Tag : บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

5 ผลลัพธ์
อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ เล็งเห็นศักยภาพทำเลย่านเจริญกรุง-สาทร เติบโต เปิดตัว อัลติจูด ซิมโฟนี มูลค่าโครงการ 980 ล้านบาท

อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ เล็งเห็นศักยภาพทำเลย่านเจริญกรุง-สาทร เติบโต เปิดตัว อัลติจูด ซิมโฟนี มูลค่าโครงการ 980 ล้านบาท

อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ เล็งเห็นศักยภาพทำเลย่านเจริญกรุง-สาทร เปิดโครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี บนทำเลเด่น เจริญกรุง-สาทร มูลค่าโครงการกว่า 980 ล้านบาท เป็นโครงการ Luxury riverside condominium ใน CBD โครงการเดียวที่เปิดตัวในรอบ 2 ปี เชื่อมั่นทำเลมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะเป็นย่านธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพ เป็น World Destination ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากทั่วโลก ทำให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ย่านนี้เป็นระดับลักซ์ชัวรี่ ตอบโจทย์กำลังซื้อที่ยังคงมีความหนาแน่น นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์  ‘ALTITUDE’ เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นความท้าทายสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แม้อัตราการขยายตัวปีที่ผ่านมายังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสินค้าบางประเภท (Segment) โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมต้องยอมรับว่าจำนวนยูนิตใหม่ (Supply) มากกว่าความต้องการซื้อ (Demand) โดยปัจจุบันมีจำนวนยูนิตใหม่เข้ามาประมาณ 170,000 ยูนิต และมีอัตราการขายได้ 75% ต่อจำนวนยูนิตออกใหม่ทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นโจทย์สำคัญให้ อัลติจูด ต้องพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ทั้งการเลือกทำเล การออกแบบ และพัฒนาสินค้า ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ที่ได้ศึกษามาแล้วในแต่ละโครงการ เช่นเดียวกันกับโครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญนคร-สาทร ที่เปิดตัวซึ่งเป็นโครงการ Luxury riverside condominium ใน CBD โครงการเดียวที่เปิดตัวในรอบ 2 ปี โดยมูลค่าโครงการ 980 ล้านบาท “ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา เจริญกรุง-สาทร มีพัฒนาการการเติบโตของพื้นที่ที่ชัดเจน และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นระดับ 5 ดาว โครงการคอนโดมิเนียมมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงกว่า 200,000 บาท การคัดสรรทำเลและตัวโครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี จึงตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยมากๆ ใกล้โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอร์รี่เพียง 400 เมตร โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 369 ตารางวา เดินทางสะดวกทั้งทางถนนเจริญกรุงและถนนจันทน์ และไม่ไกลกันมากกับห้างไอคอนสยาม แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองไทย” นายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการบริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครยังขยายตัวได้อีก ตามการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้า ซึ่งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม โดยแต่ละSegment ทำเลที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกัน ตามวัตถุประสงค์ของผู้ซื้อ ในส่วนของคอนโดมิเนียมกลางใจเมือง โครงการที่ใกล้รถไฟฟ้าจะเป็นอีกแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้ซื้อ แต่ทั้งนี้โครงการที่ใกล้แหล่งที่เรียน หรือสาธารณูปโภคอื่นๆก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยในย่านเจริญกรุงสาทร ถือเป็นทำเลที่มีการขยายตัวสูงมากระยะหลายปีที่ผ่านมาราคาที่ดินปรับสูงขึ้นเฉลี่ย 8% เนื่องจากที่ดินบริเวณนี้หาไม่ได้ง่าย การเติบโตของชุมชนสูง และเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ดังนั้น Supply ยังมีไม่มากในขณะที่ Demand ยังมีล้น   อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง-สาทร จึงเป็นที่สุดแห่งทำเลใจกลางย่านเจริญกรุง-สาทร โดยมีการออกแบบในสไตล์โคโลเนียล คอนเทมโพรารี่ สะท้อนรสนิยมและความภาคภูมิใจ ผ่านการเลือกสรรที่บ่งบอกถึงตัวตน สุนทรียะแห่งการอยู่อาศัย มีพื้นที่เพื่อการใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับครอบครัวและเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของชีวิตในเมือง ราคาห้อง เริ่มต้น 4.9 ล้านบาท – 29 ล้านบาท โครงการเริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 4 ปี 2561 และคาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการในไตรมาส 4 ปี 2563 สำหรับโครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง สาทร ตั้งอยู่บนถนนจันทน์ 44 เนื้อที่ 369 ตารางวา จำนวน 99 ยูนิต 1 อาคาร 21 ชั้น และชั้นใต้ดิน 4 ชั้น มีรูปแบบขนาดของห้อง 6 ขนาด ราคาเริ่มต้น 4.9-29 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยโครงการ 170,000 บาทต่อตารางเมตร  ราคาตลาด 200,000 บาทต่อตารางเมตร โดยรูปแบบ A ขนาด 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่  30.01-30.10  ตารางเมตร  รูปแบบ B ขนาด 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่  39.35 ตารางเมตร รูปแบบ C ขนาด 2 ห้องนอน เริ่มต้นที่   61.90-73.66 ตารางเมตร  รูปแบบ Loft 42.17-125.55 ตารางเมตร รูปแบบ Duplex  95.62 ตารางเมตร และห้อง Penthouse 104.24-147.95 ตารางเมตร โครงการออกแบบในสไตล์โคโลเนียล คอนเทมโพรารี่ (Colonial Contemporary Design) มีสิ่งอำนวยความสะดวกล็อบบี้ที่โอ่โถง ห้องเด็ก สระว่ายน้ำแบบชมวิว 360 องศา ที่ชั้น 18 และ ห้องฟิตเนสบนชั้น 21 ห้องสกายเล้าจ์บน Roof floor ซึ่งสามารถมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม และโครงการจัดให้มีพื้นที่จอดรถสูงถึง 83% พร้อมบริการ Door Man และ Valet service โครงการตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 44 เข้าซอยมาเพียงแค่ 60 เมตร  ใกล้ถนนเส้นหลักอย่าง ถนนเจริญกรุง, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนพระราม 3 และถนนสาทร ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ด่านถนนจันทน์ เพียง 2 นาที มีเส้นทางลัดให้ได้ใช้หลายทาง รวมถึงเป็นโครงการที่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สถานี นั่นก็คือรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และ BTS สะพานตากสิน อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งงาน โรงเรียน โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยห่างจากโรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่ เพียง 400 เมตร  รร.กรุงเทพคริสเตียน และ รร.อัสสัมชัญ บางรัก รวมถึงเป็นโครงการที่ใกล้กับ Asiatique The Riverfront แหล่งท่องเที่ยวบนถนนเจริญกรุง และ Four Seasons Hotel Bangkok โรงแรมระดับ 5 ดาว ในระยะที่สามารถเดินเท้าไปได้ และยังไม่ไกลจากห้างที่เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพ การเดินทางจากโครงการจึงเชื่อมต่อโดยการโดยสารรถ เรือ รถไฟฟ้า ไปยังจุดต่างๆ โดยง่าย ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.altitudesymphony.com หรือโทรติดต่อได้ที่เบอร์ 0952478999 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป      
ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง มองกลุ่มอสังหาฯ ไฮเอ็น หันจับมือเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ระดับโลกตอบโจทย์ลูกค้า

ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง มองกลุ่มอสังหาฯ ไฮเอ็น หันจับมือเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ระดับโลกตอบโจทย์ลูกค้า

  ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง เดินหน้าตลาดอสังหาฯ ซุปเปอร์ลักซัวรี่  โครงการอัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 บ้านเดี่ยว 8 ยูนิต มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ออกแบบสไตล์ Modern Luxury ที่มีกลิ่นอาย New England Glamorous คัดสรรเฟอร์นิเจอร์ฝีมือดีไซน์เนอร์ระดับโลก ตอบโจทย์รสนิยมเฉพาะของคนช่างเลือก     นางสาวกมนนัทธ์ เต็มไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด แบรนด์ แกลเลอรี่ ที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านจาก 7 ดีไซน์เนอร์ชื่อดังในวงการเฟอร์นิเจอร์ระดับโลกภายใต้ 7 แบรนด์ ที่มีสไตล์การออกแบบเป็นเอกลักษณ์ เปิดเผยว่าล่าสุดซอนเดอร์ ลิฟวิ่งได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบตกแต่งภายในให้กับโครงการอัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 โดยซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง โดยเข้าไปดูแลงานตกแต่งภายในส่วนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวร่วมกับผู้ออกแบบตกแต่งภายในโครงการดังกล่าว บนคอนเซปต์โมเดลลักซัวรี่ ที่มีความเรียบแต่หรูหราแบบมีเอกลักษณ์ ใส่ความดีไซน์ลงไปในทุกตารางนิ้วของตัวบ้าน เน้นโถงรับแขกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเน้นการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์ของจากดีไซน์ระดับโลก อาทิ  ของ Maison 55  ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งเข้ากับหินอ่อน Book Match ขนาด Double Volume  และห้องนอนใหญ่ที่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ของ Kelly Hoppen  เข้ามาร่วมด้วย รวมถึงการเข้าไปตกแต่งห้องตัวอย่างด้วยดีไซน์ที่มุ่งตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่อยู่ในระดับกลางบน ถึงระดับบน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อยุคใหม่     “การตกแต่งห้องตัวอย่างให้กับอัลติจูด มาสเตอรี่ ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง ได้คัดสรรเฟอร์นิเจอร์สุดพิเศษ จากใน 7 แบรนด์ ของ Furniture หรู เช่น Maison 55, Tracey Boyd, Nellcote Studio และ Kelly Hoppen เช่น ชุดรับประทานอาหาร REFORM DINING SET 6 ที่นั่ง ที่ซึ่งสามารถเพิ่มความยาวรองรับได้ถึง 10 ที่นั่ง จากทางดีไซนเนอร์ชั้นนำของประเทศอังกฤษอย่าง Tracey Boydซึ่ง คัดสรรแบบ Special Customize Selection  พิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของโครงการอัลติจูด มาสเตอรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มเจ้าของธุรกิจเสริมความงาม แพทย์เสริมความงาม ดารา และเซเลบ ที่ชื่นชอบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ซ้ำแบบใคร” นางสาวกมนนัทธ์กล่าว   ทั้งนี้ ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าโครงการดังต่อไปนี้ โดยการเลือก SPECIAL UNIT SET ซึ่งถูกเลือกโดย ดีไซนเนอร์ชั้นนำในวงการตกแต่งภายใน ซึ่งเป็นโปรโมชั่น และส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าโครงการ อัลติจูด มาสเตอรรี่ เท่านั้น     นายชยพล  หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งพัฒนาโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงระดับลักซัวรี่ใจกลางเมือง เปิดเผยว่า อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 ป็นบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซัวรี่ จำนวน 8 ยูนิต ราคาหลังละ 30.7 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท เป็นบ้านที่มุ่งใช้ วัสดุ สุขภัณฑ์ และเฟอร์นอเจอร์ในระดับบนทั้งหมด เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอ็นที่มีกำลังซื้อสูง เป็นคนช่างเลือก และให้ความสำคัญกับดีไซน์ของบ้านเป็นหลัก ดังนั้น จงต้องพิถีพิถันในการเลือกวัสดุ และของตกแต่งบ้านจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เด่นชัด ที่สำคัญแบรนด์ต้องเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว     “ที่เราเลือกซอนเดอร์ ลิฟวิ่งมาเป็นพันธมิตร เนื่องจากแบรนด์เป็นที่รู้จักในแวดวงของคนที่ชอบแต่งบ้านและหลงใหลชื่นชอบงานดีไซน์ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับลูกค้าของอัลติจูด มาสเตอรี่ที่มองหาบ้านและเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์โดดเด่นเฉพาะตัวไม่ซ้ำแบบ ทั้งยังมีความละเอียดในการออกแบบและในขั้นตอนการผลิตมีที่มาที่ไปของชิ้นงานแต่ละชิ้น เพราะเป็นงานดีไซน์จากดีไซเนอร์ระดับโลก ส่งผลให้ผู้เป็นเจ้าของรู้สึกภาคภูมิใจกับสินค้าซึ่งบ่งบอกถึงรสนิยมอันดีของผู้เป็นเจ้าของ ประกอบกับดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ทุกตัวมีความร่วมสมัยอยู่ตลอดเวลา“ นายชยพล กล่าว   พบกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านไฮเอนด์ 7 แบรนด์ จาก 7 ดีไซเนอร์อย่าง Thomas Bina, Tracey Boyd, Andrew Martin, Maison 55, Nellcote Studio, Coup&Co., และ Kelly Hoppen ได้ที่ SONDER living Thailand Flagship Gallery บนถนนพระรามเก้า ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10:00 – 19:00 น. และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10:00-18:00 น. รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าเยี่ยมชมที่ Official Website: www.sonderliving.com/th หรือที่ Facebook: sonderlivingthailand    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการอัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 http://www.altitudemastery.com
อัลติจูด เปิดตัว “อาสะ” (ASA) คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ครั้งแรก เจาะกลุ่มพนักงานย่านชานเมือง

อัลติจูด เปิดตัว “อาสะ” (ASA) คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ครั้งแรก เจาะกลุ่มพนักงานย่านชานเมือง

อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ “อาสะ” (ASA) ประเดิมโครงการแรก “อาสะ อยุธยา-โรจนะ” เจาะกลุ่มพนักงานในย่านนิคมโรจนะ ชูดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่าง หวังเป็นทางเลือกใหม่ทดแทนตลาดเช่า นายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการบริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า  “อาสะ”(ASA) เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมแบรนด์ล่าสุดจากอัลติจูด ซึ่งจะเป็นกลุ่มสินค้าเดียวที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในเซ็กเม้นท์ของ Effortable Condo โดยโครงการแรกที่เปิดตัว คือ “อาสะ อยุธยา-โรจนะ” คอนโดมิเนียมสไตล์โมเดิร์นเจแปนนีส ตั้งอยู่ติดกับโลตัส โรจนะ และใกล้นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ เพียง 3 นาที เป็นโลว์ไรส์คอนโดมิเนียม 8 ชั้น จำนวน 242 ยูนิต มูลค่าโครงการ 330 ล้านบาท “ทำเล อยุธยา-โรจนะ เป็นทำเลรอบนอกที่มีการเติบโตสูง เป็นแหล่งของนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีการจ้างงานและมีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก มีพนักงานระดับปฏิบัติการจนถึงระดับบริหาร ตลาดที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดเช่า เช่น อพาร์ทเม้นต์ หอพัก เป็นหลัก  เราจึงเข้ามาเติม Demand ที่ลูกค้าต้องการ คือ การพัฒนาสินค้าประเภทคอนโดมิเนียม ที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการ ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มพนักงานระดับหัวหน้า หรือระดับบริหาร เราจึงได้พัฒนาโครงการ “อาสะ อยุธยา-โรจนะ ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มนี้เป็นหลัก  โดยโครงการนี้จะแตกต่างทั้งในเครื่องดีไซน์ และฟังก์ชั่นในการใช้งาน เพื่อรองรับการพักอาศัยได้อย่างลงตัว” นายขวัญชัย กล่าว  ล่าสุดเมื่อวันที่ 24-25 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดงานพรีเซลล์เปิดตัวโครงการ “อาสะ อยุธยา-โรจนะ” เป็นครั้งแรก โดยในงานได้เชิญ นักแสดงหนุ่ม เวียร์-ศุกลวัฒน์ มาให้ความบันเทิงกับกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นพนักงานย่านนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และประชาชนบริเวณรอบโครงการ โดยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 2 วัน มียอดจองซื้อโครงการแล้วถึง 50%  สำหรับ “อาสะ อยุธยา-โรจนะ” คอนโดมิเนียมสไตล์โมเดิร์นเจแปนนีส สูง 8 ชั้น จำนวน 242 ยูนิต มูลค่าโครงการ 330 ล้านบาท บนเนื้อที่โครงการขนาด 1 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา ประกอบด้วยห้องพักอาศัย 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยขนาด 23.32 – 36.17 ตารางเมตร ห้องนอนดีไซน์พิเศษ เน้นฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ลงตัวพร้อมโซนทำอาหาร ที่ใช้งานได้จริง, แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยขนาด 47.30 – 52.01 ตารางเมตร ดีไซน์พิเศษรองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว เน้นฟังก์ชั่นห้องนั่งเล่น ขนาดใหญ่ พร้อมห้องครัวแยกและแบบ 2 ห้องนอนดีไซน์พิเศษ Duo Room พื้นที่ใช้สอยขนาด 31.43 – 32.52 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นห้องแบบพิเศษ เหมาะทั้งอยู่เองและลงทุนปล่อยเช่า มาพร้อมดีไซน์ ที่ลงตัว และตู้เสื้อผ้าแบบBuilt in ทั้งนี้ โครงการตั้งอยู่ที่ ถ.โรจนะ ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา บนทำเลศักยภาพ สะดวกสบายกับเส้นทางการคมนาคมที่หลากหลาย ทั้งการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และออกต่างจังหวัด เพียง 100เมตรจากโลตัส และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ แวดล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าและแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบสนองทุกความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในโครงการ อาทิ ล็อบบี้ดีไซน์พิเศษ พร้อมห้องอเนกประสงค์ สวนส่วนกลางสไตล์ Modern Zen ฟิตเนส สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และ CCTV พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24ชั่วโมง ในราคาเริ่มต้นเพียง 989,000 บาท
อัลติจูด วางเป้า 3 ปีเปิดโครงการรวม 7,000 ลบ. หวังขึ้นแท่น Top3 ในเซ็กเม้นท์

อัลติจูด วางเป้า 3 ปีเปิดโครงการรวม 7,000 ลบ. หวังขึ้นแท่น Top3 ในเซ็กเม้นท์

อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดแผนรุก วางแผนโต 3 ปี ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการ 7,000 ล้านบาท เจาะตลาด Young Success มั่นใจปีนี้กวาดรายได้ 1,200ล้านบาท หวังชิง Top 3 ในเซ็กเม้นท์บ้านลักซัวรี่ราคา 20 ล้านบาท และโฮมออฟฟิตราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งพัฒนาโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงระดับลักซัวรี่ใจกลางเมือง เปิดเผยว่า ทีมผู้บริหารได้วางกลยุทธ์ในดำเนินธุรกิจของบริษัท คือ พัฒนาที่อยู่อาศัยกลางเมืองทั้งแนวราบ และแนวสูง บนขนาดที่ดินไม่ใหญ่มาก เพราะที่ดินในเมืองหายากขึ้นทุกวัน แต่ในทางกลับกัน ที่ดินประเภทนี้เป็นที่ต้องการของ ผู้บริโภคจำนวนมาก ซึ่งอัลติจูดจะเข้ามาจับตลาดกลุ่มนี้ซึ่งเป็นตลาดที่มี Demand มาก แต่กลับมี Supply น้อย และเราใช้ช่องว่างทางการตลาดนี้ มาเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจของเรา โดยมุ่งพัฒนาให้เป็นโครงการที่เป็น Niche Luxury มุ่งเจาะกลุ่มผู้ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย หรือ  Young Success ที่ต้องการอยู่อาศัยในเมือง เพราะเดินทางสะดวก มีไลฟ์สไตล์ในแบบที่ต้องการ และยังสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ครอบครองได้เป็นอย่างดีด้วยกลยุทธ์นี้เรามั่นใจว่าจะผลักดันให้ อัลติจูด ขึ้นแท่นเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับ Top 3 ในเซ็กเม้นท์ สำหรับบ้านลักซัวรี่ราคา 20 ล้านบาท และ โฮมออฟฟิตราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ภายใน 3 ปี ที่ผ่านมาเราเปิดขายโครงการแล้ว ทั้งสิ้น 5 โครงการ คือ  บ้านเดี่ยว 1 โครงการ ได้แก่ อัลติจูด มาสเตอรี่,  โฮมออฟฟิต 1 โครงการ คือ  โครงการอัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์ ส่วนคอนโดมิเนียมมีอีก 3 โครงการ คือ  อัลติจูด ดีไฟน์, อัลติจูด สามย่าน-สีลม และโครงการ โอกาส ซึ่งทุกโครงการ ล้วนได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีมาก  สำหรับในปี 2561 นี้ เราเปิดขายอีก 4 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ บ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ อัลติจูด มาสเตอรี่ 1 โครงการ, โฮมออฟฟิต 1 โครงการ ได้แก่ โครงการอัลติจูด พรูฟ พระราม 9 และ คอนโดมิเนียม อีก 2 โครงการ โดยอยู่ย่านเจริญกรุง 1 โครงการ และอีก 1 โครงการ เป็นแบรนด์ใหม่ ชื่อ อาสะ (ASA) อยู่ที่โรจนะ จังหวัดอยุธยา ติดกับโลตัส โรจนะ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายที่ 2,000 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งมาจากการโอนโครงการที่เปิดขายเมื่อปีที่แล้ว คือ โครงการอัลติจูด มาสเตอรี่, อัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์  และคอนโดอีก 2 โครงการ การวางแผนขึ้นสู่การเป็น Top 3 ในเซ็กเม้นท์สำหรับบ้านลักซัวรี่ราคา 20 ล้านบาท และ และโฮมออฟฟิตราคา 10 ล้านบาขึ้นไป ทำให้บริษัทต้องวางแผนการดำเนินงานอย่างรอบคอบ เพราะเราต้องการรับรู้รายได้และต้องการยอดโอนในทุกไตรมาส ทำให้เราต้องเข้มข้นในการวางแผนการพัฒนาโครงการ ซึ่งจะพัฒนาแนวราบกับแนวสูงควบคู่กันไป โดยในช่วงระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ไป เราวางเป้าเปิดตัวโครงการถึง 7,000 ล้านบาท ด้านนายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการบริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เผยถึงการสร้างแบรนด์ และการทำงานด้านการตลาดว่า โจทย์ที่ได้รับมา คือ ต้องทำการตลาดเพื่อส่งให้แบรนด์สินค้า และแบรนด์บริษัทเกิดการจดจำให้ได้ ด้านการทำแบรนด์สำหรับสินค้านั้น  เราได้วาง Brand Segmentation ผ่านชื่อโครงการ ได้แก่ 1) แบรนด์อัลติจูด มาสเตอรี่ (Mastery) ซึ่งเป็นแบรนด์สำหรับบ้านเดี่ยวระดับลักซัวรี่ ราคาประมาณ 20-45 ล้านบาท  2) แบรนด์อัลติจูด พรูฟ (Prove) เป็นแบรนด์สำหรับโฮมออฟฟิต ราคาประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป  และ 3) คอนโดมิเนียมแบรนด์อัลติจูด ซึ่งจะเป็นแบรนด์สำหรับคอนโดลักซัวรี่กลางเมือง  และ 4) คอนโดมิเนียมแบรนด์ อาสะ (ASA) ซึ่งจะเป็นสินค้า เดียวที่อัลติจูดพัฒนาขึ้นมาโดยเป็น Effortable Condo โดยโครงการแรกที่กำลังจะเปิดตัว คือ โครงการอาสะ อยุธยา-โรจนะ การวางแบรนด์สินค้าที่ชัดเจน จะสร้างการจดจำที่ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้ง่ายขึ้นด้วย  สำหรับในปี 2561 เราเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านโลกดิจิตอล และบุกทุกสื่อ เพื่อสร้างการรับรู้ ให้รู้จักแบรนด์อัลติจูด ให้มากที่สุด ทั้ง Below the line และ Above the line เพื่อทำการตลาดทั้งการสร้างแบรนด์บริษัท และแบรนด์สินค้า ควบคู่กันไป "สำหรับมุมมองด้านภาพรวมของตลาดอสังหาฯเชื่อว่าในทุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีช่องว่างที่มี demand มากกว่า supply เสมอ หากเราวิเคราะห์ตลาดได้ชัดเจน และสร้างความแตกต่างได้ เราก็สามารถเติบโตได้ เช่น ตลาดแนวราบชานเมืองปัจจุบันยังมีที่จัดสรร รอสร้าง รอโอน เหลือเป็นจำนวนมากพอสมควร หลายโครงการ มีต้นทุนต่ำ เพราะเป็นที่ดินที่ซื้อสะสมไว้ก่อนหน้า แต่หากผู้พัฒนาโครงการรายใหม่ที่ไม่มีที่ดินสะสมมาก่อน หรือเข้าสู่ ตลาดภายหลัง อาจมีจะความเสียเปรียบ และต้องเฉลี่ยกับหลายๆ โครงการที่มีอยู่ก่อน เรามองถึงโอกาส ในการเติบโต มองช่องทางใหม่ๆ เช่น คอนเซ็ปต์ บ้านหรูใจกลางเมือง หรือ โฮมออฟฟิตใจกลางเมือง มีโครงการใหม่เกิดขึ้นน้อย และแทบไม่มีโครงการสะสมรอขายเลย แต่ demand ยังคงมีสม่ำเสมอ อีกทั้งราคาต่อหน่วย ที่ถีบตัวสูงขึ้นทำให้ โครงการที่มีเพียงไม่กี่ยูนิต แต่มีมูลค่าของโครงการสูงกว่าโครงการแนวราบขนาดใหญ่ชานเมือง สามารถเติบโตได้ดี ซึ่งโครงการขนาดไม่ใหญ่มากแบบนี้ สามารถสร้างยอดขายและยอดรับรู้ได้รวดเร็ว เพียงแต่ผู้ประกอบการจำเป็นต้อง มีศักยภาพในด้านการตลาด การขาย การออกแบบ และการควบคุมคุณภาพ งานก่อสร้างให้ดีด้วย”นายขวัญชัยกล่าว
อัลติจูด เปิดขายแนวราบพร้อมกัน 3 โครงการ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ชูจุดขาย “โครงการหรู ใจกลางเมือง” เร่งส่งโปรฯ ช็อคตลาดอสังหาฯ “ลดสูงสุด 2 ลบ. แถมลิฟต์ทุกยูนิต”

อัลติจูด เปิดขายแนวราบพร้อมกัน 3 โครงการ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ชูจุดขาย “โครงการหรู ใจกลางเมือง” เร่งส่งโปรฯ ช็อคตลาดอสังหาฯ “ลดสูงสุด 2 ลบ. แถมลิฟต์ทุกยูนิต”

อัลติจูด ระเบิดศึกแนวราบ เปิดขายพร้อมกัน 3 โครงการ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ทั้งบ้านเดี่ยวและโฮมออฟฟิศ ตีโจทย์พัฒนาโครงการเจาะช่องว่างทางการตลาด เน้นโครงการหรูใจกลางเมือง พร้อมดันโปรโมชั่นช็อควงการด้วย “ส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท พร้อมติดตั้งลิฟต์ทุกยูนิต” ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2561 นายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการบริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งพัฒนาโครงการหรูใจกลางเมือง ครอบคลุมทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง กล่าวว่า “ต้นปีนี้อัลติจูดจะรุกตลาดแนวราบพร้อมกันอย่างเป็นทางการถึง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ คือ อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 และโฮมออฟฟิศอีก 2 โครงการ คือ อัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์ และ อัลติจูด พรูฟ พระราม 9 มูลค่ารวมกว่า 700  ล้านบาท  ซึ่งทุกโครงการล้วนตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง สามารถสนองตอบความต้องการของกลุ่มประกอบการ หรือ SME ที่เป็น Young Success คือ ผู้ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย โดยการพัฒนาโครงการทั้ง 3 โครงการ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือโฮมออฟฟิศ เราล้วนให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้เป็นหลัก โดยในช่วง การเปิดขายอย่างเป็นทางการนี้ บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยมอบส่วนลด 2,000,000 บาท พร้อมติดตั้งลิฟต์ในทุกยูนิต โดยโปรโมชั่นเริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคมนี้ การพัฒนาโครงการที่เป็นโครงการหรูใจกลางเมือง มีกลยุทธ์หลักในการหาที่เพื่อพัฒนาโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการแนวราบหรือแนวสูง เพราะเรามองว่าเป็นโอกาส และเป็นช่องว่างทางการตลาด ในการพัฒนาสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้า หรือคนที่ต้องการมีบ้านหรูใจกลางเมือง หากจะมองว่าเรา Niche ที่เป็นการพัฒนาโครงการเพื่อคนเฉพาะกลุ่มก็อาจจะเป็นไปได้ เมื่อกลยุทธ์การหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเป็นดังนี้แล้ว กลุ่มเป้าหมายของเราจึงเจาะไปที่กลุ่ม Young Success ที่ต้องการความเป็น “เมือง” เพราะเดินทางสะดวก มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ และยังสะท้อนภาพลักษณ์ของเจ้าของได้เป็นอย่างดีในอีกทางหนึ่ง ซึ่งลักษณะของคนกลุ่มนี้ ในแง่ของเหตุผลในการตัดสินใจซื้อโครงการ คือ ทำเล ความสะดวกในการเดินทาง ความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัย อีกทั้งบ้านใจกลางเมืองในอนาคตนั้นจะมีมูลค่าสูงมากกว่าบ้านหรูย่านชานเมือง จึงเป็นโครงการที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ​ รวมถึงต้องมีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย แตกต่าง พร้อมฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้จริงนั่นเอง” สำหรับรายละเอียดโครงการทั้ง 3 โครงการมีดังต่อไปนี้ อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 “อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24” (ALTITUDE Mastery Phaholyothin 24) บ้านเดี่ยวระดับ Luxury พร้อมสระว่ายน้ำทุกยูนิต ในทำเลใจกลางเมือง ใกล้เซ็นทรัล ลาดพร้าว เพียง 600 เมตร และ 5 นาที จาก BTS พหลโยธิน 24 เป็นโครงการที่เน้นเรื่อง Private Community มีเพียง 8 หลัง ราคาเริ่มต้นที่ 30.7 – 43.78 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 240 ล้านบาท อัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์ อัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์ อัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์ “อัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์” (ALTITUDE Prove Kaset Nawamin) โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พร้อมลิฟต์ส่วนตัวเพียง 8 ยูนิต ที่ตอบรับทุกความลงตัวในทุกธุรกิจ บนพื้นที่ที่เหมาะทั้งอยู่อาศัยและต่อยอดกิจการ เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าโครงการในอนาคต พร้อมเชื่อมต่อสู่โซนกลางใจเมืองได้อย่างง่ายดาย ในราคาเริ่มต้นที่ 19.7 – 26.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 175 ล้านบาท อัลติจูด พรูฟ พระราม 9 อัลติจูด พรูฟ พระราม 9 อัลติจูด พรูฟ พระราม 9 “อัลติจูด พรูฟ พระราม 9” (ALTITUDE Prove Rama 9) โฮมออฟฟิศ 4 ชั้นครึ่ง จำนวน 16 ยูนิต ที่สุดของทำเลติดถนนใหญ่ ติดทางด่วนพระราม 9 และเพียง 700 เมตร จากแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง รองรับทีมงานได้ 25-30 คน ในรัศมีแห่งความก้าวหน้า ใกล้พื้นที่เศรษฐกิจ CBD การเดินทางสะดวก และโอกาสในการเติบโตของมูลค่าที่ดินในอนาคตสูง ในราคาเริ่มต้น 14.7 – 28.8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท นายขวัญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “โปรโมชั่นของทั้ง 3 โครงการ ที่เรานำมามอบให้ในช่วงเปิดขายอย่างเป็นทางการขายได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 0-2160-5165 หรือ www.altitude.co.th