Tag : บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน)

8 ผลลัพธ์
เจาะคอนเซ็ปต์ 24 HR.HEALTHY LIFESTYLE  คอนโดที่ๆ ทำให้หัวใจเต้นครบทุกจังหวะ

เจาะคอนเซ็ปต์ 24 HR.HEALTHY LIFESTYLE คอนโดที่ๆ ทำให้หัวใจเต้นครบทุกจังหวะ

การมองหาที่อยู่อาศัยสักแห่ง รายละเอียดในความต้องการของชีวิตนั้นมีมากเกิน เพราะไม่ใช่แค่มีเพียงทำเลดี เดินทางสะดวก facilities มากมายที่ถูกนำมาพัฒนาเพื่อสร้างจุดขาย หรือแม้แต่ราคาที่สร้างแรงโน้มถ่วงการตัดสินใจซื้อ ทั้งหมดกลายเป็นสูตรทางการตลาดที่ตายตัว แต่วันนี้ดีเทลความต้องการของชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ด้วยเหตุผลของการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์นี่เอง ทำให้ทางบริษัทเสนา ฮันคิว หยิบยกเทรนด์ของการออกกำลังกายขึ้นมาสื่อสารผ่านคอนโดมิเนียมใหม่ ภายใต้แบรนด์ “นิช โมโน รามคำแหง” (Niche MONO ramkhamhaeng) เอาใจสายเฮลตี้ Fit & Fun & Firm ที่รักในสุขภาพ      ดร.ยุ้ย - ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่า จากความใส่ใจและการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมารักสุขภาพและออกกำลังกายมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ในขณะเดียวคนกลุ่มดังกล่าวจะมองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวที่สุด ยิ่งสิ่งอำนวยความสะดวกในการออกกำลังกายที่สามารถรองรับทุกคนทุกวัยได้ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส โยคะ หรือการออกวิ่งจ๊อกกิ้ง เป็นต้น  ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ทางเสนาฯ ได้เห็นถึงความสำคัญตรงจุดนี้ และนำแนวคิดดังกล่าว มาพัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด “นิช โมโน รามคำแหง (Niche MONO RAMKHAMHAENG)” ซึ่งเป็นโครงการแนวสปอร์ตแห่งแรกของบริษัทที่ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ เทรนด์การใช้ชีวิตทุกด้านทั้งเรื่องงานและการพักผ่อน โดยเฉพาะคนรักสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ     กับแนวคิด “24 HR.HEALTHY LIFESTYLE” ที่ถูกนำมาตีความขยายทุกดีเทลความต้องการของคนที่รักในสุขภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใดก็ตามนั้น เรามองว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ ไม่ว่าจะช่วยควบคุมน้ำหนัก สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ลดความเครียด ทำให้มีสมาธิ และทำให้กระฉับกระเฉงขึ้น จึงเป็นที่มาของคอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ 24 HR. HEALTHY LIFESTYLE ตอบโจทย์สาย Fit & Fun & Firm ที่หลงใหลการออกกำลังกายได้สนุกกับการใช้ชีวิตเติมเต็มทุกกิจกรรมตลอด 24 ชม.พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 6.5 ไร่ ต่อเนื่องทั้งโครงการพร้อม Jogging Track สามารถสัมผัสวิวเมือง 270 องศา พร้อม Cool down ไปกับ Sky Lounge บนชั้น Rooftop   มีการแบ่งตามโซนเพื่อการออกกำลังกายตามการเต้นของหัวใจ Heart Rate Zone กว่า 10,500 ตรม.ใหญ่ที่สุดในย่านรามคำแหง ซึ่งลูกบ้านสามารถเลือกมุมที่เหมาะกับตัวเองได้ว่าต้องการออกกำลังและเผาผลาญพลังงานมากน้อยแค่ไหน ทั้งลู่วิ่งมาตรฐานรอบคอนโด สระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก สระว่ายน้ำวนแบบนักกีฬาครบครันเพื่อให้ตอบโจทย์สายรักสุขภาพแบบสุด ๆ  สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมแนวสปอร์ต ตอบโจทย์การออกกำลังกายตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านมุมมองและแนวคิด “24 HR. HEALTHY LIFESTYLE” ปลดล็อคการออกกำลังกายที่ไม่ได้ถูกจำกัดแค่เวลาหรือแค่ที่อยู่อาศัยแต่คือที่สุดของการออกกำลังกาย กับโครงการ “นิช โมโน รามคำแหง (Niche MONO RAMKHAMHAENG)” คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม สถานีหัวหมาก 0 เมตรราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท* เตรียมพบ lifestyle รูปแบบใหม่ที่ ๆ ทำให้หัวใจเต้นครบทุกจังหวะ ครั้งแรกได้ในวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2561 ณ ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ ภายในงานรับข้อเสนอพิเศษสุดมากมาย สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1775 # 69
“นิช โมโน เจริญนคร” คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา  พื้นที่บนโค้งน้ำที่สวยที่สุด

“นิช โมโน เจริญนคร” คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่บนโค้งน้ำที่สวยที่สุด

  เสนา ฮันคิว เปิดชมโครงการ “นิช โมโน เจริญนคร (NICHE MONO CHAROEN NAKORN)” คอนโดมิเนียม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนวิวโค้งน้ำที่สวยที่สุดย่านเจริญนคร ออกแบบเพื่อความเป็นอิสระ สามารถปลดปล่อยจินตนาการผ่านวิวโค้งน้ำจากระเบียงห้องพักส่วนตัว พร้อมเติมเต็มที่สุดของการอยู่อาศัย ภายใต้คอนเซปต์ Made From Her ผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายก็แฮปปี้   คุณสมพิศ ศรีระทัด ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจ 1 บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ “นิช โมโน เจริญนคร (NICHE MONO CHAROEN NAKORN)” เป็นอีกหนึ่งโครงการ ภายใต้การร่วมทุนของบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด ที่ออกแบบเพื่อความเป็นอิสระ พร้อมรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่หลงใหลความสงบ แต่ยังต้องการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายในเมืองใหญ่ ซึ่งพื้นที่ตั้งของคอนโดมิเนียมแห่งนี้ สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครัน เนื่องจากตั้งอยู่ย่านเจริญนคร ระหว่างซอยเจริญนคร 76 – 78 และสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางถนนสาทรได้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที นับว่าตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุด เพราะสามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา บนวิวโค้งน้ำที่สวยที่สุดจากระเบียงส่วนตัวในห้องพัก จึงนับว่าเป็นที่พักอาศัยที่มีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัว และถือเป็นอีกแลนด์มาร์คสำคัญที่ชาวไทยและชาวต่างชาติต่างต้องการจับจองเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมแห่งนี้     ทั้งนี้ นิช โมโน เจริญนคร (NICHE MONO CHAROEN NAKORN) ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “MADE FROM HER” ใส่ใจทุกดีเทลชีวิต จากแนวคิดแบบผู้หญิง “ผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายก็แฮปปี้ ที่เข้าใจถึงหัวคิดและหัวใจของผู้หญิง ที่ตอบโจทย์ทุกมุมมองความละเอียดลออแบบผู้หญิงในทุกเรื่อง ทั้งความสบาย อุ่นใจ มั่นใจ และ ปันสุข ให้ทุกรายละเอียดการใช้ชีวิตใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ทำให้มีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ เพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่     โครงการ “นิช โมโน เจริญนคร (NICHE MONO CHAROEN NAKORN)” ตั้งอยู่ติดถนนเจริญนคร (ช่วงระหว่างซอยเจริญนคร 76 – 78) บนพื้นที่ 3 ไร่เศษ ห่างจากแยกบุคคโลเพียง 700 เมตร เดินทางสะดวกมีรถรับ-ส่ง จากโครงการไปยัง BTS กรุงธนบุรี และ The Mall ท่าพระ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษาต่างๆ มากมาย อาทิ เอเชียทีค ริเวอร์ฟร้อนท์ เซ็นทรัล พระราม 3 เดอะมอลล์ ท่าพระ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงเรียนอัสสัมชัญ และ โรงเรียนกุหลาบวิทยา เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่ และ สถานีกรุงธนบุรี นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ ผ่านทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินในอนาคตอีกด้วย พร้อมเต็มเติมประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างลงตัว ของคนที่ชื่นชอบความสงบแต่ยังต้องใช้ชีวิตในเมืองใหญ่     คุณเพชรรัตน์ ล้อเจริญรุ่งโรจน์ Sale Manager บริษัท แอคคิวท์ เรียลตี้ จำกัด กล่าวถึง จุดเด่นของโครงการ “นิช โมโน เจริญนคร (NICHE MONO CHAROEN NAKORN)” เน้นการออกแบบสไตล์รีสอร์ททั้งโครงการ โดยมีจุดเด่นและจุดขายที่น่าสนใจ ประกอบด้วย · ฟังก์ชั่นการใช้งานตอบโจทย์ทุกความลงตัวของการใช้ชีวิต ผ่านคอนเซปต์ “MADE FROM HER” ใส่ใจทุกดีเทลชีวิต จากแนวคิดแบบผู้หญิง คอนโดมิเนียม High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งสิ้น 537 ยูนิตและ 2 ร้านค้า ห้องพักแบ่งเป็น 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 30 ตร.ม. 34.90 ตร.ม. และ 40 ตร.ม. แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 49.50 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 60 ตร.ม. มีราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 88,000 บาท หรือราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาทต่อยูนิต* โดยเริ่มก่อสร้างปี 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 พร้อมเปิดพรีเซล 22 ก.ย. นี้   · หนึ่งเดียวบนทำเลที่ดีที่สุดย่านเจริญนคร ทำเลที่มีมนต์เสน่ห์สำคัญที่พร้อมโอบรับพลังจากแม่น้ำเจ้าพระยา สายน้ำที่ไม่เคยหลับใหลของคนไทย ผ่านวิวโค้งน้ำที่สวยที่สุด เป็นที่ต้องการของชาวไทยและชาวต่างชาติ   · โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 34 – 36 ที่ถูกออกแบบเพื่อเปิดรับวิวพาโนราม่าของแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ 360 องศา ที่จะช่วยให้สัมผัสชีวิต และมนต์เสน่ห์ที่ไม่เคยจางหายของกรุงเทพมหานคร พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โครงการมีการออกแบบรองรับ 3 Generation โดยมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทุกวัย เช่น พื้นที่ Co-Working , Kid’s playground , Nursing Room, Sky Fitness พร้อมมีสระว่ายน้ำลอยฟ้าบนชั้น 34 สระว่ายน้ำระบบเกลือ และ Lounge ที่ให้ลูกบ้านไว้สามารถพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ในสังคมที่สมบูรณ์แบบ และอื่นๆ อีกมากมาย   · เทคโนโลยีล้ำด้วย 360 องศา Application เพื่อช่วยเติมเต็มทุกช่วงเวลาให้คุณได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น Fixzy บริการที่จะช่วยดูแลรักษา และ ซ่อมแซมบ้านจากมืออาชีพ Smart Feeder และ Smart Locker บริการ 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนไปยัง Application ได้ทุกช่วงเวลา   · ที่จอดรถมากสุดในย่านเจริญนคร คิดเป็น 60% และสามารถจอดรถเพิ่มเติมที่ห้างสรรพสินค้า เสนาเฟส อีก 30% รวมทั้งสิ้นคิดเป็น 90% เอกสิทธิ์เฉพาะผู้อยู่อาศัยที่ นิช โมโน เจริญนคร เท่านั้น     ล่าสุดเตรียมจัดงาน Pre sale ในวันที่ 22 กันยายน 2561 ณ.Sale gallery โครงการสำหรับโครงการ นิช โมโน เจริญนคร สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1775 # 76
SENA โตสนั่นกำไรครึ่งปีแรกพุ่ง 146.6%  อัดโปรเจกต์พรีเมี่ยมดันยอดขายโตตามเป้า

SENA โตสนั่นกำไรครึ่งปีแรกพุ่ง 146.6% อัดโปรเจกต์พรีเมี่ยมดันยอดขายโตตามเป้า

  SENA กางผลงานครึ่งปีแรก 2561 กำไรสะพรั่ง 389.8 ล้านบาท โต 146.6 %ฟันยอดขาย 6 เดือน 4,296 ล้านบาท มั่นใจดีมานด์ตลาดอสังหาฯระดับกลางถึงไฮเอนด์ตอบรับดี เผยครึ่งปีหลังจ่อเปิดโครงการใหม่สินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมพรีเมี่ยมและบ้านเดี่ยว ปั้นยอดขายและยอดรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แน่นอน   นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง เปิดเผยถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้นจากปัจจัยบวก อาทิ กำลังซื้อในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีอยู่มากโดยเฉพาะตลาดระดับกลางบนถึงไฮเอนด์ ซึ่งยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมจะเป็นตัวชี้วัดให้เห็นถึงกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่ของสินค้าระดับกลางบนได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/2561 บริษัทมีรายได้รวม 1,734 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 551.3 ล้านบาท คิดเป็น 46.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,182.7 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 225.2 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 137.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 157.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 สำหรับรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยในไตรมาส 2/2561 อยู่ที่ 1,596.9 ล้านบาท โตเพิ่ม 524.6 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 48.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้ 1,072.3 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ทำให้ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทในครึ่งปีแรกนี้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง     โดยผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2561 นั้น ทางเสนามีอัตราการเติบโตก้าวกระโดดได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ โดยสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ แนวสูง และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 2,822.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่ากับ 1,151.9 ล้านบาท คิดเป็น 69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้รวม 1,670.5 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิโตขึ้น 146.6% หรือ 389.8 ล้านบาท คิดเป็น 13.8% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 231.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ซึ่งมีกำไรสุทธิ158.1 ล้านบาท ส่วนยอดขายในช่วง 6 เดือนแรก (ณ. วันที่ 30 มิถุนายน 2561) บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 4,296 ล้านบาท ซึ่งถ้าหากบริษัทฯ ยังคงรักษาระดับการขายในปัจจุบันได้เชื่อมั่นว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้   ทั้งนี้ ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ รวมทั้งสิ้น 2,493.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,051.7 ล้านบาท คิดเป็น 72.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1,441.7 ล้านบาท ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมและโครงการบ้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย โครงการ นิช ไอดี บางแค เฟส 2 ,โครงการ นิช ไอดี พระราม 2 เฟส 2 ,โครงการ นิช ไอดี สุขุมวิท 113 ,โครงการ นิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี ,โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท 50 ,โครงการ เดอะ คิทท์ ไลท์ บางกะดี และ โครงการ เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบมาอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ได้แก่ โครงการเสนา พาร์ค แกรนด์ รามอินทรา ,โครงการ เสนา พาร์ค วิลล์ วงแหวนฯ – รามอินทรา ,โครงการ เสนา วิลล์ บรมราชชนนี สาย 5 และโครงการ เสนา ทาวน์ รามอินทรา เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจการให้เช่าและบริการในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 278.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปี 2560 ซึ่งมีรายได้จากค่าเช่าและบริการ 154.7 ล้านบาท ส่วนธุรกิจบริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 8.4 ล้านบาท ลดลง 31.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันจากปีก่อนที่มีรายได้ อยู่ที่ 40.3 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน(Backlog) ณ. สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 มูลค่า 7,133.89 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน 2 โครงการประกอบด้วย นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ และ นิช โมโน สุขุมวิท– แบริ่ง)   อย่างไรก็ตามจากผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2561 คณะกรรมการบริษัทฯจึงมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.109757 บาท และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่12 กันยายน 2561 ทั้งนี้ สรุปแผนธุรกิจในปี 2561 ทางบริษัทเสนาฯ พร้อมเดินหน้ามุ่งมั่นสู่“Growth Hormone2018” โดยตั้งเป้ายอดขาย 10,300 ล้านบาท และเป้ารายได้ 6,200 ล้านบาท เติบโต 20 % จากปีก่อน ซึ่งจะมาจากการเปิดตัวโครงใหม่ทั้งสิ้น 17 โครงการ รวมเป็นมูลค่า 23,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกเปิด 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,527 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 12 โครงการทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงบททำเลศักยภาพ รวมมูลค่า 16,000 – 17,000 ล้านบาท
เสนา ฮันคิว  เปิดชมคอนโดหรู “ปีติ เอกมัย”

เสนา ฮันคิว เปิดชมคอนโดหรู “ปีติ เอกมัย”

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 2 จากขวา) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ (ที่ 2 จากซ้าย) บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด เปิดตัว ‘ปีติ เอกมัย’ คอนโดลักชูรี่แห่งแรก ภายใต้การร่วมทุนบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด บนทำเลศักยภาพสูงสุดย่านเอกมัย ด้วยหลักปรัชญาแนวคิดจากญี่ปุ่น “IKIGAI (อิคิไก)” เข้ามาใช้ผสมผสานทุกรายละเอียดของงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Good LIVING is the new luxury” เน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่พรั่งพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอันหลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของคนไทย ราคา Pre sales เริ่ม 4.45 ล้านบาท* มูลค่าโครงการรวม 5,000 กว่าล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้ววันนี้ ณ Sale Gallery โครงการ ปีติ เอกมัย หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1775 กด 63
“เสนา ฮันคิว” โชว์โครงการแฟล็กชิพบริบทใหม่ “ปีติ เอกมัย”  พลิกโฉมที่อยู่อาศัยเน้นบริการระดับเวิล์คลาส

“เสนา ฮันคิว” โชว์โครงการแฟล็กชิพบริบทใหม่ “ปีติ เอกมัย” พลิกโฉมที่อยู่อาศัยเน้นบริการระดับเวิล์คลาส

เสนา ฮันคิว เปิดชมโครงการแฟล็กชิพครั้งแรก “ปีติ เอกมัย” คอนโดมิเนียมระดับลักชูรี่แบรนด์ใหม่ล่าสุด มูลค่าโครงการกว่า 5,000 กว่าล้านบาท พลิกโฉมที่อยู่อาศัยเน้นบริการระดับเวิล์คลาสรูปแบบใหม่ตอบโจทย์ลูกค้าคนเมือง ด้านไนท์แฟรงค์ วิเคราะห์ทำเลเอกมัย ชี้กำลังซื้อลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติยังไปได้สวย ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง โครงการแฟล็กชิพ “ปีติ เอกมัย (PITI EKKAMAI)” คอนโดมิเนียม Segment ลักชูรี่แห่งแรกภายใต้การร่วมทุนบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด และเป็นโครงการร่วมทุนที่มีมูลค่าสูงสุดในปีนี้กว่า 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพย่านเอกมัย โดยการนำหลักปรัชญาชีวิตจากแนวคิดญี่ปุ่น “IKIGAI (อิคิไก)” เข้ามาใช้ผสมผสานทุกรายละเอียดของงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Good Living is The New luxury” โดยการนำโปรดักส์และพื้นที่ส่วนกลางมาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็นที่พักอาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวพรั่งพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอันหลากหลายมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนไทยได้อย่างลงตัว บนทำเลคุณภาพและทุกๆช่วงเวลาของทุกวันเป็นการใช้ชีวิตที่มีความสุขและมีคุณค่าบนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1,900 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในย่านเอกมัย โครงการ “ปีติ เอกมัย (PITI EKKAMAI)” พร้อมเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบและเพื่อให้ทุก Moment ของปีติมีความสุขและมีคุณค่า ดังนี้ · ฟังก์ชั่นการใช้งานตอบโจทย์ความสุขทุกมิติการอยู่อาศัย โครงการตั้งอยู่ใจกลางเอกมัย (ช่วงบริเวณซอยเอกมัย 26) โดยลักษณะเป็นอาคารสูง 37 ชั้น รวมทั้งหมด 879 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต แบ่งเป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 – 40 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน 51 – 64 ตารางเมตร ในราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 170,000 บาทต่อตรม. หรือ 4.45 ล้านบาทต่อยูนิต*โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 · หนึ่งเดียวบนทำเลศักยภาพที่ดินผืนงามย่านเอกมัย ทำเลที่มีครบทุกเช็คลิสต์สำหรับผู้ที่มองหาคอนโด เพราะเป็น Prime Area ย่านไลฟ์สไตล์ทันสมัยและมีระดับ ศูนย์รวมธุรกิจชั้นนำของกรุงเทพฯ รองรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาทิ Park Lane คอมมูนิตี้มอลล์ ,Health Land,Gate way Ekkamai ,Big C เป็นต้น และโรงพยาบาลคามิลเลียน โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ใกล้สถานศึกษาชั้นนำ เช่น โรงเรียนนานาชาติ SP International Kindergarten, Ekkamai International School · โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 37 กว่า 1,900 ตารางเมตรใหญ่ที่สุดและตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบและสมบูรณ์แบบที่สุดบนถนนเอกมัย ประกอบด้วย Sky Fitness ,สระว่ายน้ำระบบเกลือ วิว Panorama , Kid ‘ s Pool, Jacuzzi Pool ,Hydro Pool,Boxing Zone,Yoga Zone , Golf simulator, Library, Spa, Sauna, Steam, Tree House , Sky park, lkigai room , Leveling lawn · สถาปัตยกรรมเอกลักษณ์เฉพาะ “Third Place” แลนด์มาร์คแห่งใหม่บนเอกมัย ประกอบด้วย Convenient Store ,Restaurant ,Casa Lapin Coffee Shop ,Co – working Space และ Digital Service : Wash Box ,Smart Locker ,Vending Machine ,Refun (ตู้หยอดขวดพลาสติก) · บริการเอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับ อาทิ Midnight Reception and Butler Service Laundry Service Shop ,Parking Guidance Systems ,Access Control · เทคโนโลยีล้ำด้วย 360 องศา Application เฉพาะทาร์เก็ตลูกค้าปีติ เอกมัย เติมเต็มทุกช่วงเวลาให้คุณได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น fixzy บริการที่จะช่วยดูแลรักษา และ ซ่อมแซมบ้านจากมืออาชีพ Shuttle Car Service Feeder และ Smart Locker บริการ 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนไปยัง Application ได้ทุกช่วงเวลา · ที่จอดรถมากสุดในย่านเอกมัย คิดเป็น 70% (612 คัน)   ด้านคุณพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พูดถึงตลาดคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งขอบเขตพื้นที่ศึกษาครอบคลุมตั้งแต่ถนนสุขุมวิทซอย 55 ถึงสุขุมวิทซอย 63 จากการสำรวจและวิจัย พบว่ามีอุปทานสะสมในพื้นที่นี้ตั้งแต่ปี 2551 ถึงครึ่งปีแรกของปี 2561 รวมทั้งสิ้น 6,112หน่วย โดยปี 2554 เป็นปีที่มีอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาดสูงสุดถึง 1,268 หน่วย เติบโตกว่า 365% เมื่อเทียบกับปี 2551 อย่างไรก็ตาม อุปทานใหม่ระหว่างปี 2555 – 2557 ได้ปรับตัวลดลงอยู่ในระดับคงตัวเฉลี่ย 330 หน่วยต่อปี และลดลงต่ำสุดเหลือเพียง 88 หน่วย ในปี 2558 ทั้งนี้ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้งในปี 2559-2560 มีอุปทานใหม่เข้ามาเฉลี่ย 914 หน่วยต่อปี ส่วนครึ่งปีแรกของปี 2561 มีคอนโดมิเนียมใหม่เข้าสู่ตลาด 220 หน่วย เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง คาดว่ามีอีกไม่ต่ำกว่า 2,800 หน่วย ที่จะทยอยเปิดตัวภายในปีนี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ในปี 2561 ทั้งปีจะมีอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาดสูงถึง 3,000 หน่วย สูงที่สุดในรอบ 11 ปีเลยทีเดียว และเป็นที่น่าสังเกตว่ากว่า 40% ของคอนโดมิเนียมที่จะเปิดใหม่ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เอกมัย ซึ่งเป็นสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่าทำเลนี้ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยปัจจัยหนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งซึ่งรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยสะดวกครบครัน นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากทองหล่อ ในขณะที่ราคาสามารถเอื้อมถึงได้มากกว่า ด้านอุปสงค์พบว่าคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในทำเลทองหล่อ-เอกมัยได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยโครงการที่เปิดตัวระหว่างปี 2551 – 2559 นั้น ณ. ปัจจุบันได้ปิดการขายไปหมดแล้ว ส่วนโครงการที่เปิดตัวในปี 2560 และครึ่งแรกของปี 2561 ณ ปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 70% และ 35% ตามลำดับ สาเหตุที่ยอดขายของโครงการใหม่ในครึ่งปีแรก 2561 ยังไม่หวือหวา คาดว่าเกิดจากการที่ผู้ซื้อรอดูโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในครึ่งปีหลังเพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ ส่วนราคาห้องชุดพบว่ามีขายโดยเฉลี่ยของโครงการเปิดใหม่ในพื้นที่ทองหล่อ-เอกมัย (ณ.สิ้น มิ.ย. 2561) อยู่ที่ประมาณ 248,000บาท/ตร.ม. ทองหล่อมีราคาขายเฉลี่ยประมาณ 317,000 บาท/ตร.ม. และเอกมัยมีราคาขายเฉลี่ยประมาณ 180,000 บาท/ตรม. ที่มา :ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย อย่างไรก็ดีย่านทองหล่อ – เอกมัย ถือว่ายังเป็นทำเลที่มีศักยภาพมากที่สุดบนถนนสุขุมวิท ด้วยปัจจัยหนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งซึ่งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเข้าออกได้จากหลากหลายเส้นทางทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้า BTS และรถโดยสารสาธารณะรูปแบบต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นซอยเล็กซอยน้อยที่มีอยู่ในทองหล่อ-เอกมัย ยังช่วยให้เดินทางทะลุไปยังถนนเส้นสำคัญและซอยต่างๆได้มากมาย ทั้งถนนสุขุมวิทสายหลักถนนพระราม 4 ถนนเพชรบุรี ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษฉลองรัช ซอยสุขุมวิท 49 สุขุมวิท 51 สุขุมวิท 53 และสุขุมวิท 71 (ปรีดี พนมยงค์) เป็นต้น ทำให้ทำเลนี้สะดวกทุกการเดินทาง ทั้งสำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวและคนที่ชื่นชอบการใช้บริการรถสาธารณะ ส่วนในอนาคต เมื่อรถไฟฟ้าสายสีเทาระยะที่ 1 (วัชรพล-ทองหล่อ) เปิดให้บริการ ก็จะช่วยเติมเต็มการคมนาคมในพื้นที่ทองหล่อ-เอกมัยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและเสริมให้ทำเลดังกล่าวมีมูลค่าสูงกว่าปัจจุบันหลายเท่าตัว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมโครงการและห้องตัวอย่าง สัมผัสประสบการณ์แห่งการอยู่อาศัยเหนือระดับบนนิยาม “Good Living is The New luxury” เวิล์คลาสรูปแบบใหม่ผ่านหลักปรัชญาชีวิตจากแนวคิดญี่ปุ่น “IKIGAI (อิคิไก)” พบกันได้แล้ววันนี้ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2tPEUtO หรือโทร.1775 กด 63
เสนาฯ – ฮันคิว  โชว์ความแข็งแกร่ง ลุยเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง

เสนาฯ – ฮันคิว โชว์ความแข็งแกร่ง ลุยเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง

นายธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ (ซ้าย) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย คุณวาคาบายาซิ ทสึเนะโอะ (ที่ 2 จากขวา) ประธานบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร๊อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอเรชั่น และ คุณมาซะฮิโกะ โทดะ (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอเรชั่น ผนึกกำลังร่วมพัฒนาโครงการใหม่ล่าสุด “นิช โมโน เมกะบางนา มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท เป็นโครงการภายใต้การร่วมทุนโครงการที่ 4 ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามแผนดำเนินงานในอนาคตที่จะร่วมทุนพัฒนาโครงการใหม่ มูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท
เสนา ฮันคิว ปั้นแบรนด์ลักชูรี่คอนโด เปิดตัวครั้งแรกบนที่ดินแปลงใหญ่สุดย่านเอกมัย

เสนา ฮันคิว ปั้นแบรนด์ลักชูรี่คอนโด เปิดตัวครั้งแรกบนที่ดินแปลงใหญ่สุดย่านเอกมัย

  เสนา ฮันคิว ประกาศลุยโปรเจกต์ร่วมทุนโครงการ 3 เปิดหน้าดินย่านเอกมัย ผุดคอนโดลักชูรี่ “ปีติ เอกมัย (PITI EKKAMAI)” มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ดึงหลักปรัชญาชีวิตจากแนวคิดญี่ปุ่น “lKIGAI (อิคิไก)” จุดประกายการใช้ชีวิตให้มีความสุขและมีคุณค่า พร้อมตอกย้ำศักยภาพพันธมิตรหวังเดินเกมธุรกิจระยะยาว เผยมีแผนโครงการร่วมทุนมูลค่าสูงถึง 23,000 ล้านบาท จ่อปักหมุดปีนี้   คุณยูสุเกะ คุสุ รองประธานกรรมการบริหาร ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น เปิดเผยถึงการลงทุนในเมืองไทยว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัท ฮันคิว ร่วมทุนพัฒนาโครงการกับทางบริษัทเสนามาแล้ว 2 โครงการ ประกอบด้วย นิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง และ นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ปัจจุบันทั้ง 2 โครงการมียอดขายเป็นที่น่าพอใจมาก ล่าสุดพัฒนาโครงการที่ 3 ร่วมกันเป็นโครงการระดับลักชูรี่แบรนด์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงสุดในปีนี้ ซึ่งมีความมั่นในความเป็นมืออาชีพของทางเสนาเป็นอย่างมากและเชื่อว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จเหมือนโครงการที่ผ่านๆมาอย่างแน่นอน และทางฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปฯ เองได้มองถึงแผนการพัฒนาโครงการร่วมกันในระยะยาวต่อจากนี้ด้วยเช่นกัน ด้านผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยครึ่งปีหลัง 2561 มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น คาดว่าปีนี้จะโตได้ 3-5% หลักๆ มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่ดีมานด์ระดับบนยังมีสัญญาณที่ดีและเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าหรือระบบ Mass Transit ยังมีความต้องการสูงขึ้นทุกปี ดังนั้น ทางเสนา ฮันคิว พร้อมต่อยอดพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกันบน Location ที่ดีที่สุดในย่านใจกลางเมือง และได้นำเอาหลักปรัชญาชีวิตจากแนวคิด “IKIGAI (อิคิไก)” มาร่วมสร้างสรรค์เอกลักษณ์ทั้งมิติด้านฟังก์ชั่นและเติมเต็มมิติด้านสุนทรียศาสตร์ภายในโครงการให้กับลูกค้า เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้ชีวิตของคนเมือง ณ ปัจจุบัน และรองรับความต้องการของลูกค้าระดับบนที่มองหาที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพย่านใจกลางเมือง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสและสัญญาณที่ดีในการรุกพัฒนาคอนโดมิเนียมหรูระดับ“ลักชูรี่”และเป็นโครงการแรกของเสนาในปีนี้   “ถือว่าเป็นก้าวครั้งใหม่ของเสนากับการเปิดตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชูรี่เป็นครั้งแรก และเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเสนา ซึ่งทางบริษัทก็มีความพร้อมในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นทีมงานที่มีคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของลูกค้า รวมถึงพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพมาก อย่างบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น พันธมิตรธุรกิจอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น โดยมีแผนพัฒนาโครงการร่วมกันปีนี้อย่างน้อย 7 โครงการ รวมมูลค่าสูงถึง 23,000 ล้านบาท” สำหรับคอนโดมิเนียมลักชูรี่แบรนด์ใหม่ “ปีติ เอกมัย (PITI EKKAMAI)” นับเป็นโครงการร่วมทุนที่ 3 ภายใต้การร่วมทุนชื่อบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด ที่มีมูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม บนเนื้อที่ 4 – 2 -75 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเอกมัย (ช่วงบริเวณซอยเอกมัย 26) โดยลักษณะเป็นอาคารสูง 37 ชั้น 1 อาคาร รวมทั้งหมด 897 ห้อง และร้านค้า 3 ยูนิต ราคาเริ่มที่ 4.45 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยตารางเมตรละ 170,000 บาท   โดยคีย์ไฮไลท์การพัฒนาโครงการได้มีการนำหลักปรัชญาชีวิตจากแนวคิดญี่ปุ่น “IKIGAI (อิคิไก)” เข้ามาใช้ผสมผสานทุกรายละเอียดของงาน Concept และโปรดักส์รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางเข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็นโครงการพักอาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวพรั่งพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอันหลากหลายมาประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนไทยได้อย่างลงตัว ภายใต้แนวคิดใหม่ “Good LIVING is the New Luxury” ให้คุณมีชีวิตที่ดีบนทำเลคุณภาพและทุกๆช่วงเวลาของทุกวันเป็นการใช้ชีวิตที่มีความสุขและมีคุณค่าบนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1,900 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในย่านเอกมัย   ร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่และครั้งแรก "SENA Online Booking" ลงทะเบียนจองสิทธิ์ก่อนใคร ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่2ส.ค.และจองจริงพร้อมกัน2ส.ค.นี้ตั้งแต่เที่ยงวัน-22.00น.ที่ https://onlinebooking.sena.co.th สอบถามเพิ่มเติมโทร.1775
SENA ชิงเค้กดีมานด์ย่านติวานนท์ เปิดคอนโดใหม่ “นิช โมโน ติวานนท์” ชูไอเทมเด็ดสุด “CO – CREAITION SPACE” ครบวงจร

SENA ชิงเค้กดีมานด์ย่านติวานนท์ เปิดคอนโดใหม่ “นิช โมโน ติวานนท์” ชูไอเทมเด็ดสุด “CO – CREAITION SPACE” ครบวงจร

  พิสูจน์ทำเลย่านติวานนท์กำลังซื้อยังคึกครื้น ล่าสุด “เสนา” ลงสนามจริงเปิดตัวโครงการใหม่ “นิช โมโน ติวานนท์” มูลค่าโครงการ 1,400 กว่าล้านบาท ชูไอเทมเด็ดสุดในย่านติวานนท์ “CO-CREAITION SPACE” ครบวงจร ด้านไนแฟรงค์ ล้วงลึกชี้ “ติวานนท์” ทำเลศักยภาพในอนาคต ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากแบบสอบถามที่ทางเสนา ฯ ได้ออกบูธเซ็นทรัล ลาดพร้าวเมื่อวันก่อน พบว่าลูกค้ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้แนวรถไฟฟ้าเสียเป็นส่วนใหญ่ หากเปรียบเทียบกันระหว่างทำเลรถไฟฟ้าสายต่างๆ แล้ว ทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพและน่าสนใจไม่น้อยกว่าสายอื่น ๆ ล่าสุด ทางบริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ “นิช โมโน ติวานนท์ (Niche MONO TIWANON)” พัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด"COMBINATION WITH LIFE AND WORK" ที่การผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตโหมดต่างๆ เข้าด้วยกัน สะดวกสบายทุกการเดินทางเพราะใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข เพียง 50 เมตร โดยตั้งอยู่บนเนื้อที่โครงการ 2 ไร่เศษ เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร รวมทั้งสิ้น 526 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต มีห้องชุดให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 – 35 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน (Moff) แบ่งเป็น 4 ขนาด คือ ขนาด 26 +14 (40 ตารางเมตร) ขนาด 28+14 (42 ตารางเมตร) ขนาด 32 + 18 (50 ตารางเมตร) ขนาด 35 + 18 (53 ตารางเมตร) และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร ราคา Pre sales เริ่ม 2.4 ล้านบาท* หรือราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 91,000 บาท มูลค่าโครงการรวม 1,400 กว่าล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 นิช โมโน ติวานนท์ คอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Gen Y (Generation Y) และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มี passion ของตัวเองและสามารถบริหาร passion ให้กลายเป็นความสำเร็จได้ ที่นี้จึงมี Co – Creation Space ซึ่งถูกคิดให้ทุกฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานแบบครบวงจร การทำงานถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนยุค Gen Y ที่เน้นความเป็นความอิสระ ไม่ใช่การนั่งอยู่ในสำนักงานหรือออฟฟิศ การออกมานั่งเล่นใน space ที่สามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด พร้อมกับมีอุปกรณ์และบริการรองรับสำหรับการทำงาน เป็น space ที่เอื้อต่อการปฏิบัติงานและตอบสนองความต้องการด้านความสะดวกสบายให้กับคนยุค Gen Y ได้เป็นอย่างดี ที่นี่มีครบและตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิตคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีสาธารณูปโภคครบครัน อาทิ พื้นที่ส่วนกลาง Grand Lobby ,Wifi, สระว่ายน้ำระบบเกลือ วิว Panorama , Kid ‘ s Pool, Jacuzzi Pool ,Hydro Pool, Sunken Loungn จุดชมวิวขอบฟ้า ,ห้องออกกำลังกาย Boxing Room, Game Room, Steam Room, BBQ Terrace ,Executive Sunset Lounge ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดโดยรอบโครงการ เจ้าหน้ารักษาความปลอดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีม่วงในปี 2559 ได้ยกระดับทำเลติวานนท์ให้มีชีวิตชีวาและเป็นที่ต้องการของผู้ที่กำลังมองหาที่พักอาศัยในย่านนี้มากขึ้น เมื่อผนวกกับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินในเดือนสิงหาคม 2560 ยิ่งทำให้ติวานนท์กลายเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกสบายระหว่างกรุงเทพมหานครและนนทบุรีอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ประกอบกับสาธารณูปโภคสาธารณูปการที่อุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ ทั้งศูนย์การค้า ตลาด โรงพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ราชการสำคัญ รวมไปถึงโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ในอนาคตที่จะช่วยซัพพอร์ตทำเลนี้ให้พรั่งพร้อมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเข้ากับสายสีชมพูและสายสีน้ำตาล และโครงการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ (ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน) ภายใต้แนวคิด Transit Oriented Development (TOD) ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน เพื่อครอบคลุมการใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างครบวงจรทั้งการคมนาคม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรม นอกจากนี้ยังมีโครงการศูนย์การค้า Gateway บางซื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2561 นี้อีกด้วย จากความสะดวกสบายที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ “ติวานนท์”กลายเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายเข้ามาพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้บริโภครุ่นใหม่ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมใกล้เมือง ตลอดจนนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อ สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมย่านติวานนท์-บางซื่อนั้น ตั้งแต่ถนนงามวงศ์วานซอย 17 ถึงศูนย์ราชการนนทบุรี ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ถนนพิบูลย์สงคราม ถนนประชาราษฎร์สาย 1 และถนนประชาราษฎร์สาย 2 ถึงถนนประชาชื่น พบว่าอุปทานเริ่มต้นของคอนโดมิเนียมในย่านติวานนท์-บางซื่อในปี พ.ศ. 2552 นั้นมีเพียง 976 หน่วยและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2561 มีจำนวนอุปทานสะสมในพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 35,400 หน่วย โดยปีที่มีอุปทานเพิ่มขึ้นสูงสุดคือปีพ.ศ. 2557 ด้วยจำนวนคอนโดมิเนียมที่เข้าสู่ตลาดกว่า 9,425 หน่วย ทั้งนี้อุปทานใหม่ตั้งแต่ปี 2558 ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี 2559 และ 2560 มีห้องชุดใหม่เข้ามาในตลาดเพียง 821 หน่วย และ 615 หน่วยตามลำดับ สอดคล้องกับอุปสงค์ที่ลดลงเช่นกัน โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินซึ่งยังไม่สมบูรณ์ในขณะนั้น ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อดูแนวโน้มและทิศทางของตลาด อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2561 ตลาดคอนโดมิเนียมย่านนี้กลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้นอีกครั้ง โดยมีอุปทานใหม่เข้ามาในพื้นที่ศึกษาทั้งสิ้น 2,029 หน่วย จากผู้ประกอบการรายใหญ่จำนวน 2 โครงการได้แก่ Niche Pride เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ (742 หน่วย) และ The Line วงศ์สว่าง (1,287 หน่วย) โดยยอดขายเฉลี่ย ณ ปัจจุบันของทั้งสองโครงการอยู่ที่ประมาณ 50% ส่วนด้านราคานั้น พบว่าราคาเสนอขายโดยเฉลี่ยของโครงการเปิดใหม่ในพื้นที่ศึกษา ณ สิ้น พ.ค. 2561 อยู่ที่ 112,500 บาท/ตร.ม. โดยสรุปแล้วติวานนท์เป็นทำเลที่น่าสนใจเนื่องด้วยปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มศักยภาพในอนาคตจากผลพวงของการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนซึ่งจะเชื่อมระบบรถไฟฟ้าหลายสายเข้าด้วยกันในบริเวณนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ(ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านติวานนท์ ทำให้การเดินทางระหว่างกรุงเทพมหานครและนนทบุรีมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในด้านราคาขายของโครงการในพื้นที่นี้โดยรวมยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก ติวานนท์จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่อยากลงทุนในทำเลอนาคต รวมถึงผู้ที่กำลังหาที่อยู่อาศัยใกล้เมืองที่มีสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย