รีวิวฉบับนี้จะพาทุกคนไปพบกับคอนโดมิเนียมที่อยู่กลางทำเลทอง ศักยภาพดีอย่างย่าน อโศก กับ WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT จาก Magnolia Quality Development Corporation ที่ให้ทุกคนได้สัมผัสใกล้ชิดกับสวนที่ร่มรื่นและวิวทะเลสาบสวยงามอย่างสวนป่าเบญจกิติ ที่หาบรรยากาศดีๆ กลางเมืองแบบนี้ไม่ได้ที่ไหน ตอบโจทย์ทุก Lifestyle ครอบคลุมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง Office Building, ห้างสรรพค้า
คอนโด อโศก ทำเลทอง ใกล้ชิดธรรมชาติ
ถนนรัชดาภิเษกเริ่มจากสี่แยกอโศกซึ่งตัดกับถนนสุขุมวิท และบริเวณสี่แยกมีสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศกและยังเป็นจุด Interchange กับ MRT สุขุมวิท ซึ่งถนนรัชดาภิเษกเชื่อมต่อกับถนนอโศกมนตรียาวลงมาเป็นถนนรัชดาภิเษกและเชื่อมต่อถนนพระราม 3 ใกล้กับ MRT สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ บนถนนรัชดาภิเษกอยู่ในระแวกอโศกซึ่งถือเป็นย่านธุรกิจใจกลางเมืองสุดฮอต จึงเต็มไปด้วย Office Building, โรงแรมหรือห้างสรรพสินค้ามากมายถือเป็นสุดยอดทำเลศักยภาพดี WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT (วิสซ์ดอม อโศก-สุขุมวิท) ตั้งอยู่ริมถนนรัชดาภิเษก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ “สวนป่าเบญจกิติ” ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีความร่มรื่นเป็นธรรมชาติ บวกกับทะเลสาบทำให้บรรยากาศป่าในเมืองที่หาได้ยากมากครับ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าซอย สุขุมวิท 16 เป็นอีกหนึ่งเส้นทางไปยังตัวโครงการครับ ซึ่งภายในซอยเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ มากมายรวมไปถึงซุปเปอร์มาร์เกต ทำให้สะดวกสบายกับผู้อยู่อาศัยในโครงการมากขึ้น พูดถึงการเดินทางนั้นแสนจะง่ายดาย เพราะเพียง 450 เมตร จากตัวโครงการถึง BTS สถานีอโศกและ MRT สถานีสุขุมวิท ภายในสถานีมี Sky Walk สามารถเดินเชื่อมเข้าห้างสรรพสินค้า Terminal 21 หรือโรงแรมระดับ 5 ดาวอย่าง Grande Centre Point สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบพูดได้เลยว่าเพียบ ครบครันเริ่มจากไปทางถนนอโศกมนตรีก็เจอสถานศึกษาชื่อดังอย่าง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือจากสี่แยกอโศกไปทางถนนสุขุมเพียงนั่ง BTS ไปสถานีพร้อมพงษ์เพียงสถานีเดียวแค่ 1.5 กิโลเมตร ก็ถึงห้างสรรพสินค้า Emquartier และ Emporium ถัดมาอีกฝั่งของถนนสุขุมวิทเลยขึ้นไปก็เข้าเมืองอย่าง สยาม ในระหว่างทางก็จะผ่าน เพลินจิต ชิดลมก็จะพบห้างสรรพสินค้ามากมายอย่าง Robinson อโศก, Central Embassy, central Chidlom, Gaysorn Village ยาวจนถึงสยามก็จะเป็น Siam Paragon, Siam Square one, Siam Center, Siam Discovery เอาใจนักช้อปอย่างมากครับ
ภาพรวมคอนโด อโศก โครงการ "Whizdom Asoke-Sukhumvit"
WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT (วิสซ์ดอม อโศก-สุขุมวิท) คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 39 ชั้น 553 ยูนิตและ 6 ร้านค้า บนพื้นที่ 3-1-96 ไร่ ที่จอดรถ 85% เป็นแบบปกติและ Auto Parking การออกแบบตัวอาคารได้แรงบันดาลใจเปรียบตัวอาคารเสมือนหุบเขาสูงตระหง่าน สง่างามเป็นธรรมชาติตั้งอยู่ในผืนป่าใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ลักษณะรูปทรงเป็นธรรมชาติพลิ้วไหว ตัวฟาซาดของอาคารทำรูปทรงโค้งและพริ้ว ให้ความรู้สึกถึงขุนเขาที่แบ่งเป็นชั้น ซึ่งข้อดีสามารถช่วยป้องกันแสงแดดและฝนได้ดี นอกจากนี้ทำให้ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่ได้สัมผัสบรรยากาศวิวทะเลสาบและสวนป่าที่อยู่ด้านหน้า และพูดถึง Facility ทางโครงการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ และครบครันอย่าง Co-Working Space & Conference Room, Grand Lobby, Sky Lounge, Pool Garden ไฮไลท์สำคัญของตัวโครงการ WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT นอกจากการเดินทางสะดวก อยู่ในทำเลที่ดีบรรยากาศดีแล้ว ทางโครงการใส่ใจทุกรายละเอียดในการอยู่อาศัยของลูกบ้านซึ่งมาพร้อมกับแนวคิด "For All WELL-BEING" ที่ตั้งใจมอบให้ผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมรอบโครงการมีคุณภาพที่ดี โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้านได้แก่ ENERGY & ECOLOGY การคำนึงเรื่องพลังงานและระบบนิเวศน์รอบโครงการ โดยนำเกณฑ์การออกแบบจากสถาบันอาคารเขียวไทยที่ได้รับความน่าเชื่อถือ อ้างอิงมาตรฐานคุณภาพของโครงการตามมาตรฐานการประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย (TREES-NC) อย่างเช่นแบบอาคารออกแบบโดยคำนึงทิศทางลม และแสงเพื่อลดความร้อนและมลภาวะจากภายนอกสู่ตัวอาคารได้น้อยที่สุด HEALTH & WELLNESS การออกแบบทุกรายละเอียดให้อยู่สบายและสุขภาพดี โดยวัสดุต่างๆ ปลอดภัยต่อสุขภาพ ลดการเกิดอุบัติเหตุ การออกแบบระบบปรับอากาศลดการสะสมของฝุ่นและการเกิดเชื้อรา อย่างโครงการจะไม่ติดวอลเปเปอร์เพราะจะเป็นที่สะสมของเชื้อราและฝุ่นละอองแต่จะให้กำแพงเปล่าและใช้สีทาที่เป็นแบบ Non Toxic ไม่ทำให้เกิดสารตกค้างดีต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัย SENSES & HAPPINESS การออกแบบพื้นที่ให้เหมาะกับการใช้งาน เอื้อต่อการใช้งานของคนทุกวัย ในทุกพื้นที่ส่วนกลาง
พาชมห้องตัวอย่าง WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT คอนโด อโศก
โครงการ WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT มีรูปแบบยูนิตหลากหลายขนาดโดยเริ่มต้นที่ 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. จนถึง Ultra Penthouse ขนาด 240-290 ตร.ม. ทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted โดย Build in ชุดครัว, ห้องน้ำ, เครื่องปรับอากาศให้ทุกยูนิต และเครื่องฟอกอากาศ
1 Bedroom 35 ตร.ม.
เริ่มต้นกันที่ 1 Bedroom เปิดประตูเข้ามาตัวยูนิตมีลักษณะลึก เริ่มจากห้องครัวเป็นครัวเปิด ซึ่งสามารถต่อเติมทำเป็นครัวปิดได้ตามความต้องการของลูกบ้านครับ ต่อมาเป็นส่วนของ Common Area และสุดห้องเป็นส่วนของระเบียง ความสูงจากเพดาน 3 เมตรทำให้ห้องดูโล่ง โปร่งสบาย ไม่อึดอัดครับ นอกจากนี้ภายในห้องจะสังเกตได้ว่าไม่มีสวิทช์เป็นการทำงานแบบอัตโนมัติหรือสั่งการผ่านรีโมทครับ ในส่วนแรกเป็นส่วนของครัวซึ่งเป็นครัวเปิดและทางโครงการ Build in ชุดครัวให้ทั้งตู้เย็น จากแบรนด์ Liebherr, เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควัน และเตาอบจากแบรนด์ Kuppersbusch นอกจากนี้ด้านซ้ายมือสุดเป็นชั้นวางรองเท้าซึ่งทางโครงการ Build in ให้เหมือนกันครับ ถัดมาเป็นส่วนของ Common Area ซึ่งทางโครงการ Build in โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งเป็นตัวแบ่งฟังก์ชันก่อนเข้าห้องนั่งเล่นทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วน พื้นที่ระเบียงหลังห้องมีพื้นที่มากสามารถวางราวตากผ้า หรือสามารถทำเป็น Pocket Garden ตามความต้องการของลูกบ้านได้ครับ และทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟเพื่อการใช้ตามความต้องการของลูกบ้านครับ ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอนทางโครงการวาง Concept ให้ทุกห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด Queen Size ขึ้นไปได้ครับ และยังไม่ดูอึดอัดมีพื้นที่เหลือ หน้าห้องน้ำเป็นพื้นที่ Walk In Closet ทางโครงการให้ตู้เสื้อผ้าครับและมีขนาดความลึก 70 เซนติเมตรตามมาตราฐานสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สุดได้ครับ นอกจากนี้ทางโครงการให้เครื่องปรับอากาศที่เป็นระบบ Water Cooling หนึ่งใน Smart Building ที่เน้นเรื่องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและลดมลภาวะทางอากาศ และด้านขวามือคือเครื่อง ERV ที่คอยตรวจจับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถ้ามากเกินไประบบจะระบายอากาศและนำอากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทน สุดท้ายภายในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ตามที่เห็นเลยครับ ทั้งอ่างล้างหน้าแบบลอยตัวจากแบรนด์ GROHE พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง โถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Toto Washlet เป็นแบบฝารองนั่งอัตโนมัติ ฝักบัวแบบ Rain Shower จากแบรนด์ GROHE
1 Bedroom Suite 48 ตร.ม.
ถัดมาเป็นแบบ 1 Bedroom Suite ขนาด 48 ตร.ม. ซึ่งมีความคล้ายกับขนาดแรกเพียงแต่ได้พื้นที่ใช้สอยใน Common Area และส่วนของห้องนอนกับพื้นที่ Walk In Closet มากขึ้น ทำให้ห้องกว้างขวาง โปร่งโล่งสบายมากขึ้นครับ ในส่วนของห้องน้ำขนาดนี้สามารถเข้าได้สองทางจากห้องครัว หรือห้องนอนได้ครับ เข้ามาในส่วนแรกยังเป็นห้องครัวเหมือนเดิมครับ แต่จะสังเกตได้ว่าพื้นที่ในห้องครัวมีขนาดกว้างขึ้น และเคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบ L shape ด้านขวามือสุดเป็นตู้เก็บรองเท้าครับ ถัดมาในส่วนของ Common Area สามารถวางโซฟาสำหรับ 3 ถึง 4 ที่นั่งและวางชั้นวางทีวีได้อย่างเป็นสัดส่วนลงตัว Floor To Ceiling 3 เมตรทำให้ดูไม่อึดอัดเลยครับ ขยับมาจากโซน Common Area เป็นส่วนของระเบียงซึ่งเป็นแบบ Double Skin ซึ่งประตูกระจกแรกก่อนเข้าตัวระเบียงเป็นแบบบานเฟี้ยม จากตัวระเบียงมีราวกันตกเป็นแบบกระจกและมีประตูกระจกแบบบานเลื่อนข้อดีของการมีประตูกระจกบานเลื่อนด้านนอกเพื่อป้องกันฝุ่นละออง หรือฝนเข้ามาในระเบียงห้องได้ครับ เข้าสู่ Master Bedroom ยังคงสามารถวางเตียงขนาด Queen Size ขึ้นไปได้ครับ และยังเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงตัวอย่างทางโครงการ Build in ตู้และโซฟาริมหน้าต่างสามารถเป็นมุมโปรดไว้อ่านหนังสือได้ครับ กระจกในห้องนอนเป็นแบบบานกระทุ้ง ต่อจากห้องนอนก่อนไปส่วนห้องน้ำ เป็นส่วนของ Walk In Closet ซึ่งมีประตูกระจกแบบบานเลื่อนกั้นห้องให้เพื่อดูเป็นสัดส่วน และทางโครงการ Build in ตู้เสื้อผ้าให้สองฝั่งเป็นแบบระบบ Censor เมื่อเปิดตู้ไฟจะเปิดอัตโนมัติครับ ห้องน้ำยังคงให้สุขภัณฑ์เหมือนแบบ 1 Bedroom ครับ และภายในพื้นที่อาบน้ำทางโครงการเจาะผนังสามารถวางของได้ครับ นอกจากนี้ห้องน้ำเป็นแบบ Double Access เชื่อมทั้งห้องนอนและห้องครัวครับ
2 Bedroom 2 Bathroom 70 ตร.ม.
มาถึงห้องตัวอย่างแบบสุดท้ายคือ 2 Bedroom 2 Bathroom มีลักษณะลึก ซึ่งแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนโดยเริ่มที่เข้ามาเป็นส่วนของครัว ถัดมาเป็น Common Area วางโต๊ะรับประทานอาหารและส่วนของที่นั่งเล่น ท้ายสุดเป็นส่วนของระเบียง ส่วนด้านขวามือมีทางเดินไปยังห้องนอนแรกและ Master Bedroom ส่วนแรกเป็นส่วนของครัวที่มีขนาดพื้นกว้างพอสมควรครับ ตัวเคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบ L Shape ด้านซ้ายมือสุดเป็นตู้เย็นที่ทางโครงการ Build in อยู่ในตู้อีกทีเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ในส่วนครัวลูกบ้านสามารถต่อเติมประตูกระจกบานเลื่อนทำเป็นครัวปิดได้ตามความต้องการของลูกบ้านได้ครับ ในส่วนถัดมาเป็นส่วนของ Common Area พื้นที่นั่งเล่นทำกิจกรรมซึ่งมีพื้นที่กว้างมากสามารถวาง L Shape Sofa และโต๊ะกลางได้ครับ และยังเหลือพื้นที่ทางเดินอีกมากเลยครับ ต่อจากส่วน Common Area เป็นส่วนของระเบียงที่เป็นแบบ Double Skin สามารถทำเป็น Pocket Garden ได้หรือสามารถทำเป็นมุมนั่งทำงานอ่านหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศรับอากาศภายนอกตามความชอบของผู้อยู่อาศัยได้ครับ ถัดมาเป็นส่วนโถงทางเดินไปยังห้องนอนโดยซ้ายมือเป็นห้องนอนแรก และด้านฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำกลาง และสุดทางเดินเป็นส่วนของห้อง Master Bedroom ครับ ภายในห้องนอนแรกมีพื้นที่มากพอสามารถวางเตียงขนาด Queen Size ขึ้นไปได้ครับ และยังพอเหลือพื้นที่วาง Side Table นอกจากนี้ทางโครงการ Build in ตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วยครับ ภายในห้องน้ำกลางมีส่วนของพื้นที่อาบน้ำให้ครับโดยมีฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกใส และยังแบ่งพื้นที่เปียกกับแห้งไว้ให้เป็นสัดส่วน ออกมาจากห้องน้ำด้านข้างทางโครงการทำเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า หรือเป็นตู้เก็บของได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยครับ มาที่ห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom ที่มีพื้นที่กว้างขวางมาก สามารถวางเตียงขนาด King Size ได้ครับ หน้าต่างกระจกเป็นแบบโค้งเล่นมุมทำให้ดูมิติมากขึ้น ถัดมาเป็นส่วนของ Walk In Closet ที่มีพื้นที่กว้างสามารถโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกครับ มาพร้อมกับตู้เสื้อที่มีขนาดใหญ่ที่มีระบบ Censor เมื่อเปิดตู้ไฟจะเปิดอัตโนมัติที่ทางโครงการจัดมาให้เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานครับ ในส่วนสุดท้ายเป็นส่วนของห้องน้ำที่แบ่งอย่างเป็นสัดส่วนโดยเข้ามามีอ่างล้างหน้าแบบลอยตัว 2 อ่าง Build in ตู้เก็บของเพื่อประโยชน์ใช้สอยมากขึ้นครับ ด้านซ้ายมือเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Toto Washlet เป็นแบบฝารองนั่งอัตโนมัติ ด้านขวามือเป็นพื้นที่อาบน้ำโดยแบ่งส่วนที่เปียกและแห้งด้วยฉากกั้นกระจกใส และภายในพื้นที่อาบน้ำของ Master Bedroom แบบ 2 Bedroom ขึ้นไปทางโครงการให้ Bath Tub ด้วยครับ WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT คุ้มค่าทั้งอยู่อาศัยหรือการลงทุน ทั้งทำเลศักยภาพดีย่าน CBD อย่างอโศก ซึ่งที่ดินหาได้ยากในการทำคอนโดมิเนียมเต็มที พร้อมกับสัมผัสท่ามกลางสวนป่าธรรมชาติรายล้อมใจกลางเมืองที่หาได้ยากกับ WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT ตอบโจทย์ทุก Lifestyle ครบครัน Facility รองรับลูกบ้านอย่างเต็มที่ มาพร้อมกับนวัตกรรม Smart Building ที่ใส่ใจความเป็นอยู่ สุขภาพ ของลูกบ้าน ทั้งหมดนี้ส่งให้ WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT กลายเป็นคอนโดมิเนียมในระดับพรีเมี่ยมที่สุดจากแบรนด์ Whizdom ณ ตอนนี้จาก Magnolia Quality Development Corporation มามอบให้คุณ
รายละเอียดข้อมูลคอนโด อโศก เพิ่มเติม WHIZDOM ASOKE-SUKHUMVIT ข่าวจาก MQDC MQDC จับตลาดคนทุกเจเนเรชั่น เปิดโปรเจ็กต์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท”
ทำอสังหาฯ ต้องแตกต่าง MQDC เปิด Whizdom Club
ครั้งแรกของโลกที่ป่าธรรมชาติและสังคมอยู่รวมกันในเมือง THE FORESTIAS – เดอะ ฟอเรสเทียส์