40 เมตรเท่านั้น สามารถเดินทางเข้ามาในย่านกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบายการเดินทางโดยรถยนต์ก็สะดวกเพราะอยู่ติดถนนเพชรเกษม สามารถออกไปทางฝั่งเหนือด้วยถนนราชพฤกษ์ หรือจะเข้าเมืองย่านสาทรผ่านสะพานตากสินก็ได้โดยง่าย ทั้งนี้โครงการถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ด้วยโครงการอยู่ตรงข้ามห้างซีคอน บางแค และใกล้สถานีรถไฟฟ้า เพียง 40 เมตร มีไลฟสไตล์ที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆที่อยู่ภายในโครงการเน้นพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ และ Facility จัดเต็มโดยแบ่งออกเป็น 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ ทาวเวอร์ A จำนวน 32 ชั้น, ทาวเวอร์ Bจำนวน 31 ชั้น และ ทาวเวอร์ Cจำนวน 29 ชั้น ราคาเริ่มต้น1.79 ล้านบาท  ประกอบด้วย ห้อง Studio ขนาด 25-25.5 ตารางเมตร ,ขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 26.5-37.5ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน  48.5-62ตร.ม. มีสัดสัดส่วนของจำนวนที่จอดรถมากถึง 50% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) จุดเด่นของโครงการที่ต้องไฮไลท์มีทั้งหมด 4 โซน ได้แก่โซนที่ 1 Star Pavilion  ตั้งอยู่บนชั้น 32 ทาวเวอร์ A ที่ให้คุณพาเพื่อนมานั่งชิลล์  ชมวิวกรุงเทพฯแบบพาโนรามา ประกอบด้วยMini Theatre & Karaoke Room , SKY Private Party Roomโซนที่ 2 Double Volume Co-Working Space จัดพื้นที่ให้มี Co- Working Space ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ทันสมัยด้วยสไตล์การออกแบบ Modern Loft ใช้วัสดุไม้ผสมเหล็ก คัดสรรเอาธรรมชาติเข้ามาตกแต่งเพื่อให้เรารู้สึกไม่อึดอัดโซนที่ 3 Double Volume Fitness ฟิตเนสที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ห้องซาว์น่า  ห้องโยคะ และอีกหนึ่งความน่าสนใจ คือBoxing Stage บริเวณชั้น 5 เป็นเวทีมวย ให้ได้ปล่อยพลังกันเต็มอิ่ม ส่วนโซนที่ 4 Pools & Garden สระและสวน มีแรงบันดาลใจมาจากเสน่ห์ของพื้นที่เกษตรกรรมในย่านบางแคเดิมที่เต็มไปด้วย ต้นแค และกล้วยไม้ คลอง และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ จึงนำมารังสรรค์เพื่อใช้ในการออกแบบโครงการเพื่อให้ผู้พักอาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติ สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือทั้ง 2 สระขนาด 6x25 และ 7x24  พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ที่เชื่อมกันระหว่าง 3 อาคารปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการขอ EIA ซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุญาตในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563  บริษัทฯ ได้กำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการในงานExclusive Sales วันที่ 26 สิงหาคมนี้ ณ สำนักงานขายโดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนใน Website : naraiproperty.com เพื่อรับ Gift Voucher  มูลค่า 10,000 บาทเมื่อจองและทำสัญญา “ด้วยภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมอยู่ในภาวะทรงตัวในปัจจุบัน การเลือกโลเคชั่นในการพัฒนาโครงการ และการสร้างจุดเด่นที่แตกต่างเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย ในราคาที่สมเหตุสมผลในการพัฒนาโครงการจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในพื้นที่มีการเติบโตของพื้นที่สูง ส่งผลทำให้ราคาที่ดินเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ประกอบการต้องทำให้คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด” นายเจนต์ชัยกล่าว   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับโครงการเดอะพาร์ค แลนด์ เพชรเกษม 56 โทร.02-4548585 www.naraiproperty.com