Tag : อินโพกราฟฟิก

2 ผลลัพธ์
10 ต้นไม้มงคล ควรปลูกไว้ในบ้าน

10 ต้นไม้มงคล ควรปลูกไว้ในบ้าน

วันนี้เรามีต้นไม้มงคลที่ควรปลูกไว้ในบ้านมาฝากครับ จริงๆ แล้วต้นไม้มงคลมีด้วยกันหลากหลายชนิด แต่วันนี้เราจะหยิบยกมา 10 ชนิดก่อนนะครับ 1. ต้นโป๊ยเซียน ปลูกต้นโป๊ยเซียน : คนโบราณชื่อว่าบ้านไหนปลูกต้นโป๊ยเซียนภายในบริเวณบ้าน ต้นไม้ชนิดนี้จะช่วยนำโชคลาภมาให้สมาชิกในบ้านด้วย และยังเชื่อว่าสามารถปกป้องคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของ ตลอดจนครอบครัวให้มีความสุข เพราะต้นโป๊ยเซียนนั้นเป็นตัวแทนของเทพเจ้าทั้ง 8 องค์ จะคอยปกป้องคุ้มครองให้เราอยู่อย่างสงบสุขและมีความเจริญรุ่งเรือง 2. ต้นบานไม่รู้โรย ปลูกต้นบานไม่รู้โรย : เป็นต้นไม้มงคลนาม จะช่วยเสริมดวงในเรื่องความรัก ความผูกพันของคู่สามีภรรยา ปลูกบานไม่รู้โรยไว้ในบ้านหรือตามแนวรั้วจะให้มงคลในด้านความมั่นคงยั่งยืนในความรัก ปราศจากความโรยราผันแปรตลอดไป 3. ต้นเข็ม ปลูกต้นเข็ม : การปลูกต้นเข็มไว้ในบ้านที่คนโบราณเขาก็เชื่อว่า จะทำให้สมาชิกในบ้านมีความฉลาดหลักแหลมเหมือนกับดอกเข็ม และยังช่วยให้มีปฏิภาณไหวพริบเอาตัวรอดได้ด้วย หรือหากบ้านใดมีเด็กที่กำลังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน ดอกเข็มก็กระตุ้นให้เด็กๆ สนใจใฝ่หาความรู้มาเติมเต็มให้ตัวเองอยู่เสมอ 4. ต้นโกสน ปลูกต้นโกสน : บ้านใดปลูกต้นโกสนไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีบุญบารมี และยังมีความเชื่ออีกว่าสามารถช่วยคุ้มครองให้มีความอยู่เย็นเป็นสุข เพราะคนโบราณเชื่อว่าต้นโกสนเป็นต้นไม้เก่าแก่ ที่ปลูกคู่บ้านคู่เมืองโดยสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงนำเข้ามาปลูกไว้ในพระราชวังบ้านขุนนางวัดหลวง เพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา 5. ต้นวาสนา ปลูกต้นวาสนา : ปลูกต้นวาสนาในบ้านจะทำให้เกิดความสุข สมหวังในชีวิต และเชื่อว่าบ้านใดที่ปลูกต้นวาสนาอธิษฐานจะทำให้มีโชควาสนา เนื่องจากเป็นไม้เสี่ยงทาย ยิ่งถ้าต้นวาสนาออกดอก จะช่วยให้คนในครอบครัวนั้นได้รับโชคลาภ 6. ต้นกล้วย ปลูกต้นกล้วย : คนโบราณส่วนใหญ่เขาจะมีความเชื่อว่า การปลูกต้นกล้วยไว้ทางทิศตะวันออกของบ้านจะช่วยให้การทำงานราบรื่น คิดสิ่งใดทำสิ่งใดก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากนั่นไง 7. ต้นโมก ปลูกต้นโมก : ปลูกต้นโมกให้เป็นรัวบ้าน หรือภายในบริเวณบ้าน จะช่วยให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง จะนำเอาความสุขกายสบายใจ ความปลอดภัยมาให้สมาชิกในบ้าน 8. ต้นกระดังงา ปลูกต้นกระดังงา : การปลูกต้นไม้ชนิดนี้ไว้ในบ้านจะช่วยให้สมาชิกในบ้าน มีชื่อเสียงโด่งดัง และมีลาภยศสรรเสริญ เป็นที่นับหน้าถือตา ยังมีความเชื่ออีกว่ายังช่วยเสริมมงคลในทางเสน่ห์ จะเสริมให้คุณ มีเสน่ห์เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป 9. ต้นมะยม ปลูกต้นมะยม : จะทำให้มีผู้คนนิยมชมชอบ เป็นที่ยกย่องยอมรับ ของคนทั่วไป ไม่มีผู้ใดมาคิดชิงชังเป็นศัตรู 10. ต้นขนุน ปลูกต้นขนุน : การปลูกต้นขนุนในบริเวณบ้านจะทำให้ผู้ที่อาศัยในบ้านมีคนเกื้อหนุน มีบุญบารมี เงินทอง จะมีคนอุดหนุนจุนเจือ   ขอขอบคุณข้อมูลจาก khomesmilesclub.askkbank.com
อยากเพิ่มหรือลดผู้กู้ร่วม ต้องทำยังไง

อยากเพิ่มหรือลดผู้กู้ร่วม ต้องทำยังไง

สำหรับผู้ที่ผ่อนชำระสินเชื่อบ้านไปสักระยะหนึ่ง คงรู้จักกับคำว่า “รีไฟแนนซ์” ซึ่งเป็นการขอสินเชื่อกับอีกธนาคารหนึ่งโดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารเดิม เพื่อช่วยในการประหยัดดอกเบี้ย แต่รู้หรือไม่ว่า ในการรีไฟแนนซ์เรายังสามารถขอเพิ่มหรือลดจำนวนผู้กู้ร่วมซื้อบ้านได้อีกด้วย จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้นเรามีคำตอบครับ เพิ่มผู้กู้ร่วมซื้อบ้าน การเพิ่มจำนวนผู้กู้ร่วมซื้อบ้านมักจะเจอในกรณีของสามีภรรยา เช่น เดิมสามีเป็นผู้กู้ซื้อบ้านเพียงคนเดียว แต่อยากให้ภรรยามีกรรมสิทธิ์ในบ้านด้วย เมื่อตัดสินใจรีไฟแนนซ์จึงแจ้งธนาคารเพื่อขอเพิ่มชื่อภรรยาในสัญญา และเพิ่มกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินด้วย แต่การเพิ่มชื่อคู่สมรสเข้ามา จะมีค่าใช้จ่ายด้วยนะคะ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนครับ ส่วนแรก คือ ค่าใช้จ่ายในการให้ หากบ้านหลังนั้นเป็นสินส่วนตัวจะมีค่าใช้จ่ายในการให้ 0.5% ของราคาประเมิน แต่ถ้าเป็นสินสมรสจะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 75 บาทเท่านั้นครับ ส่วนที่สอง คือ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายบ้าน การให้คู่สมรสมีกรรมสิทธิ์ร่วมในบ้านเปรียบเสมือนการให้ (ขาย) บ้านอีกครึ่งหลังให้กับคู่สมรส ดังนั้นคู่สมรสที่เป็นผู้กู้ซื้อบ้านฝ่ายเดียวในตอนแรกจะต้องเสียภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายโดยคำนวณจากราคาบ้านครึ่งหนึ่ง เช่น บ้านมูลค่า 3 ล้านบาท แบ่งให้คู่สมรสครึ่งหนึ่ง ดังนั้นจะต้องนำ 1.5 ล้านบาทมาคำนวณยอดเงินเพื่อเสียภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายด้วยครับ ส่วนที่สาม คือ ภาษีธุรกิจเฉพาะหรืออากรแสตมป์ ซึ่งเลือกเสียอย่างใดอย่างหนึ่ง หากมีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี หรือถือครองเกิน 5 ปีปฏิทินจะเสียเฉพาะอากรแสตมป์ 0.5% (อัตรา 1 บาท ต่อราคาประเมินทุนทรัพย์ทุก 200 บาท)  ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน โดยใช้ราคาที่สูงกว่า แต่ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขข้างต้น จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน โดยใช้ราคาที่สูงกว่าครับ ลดจำนวนผู้กู้ซื้อบ้าน เมื่อตัดสินใจที่จะรีไฟแนนซ์ เรายังสามารถขอลดจำนวนผู้กู้ซื้อบ้านได้อีกด้วย เช่น พี่อยากกู้ซื้อบ้าน แต่ต้องกู้ร่วมกับน้อง เพราะรายได้ของพี่เพียงคนเดียวไม่เพียงพอสำหรับขอสินเชื่อ ผ่านไประยะหนึ่งรายได้ของพี่สูงขึ้นจนเพียงพอที่จะผ่อนบ้านคนเดียวได้ จึงต้องการลดจำนวนผู้กู้เหลือเพียงคนเดียว สำหรับขั้นตอนในการขอลดจำนวนผู้กู้ซื้อบ้านก็คล้ายกับการเพิ่มจำนวนผู้กู้ซื้อบ้าน โดยต้องทำเรื่องเปลี่ยนแปลงสัญญากับธนาคารและเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินด้วยครับ เบื้องต้นธนาคารจะพิจารณาว่า ผู้กู้ที่เหลืออยู่ มีความสามารถในการผ่อนชำระหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วยอดผ่อนชำระจะต้องไม่เกิน 40-50% ของรายได้ในแต่ละเดือนครับ ในส่วนของการขอเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินนั้น จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเช่นกันครับ โดยกรมที่ดินจะมองว่า การขอเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ครั้งนี้เสมือนมีการซื้อขายเกิดขึ้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการโอน 2% ของราคาประเมิน นอกจากนี้ยังมีการคิดภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายบ้านกับคนที่ออกจากการกู้บ้าน จากตัวอย่างข้างต้น ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจะคิดจากผู้ที่เป็นน้อง เพราะกรมที่ดินมองว่า ผู้เป็นพี่ได้รับกรรมสิทธิ์บ้านเพิ่มจากน้อง เสมือนว่าน้องมีการขายบ้านครึ่งหลังที่มีอยู่เดิมให้กับพี่ และยังมีการคิดภาษีธุรกิจเฉพาะหรืออากรแสตมป์เหมือนกับกรณีขอเพิ่มจำนวนผู้กู้ร่วมซื้อบ้านด้วยครับ แม้ว่าการรีไฟแนนซ์จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยในการกู้ซื้อบ้าน และสามารถเปลี่ยนแปลงผู้กู้ซื้อบ้านได้ แต่ก่อนตัดสินใจควรศึกษาถึงเงื่อนไขในการรีไฟแนนซ์ของสินเชื่อบ้านเดิม และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้คุ้มค่าที่สุดครับ   ขอขอบคุณข้อมูลจาก home.co.th