Tag : สยามพิวรรธน์

2 ผลลัพธ์
สยามพิวรรธน์ ประกาศจุดยืน  “ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) นำไทยยิ่งใหญ่บนเวทีโลก

สยามพิวรรธน์ ประกาศจุดยืน “ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) นำไทยยิ่งใหญ่บนเวทีโลก

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ‘ไอคอนสยาม’ อภิมหาโครงการเมืองสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกาศจุดยืน  “ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) ด้วยการนำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย มุ่งสร้างชื่อเสียงประเทศไทยให้ยิ่งใหญ่บนเวทีโลก เผยกลยุทธ์สำคัญใน 5 ปีข้างหน้า พร้อมฉลองการเข้าสู่ปีที่ 60 ด้วยความสำเร็จของธุรกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดดนับจากปี 2557 ถึงวันนี้ รายได้เติบโตขึ้นถึงเท่าตัว   นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอด 60 ปี สยามพิวรรธน์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในการสร้างต้นแบบและนำมาตรฐานใหม่ๆ มาพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด  เราสร้างปรากฎการณ์ปฏิวัติวงการให้เกิดขึ้น ครั้งแล้วครั้งเล่า และจากทิศทางที่สยามพิวรรธน์ได้ประกาศไปเมื่อ 5 ปีก่อน การเปลี่ยนสยามเซ็นเตอร์ ให้กลายเป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ และการปรับโฉมสยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางรูปแบบไฮบริดรีเทล ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ศูนย์การค้าไทยได้รับรางวัลชนะเลิศจากทั้งวงการศูนย์การค้าและการค้าปลีกของโลกพร้อมกัน และล่าสุด สำหรับการเปิดอภิมหาโครงการเมืองไอคอนสยามที่เป็นกระแสร้อนแรงที่สุดแห่งปี 2561 โดยได้วางแผนกลยุทธ์ใหม่ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ และกำหนดทิศทางการลงทุนของสยามพิวรรธน์ ซึ่งจะเน้นไปที่การสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกับคนไทยทั้งประเทศ และพันธมิตรชั้นนำในต่างประเทศ พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหนือชั้นเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดแบบครบวงจร โดยเราตั้งเป้าว่าในอีก 5 ปีข้างหน้ารายได้กลุ่มธุรกิจของเราจะโตขึ้นอีก 1 – 1.5 เท่า      จุดยืนที่แข็งแกร่งและแตกต่างนี้  สยามพิวรรธน์ ได้เผยกลยุทธ์สำคัญที่จะเป็นแผนธุรกิจ 5 ปี ดังนี้   1.เดินหน้าสร้างมหาปรากฏการณ์ โครงการระดับโลกทั้งในและต่างประเทศ ต่อยอดจากความสำเร็จของ วันสยาม และไอคอนสยาม ด้วยวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมือง โครงการที่สยามพิวรรธน์สร้างขึ้นจะต้องเป็นโครงการขนาดใหญ่ ต้องปฏิวัติวงการค้าปลีก (Retail revolution) และต้องเป็นโครงการที่สร้างสรรค์โดยเฉพาะ (Tailor made) โดยในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีการสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบและคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่เหนือความคาดหมาย ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบเร็วๆ นี้  นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน “วันสยาม” (One Siam)  คือการผนึกกำลังของ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เป็นสถานที่หนึ่งเดียวในเอเชียและวงการค้าปลีกของโลก ที่ก้าวขึ้นแท่นติดอันดับ 1 ใน 10 ของสถานที่ยอดนิยมระดับโลก อันดับ 1 ใน Instagram  และอันดับ 6 ในFacebook    ไอคอนสยามยังคงเดินหน้าสร้างปรากฎการณ์ความมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดองค์ประกอบสำคัญเพิ่มเติม เช่น ทรู ไอคอน ฮอลล์ (TRUE ICON HALL) ศูนย์ประชุมพร้อมนวัตกรรมล้ำยุคแห่งแรกในกรุงเทพบนพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร และ ริเวอร์มิวเซียม แบงค็อก (rivermusuem bangkok) ซึ่งจะเป็นพิพิธภัณฑ์มาตรฐานระดับสากลครั้งแรกในเมืองไทย โดยจะทำงานร่วมกับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก เพื่อนำผลงานศิลปะล้ำค่าจากต่างประเทศมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย   2.ผนึกกำลังพันธมิตรแถวหน้าระดับโลก ร่วมพัฒนาธุรกิจค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ ที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำระดับโลกมากมาย และเลือกที่จะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจและร่วมลงทุนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ไปกับสยามพิวรรธน์ ในขณะเดียวกัน สยามพิวรรธน์ได้รับการติดต่อจากหลายๆ บริษัทที่มีชื่อเสียงในประเทศต่างๆ  ซึ่งมีความประสงค์จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และด้วยแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นกลางจึงจะทำให้สยามพิวรรธน์สามารถจับมือกับทุกพันธมิตรเพื่อพัฒนาโครงการเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการศึกษา โดยได้มองหาทำเลทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด    ในส่วนธุรกิจค้าปลีก สยามพิวรรธน์ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสินค้าและบริการที่แปลกใหม่เป็นคนแรกอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ สยามพิวรรธน์มีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจค้าปลีกให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งการขยายธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบแฟรนไชส์ การร่วมทุนกับบริษัทค้าปลีกชั้นนำจากต่างประเทศเพื่อเปิดตัวแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์อีก 2 แบรนด์ และมีกำหนดการที่จะเปิด Luxury Premium Outlets แห่งแรกในประเทศไทยในปลายปีนี้ และขยายเพิ่มไปนอกกรุงเทพฯ อีก 2 แห่ง    นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นการให้ความสนับสนุนดีไซน์เนอร์ไทยและผู้ประกอบการ SME ไทยให้พัฒนาบน platform การจัดจำหน่ายสินค้าที่สยามพิวรรธน์บริหารอย่างครบวงจร เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยๆ ที่มีต้นทุนต่ำ ได้ใช้ประโยชน์จากศูนย์กลางข้อมูลของสยามพิวรรธน์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง   3.ลงทุนธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก สยามพิวรรธน์มีความสนใจที่จะลงทุนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์  การลงทุนในธุรกิจอื่น และขยายธุรกิจค้าปลีก  ที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักเพื่อเสริมศักยภาพของสยามพิวรรธน์  เช่น การซื้ออาคารสำนักงาน กิจการจัดส่งสินค้า(logistics) รวมไปถึงธุรกิจด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ   นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าในการขยายธุรกิจภายใต้บริษัทลูกอีก 4 - 5 บริษัทใหญ่ อาทิ การจัดตั้งบริษัท สยามอัลไลแอนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ต่อยอดความเชี่ยวชาญจากการบริหาร Royal Paragon Hall เพื่อรับบริหารจัดการศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงนิทรรศการใหม่ๆ อาทิ TRUE ICON HALL และลงทุนในการสร้างศูนย์ประชุมสำหรับการจัดงานต่างๆ รวมถึงการการจัดแสดงคอนเสิร์ตในทำเลใหม่ การเดินหน้าให้บริการกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดอย่างครบวงจรของบริษัท ซูพรีโม่ จำกัด ที่สร้างประสบการณ์ระดับโลกเหนือความคาดหมายมาแล้วมากมาย อาทิ การจัดงาน Amazing Thailand Countdown ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีธุรกิจให้คำปรึกษาและบริการเกี่ยวกับการจัดการอาคารของบริษัท สยามโปรเฟสชั่นแนล แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้ให้บริการแก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาแล้วหลายราย ซึ่งบริษัทในเครือเหล่านี้ จะเดินหน้าให้บริการทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง   4.เปิดตัวระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และการบริหารจัดการข้อมูล ที่ได้ถูกพัฒนามาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี สร้างความแตกต่างแต่โดนใจ เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดแบบครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ ในปีนี้ สยามพิวรรธน์จะเปิดตัวระบบสารสนเทศทางการตลาด (Marketing Intelligence System) ที่ได้พัฒนามานานกว่า 5 ปีด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท สำเร็จพร้อมใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้วในปีนี้ โดย อาจารย์สรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของกลุ่มสยามพิวรรธน์ และผศ.ดร.พีรพล เวทีกูล อาจารย์ประจำ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยระบบจะแบ่งเป็น 2 ส่วน   - ในส่วน Front-end สยามพิวรรธน์ได้มีการทำ Location awareness และ Member awareness ผ่านระบบ Mobile Application รวม ศูนย์ข้อมูลการตลาดโดยทำ Web Centralization และพัฒนาElectronic Digital Marketing (EDM) เพื่อเข้าถึงลูกค้าผ่านทางช่องทางบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น   - ในส่วน Back-end สยามพิวรรธน์ได้พัฒนาระบบ Data Infrastructure เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าในหลายมิติ และใช้ Advanced data analytics ในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคล เพื่อนำไปต่อยอดทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดได้ตรงใจลูกค้าและได้ผลตอบแทนมากที่สุด   5.กลยุทธ์การสร้างคุณค่า สมประโยชน์ร่วมกันสู่ความยั่งยืน จับมือผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศพร้อมแข่งขันบนเวทีโลก ปั้น Local Heroes ให้เป็น Global Heroes  สยามพิวรรธน์ ยังคงยึดมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability)  โดยการสร้างแบบอย่างการดำเนินธุรกิจ คือ การร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) และ การสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Value) ซึ่งเป็นคอนเซปต์หลักในการพัฒนาทุกโครงการของสยามพิวรรธน์ตลอดมา ด้วยการผนึกกำลังร่วมกับทุกภาคส่วน ตั้งแต่องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการไทยรุ่นใหม่ บุคคลผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญจากทั่วโลก ถูกสะท้อนออกมาอย่างเป็นรูปธรรมและเต็มรูปแบบ อาทิ สนับสนุนโครงการดีมาร์ค โชว์ โครงการทาเลนต์ไทย แอนด์ ดีไซน์เนอร์รูม และการเปิดร้าน Objects of Desire Store (ODS) ที่ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อผลักดันผลงานของนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ให้ก้าวไกลสู่ตลาดโลก เป็นต้น    นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ ยังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการท้องถิ่นรายย่อยจากทั่วประเทศไทย ในโครงการสุขสยาม ส่งผลให้ผลิตผลจากหมู่บ้านและท้องถิ่นต่างๆ มียอดขายที่ดีและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง รวมทั้งมองหาโอกาสที่จะทำโครงการดีๆ ร่วมกับองค์กรต่างๆ เพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ เชิดชูความสามารถและผลักดันฝีมือคนไทย  ปั้น “Local Heroes” ให้กลายเป็น “Global Heroes”   6.การพัฒนาสยามพิวรรธน์ อคาเดมี (Siam Piwat Academy) และการสร้างสยามพิวรรธน์ Next-Gen Leader สยามพิวรรธน์มีแผนปรับโครงสร้างบริหารและพัฒนาองค์กรดังนี้ การสร้างสยามพิวรรธน์ Next-Gen Leader ปั้นคนรุ่นใหม่เสริมทัพผู้บริหารเพื่อขับเคลื่อนองค์กร โดย 5 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างหน่วยงาน Think Tank ที่ได้ทำงานร่วมกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้บริหารระดับสูงที่มากด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาอย่างใกล้ชิด เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้ถูกฝึกฝีมืออย่างเข้มข้น และมีเวทีในการแสดงศักยภาพ มีโอกาสเติบโตและภาคภูมิใจไปกับทุกความสำเร็จขององค์กร   นอกจากนี้ โครงการสยามพิวรรธน์ อคาเดมี (Siam Piwat Academy) ซึ่งคือหลักสูตรการบริหารจัดการ ที่นำองค์ความรู้ในการบริหารศูนย์การค้าและการค้าปลีกของสยามพิวรรธน์ที่สั่งสมมากว่า 60  ปีมาถ่ายทอดให้กับสังคม ในปีต่อไปนี้สยามพิวรรธน์จะเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ มีความชำนาญที่หลากหลาย (Multi Skills) ที่สามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้า และเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิตอล     สยามพิวรรธน์มีแผนที่จะปรับโครงการสร้างองค์กรด้วยการสร้าง Center of Excellence หรือ การสร้างหน่วยงานกลางที่รวมเอาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในสาขาต่างๆ ขึ้นเป็นหน่วยงานส่วนกลางเพื่อกำกับดูแล และให้การสนับสนุนบริษัทลูกในเครือทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีแผนการปรับกระบวนการทำงานโดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มีผลิตภาพมากขึ้น อาทิ การใช้ Chatbot, Robotic, AI ทำให้องค์กรมีความคล่องตัว (Agile organization)  สามารถปรับตัวได้เร็วตอบสนองความต้องการ และการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว      
สยามเซ็นเตอร์ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 5 ศูนย์การค้าที่ออกแบบดีที่สุดในโลกโดยสมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ

สยามเซ็นเตอร์ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 5 ศูนย์การค้าที่ออกแบบดีที่สุดในโลกโดยสมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ฯลฯ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมือง สัญลักษณ์ใหม่ของประเทศไทย เปิดเผยวันนี้ว่า สยามเซ็นเตอร์ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 5 ศูนย์การค้าที่ออกแบบดีที่สุดของโลก โดยสมาคมชั้นนำของโลกทางด้านธุรกิจค้าปลีก คือ สมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (International Council of Shopping Centers – ICSC) สยามเซ็นเตอร์เป็น 1 ใน 5 ศูนย์การค้าจากทั่วโลกที่ได้รับเกียรติให้รับรางวัลไอซีเอสซี วีว่า อวอร์ด (ICSC VIVA Award) ประจำปี 2558 ในสาขาการออกแบบและพัฒนา โดยได้รับการยกย่องในฐานะ   ที่มีการออกแบบโดดเด่นที่สุด หลังจากที่ในปี 2557 สยามเซ็นเตอร์ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะและได้รับรางวัลโกลด์ อวอร์ด จากเวทีเอเชีย แปซิฟิก ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ อวอร์ด จากการออกแบบสยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่ที่สร้างสรรค์ล้ำสมัย สยามเซ็นเตอร์เปลี่ยนโฉมใหม่อย่างเต็มรูปแบบในปี 2556 โดยใช้งบลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนโดยสยามพิวรรธน์ และเจ้าของแบรนด์ 300 แบรนด์ ในโครงการที่เป็นการริเริ่มความร่วมมือกันครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการค้าปลีกของประเทศไทย นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลจากไอซีเอสซี เราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการช็อปปิ้งชั้นนำของโลก ด้วยการเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย ที่นำเสนอไอเดียแปลกใหม่ในการพัฒนาและออกแบบโครงการต่างๆ ของเรา สยามเซ็นเตอร์เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์รายแรกๆ ของโลกที่บุกเบิกแนวคิดค้าปลีกแปลกใหม่แบบปฏิวัติวงการ ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้พัฒนาศูนย์การค้า ผู้ประกอบการร้านค้าย่อย และเจ้าของแบรนด์ เพื่อสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและสอดคล้องกลมกลืนเป็นเอกภาพทั้งศูนย์การค้า รวมถึงร้านค้าคอนเซ็ปต์ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรูปโฉมและบรรยากาศภายในที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของสยามเซ็นเตอร์ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวครอบคลุมไปทั้งสยามเซ็นเตอร์ ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าลูกค้าจะมาใช้บริการร้านค้าหรือร้านอาหารใดก็ตามในสยามเซ็นเตอร์ ลูกค้าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ปฏิวัติวงการและเหนือความคาดหมายอย่างแน่นอน” นางชฎาทิพกล่าวว่า สยามพิวรรธน์ได้ตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่เพื่อเปลี่ยนโฉมสยามเซ็นเตอร์ สอดคล้องกับพัฒนาการของธุรกิจค้าปลีก “ซึ่งไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการค้าปลีกอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่ธรรมดา ในสถานที่ที่ผู้คนสามารถที่จะได้รับแรงบันดาลใจ รู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนานเพลิดเพลินไปพร้อมๆ กัน” “กลยุทธ์เพื่อความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ สำหรับศูนย์การค้าในเครือทุกแห่งก็คือจะต้องเป็นผู้นำด้านแนวคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ที่ล้ำเทรนด์ในธุรกิจค้าปลีก จะต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ต้องเป็นรายแรกหรือสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกเสมอ และต้องทำสิ่งที่มาตรฐานระดับโลก ในฐานะ ‘ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย’” นางชฎาทิพ กล่าว นางชฎาทิพ เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดตัวสยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่ภายใต้แนวคิดและดีไซน์ใหม่ที่ได้รับรางวัลนี้ มีผู้เข้ามาใช้บริการในสยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยจริงๆ เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และมีอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย “นับตั้งแต่ปฏิวัติวงการด้วยการเปิดตัวสยามเซ็นเตอร์แนวคิดใหม่ จำนวนคนที่เข้ามาใช้บริการที่สยามเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นเกือบ 12,000 คนต่อวัน เมื่อเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้น ในบรรดาผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่สยามเซ็นเตอร์ จำนวนคนที่ใช้จ่ายเงินช็อปปิ้งจริงๆ ในห้างก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 34%” “ยิ่งไปกว่านั้นคือ การใช้จ่ายเฉลี่ยของนักช็อปแต่ละคน ที่เข้ามาใช้จ่ายในสยามเซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว โดยทุกวันนี้ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน ต่อการเข้ามาใช้บริการหนึ่งครั้ง ซึ่งสะท้อนความสำเร็จของความร่วมมือกันระหว่างร้านค้าปลีก เจ้าของแบรนด์ และสยามพิวรรธน์ ในการสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ แปลกใหม่ และเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจให้แก่ผู้มาเยือน” นางชฎาทิพ กล่าว นางชฎาทิพ กล่าวเสริมว่า “ความสำเร็จของสยามเซ็นเตอร์ตอกย้ำความเชื่อของเราที่ว่าการเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย จะเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ และการเติบโตในอนาคตของเราจะมาจากการนำเสนอแนวคิดแปลกใหม่ที่ล้ำเทรนด์ รวมไปถึงนำเสนอแนวคิดด้าน   ไลฟ์สไตล์และค้าปลีกที่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย รวมถึงเป็นครั้งแรกในโลกอีกด้วย” เมื่อเร็วๆ นี้ สยามพิวรรธน์ยังคว้า 2 รางวัลสำคัญของวงการ ได้แก่ รางวัลศูนย์การค้าที่ยอดเยี่ยมของประเทศไทย จากการโหวตของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นการจัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยสยามเซ็นเตอร์ได้รับเลือกเป็นศูนย์การค้าที่ดีที่สุดประจำปี 2558 ในขณะที่สยามพารากอนได้รับการยกย่องให้ติดอันดับอยู่ในท๊อปเท็น 10 อันดับแรกของศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลก จากการโหวตของนักท่องเที่ยวชาวจีน รางวัลดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมบริการและแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยในกลุ่มชาวจีน รวมทั้งสนับสนุนให้กำลังใจผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ดียิ่งขึ้น