Tag : บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

6 ผลลัพธ์
LPN ปักหมุด “ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2” ทำเลเชื่อมต่อ CBD ของฝั่งธนและกรุงเทพฯ

LPN ปักหมุด “ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2” ทำเลเชื่อมต่อ CBD ของฝั่งธนและกรุงเทพฯ

LPN บุกหนักครึ่งปีหลัง นอกจากขยายตลาดไปยังออฟฟิศคอนโด และบ้านพรีเมียมที่สร้างยอดขายได้สูงแล้ว คอนโด Affordable Price ยังคงเป็น Fighting Brand ที่ LPN ครองตลาดอยู่ ล่าสุด เปิด “ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2” ด้วยราคาเริ่มเพียง 1.69 ล้าน ส่วนลดสูงสุด 80,000 บาท ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปท์ “Ralaxity Ville” บ้านที่พร้อมให้เอนกาย คลายความเหนื่อยล้า สงบ มีความเป็นส่วนตัวสูง สะดวกเดินทางเพราะเชื่อมต่อเขต CBD ของทั้งฝั่งธนและกรุงเทพฯ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายในอนาคต     นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า ถึงแม้ในปีนี้บริษัทจะปรับกลยุทธ์โดยขยายการพัฒนาโครงการไปในระดับพรีเมียมมากขึ้นทั้งบ้านและคอนโด แต่ยังคงความตั้งใจในการพัฒนาคอนโดมิเนียมสำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางเพื่อให้มีที่พักอาศัยคุณภาพในราคาที่เป็นเจ้าของได้ โดยเดือนกันยายนนี้ บริษัทได้เปิดตัว “ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2” บนถนนสุขสวัสดิ์ ทำเลที่บริษัทประสบความสำเร็จจาก 3 โครงการ คือ ลุมพินี วิลล์ ราษฎร์บูรณะ-ริเวอร์วิว ลุมพินี วิลล์ ราษฎร์บูรณะ-ริเวอร์วิว 2 และลุมพินี เพลส สุขสวัสดิ์-พระราม 2 โดยลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2 ที่บริษัทพัฒนาในครั้งนี้ รังสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Relaxity Ville” ห้องชุดพักอาศัยที่ให้ความผ่อนคลาย สงบ มีเพียง 377 ยูนิตเท่านั้น และด้วยความสูงของอาคาร 26 ชั้น จึงสามารถชมวิวที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน แบบ 360 องศา พร้อมสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ของบางกระเจ้า ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเขตศูนย์กลางธุรกิจใหม่ของฝั่งธนบุรีริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านคลองสาน เจริญนคร ที่มีโครงการ Mix used ขนาดใหญ่ โรงแรม 5 ดาว เช่น ไอคอนสยาม โรงแรมเพนนินซูล่า หอชมเมืองในอนาคตหรือจะเดินทางไปยังเขต CBD ของกรุงเทพมหานคร ทั้งสีลม สาทร ก็สะดวกง่ายดาย จึงเป็นที่ที่คำว่า Work Life Balance เกิดขึ้นจริง     “โครงการนี้ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางเพราะทำเลติดถนนใหญ่ อยู่บริเวณหัวมุมจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขสวัสดิ์และถนนพระราม 2 ใกล้ทางด่วนและสามารถเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่ายขึ้น ประกอบกับทำเลแห่งนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะใกล้เขตเมืองในราคาที่พักอาศัยไม่แพงมากนัก นอกจากนี้ การมีสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมทั้งสะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 ทำให้การเดินทางข้ามไปฝั่งพระราม 3 พระประแดง ปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ หรือไปโซนบางนาสะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีองค์ประกอบในการอยู่อาศัยที่ครบครัน ใกล้สถานศึกษา โรงพยาบาล ศูนย์การค้าชั้นนำ เป็นหนึ่งในทำเลที่น่าอยู่และเหตุผลสำคัญที่ LPN เลือกพัฒนาโครงการใหม่ในย่านนี้อีกครั้ง จากลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ “ลุมพินี” และด้วยการบริหารหลังการขายตามกลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่” (Livable Community)”     “ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2” มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท พร้อมห้องชุด New LPN Design ที่แบ่งสัดส่วนความเป็นส่วนตัวด้วยกระจกระหว่างห้องนอนและห้องรับแขก ขนาดห้องชุดเริ่มตั้งแต่ 23.50 – 36.00 ตร.ม. ด้านพื้นที่ส่วนกลางทีมสถาปนิกได้นำแรงบันดาลใจจากเส้นสายของพื้นป่าชายเลนมาออกแบบให้มีความเป็นธรรมชาติ มีพื้นที่สีเขียว เหมาะแก่การพักผ่อน ปัจจุบันเปิดขายแล้ว ด้วยราคาเริ่มเพียง 1.69 ล้านบาท ส่วนลดสูงสุด 80,000 บาท ณ สำนักงานขายโครงการลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม LPN Call Center 02-689-6888 / www.lpn.co.th
LPN เปิดซิตี้คอนโดย่านพัฒนาการ Expand Project แห่งที่ 4 ตอกย้ำ Affordable Segment  เกาะเทรนด์ Sport Lover เด่นด้วยฟิตเนสเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ เริ่ม 1.69 ลบ. พรีเซล 25 ส.ค.

LPN เปิดซิตี้คอนโดย่านพัฒนาการ Expand Project แห่งที่ 4 ตอกย้ำ Affordable Segment เกาะเทรนด์ Sport Lover เด่นด้วยฟิตเนสเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ เริ่ม 1.69 ลบ. พรีเซล 25 ส.ค.

LPN เดินตามแผน Year Of Chang ชู Fighting Brand แห่งที่ 4 ของปี ตอกย้ำ Affordable Segment เปิดซิตี้คอนโด แนว ไฮไรส์ “ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์” คาดยังมีดีมานด์จากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยคึกคัก ใกล้แหล่งงานและสถานศึกษา กอรปกับเป็น Expand Project ของย่านพัฒนาการที่ LPN เคยเปิดมากว่า 3 โครงการ นำเทรนด์ Sport Lover ในยุคปัจจุบันดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางเสมือนยกฟิตเนสเซ็นเตอร์แทรกไว้ทุกอณูในโครงการ ด้วยคอนเซปต์ “Sports park, smart place” ผสานการออกแบบ Façade สไตล์โมเดิร์นทันสมัย รวมถีง News LPN Design ฟังก์ชั่นลงตัว เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงานและนักศึกษา การันตีความสุขในบ้านหลังใหญ่ด้วย “Livable Community” เปิดขายวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคมนี้ ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท   นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า “บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ย่านพัฒนาการซึ่งเป็นโครงการลำดับที่ 4 แห่งปีตามแนวทาง Affordable Segment ภายใต้ชื่อ “ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์” คอนโดแนวสูง 32 ชั้น มูลค่า 1,460 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ ระหว่างซอยพัฒนาการ 33 และ 35 ด้วยศักยภาพของทำเลและแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่น จึงมีดีมานด์สูงจากแหล่งงานที่ตั้งตรงข้ามโครงการ ได้แก่ อาคาร True และสำนักงานใหญ่แม็คโคร โดยวางเป้าหมายเป็นกลุ่มคนเริ่มทำงานรุ่นใหม่ และยังเจาะกลุ่มนักศึกษาในย่านนี้ ทั้งสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตและมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งบริษัทยังคงรักษากลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงกลาง-ล่าง ด้วยการเปิดราคาขายเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท เดินตามเจตนารมณ์บ้านที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยราคาที่เอื้อมถึง (Affordable Price) และอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือ มองว่าทำเลแห่งนี้มีอนาคต ใกล้ห้างสรรพสินค้า เช่น Tesco Lotus, Max Value, Makro, London Street และเดอะ นาย พระราม 9 ใกล้สถานพยาบาล คือ โรงพยาบาลวิภารามและโรงพยาบาลรามคำแหง ทั้งยังเดินทางเข้า-ออกเมืองอย่างสะดวกสบาย เพราะใกล้ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญหลายสาย ตั้งแต่ถนนเพชรบุรี ถนนรามคำแหง ถนนพระราม 9 และถนนประชาอุทิศ นอกจากนี้ ถนนพัฒนาการยังมีซอยที่ลัดเลาะเพื่อเลี่ยงรถติดที่ถนนศรีนครินทร์และถนนอ่อนนุชได้ด้วย โดยที่ผ่านมา LPN เคยประสบผลสำเร็จในทำเลย่านนี้มาแล้วจากโครงการคุณภาพและบริการหลังการขายภายใต้แนวคิด “ชุมชนน่าอยู่” (Livable Community) ได้แก่ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช-พัฒนาการ ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-เพชรบุรีตัดใหม่ และลุมพินี วิลล์ ศรีนครินทร์-หัวหมาก สเตชั่น เรียกได้ว่าเป็นโครงการส่วนต่อขยาย (Expand Project) ที่น่าจับตามอง   “ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์” เป็นโครงการแนวสปอร์ตแห่งแรกของบริษัทที่ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์เทรนด์คนรักสุขภาพและการออกกำลังกายในยุคปัจจุบัน ตามคอนเซ็ปต์ “Sports Park, Smart Place” เสมือนมีฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่ตรงใจคนรุ่นใหม่ แทรกอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางทุกส่วนอย่างครบครัน ประหยัดเวลาในการเดินทางและไม่ต้องใช้จ่ายกับค่าสมาชิกฟิตเนสอีกต่อไป โดยสามารถออกกำลังกายในบ้านของตนเองได้ทุกเวลาที่สะดวก ทั้งลู่วิ่ง (Jogging Track) สระว่ายน้ำ สนามสตรีท บาส ห้องโยคะ ห้องฟิตเนส สวนรวมใจ ลานฟิตแอนด์เฟิร์มและฟิตเนสโซน โดยหยิบไอเดียเส้นสายลู่วิ่งของโครงการมาออกแบบในพื้นที่ส่วนกลางให้มีสีสันเด่นสะดุดตา คุมโทนและสร้างบรรยากาศการออกกำลังกายให้ตื่นเต้น รวมถึงปรับปรุงห้องอเนกประสงค์ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น สำหรับในห้องชุดพักอาศัยบริษัทนำความเชี่ยวชาญของ New LPN Design มาออกแบบให้ครบทุกฟังก์ชันการอยู่อาศัย นอกจากการให้ความสำคัญกับเทรนด์สุขภาพแล้ว LPN ยังให้ความสำคัญกับความรื่นรมย์ในโครงการ จึงกระจายพื้นที่สีเขียวไว้บนชั้น 7 และชั้น 29 เพื่อเป็นจุดพักผ่อนยามเหนื่อยล้าที่ดีเยี่ยม ทั้งยังปรับรูปลักษณ์ Façade ให้ทันสมัยด้วยการออกแบบโทนสีเทาเข้มและสีขาวให้ดูโมเดิร์น” นายโอภาสทิ้งท้าย   “ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์” แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ส่วนอาคารสำนักงานสูง 5 ชั้น ด้านหน้าโครงการ และส่วนอาคารชุดพักอาศัย สูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 795 ยูนิต บนพื้นที่ทั้งหมด 6 ไร่ เปิดขายอย่างเป็นทางการวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคมนี้ ณ สำนักงานขายโครงการ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร LPN Call Center 02-689-6888
LPN ขยายความสำเร็จย่านปิ่นเกล้า เปิดรีสอร์ตคอนโด ชูคอนเซ็ปต์ “ที่..ที่เห็นโลกกว้างกว่าที่เคย”  จุดเด่นวิวสวยมุมสูง ฟรีเฟอร์ & แอร์ เริ่ม 1.69 ลบ. เปิด 30 มิ.ย.นี้ ลดสูงสุด 1.1 แสนบาท

LPN ขยายความสำเร็จย่านปิ่นเกล้า เปิดรีสอร์ตคอนโด ชูคอนเซ็ปต์ “ที่..ที่เห็นโลกกว้างกว่าที่เคย” จุดเด่นวิวสวยมุมสูง ฟรีเฟอร์ & แอร์ เริ่ม 1.69 ลบ. เปิด 30 มิ.ย.นี้ ลดสูงสุด 1.1 แสนบาท

LPN ลุยรับความสำเร็จต่อเนื่อง ปักหมุดทำเลเด่นย่านปิ่นเกล้า เปิดคอนโดน้องใหม่ “ลุมพินี พาร์ค บรมราชชนนี-สิรินธร” โครงการส่วนต่อขยาย (Expand Project) หลังประสบผลสำเร็จแล้ว 7 โครงการ หยิบจุดเด่นของถนนรุ่งประชา ที่เงียบ สงบ ในบรรยากาศพื้นที่สีเขียว ไม่มีตึกสูงรายล้อม ดีไซน์คอนโดสไตล์รีสอร์ต ภายใต้แนวคิด “Modern Vertical Resort” หวังเหมาะเป็นที่พักอาศัยของคนเมือง สู่อาณาจักรแห่งการพักผ่อน ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวเพียง 680 ยูนิต ชูคอนเซ็ปต์ “ที่..ที่เห็นโลกกว้างกว่าที่เคย” พร้อมเทควิวสวย มุมสูง ไร้ตึกใดบดบังทัศนียภาพ สะดวกทุกการเดินทางด้วยการเข้า-ออกสองเส้นทางที่มุ่งสู่ถนนบรมราชชนนีและถนนสิรินธร ทุกห้องฟรีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำน้ำอุ่น เชื่อมั่นการบริการหลังการขายด้วยแนวคิด “ชุมชนน่าอยู่” (Livable Community) ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท ลดสูงสุดเฉพาะวันงาน 1.1 แสนบาท เปิดขายวันเสาร์ที่ 30 มิ.ย.นี้ นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า “บริษัทเตรียมเปิดตัวคอนโดใหม่ภายใต้ชื่อ “ลุมพินี พาร์ค บรมราชชนนี-สิรินธร” มูลค่า 1,600 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนรุ่งประชาในทำเลย่านปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นโครงการส่วนต่อขยาย (Expand Project) ที่บริษัทได้วางแผนไว้ สืบเนื่องจากเคยประสบผลสำเร็จกับการพัฒนาคอนโดในย่านนี้ทั้งสิ้น 7 โครงการ อันมีเหตุผลมาจากความเชื่อมั่นในบริการหลังการขายภายใต้แนวคิด “ชุมชนน่าอยู่” รวมถึงศักยภาพทำเลที่โดดเด่นหลายประการตั้งแต่ใกล้สถานที่สำคัญทางราชการ เช่น วัดหลวงและสนามหลวงอันเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาของประเทศไทย รวมถึงยังเป็นเส้นทางหลักที่มุ่งหน้าสู่ภาคใต้และภาคตะวันตก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า “ถนนบรมราชชนนี” คือ หัวใจหลักของเส้นทางสัญจรในย่านปิ่นเกล้า เริ่มต้นที่จุดตัดระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์และถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แยกบรมราชชนนีไปสิ้นสุดที่ถนนเพชรเกษมในเขตอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม รวมระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร จากนั้นได้มีการสร้างทางคู่ขนานลอยฟ้าบนถนนบรมราชชนนี ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้การจราจรในย่านนี้คล่องตัวและถนนสายนี้ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น” ส่วนถนนสิรินธรเป็นถนนสายสั้นๆ ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร จากสี่แยกบางพลัดที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ตัดกับถนนราชวิถีมาบรรจบถนนบรมราชชนนี ทำให้ย่านนี้มีทางเลือกในการสัญจรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับว่าถนนบรมราชชนนีและถนนสิรินธรเป็นถนนสายสำคัญของย่านปิ่นเกล้าและฝั่งธนบุรีที่มีส่วนทำให้พื้นที่ในแถบนี้มีการพัฒนาเติบโตอย่างรวดเร็ว เสมือนเป็นการบุกเบิกพื้นที่ให้กลายเป็นเมืองใหม่ มีความเจริญและเพียบพร้อมไม่แพ้ย่านใดๆ ในกรุงเทพฯ ทั้งตลอดแนวถนนทั้งสองสายยังมีห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานศึกษาและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ส่วนพื้นที่ภายในถนนรุ่งประชาซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนบรมราชชนนีและถนนสิรินธร ถือเป็นถนนสายรองที่สำคัญสายหนึ่งเป็นเหมือนทางลัดที่ตัดตรง ช่วยย่นย่อระยะทางระหว่างถนนหลักสองสาย เป็นย่านที่มีพื้นที่สีเขียวอยู่มากและไม่มีตึกสูงรายล้อม บรรยากาศจึงสงบ ร่มรื่น ปลอดโปร่ง เป็นธรรมชาติเหมาะแก่การพักผ่อน อีกทั้งการเดินทางสัญจรไป-มาสามารถเข้า-ออกได้ทั้งสอง 2 จึงเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก “ลุมพินี พาร์ค บรมราชชนนี-สิรินธร” ตั้งอยู่บนถนนรุ่งประชาได้รับการออกแบบให้เป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ต ตามแนวคิด “Modern Vertical Resort” โดยเลือกใช้วัสดุ สีสัน การตกแต่งและการออกแบบที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ อบอุ่น ทันสมัย ประกอบกับโครงการแห่งนี้ที่ดินยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนตามลักษณะธรรมชาติด้วยคลองเล็กๆ ที่เชื่อมระหว่างกันด้วยสะพาน LPN จึงได้ออกแบบที่ดินด้านหน้าให้เป็นร้านสะดวกซื้อ (Shop) เพื่อตอบสนองผู้พักอาศัยในโครงการรวมถึงผู้คนบริเวณใกล้เคียง และยังมีอาคารชุดพักอาศัย (Private Villa) จำนวน 5 ยูนิต เป็นอาคารสูง 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องนอน ที่จอดรถ 3 คัน รวมถึงพื้นที่ใช้สอยต่างๆ อย่างครบครัน “ถัดเข้ามาในพื้นที่โครงการ LPN วางผังอาคารสะท้อนให้เห็นบรรยากาศที่น่าพักผ่อน เสมือนเป็นรีสอร์ตที่อยู่ใกล้เมือง ตำแหน่งของ แต่ละอาคารจะโอบล้อมด้วยสวนและสระว่ายน้ำ ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัยจำนวน 680 ยูนิต จำนวน 3 อาคาร และอาคารจอดรถจำนวน 1 อาคาร ห้องชุดแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ Studio, 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น Fitness, Co-Living Space, สระว่ายน้ำ, ลู่วิ่ง, ลานออกกำลังกายกลางแจ้งและมุมนั่งเล่นในสวน พร้อมการบริหารหลังการขายแบบมืออาชีพ “ชุมชนน่าอยู่” (Livable Community) ราคาขายเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท รับส่วนลดสูงสุดเฉพาะวันงานมูลค่า 110,000 บาท ทุกห้องฟรีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำน้ำอุ่น เปิดขายอย่างเป็นอย่างการวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายนนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม LPN Call Center 02-689-6888 หรือ www.lpn.co.th” นายโอภาสทิ้งท้าย
LPN-JLL ชูกลยุทธ์ขยายธุรกิจ  ปักหมุดวิภาวดี-จตุจักร ชิงตลาดอาคารสำนักงาน

LPN-JLL ชูกลยุทธ์ขยายธุรกิจ ปักหมุดวิภาวดี-จตุจักร ชิงตลาดอาคารสำนักงาน

  LPN-JLL เผยกลยุทธ์ขยายธุรกิจ มั่นใจดึง JLL นำทัพชิงตลาดอาคารสำนักงาน ส่งให้เป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร (อาคาร A) รองรับความต้องการตลาดอาคารสำนักงานที่เพิ่มขึ้น ต่อยอดธุรกิจอาคารชุดพักอาศัยที่ LPN ครองตลาดมากว่า 29 ปี พุ่งเป้าการเติบโตไปด้วยกัน เจาะกลุ่มลูกค้านักลงทุนปล่อยเช่า ให้ผลตอบแทนระยะยาว และลูกค้าที่ต้องการเช่าพื้นที่ทำออฟฟิศ   นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวในระหว่างพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจแต่งตั้งให้ JLL เป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่าสำหรับอาคาร A ของโครงการ ว่า โครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร เป็นการต่อยอดการลงทุนด้วยกลยุทธ์ขยายธุรกิจ ซึ่งความตั้งใจกลับมาพัฒนาอาคารสำนักงานอีกครั้ง หลังจากเมื่อปี 2532 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีกับการพัฒนาโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ (ถนนพระราม 4) และแอล.พี.เอ็น.ทาวเวอร์ เนื่องจากศักยภาพทำเลตอบโจทย์คนทำงานในเมือง ทั้งยังใกล้แหล่งสาธารณูปโภค และสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยการพัฒนาโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร ในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการอาคารสำนักงานที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันบนถนนวิภาวดีรังสิตที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพสูง   “โครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร เป็นการนำประสบการณ์ และจุดแข็งที่ LPN ได้สั่งสมมาจากการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยมากว่า 29 ปี มาสร้างคุณค่าด้านผลิตภัณฑ์ เช่น การออกแบบโครงการให้เข้ากับมาตรฐานอาคารเขียวสากล การวางแผนจัดการพลังงานและใช้พลังงานทดแทน เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมให้ผู้ที่ทำงานในอาคารมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการจัดสรรให้มีพื้นที่จอดรถจักรยาน สร้างสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในโครงการ ควบคู่ไปกับการยกระดับการให้บริการด้านการบริหารอาคารโดยบริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการพัฒนาโครงการจะดีพร้อมเพียงใด หากไม่ได้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในระดับมืออาชีพ ก็อาจส่งผลให้การจัดหาผู้เช่าพื้นที่สำนักงานในโครงการไม่ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ได้ ดังนั้นความร่วมมือของ LPN และ JLLในครั้งนี้ จึงเป็นสร้างคุณค่าร่วมระหว่างกัน ด้วยการนำจุดแข็งของทั้งสององค์กรมาประสานเพื่อให้บรรลุจุดหมายปลายทาง ซึ่งโครงการมีทั้งหมด 2 อาคารสำนักงาน แบ่งเป็นอาคาร A และ อาคาร B โดยบริษัทได้เลือก JLLเป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่าพื้นที่สำนักงานในโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร (อาคาร A)  เนื่องจากมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นในธุรกิจบริการด้านอาคารสำนักงาน  โดยเฉพาะการเป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่าพื้นที่สำนักงานให้กับบริษัทไทยและบริษัทต่างชาติ ตลอดจนเป็นตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน     นอกจากนั้นบริษัทยังมั่นใจในศักยภาพทำเลที่โดดเด่นที่สุดย่านวิภาวดีนี้ ทั้งใกล้แหล่งงาน อย่างอาคารสำนักงานของบริษัทต่างๆ มากมายตลอดจนแหล่งสาธารณูปโภค  ศูนย์การค้าชั้นนำ  แหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน  สถานพยาบาล สถานศึกษา สวนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ และยังใกล้กับจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนทางรางขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมโยงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่บริเวณถนนพหลโยธิน ช่วงหมอชิตเดิม บริเวณห้าแยกลาดพร้าว   และถนนวิภาวดีรังสิต   แม้จะไม่มีรถไฟฟ้าพาดผ่านพื้นที่โดยตรง   หากแต่มีสถานีรถไฟฟ้าถึง  2  สายที่ให้บริการอย่างสะดวก ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินMRT (สถานีพหลโยธิน และสถานีจตุจักร) และรถไฟฟ้า BTS  (สถานีหมอชิต) ทำให้การเดินทางเชื่อมโยงพื้นที่ต่างๆ  ทั้งเข้า-ออกเมือง  มีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น  ตลอดจนเชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญในระดับภูมิภาคได้อย่างตอบโจทย์ทุกการเดินทาง”   นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (JLL)  กล่าวว่า “การพัฒนาโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร สะท้อนให้เห็นได้เป็นอย่างดีถึงกลยุทธ์อันชาญฉลาดของ LPN ในการเพิ่มช่องทางการขยายธุรกิจ  โดยโครงการนี้เปิดโอกาสให้ LPN ได้ขยายธุรกิจเข้ามาในตลาดอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นนับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในขณะนี้”   ศูนย์บริการข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไทยของ JLL ระบุว่า ขณะนี้กรุงเทพฯ มีพื้นที่อาคารสำนักงานคิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้น 8.9 ล้านตารางเมตร  ในจำนวนนี้มีพื้นที่ว่างเหลือเช่าเพียงไม่ถึง 9%  ในขณะที่ค่าเช่าปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงกว่า 7 ปีที่ผ่านมา  โดย  ณ  สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้  ค่าเช่าสำหรับอาคารสำนักงานทั่วกรุงเทพฯ ไม่แบ่งเกรด  และทำเล  มีอัตราเฉลี่ยที่ 667 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 4% และยังมีแนวโน้มที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอีก   ลงนาม... นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) บันทึกความเข้าใจแต่งตั้ง บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อจัดหาผู้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานโครงการลุมพินี ทาวน์เวอร์ วิภาวดี จตุจักร(อาคาร A)   ขณะที่ นางสาวยุพา เสถียรภาพอยุทธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการธุรกิจอาคารสำนักงาน JLL กล่าวเสริมว่า “ขณะนี้ตลาดอาคารสำนักงานของกรุงเทพฯ กำลังอยู่ในภาวะที่มีปริมาณพื้นที่ไม่เพียงพอรองรับความต้องการของผู้เช่า โดยเฉพาะอาคารสำนักงานคุณภาพดีที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีผู้เช่าใช้พื้นที่เต็มหรือเกือบเต็ม ส่วนอาคารใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในขณะนี้ มีบริษัทผู้เช่าเข้าจับจองพื้นที่เช่าล่วงหน้าแล้วเฉลี่ยมากกว่า 30% และมีแนวโน้มที่จะมีผู้เช่าพื้นที่เต็ม 100% ในเวลาอันรวดเร็วหลังก่อสร้างเสร็จ” “การเปิดตัวโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร ในช่วงนี้ จึงนับเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ การเลือกที่ตั้งโครงการอยู่ในทำเลที่สะดวกบนถนนวิภาวดี ยังนับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ดี เพราะมีบริษัทจำนวนมากที่ต้องการมีสำนักงานในย่านวิภาวดี ไม่ว่าจะเพื่ออยู่ใกล้กับกลุ่มลูกค้า ซัพพลายเออร์ หรือพนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่อาจอยู่ในย่านดังกล่าว หรือห่างออกไปในโซนด้านเหนือของกรุงเทพฯ ในขณะที่ยังคงสามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ ได้สะดวก ดังนั้นเชื่อว่าโครงการจะประสบความสำเร็จในด้านการปล่อยเช่าภายในเวลาไม่นาน โดยเฉพาะเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ” นางสาวยุพากล่าว
LPN กางโรดแมปธุรกิจโตต่อเนื่อง 3 ปี ปลดล็อคกับดักสู่ YEAR OF SHIFT

LPN กางโรดแมปธุรกิจโตต่อเนื่อง 3 ปี ปลดล็อคกับดักสู่ YEAR OF SHIFT

เครือ LPN ประกาศแผนธุรกิจรับเป้าหมายเติบโตต่อเนื่อง 3 ปี พร้อมกำหนดให้ปี 2561 เป็นปี “Year of Change : ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง” ผ่าน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจให้บริการ เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวสูงและแนวราบรวม 14 โครงการ รวมมูลค่า 18,000 ล้านบาท มั่นใจปี 2561 ผลประกอบการฟื้นตัวด้วยยอดขาย 20,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายรวมตั้งเป้าที่ 12,000 ล้านบาท นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) (LPN)  เปิดเผยว่า ในปี 2560 เป็นปีแรกที่ LPN และบริษัทในเครือได้จัดทัพธุรกิจครั้งใหญ่ก้าวสู่ “บริบทใหม่แห่งความยั่งยืน” ด้วยการแบ่งกลุ่ม 2 ธุรกิจ กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) และบริการ (Service Provider) และได้กำหนดให้เป็น “ปีแห่งการปรับเปลี่ยน” หรือ “YEAR OF SHIFT” ได้ปรับกลุ่มเป้าหมายจากกลางถึงกลาง-ล่างเป็นกลางถึงกลาง-บน พร้อมกับกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ระยะสั้นเพื่อระบายสินค้าพร้อมอยู่ (Inventory) โดยบริษัทได้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว คือ ในปี 2560 บริษัทสามารถระบายสินค้าพร้อมอยู่ (Inventory) ได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือประมาณ 50 % ของมูลค่าสินค้าพร้อมอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้ ในปี 2560 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,062 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการด้านรายได้นั้น ยังคงมาจากกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ที่ดำเนินงานผ่าน 2 บริษัทคือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) และบริษัท พรสันติ จำกัด (PST) ซึ่งหลังจากที่ LPN ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้วยการเน้นกลุ่มเป้าหมายจากกลางถึงกลาง-ล่าง เป็นกลางถึงกลาง-บน และได้ทยอยเปิดตัวโครงการในกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวตลอดปี 2560 ทั้งสิ้น 10 โครงการ มูลค่าการขายรวมประมาณ 14,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมียอดขายจาก 8,700 ล้าน ในปี 2559 เป็นประมาณ 16,000 ล้านบาท ในปี 2560 ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 90% หรือเกือบเท่าตัว ส่วนรายได้นั้นอยู่ที่ 9,655  ล้านบาท นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรสันติ จำกัด ส่วนบริษัท พรสันติ จำกัด (PST) นั้นผลประกอบการมีรายได้มาเติมเต็มรายได้จากการพัฒนาอาคารชุดเพื่อขายได้ในเกณฑ์ที่ดี โดยในปีที่ผ่านมา พรสันติได้เปิดตัวโครงการใหม่ รวม 5 โครงการ มูลค่าการขายรวม  2,450 ล้านบาท สามารถทำยอดขายได้1,750 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 1,000 ล้านบาท เติบโต 27% และ 18% (ตามลำดับ)  เมื่อเทียบกับปี 2559 ขณะที่กลุ่มธุรกิจบริการ ที่ดำเนินธุรกิจผ่าน 3 บริษัท ดังนี้ บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์ จำกัด (LPC), บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) และ บริษัท ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด (LPS) ได้รับความเชื่อมั่นและเริ่มให้บริการสู่องค์กรภายนอกหลายแห่ง รายได้เติบโต 10% คิดเป็นมูลค่ารวม 970 ล้านบาท ผลจากการปรับเปลี่ยนในปีที่ผ่านมาทำให้เห็นภาพการฟื้นตัวที่เด่นชัดในปี 2561 ที่กำหนดเป็นปี “Year of Change : ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน ทั้งกลยุทธ์การเพิ่มรายได้ที่เน้นขยายฐานรายได้จากธุรกิจหลักธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และการเพิ่มทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการ เปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารที่ดึงคนนอกเข้ามาเสริมทีมให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาบุคลากร การพัฒนาระบบ IT เพื่อรองรับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง และ การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ (Rebranding) เพื่อรองรับแผนการเติบโตของ LPN และบริษัทในเครือในช่วง 3 ปี (ปี2561-2563)  ผ่าน  2 กลุ่มธุรกิจหลักคือ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจบริการ โดยวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 35 - 40% และรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการเติบโตยู่ที่ 20% นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นประเภทอาคารชุดพักอาศัย 17,000 ล้านบาท และประเภทบ้าน  3,000  ล้านบาท ขณะที่เป้ารายได้จากการขายอยู่ที่ 12,000  ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุดพักอาศัย 10,500 ล้านบาท และ   ประเภทบ้าน 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังกำหนดเป้าหมายจากการเปิดตัวโครงการใหม่ไว้ที่ 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุดพักอาศัย 15,000 ล้านบาท และประเภทบ้าน 3,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ในปี 2561 ในมืออยู่ประมาณ 5,900 ล้านบาท คิดเป็น 50 % ของเป้ารายได้รวม ณ สิ้นปี 2560 มียอดแบล็กล็อก รวมมูลค่า 7,400 ล้านบาท ขณะที่บริษัท พรสันติ จำกัด นั้นในปี 2561 เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 1 โครงการ รวมมูลค่าการขายประมาณ 850 ล้านบาท และได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท พร้อมกันนี้นายโอภาส ยังได้กล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในปี 2561 นี้ จะเป็นแนวทางสู่การเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทต่อไปในอนาคต สำหรับการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ LPN ได้ว่าจ้างบริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงอย่างยาวนานในวงการ ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนของบริษัทได้ในครึ่งปีหลังของปี 2561 นี้
สี่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำร่วมพัฒนา “กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง” โครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรีเพื่ออิสระแห่งการใช้ชีวิตในวัยเกษียณแห่งใหม่ของเอเชียที่ภูเก็ต

สี่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำร่วมพัฒนา “กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง” โครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรีเพื่ออิสระแห่งการใช้ชีวิตในวัยเกษียณแห่งใหม่ของเอเชียที่ภูเก็ต

สี่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ประกอบด้วย  บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด, บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน), บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ร่วมลงทุนเพื่อพัฒนา “กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง” มาตรฐานใหม่ของโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรีที่มอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับเพื่อการใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างอิสระและมีความสุข ในสังคมที่สงบเป็นส่วนตัว และปลอดภัย   โครงการกมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ตั้งอยู่บริเวณหาดกมลา ชายหาดอันสวยงามบนฝั่งตะวันตกของภูเก็ต พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่าง ๆ อย่างครบวงจร ภายใต้การบริหารและดำเนินงานโดย Otium Living ผู้เชี่ยวชาญด้านที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยชั้นนำระดับนานาชาติ พร้อมทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่งด้วยประสบการณ์ โดยมี Audley Group Ltd. ผู้พัฒนาและบริหารโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุระดับหรูอันดับหนึ่งของสหราชอาณาจักรร่วมเป็นที่ปรึกษา อรฤดี ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด กล่าวว่า “สังคมผู้สูงอายุที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการโครงการที่พักอาศัยวัยเกษียณที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพสูงในรูปแบบต่าง ๆ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง  กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง คือหนึ่งในชุมชนแห่งการพักอาศัยระดับลักชัวรีสำหรับผู้สูงอายุแห่งแรก ๆ ของเอเชีย ที่มอบไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างอิสระและเหนือระดับ ในสภาพแวดล้อมที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีตคำนึงถึงปลอดภัยและเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยบริการต่าง ๆ ที่ครอบคลุมอย่างครบวงจร ภายใต้การดูแลของทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูงในโครงการที่พักอาศัยวัยเกษียณระดับหรูชั้นนำของโลกซึ่งเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ พัฒนาก่อสร้าง จนถึงการบริหารโครงการ” โครงการกมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของมอนท์เอซัวร์ ภูเก็ต โครงการมิกซ์ยูสระดับซูเปอร์ไฮเอนด์บนพื้นที่กว่า 450 ไร่ ใจกลางชายหาดและทิวเขาแถบฝั่งตะวันตกของหาดกมลา หนึ่งในหาดที่สวยงามและสงบเป็นส่วนตัวที่สุดบนเกาะภูเก็ต  กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมจำนวน 200 ยูนิต และวิลล่า 30 ยูนิต มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท ภายในโครงการพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งศูนย์ดูแลสุขภาพ คลับเฮาส์ ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำและศูนย์บริการธุรกิจ นอกจากนั้นผู้พักอาศัยยังสามารถใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกระดับหรูต่าง ๆ ภายในโครงการมอนท์เอซัวร์ ไม่ว่าจะเป็น บีชคลับ ร้านอาหารริมหาดและบาร์ ร้านค้า สปาเพื่อสุขภาพ ตลอดจนเส้นทางขี่จักรยานและเดินเขา เพื่อเติมเต็มประสบการณ์แห่งการใช้ชีวิตทั้งในพื้นที่ร่มและกลางแจ้ง “ภูเก็ตคือสถานที่ที่มีความพรั่งพร้อมในทุกองค์ประกอบสำหรับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม ภูมิอากาศที่เหมาะสม มีสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ครบครัน อีกทั้งยังมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งเสริมการพักผ่อนและดูแลสุขภาพ ทั้งโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานสูง ระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย ใกล้สนามบินนานาชาติภูเก็ต ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งเสริมให้โครงการกมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง มีความน่าสนใจและเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับผู้สูงอายุทั้งในแถบเอเชีย-แปซิฟิกและยุโรป” อรฤดีกล่าวเสริม โครงการกมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ให้ความสำคัญกับการบริหารโครงการอย่างครอบคลุม ทั้งในด้านตัวอาคารสถานที่ ด้านการบริการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และด้านการดูแลสุขภาพของผู้พักอาศัย ภายใต้การบริหารและดำเนินงานโดย Otium Living  โดยมี ดร. นาฏ ฟองสมุทร Aged Care Specialist ร่วมเป็นผู้บริหาร ในการบริหารโครงการ Audley Group Ltd.  ผู้พัฒนาและบริหารโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุระดับหรูอันดับหนึ่งของสหราชอาณาจักร จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ Otium Living ในทุกด้าน ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานของพื้นที่พักอาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จนถึงการดูแลบริหารโครงการ แดเนียล โฮล์มส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Otium Living Pte Ltd. กล่าวว่า “เอเชียคือภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงสำหรับการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยระดับหรูสำหรับผู้สูงอายุ และภูเก็ตก็มีปัจจัยที่เอื้ออำนวยพรั่งพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่ในฝันสำหรับการอยู่อาศัยในวัยเกษียณสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความมั่งคั่งจำนวนมากทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ อย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ตลอดจนยุโรป เราจึงมีความตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการกมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ให้เป็นมาตรฐานใหม่ของโครงการที่พักผู้สูงอายุระดับลักชัวรีในเอเชีย เพื่อให้ที่นี่เป็นบ้านพักหลักหรือบ้านหลังที่สองที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้เกษียณอายุ เพื่อไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตอย่างมีสีสันและเหนือระดับ พรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ภายใต้สภาพแวดล้อมอันสวยงาม และดูแลทุกความต้องการของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี” องค์ประกอบต่าง ๆ ของโครงการมอนท์เอซัวร์ ล้วนมอบไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นให้กับผู้พักอาศัยและผู้มาเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็น Twinpalms Residences MontAzure คอนโดมิเนียมที่พักอาศัยพร้อมวิวทะเลที่สวยงาม Intercontinental Phuket Resort โรงแรมที่พรั่งพร้อมด้วยบริการระดับโลก รวมไปถึง HQ Beach Lounge และCafé Del Mar บีชคลับระดับสากล ที่จะมอบประสบการณ์แห่งความเพลิดเพลินกับร้านอาหารและเอนเตอร์เทนเมนต์ชั้นเลิศริมทะเล เศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์ กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่มีโครงการที่พักอาศัยระดับหรูสำหรับผู้สูงวัยเกิดขึ้นเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์อันหลากหลายภายในโครงการมอนท์เอซัวร์ ชุมชนแห่งใหม่นี้คือความร่วมมือกันระหว่างบริษัทที่มีชื่อเสียง แบรนด์ที่มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้างสรรค์ให้โครงการมิกซ์ยูสที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และเหนือระดับที่สุดในภูเก็ตแห่งนี้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น เพราะวิสัยทัศน์ของมอนท์เอซัวร์คือการสร้างสรรค์ความหลากหลายและมาตรฐานลักชัวรีในระดับโลก โครงการกมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง และยังเป็นโอกาสในการลงทุนที่มั่นคงสำหรับนักลงทุนจากทั่วโลกอีกด้วย”