Tag : บางใหญ่

1 ผลลัพธ์
THE CITY บางใหญ่ : รีวิวบ้าน

THE CITY บางใหญ่ : รีวิวบ้าน

การจะเลือกซื้อบ้านซักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะต้องเลือกว่าบ้านหลังไหนที่เหมาะกับสมาชิกในครอบครัว ทำเลที่ต้องเดินทางสะดวก สภาพแวดล้อมเอื้อต่อไลฟ์สไตล์ หรือมีอะไรใกล้ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกบ้าง จึงต้องใช้เวลาเปรียบเทียบบ้านหลายๆ หลัง เพื่อให้ได้บ้านที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันมากที่สุดเท่าที่ บ้านเดี่ยวน่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบความต้องการของครอบครัว ซึ่ง AP เองก็เข้าใจกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี จึงเปิดโครงการใหม่ล่าสุดบนทำเลบางใหญ่ ทำเลที่มีศักยภาพเหมาะกับการอยู่อาศัยมากที่สุดแห่งหนึ่ง ภายใต้แบรนด์ “The City บางใหญ่” บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดหรูสำหรับไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์ ศักยภาพทำเล   ความได้เปรียบเด่นๆ ของ The City บางใหญ่ คือ ทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเต็มตัวแล้ว ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองเป็นเรื่องง่ายดาย สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีคลองบางไผ่ ห่างจากโครงการเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น อีกทั้งสถานีนี้ยังเป็นสถานีต้นทาง มีอาคารจอดแล้วจรขนาดใหญ่ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสัญจรได้มากขึ้น ในขณะที่เส้นทางเชื่อมต่อเข้าเมืองด้วยรถส่วนตัวก็เป็นเรื่องง่ายไม่แพ้กัน เนื่องจากมีให้เลือกหลายเส้นทางทั้งถนนสายหลักอย่าง ถนนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์ไปงามวงศ์วานได้ไม่ยาก หรือจะเลือกใช้เส้นทางถนนนครอินทร์ ตัดเข้าถนนราชพฤกษ์ รวมถึงเส้นทางด่วนพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกก็เป็นอีกเส้นทางใหม่ที่ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการเดินทางเข้าเมืองได้อีกทาง ปัจจุบันย่านบางใหญ่เป็นหนึ่งในพื้นที่น่าจับตา เพราะกำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางแหล่งช็อปปิ้งชื่อดัง เช่น ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central Westgate, Big C, Home Pro, Index Living Mall และกำลังจะมี Ikea เปิดให้บริการในอนาคต ขณะเดียวกันห่างออกมาทางวงเวียนพระราม 5 ก็ยังมีทั้ง The Walk ราชพฤกษ์, The Crystal, Home Work  และร้านอาหารอีกเพียบให้แวะเวียนไปเปลี่ยนบรรยากาศได้ ในขณะเดียวกันในโซนบางใหญ่ก็มีตลาดขนาดใหญ่ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกพึ่งพาเป็นจำนวนมากไม่แพ้กัน จัดได้ว่าเป็นทำเลที่มีองค์ประกอบต่างๆ เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก แผนที่โครงการ การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากบริเวณแยกแคราย ด้านขวามือจะเป็นเอสพลานาดแคราย เลยจากแยกแครายมาเราจะเข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ จะเริ่มเห็นรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงกันแล้วนะครับ ตรงนี้จะเป็นสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เราขับรถตามถนนรัตนาธิเบศร์ไปเรื่อยๆ ตรงขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าไปเลยครับ ลงจากสะพานพระนั่งเกล้ามาเราก็ยังคงตรงต่อไปเรื่อยๆ ตามป้ายถนนกาญจนาภิเษกไปเลยครับ ตรงกันไปยาวๆ พอใกล้ถึงถนนกาญจนาภิเษกให้เราชิดขวาไปทางสุพรรณบุรี เพื่อขึ้นสะพานวนเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก เมื่อเราเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษกแล้วจะเห็นเซ็นทรัล เวสต์เกต อยู่ด้านขวามือ เลยมาอีกนิดหน่อยจะเห็นบิ๊กซี บางใหญ่อยู่ฝั่งซ้ายมือ เราขับเลยบิ๊กซีมานิดหน่อยจะเห็นจุดสังเกตคือโชว์รูมโตโยต้าอยู่เ้านซ้ายมือ ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลยนะครับ เลยโชว์รูมโตโยต้ามาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคลองถนนได้เลยครับ จะเห็นป้ายของโครงการตั้งอยู่ริมถนนด้วย บรรยากาศบนถนนคลองถนน จะเป็นถนน 2 เลน เลียบคลองยาวตลอดแนว บรรยากาศในซอยจะมีทั้งคอนโดและโครงการหมู่บ้านขึ้นเยอะเลยครับ ร้านค้าต่างๆ ก็ตามมามากมาย จากปากซอยถนนกาญจนาภิเษกเข้ามาประมาณ 2 กิโลเมตร ก็ถึงทางเข้าโครงการแล้วครับ ปากซอยจะมีป้ายติดชื่อซอยสองพี่น้อง เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วต้องขับตรงเข้าไปอีกหน่อย ถึงโครงการแล้วครับ หน้าทางเข้าโครงการทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว สวยงามที่เดียวครับ คราวนี้เราลองมาดูการเดินทางขาออกจากโครงการหันดูบ้างนะครับ โดยนอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ใกล้ๆ โครงการยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงไว้คอยรองรับอีกด้วย สำหรับสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดจะเป็นสถานีคลองบางไผ่ ออกมาจากโครงการแล้วเลี้ยวซ้ายมาเลยครับ ออกมานิดเดียวก็จะเห็นสถานีคลองบางไผ่แล้วครับ บริเวณใกล้ๆ สถานีคลองบางไผ่ซึ่งเป็นสถานีต้นทางจะมีที่จอดรถไว้สำหรับผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT เรียกว่า "อาคารจอดแล้วจร" จะอยู่ตรงทางขึ้นสะพานกลับรถ แล้วมีทางแยกออกเพื่อเข้าอาคาร หน้าตาของอาคารจอดแล้วจร อยู่ใกล้กับสถานีคลองบางไผ่ หรือใครสะดวกจอดไว้ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต ก็ได้นะครับ แล้วขึ้น MRT สถานีตลาดบางใหญ่ แต่รู้สึกว่าทางเซ็นทรัล จะเริ่มเก็บค่าที่จอดรถกันแล้ว ยังไงลองเช็คกันดูอีกทีนะครับ บรรยากาศบนสถานีรถไฟฟ้ายังมีผู้ใช้บริการค่อนข้างบางตาอยู่นะครับ เลือกที่นั่งได้สบาย ไม่ได้แย่งกับใคร ฮ่าๆ The City โครงการ The City บางใหญ่ ถูกออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ “Modern Art Deco” ผสมผสานความสวยงามของงานออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติไว้ได้อย่างลงตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มักจะเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุด ทางโครงการใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การตกแต่งหน้าทางเข้าให้สวยงามอลังการ ด้วยวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งช่วยโอบล้อมทางเข้าหมู่บ้านให้ร่มรื่นน่าอยู่ ด้านหน้าทางเข้ามีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง CCTV และ รปภ. ประตูหลักเป็นระบบ Security Gate ผ่านเข้าออกด้วยระบบเดียวกับ Easy Pass ที่สามารถผ่านเข้าออกได้สะดวกโดยไม่ต้องจอดรถแตะบัตรให้เสียเวลา ประตูทางเข้าหลักของโครงการ Security Gate ผ่านเข้าออกด้วยระบบเดียวกับ Easy Pass ภายในโครงการร่มรื่นด้วยต้นไม้มากมาย ในพื้นที่ส่วนกลางจัดเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมด้วย Club House หลักที่ลูกบ้านทั้งหมด 133 หลังจะได้ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้อย่างเต็มที่ ภายใน Club House เพียบพร้อมไปด้วย สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบมาสวยงามเหมือนได้มาพักผ่อนในรีสอร์ท พร้อมกับแยกสระเด็กไว้ให้เรียบร้อย ในขณะที่ด้านบนมีทั้ง Social Room และห้อง Fitness พร้อมอุปกรณ์ครบครันและวิวสนามหญ้าที่สวยงาม ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ทางโครงการจัดไว้ให้อย่างเต็มที่และใส่ใจในทุกรายละเอียดขนาดนี้ก็เพื่อความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของลูกบ้านทุกหลัง ถนน Main ของโครงการจะกว้าง ประมาณ 16 เมตร ส่วนถนนซอยจะกว้างประมาณ 9 เมตร Kathaleeya Kathaleeya เป็นบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ ที่เป็นเหมือนตัวอย่างแรกที่เราจะได้สัมผัสกับคำว่า Elegant Living ภายในพื้นที่ใช้สอยขนาด 185.92 ตร.ม. แบ่งออกเป็น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ บนที่ดินมากกว่า 52 ตร.ว บริเวณหน้าบ้านกว้างสามารถจอดรถได้ 2 คัน แบบบ้าน Kathaleeya ตรงนี้จะเป็นที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน บริเวณที่จอดรถจะมีประตูทางเข้าให้อีก 1 จุด ภาพนี้จะเป็นแบบบ้าน Vanda ที่เป็นตัวบ้านมาตรฐาน รั้วบานจะเป็นแบบนี้ทั้ง 2 Type เลยนะครับ ภายในตัวบ้านตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบในสไตล์ Modern ในขณะที่ก็ยังสอดแทรกรายละเอียดของดีไซน์ต่างๆ ไว้ทั่วบ้าน ชั้นล่างมี Living Area กว้างขวาง ซึ่งมีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับ Dining Area หน้าครัวได้อย่างกลมกลืน ตัวบ้านมีหน้าต่างและประตูกระจกบานใหญ่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนสวยจากภายนอกได้อย่างเต็มที่ บริเวณครัวตกแต่งใหม่ ใช้กระจกใสบานใหญ่แทนผนังทึบตามแบบบ้านมาตรฐาน ทำให้บรรยากาศในครัวดูโปร่งสบายตากว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าถ้าอยากได้ครัวสวยแบบนี้บ้างก็ต้องตกแต่งเพิ่มเติมกันไป แต่ถ้าไม่ซีเรียสมากก็จะได้ครัวปิดตามแบบบ้านมาตรฐาน ที่ก็ดูเป็นสัดส่วนเรียบร้อยไปอีกแบบ นอกจากนี้บริเวณชั้นล่างยังมี 1 ห้องนอนเล็ก ที่สามารถดัดแปลงใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานเหมือนในบ้านตัวอย่าง หรือจะยังคงใช้เป็นห้องนอนสำหรับสมาชิกอาวุโสของบ้านก็ถือว่าสะดวกดีทีเดียว ประตูทางเข้าหลักของตัวบ้านจะเป็นประตูกระจกบ้านเลื่อน 2 ตอน ยกพื้นขึ้นมา 1 สเตป โครงการจะใช้บานเลื่อนของ Windsor เปิดประตูเข้ามาด้านในแล้วจะเป็นส่วน Living Area อยู่ด้านหน้าเลยนะครับ พื้นที่บริเวณ Living Area ถือว่ากว้างขวางพอสมควร ด้านที่วางโซฟาโครงการวางโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ดูจากพื้นที่แล้วสามารถวางโซฟา 3-4 ที่นั่ง ได้สบายๆ ด้านชั้นวางทีวีโครงการ Built-in แบบเต็มพื้นที่มาให้ดู เลยจาก Living Area เข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Dining Area โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ 6 ที่นั่ง พื้นที่บริเวณ Dining Area กว้างขวางพอสมควรเลยนะครับ สามารถเลือกวางโต๊ะทานอาหารใหญ่ๆ ได้ตามใจชอบเลยครับ ติดกับส่วน Dining Area จะมีระเบียงออกไปที่สวนข้างบ้าน เป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน บานใหญ่ ออกมาบริเวณสวนข้างบ้านโครงการตกแต่งเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นเล็กๆ ไว้ข้างบ้าน กลับเข้ามาด้านใน อีกฝั่งของโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องครัว บริเวณห้องครัวโครงการตกแต่งใหม่โดยใช้กระจกใสแทนผนังทึบเหมือนในบ้านแบบมาตรฐาน จึงทำให้โปร่ง ส่วนบ้านจริงที่ได้จะเป็นผนังทึบแบบนี้นะครับ ในครัวโครงการ Built-in ชุดครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง อย่างครบครัน ส่วนห้องครัวในบ้านจริงโครงการจะก่อเคาน์เตอร์ครัวแบบนี้มาให้นะครับ มีซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย อีกด้านก็จะเป็นเคาน์เตอร์โล่งๆ แบบนี้ จากห้องครัวมีประตูออกมาส่วนหลังบ้าน ฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 มีห้องเก็บของอยู่ใต้บันได เลยจากห้องครัวเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนเล็กอยู่ที่ชั้น 1 ก่อนจะไปดูที่ห้องนอน เรามาดูห้องน้ำที่อยู่ด้านหน้าห้องนอนกันก่อนนะครับ การจัดวาง Layout ในห้องน้ำ จะวางสุขภัณฑ์เรียงกันยาวเข้าไปด้านใน สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ มีเคาน์เตอร์วางของเล็กๆ อยู่ด้วย โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ติดกับอ่างล้างหน้า ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นให้นะครับ มาต่อกันที่ห้องนอน โครงการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน ข้างเตียงอีกด้าน Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยให้วางชั้นวางทีวี แต่ใช้ทีวีแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือมากกว่าครับ   ขณะเดียวกันพื้นที่ใช้สอยบริเวณชั้น 2 ก็จัดสรรแบ่งเป็น 3 ห้องนอน และยังได้ Common Area สำหรับจัดเป็นมุมนั่งเล่น สังสรรค์เพื่อสมาชิกของครอบครัวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน Master Bedroom มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ติดกับระเบียงใหญ่ที่เปิดออกไปรับวิวได้เต็มตา ส่วนพื้นที่ภายในก็จัดการตกแต่งไว้อย่างเป็นสัดส่วนพร้อมลงรายละเอียดในดีไซน์เพิ่มความหรูหราสะดุดตา ทั้งบริเวณหัวเตียงสวยหรู และ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำที่ตกแต่งมาได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ที่ตกแต่งไว้ตามประโยชน์ใช้สอย ทั้งห้องนอนหวานแหววของลูกสาวตัวน้อย และห้องทำงานเข้มขรึมของคุณพ่อ ที่พร้อมจะจัดสรรใหม่ได้ตลอดเวลาเพื่อสมาชิกที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอ Common Area ที่โครงการจัดไว้เป็นมุมนั่งเล่นๆ เล็กๆ น่ารักๆ พื้นที่ของ Common Area สามารถวางชั้นวางทีวีเล็กๆ และเก้าอี้อาร์มแชร์ หรือโซฟาเล็กๆ ได้อยู่นะครับ จาก Common Area เราไปดูห้อง Master Bedroom ที่อยู่ทางขวามือกันก่อนเลย ห้อง Master Bedroom จะได้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลยนะครับ โครงการวางเตียง King Size ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ปลายเตียงยังมีที่เหลือพอให้วางชั้นวางทีวีหรือจะใช้ทีวีแบบแขวนผนัง ก็จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีก ในห้องนอน Master จะมีระเบียงให้ด้วยนะครับ ประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร มุมมองจากระเบียงเข้าไปในห้องนอน ข้ามมาอีกด้านโครงการตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ตั้งอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำ เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยดีกว่าครับ การจัดวาง Layout และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะคล้ายๆ กับห้องน้ำที่ชั้น 1 เลยนะครับ แต่งต่างกันที่การตกแต่ง และขนาดของห้องนี้จะใหญ่กว่าอยู่สักหน่อย อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard พร้อมกระจกเงาบานใหญ่และเคาน์เตอร์วางของ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ข้างๆ ใครมาซื้อช่วงโปรโมชั่น จะได้โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะแบบนี้นะครับ ด้านในสุดจะเป็นส่วนเปียก ชุดฝักบัว จากห้อง Master Bedroom เราเดินข้ามมาอีกด้านจะเป็นห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ห้องแรกอยู่ด้านซ้ายมือโครงการตกแต่งด้านโทนสีชมพูหวานแหวว วางเตียง 3 ฟุตไว้กลางห้อง พร้อมโต๊ะข้างเตียงอยู่ทั้ง 2 ด้าน ห้องนี้จะไม่มีระเบียงนะครับ แต่จะได้หน้าต่างบานเลื่อน บานใหญ่เลย ปลายเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างเยอะให้วางตู้เสื้อผ้าหรือโซฟาเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำอีก 1 ห้อง การจัดวาง Layout จะเหมือนกับ 2 ห้องแรกที่เราดูมาแล้ว อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์วางอยู่ติดๆ กัน พื้นที่เปียกอยู่ด้านในสุด มาถึงห้องสุดท้ายจะอยู่ด้านในสุด โครงการตกแต่งเป็นห้องทำงานเล็กๆ หน้าต่างในห้องจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน     Click to play สำหรับแบบบ้านของโครงการ The City บางใหญ่ ยังมีให้เลือกอีกแบบ ซึ่งมีขนาดพื้นที่ใช้สอยย่อมลงมาอีกหน่อยในแบบบ้านที่ชื่อว่า Vanda แต่โดยภาพรวมของฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านมีความคล้ายคลึงกัน เพราะมี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำเช่นเดียวกัน บ้านทั้งหมดทางโครงการขายมาให้เป็นแบบบ้านมาตรฐาน ติด Wallpaper ให้ทั้งหลัง พร้อมด้วยเคาน์เตอร์ครัว Top ด้วยหินสังเคราะห์สีดำสวยงาม รวมถึงวัสดุ สุขภัณฑ์ก็จัดมาได้มาตรฐานทุกชิ้น.... เชื่อเถอะว่า บ้านดีๆ ซักหลังที่สามารถตอบโจทย์ทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยแบบที่ The City บางใหญ่ ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ ถ้าอยากรู้ต้องมาสัมผัสเอง ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของชีวิตประจำวันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพได้ที่ The City บางใหญ่ ในราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้าน กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ดีไซน์หรูที่สุดในย่านบางใหญ่.... สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือลงทะเบียนรับส่วนลดได้ที่ www.apthai.com