Tag : ลลิล พร๊อพเพอร์ตี้

9 ผลลัพธ์
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เผยตัวเลขรายได้ปี 61 เติบโตตามเป้า ประกาศแผนงานปี 62 หวังขึ้นแท่นผู้นำตลาดอสังหาฯ แนวราบ  เตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติม 8-10 โครงการ  ตั้งเป้าเติบโต 15% ยอดขาย 5,300 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 4,650 ล้านบาท

“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เผยตัวเลขรายได้ปี 61 เติบโตตามเป้า ประกาศแผนงานปี 62 หวังขึ้นแท่นผู้นำตลาดอสังหาฯ แนวราบ เตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติม 8-10 โครงการ ตั้งเป้าเติบโต 15% ยอดขาย 5,300 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 4,650 ล้านบาท

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยตัวเลขผลประกอบการปี 2561 ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมประกาศแผนงานปี 2562 ขยายตัวต่อเนื่อง เน้นรุกตลาดแนวราบ ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้ประกอบการแนวหน้าของตลาด หลังมองเห็นกำลังซื้อ Real Demand ชัดเจน และมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ  เตรียมทุ่มงบซื้อที่ดิน 1,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว 8-10 โครงการใหม่ บนทำเลศักยภาพสูง รองรับการขยายตัวของเมืองทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ยึด กลยุทธ์ Lifestyle Marketing เจาะกลุ่มลูกค้า พร้อมอัดแคมเปญตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้าการเติบโตปี 2562 ขยายตัว 15% กวาดยอดขาย 5,300 ล้านบาท นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) (Mr.Chaiyan Chakarakul (CEO , Lalin Property Plc.) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปีกล่าวว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย มีการขยายตัวได้จากปีก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมที่คาดว่าทั้งปีจะขยายตัวได้ราว  4.0-4.3%  ตัวเลขการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ตลอดจนผลบวกจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะด้านคมนาคม ที่ขยายเส้นทางรองรับการขยายตัวของเมือง ทั้งโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวมทั้งโครงการที่อยู่ในแผนแม่บท ทำให้เกิดทำเลใหม่ๆ ของโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ไปทั้งสิ้น 7 โครงการ โดยสามารถทำยอดขาย และยอดรับรู้ได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีกำลังซื้อหลักจากกลุ่ม real demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง ซึ่งมีทั้งกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่และกลุ่มคนวัยทำงาน สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2562 จะเป็นปีสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง มองว่าตลาดโดยรวมยังคงเติบโตได้ แต่อาจเติบโตในอัตราที่ชะลอลง แม้เศรษฐกิจโดยรวมน่าจะขยายตัวได้จากปี 2561 ราว 4.0-4.3%  ประกอบกับปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี ตลอดจนการลงทุนของภาครัฐที่เป็นงบผูกพันต่อเนื่องมาจากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดีในปี 2562 นี้ก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัย ที่อาจเข้ามากระทบ ไม่ว่าจะความเสี่ยงจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก  ความเสี่ยงจากสงครามทางการค้า ความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนความเสี่ยงจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการควบคุม LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2562 นี้ได้ ทั้งนี้สำหรับเกณฑ์ LTV ใหม่ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 เมษายนที่จะถึงนี้ นั้น ในแง่ของบริษัทเน้นทำตลาดในกลุ่ม Real Demand และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังแรก ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวไม่มาก   สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2562 นี้ จะให้ความสำคัญกับตลาดที่อยู่อาศัยในกลุ่มทาวน์โฮม บ้านแนวคิดใหม่ และบ้านเดี่ยว โดยมีแผนขยายโครงการใหม่ทั้งสิ้น 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 5,300 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 4,650 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นราว 15% จากปี 2561 นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) (Mr. Churat Chakarakul, Deputy Managing Director, Lalin Plc.) กล่าวถึง แผนงานด้านการตลาด ว่า “ในปีนี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จะดำเนินธุรกิจเชิงรุก แสดงศักยภาพขององค์กรต้นแบบผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ยาวนานกว่า 30 ปี รวมถึงการสร้างศักยภาพองค์กรให้เติบโตในตลาดทุนอสังหาริมทรัพย์อย่างมั่นคง โดยในปีนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้ประกอบการแนวหน้าของตลาด ภายใต้โครงการมิกซ์ยูส แบรนด์ ลลิล ทาวน์ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ภายใต้ทำเลยุทธศาสตร์ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว และแหล่งงานสำคัญ มูลค่ารวมประมาณ 4,000 – 4,500 ล้านบาท โดยวางกลยุทย์การตลาด ภายใต้แนวคิด The Urban Destination For Living สร้างฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มอายุ 25-40 ปี ในขณะที่ยังรักษาฐานลูกค้าเก่าของลลิล และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อต่อยอด Brand Loyalty ในส่วนของการพัฒนาบ้านให้ตอบโจทย์ในยุค 4.0 นายชูรัชฎ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความทันสมัย และการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แท้จริง คือแนวคิดของบ้านที่บริษัทฯ พัฒนาในรูปแบบ ลลิล เพอร์เซอร์นัลไลซ์ สไตล์ (Lalin Personalized Style) ที่สามารถออกแบบและปรับฟังก์ชั่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกความต้องการของลูกค้า การอยู่ร่วมกันทั้งแบบครอบครัวเดี่ยวและครอบครัวขยาย (Lalin Universal Society) อีกทั้งยังมีการใช้แนวคิด Eco Green ในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุในโครงการ รวมถึงเน้นเรื่องการมีบริการหลังการขาย(CRM) ในรูปแบบ Lalin 4.0 Connectivity ที่ลูกค้าสามารถรับทราบข่าวสารข้อมูล สื่อสารกับลลิล แบบทูเวย์คอมมิวนิเคชั่นอย่างรวดเร็วผ่าน Line@ LalinSociety ซึ่งทั้งหมดคือการต่อยอดมาตรฐานของลลิลที่มุ่งเน้นเรื่อง Quality of Living ที่ให้กับลูกค้าของโครงการ ทั้งนี้บริษัทฯ วางงบประมาณด้านการตลาดปีนี้ประมาณ 3-4% ในส่วนของการลงทุน บริษัทฯ วางงบซื้อที่ดินไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ที่ได้มาจากการโอนโครงการต่างๆ และอีกส่วนจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งจะพิจารณาออกในจำนวนและช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้สอดรับกับการขยายธุรกิจ และการเติบโตในระยะยาวของบริษัททั้งนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ของบริษัทในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่มาก ซึ่งสะท้อนความเสี่ยงทางด้านการเงินที่ต่ำ และยังคงมีศักยภาพในการขยายธุรกิจได้อีกมากโดยไม่ติดปัญหาเรื่องของแหล่งเงินทุน ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แนวคิด “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” ได้รับรางวัลจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม Best Company Performance Awards และรางวัลผู้บริหารสูงสุดดีเด่น Best CEO Awards จากงาน SET Awards 2018 รางวัลที่การันตีคุณภาพการบริหารงานยอดเยี่ยมระดับประเทศ สะท้อนความมุ่งมั่นของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ในการสร้างมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตลอดระยะเวลา 30 ปี และความเป็นมืออาชีพของการบริหารงานอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดเรียล ดีมานด์ ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยจริงโดยมีผลประกอบที่เติบโตต่อเนื่อง และยั่งยืน (Sustainable Growth)        
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ปักหมุดย่านลำลูกกา-คลองหลวง ผุด ‘ลลิล ทาวน์ ไลโอ ลำลูกกา คลอง 4-5’

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ปักหมุดย่านลำลูกกา-คลองหลวง ผุด ‘ลลิล ทาวน์ ไลโอ ลำลูกกา คลอง 4-5’

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ยกตลาดที่อยู่โซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ รับอานิสงส์ รถไฟฟ้าสายสีเขียว-สีแดง ปักหมุดทำเลลำลูกกา-คลองหลวง ลงทุนแล้วกว่า 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท ผุด ‘ลลิล ทาวน์ ไลโอ ลำลูกกา คลอง 4-5’ โครงการที่อยู่มิกซ์ยูส บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ และทาวน์โฮมแห่งใหม่ ดีไซน์ใหม่สไตล์โมเดิร์น ขนาด 2 ชั้น รองรับดีมานด์กรุงเทพฯ ตอนบน นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า เปิดเผยถึงภาพรวมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ย่านถนนรังสิต ลำลูกกา ในช่วง 1 - 2 ปี ที่ผ่านมา พบว่า พื้นที่ดังกล่าว มีความเจริญอย่างต่อเนื่องมาจากการขยายตัวเมืองพหลโยธิน ดอนเมือง ปทุมธานี รังสิต และถนนลำลูกกา จนกลายเป็นทำเลขยายของตลาดอยู่อาศัยแห่งใหม่ โดยสาเหตุมาจากศักยภาพของพื้นที่ ที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์) ที่มีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2563 อีกทั้งทำเลยังรายล้อมด้วยทางด่วนหลายเส้นทาง อาทิ ถนนวงแหวนตะวันออก ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ จึงเป็นผลทำให้โซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วไม่แพ้ทำเลอื่น ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวก ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, สนามบินดอนเมือง, โรงเรียน และโรงพยาบาลต่างๆ “บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพของทำเลกรุงเทพฯตอนบน จึงมีการเปิดไปแล้วกว่า 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งแต่ละโครงการมีผลตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก สะท้อนศักยภาพของทำเลได้ดี โดยความต้องการของพื้นที่ในย่านนี้ยังคงนิยมอยู่อาศัยแบบครอบครัว ต้องการพื้นที่ใช้สอยในบ้านสูง นับว่าโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ตอบโจทย์สูงสุด จึงเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการลงทุนโครงการใหม่ๆ เพื่อรองรับดีมานด์ในพื้นที่” นายชูรัชฏ์ กล่าว สำหรับโครงการ ‘ลลิล ทาวน์ (LALIN Town) ไลโอ (LIO) ลำลูกกา คลอง 4 – 5’ โครงการที่อยู่มิกซ์ยูส ผสมระหว่างบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ และทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ ดีไซน์ใหม่สไตล์โมเดิร์น ขนาด 2 ชั้น ถือเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อผู้อยู่ในย่านรังสิต ลำลูกกาโดยเฉพาะ โดยโครงการมีจุดเด่นที่ทำเล ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางถนนเลียบคลอง 5 ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคลอง 5 (ส่วนต่อขยาย) เพียง 4 นาที การเดินทางยังสะดวกสบาย เพราะเชื่อมต่อชีวิตบนถนนเส้นหลักหลากหลายสาย สะดวกทั้งขาเข้าและขาออกเมือง อาทิ ถนนลำลูกกา, รังสิต-นครนายก สะพานใหม่ อยู่ใกล้ทางด่วนบางนา-บางปะอิน, ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก, ถนนวิภาวดี – รังสิต และทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เซียร์ รังสิตไฮเปอร์มาร์เก็ต ทั้ง บิ๊กซี และเทสโก้ โลตัส เป็นต้น ตลอดจนอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม และสถานศึกษาชั้นนำหลายแห่ง ลลิล ทาวน์ ไลโอ ลำลูกกา คลอง 4 - 5 มีจำนวน 417 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 44 ไร่ เป็นทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านหลังแรกโดยตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ 105 ตรม. – 155 ตรม. ขนาด 3 – 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 – 3 คัน ฟังก์ชันการออกแบบตัวบ้านเป็นแบบ Open plan สามารถออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้ตามความต้องการ พร้อมพื้นที่เอนกประสงค์ทั้งภายในและนอกตัวบ้าน เพิ่มทัศนียภาพและคุณภาพการอยู่อาศัยด้วยพื้นที่สีเขียวพร้อมสวนสาธารณะและสโมสรบนพื้นที่กว่า 1 ไร่ อุ่นใจด้วยกล้อง CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ แบบบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 6 แบบ ได้แก่ แบบบ้าน HIVE ทาวน์โฮม สูง 2 ชั้น ขนาด 105 ตรม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ แบบบ้าน HAUS ทาวน์โฮม สูง 2 ชั้น ขนาด 125 ตรม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ แบบบ้าน CRISP บ้านแฝด สูง 2 ชั้น ขนาด 141 ตรม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ แบบบ้าน CRISP EX บ้านแฝด สูง 2 ชั้น ขนาด 141 ตรม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ แบบบ้าน CARA บ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น ขนาด 141 ตรม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ และสุดท้ายแบบบ้าน CRAFT บ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น ขนาด 155 ตรม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ สำหรับผู้สนใจ ลลิล ทาวน์ ไลโอ ลำลูกกา คลอง 4 - 5 ติดต่อเข้าชมโครงการ Call Center โทร 1778 และเว็บไซต์ www.lalinproperty.com, Line @LalinSociety
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เสิร์ฟแคมเปญหวานจัดเต็ม “บ้านแห่งรัก 2018” ต้อนรับเดือนแห่งความรัก 10-11 กุมภาพันธ์นี้

“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เสิร์ฟแคมเปญหวานจัดเต็ม “บ้านแห่งรัก 2018” ต้อนรับเดือนแห่งความรัก 10-11 กุมภาพันธ์นี้

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ต้อนรับเทศกาลวันวาเลนไทน์ เสิร์ฟแคมเปญหวานๆ แห่งปี ‘บ้านแห่งรัก 2018’ หนุนกำลังซื้อกลุ่มผู้อยู่อาศัยตลาดเรียลดีมานด์ คู่รักที่เริ่มต้นสร้างครอบครัว นำบ้านเดี่ยวหลังใหญ่-ทาวโฮมหน้ากว้าง-คอนโดมิเนียม คุณภาพเยี่ยมกว่า 40 โครงการ ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด ให้ลูกค้าเลือกรับโปรฯ ‘ดอกไม่บาน ณ บ้านแห่งรัก 2018’ หวานจัดหนักกับดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี ฟรีทุกค่าใช้จ่าย หรือรับ Iphone X  เฉพาะโครงการเขตกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ณ สำนักขายทุกโครงการ วันที่  10-11 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมจัดโปรฯ ‘Love Festival Double Bonus จูงมือเป็นคู่พร้อมเข้าอยู่’ มอบความคุ้มสุดๆ ให้คู่รักที่สนใจซื้อโครงการต่างจังหวัด รับสิทธิ์ทำสัญญาเพียง 1 บาท ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฟรีประกันมิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟ และฟรีค่าส่วนกลาง เริ่มแคมเปญแล้ววันนี้ ถึง 15 กุมภาพันธ์นี้ นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ บริษัทฯ จัดแคมเปญใหญ่ “ลลิล บ้านแห่งรัก 2018” ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่ประจำปีของบริษัทฯ ที่จะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรัก ต้อนรับวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึงโดยเฉพาะ เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุน และมอบความไว้วางใจบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อสำหรับผู้อยู่อาศัยตลาดเรียลดีมาน์ คู่รักที่เริ่มต้นสร้างความรอบครัว ทั้งนี้บริษัทฯ มอบโปรฯ ‘ดอกไม่บาน ณ บ้านแห่งรัก 2018’ ในวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2561 ให้ลูกค้าโครงการกรุงเทพฯ และปริมณฑล เลือกรับดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี ฟรีทุกค่าใช้จ่าย หรือรับ Iphone X ในส่วนโครงการต่างจังหวัด บริษัทฯ จัดโปรฯ พิเศษ ‘Love Festival Double Bonus จูงมือเป็นคู่พร้อมเข้าอยู่’ โดยมอบความคุ้มสูงสุดให้คู่รักที่สนใจซื้อโครงการต่างจังหวัด รับสิทธิ์ทำสัญญาเพียง 1 บาท ฟรี ทุกค่าใช้จ่ายวันโอน ฟรี ประกันมิเตอร์น้ำ-มิเตอร์ไฟ ฟรี ค่าส่วนกลาง และเลือกรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้กำหนดระยะเวลาจัดโปรฯ ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 10-15 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น อย่างไรก็ดีภายหลังจากนั้น บริษัทฯ เตรียมจัดโปรฯ พิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าเก่าให้ได้ร่วมสนุกด้วยเช่นเดียวกัน นับว่าปีนี้บริษัทฯ ได้มอบความคุ้มสูงสุดกว่าทุกปีและมีความหลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าแคมเปญ ‘ลลิล บ้านแห่งรัก 2018’ จะตรงใจและจะมีผลตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยคุณภาพในช่วงนี้อย่างมาก สำหรับโครงการที่เข้าร่วมแคมเปญ “ลลิล บ้านแห่งรัก 2018” มีกว่า 40 โครงการ ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ บ้านแนวคิดใหม่ ทาวน์โฮมหน้ากว้าง และคอนโดมิเนียมคุณภาพเยี่ยม ในกรุงเทพฯและปริมณฑล และต่างจังหวัด ภายใต้แบรนด์ ‘ลลิล ทาวน์’ โดยในปีนี้ มีโครงการคุณภาพ บนทำเลยุทธศาตร์แห่งใหม่ให้เลือกหลากหลาย อาทิ ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ เพชรเกษม – ยอแซฟฯ ทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เพิ่มพื้นที่ความสุขให้เต็มที่กับ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และมีดีไซน์หน้าบ้านกว้างที่สุด บนทำเลคุณภาพที่สามารถตอบสนองความต้องการของชีวิตให้ครบจบที่เดียว และลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ ทาวน์โฮมใหม่น่าอยู่กับสถาปัตสวนที่ลงตัวที่สุด บนสุขสวัสดิ์ พร้อมพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่และฟังก์ชั่นที่เหนือกว่าประโยชน์ใช้สอยมากกว่า ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 รับประทานอาหาร ครัวแยกสัดส่วน พร้อมเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร 1 จอดรถ ในราคาที่จับต้องได้ พลาดไม่ได้กับแคมเปญสุดพิเศษ “ลลิล บ้านแห่งรัก 2018” ที่ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เตรียมมอบให้ด้วยรัก ตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์นี้ ณ สำนักงานขายทุกโครงการ ระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์นี้ สนใจติดต่อเข้าเยี่ยมชมโครงการ หรือสอบถามข้อมูลแคมเปญ “บ้านแห่งรัก 2018” โทร Call Center โทร 1778 หรือเว็บไซต์ www.lalinproperty.com
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บุกทำเลเทพารักษ์ รับรถไฟฟ้า ‘เหลือง-เขียว’ คืบหน้า เปิดตัว ‘ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ ทาวน์โฮม – แลนซีโอ คริป บ้านหลังใหญ่’ ปรากฏการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยบนใจกลางทำเลเทพารักษ์

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บุกทำเลเทพารักษ์ รับรถไฟฟ้า ‘เหลือง-เขียว’ คืบหน้า เปิดตัว ‘ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ ทาวน์โฮม – แลนซีโอ คริป บ้านหลังใหญ่’ ปรากฏการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยบนใจกลางทำเลเทพารักษ์

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บุกตลาดโซนเทพารักษ์ เตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ “ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ (LALIN TOWN Lio Bliss) เทพารักษ์-ตำหรุ” ปรากฏการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยบนใจกลางทำเลเทพารักษ์ ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถส่วนตัว พร้อมนวัตกรรมครัวไทย ในราคา Pre-Sale เพียง 1.89 ล้านบาท และ “ลลิล ทาวน์ แลนซีโอ คริป (LALIN TOWN Lanceo Crib) เทพารักษ์-ตำหรุ” บ้าน 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ ปรับฟังก์ชั่นใช้สอยได้ตามใจ ในราคาเริ่มต้น 3-5 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขานรับแผนการลงทุนระบบขนส่งมวลชน สายสีเหลือง-สายสีเขียว เปิดลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ช้อปฟรีทั่วกรุง  20,000 บาท คลิก!! Lio Bliss : http://bit.ly/lalinliotamru Pre-sale วันที่ 20-21 มกราคม 2561 Lanceo Crib : http://bit.ly/lalinlanceotamru Pre-sale ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) มองตลาดที่อยู่อาศัยทำเลกรุงเทพตะวันออก ช่วง เทพารักษ์ ศรีนครินทร์ สุขุมวิท มาแรง เพราะรับแรงกระตุ้นจากความคืบหน้าของแผนการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู) ที่มีแผนก่อสร้างและจะเปิดให้บริการในอนาคต ช่วยเสริมความน่าสนใจ และความสะดวกในการคมนาคมให้กับทำเลดังกล่าวยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีถนนใหญ่ ขนาด 6-8 เลน รองรับแล้ว ประกอบกับทำเลดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอกและทางด่วนบูรพาวิถี ซึ่งมุ่งตรงและเชื่อมต่อทุกมุมเมืองของกรุงเทพฯ รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงใกล้ห้างสรรพสินค้าเมกา บางนา และ อีเกีย ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะโครงการแนวราบทำเลกรุงเทพตะวันออก ช่วง เทพารักษ์ ศรีนครินทร์ สุขุมวิท มีความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวโครงการแนบราบในคอนเซปต์มิกซ์ยูส ภายใต้แบรนด์ ลลิลทาวน์ (LALIN TOWN) เพื่อรองรับตลาด พร้อมกัน 2 โครงการ ประกอบด้วย “ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ (LALIN TOWN Lio Bliss) เทพารักษ์-ตำหรุ” ปรากฏการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยบนใจกลางทำเลเทพารักษ์ ทาวน์โฮม ฟังก์ชั่นใหญ่ ขนาด 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถส่วนตัว พร้อมครัวไทย ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท และ “ลลิล ทาวน์ แลนซีโอ คริป (LALIN TOWN Lanceo Crib) เทพารักษ์-ตำหรุ” บ้านหลังใหญ่ ขนาด 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นใช้สอยปรับได้ตามใจ ในราคาเริ่มต้น 3-5 ล้านบาท สำหรับจุดเด่นของทั้ง 2 โครงการ อยู่ที่การวางผังและพื้นที่สีเขียวของโครงการให้มีความร่มรื่นน่าอยู่ ในขณะที่การออกแบบตัวบ้าน มีดีไซน์โมเดิร์นทันสมัยในสไตล์ Modern Stripe Contemporary ซึ่งออกแบบโดยบริษัทออกแบบที่มีผลงานยอมรับในระดับโลก ให้เต็มที่กับฟังก์ชั่นการใช้งานที่เพิ่มขึ้น เพื่อทุกพื้นที่ในบ้านใช้งานได้สูงสุด ตอบโจทย์ความต้องการยิ่งกว่ากับ ทาวน์โฮมที่มาพร้อมนวัตกรรมครัวไทย และบ้านหลังใหญ่ที่สามารถปรับฟังก์ชั่นใช้สอยได้ เพื่อตอบโจทย์โมเดิร์นไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ นอกเหนือจากนั้นทั้ง 2 โครงการ ตั้งอยู่บนทำเลคุณภาพ ใจกลางเทพารักษ์ ที่รองรับการขยายตัวของทั้งระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู) นอกจากนี้ ยังเดินทางเพียง 15 นาที ถึงสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ที่สามารถเชื่อมต่อสู่เมืองได้อย่างสะดวกสบาย แวดล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น เมกา บางนา , อีเกีย , Market village สุวรรณภูมิ, Big C บางพลี, Lotus city park บางพลี, Robinson สมุทรปราการ, ไบเทคบางนา, สนามบินสุวรรณภูมิ และ ทางด่วนกาญจนาฯ สำหรับผู้ที่สนใจและกำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลเทพารักษ์ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดให้ลงทะเบียน Pre-Sale โครงการ “ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ (LALIN TOWN Lio Bliss) เทพารักษ์-ตำหรุ” ทาวน์โฮม ฟังก์ชั่นใหญ่ ขนาด 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถส่วนตัว พร้อมนวัตกรรมครัวไทย ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท และ “ลลิล ทาวน์ แลนซีโอ คริป (LALIN TOWN Lanceo Crib) เทพารักษ์-ตำหรุ” บ้านหลังใหญ่ ขนาด 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นใช้สอยปรับได้ตามใจ ในราคาเริ่มต้น 3-5 ล้านบาท เปิดลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ช้อปฟรีทั่วกรุง  20,000 บาท คลิก! (Lio Bliss) http://bit.ly/lalinliotamru และ (Lanceo Crib) http://bit.ly/lalinlanceotamru สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ไลโอ บลิสซ์ โทร. 065-510-6041, แลนซีโอ คริป โทร. 065-510-6042 หรือเว็บไซต์ www.lalinproperty.com และ Line@ LalinSociety
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกหนุนอสังหาฯ ไทย ปี 2561 โต 5-7% ปักหมุดขยายอาณาจักร ‘ลลิล ทาวน์’ 8-10 ทำเล – ตั้งเป้าเติบโต 15 %

“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” เชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกหนุนอสังหาฯ ไทย ปี 2561 โต 5-7% ปักหมุดขยายอาณาจักร ‘ลลิล ทาวน์’ 8-10 ทำเล – ตั้งเป้าเติบโต 15 %

บริษัท  ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มองเศรษฐกิจโลกปี 2561 ส่งสัญญาณบวก หนุนเศรษฐกิจไทย - ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ฟื้นตัวชัดเจน จากโครงการอีอีซี-โครงการลงทุนรถไฟฟ้า ระบบ Mass Transit  มองการเติบโตตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ที่ 5-7% ประกาศแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปีที่สามทศวรรษ ด้วยนโยบาย ‘Year of Competitiveness and Innovation for LALIN 4.0’ ตอกย้ำความเป็นมืออาชีพ และเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงเทรนด์อสังหาฯ เตรียมเปิดอาณาจักร “ลลิล ทาวน์ (LALIN Town)’ ทำเลใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑล และต่างจังหวัด ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 4,400 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 4,000 ล้านบาท เติบโต 15% นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2561 ยังคงมีสัญญาณบวก ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ดีขึ้นเล็กน้อยจากปี 2560 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ราว 3.8 - 3.9% โดยการขยายตัวในปี 2561 นั้นจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ดี ตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะยังคงขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ในปี 2561 นี้ จะมีเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเม็ดเงินจากการลงทุนของภาครัฐ ที่จะเริ่มทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น กอปรกับการคาดการณ์ว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งในช่วงปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นแรงส่งช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยให้ตัวเลขการบริโภคและการลงทุน ขยายตัวได้ดีขึ้นในระยะต่อไป สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นจากปี 2560 โดยมีปัจจัยบวกมาจากทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการลงทุนของภาครัฐ  นอกจากนี้ภาพรวมของตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนต่อจีดีพี ที่เริ่มค่อยๆ ปรับลดลง จะช่วยให้กำลังซื้อปรับดีขึ้น ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยในประเทศยังคงทรงตัวในระดับต่ำ แม้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกามีความเป็นไปได้ที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีกราว 3 ครั้ง ในปี 2561 นี้ โดยมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งเป็นตลาด Real Demand จะยังคงขยายตัวได้ราว 5-7%  สำหรับตลาดอาคารชุด อาจต้องระมัดระวังในบาง Sector และในบางทำเล ซึ่งอาจเริ่มเห็นสัญญาณ Over Supply บ้าง สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2561 ซึ่งนับเป็นปีที่ครบรอบ 3 ทศวรรษของบริษัทฯ บริษัทยังคงเชื่อมั่นที่จะขยายตัวได้สูงกว่าภาพรวมของตลาดฯ ติดต่อกันเป็นปีที่สาม โดยมีการวางแผนธุรกิจที่สนับสนุนการขยายตัวของบริษัท ทั้งนี้ในปี 2561 นี้ บริษัทมีแผนขยายโครงการใหม่ทั้งสิ้น 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 4,400 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นราว 15% จากปีก่อน นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) กล่าวว่า ในปี 2561 ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในเชิงรุกเพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไว้วางใจ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มากว่าสามทศวรรษ และบริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการแนบราบที่บริษัทมีความชำนาญ ทั้งแนวความคิด การวางคอนเซ็ปต์ ความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย และการเลือกทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์และราคา และเน้นการทำ Digital Marketing และ CRM Strategy สำหรับแผนงานกลยุทธ์โครงการ “ลลิล ทาวน์ (LALIN Town) เตรียมเปิดโครงการใหม่ไว้ 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,500 – 5,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดในส่วนของหัวเมืองหลัก และหัวเมืองชั้นรอง แบ่งสัดส่วนทำเลออกเป็น โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล 75-80% และในทำเลต่างจังหวัด 20-25% ในส่วนของทางด้านการเงิน บริษัทฯ วางงบซื้อที่ดินไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ที่ได้มาจากการโอนโครงการต่างๆ และส่วนหนึ่งจะมาจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งจะพิจารณาออกในจำนวนและช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้สอดรับกับการขยายธุรกิจ และการเติบโตในระยะยาวของบริษัททั้งนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ของบริษัทในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่มาก ซึ่งสะท้อนความเสี่ยงทางด้านการเงินที่ต่ำ และยังคงมีศักยภาพในการขยายธุรกิจได้อีกมากโดยไม่ติดปัญหาเรื่องของแหล่งเงินทุน
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสามเติบโตสูงต่อเนื่อง ยอดรายได้ 9 เดือน ทะลุ 2,587 ล้านบาท กำไรสุทธิ 489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสามเติบโตสูงต่อเนื่อง ยอดรายได้ 9 เดือน ทะลุ 2,587 ล้านบาท กำไรสุทธิ 489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) LALIN ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเหนือภาพรวมของตลาด ประกาศผลประกอบการไตรมาสสาม ปี 2560 ขยายตัวได้สูงอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดรับรู้รายได้ในไตรมาสสามที่ 1,041.8 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38% ในขณะที่ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีเหนือตลาด ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 204.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 44% ในส่วนของตัวเลข 9 เดือน  บริษัทมียอดรับรู้รายได้แล้วกว่า 2,587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.2% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 489 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” กล่าวว่า ผลประกอบการในรอบไตรมาสที่สาม ปี 2560 บริษัทฯ ยังคงเติบโตในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยรับรู้รายได้ อยู่ที่ 1,041.8 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38% ในขณะที่ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีเหนือตลาด ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 204.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 44% สวนทางภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ในปี 2560 นี้จะไม่สดใสนัก ดังนั้น บริษัทฯ คาดว่าในปีนี้จะเป็นอีกปีที่เติบโตได้ดีกว่าภาพรวมของตลาด ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากในปีก่อนที่เติบโตได้ราว 30% จากปี 2558 โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 15% หรือตั้งเป้ารับรู้รายได้ที่ 3,100 ล้านบาท ขณะที่รอบ 9 เดือนแรก สามารถรับรู้รายได้ คิดเป็น 83% ของเป้าหมายแล้ว โดยอยู่ที่ 2,587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.2% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 489 ล้านบาท เติบโตขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงเชื่อมั่นว่าในปีนี้จะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ นอกจากบริษัทจะสามารถทำผลงาน มียอดรับรู้รายได้ที่ขยายตัวได้ดีแล้ว บริษัทยังคงบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี  โดยในช่วง 9 เดือนแรกนี้ บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่ระดับราว 40%  ในขณะที่การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารทำได้ดี ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A/Sales) ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ราว 11.8% ส่งให้ใน 9 เดือนแรกนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิแล้วกว่า 489 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับกำไรสุทธิในปีที่แล้วทั้งปี ในแง่การขยายธุรกิจ ในปีนี้บริษัทมีการเปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 1-2 โครงการในช่วงที่เหลือของปี ส่วนหนึ่งเพื่อทดแทนโครงการเดิมที่สามารถขายและปิดโครงการได้หลายโครงการ ตลอดจนเป็นการสนับสนุนให้บริษัทมีการขยายตัวที่มั่นคงต่อไป ทั้งนี้แม้ว่าบริษัทจะมีการขยายโครงการใหม่ในปีนี้ไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท แต่ในแง่ของโครงสร้างเงินทุน บริษัทยังคงความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน มีระดับหนี้ที่สามารถบริหารจัดการได้ มีการใช้แหล่งของเงินกู้ที่หลากหลาย และมีอัตราดอกเบี้ยคงที่เพื่อควบคุมต้นทุนทางการเงิน โดย ณ สิ้นไตรมาสสาม 2560 นี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่เพียงแค่ 0.85 เท่า ซึ่งเท่ากันกับ ณ สิ้นปี 2559  และเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.4 เท่า
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

บริษัท  ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2560 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดรับรู้รายได้ที่ 657.1 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 14% และเติบโตดีกว่าภาพรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มเดียวกันที่ชะลอตัว นอกจากนี้บริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ 114.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10% ขณะที่ยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 900 ล้านบาท เตรียมลุยโครงการใหม่อีก 5-6 ทำเล จากไตรมาสแรกเปิดขาย 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,850 ล้านบาท นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนหลายรายที่ประกาศออกมาพบว่าตลาดโดยรวมชะลอตัว เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาไม่เอื้ออำนวยมากนัก โดยมีการชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 แล้ว อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการประเมินสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจและตลาดโดยรวมได้ถูกต้อง จึงดำเนินการวางแผนงานกลยุทธ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่งผลทำให้บริษัทยังคงมีผลประกอบการที่ขยายตัวได้ โดยมียอดรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกนี้ที่ 662.1 ล้านบาท ขยายตัวราว 14% และบริษัทยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสแรกบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ 114.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10% ขณะที่ยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 900 ล้านบาท สำหรับการขยายธุรกิจ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,850 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป โดยตามแผนงาน บริษัทเตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่อีกราว 5 - 6 โครงการในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการขยายตัวที่มั่นคงต่อไป ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.86 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.4 เท่า นอกจากนี้บริษัทมีการใช้แหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ตลอดจนมีวงเงินสำรองที่ไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวนมาก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัทได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจัดสรรกำไรสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2559 โดยให้จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 8.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ รวมทั้งอนุมัติให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.1385 ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท ดังนั้นจะคงเหลือจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในงวดนี้อีก 0.0135 บาท ในส่วนของหุ้นปันผลที่ผู้ถือหุ้นได้รับนั้น จะสามารถเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 นี้
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสามเติบโตสูงต่อเนื่อง ยอดรายได้ 9 เดือน ทะลุ 2,587 ล้านบาท กำไรสุทธิ 489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสามเติบโตสูงต่อเนื่อง ยอดรายได้ 9 เดือน ทะลุ 2,587 ล้านบาท กำไรสุทธิ 489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เติบโตสวนทางเศรษฐกิจปิดงบปี 59 สูงกว่าเป้า รับรู้รายได้ 2,707.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 500.3 ล้านบาท ขยายตัว 41% บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เติบโตอย่างแข็งแกร่งเหนือตลาด ปิดงบปี 2559 มียอดรับรู้รายได้ที่ 2,707.1 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 30% และยังคงความสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 39.5% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับลดลง ส่งผลให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 500.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 41%  นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 ที่ผ่านมา ตลาดโดยรวมจะแทบไม่มีการขยายตัว แต่ด้วยการวางแผนกลยุทธ์และดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของบริษัท ทำให้ในปี 2559 ที่ผ่านมาถือเป็นอีกปีที่บริษัททำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ โดยสามารถมีส่วนแบ่งกำไรตลาด (Gain Market Share) เพิ่มมากขึ้น ขณะที่มียอดรับรู้รายได้ที่ 2,707.1 ล้านบาท เติบโตกว่า 30% จากปี 2558 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนต้นปีที่ 2,400 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 500.3 ล้านบาท เติบโตกว่า 40% จากปี 2558 ในแง่ของโครงสร้างเงินทุน บริษัทยังคงมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน โดย ณ สิ้นปี 2559 บริษัทมีระดับหนี้ที่สามารถบริหารจัดการได้ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่เพียง 0.85 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.4 เท่า นอกจากนี้บริษัทมีการบริหารด้านการเงินอย่างรัดกุม โดยใช้แหล่งเงินกู้ที่หลากหลาย และส่วนใหญ่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ เพื่อควบคุมต้นทุนทางการเงินรวมทั้งมีการสำรองวงเงินสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์อย่างเพียงพอที่จะชำระหนี้ครบกำหนดชำระในช่วง 1 - 2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้ออกหุ้นกู้ จำนวน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ที่ 3.4% ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั้งบุคคลและสถาบันเข้าจองซื้อเต็มทั้งจำนวน นายไชยยันต์ กล่าวปิดท้ายว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติเห็นชอบจัดสรรกำไรสำหรับปี 2559 ให้กับผู้ถือหุ้น โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตราส่วน 8.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล รวมทั้งให้จ่ายปันผลในรูปของเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.1385 บาท ทั้งนี้บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วที่ 0.125 บาท ดังนั้นจะเหลือจ่ายเพิ่มสำหรับงวดครึ่งปีหลังปี 2559 อีก 0.0135 บาทต่อหุ้น โดยมีมติให้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 17 มีนาคม 2560 (หรือขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 มีนาคม 2560) และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 ทั้งนี้การจ่ายปันผลดังกล่าวต้องนำเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ในเดือนเมษายนนี้
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2560 รับรู้รายได้ 3,589.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 680.8 ล้านบาท เติบโต 36% ประกาศจ่ายปันผลทั้งปีรวม 0.30 บาท

บริษัท  ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  เติบโตอย่างแข็งแกร่งเหนือตลาด ประกาศผลประกอบการไตรมาสสาม ปี 2559 โดยมียอดรับรู้รายได้ที่ 747.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 48% ขยายตัวสูงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่  ในขณะที่คงความสามารถในการจัดการต้นทุนได้ดี ส่งผลให้ในไตรมาส 3/59 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 142.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 78% ส่วนตัวเลขงวด 9 เดือน  บริษัทมียอดรับรู้รายได้แล้วกว่า 2,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.5% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 385.3 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 100.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” กล่าวว่า แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ในปี 2559 นี้จะไม่สดใสนัก ภาพรวมตลาดมีแนวโน้มที่จะหดตัวลงจากปีก่อน ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าผู้ประกอบการหลายรายเริ่มออกมาประกาศปรับลดเป้าหมายทางธุรกิจลง ตลอดจนมีการเลื่อนแผนการเปิดโครงการใหม่ออกไป แต่สำหรับลลิลฯ ได้มีการวางแผนและดำเนินกลยุทธ์ให้สอดรับกับสถานการณ์ มีการปรับ Products ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งขยายโครงการไปยังทำเลที่มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น จึงช่วยให้บริษัทสามารถ Gain Market Share เพิ่มขึ้นส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ผลประกอบการไตรมาส 3/2559 โดยมียอดรับรู้รายได้ที่ 747.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 48% ขยายตัวสูงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่  ในขณะที่คงความสามารถในการจัดการต้นทุนได้ดี จึงส่งผลให้ในไตรมาส 3/2559 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 142.3 ล้านบาท ขณะที่ งวด 9 เดือนปี 2559 บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้รวม  2,050 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 58% ในส่วนของกำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2559 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 385.3 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่าเท่าตัว ดังนั้นเชื่อมั่นว่าในไตรมาสสุดท้ายบริษัทฯ จะยังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถทำยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ ได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีที่ 2,400 ล้านบาทอย่างแน่นอน ในส่วนของการขยายธุรกิจ  แม้สถานการณ์ที่ไม่เอื้อ จนทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องเลื่อนการเปิดโครงการใหม่ออกไป  แต่สำหรับลลิลฯ ในปีนี้จะสามารถเปิดโครงการใหม่ได้มากกว่าแผนต้นปีที่วางไว้ที่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการเปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 8 โครงการ และกำลังจะเปิดอีก 1 โครงการในช่วงที่เหลือของปี ทำให้ในปีนี้บริษัทฯ จะมีการเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ4,500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีการขยายตัวที่มั่นคงต่อไป ด้านโครงสร้างเงินทุนแม้ว่าจะมีการลงทุนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ทั้งสิ้น 9 โครงการ แต่บริษัทฯ ยังคงความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน โดยมีระดับหนี้ที่สามารถบริหารจัดการได้ มีการใช้แหล่งของเงินกู้ที่หลากหลาย และมีอัตราดอกเบี้ยคงที่เพื่อ lock ต้นทุนทางการเงิน ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสสามนี้ บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่เพียงแค่ 0.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.4 เท่า