Tag : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

9 ผลลัพธ์
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประเดิมบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury “มาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา”

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประเดิมบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury “มาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา”

บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดย MJ One Group ได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองจนประสบความสำเร็จมาหลายโครงการ โดยได้เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพของถนนกรุงเทพกรีฑา ทำเลทองฝั่งกรุงเทพตะวันออก พร้อมเปิดตัวโครงการ มาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา ประเดิมตลาดโครงการบ้านเดี่ยวระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่เป็นครั้งแรก   นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า MJ ONE GROUP เป็นบริษัทในเครือที่มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการในหลากหลายรูปแบบของลูกค้า โดยนำเอาประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโฮมออฟฟิส (Home Office), คอนโดมิเนียมทั้ง High-rise และ Low-rise, พื้นที่ค้าปลีก รวมถึงโรงแรมและที่พัก (Hospitality) มาสู่การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับ ซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่บนถนนกรุงเทพกรีฑา   โดยทำเลถนนกรุงเทพกรีฑามีศักยภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวกสบาย อยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ และสามารถเดินทางเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ พัฒนาการ รามคำแหง พระราม 9 มอเตอร์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งมีรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี) ที่จะแล้วเสร็จในปี 2564 และ 2567 ตามลำดับ รวมถึง Airport Rail Link และทางด่วนเฉลิมมหานครที่มีอยู่เดิม นอกจากนี้ ทำเลนี้ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เช่น โรงพยาบาลชั้นนำ โรงเรียนนานาชาติ สนามกอล์ฟและคอมมูนิตี้มอลล์   “บริษัทฯ ได้นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่มาเป็นเวลานาน รวมถึงเลือกหาทำเลที่ตั้งโครงการที่โดดเด่น สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในระดับลักซ์ชัวรี่และซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่มาพัฒนาโครงการบ้านหรู โครงการมาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา” นายสุริยน กล่าวเพิ่มเติม   โครงการมาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา ถ่ายทอดแนวคิดผ่านคอนเซปต์ Prestige Village บนพื้นที่ 12 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา บ้านเดี่ยวระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ 3 ชั้น เพื่อเอกสิทธิ์ในการอยู่อาศัยเพียง 14 หลังเท่านั้น บ้านทุกหลังสร้างเสร็จก่อนขาย มีลิฟท์และสระว่ายน้ำในตัวบ้าน โดยเน้นความเป็นส่วนตัวและเข้าใจถึงความต้องการของทุกคนในครอบครัวที่มีถึง 3 เจอเนอเรชั่น บนพื้นที่ใช้สอยเกือบ 1,000 ตารางเมตร ออกแบบโดยสถาปนิกและมัณฑนากรชื่อเสียงระดับโลก ราคาเริ่มต้นที่ 90 ล้านบาท เจาะกลุ่มเฉพาะ (Niche Market) ผู้บริหารและเจ้าของกิจการ รวมถึงผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่ไม่ไกลจากศูนย์กลางเมือง อยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติและสนามกอล์ฟชื่อดัง   MJ One Group มั่นใจว่าโครงการมาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา จะสามารถสร้างประสบ การณ์ของการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบและสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างแท้จริง   นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันตลาดบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่เปิดตัวแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่มีราคาตั้งแต่ 70 ล้านบาทขึ้นไปนั้น ใน 6 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 7 โครงการเท่านั้น คิดเป็นการเปิดตัวบ้านเดี่ยวในระดับนี้น้อยกว่า 140 หลังในกรุงเทพมหานคร โดยโครงการส่วนใหญ่อยู่ในเมืองและทำเลที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองและชานเมือง ซึ่งทำให้ศักยภาพของการขายและกำลังซื้อของผู้บริโภคต่อบ้านเดี่ยวระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง   แต่เนื่องด้วยราคาที่ดินที่สูงขึ้นมากในใจกลางเมือง ทำให้ผู้พัฒนาไม่สามารถพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในเมืองได้มากนัก โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury จึงมีการพัฒนาในทำเลอื่นๆ ที่ยังสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย และกรุงเทพกรีฑาเป็นอีกทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับ Super Luxury เพราะสะดวกสบายในการเดินทางด้วยเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย   จากการศึกษาถึงความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายโดยซีบีอาร์อีพบว่า ลูกค้าที่ซื้อบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury นอกจากจะพิจารณาในเรื่องทำเลและความสะดวกในการเดินทางแล้ว ยังพิจารณาเรื่องสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ด้วย เช่น บรรยากาศโดยรอบ ความสงบร่มรื่น สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้บ้าน เป็นต้น อาทิ เช่น คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียน และโรงพยาบาล  อีกทั้งแนวความคิดในการออกแบบบ้าน รูปแบบฟังก์ชั่นดีไซน์ และการเลือกใช้วัสดุพรีเมี่ยม ก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ในการตัดสินใจเลือกซื้อ ประกอบกับผู้ซื้อบ้านเดี่ยวในระดับนี้ให้ความสนใจในความเป็นส่วนตัว สังคมภายในโครงการที่ดี และบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ มากกว่าราคาของตัวบ้านแต่เพียงอย่างเดียว  การซื้อบ้านจะมีปัจจัยด้าน Emotional มากกว่าการซื้อคอนโดมิเนียม เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยระยะยาวและมักจะมีมากกว่า 1 เจนเนอเรชั่นอยู่ร่วมกัน   “สำหรับโครงการมาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา มีขนาดที่ดินที่มากเพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่ในทำเลที่เหมาะสม และมีความเป็นส่วนตัวที่สูงมาก เพราะมีเพียงแค่ 14 หลัง จึงเชื่อว่าโครงการนี้ตอบโจทย์และเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างแน่นอน”   มาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ กรุงเทพกรีฑา พร้อมเปิดให้จองแบบเอ็กคลูซีฟในเดือนมีนาคมนี้ โดยโครงการสามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าได้ในเดือนกรกฎาคม ปี 2562 รายละเอียดโครงการ สามารถดูได้จาก www.mj-one.net          
มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ คอนโดโลว์ไรส์เชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิต ติด BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ

มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ คอนโดโลว์ไรส์เชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิต ติด BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ

“อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” เป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพที่มีความสำคัญ เพราะเป็นศูนย์กลางคมนาคมการเดินทางที่เชื่อมต่อถนนหลายสายในการเข้าเมืองหรือออกนอกเมือง ไม่ว่าจะเป็นถนนพญาไท พหลโยธิน ราชวิถี ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส ใกล้สถานที่ราชการ ใกล้สถานพยาบาลชั้นนำและสถาบันทางการแพทย์กว่า 20 แห่ง จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก แต่ทำเลนี้น้อยครั้งที่จะมีการพัฒนาโครงการใหม่ เนื่องด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของรัฐ โครงการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาในทำเลนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นไข่แดงอันล้ำค่าในทำเลศักยภาพ “มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ” (Maestro 07 Victory Monument) คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ระดับไฮเอนด์ ที่พัฒนาโดย บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ชื่อว่ามีความเชี่ยวชาญในการคัดสรรทำเลที่ดีที่สุดในแต่ละย่าน ได้รังสรรค์พัฒนาโครงการขึ้นบนที่ดินผืนงามที่สุดในใจกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ เชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิต เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง โดยทุกรายละเอียดของโครงการในทุกยูนิตได้บรรจงสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อให้ได้มาซึ่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพอย่างเหนือระดับ ก่อเกิดเป็นคอนโดมิเนียมที่ให้นิยามใหม่ของสมดุลแห่งการใช้ชีวิต   ทุกองค์ประกอบของโครงการออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่แสวงหาไลฟ์สไตล์แบบเอ็กซ์คลูซีฟและเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังต้องการใช้ชีวิตในเมือง ในราคาที่จับต้องได้ (Affordable Luxury) ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและกลิ่นอายความเป็นโมเดิร์น อันเป็นซิกเนเจอร์ของงานออกแบบโครงการ  Maestro Residences ทุกทำเล สะท้อนเอกลักษณ์ความเรียบหรู สงบ และสบาย เพื่อให้ผู้พักอาศัยรู้สึกแตกต่างจากบรรยากาศภายนอกโครงการ ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าอยู่ ด้วยการเลือกใช้สีอ่อนจากวัสดุธรรมชาติที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี อาทิ การใช้สีครีมลายหินอ่อนมาตัดกันกับสีดำที่เงางาม เสมือนความแตกต่างของเมืองและธรรมชาติ ที่กลับอยู่ด้วยกันได้สวยงามลงตัว โครงการเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองทุกความต้องการกับพื้นที่ชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด เอาใจสายเฮลตี้แบบจัดเต็มกับสระว่ายน้ำ ลานโยคะ ลานวิ่งจ็อกกิ้ง ห้องซาวน่า ห้องสตีม ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน และเอาใจคนทำงานกับ Creative Space พื้นที่สำหรับปลดปล่อยไอเดียสร้างสรรค์ ต่อยอดความคิดในการทำงานได้อย่างไม่รู้จบ ขณะที่บนชั้นดาดฟ้าก็เต็มอิ่มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ซึ่งสามารถนั่งพักผ่อนกับ Birdcage Cabana กระโจมทรงกรงนกที่ออกแบบอย่างประณีตให้นั่งชิว ชมวิวได้อย่างสบายตาสบายใจ รวมทั้งยังเอาใจคนรักสัตว์เลี้ยงทั้งน้องหมาและน้องแมว โดยอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์แสนรักได้บนพื้นที่  Pet Zone ที่ออกแบบโดยเฉพาะให้กับน้องหมาน้องแมวได้วิ่งเล่นอีกด้วย มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ เชื่อมต่อทุกการเดินทาง ใกล้ BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพียง 300 เมตร และใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช เพียง 500 เมตร และไม่ไกลจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีพญาไท ห่างเพียง 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยโรงพยาบาลชื่อดังระดับประเทศ อาทิ โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, โรงพยาบาลพญาไท 2 อินเตอร์เนชั่นแนล, โรงพยาบาลศูนย์มะเร็งกรุงเทพ, สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์, โรงพยาบาลพญาไท 1, โรงพยาบาลสงฆ์ และโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตลอดจนแวดล้อมไปด้วยสถาบันการศึกษาชั้นนำ อย่าง มหาวิทยาลัยมหิดล, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, โรงเรียนจิตรลดา, วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก และวิทยาลัยแพทย์พระมงกุฎเกล้า และที่สำคัญตัวโครงการยังตั้งอยู่ใจกลางแหล่งช็อปปิ้งที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพมหานคร อาทิ สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, มาบุญครอง (MBK), คิง พาวเวอร์ และเซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า เป็นต้น   สัมผัสกับชีวิตที่สง่างามบนใจกลางทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ ได้แล้ววันนี้ที่ มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ บนซอยราชวิถี 7 คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ความสูง 8 ชั้น จำนวน 171 ยูนิต โดยมีรูปแบบห้องพัก 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ ใช้สอย 27.00 – 29.34 ตร.ม. และ ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 45.51 – 68.37 ตร.ม.   สนใจสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.mde.co.th หรือติดต่อสอบถามได้ที่ Major Development Contact Center โทร. 02-116-1111          
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ตั้งทีม International Business เร่งรุกตลาดต่างชาติวางเป้ายอดขายตลาดต่างชาติเติบโตต่อเนื่อง คาดสิ้นปีนี้โตขึ้น 30%

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ตั้งทีม International Business เร่งรุกตลาดต่างชาติวางเป้ายอดขายตลาดต่างชาติเติบโตต่อเนื่อง คาดสิ้นปีนี้โตขึ้น 30%

ณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เชี่ยวชาญโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์และพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Friendly) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ได้จัดตั้งทีม International Business ขึ้น เพื่อทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะ     นำทีมโดย คุณ พิรุณินทร์ วรรณวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ และทีม International Business บริษัทฯ ได้บุกเจาะตลาดลูกค้าชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งในปี 2561 นี้ได้รุกขยายเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง และไต้หวันที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มีกำลังซื้อ ตั้งเป้ายอดขายตลาดต่างชาติปีนี้ที่ 2,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 30% จากปี 2560 ทั้งนี้บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์เชิงรุกในการขยายสู่ตลาดต่างประเทศด้วยการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับบริษัทพันธมิตรในประเทศและตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ โดยเมื่อเร็วๆนี้ ได้จัด Meet & Greet เชิญตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์มาร่วมงาน เพื่อรับฟังข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และโอกาสทางการขายโครงการเมเจอร์ฯ ที่มีจุดเด่นอยู่บนทำเล CBD ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า หรือ รถไฟใต้ดิน และคุ้มค่าต่อการลงทุน ซึ่งผลตอบรับดีเกินคาด มีตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เข้ามาร่วมงานกันอย่างล้นหลาม
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ชี้คอนโดโลว์ไรส์ทำเลใจกลางเมืองมาแรง จ่อ Sold Out แบรนด์มาเอสโตร 2 โครงการ ขายหมดเกือบ 100% รวมมูลค่า 1,200 ลบ.

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ชี้คอนโดโลว์ไรส์ทำเลใจกลางเมืองมาแรง จ่อ Sold Out แบรนด์มาเอสโตร 2 โครงการ ขายหมดเกือบ 100% รวมมูลค่า 1,200 ลบ.

  เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ชี้จับตาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ทำเลใจกลางเมืองกำลังบูม จ่อปิดการขายคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์แบรนด์ MAESTRO (มาเอสโตร) 2 โครงการ มาเอสโตร 39 สุขุมวิท 39 ยอดขายพุ่งถึง 95% และมาเอสโตร 02 ร่วมฤดี ยอดขายถึง 93% รวมมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ระบุลูกค้าชื่นชอบโครงการเพราะจุดแข็งของแบรนด์ที่แตกต่าง ดีไซน์โดดเด่น แบรนด์แรกของไทยที่นำแนวคิด Classic inspired with modern twist ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว ทำเลใจกลางเมือง และจุดเด่นคอนโดฯ Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ทุกยูนิต เผยทำเลสุขุมวิท 39 ราคาที่ดินพุ่งสูงถึง 40% ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จาก 183,000 บาท/ตร.ม. เป็น 255,000 บาท/ตร.ม. ขณะที่ร่วมฤดี ติดอันดับ 1 ใน 5 ราคาที่ดินสูงสุดในกรุงเทพฯ ระบุคอนโดฯ โลว์ไรส์ดีมานด์พุ่ง ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยมากกว่าลงทุน คาดอนาคตดีมานด์เติบโตต่อเนื่อง   คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปิดการขายคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น แบรนด์ MAESTRO (มาเอสโตร) ทำเลใจกลางเมือง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ มาเอสโตร 39 สุขุมวิท 39 มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท มียอดขายไปแล้ว 95% หรือเหลือเพียง 5 ยูนิต จากทั้งหมด 107 ยูนิต และมาเอสโตร 02 ร่วมฤดี มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท มียอดขายไปแล้ว 93% หรือเหลือเพียง 10 ยูนิต จากทั้งหมด 138 ยูนิต     “มาเอสโตรเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ลูกค้าชื่นชอบโครงการเพราะ จุดแข็งของแบรนด์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น เป็นแบรนด์แรกของไทยที่นำแนวคิด Classic inspired with modern twist ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว ทำเลใจกลางเมือง และคอนโดฯ Pet Friendly ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทุกยูนิต โดยมาเอสโตร 39 สุขุมวิท 39 มีลูกค้าชาวต่างชาติให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น เนื่องจากทำเลสุขุมวิท 39 เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ ชาวญี่ปุ่นอาศัยกันอยู่มาก และเหมาะกับการลงทุน ให้ผลตอบแทนดี ซึ่งทำเลสุขุมวิท 39 ในช่วง 5 ปีที่ ผ่านมา มีการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดจาก 183,000 บาท/ตร.ม. เป็น 255,000 บาท/ตร.ม. หรือปรับเพิ่มสูงถึง 40% ขณะที่ มาเอสโตร 02 ร่วมฤดี ตั้งอยู่ร่วมฤดีซอย 2 ซึ่งเป็นทำเลอันดับ 1 ใน 5 ที่มีราคาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับทำเลอื่นในกรุงเทพฯ นับเป็นพื้นที่ไข่แดงที่คนส่วนน้อยมีโอกาสจะได้ครอบครอง ทำให้โครงการขายดีมาก ส่วนใหญ่ลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยมากกว่าลงทุน คิดเป็นสัดส่วน 70% และ 30% ตามลำดับ ทั้งนี้ทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะปิดการขายภายในงานอีเวนต์ใหญ่ประจำปีที่บริษัทกำลังจะจัดขึ้นในปลายเดือนกันยายนนี้แน่นอน ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมคอนโดฯ ที่ดีที่สุด มอบส่วนลดราคาพิเศษ และเป็นงานที่ไม่ควรพลาด “สำหรับดีมานด์ของคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์นั้น สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ที่สามารถเดินทางสะดวก และมีความสงบ เป็นส่วนตัว เนื่องจากไม่ได้ติดถนนใหญ่ อยู่ในซอย หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนเมือง รวมถึงปล่อยเช่าได้ง่าย เพราะจำนวนห้องน้อยกว่าคอนโดมิเนียมไฮไรส์ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุนเพื่อปล่อยเช่า จึงคาดว่าอนาคตคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์จะมีแนวโน้มดีมานด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง” คุณเพชรลดา กล่าว
เอ็มเจ วัน กรุ๊ป เปิดเกมรุกลุยธุรกิจอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยว  เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ MARVEST HUA HIN

เอ็มเจ วัน กรุ๊ป เปิดเกมรุกลุยธุรกิจอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยว เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ MARVEST HUA HIN

บริษัท เอ็มเจ วัน กรุ๊ป บริษัทในเครือของ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเกมรุกลุยธุรกิจอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยว เดินหน้าเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู MARVEST HUA HIN (มาร์เวสท์ หัวหิน) ชีวิตอีกระดับ ณ ใจกลางเมืองหัวหิน มูลค่าโครงการรวมกว่าหนึ่งพันล้านบาท ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายในการเดินทางและการพักผ่อน เพียง 450 เมตรจากตลาดไนท์มาร์เก็ต แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดดเด่นด้วยส่วนกลางขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของเมเจอร์ฯ หวังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ รักการเดินทางที่ต้องการมีบ้านหลังที่สอง ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ เริ่มต้นเพียง 2.3 ล้านบาท นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บริษัท เอ็มเจ วัน กรุ๊ป บริษัทในเครือของ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MJD) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า จากทิศทางการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ในทำเลเมืองท่องเที่ยวโดยเฉพาะเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และมีการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว อย่าง “หัวหิน” ทำให้มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับภาครัฐได้พัฒนาระบบคมนาคมเชื่อมการเดินทาง ทั้งการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินสู่ภาคตะวันออก ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา, โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวน รอบนอกด้านตะวันตก ทั้งยังมีการเชื่อมโยงเมืองท่องเที่ยว 2 ฝั่งอ่าวไทยเข้าด้วยกัน ด้วยการเปิดบริการเรือเฟอร์รี่จากหัวหิน-พัทยาตั้งแต่ต้นปี 2560 และล่าสุดการเปิดให้บริการเครื่องบินตรงจากกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สู่หัวหิน ของสายการบินแอร์เอเชีย จากการวางระบบพัฒนาการคมนาคมขนส่ง ไม่ว่าจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะเป็นการเชื่อมต่อระบบการเดินทางต่างๆ ให้สะดวกรวดเร็วสบายยิ่งขึ้น ส่งผลให้เมืองเกิดการเติบโตแบบก้าวกระโดด นับเป็นการกระตุ้นทั้งด้านการท่องเที่ยวให้มีการกระจายตัวมากขึ้น และดึงดูดภาคการลงทุนไปในตัว ส่งผลให้เกิดอุปสงค์ด้านการท่องเที่ยวและความต้องการบ้านพักหลังที่ 2 เพิ่มมากขึ้น เอ็มเจ วัน กรุ๊ป เล็งเห็นการเติบโตของตลาดในเซ็กเมนต์นี้ และบริษัทฯ มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา และโครงการคอนโดมิเนียม มิโคนอส ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ล่าสุด เอ็มเจ วัน กรุ๊ป เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ MARVEST HUA HIN คอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Modern Coastal ชีวิตอีกระดับ ณ ใจกลางเมืองหัวหิน ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.3 ล้านบาท กับมูลค่าโครงการรวมกว่าหนึ่งพันล้านบาท ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัท ของบริษัท เอ็มเจ วัน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จุดเด่นของโครงการ MARVEST HUA HIN อยู่ที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับลักซ์ชัวรี่ ที่ตั้งบนทำเลที่ดีที่สุดแห่งไลฟ์สไตล์ใจกลางหัวหิน ใกล้กับซอยหัวหิน 78 เพียง 450 เมตร จากตลาดไนท์มาร์เก็ต สะดวกสบายทุกการเดินทางสู่ย่านธุรกิจ เพียง 350 เมตรถึงโรงพยาบาลซานเปาโล พักผ่อนกับชายหาดหัวหินอันลือชื่อเพียง 900 เมตรเท่านั้น พร้อมแหล่งช้อปปิ้งอีกหลากหลาย โดดเด่นด้วยออกแบบสไตล์ Modern Coastal ที่หยิบเอากลิ่นอายของชายทะเลมารังสรรค์ให้กลายเป็นคอนโดตากอากาศ เน้นการโอบล้อมด้วยธรรมชาติ บนพื้นที่โครงการประมาณ 3 ไร่ วางแผนพัฒนาเป็นอาคาร Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 336 ยูนิต แบบห้องออกเป็น 3 ประเภทให้เลือก ได้แก่ แบบ Type A ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 30 ตร.ม., Type B ขนาด 1 ห้องนอน + Plus พื้นที่ 39 – 40 ตร.ม. และ Type C แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตร.ม. ด้วยแนวคิดการการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ใช้สอยที่ให้ความสำคัญกับทุกคนในครอบครัว พร้อมด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมี่ยมในทุกรายละเอียด โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางและสวนขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำยาวกว่า 50 เมตร แบบ Modern Tropical พร้อมสระเด็ก สนามเด็กเล่น ฟิตเนส อ่างจากุซซี่และระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชม. โดยบริษัทวางแผนจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม 2561 นี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคม 2562 “ด้วยวิสัยทัศน์ความเป็นเมจเอร์ฯ ที่ใส่ใจในเรื่องคุณภาพ จึงมั่นใจได้ว่า MARVEST HUA HIN จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชื่นชอบความเป็น Urban Living ผู้ที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศหลังที่ 2 ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก รวมถึงนักลงทุนที่กำลังสนใจลงทุนในคอนโดตากอากาศ เพราะด้วยราคาเปิดตัวของ MARVEST HUA HIN ที่สามารถให้เป็นเจ้าของคอนโดกลางเมืองท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น” สามารถเข้าเยี่ยมชม Sales Gallery ได้แล้ววันนี้ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสูงสุด เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.mj-one.net (เงื่อนไขตามที่บริษัทกำหนด) สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 086-842-9922
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์จัดงาน ‘MAESTRO MASTERFUL LIVING’นำ 3 คอนโดพร้อมอยู่แบรนด์ MAESTRO มอบส่วนลดสูงสุดถึง 2 แสนบาท ฟรีเฟอร์ฯ เริ่ม 3.8 ล้าน วันนี้–24 มิ.ย.นี้เท่านั้น

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์จัดงาน ‘MAESTRO MASTERFUL LIVING’นำ 3 คอนโดพร้อมอยู่แบรนด์ MAESTRO มอบส่วนลดสูงสุดถึง 2 แสนบาท ฟรีเฟอร์ฯ เริ่ม 3.8 ล้าน วันนี้–24 มิ.ย.นี้เท่านั้น

บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จัดงาน ‘MAESTRO MASTERFUL LIVING’ ครั้งแรกกับการสร้างสรรค์การจัดแสดงในรูปแบบ Art exhibition ถ่ายทอดแนวคิดและความหมายในทุกรายละเอียดของการพัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ภายใต้แบรนด์ MAESTRO (มาเอสโตร) พร้อมเปิดตัว 3 คอนโดมิเนียม ตกแต่งครบพร้อมอยู่ โลเคชั่นสุดไพร์ม มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ ใกล้ MRT ลุมพินี และ BTS ศาลาแดง, มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ใกล้ MRT พระราม 9 และมาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี ใกล้ BTS  ราชเทวี เพียง 300 เมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.8 ล้านบาท จัดเต็มโปรโมชั่นมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 200,000 บาท ฟรีเฟอร์นิเจอร์ ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน วันนี้ถึง 24 มิ.ย. นี้เท่านั้น ที่ ลานเซ็นทรัล คอร์ท ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
เมเจอร์ฯ เปิดตัว “มิวนีค หลังสวน” คอนโดฯ หรูฟรีโฮลด์ในทำเลหลังสวน ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท เปิดจอง 10 – 11 ก.พ.นี้

เมเจอร์ฯ เปิดตัว “มิวนีค หลังสวน” คอนโดฯ หรูฟรีโฮลด์ในทำเลหลังสวน ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท เปิดจอง 10 – 11 ก.พ.นี้

เมเจอร์ฯ ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯระดับลักซ์ชัวรี่  เปิดตัว “มิวนีค หลังสวน” (MUNIQ Langsuan) คอนโดฯหรู ไฮไรซ์แบบฟรีโฮลด์ มูลค่า 4,085 ล้านบาท  ดีไซน์เหนือระดับบนทำเลสุดพรีเมียมใจกลางเมือง แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และใกล้สวนลุมพินี ดีเดย์เปิดจอง 10 - 11 ก.พ.นี้ หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงกับโครงการ  “MUNIQ Sukhumvit 23” (มิวนีค สุขุมวิท 23) คอนโดมิเนียมหรูไฮไรซ์ บนทำเลระดับพรีเมียมย่านอโศก - สุขุมวิท มูลค่า 2,800 ล้านบาท ไปเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ล่าสุด เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่  ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยการเปิดตัวเมกะโปรเจ็กต์ “มิวนีค หลังสวน” (MUNIQ Langsuan) คอนโดมิเนียมหรูไฮไรซ์แบบฟรีโฮลด์ (Freehold) ที่สามารถส่งต่อเป็นมรดกล้ำค่าแก่ทายาท บนทำเลพรีเมียมใจกลางเมืองย่านหลังสวน เชื่อมต่อถนนสารสิน ถนนต้นสน และถนนวิทยุ ซึ่งถือเป็นย่าน CBD ของกรุงเทพฯ  เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS ชิดลม ใกล้ทางด่วนเพลินจิต และพระราม 4 แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ศูนย์การค้าชั้นนำ สถาบันการศึกษา โรงแรมหรู โรงพยาบาล ธนาคาร ร้านอาหารชื่อดัง ตลอดจนเป็นย่านที่ตั้งของสถานทูตและเป็นพื้นที่หนึ่งเดียวใจกลางเมืองที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ อย่างสวนลุมพินี ทั้งยังโดดเด่นด้วยดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้แนวคิด “Live Your Everlasting Romance” ผสานศิลปะในการออกแบบ และการใช้สอยพื้นที่อย่างลงตัว โดยเตรียมเปิดจองเฟสแรกกุมภาพันธ์นี้ ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “โครงการมิวนีค หลังสวน ถือเป็นโครงการระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่พักอาศัยใจกลางเมืองอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การตกแต่งที่งดงามเหนือกาลเวลา โดดเด่นด้วยการใช้วัสดุคุณภาพมาตรฐานจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และโดยเฉพาะทำเลบริเวณหลังสวน ซึ่งถือเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายแห่ง และอยู่ติดกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เป็นปอดของคนกรุงเทพฯ เพียงเดินข้ามไป 100 เมตรก็ถึงประตูทางเข้าสวนลุมพินี ทั้งยังอยู่ใกล้โครงการหลังสวน วิลเลจ ที่มีทัศนียภาพสวยงาม และศูนย์ Medical Center นอกจากนี้ ปัจจุบัน ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่พัฒนาโครงการบนถนนเส้นนี้แบบลีสโฮลด์ (Leasehold) เนื่องจากพื้นที่แปลงสวย ที่เหมาะแก่การพัฒนาเป็นอสังหาริมทรัพย์มีอยู่อย่างจำกัด แต่โครงการ มิวนีค หลังสวน แทบจะเป็นพื้นที่ผืนสุดท้ายที่พัฒนาโครงการแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) ท่ามกลางตึกสูงที่เป็นลีสโฮลด์บนถนนหลังสวน จึงส่งผลให้ที่ดินบนทำเลหลังสวนมีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพฯ โดยปัจจุบันนี้ราคาตกอยู่ตารางวาละ 500,000 บาท (ที่มา : กรมธนารักษ์   รอบบัญชี ปี 2559-2562) และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี มิวนีค หลังสวน จึงถือเป็นโครงการที่มีมูลค่า เหมาะกับการซื้อเพื่อเป็นที่พักอาศัย และการลงทุนอย่างมาก” สำหรับโครงการ มิวนีค หลังสวน  อยู่สุดถนนหลังสวน ซอย 7 ตั้งอยู่ในซอยต้นสน มีขนาด 1-1- 66.5 ไร่ สูง 28 ชั้น จำนวน 166 ยูนิต  ทุกห้องถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ โล่งสบาย มอบความเป็นส่วนตัวที่เหมาะกับการพักอาศัยอย่างแท้จริง รวมถึงใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุคุณภาพมาตรฐานระดับโลก โดยขนาด 1 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย  50 - 78 ตร.ม. ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ 83 - 101 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน มีพื้นที่ 121 - 179 ตร.ม. นอกจากนี้ยังมียูนิตพิเศษ เดอะ คอลเลคชั่น ที่มีขนาดพื้นที่ 71 - 254 ตร.ม. ส่วนพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางออกแบบไว้อย่างหรูหรามีระดับและพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ ฟิตเนส สระน้ำอุ่น สระเด็ก สปา ซาวน่า จากุชชี่ สวนลวยฟ้า เลานจ์สำหรับการผ่อนคลายสังสรรค์ พร้อมห้อง Private Chef ขณะเดียวกันยังสะดวกสบายด้วยบริการจุดชาร์จรถไฟฟ้า (EV Chargers) ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ ที่จอดรถออโตเมติกปาร์คกิ้ง (Automatic Parking) ซึ่งสามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 185 คัน หรือ 111% ของจำนวนห้อง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบสูงสุด ผู้บริหารเมเจอร์ฯ กล่าวต่อว่า “กลุ่มเป้าหมายของโครงการมิวนีค หลังสวน เป็นคนรุ่นใหม่ อายุ 30 ปีขึ้นไป ที่เริ่มประสบความสำเร็จในธุรกิจ ที่มีไลฟ์สไตส์ทันสมัย ให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัย เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ดังนั้นการออกแบบจึงอยู่ภายใต้แนวคิด “Live Your Everlasting Romance” ผสานศิลปะเข้ากับการออกแบบที่มีความสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว คือ มีศิลปะในการใช้ชีวิต มีความรับผิดชอบในการทำงานและรู้จักหาความสุขให้กับตนเอง เรียกว่าสมดุลทั้ง ชีวิตการทำงาน ชีวิตส่วนตัว และครอบครัว ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยอย่างมาก เนื่องจากสะท้อนไลฟ์สไตล์ของเขาได้เป็นอย่างดี” ส่วนความคาดหวังในยอดการจอง ดร.สุริยา เชื่อมั่นว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้การส่งออกของไทยดีขึ้น การลงทุนจากภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น ทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ผนวกกับกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าระดับบน ยังมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง ขณะที่แนวโน้มอสังหาฯระดับลักซ์ชัวรี่ในทำเลพรีเมียมนั้น ยังคงเป็นที่ต้องการของลูกค้าระดับบน ที่ต้องการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองมากขึ้น หรือนักลงทุนชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในทำเลไพร์มแอเรียในกรุงเทพฯ เนื่องจากมี Capital Gain สูง โครงการ มิวนีค หลังสวน ยังมีเส้นทางคมนาคมสะดวกอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แต่ยังคงรักษาไว้ซึ่งความเงียบสงบ และแวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียว โดยราคาต่อ ตร.ม. เริ่มต้นอยู่ที่ 12.9 ล้านบาท หรือ 265,000 บาทต่อ ตร.ม.ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของมิวนีค หลังสวน อยู่ที่ 310,000 บาท ซึ่งหลังจากเปิดตัวโครงการ และเริ่ม Pre-Sales ในเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าจะมียอดจองไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ” ดร.สุริยา กล่าวทิ้งท้าย คุณอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า “ตลาดคอนโดมิเนียมมีปัจจัยบวกสนับสนุนค่อนข้างมาก จึงทำให้คอนโดในย่านกลางเมืองปีนี้มีซัพพลายใหม่เพิ่มขึ้น 10% หรือ ราว 1.2 – 1.5 หมื่นยูนิต จากปีที่แล้วเปิดตัวกว่า 1.2 หมื่นยูนิต อีกทั้งหลังสวนเป็นย่านที่มีศักยภาพสูง เพราะจะเป็นศูนย์กลางเมืองใหม่ แลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ กำลังจะเปลี่ยนไป โซนศูนย์กลางจะย้ายมาอยู่แถวเส้นหลังสวนโดยรอบสวนลุมพินีเนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่ทั้งคอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสขึ้นค่อนข้างมาก พื้นที่อยู่ริมถนนใหญ่ แวดล้อมด้วยสถานฑูต โรงแรม อาคารสำนักงาน และใกล้กับรถไฟฟ้า ประกอบกับในปีนี้ น่าจะได้รับสัญญาณดี ๆ จากภาคเศรษฐกิจ จีดีพีที่เป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจมีตัวเลขที่ดีขึ้น บรรยากาศการทำธุรกิจและการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างสดใส โดยนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังคงให้ความสำคัญและสนใจคอนโดมิเนียมในใจกลางเมืองกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง”  โครงการ มิวนีค หลังสวน จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณกลางปี 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  MJD.TH/MUNIQ หรือ โทร. 1266
“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ปิดดีล MARU ยอดขายบิ๊กล๊อต 1,000 ล้านบาท

“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ปิดดีล MARU ยอดขายบิ๊กล๊อต 1,000 ล้านบาท

"เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์" เปิดตัวพันธมิตร DWG ร่วมทุนซื้อบิ๊กล๊อต โครงการ MARU เอกมัยและลาดพร้าว มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศ ดันยอดขายมารุทั้ง 2โครงการ ทะลุ 300 กว่ายูนิต พร้อมเปิดสำนักงานขาย MARU ลาดพร้าวภายในเดือน ธ.ค. นี้ ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยว่า “บริษัทประสบความสำเร็จในการขาย Big Lot โครงการ MARU ลาดพร้าว และเอกมัย ให้กับพันธมิตรคือ DWG มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท นับเป็นการสะท้อนถึงความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยและโครงการของ MJD ส่งผลให้ล่าสุด โครงการ MARU ทั้ง 2 ทำเล สามารถทำยอดขายรวมได้กว่า 60% ภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือนหลังเปิดพรีเซลเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รวมมูลค่าสองโครงการ 4,300 ล้านบาท โดยโครงการ MARU ลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท มีจำนวนทั้งสิ้น 332 ยูนิต ปัจจุบันขายไปแล้ว50% ในจำนวนนี้มีผู้ซื้อชาวต่างชาติ คิดเป็น 17 %  ส่วนโครงการ MARU เอกมัย มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท มีจำนวน 333 ยูนิต ปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 70% คิดสัดส่วนเป็นยอดซื้อจากชาวต่างชาติมากถึง 36%” ​โครงการ MARU เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ ระดับไฮเอนด์ แบรนด์น้องใหม่ของ MJD ทั้ง 2 โครงการ ตั้งอยู่ในทำเลที่ใจกลาง ย่านธุรกิจที่มีการเติบโตสูงสุด (Central Business District - CBD) ในย่านเอกมัย และ Second CBD อย่างโซนลาดพร้าว โครงการ MARU ลาดพร้าว อยู่บนถนนลาดพร้าวเส้นหลัก อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าวเพียง 50 เมตร ส่วนโครงการ MARU เอกมัย อยู่บนถนนเส้นหลัก ระหว่างเอกมัยซอย 2 และซอย 4 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัยเพียง 450 เมตร มีจุดเด่นที่ให้ผู้อยู่อาศัยเรียนรู้อยู่กับธรรมชาติอย่างสมดุล ความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดในไลฟ์สไตส์ของผู้อยู่อาศัย เลือกวัสดุตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม การออกแบบเลือกใช้รูปแบบของเส้นตรงมาใช้ในการออกแบบและตกแต่ง ใช้โทนสีที่เรียบง่าย ตามรูปแบบ Minimal Design เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสงบนิ่ง แต่ทว่ามั่นคง ด้วยการออกแบบอย่างสมดุล ตามวิถีเซน (Zen) ที่เชื่อเรื่องความสงบนิ่ง และอยู่กับธรรมชาติ มอบพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ตอบโจทย์ ไลฟ์สไสต์คนเมือง ชูจุดเด่น Pet Friendly & Wellness living ถูกใจคนรักสัตว์ (Pets Lover) มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยง ทั้งลานอาบน้ำสัตว์ และพื้นที่ส่วนกลาง ที่เจ้าของสามารถทำกิจกรรมร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ ทั้ง 2 โครงการ จะเริ่มก่อสร้างในช่วงกลางปี พ.ศ. 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเข้าอยู่อาศัยได้ช่วงกลางปี พ.ศ. 2563 โดยในส่วนของสำนักงานขายโครงการ MARU ลาดพร้าว จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดตัวในเดือนมกราคมต้นปีหน้า ส่วนสำนักงานขายโครงการ MARU เอกมัย จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ในปีหน้าเช่นกัน ด้าน ดร.เดนนิส วี ประธานบริษัท DWG กล่าวถึงการเลือก MJD เป็นพันธมิตรคนสำคัญในประเทศไทย เนื่องจาก MJD เป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับบนในเมืองไทย มีทีมงานมืออาชีพและมีความสามารถในการบริหาร ที่สำคัญคือโครงการของ MJD ตั้งอยู่ในทำเลที่มีการศักยภาพและการเติบโตมากที่สุดของกรุงเทพฯ “เรามีความยินดีและพึงพอใจที่ได้ทำธุรกิจในประเทศไทย คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีความนอบน้อมและจริงใจ ทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้จากทั้งภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวของไทย เราเลือก MJD เป็นพันธมิตรคนสำคัญ จากทั้งความเป็นมืออาชีพ และทำเลของโครงการที่อยู่ในพื้นที่หลักของกรุงเทพ" DWG บริษัทที่บริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร มีจุดมุ่งหมายในการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย ญึ่ปุ่น สิงคโปร์ กรุงเทพฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบ One Stop Service
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทำตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มคนรักสัตว์ ตอกย้ำจุดขาย Pet-friendly Condo ในงาน Pet-a-Porter 2017

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทำตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มคนรักสัตว์ ตอกย้ำจุดขาย Pet-friendly Condo ในงาน Pet-a-Porter 2017

บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรของเมืองไทย ผู้นำด้านการสร้างคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ เดินหน้าทำแผนการตลาดเชิงรุกเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มคนรักสัตว์ ล่าสุด ร่วมกับ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ จัดงาน “The EmQuartier Pet-a-Porter 2017: Healthy Charity” พร้อมเนรมิต Pet Playground by Major Development พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงพร้อมเครื่องเล่นให้เพื่อนๆ สี่ขาได้มาวิ่งออกกำลังยืดเส้นยืดสาย ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ Pet-friendly Condominium ที่เข้าใจคนรักสัตว์อย่างแท้จริง “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นบริษัทรายแรก ที่ทำคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขระหว่างสัตว์เลี้ยง เจ้าของ และเพื่อนบ้าน โดยในปีนี้ เราได้มีการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ และความรู้ความเข้าใจให้กับความเป็น Pet-Friendly Condominium ทั้งการทำสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ การทำกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรที่รักสัตว์ เป็นต้น” นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าว ก่อนหน้านี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกบ้านในการดูแลน้องหมาน้องแมวเป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดทำวิดีโอซีรี่ส์ชุด “ฮ่อง...ฮ่อง The Series By Major Development” ทั้งหมด 8 ตอน โดยจับเอาสัตว์เลี้ยงPet idolอย่างบูตะ และคากิ จากเพจ French Buta นำแสดง ติดตามได้ทาง Facebook Major Development PCL และ ทาง Youtube Major Development Channel ทุกวันอังคาร เวลา 6 โมงเย็น ยกเว้นตอนสุดท้ายคือวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคมนี้ เวลา 6 โมงเย็นเช่นกัน