Tag : ศรศักดิ์ สมวัฒนา

2 ผลลัพธ์
เนอวานา ไดอิ เปิดตัวโครงการทาวน์โฮม ที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว  เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9 โกยยอดขายไปกว่า 500 ล้านบาท

เนอวานา ไดอิ เปิดตัวโครงการทาวน์โฮม ที่เป็นได้มากกว่าบ้านเดี่ยว เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9 โกยยอดขายไปกว่า 500 ล้านบาท

  บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวทาวน์โฮม 3 ชั้นแห่งใหม่บนทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่โครงการเนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9 ภายใต้แนวคิด “ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มองหาที่อยู่อาศัยในเมือง เดินทางสะดวก แต่มีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าคอนโดมิเนียม โดยโครงการเปิดขาย Presales ไปช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โกยยอดขายไปกว่า 500 ล้านบาท นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดตัวโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ภายใต้แบรนด์ ‘เนอวานา ดีฟายน์’ ที่ทำเลถนนพระราม 9 ไปเมื่อต้นปี 2560 และทำยอดขายได้ทั้งหมดภายใน 4 วันเท่านั้น ล่าสุดจึงได้ต่อยอดพัฒนาโครงการดังกล่าว โดยเปิดตัวในทำเลใหม่ที่ย่าน ศรีนครินทร์ - พระราม 9 ภายใต้แนวคิด “ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว” ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ให้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าการอยู่คอนโดมิเนียม โครงการ เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ - พระราม 9 (Nirvana DEFINE Srinakarin-Rama9) ทาวน์โฮม 3 ชั้น ระดับไฮเอนด์ จำนวน 173 ยูนิต บนเนื้อที่ 19 ไร่ ราคาขายเริ่มต้นที่ 7.7 - 15 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,900 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (ถ.กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ซึ่งถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เป็นหนึ่งในถนนสายสำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก มีช่องการจราจรกว้างถึง 8-10 ช่องทางการจราจร เชื่อมต่อกับถนนสายหลักของกรุงเทพฯ เข้า-ออกเมืองได้ง่ายและรวดเร็ว อาทิ ถนนพระราม9, ถนนศรีนครินทร์, ถนนพัฒนาการ, ถนนรามคำแหง, ถนนมอเตอร์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) โครงการยังรายล้อมด้วยรถไฟฟ้าถึง 3 สาย คือ รถไฟฟ้าในอนาคตสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีศรีกรีฑา ซึ่งโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 62, รถไฟฟ้าในอนาคตสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) รวมไปถึงรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อได้สะดวกไม่ต่างจากการอยู่ในเมือง อีกทั้งทำเลกรุงเทพกรีฑา ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมสรรพ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลชั้นนำ โรงเรียนนานาชาติระดับแนวหน้า และสนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียงถึง 2 แห่ง เพื่อตอบโจทย์ของกลุ่มผู้อยู่อาศัย โครงการเนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9 จึงมีแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบ โดยคงเอกลักษณ์การออกแบบโมเดิร์นสไตล์ตามแบบฉบับของเนอวานา ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติมากที่สุดด้วยช่องรับแสงธรรมชาติ รวมถึงใส่ใจในรายละเอียดการแบ่ง ฟังก์ชัน ของตัวบ้านให้ใช้งานได้คุ้มค่าและลงตัว ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เน้นการออกแบบที่แตกต่าง มีดีไซน์ที่เปิดโล่งด้วย Double Volume สูงกว่า 6 เมตร ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกโปร่งโล่งมากกว่าการอยู่บ้านเดี่ยว ตามคอนเซ็ปของโครงการ “ทาวน์โฮมที่เป็นได้...มากกว่าบ้านเดี่ยว” และด้วยช่องเปิดที่มากกว่า จึงรับแสงและลมธรรมชาติได้ดี ทำให้เป็นบ้านที่อยู่สบาย อีกทั้งยังออกแบบให้ทุกห้องนอนมีขนาดใหญ่ เสมือนเป็น Master Bedroom ทุกห้อง ลูกค้าจะได้อยู่ในสังคมคุณภาพที่มีความเป็นส่วนตัวเพียง 173 ครอบครัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Clubhouse, Fitness, สระว่ายน้ำระบบเกลือ รวมถึง Outdoor BBQ นอกจากนั้นเพื่อให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน เนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9 จึงได้มีการเตรียม Public WIFI ที่เดินสายด้วยระบบ Fiber Optic ทำให้สามารถใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงได้ทั้งภายในตัวบ้านและทั่วทั้งบริเวณโครงการ เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิต โดยหลังจากเปิด Presales ไปในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โครงการ สามารถทำยอดขายได้กว่า 500 ล้าน คิดเป็น 85% ของยอดขายในเฟสแรก หรือคิดเป็น 25% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะสามารถปิดยอดขายได้มากกว่า 50% ของทั้งโครงการภายในสิ้นปีนี้ นับเป็นก้าวแรกของการเปิดตัวสินค้าของเนอวานาไดอิ บนทำเลถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ซึ่งบริษัทยังมีที่ดินกว่า 100,000 ตารางวา บนถนนเส้นนี้เพื่อรอการพัฒนา โดยนายศรศักดิ์กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาที่ดินบริเวณนี้เป็น Township ระดับ High-End ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่เพื่อการพาณิชย์, พื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ และพื้นที่ Community Mall เพื่อรองรับกับ Lifestyle และการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย   โครงการเนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7.7 ล้านบาท เนื้อที่โครงการรวม 19 ไร่ เริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3/2560 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2562 ทั้งนี้โครงการเปิดให้ชมบ้านตัวอย่างที่สำนักงานขายของเนอวานา ดีฟายน์ ศรีนครินทร์ – พระราม 9 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1787 หรือ www.nirvana-group.com
ไดอิผนึกเนอวานา ประกาศแผนธุรกิจครั้งแรก ชู Living Solution สร้างนวัตกรรมใหม่ให้ในวงการอสังหาฯ

ไดอิผนึกเนอวานา ประกาศแผนธุรกิจครั้งแรก ชู Living Solution สร้างนวัตกรรมใหม่ให้ในวงการอสังหาฯ

ไดอิผนึกเนอวานา ประกาศแผนธุรกิจครั้งแรก ชู Living Solution สร้างนวัตกรรมใหม่ให้ในวงการอสังหาฯ ที่มีทั้งรับสร้างบ้าน-บ้านสำเร็จรูป-พัฒนาโครงการ-วัสดุเกี่ยวกับบ้าน ด้วยแผนยุทธศาสตร์ “Beyond Synergy” สร้างบริษัทที่แข็งแกร่งพร้อมรุกสู่ธุรกิจใหม่ กรุงเทพ 20 ก.พ.60 - บมจ.ไดอิ กรุ๊ป ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 เน้น Living Solution หลังผนึกเนอวานา เน้นการสร้างนวัตกรรมในการอยู่อาศัย โดยเป็นครั้งแรกที่นำจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างของไดอิ มาช่วยในการพัฒนาการก่อสร้างของเนอวานา ในขณะเดียวกันนำดีไซน์ที่โดดเด่นของเนอวานามาช่วยพัฒนาสินค้าของไดอิให้น่าสะดุดตามากยิ่งขึ้น พร้อมประกาศเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในไทยที่มีธุรกิจครบไลน์เรื่องบ้านในวงการอสังหาฯ โดยปัจจุบันผู้บริหารของเนอวานาได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไดอิแล้วอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศเปิดตัวใหม่ 3  โครงการมูลค่ารวม 8,500 ล้าน นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวแนะนำ บมจ.ไดอิ กรุ๊ป พร้อมเผยแผนการดำเนินงานเมื่อรวม 2 บริษัทเข้าเป็นหนึ่งเดียวว่า “บมจ.ไดอิ กรุ๊ป คือ บริษัทที่ทำธุรกิจรับสร้างบ้านในแบรนด์ “ดีจิ” (Deeji)  ธุรกิจบ้านสำเร็จรูปในแบรนด์ “กินซ่า” (Ginza) ธุรกิจรั้วบ้าน ในแบรนด์ Fenzer, ธุรกิจกรอบประตู หน้าต่างอลูมิเนียมแบรนด์ ATECH ซึ่งจุดเด่นในการดำเนินธุรกิจของไดอิ คือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ดี ส่วนธุรกิจของเนอวานานั้น เป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่มีดีไซน์โดดเด่น ลงลึกในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย เมื่อ 2 บริษัทมารวมกันเราจึงนำจุดเด่นของทั้งคู่มาผนวกเข้าด้วยกัน คือ เทคโนโลยี + ดีไซน์ ซึ่งจะเพิ่ม   ความรวดเร็วในการก่อสร้างภายใต้ดีไซน์ที่สวยงาม โดยการรวมกันในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในวงการอสังหาฯ ไทย ที่หนึ่งบริษัทจะมีทั้งธุรกิจพัฒนาโครงการ ธุรกิจรับสร้างบ้าน ธุรกิจบ้านสำเร็จรูป และธุรกิจขายวัสดุเกี่ยวกับบ้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการจะมีบ้านอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นบ้านบนที่ดินตัวเอง หรือการซื้อบ้านในโครงการจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์  โดยเป้าหมายที่เราวางไว้ คือ Living Solution เพียงนึกถึงการมีบ้าน เมื่อเดินทางมาที่ไดอิจะมีทุกอย่างให้เลือก ดังนั้น การรวมกันในครั้งนี้ จึงเป็น Beyond Synergy หรือขั้นกว่าของการผสานธุรกิจ เพราะเราไม่ได้มองแค่การรวมเพื่อเติบโตทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องการรวมเพื่อนำจุดเด่นในทุกด้านของทั้งคู่มาใช้ ทั้งการรวมด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม วิธีคิด ช่องทางการตลาดใหม่ ๆ และการพัฒนาสินค้าเพื่อยังประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคด้วยนั่นเอง” “ทั้งนี้แผนการดำเนินธุรกิจของ บมจ.ไดอิ กรุ๊ป ณ ปัจจุบันจึงมี 3 ประเภทธุรกิจหลัก ได้แก่  1. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์เนอวานา, 2. ธุรกิจรับสร้างบ้าน ภายใต้แบรนด์ดีจิ และบ้านสำเร็จรูปแบรนด์กินซ่า, 3. ธุรกิจวัสดุเกี่ยวกับบ้าน คือ รั้ว แบรนด์ Fenzer  และกรอบประตูหน้าต่าง แบรนด์ ATECH โดยหนึ่งในแผนกลยุทธ์ของบริษัท คือ การเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น และง่ายขึ้น ดังนั้น เรามีแผนการดันสินค้าด้านวัสดุก่อสร้างเข้าสู่ Modern Trade , การสร้างพื้นที่สำหรับเป็น Show Unit เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจได้สัมผัสบ้านสำเร็จรูป และแบบบ้านใหม่ๆ จากธุรกิจรับสร้างบ้านของเราได้อย่างเต็มที่ในอนาคต นอกจากนี้ ยังเตรียมรุกธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม ได้แก่ การนำแบบบ้านในสไตล์ของเนอวานามาทำในลักษณะธุรกิจรับสร้างบ้าน เพื่อให้ลูกค้าได้มีบ้านแบบเนอวานาบนที่ดินของตัวเอง, การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายแก่นักลงทุนที่สนใจ (Investment property development) และการร่วมทำธุรกิจกับเจ้าของที่ดิน (Joint venture Model)” สำหรับผลการดำเนินงาน และแผนการดำเนินงานของสินค้าภายใต้แบรนด์เนอวานานั้น นายศรศักดิ์ กล่าวว่า  “ในปีที่ผ่านมายอดขายของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์เนอวานา เติบโตขึ้นจาก 1,364 ลบ. ในปี 2558  เป็น 2,247 ลบ. ในปี 2559 หรือโตขึ้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์  โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากบ้านราคาสูงกว่า 15 ล้านบาท และสำหรับปี 2560 ได้วางเป้ายอดขายไว้ที่ 3,900 ลบ. เติบโตขึ้นจากปี 59 อีก 43 เปอร์เซ็นต์ โดยปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท และโครงการที่พักอาศัยแนวราบ  มูลค่าโครงการประมาณ 2,500 ล้านบาท”