Tag : สุทธิสาร จิราธิวัฒน์

2 ผลลัพธ์
ไทวัสดุ บุกธุรกิจ ฟาสต์ฟิต (FAST FIT) เตรียมเปิดตัว ออโต้วัน (AUTO 1)

ไทวัสดุ บุกธุรกิจ ฟาสต์ฟิต (FAST FIT) เตรียมเปิดตัว ออโต้วัน (AUTO 1)

ซีอาร์ซี ไทวัสดุ สบช่องตลาดรถยนต์รุ่ง พร้อมแตกไลน์ธุรกิจเปิด ฟาสต์ ฟิต ภายใต้ชื่อ ออโต้วัน (AUTO 1) ประเดิมสาขาแรกที่ ไทวัสดุ ปทุมธานี ชูจุดแข็ง ในด้านบริการยานยนต์โดยช่างมืออาชีพ มีสินค้าให้เลือกหลากหลายทั้งจากในประเทศและสินค้านำเข้า ในทำเลที่ดีที่สุด สะดวกสบาย โดยพ่วงโปรโมชั่นสะสมและแลกคะแนนเพื่อรับสิทธิพิเศษหรือส่วนลดต่างๆ ผ่านบัตรเดอะวัน (THE 1) ในกลุ่มเซ็นทรัล โดยตั้งเป้าเปิดสาขาในพื้นที่ของไทวัสดุทุกสาขา เพื่อรองรับลูกค้าผู้ใช้รถทั่วประเทศ   คุณสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2560 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 871,650 คัน และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2561 จะมียอดขายรถยนต์รวม 950,000 คัน หรือ เพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสมของรถยนต์ ณ 31 ม.ค. 61 มีจำนวนทั้งสิ้น 17 ล้านคัน (ไม่รวมรถจักรยานยนต์ 20 ล้านคัน) ซึ่งเห็นได้ว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับอานิสงส์เชิงบวก โดยเฉพาะธุรกิจบริการหลังการขายแบบ ควิกเซอร์วิส หรือ ฟาสต์ฟิต ซึ่งในปีที่ผ่านมาตลาดนี้มีมูลค่าประมาณ 34,000 ล้านบาท   “ธุรกิจศูนย์บริการประเภท ฟาสต์ ฟิต เติบโตควบคู่ไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดรถยนต์ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ที่ 4 -7 % ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน มีแนวโน้มนำรถยนต์เข้ารับบริการฟาสต์ฟิตเพิ่มมากขึ้น โดยมีปัจจัยมาจากอัตราค่าบริการของศูนย์บริการรถยนต์ของค่ายต่างๆ ที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับยังขาดความเชื่อมั่น ในมาตรฐานและการบริการของอู่ท้องถิ่นทั่วไป ซึ่งด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้เรามองเห็นโอกาสทางการตลาดที่ยังสามารถเติบโตได้อีก   คุณสุทธิสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การก้าวเข้ามารุกธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์แบบฟาสต์ฟิตในครั้งนี้ นอกจากจะรองรับจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ไทวัสดุและธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล ที่มีสาขาของธุรกิจต่างๆในเครือกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกับไทวัสดุเองที่จะไม่ได้มีแค่เพียงสินค้าและบริการเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างที่ครบวงจรเท่านั้น เรายังมองไปถึงธุรกิจที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าของไทวัสดุ ที่ขับรถยนต์เพื่อมาซื้อสินค้าอยู่แล้ว ดังนั้นการเพิ่มไลน์ธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์แบบฟาสต์ฟิตในครั้งนี้ จะเป็นการต่อยอดธุรกิจที่เอื้อต่อกันได้เป็นอย่างดี”     สำหรับศูนย์บริการออโต้วัน สาขาแรก ตั้งอยู่ที่ไทวัสดุ สาขา ปทุมธานี ซึ่งเป็นสาขาที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน หมู่บ้านขนาดใหญ่ และยังเป็นถนนหลักในการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียงโดยสะดวก ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการรวม 320 ตารางเมตร พร้อมด้วย 4 ช่องบริการ ใช้งบลงทุนเบื้องต้นประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนรูปแบบการให้บริการหลักๆประกอบด้วย จำหน่ายยางรถยนต์ บริการตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ บริการเช็คระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และน้ำมันหล่อลื่นต่างๆ เช่น เกียร์-เฟืองท้าย ซ่อมบำรุงระบบเบรค ช่วงล่าง-ระบบรองรับ บริการระบบแอร์รถยนต์ ฯลฯ   คุณสุทธิสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกับ ออโต้วัน จะได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า จากกลยุทธ์การตลาดที่เป็นจุดแข็ง ของออโต้วัน เช่น การร่วมโปรโมชั่นกับสมาชิกผู้ถือบัตร เดอะวัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นบัตรสมาชิกที่มีฐานลูกค้านิยมสะสมคะแนนจากยอดจับจ่ายซื้อสินค้าสูงสุดบัตรหนึ่ง โดยปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 14 ล้านราย ซึ่งทุกการใช้บริการที่ออโต้วัน ผู้ถือบัตรเดอะวันจะสามารถเก็บคะแนนสะสมได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง และยังมีการจัดโปรโมชั่นร่วมกับธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่มเซ็นทรัลอีกด้วย   ขณะที่เป้าหมายการขยายสาขา ออโต้วัน ต่อจากสาขาปทุมธานี ในปี 2561 มีเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาบางบัวทอง และบางพลี โดยตามแผนงานบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเปิดสาขาไม่น้อยกว่า 40 แห่ง ภายในปี 2563 พิเศษสุดเพื่อเป็นการฉลองเปิด ออโต้วัน สาขาปทุมธานี ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคม ได้จัดโปรแรง 1 แถม 1 เมื่อซื้อยาง Toyo Tires, Hankook และ Goodride โดยลูกค้าจะต้องมาลงทะเบียนที่สาขาในช่วงเวลา 07.00-08.00 น. เพื่อลุ้นสิทธิ์รับโปรยาง 1 แถม 1 นี้ โดยต้องเปลี่ยนยาง 4 เส้นพร้อมเทิร์นยางเก่า จำกัด 30 ท่านต่อวัน เพียง 5 วันนี้เท่านั้น สำหรับสมาชิกบัตรเดอะวัน รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม อาทิ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ราคาเริ่มต้น 499 บาท เปลี่ยนแบตเตอรี่เทิร์นรุ่นเก่ารับส่วนลด 1,000 บาท คะแนนสะสมในบัตรเดอะวัน แลกรับส่วนลดสูงสุด 13% ต่อ 1 ใบเสร็จ /ครั้ง และ ทุกการใช้บริการมูลค่า 15,000 บาท รับกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิออโต้วันฟรี   “ออโต้วัน มีเป้าหมายการขยายสาขาสู่ไทวัสดุทั่วประเทศ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการสินค้าและบริการทั้งเรื่องบ้าน และเรื่องรถได้อย่างครบวงจรในที่ๆเดียว พร้อมด้วยคุณภาพ มาตรฐานการบริการ และความหลากหลายของสินค้าที่มีให้เลือกสรร ที่จะช่วยให้ลูกค้าของทั้งไทวัสดุและออโต้วันใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” คุณสุทธิสาร กล่าวปิดท้าย
“บ้านแอนด์บียอนด์” ตั้งเป้า 5 ปี กวาดรายได้ 50,000 ล้านบาท

“บ้านแอนด์บียอนด์” ตั้งเป้า 5 ปี กวาดรายได้ 50,000 ล้านบาท

บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัล ประกาศรีแบรนด์ “โฮมเวิร์ค” 3 สาขาสู่แบรนด์ใหม่ “บ้านแอนด์บียอนด์” โมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านแนวใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค 4.0 หลังทดลองเปิด สาขาเชียงใหม่ ขอนแก่น และพัทยา ประสบผลสำเร็จยอดขายเพิ่ม 20 % พร้อมเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 20 สาขา ในอีก 5 ปี รับตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้านที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าปีนี้โต 3.6% มีมูลค่าราว 20,000 ล้านบาท ชูจุดแข็งเป็นศูนย์รวมสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ที่ให้ทุกอย่างมากกว่าแค่เรื่องบ้าน “BEYOND EXPECTATION” ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยสินค้าคุณภาพดี หลากหลาย ราคาคุ้มค่า พร้อมโซลูชั่นที่ช่วยแก้ทุกปัญหาเรื่องบ้านและบริการที่มุ่งตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล กับบริการ vFIX ปรับปรุงซ่อมแซมบ้านผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ Contact Center 1308 พร้อมบริการช็อปออนไลน์ผ่านเว็บ 24 ชม. ไร้รอยต่อด้วยการเชื่อมโยงช่องทางหน้าร้าน กับออนไลน์ตามแนวคิด OMNI Channel     นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการเปิด “บ้านแอนด์บียอนด์” ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านรูปแบบใหม่ จำนวน 3 สาขา ที่เชียงใหม่ ขอนแก่น และพัทยา ซึ่งสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจทำรีแบรนด์ดิ้ง (Re-Branding) “โฮมเวิร์ค” เป็น “บ้านแอนด์บียอนด์” โดยตั้งเป้าปรับเปลี่ยนหน้าร้านอีก 3 แห่ง ที่สาขาราชพฤกษ์ สาขารัตนาธิเบศร์ และสาขาภูเก็ต ให้เป็น “บ้านแอนด์บียอนด์” เพื่อให้มีสาขา “บ้านแอนด์บียอนด์” รวมจำนวนทั้งสิ้น 6 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ครบทุกภาคทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ทั้งนี้ จะขยายสาขา “บ้านแอนด์บียอนด์” เพิ่มเป็น 20 สาขา โดยตั้งเป้ายอดขายรวมของกลุ่มเซ็มทรัลโฮม กรุ๊ป 50,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปี “การรีแบรนด์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่มูลค่าตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เป็นโอกาสที่ดีหากบริษัทฯ สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ตลาดได้ โดยในปี 2561 พบว่า ตลาดมีแนวโน้มเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3.6% หรือมูลค่าตลาดคาดการณ์ประมาณ 200,000 ล้านบาท ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดมาจากปัจจัยหนุนหลายประการ อาทิ การคาดการณ์ GDP ในปีนี้จะโต 4.8% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ได้รับการกระตุ้นจากโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานเมกะโปรเจคต่าง ๆ การขยายตัวของสังคมเมือง ส่งผลให้แนวโน้มรายได้ต่อครัวเรือน และจำนวนที่อยู่อาศัยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นใน 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดมีอายุน้อยลง และมีขนาดครอบครัวที่เล็กลง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร เมืองธุรกิจ เมืองท่องเที่ยว และเมืองอุตสาหกรรมโดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งปัจจัยด้านพฤติกรรมการซื้อของตกแต่งบ้านมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคมีความความต้องการที่หลากหลายเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงประเทศไทยกำลังย่างเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้า บริการ และข้อมูลที่รวดเร็ว ตอบสนองได้อย่างฉับไว ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีช่องทางของ Social Media ที่เป็นเครื่องมือหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้า     อย่างไรก็ดีปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสรีแบรนด์ “โฮมเวิร์ค” เป็น “บ้านแอนด์บียอนด์” Home Improvement Store ที่เป็นโมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านเทรนด์ใหม่ โดยวางตำแหน่งของแบรนด์ให้เป็นศูนย์รวมสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ที่ให้ทุกอย่างมากกว่าแค่เรื่องบ้าน “BEYOND EXPECTATION” ด้วย 4 หัวใจหลัก คือ สินค้าที่มีสไตล์พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ราคาคุ้มค่าจับต้องได้ มีโซลูชั่นที่ช่วยแก้ทุกปัญหา ทั้งการซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้าน และบริการที่ครบทุกความต้องการ ตอบโจทย์ลูกค้าในยุค 4.0 ด้วยพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม./สาขา พร้อมด้วยสินค้าคุณภาพกว่า 20,000 รายการ โดยมีรูปแบบการจัดเรียงสินค้าที่ต่อเนื่องกัน ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น” นายสุทธิสารกล่าว     นายสุทธิสารกล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งใน Pain point ของลูกค้า คือ เรื่องการซ่อมแซมบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ “บ้านแอนด์บียอนด์” จึงเปิดบริการ vFIX บริการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ติดตั้ง เปลี่ยนหรือย้ายจุดอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน จากช่างผู้เชี่ยวชาญผ่านการทดสอบตามมาตรฐานกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมรับประกันผลงานนานสูงสุด 180 วัน ในราคาที่จับต้องได้ ผ่าน Contact Center 1308 เพื่อบริการลูกค้าฉับไว โดยจะเริ่มให้บริการ vFIX ภายใน 31 สิงหาคม 2561 และ vFIX Application ในเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.baanandbeyond.com เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไร้รอยต่อด้วยการเชื่อมโยงช่องทางหน้าร้าน กับออนไลน์ ตามแนวคิด OMNI Channel ภายในเดือนกันยายน 2561   นายสุทธิสารกล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในแบรนด์และเป็นการฉลองเปิดตัว “บ้านแอนด์บียอนด์” อย่างเป็นทางการ บริษัทฯ กำหนดจัดงาน baan & BEYOND Expo 2018 งานมหกรรมสินค้าตกแต่ง ซ่อมแซมบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี พร้อมสินค้าราคาลดสูงสุด 80% จากกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำ รวมทั้งกิจกรรมและรายการส่งเสริมการขายพิเศษมากมายภายในงาน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 7 ตุลาคม 2561 ณ ไบเทค บางนา Hall 101-104